@ บ้านอัครเดชาชัย
"พ่อเรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ"ซันหรืออัครวินท์ลูกชายคนเดียวของบ้านอัครเดชาชัย เอ่ยถามผู้เป็นบิดาด้วยใบหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร เพราะแต่ละวันใช้ชีวิตชิวๆ สบายๆ ไม่สนใจใคร จนผู้เป็นพ่อเริ่มที่จะหมดความอดทนกับลูกชายที่เอาแต่เที่ยวไปวันๆ อย่างไร้แก่นสารแบบนี้แล้ว "แกควรจะแต่งงานมีครอบครัวได้แล้วนะ แล้วฉันก็หาเจ้าสาวไว้ให้แกแล้วด้วย"เสียงเข้มเอ่ยขึ้นทำเอาลูกชายถึงกับขมวดคิ้ว "นี่มันยุคสมัยไหนแล้วครับพ่อ ผมไม่แต่ง อีกอย่างผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าผมมีแฟนแล้ว" "มีแฟนแล้วก็ไปเลิก แกจะเอาผู้หญิงไม่มีหัวนอนปรายเท้ามาทำเมียไม่ได้"คำพูดของประมุขของบ้านยื่นเด็ดขาด "ไม่ ผมไม่แต่ง ยังไงก็ไม่แต่ง แล้วพ่อไม่มีสิทธิ์มาบังคับผมด้วย"ร่างสูงยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนที่จะก้าวขาเดินออกไปจากบรรยากาศชวนอึดอันนี่โดยมีผู้เป็นแม่นั่งมองอยู่เงียบๆ ไม่กล้าที่จะเอ่ยคำใดออกมา "หยุดเดี๋ยวนี้! ถ้าแกกล้าก้าวเท้าออกไปจากบ้านฉัน ฉันจะไม่ให้สมบัติแกแม้สักแดงเดียว"คำพูดนั้นทำเอาร่างสูงชะงัก แต่ถึงอย่างงั้น เขาเป็นถึงรองประธานบริษัท ยังไงเงินเดือนของเขาก็ไม่ใช่น้อยๆ ถึงอย่างไร ไม่ได้สมบัติของบ้านนี้ก็ไม่อดตาย ยังไงก็อยู่ได้สบายๆ อยู่แล้ว ขาเรียวเตรียมจะก้าวออกจากบ้านไปอีกครั้ง "นอกจากไม่ได้สมบัติ ฉันจะปลดแกออกจากตำแหน่งรองประธานด้วย ดูสิจะมีผู้หญิงหน้าไหนกล้าเอาแกทำผัวอีกไหม"และได้ผล ครั้งนี้เขาไม่ก้าวต่อ จะบ้าหรือไง ตัดขากันขนาดนี้จะใช้ชีวิตอยู่ยังไง "พ่อทำเกินไปหรือเปล่า?"ตลอดเวลาถึงแม้เขาจะติดเที่ยวติดเล่นแต่งานเขาก็ตั้งใจทำไม่ใช่น้อย แล้วมาทำกันแบบนี้ บังคับกันชัดๆ "ไม่เกินไปหรอก แกต้องแต่งงานกับลูกสาวคุณหญิงพัชรินทร์ พรุ่งนี้เตรียมตัวให้พร้อมฉันจะพาแกไปเจอเจ้าสาว"พูดจบประมุขของบ้านก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินออกไปจากห้องรับประทานอาหารทันที "ซัน เชื่อพ่อเถอะลูก พ่อหวังดีกับลูกนะ พ่อไม่อยากให้ลูกทำตัวเหลวไหล"คุณหญิงวินทร์รวีกล่าวกับลูกชายหลังจากที่เงียบอยู่นาน "แต่แม่ ซันอยากเลือกคนรักของซันเอง แล้วแม่ก็รู้ว่าซันคบกับฉัตรอยู่ แม่จะให้ซันเลิกกับเธอได้ยังไง ซันคบมาตั้ง4-5ปี"ลูกชายเถียงผู้เป็นแม่ด้วยความหงุดหงิด "งั้นซันก็ลองเหลือแต่ตัวดูไหม แม่ก็อยากรู้ว่าผู้หญิงของซันจะยังรักซันอยู่หรือเปล่า"ก็เพราะผู้หญิงหน้าเงินคนนั้นไงถึงได้ทำให้ผู้เป็นพ่อหาสิ่งที่ดีให้ลูก ตลอด5ปีที่ผ่านมายัยปาริฉัตรอะไรนั่นผลาญเงินของลูกได้ไปกี่สิบล้านแล้ว เห็นทีต้องงัดสัญญาที่เคยให้ไว้กับเพื่อนรักสมัยเรียนต้องมาช่วยกำราบคนเสเพลอย่างอัครวินท์ให้อยู่หมัด "แม่ฉัตรไม่ใช่คนแบบนั้น แล้วอีกอย่างผมซื้อให้ฉัตรเองเธอไม่เคยเรียกร้องอะไรจากผมเลย แม่เชื่อผมเถอะว่าฉัตรเป็นคนดี"อัครวินท์ยังคงออกโลงปกป้องแฟนสาวอย่างปาริฉัตร "งั้น ถ้าซันยอมแต่งงานกับเพื่อนแม่แล้วถ้าแต่งไปแล้วเจ้าสาวทนลูกไม่ได้ขอหย่า แม่จะยอมปล่อยลูกให้ไปอยู่กับแม่นั่น" "ได้! ผมตกลง"ใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาคมกริบจ้องมองใบหน้ามารดาพร้อมกับกระตุกยิ้มร้าย คอยดูฉันจะป่วนจนขอหย่าไปเองเลย ยัยเจ้าสาวหน้าโง่!! "แล้วอย่าคิดทำอะไรแผลงๆ ด้วยนะ ไม่งั้นแม่เอาแกตายแน่"ดูเหมือนพ่อกับแม่ของเขาจะเอ็นดูยัยนั่นเกินเบอร์ไปหรือเปล่า แค่คิดก็หงุดหงิดแล้ว อีกด้าน... "ปี4แล้ว ต่อไปเราจะได้มานั่งเมาท์มอยกันแบบนี้อยู่ไหม" มิเกลหญิงสาวตัวเล็กจิ้มลิ้มใบหน้าทะเล้น กล่าวอย่างเศร้าสร้อย "มิเกล แกก็เว่อร์ เรียนจบแล้วก็นัดกันมาเม้าท์ได้ ทำอย่างกับแกจะไม่ได้ทำงานแถวนี้งั้นแหละ"เอวารินทร์เอ่ยบอกเพื่อนรัก ก็เพื่อนเธอคนนี้มันเว่อร์ ชอบตีซึ้งอยู่เรื่อยเลย "เออ จริงด้วย จบไปแกจะไปทำงานอะไรเอวาชวนฉันไปทำด้วยสินะๆ ฉันอยากทำงานใกล้แก ฉันไม่อยากเริ่มรู้จักเพื่อนใหม่อ่า"มิเกล หรือเกวรีกล่าวอย่างออดอ้อน นี่เพื่อนของเธออายุเท่าไหร่แล้วเนี่ยทำไมถึงยังคอยอ้อนเหมือนเด็กสามขวบอยู่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังเอ็นดูเพื่อนรักคนนี้เสมอ "ทำงานที่บริษัทเพื่อนพ่อน่ะ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ แต้ถ้าแกอยากไปทำด้วยเดี๋ยวฉันบอกคุณลุงให้นะ"เอวารินทร์เอ่ยตอบเพื่อนพร้อมกับระบายยิ้มให้หนึ่งที "น่ารักที่สุดเลยเพื่อนฉันเนี่ย"เกวรีกล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมาหยิกแก้มเพื่อนรักอย่างหมั่นเขี้ยว ทั้งคู่สนิทสนมกันแถมยังชอบทำตัวมุ้งมิ้งจนใครๆ ก็คนว่าเธอสองคนเป็นเลสเบี้ยนกัน หลังเลิกเรียน... "มิเกลฉันกลับบ้านก่อนนะ แม่ให้คนมารับแล้ว"ว่าแล้วเธอก็รีบโบกมือบ๊ายบายเพื่อนรักที่ตอนนี้นั่งหน้างออยู่ป้ายรถเมล์อยู่คนเดียว "ให้ไปส่งไหม?"แต่เศร้าได้ไม่นานเกวรีก็เงยหน้าขึ้นด้วยความหวัง "ขึ้นมาเลยจ่ะสาวน้อยของพี่"เอวารินทร์แซวเพื่อนจนเกวรียิ้มแก้มแทบแตก "เอวาแกก็บ้า เดี๋ยวคนอื่นก็หาว่าเราเป็นเลสกันจริงๆ หรอก"เกวรีดุเพื่อน "พี่สมชาย ไปคอนโดxxxนะคะ"จากนั้นรถก็เคลื่อนตัวออกไปทันทีและไปส่งเพื่อนรักเธอจนถึงปลายทาง ปกติเธอจะต้องนอนคอนโดเพราะเธอและเพื่อนเช่าคอนโดเดียวกันแต่คนละห้อง แต่วันนี้เห็นว่าพ่อกับแม่เธอมีเรื่องสำคัญอยากจะคุยด้วยเธอเลยต้องกลับบ้าน "เจอกันแก"เอวารินทร์โบกมือลาเพื่อนอีกครั้งจากนั้นไม่นานรถก็มาจอดเทียบที่หน้าคฤหาสน์หลังหรู "เอวา...แม่รออยู่ข้างในน่ะ"พิรัชต์ หรือเอพริลพีาชายของเธอวารินทร์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นน้องสาวคนสวยกำลังย่างกายเข้าบ้าน "รู้แล้วค่ะ" "นั่งก่อนสิลูก"คุณหญิงพัชรินทร์ผู้เป็นแม่บอกลูกสาว "หน้าตาเคร่งเครียดกันเขียว มีอะไรหรือเปล่าคะ"เอวารินทร์เอ่ยขึ้นพร้อมกับหย่อยก้นนั่งลงบนโซฟาตัวแพง พร้อมกับหันไปมองหน้าของทุกคนที่เอาแต่จับจ้องเธอเป็นตาเดียวอย่างกดดัน "เอ่อ...พ่อมีเรื่องจะคุยด้วยน่ะจ่ะ"พัชรินทร์ปัดไปให้ผู้เป็นสามีรับกรรมแทน "เอ้าคุณ ทำไมเป็นผมล่ะ"วรินทรเอ็ดภรรยาที่โยนงานมาให้ "แม่ก็รีบพูดไปเลยว่าแม่จะจับลูกสาวแม่แต่งงานกับคุณชายเอาแต่ใจชอบเที่ยว เพราะพ่อแม่ใั่งนั้นอยากให้ไปช่วยกำราบนิสัยเสียๆ ของคุณชายนั่นน่ะ"แต่อยู่พิรัชต์ก็เป็นคนทำรายความลำบากใจของทุกคน "อะไรนะ?" "จ่ะ คือเพื่อนแม่อยากให้ช่วยน่ะลูก นะๆ เอวาช่วยแม่หน่อย" "แต่แม่คะแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะคะ"เอวารินทร์ไม่เห็นด้วยกับความคิดนั้น "งั้นรถรุ่นใหม่ หนูอยากได้ใช่ไหม ช่วงนี้ใกล้เรียนจบแล้วด้วยถือว่าเป็นของขวัญแล้วกันนะ"ผู้เป็นแม่เอาสิ่งที่ลูกสาวอยากได้มาเป็นตัวล่อ ฮึ่บไว้นะเอวา เธอกล่าวในใจพร้อมกับกำหมัดอย่างสะกดจิตตัวเองไม่ให้ลุ่มหลงกับสิ่งยั่วยุนี้ "พ่อแถมคอนโดฯให้ด้วยเลย เอาแบบขับรถขึ้นไปจอดหน้าห้องได้ด้วย" "ตกลงค่ะ!"อ๊ายปากพาซวย หลุดปากออกไปแล้ว "เยส!"พ่อกับแม่ของเธอแท็กทีมกันด้วยความดีใจสุดพลังที่แผนยั่วยุสำเร็จ "บอกแผนมาเลยค่ะว่าหนูต้องทำยังไง"ในเมื่อได้รับปากไปแล้วเธอก็เลี่ยงไม่ได้ คงต้องยอมสินะ เพื่อสิ่งที่กำลังจะได้มา พร่ำขออยู่ตั้งนานพอจะได้กลับมาพร้อมภาระอันหนักหนาสาหัส "ไม่ต้องทำอะไรเลยจ่ะ แค่จัดการพี่ซันให้เลิกยุ่งกับยัยปาริฉัตรให้เขาเลิกกันให้ได้โดยต้องใช้เสน่ห์มัดใจชายของหนู แม่เชื่อว่าหนูทำได้"ผู้เป็นแม่เริ่มอธิบาย "ทำไมหนูต้องทำแบบนั้นด้วยคะ หนูจะไม่บาปหรอไปพรากคนรักเขาออกจากกัน"เอวารินทร์รู้สึกผิด ก็เธอไม่ชอบไปทำรายความรักใคร "ไม่บาปหรอกจ่ะ ก็เห็นบอกว่ายัยนั่นมาจับลูกชายเพื่อนแม่ สูบเลือดสูบเนื้อโหดมาก คุณหญิงวินทร์รวีเลยอยากจะกำจัดหล่อนออกไป แล้วดึงลูกชายอย่างซันให้กลับมาตั้งใจทำงานไม่เถลไถลน่ะจ่ะ"เห้อนี่เธอต้องทำจริงๆ ใช่ไหมเนี้ย เอาวะ เพื่อคอนโดและรถรุ่นใหม่ "ได้ค่ะ แต่มัดจำรถก่อนคันนึงนะคะ จบงานคอนโดต้องตามมาห้ามเบี้ยว โอเค้!"ปลายประโยคจ้องตาเขม็งเพราะกลัวว่าพ่อกับแม่เธอจะเล่นตุกติก หึหึ ยัยหนูติดกับดักเราแล้วล่ะพ่อ สายตาของพัชรินทร์หันไปมองผู้เป็นสามีอย่างรู้กันเมื่อลูกสาวเดินออกไปแล้ว เดี๋ยวก็รู้ว่าคู่แท้ที่กำลังเตรียมให้เนี้ยจะได้จบงานจริงๆ หรือเปล่า สายตาเจ้าเล่ห์ของทั้งคู่มองกันไปมองกันมาอย่างพึงพอใจโดยที่ไม่มีใครเอ่ยคำใดๆ ออกมาก็รู้กัน "พ่อกับแม่เป็นอะไรครับ"พิรัชต์เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจเมื่อเห็นสีหน้าประหลาดๆ นั่น ท่าทางจะเป็นเอามาก จากนั้นเขาก็เดินออกไปทันที เหนื่อยมากนะเกิดในครอบครัวที่ใช้โทรจิตคุยกันเนี้ย ลูกงง!!@ภัตราคารสุดหรูบรรยากาศในภัตตาคารสุดหรูชั้นบนสุด เห็นวิวชัดทุกมุมกลางเมือง ได้ถูกจับจองโดยคุณหญิงวินทร์รวี เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย"ซัน! ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยได้ไหมห๊ะ!!"คุณหญิงวินทร์รวีเอ็ดลูกชายที่เอาแต่นั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดผูกเป็นปมแบบนี้ "ทำหน้าอย่างกับถูกบังคับ""ก็แม่บังคับจริงๆ หรือเปล่าล่ะ?"เสียงเรียบนิ่งนั้นเถียงแม่ จนผู้เป็นแม่ตาเขม็งใส่อย่างไม่พอใจที่ลูกชายตัวดีเอาแต่ขัด"ถ้าแกทำตัวไม่ดี ฉันปลดแกแน่ไอ้ซัน!"ผู้เป็นพ่อกล่าวท้วงขึ้นอีกคน จนอัครวินท์เริ่มรู้สึกหงุดหงิดแต่ก็ต้องทำเป็นระบายยิ้มออกมาเมื่อประตูห้องหรูเปิดออกพร้อมกับแขกผู้มาใหม่อีก3คนอัครวินท์มองหญิงสาวร่างบอบบางที่เดินก้มหน้าก้มตาตามผู้เป็นพ่อและแม่เข้ามา ใบหน้าหวานเฉี่ยวนั้นทำเอาอัครวินท์สะดุดตา ตากลมโตเป็นประกาย ใบหน้ารูปไข่ จมูกโด่งรั้น ปากบางน่าจุ๊ฟนั้นอีก แถมหุ่นก็ดี ผิวขาวใสออร่าเปล่งปลั่งนั่นอีก สวยไร้ที่ติเลย เขาคิดในใจ"สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า"เอวารินทร์เอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือไหว้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนที่จะปรายตาไปมองว่าที่เจ้าบ่าวจอมแสบที่พ่อกับแม่เล่าให้ฟัง นี่น่ะหรอคนที่จะให้มาปรา
"ซัน ต่อไปนี้ต้องไปรับไปส่งน้องที่มหาลัยทุกวันที่น้องมีเรียน เข้าใจไหม""เอ่อ...ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณป้...เอ่อคุณแม่"จะไปยอมได้ยังไง วุ่นวายกันพอดี เธอคิด"ได้ครับแม่ ผมจะได้รับไปส่งถึงที่เลย"แต่ยิ่งเธอห้าม เขากลับยิ่งทำตรงกันข้าม นายนี่มันกัดเธอไม่เลิกจริงๆ"เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะพี่ซัน รบกวนเปล่าๆ เดี๋ยวเอวาไปกลับเองดีกว่าค่ะ""หึ!"ยัยเด็กนี่ทำไมถึงได้ห้ามเขานัก ชักอยากจะรู้ซะแล้วว่าที่มหาลัยมีอะไรทำไมถึงได้ไม่อยากให้เขาไปรับไปส่งนัก"ไม่ได้หรอกครับ มันเป็นความประสงค์ของคุณแม่ พี่จัดไม่ได้ซะด้วยสิ"เขายกยิ้มให้หนึ่งทีอย่างยั่วอารมณ์คนร่างเล็กตรงหน้า"งั้นแม่ฝากซันหน่อยนะลูก"คุณหญิงพัชรินทร์เอ่ยบอกว่าที่ลูกเคยด้วยใบหน้ายินดี"แม่! ไม่ต้องไปรบกวนพี่เขาหรอกค่ะ แค่ต้องมาแต่งงานกับเอวาพี่เขาก็ลำบากใจจะแย่"เธอแก้ต่าง"ไม่อึดอัดเลยครับ พ่อแม่ว่าดีพี่ก็ว่าดี ใช่ไหมครับคุณพ่อคุณแม่"เขาหันไปหาแนวร่วมเพื่อให้พ่อและแม่ของเขาช่วย เห็นทีงานนี้คงต้องอยู่ข้างเดียวกันกับพ่อแม่เพื่อกำจัดเด็กนี่สินะ คอยดูจะทำให้พ่อแม่ตาสว่างที่เลือกคนผิดให้เขา"ใช่ลูก โอ๊ะวันนี้พูดเข้าหูพ่อแหะ"ท่านประธานอย่างอัครเดชเอ่ยด้วย
"ห๊ะ! แต่งงาน!"เกวรีและจีโน่อุทานพร้อมกันจนลั่นห้อง"อืม..."ใบหน้าผิดหวังของเธอเจื่อนลงก่อนจะกระดกไวน์ชั้นดีลงคอ"สมัยไหนแล้วแกจะมาจับคลุมถุงชนแบบนี้ไม่ได้ป้ะ"จีโน่เดือดพล่าน ก็แหงละหลังเรียนจบเขากะจะขอเธอเป็นแฟน แต่นี่อะไร อยู่ๆก็ถูกใครไม่รู้ตัดหน้าไปเสียก่อน"หึ่ย แกใจเย็น"แต่ก็ถูกเกวรีปรามไว้ก่อนที่นายนี่จะออกอาการจนมากเกินไป"ฉันก็ไม่ได้อยากแต่ง แต่มันเป็นข้อตกลงของพ่อแม่ฉันและครอบครัวเขา คงอยากให้ฉันมาเป็นไม้กันหมาให้ลูกเขาละมั่งเห็นว่าคบกับดาราคนหนึ่งอยู่ คงมาเกาะลูกเขาอะไรทำนองนั้นมั้ง""แล้วสัญญาจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่"คำถามของจีโน่ถามด้วยเสียงที่จริงจัง"คงตอนที่ฉันจัดการยัยนั่นไปจากชีวิตลูกเขาได้""หวังว่าจะจัดการแต่ยัยนั่นนะ ไม่ใช่ให้เขามาจัดการแก"จีโน่ยังคงกล่าวต่อ"แกไม่ต้องห่วง ฉันเป็นใคร จำคำพูดฉันไว้ว่านายนั่นจะไม่ได้แตะต้องฉันแม้แต่ปลายขน"เธอพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ พร้อมกับยกแก้วไวน์กระดกอีกรอบ"งั้นถ้ามั่นใจขนาดนั้น ก็ระวังตัวด้วยแล้วกัน"ก็รักไปแล้วนี่เนาะ เธอจะทำอะไรก็คงต้องเคารพการตัดสินใจของเธอ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่รังเกียจเธอหากว่าเธอจะต้องเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดให้คนอื
"เอาตารางเรียนมา"ก่อนที่จะก้าวออกจากห้องของเอวารินทร์ไปอยู่ๆ ร่างสูงก็หันกลับมาแล้วขอตารางเรียนของเธอ"เอาไปทำไม?"เธอถามอย่างไม่เข้าใจ"จะได้รู้ว่าต้องมารับกี่โมง อย่าถามมากได้ไหม คิดว่าฉันอยากทำมากหรอ?"เขากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์"ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ ฉันไปเองได้!"ควับ! หมับ!อัครวินท์เดินไปคว้าโทรศัพท์ของเอวารินทร์มาถือไว้ก่อนที่จะจับมือเธอมาแสกนลายนิ้วมือ"นี่เอามานะ! ของส่วนตัวน่ะเข้าใจไหม?""..."ร่างสูงเอี้ยวตัวหลบก่อนจะปัดๆ เลื่อนๆ จากนั้นก็ยัดมันกลับไปไว้ในมือเล็กของเธอ และเดินออกไปจากห้องโดยที่ไม่พูดไม่จาอะไร"อะไรของเขาเนี้ย!"เอวารินทร์กล่าวอย่างหงุดหงิดอีกด้าน...~เสียงโทรศัพท์ของอัครวินทร์~'ปาริฉัตร'เมื่อเดินออกมาจากห้องของเอวารินทร์ได้ไม่นาน อยู่ๆ เบอร์ของคนรักของเขาก็ปรากฏขึ้น เขาระบายยิ้มออกมา ก่อนที่จะกดรับ"ครับ"[ซัน วันนี้ฉัตรถ่ายละครเสร็จค่ำๆ เจอกันนะคะ]"โอเคครับ"[ไว้เจอกันนะคะ ซัน พอดีว่ารถฉัตรเสียน่ะค่ะเอ่อ...คือ...มันก็เก่ามากแล้วตกรุ่นแล้วด้วย ฉัตรอายเพื่อนๆ ที่กอง...ถ้าซันไม่ว่าอะไร...ฉัตรขอยืม...]"เดี๋ยวผมซื้อคันใหม่ให้"[จริงหรอคะ อุ้ย เกรงใจซันจังเลย จะด
หลังจากที่แฟนสาวสุดเซ็กซี่เดินออกไปจากห้องของอัครวินท์ เขาก็หยิบโทรศัพท์คู่ใจขึ้นมาปัดๆ เลื่อนๆ ดูตารางเรียนของเอวารินทร์ที่ส่งไว้ในไลน์โดยเขาเป็นคนส่งเองนั้น ก็ยกยิ้มขึ้นมาทันที"มีเรียน9โมง"เขายกมือขึ้นมองนาฬิกาข้อมือราคาแพงตอนนี้ที่บ่งบอกเวลาเกือบจะ8โมงแล้วจึงรีบระเรงนิ้วเรียวนั้นทักหาหญิงสาวที่คอยตามหลอกหลอนและเข้ามาอยู่ในโสตประสาทของเขาจะว่าไปตั้งแต่เจอหน้าใบหน้าสวยหวานปนเฉี่ยวนั้นก็ลอยเข้ามาในหัวเขาตลอด'เดี๋ยวฉันไปส่ง'จากนั้นก็รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวทันทีอีกด้าน...ตึ้ง!Sun:เดี๋ยวฉันไปส่งข้อความในแอพเขียวเด้งแจ้งเตือนเอวารินทร์ที่กำลังนั่งแต่งหน้าทำผมที่หน้ากระจก เธอเหลือบมองข้อความชั่วครู่ก่อนที่จะเร่งมือทำทุกอย่าง เพื่อชิ่งออกไปก่อนเขา"หึ! ไม่มีทาง อย่าได้หวังจะไปส่งฉันเชียว หนุ่มๆ เห็นฉันก็ดับพอดี"พูดจบก็รีบวางแปรงแต่งหน้าลงและหยิบกระเป๋าผ้าขึ้นมาสะพายก่อนจะหยิบรีโมทรถคันหรูคู่ใจมาควงอย่างอารมณ์ดี ร่างบางสาวเท้าเข้ามาในลิฟท์จากนั้นก็รีบวิ่งตรงไปยังลานจอดรถที่มีความปลอดภัยระดับสูงติ๊ด! ปึ่ง!แต่เมื่อรีโมทกดปลดล็อคยังไม่ทันที่จะเข้าไปนั่งประจำที่คนขับก็ถูกชายร่างสูงผลักประ
วันนี้เป็นวันที่เอวารินทร์นั่งฟังอาจารย์ผู้สอนแต่กลับไม่เข้าหูสักอย่าง ในหัวตอนนี้มีแต่ใบหน้าท่าทางของอัครวินท์ที่มันคอยหลอกหลอน แถมในหัวมีแต่ใบหน้าทะเล้นกะล่อนนั่นอีก หึ่ย! เธอสะบัดศีรษะไปมาเพื่อเรียกสติให้หันมาสนใจการเรียนการสอนตรงหน้าแทน แต่ยิ่งทำกลับยิ่งคิด แล้วยังจูบเมื่อเช้านั่นอีก นายนั่นต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ เลย เธอคิด!"แกเป็นอะไรเอวา ทำไมวันนี้ใจลอยแปลกๆ"เกวรีเอ่ยทักเพื่อนรักขึ้นหลังจากที่เลิกเรียนเป็นที่เรียบร้อย"เปล่า แค่รู้สึกว่าถ้าอยู่ๆ ชีวิตของฉันต้องไม่เป็นสุขอีกต่อไป ฉันจะทำยังไงดี""แล้วทำไมต้องไม่เป็นสุข?""ก็ เอ่อ...ว่าที่สามีในอนาคตของฉันน่ะสิ ฉันว่าเขาต้องแกล้งปั่นหัวฉันแน่ๆ""แกก็ปั่นหัวคืนไง อย่าไปยอม แกมันเลือดนักสู้อยู่แล้ว ปกติก็ไม่ยอมคนอยู่แล้ว เอาให้หนักเลยแก เชื่อฉัน""เล่นมาเล่นกลับไปเลยดีม้ะ""ใช่ จัดหนักๆ ไปเลยเพื่อน"ผ่านไปไม่นานมากนัก เฟอร์รารี่สีแดงก็แล่นตรงเข้ามาจอดอยู่ข้างหน้าร่างบอบบางอย่างเอวารินทร์และเพื่อนที่กำลังอ้าปากค้างกับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ราคาแพงหูฉีก"ฉันไปนะ"เอวารินทร์หันมาบอกเพื่อนรักที่ยังตะลึงอยู่ไม่หาย"ดะ...เดี๋ยว...เขามารับแกหรอเ
เมื่อขับรถมาจนถึงคอนโดแต่ร่างบางข้างๆก็ยังไม่ตื่น เขาจึงสะกิดเพื่อปลุกเธอ แต่เมื่อหันไปมอง ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารัก สายตาคมๆนั้นจับจ้องไปที่ใบหน้าสวยหวานเฉี่ยว ที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูไร้ที่ติไปจนหมด ตาพริ้มที่หลับตาลงนี้มีขนตาแพงอนอย่างเป็นธรรมชาติ คิ้วเรียวเส้นสวย จมูกโด่งเชิดๆ บ่งบอกว่าเจ้าของร่างเป็นคนหัวรั้น ปากบางน่าจูบสีแดงระเรื่อ วันนี้เธอแต่งหน้าอ่อนมากๆ ขัดกับวันที่เธอไปเที่ยวคลับ แต่เขาดูเหมือนจะชอบเวลาเธอไร้เครื่องสำอางค์มากกว่า เพราะมันดูสวยแบบสดใสดี"เวลาสงบปากสงบคำคงจะน่ารักที่สุดแล้วละมั้ง?"เขากล่าวออกมาเบาๆเพราะกลัวว่าร่างบางข้างๆเขานั้นจะตื่น"ถ้าไม่ติดที่มีแฟน วันนั้นฉันคงจัดเธอไปแล้ว"ใครมันจะอดใจไหว การหักห้ามใจตัวเองในวันนั้นมันต้องใช้ความพยายามแค่ไหน ต้องเดินเข้าห้องน้ำกี่ครั้งเพื่อปลดปล่อยความทรมานนั้นโดยที่คนร่างบางนั้นไม่รู้ร้อนรู้หนาวใดๆเลย กว่าจะข่มตาให้หลับลงไปได้ในวันนั้นก็เกือบสว่างผ่านไปนานเกือบชม.ร่างบางก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา แต่หันมาอีกทีก็เห็นว่าร่างหนาข้างๆนั้นก็หลับเช่นกัน เธอมองออกไปด้านนอกก็พบว่าถึงคอนโดของเธอแล้ว แล้วทำไมเขาไม่ปลุกเธอล่ะเนี่ย บ้าจริง!
น้ำใสๆไหลอาบแก้มไม่ใช่เสียใจที่เขาพรากความบริสุทธิ์ของเธอไป แต่เขาตั้งใจที่จะย่ำยีสิ่งที่เธอหวงแหนที่สุดต่างหาก เขาไม่ให้เกียรติเธอเลย แถมยังเห็นเป็นเรื่องล้อเล่นและหลอกเธอ เขามันคนหลอกลวง ไว้ใจไม่ได้เลยสักนิด ได้!!ในเมื่อไม่ให้เกียรติกันต่อไปเธอก็จะไม่ให้เกียรติเขาเช่นกัน เขาพรากสิ่งที่หวงเเหนจากเธอไป ต่อไปถึงตาเธอบ้าง และไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่ยอมเป็นผู้หญิงที่มีหลายผัวเด็ดขาด ในเมื่อเขาได้เธอแล้วเขาก็จะต้องเป็นของเธอด้วยเช่นกัน ไม่ว่าผู้หญิงหน้าไหน เธอจะจัดการไปให้หมด! ถึงตาที่เธอจะต้องพรากของหวงของเขาบ้างหมับ!หลังจากที่ร่างสูงชำระล้างตัวเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นมานอนข้างๆเธอพร้อมกับโอบรั้งเอวร่างบางที่นอนหันหลังให้เขามากอดเอาไว้พร้อมกับซุกหน้าหล่อเหลานั้นไปที่ซอกคอหอมๆของเธอก่อนที่จะหลับไปเช้าวันต่อมา...ร่างหนาตื่นขึ้นมาพร้อมกับคลำหาร่างของเอวารินทร์ที่กอดไว้ตลอดคืน แต่หากมีเพียงความว่างเปล่า เธอหายไปไหนแล้ว? จากนั้นก็รีบลืมตาขึ้นมาแล้วลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง"เอวา...เอวา!..."ไร้ซึ้งเสียงตอบรับใดๆ เขาจึงรีบลุกจากเตียงแล้วกำชับผ้าขนหนูมาพันรอบเอวเอาไว้ ก่อนที่จะเดินหาเธอ แต่ก็ไม่อยู่
"ทำอะไรกัน!!"เสียงเข้มดุดันของคิมหันต์เอ่ยขึ้น"อาคิม...ช่วยปลื้มด้วย...ยัยบ้านี่จะดึงหูปลื้มขาดแล้ว""กังหัน...ทำไมไม่ห้ามน้อง..."คิมหันต์ตวัดสายตาไปยังลูกสาวของตัวเองที่นั่งนิ่งมองเหตุการณ์ด้วยท่าทางชิวๆ ก่อนจะไหวไหล่ให้ผู้เป็นพ่อเบาๆ"ป๊า...ก็น้องแค่แหย่กันเล่นเอง...""อัญชัน...ปล่อยปลื้ม!"อัญชันได้ยินดังนั้นก็ปล่อยมือออกจากหูของปราบปลื้มทันที แต่ก็ส่งท้ายด้วยการบิดแรงๆก่อนปล่อย"โอ้ย!...นี่ยัยบ้า...มีส่งท้ายด้วยหรอ!!"ปราบปลื้มโวยวาย"ป๊า...อย่าไปดุน้องสิ!!""กังหัน...หนูเป็นพี่...จะปล่อยน้องตีกันแบบนี้ได้ยังไง?"คิมหันต์ดุลูกสาว ที่นับวันๆยิ่งทำตัวเหมือนเขาในเมื่อก่อนทุกที และเนื่องจากเป็นลูกสาวคนเดียว เลยทำให้เธอทำอะไรตามอำเภอใจ ไม่สนใจอะไร เหมือนกับเขาไม่มีผิด แต่แตกต่างกันคือคิมหันต์มีน้อง และถูกพ่อกดดันตั้งแต่เด็ก พอมีลูกเขารู้ว่าความกดดันมันคือผลร้าย มันไม่มีความสุขเขาจึงเลี้ยงลูกที่ค่อนข้างตามใจ และผลก็อย่างที่เห็น กังหันเป็นเด็กน่ารักก็จริง แต่เธอไม่ค่อยสนโลกเท่าไหร่ แถมการใช้ชีวิต การวางตัวต่างๆค่อนข้างที่จะห้าวหาญ ไม่อ่อนหวานเหมือนเด็กผ
"ป๊า...ไม่ไปได้ไหม...อชิไม่อยากไป...ป๊าจำไม่ได้หรอว่าเด็กนั่นน่ะชอบกัดหูผม...ต่อไปนี้ผมจะไม่เอาหูผมไปเสี่ยงอีกแล้ว"อชิหัวชนฝาเมื่อซันและเอวาบังคับให้ลูกไปกินข้าวบ้านเพื่อนรักของเขา ที่วันนี้มีนัดรวมแก๊งวายร้ายของซัน"ก็เพราะอชิไปหอมแก้มน้องไง...น้องถึงได้กัดแบบนั้น"ซันอ้างเหตุผลกับลูกชาย ไม่ว่าจะไปกี่ครั้งก็มักจะไปฉวยโอกาสหอมแก้มกังหันทุกที และรายนั้นก็ชอบกัดหูอชิตลอด แล้วนี่ผ่านมาเป็น10ปีแล้ว ก็คิดว่าลูกคงไม่ได้ฝังใจอะไร"ยังไงก็เถอะป๊า...ชิไม่ไป...ชินัดสาวไว้...ป๊าไปกับอัญชันและกัน...อัญชันฝากดีดหูยัยเด็กกังหันให้พี่ด้วยนะเข้าใจไหม"พูดจบอชิก็เดินไปควงกุญแจรถสปอร์ตออกจากบ้านไป"หัวรั้นได้ใครวะเนี่ย"ซันเอ่ยกับตัวเองพร้อมกับส่ายหัวเบาๆ อย่างระอากับลูกชายหัวดื้อคนนี้"ผลผลิตของตัวเองทั้งนั้น...อย่าบ่น!!"เอวาเสริมขึ้นก่อนจะจับมือลูกสาวแล้วเดินไปรอที่รถตู้@คฤหาสน์คิมหันต์"สวัสดีค่ะคุณอาคิม...สวัสดีค่ะอามิเกลคนสวยของหนู""อุ้ย...อัญชันของอาปากหวานจริงๆ"มิเกลเอ่ยทักหลานสาวคนสวย ก่อนจะหันไปหาลูกสาว "กังหัน...""เอ่อ...สวัสดีค่ะอาซัน อาเอวา.
ตกเย็น...หนุ่มหล่อหน้าทะเล้น นั่งมองสาวมัธยมปลายเดินออกมาจากโรงเรียนด้วยสายตาอย่างกับเสือที่จ้องจะตะครุบเหยื่อ"เฮ้อ...กระชุ่มกระชวยดีจริงๆ เลย...อื้อหืม...นมอย่างใหญ่...หน้าประถมนมมหาลัยสัส!!"อชิอุทานขึ้นกับตัวเอง ก่อนจะค่อยๆ ลดระดับกระจกรถสปอร์ตคันหรูลง ใบหน้าหล่อเหลาที่สวมใส่แว่นกันแดดแบรนด์ดังนั้น ทำเอาสาวๆ มองเหลียวลงกันไปตามๆ กัน หึ! แค่เช็ดเรทติ้ง เขาคิด ก่อนจะปิดกระจกขึ้นเมื่อเห็นว่าน้องสาวของเขากำลังวิ่งมาที่รถยนต์ของเขา"พี่ชาย~"เสียงใสเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่แต่งแต้มบนใบหน้าใส ที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็น่ารักและมีเสน่ห์น่ามองเอามากๆ"อย่ายิ้ม...เดี๋ยวผู้ชายชอบ!!"อชิดุน้องสาว "รีบขึ้นมาเลย...เร็วๆ"ก่อนจะเร่งให้เธอรีบขึ้นมาบนรถ เพราะดูเหมือนจะมีหนุ่มๆ รุ่นราวคราวเดียวกับน้องสาวเขาจับจ้องมองอยู่ไม่วางตา และสายตาพวกนั้น เขาย่อมรู้ดี เพราะเขาเองก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน"มองอะไรของพวกมึง...อย่ามายุ่งกับน้องกู...เข้าใจ๊?"อชิประกาศกร้าวเสียงดัง พร้อมกับส่งสายตาดุดันไปที่หนุ่มๆ จนไม่กล้าที่จะสบตากับเขาเลย"พี่อชิ...ไปพูดแบบนั้นทำไมเนี้ย...เขา
5ปีต่อมา..."อชิครับ...มาหามี้มา"เอวาเรียกลูกชายวัย4ขวบเศษให้วิ่งมาหา จากนั้นเด็กน้อยที่หน้าตาน่ารักถอดแบบผู้เป็นพ่อก็วิ่งมากอดเธอทันที"มี้...อชิอยากกินทุเรียนคร้าบบบบ"เสียงใสๆ เอ่ยบอกผู้เป็นแม่ แน่ล่ะตอนเธอท้องซันกินแต่ทุเรียนแต่พอเลิกแพ้ท้องแทนเธอทุเรียนก็ไม่คิดจะแตะอีกเลย ส่วนลูกชายสุดหล่อออกมาก็โปรดปราณทุเรียนเอามากๆ ด้วย"แต่วันนี้อชิทานไปเยอะแล้วนะครับ...ไว้วันหลังน้า...เดี๋ยวมี้ซื้อให้...วันนี้เราไปเยี่ยมน้องกังหันกันนะครับ""แต่อชิอยากมีน้องเป็นของตัวเองนะครับมี้""งั้น...อชิต้องไปบอกป่ะป๊าซันแล้วนะครับ...นู้นไงมาพอดีเลย"เอวาเอ่ยบอกลูกชายพร้อมกับพยักหน้าไปหาคุณพ่อสุดหล่อแม้จะเข้าเลขสามแล้วแต่ก็ยังคงความหล่อเหลาไม่สร่าง แถมยังฟิตทุกคืนไม่รู้ไปอดอยากปากแห้งมาจากไหนนักหนา"ไงครับตัวแสบของป๊า...วันนี้กวนมี้หรือเปล่าครับ"ซันสวมกอดลูกชายที่วิ่งเข้าไปกอดต้อนรับผู้เป็นพ่อที่พึ่งกลับมาจากที่ทำงาน แล้วหอมแก้มซ้ายขวาอย่างออดอ้อนอีก "อ้อนแบบนี้อยากได้อะไรครับหื้ม?""อชิอยากมีน้องครับป๊า"เสียงใสของเด็กชายเอ่ยขึ้น ทำเอาคุณพ่อตาลุกวาวเลย แบ
"อื้ม...พะ...พี่ซัน..."เสียงร่างเล็กเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระเส่า"รอบเดียว...รอบเดียวจริงๆ ครับ"ร่างสูงตอบเสียงแหบพร่า มือหนากอดร่างเล็กแนบแน่น"เชื่อไม่ได้ค่ะ...อ๊าส์"ริมฝีปากหนาพรมจูบไปตามลำคอระหงของร่างบาง มือหนาค่อยๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของคนตัวเล็กออก จากนั้นก็ค่อยๆ เดินต้อนให้เธอเดินถอยหลังไปที่ปลายเตียงเอวาค่อยๆ นั่งลงที่ปลายเตียงขณะที่ปากของทั้งคู่ก็ยังคงจูบแลกลิ้นกันอย่างเร่าร้อน เพียงไม่นานร่างเล็กก็เปลือยเปล่า ส่วนซันเองก็ไม่ต่างกัน เขาไม่รอช้าจับขาเรียวตั้งขึ้นแล้วก้มหน้าลงไปใช้ลิ้นตวัดเลียกลีบกุหลาบของเธอ ทันทีที่ลิ้นร้อนค่อยๆ แตะลงไปสะโพกมนก็เด้งรับสัมผัสนั้นอย่างลืมอาย นิ้วหัวแม่มือบดบี้ลงบนติ่งสวาทเบาๆ"อ๊ะ...พี่ซัน~"เสียงหวานหูของร่างเล็กพร้อมกับร่างที่ดิ้นพล่านไปด้วยความเสียวนั้นสร้างความพึงพอใจให้ร่างสูงเป็นอย่างมาก ลิ้นของเขายังคงซอกซอนไปทุกซอกทุกมุมจนทั่วทั้งกลีบงาม ทำเอาร่างเล็บิดเร้าอย่างทรมาน"อื้ม..."เสียงครางของเธอยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ และบิ้นร้อนก็รัวเร็วขึ้นราวกับกั่นแกล้งให้เธอขาดใจจากนั้นไม่นานร่างเล็กก็กระตุกเกร็งและปลดปล่อยน้ำหว
1เดือนต่อมา...งานรับปริญญาเอวา..."ยินดีด้วยน้าพี่รหัสคนสวยของหนู"หญิงสาวหน้าใสเอ่ยขึ้นพร้อมกับช่อดอกไม้ช่อโตยื่นให้บัณฑิตคนสวย ที่มีพวงมาลัยคล้องคออย่างกับนักการเมือง"ขอบใจจ้าน้องรหัสคนสวยของพี่"เอวาส่งยิ้มให้น้องรหัสของตัวเองแล้วถ่ายรูปตามซุ้มต่างๆ ที่ทางมหาลัยจัดไว้เพื่อถ่ายรูป"ยินดีด้วยนะครับบัณฑิตคนสวยของพี่"ซันเองก็ไม่น้อยหน้ายื่นร่มที่ทำจากแบงค์สีเทาให้ภรรยาคนสวย ดอกไม้ที่เป็นแบงค์สีเทาอีกช่อโต ยังไม่หมดแค่นั้นพวงมาลัยที่สั่งทำจากแบงค์สีเทายาวจนเกือบจะลากพื้นบดบังพวงมาลัยของคนอื่นจนน่าหมั่นไส้"สามีดีเด่น!! แบ่งให้ฉันบ้าง"มิเกลเอ่ยแซวความเว่อร์ของสามีเพื่อนที่ดูออกนอกหน้าสุดๆ"จะไปแบ่งของเขาทำไม วันนี้ขึ้นเตียงกับฉันสิเดี๋ยวให้เลย10ล้าน"คิมหันต์เอ่ยบอกมิเกลพร้อมกับโอบเอวเธอเบาๆ"ไม่ต้องมาอิจฉาฉันเลย ได้ข่าวของขวัญรับปริญญาแกนี่ได้เกาะส่วนตัวทางภูเก็ต เยอะกว่าฉันอีกมิเกล"เอวาแซวคืน"เอวาร้อนไหม"ซันเอ่ยถามภรรยาคนสวยที่เริ่มจะมีเหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้าสวย จากนั้นก็หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อให้เธออย่างอ่อนโยน ส่วนมืออีกข้างก็ถือร่มให้เธ
อ๊วก~"พี่ซัน!!...ทำไมอ้วกหนักขนาดนี้คะ..."ร่างบางที่ตื่นนอนเพราะเสียงอาเจียรของสามีนั้นรีบลุกแล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำเพื่อลูบหลังให้เขาด้วยความเป็นห่วง"อยากกินทุเรียน..."ร่างสูงกล่าวเสียงเบาๆ ราวกับคนจะหมดแรง"ดะ...ได้ค่ะเดี๋ยวเอวาไปซื้อให้เดี๋ยวนี้เลย!!"ร่างเล็กเตรียมตัวจะหมุนออกไปด้วยความเร็วนั้นถูกมือหน้าคว้าเอาไว้ซะก่อน"ไม่เอา...ท้องอยู่นะจะไปคนเดียวได้ไง?"ซันเอ่ยขึ้น"แม่กับพ่อกำลังจะมา...เดี๋ยวพี่ฝากแม่กับพ่อซื้อมาให้ก็ได้"เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน แล้วลุกขึ้นเต็มความสูง มือหนาลูบศีรษะ เล็กเบาๆ ขากนั้นก็เลื่อนใบหน้าหล่อเข้าไปซุกไซร้ และสูดดมกลิ่นกายของเธอราวกับมันเป็นยาหอมแก้วิงเวียน"อ๊าส์...ชื่นใจ...หายแล้ว...""หายง่ายแบบนี้เลยหรอคะ?"ร่างเล็กเอ่ยถามตาแป๋วด้วยความสงสัย"หายแล้ว...ไม่รู้ทำไมแค่ได้กลิ่นตัวเอวาอาการก็หายไปเลย...สงสัยเวลาไปไหนมาไหนคงต้องพกเอวาใส่กระเป๋าไปด้วยแล้วมั้งครับ"ซันเอ่ยด้วยน้ำเสียงหยอกล้อร่างบาง ทำเอาร่างเล็กระบายยิ้มกว้างออกมา"เอวาไม่ใช่หมานะคะ""ใครว่าเป็นหมาล่ะครับ...เอวาเป็นกระต่ายน้อยของพี่ต่
"...ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด!""อะ...เอ่อ...ไม่ได้ตกลงกันเรื่องนี้เลยนะคะพี่ซัน...ทำไมเจ้าเล่ห์แบบนี้ล่ะ"แต่มีหรือที่คนร่างสูงจะสนใจ เขาไหวไหล่ด้วยท่าทีกวนๆไม่สนใจ"ช่วยไม่ได้นี่ครับ...เอวาบอกเองว่าทุกอย่าง...เพราะงั้น...ถอดครับ!"ปลายเสียงเน้นหนัก แต่กลับแหบพร่าจนร่างบางรู้สึกขนลุกซู่ เมื่อเขาก้มลงมาพูดข้างใบหู พร้อมกับเป่าลมร้อนๆใส่เธอปิดท้ายเพื่อหยอกเย้าร่างเล็กฟู่ว!ร่างเล็กสะดุ้งโหยงกับความกวนของร่างสูง เขามันคนเจ้าเล่ห์ ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว"ที่บ้านไม่ได้หรอคะ...นี่มันโรงพยาบาลนะ...พรุ่งนี้ก็..."&n
ตึกตึกร่างบางวิ่งเข้ามาในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังด้วยความร้อนใจ ทันทีที่คิมหันต์โทรไปหาเธอ เธอก็รีบลุกจากเตียงมาทั้งที่อยู่ในชุดนอน โชคดีหน่อยที่เป็นชุดนอนขายาวแขนยาว"พี่คิมคะ...พี่ซันเป็นอะไรคะ?"เอวาถามด้วยน้ำเสียงร้อนใจ"ไม่รู้เลยครับ...รอไอ้ปราณออกมาเดี๋ยวก็น่าจะรู้"คิมหันต์ตอบ สีหน้ากังกลไม่ต่างจากคนตัวเล็กที่เดินวนไปวนมาด้วยความร้อนใจราวกับเสือติดจั่นแกร๊ก!ผ่านไปได้ไม่นานปราณก็ออกมาจากห้องฉุกเฉินด้วยชุดกราวด์สีขาวสะอาดตา เสริมบุคคลิคให้เขายิ่งดูหล่อขึ้นไปอีกเป็นกอง จากที่ปกติจะใส่เชิ้ตเข้าร้านเหล้า เป็นลุคหนุ่มเพลย์บอยซึ่งขัดกับลุคคุณหมอตอนนี้"พี่ซันเป็นอะไรคะพี่ปราณ!"เสียงเอวาเอ่ยถามขึ้นคนแรก"เท่าที่ดูอาการไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วงเลยนะ...เอวาไม่ต้องกังวล...มันแค่เครียด...พักผ่อนน้อยด้วย...ช่วงนี้เห็นเหมือนไม่ค่อยกินข้าวด้วยใช่ไหมร่างกายเลยทรุดโทรมลง...เดี๋ยวพี่จะให้เข้าน้ำเกลือนอนดูอาการก่อน...ถ้าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงก็กลับบ้านพรุ่งนี้ได้เลย"ปราณอธิบายอาการเบื้องต้นให้เอวาฟังด้วยน้ำเสียงสุภาพ"ค่ะ...คือ...เอ่อ..."เธออึกอักเพราะสาเ