น้อยครั้งที่เธอจะกระตือรือร้นขนาดนี้ นี่ถือเป็นครั้งแรกด้วยซ้ำ...จี้ซือหานชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็โอบรอบเอวของเธอ อุ้มเธอมานั่งบนต้นขาคงเป็นเพราะจูบอันดูดดื่มที่เธอเป็นฝ่ายรุก ปลอบประโลมหัวใจของเขา ทำให้เขาไม่รู้สึกว้าวุ่นใจเหมือนตอนแรกอีกซูหว่านสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของเขา ที่เปลี่ยนจากอ่อนโยนเป็นเร่าร้อน ก็รู้ว่าชายหนุ่มถูกไฟราคะเข้าครอบงำเรียบร้อยแล้ว จึงรีบผลักเขาออก"ดูสถานการณ์ด้วยค่ะ"นิ้วมือของชายหนุ่มที่ล้วงเข้าไปที่แผ่นหลัง ชะงักลงทันที ดวงตางดงามที่พร่ามัง จ้องเธอด้วยประกายออดอ้อน"ขอจุ๊บอีกหน่อยนะ?"ขืนยังจูบต่ออีกหน่อย อย่าหวังว่าจะได้ลงจากรถเลย ยังดีที่คนขับรถที่อยู่ข้างหน้า ปิดพนักกั้นไว้ตั้งแต่ขึ้นรถมาแล้ว กั่วกัวเองก็นั่งอยู่ในรถคันอื่น ไม่งั้นได้อายตายหลังจากที่ซูหว่านใช้มือปิดใบหน้าที่ยื่นเข้ามาชายหนุ่ม ก็พูดกับเขาว่า "ซือหาน อีกเดี๋ยวกลับประเทศ เราไปจดทะเบียนกันเถอะ..."ถ้าจดทะเบียนกันแล้ว เขาก็จะไม่กระวนกระวายใจแบบนี้อีกความปรารถนาในดวงตาของจี้ซือหานสลายหายไป แทนที่ด้วยความประหลาดใจ "จดทะเบียน?"ซูหว่านที่ยังนั่งอยู่บนต้นขาของเขา ก้มหน้าลงมองเขา
เสิ่นหนานอี้อยากอยู่ที่อังกฤษต่อเพื่อจัดการบริษัทของจิเหยียนโจว จึงไม่ได้กลับประเทศด้วย แต่จะรีบตามไปร่วมงานแต่งของทั้งสองคนทั้งครอบครัวและอาชีพการแพทย์ของจอร์จก็ล้วนอยู่ที่อังกฤษ จึงไม่ได้กลับไปกับพวกเขาอยู่แล้ว ได้แต่บอกลากั่วกัวอย่างอาวรณ์"กั่วกัว ต่อไปถ้าฉันไม่ได้อยู่กับหนู หนูต้องเชื่อฟังน้าเล็กับน้าเขย ตั้งใจเรียนหนังสือนะ"กั่วกัวเป็นเด็กฉลาดมาก กางมือเล็กๆออก แล้วกอดขาของจอร์จ"ปู่จอร์จ หนูจะเชื่อฟังค่ะ ปู่ไม่ต้องห่วงนะคะ"จอร์จเผยรอยยิ้มอ่อนโยน มองกั่วกัวยิ้มๆ จากนั้นมองไปยังซูหว่านกับจี้ซือหาน"ต่อไปลำบากพวกคุณแล้ว"ซูหว่านส่ายหน้าเล็กน้อย "ฉันเป็นน้าเล็กของกั่วกัว ไม่คำว่าลำบากหรอกค่ะ"แน่นอนว่าจอร์จไม่ได้กลัวว่าซูหว่านจะลำบาก แต่หลังจากที่หญิงสาวแต่งงานไปแล้ว ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ต้องพึ่งพิงชายหนุ่มผู้ชายคนนี้ที่ซูหว่านแต่งงานด้วย เป็นผู้ครอบครองอำนาจตระกูลจี้ ทั้งสถานะตำแหน่งก็สูงจนไม่อาจเอื้อม ถ้าต้องแต่งโดยพาหลานเข้าตระกูลไปด้วย...จอร์จมองจี้ซือหานแวบนึง เห็นเขาเอ่มือข้างนึงล้วงกระเป๋ากางเกง มองมาที่ตัวเองด้วยสายตาเรียบเฉย คำพูดที่บอกถึงความไม่สบายใจ ก็ค่อย
เขาเหงื่อตกโดยอัตโนมัติ หันกลับมา ก็เห็นชายหนุ่มที่สูงร้อยเก้าสิบเซ็น ยืนตัวตั้งตรงอยู่หน้าประตู กำลังเอียงศีรษะน้อยๆจ้องเขาอยู่หน้าตาของชายหนุ่ม เย็นยะเยือกราวหิมะ รูปงามเกินพรรณนา ทั้งตัวของเขาแผ่ออร่าความสง่างามสูงศักดิ์ แผ่รัศมีที่ใครก็ไม่กล้าเข้าใกล้ซีอี้เห็นบอสใหญ่ของโรงพยาบาล ใช้สายตาส่งสัญญาณอันตรายเตือน กระทั่งเหมือนจะบอกว่า "อยากจะฆ่าเขา" จ้องมาที่ตัวเอง หัวใจก็กระตุกขึ้นทันทีเขาจำได้ว่าตัวเองไม่เคยทำอะไรผิดต่อประธานจี้นี่นา ทำไมถึงจ้องเขาด้วยสายตาแบบนี้?น่ากลัวชะมัด...ซีอี้คิดไม่ตก แต่ซูหว่านรู้ เธอเหล่มองจี้ซือหานด้วยความโมโหปนอยากขำ"รอฉันแปบนึง ฉันขึ้นไปเอาเอกสารก่อนค่ะ"เมื่อเธอขึ้นไปข้างบน ในห้องรับแขกก็เหลือเพียงแค่ซานซาน อลัน กั่วกัว และซีอี้สามคนที่อยู่ด้านหน้า รู้สึกเคยชินกับความสามารถในการพ่นความเย็นเฉียบดั่งแอร์เคลื่อนที่ของจี้ซือหานไปแล้วมีเพียงซีอี้ ที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยความกระอักกระอ่วน จะยิ้มก็ไม่ยิ้ม จะพูดอะไรก็ไม่กล้าและชายหนุ่มที่ยืนตัวตรงอยู่หน้าประตู ยังจะปรายตามองเขาอยู่เป็นเนืองๆ ราวกับประติมากรรมน้ำแข็งถ้าไม่ใช่เพราะคุณซูใช้เวลาไม่น
ชายหนุ่มปิดตู้เซฟ หันหลังให้เธอ แล้วเปลี่ยนรหัสซูหว่าน...ผู้ชายคนนี้ ยกทรัพย์สินส่วนตัว สมบัติของตระกูลจี้ทั้งหมดให้กับเธอแล้ว ทว่ากลับระแวดระวังกับทะเบียนสมรสใบเดียวเธอรู้สึกตลกและจนปัญญา "ซือหาน ฉันแต่งงานกับคุณแล้ว ก็จะไม่มีทางหย่า คุณไม่ต้องห่วงนะ"คำสัญญาประโยคนี้ เป็นดั่งยาที่ช่วยสงบใจ แต่จี้ซือหานคิดว่าการมีประกันสองชั้นไว้ก็จะปลอดภัยกว่าเขาเปลี่ยนรหัสเสร็จ ก็โบกมือให้บอดี้การ์ดรีบย้ายตู้เซฟออกไป แล้วจึงหันตัวมาโอบเอวของเธอ"คุณนายจี้ เธออยากจะทำอะไรในคืนเข้าหอ?"น้ำเสียงของชายหนุ่ม ใสๆเย็นๆ ทว่าตอนที่พูดถึงคำว่าคืนเข้าหอ กลับแฝงไว้ด้วยเสน่ห์ที่เย้ายวนซูหว่านไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น แค่ส่งยิ้มหวานให้เขาแล้วคิด แผลยังไม่ทันจะหายดี ยังคิดจะทำกิจกรรมคืนเข้าหอ ฝันไปเถอะจี้ซือหานเห็นเธอเงียบ ก็นึกว่าเธอเอาตามที่เขาจะจัดการ มุมปากยกขึ้นช้าๆ เผยรอยยิ้มสดใสบริสุทธิ์"เรือนหอตกแต่งเสร็จแล้ว ไปเรือนหอไหม?"เวลาที่เขายิ้ม แววตาเป็นประกายราวกับดวงดาวระยิบระยับ ทั้งคิ้วและตาโค้งขึ้นเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว หล่อเหลาน่ามองอย่างที่สุดซูหว่านลุ่มหลงอยู่กับรอยยิ้มของเขา จนแม้แต่ตัวเ
จี้ซือหานชะงักการคเลื่อนไหวทันที ช้อนแพขนตาดกดำขึ้น มองไปยังทิศทางหน้าประตูแวบนึง และวินาทีต่อมา...เขาก็ดึงสายตากลับ ก้มหน้าลงงับริมฝีปากอันเย้ายวนของหญิงสาว จูบเธอต่อไปโดยไม่สนใจอะไรซูหว่านยังนึกว่าเขาจะไปเปิดประตู แต่ใครจะคิดว่าเขาไม่เห็นคนด้านนอกประตูอยู่ในสายตาเธอจึงได้แต่อาศัยจังหวะที่เขากำลังจูบต้นคอของเธออย่างดูดดื่ม ใช้มือข้างที่อยู่ใกล้กับหน้าอกดันเขาออก"ไปเปิดประตูค่ะ!""ทำก่อน"ข้างนอกต่อให้เป็นพระเจ้ามา เขาก็ต้องทำเธอก่อน!ชายหนุ่มใช้มือข้างนึงโอบเอวของเธอ แล้วอุ้มเธอขึ้นมาในขณะที่ท้องฟ้าแผ่นดินกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง ซูหว่านถูกกดลงบนโซฟาตัวนุ่มดวงตาของเขาพร่ามัว จับมือขึ้นเธอขึ้นมาเกี่ยวไว้บนเข็มขัดหนังหัวสีทองที่อยู่บริเวณเอว"ถอดให้ฉันหน่อย"ซูหว่านที่นอนอยู่เบื้องล่าง ส่ายหน้านิดหน่อย "แผลที่หลังของคุณยังไม่หายดี ไม่เพิ่งออกกำลังหนักๆ"ไฟราคะสุมขึ้นหน้าของชายหนุ่มเรียบร้อย แค่คำว่าออกกำลังกายหนัๆ ก็มากพอที่จะกระตุ้นฮอร์โมนของเขาเขาจับมือของซูหว่านอย่างรีบร้อน กดลำตัวลง ใช้ดวงตาที่ถูกครอบงำด้วยตัณหามองไปที่เธอ"การออกกำลังอย่างเหมาะสม จะช่วยบรรเทาอาก
เจียงโม่เห็นชายหนุ่มที่เหมือนกับประติมากรรมน้ำแข็ง ไม่แม้แต่จะหันกลับมาสักนิด ก็ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย"พี่ พรุ่งนี้ค่อยมาเถอะ"คนเค้ากำลังสวีทกับภรรยาที่เพิ่งจะทะเบียนมาหมาดๆ เขาที่เป็นผู้ชายตัวโตๆยืนอยู่ใต้ชายคาบ้านคนอื่น เอาแต่จับจ้องไปยังบานประตูใหญ่ด้วยสายตาคาดหวังรอคอย ใครที่ไม่รู้ คงได้นึกว่าเจียงเจ๋อแอบชอบคุณเย่แหงๆแต่อย่าหาว่าเอ็ดไป ยิ่งมองก็ยิ่งเหมือนแบบนั้นจริงๆ...นายน้อยเจียงแห่งS ฝึกวิชามาพร้อมกับคุณเย่มาตั้งแต่เด็กๆ นานวันเข้าก็เกิดเป็นความรัก แต่ทว่าเพราะเพศที่ต่างกัน จึงได้แต่เก็บความรักนี้ไว้ในใจกระทั่งที่หน้าประตูสำนักทะเบียร ได้เห็นคุณเย่จดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนอื่น นายน้อยเจียงถึงได้เสียศูนย์โดยสิ้นเชิง ตามตูดรถหรูของคุณเย่ ถามมาจนถึงหน้าเรือนหอนายน้อยเจียงที่รักจนไม่อาจถอนตัว กดกริ่งด้วยความบ้าคลั่ง คิดแต่จะแย่งตัวคุณเย่ลับมา แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อในใจของคุณเย่มีแค่ภรรยาคนสวยของเขาเท่านั้น และไม่สนใจนายน้อยเจียงแม้แต่นิดเดียวนายน้อยเจียงที่เจ็บปวดเจียนตาย ได้แต่รอคอยด้วยความทรหดอยู่ที่นอกประตู หวังว่าหลังจากที่คุณเย่สวีทกับภรรยาคนสวยเสร็จแล้ว
จี้ซือหานอดกลั้นความหงุดหงิดไปเปิดประตู ส่วนเจียงเจ๋อก็อดกลั้นความเดือดดาลเดินเข้าประตู...เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟแห่งโทสะของทั้งคู่ปะทะกัน หลังจากที่จี้ซือหานออกจากห้องนอนไปแล้ว ซูหว่านก็สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วเดินลงมาที่บริเวณปกเสื้อของเธอ ถูกจี้ซือหานฉีกออกไปบางส่วน จึงเผยให้เห็นจ้ำๆแดงที่เกิดจากรอยจูบที่ไหปลาร้าชายหนุ่มที่เพิ่งเข้ามา เห็นซูหว่านเดินลงบันไดวนตั้งแต่ครั้งแรก...สายตาหยุดอยู่ที่รอยจูบพวกนั้น เขาก็หน้าซีดไปทันทีพวกเขา...เมื่อกี้คงไม่ได้กำลัง?เจียงเจ๋อที่เพิ่งตระหนักได้ ถึงได้เข้าใจว่าที่เจียงโม่บอกให้เขามาพรุ่งนี้มันหมายถึงอะไรแต่จะโทษเขาก็ไม่ได้หรอก คนที่เอาแต่ฝึกวิชามาตั้งแต่เด็กจนโต ไม่เคยได้สัมผัสตัวผู้หญิง จะไปเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ยังไงท่าทางของเจียงเจ๋อที่เอาแต่จ้องซูหว่านตาค้าง แลกมาด้วยเสียงปืนที่ยิงขึ้นฟ้าของชายหนุ่มซึ่งยืนอยู่ข้างๆ...เจียงเจ๋อได้สติกลับมา เหล่มองจี้ซือหานด้วยความตกใจแค่มองผู้หญิงของเขาแวบเดียว ถึงขั้นต้องชักดาบชักปืน?จี้ซือหานที่เอาเรื่องขั้นสุด กดปืนที่อยู่ในมือลงบนศีรษะของเขา"นายน้อยเจียง อะไรที่ไม่ควรดู ก็อย่าดู..."
เจียงโม่ที่เห็นภาพช็อตนี้อยู่ในสายตา รู้สึกว่าชาตินี้ทั้งชาติเธอไม่มีวันเชื่อฟังว่าง่ายแบบนี้แน่เธอหันข้างไปมองเจียงเจ๋ออีกแวบนึง ก็เห็นเขายังจ้องซูหว่านอยู่ จึงกัดฟันถาม "พี่ชอบเธอที่เป็นแบบนี้หรอ?"เจียงเจ๋อพยักหน้านิดหน่อยราวกับหุ่นยนต์ จากนั้นอยากถามเจียงโม่ว่าชอบคืออะไร แต่แลกมาด้วยการมองบนของเจียงโม่รวมไปถึง...ฝ่ามือพิฆาตที่ท้ายทอยอีกหนึ่งครั้ง!เจียงเจ๋อ "..."สุดท้ายเขาก็เปลี่ยนทิศ เดินเข้าห้องหนังตามจี้ซือหานไปด้วยอการเวียนหัววินาทีที่ประตูห้องหนังสือปิดสนิท ซูหว่านกับเจียงโม่ต่างก็สบตากันบรรยากาศแปลกประหลาดไม่น้อย และอึดอัดอยู่ทีเดียว..."คุณซู มีกาแฟไหมคะ?"หลังจากที่ทั้งสองคนเงียบอยู่สักครู่ เจียงโม่เป็นฝ่ายเอ่ยปากขึ้นก่อนซูหว่านตอบกลับคำนึงว่า "น่าจะมีค่ะ" จากนั้นก็หมุนตัวเดินเข้าไปควานหากาแฟในห้องครัวซูหว่านที่ไม่คุ้นเคยบ้านใหม่ ค้นหาอยู่นานก็หาไม่เจอ บรรยากาศก็เข้าสู่ความกระอักกระอ่วนอีกครั้งเธอฝืนเอวที่เจ็บปวดจากการร่วมรักกับจี้ซือหาน หมุนตัวกลับไปมองเจียงโม่ที่เดินตามเธอซึ่งไปหากาแฟ"น้ำร้อนได้ไหมคะ?"เจียงโม่เลิกคิ้วกับตาขึ้นเล็กน้อย "เอาที่สะดว