เจียงโม่เห็นชายหนุ่มที่เหมือนกับประติมากรรมน้ำแข็ง ไม่แม้แต่จะหันกลับมาสักนิด ก็ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย"พี่ พรุ่งนี้ค่อยมาเถอะ"คนเค้ากำลังสวีทกับภรรยาที่เพิ่งจะทะเบียนมาหมาดๆ เขาที่เป็นผู้ชายตัวโตๆยืนอยู่ใต้ชายคาบ้านคนอื่น เอาแต่จับจ้องไปยังบานประตูใหญ่ด้วยสายตาคาดหวังรอคอย ใครที่ไม่รู้ คงได้นึกว่าเจียงเจ๋อแอบชอบคุณเย่แหงๆแต่อย่าหาว่าเอ็ดไป ยิ่งมองก็ยิ่งเหมือนแบบนั้นจริงๆ...นายน้อยเจียงแห่งS ฝึกวิชามาพร้อมกับคุณเย่มาตั้งแต่เด็กๆ นานวันเข้าก็เกิดเป็นความรัก แต่ทว่าเพราะเพศที่ต่างกัน จึงได้แต่เก็บความรักนี้ไว้ในใจกระทั่งที่หน้าประตูสำนักทะเบียร ได้เห็นคุณเย่จดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนอื่น นายน้อยเจียงถึงได้เสียศูนย์โดยสิ้นเชิง ตามตูดรถหรูของคุณเย่ ถามมาจนถึงหน้าเรือนหอนายน้อยเจียงที่รักจนไม่อาจถอนตัว กดกริ่งด้วยความบ้าคลั่ง คิดแต่จะแย่งตัวคุณเย่ลับมา แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อในใจของคุณเย่มีแค่ภรรยาคนสวยของเขาเท่านั้น และไม่สนใจนายน้อยเจียงแม้แต่นิดเดียวนายน้อยเจียงที่เจ็บปวดเจียนตาย ได้แต่รอคอยด้วยความทรหดอยู่ที่นอกประตู หวังว่าหลังจากที่คุณเย่สวีทกับภรรยาคนสวยเสร็จแล้ว
จี้ซือหานอดกลั้นความหงุดหงิดไปเปิดประตู ส่วนเจียงเจ๋อก็อดกลั้นความเดือดดาลเดินเข้าประตู...เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟแห่งโทสะของทั้งคู่ปะทะกัน หลังจากที่จี้ซือหานออกจากห้องนอนไปแล้ว ซูหว่านก็สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วเดินลงมาที่บริเวณปกเสื้อของเธอ ถูกจี้ซือหานฉีกออกไปบางส่วน จึงเผยให้เห็นจ้ำๆแดงที่เกิดจากรอยจูบที่ไหปลาร้าชายหนุ่มที่เพิ่งเข้ามา เห็นซูหว่านเดินลงบันไดวนตั้งแต่ครั้งแรก...สายตาหยุดอยู่ที่รอยจูบพวกนั้น เขาก็หน้าซีดไปทันทีพวกเขา...เมื่อกี้คงไม่ได้กำลัง?เจียงเจ๋อที่เพิ่งตระหนักได้ ถึงได้เข้าใจว่าที่เจียงโม่บอกให้เขามาพรุ่งนี้มันหมายถึงอะไรแต่จะโทษเขาก็ไม่ได้หรอก คนที่เอาแต่ฝึกวิชามาตั้งแต่เด็กจนโต ไม่เคยได้สัมผัสตัวผู้หญิง จะไปเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ยังไงท่าทางของเจียงเจ๋อที่เอาแต่จ้องซูหว่านตาค้าง แลกมาด้วยเสียงปืนที่ยิงขึ้นฟ้าของชายหนุ่มซึ่งยืนอยู่ข้างๆ...เจียงเจ๋อได้สติกลับมา เหล่มองจี้ซือหานด้วยความตกใจแค่มองผู้หญิงของเขาแวบเดียว ถึงขั้นต้องชักดาบชักปืน?จี้ซือหานที่เอาเรื่องขั้นสุด กดปืนที่อยู่ในมือลงบนศีรษะของเขา"นายน้อยเจียง อะไรที่ไม่ควรดู ก็อย่าดู..."
เจียงโม่ที่เห็นภาพช็อตนี้อยู่ในสายตา รู้สึกว่าชาตินี้ทั้งชาติเธอไม่มีวันเชื่อฟังว่าง่ายแบบนี้แน่เธอหันข้างไปมองเจียงเจ๋ออีกแวบนึง ก็เห็นเขายังจ้องซูหว่านอยู่ จึงกัดฟันถาม "พี่ชอบเธอที่เป็นแบบนี้หรอ?"เจียงเจ๋อพยักหน้านิดหน่อยราวกับหุ่นยนต์ จากนั้นอยากถามเจียงโม่ว่าชอบคืออะไร แต่แลกมาด้วยการมองบนของเจียงโม่รวมไปถึง...ฝ่ามือพิฆาตที่ท้ายทอยอีกหนึ่งครั้ง!เจียงเจ๋อ "..."สุดท้ายเขาก็เปลี่ยนทิศ เดินเข้าห้องหนังตามจี้ซือหานไปด้วยอการเวียนหัววินาทีที่ประตูห้องหนังสือปิดสนิท ซูหว่านกับเจียงโม่ต่างก็สบตากันบรรยากาศแปลกประหลาดไม่น้อย และอึดอัดอยู่ทีเดียว..."คุณซู มีกาแฟไหมคะ?"หลังจากที่ทั้งสองคนเงียบอยู่สักครู่ เจียงโม่เป็นฝ่ายเอ่ยปากขึ้นก่อนซูหว่านตอบกลับคำนึงว่า "น่าจะมีค่ะ" จากนั้นก็หมุนตัวเดินเข้าไปควานหากาแฟในห้องครัวซูหว่านที่ไม่คุ้นเคยบ้านใหม่ ค้นหาอยู่นานก็หาไม่เจอ บรรยากาศก็เข้าสู่ความกระอักกระอ่วนอีกครั้งเธอฝืนเอวที่เจ็บปวดจากการร่วมรักกับจี้ซือหาน หมุนตัวกลับไปมองเจียงโม่ที่เดินตามเธอซึ่งไปหากาแฟ"น้ำร้อนได้ไหมคะ?"เจียงโม่เลิกคิ้วกับตาขึ้นเล็กน้อย "เอาที่สะดว
ซูหว่านส่ายหน้าด้วยความแน่วแน่ "ฉันไม่ไปค่ะ"เธอจดทะเบียนสมรส ก็หมายถึงเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ยังจะไปปาร์ตี้คนโสดอะไรอีกทว่าเจียงโม่กลับไม่ยอมรับคำปฏิเสธ "เอาตามนี้ พรุ่งนี้ฉันมารับคุณนะคะ"ซูหว่านพูดอย่างเหนื่อยใจ "คุณหนูเจียง ต่อให้คุณมารับ ฉันก็ไม่ไปหรอกค่ะ"หญิงสาวที่สวมชุดกี่เพ้า ไม่ได้ตอบกลับ แค่ยกมุมปากยิ้ม จากนั้นร่างที่หุ้มขนเฟอร์ ก็ลุกขึ้นเดินจากไปแผ่นหลังที่เพรียวบาง ดูสง่างามมีออร่า แม้จะเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดในโลกนี้ ก็ไม่อาจเทียบได้กับท่าทางสบายๆของเจียงโม่ซูหว่านมองแผ่นหลังของเธอ รู้สึกโล่งอก โชคดีที่คนที่เจียงโม่ชอบไม่ใช่จี้ซือหาน ไม่อยากนั้นจะกลายเป็นคู่แข่งที่ร้ายกาจที่สุดของเธอเธอยกน้ำร้อยขึ้นดื่มคำนึง มองไปยังทิศทางห้องหนังสือ ข้างในนั้นเงียบเชียบ ไม่รู้ว่าเรื่องที่ทั้งสองคนคุย คือเรื่องอะไรกันแน่ห้องหนังสือมีระบบผนังเก็บเสียงดีมาก จี้ซือหานพิงหลังลงบนโซฟาหนัง ขาเรียวยาวทั้งสองวางซ้อนกันด้วยความเกียจคร้านใต้คิ้วสวยราวกับรูปวาด ดวงตาสีดำจลับลึกล้ำ จ้องไปยังเจียงเจ๋อที่มีรังศีเย็นชาเช่นเดียวกัน"นายน้อยเจียง นายหมายความว่าไง?"เจียงเจ๋อนั่งยืดตัวต
เจียงเจ๋อเองก็เคยได้ยินพ่อพูดถึงรักแรกสมัยยังเป็นเด็กหนุ่มมาเหมือนกัน ควรจะบอกว่าเป็นนางในฝันที่รักแต่ไม่อาจได้มาครอบครอง แต่ก็ไม่เคยเห็นเหมือนกันว่าอีกฝ่ายหน้าตาเป็นยังไง รู้แค่ว่าเพราะผู็หญิงคนนี้ พ่อถึงครองตัวเป็นโสดตลอดชีวิตความคิดของเขาถูกเบี่ยงเบนไปโดยจี้ซือหาน สิ่งที่คุยอยู่ตอนนี้คือเรื่องขององค์กร จุดประสงค์แรกเริ่มของSคืออะไร ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ถึงยังไงซะแค่ปฏิบัติตามจุดมุ่งหมายในตอนนี้ก็พอแล้วเจียงเจ๋อเก็บความคิดลงไป ให้คำสัญญาที่หนักแน่นกับจี้ซือหาน "ฉันจะไปกับนายด้วย ไม่จะเป็นหรือตาย ฉันก็จะตามนายไป"เขาไม่เคยแสดงความจงรักภักดีต่อจี้ซือหานมาก่อน นี่เป็นครั้งแรก นึกว่าอีกฝ่ายได้ยินแล้วจะซาบซึ้ง แต่ใครจะคิดว่าจี้ซือหานกลับเหล่มองเขาด้วยท่าทางรังเกียจ "นายไปด้วย ก็มีแต่จะเป็นภาระฉันเปล่าๆ"เจียงเจ๋อโกรธจนกำหมัด "ไอ้คนแซ่จี้ อย่าหลงตัวเองให้มันมาก กี่ครั้งแล้วที่นายทำภารกิจ แล้วฉันคอยช่วยเก็บงานให้นายทีหลังไม่งั้นนายคิดว่าจะทำภารกิจได้สำเร็จราบรื่นหรือไง?!"จี้ซือหานชิดคางขึ้น "นั่นก็เพราะว่า นายเหมาะจะตามล้างตามเช็ดยังไงล่ะ"เจียงเจ๋อคิด "...ไอ้เวรนี่ ทำไมปากมันวอนบาท
จี้ซือหานที่ไม่เคยสัมผัสได้ถึงความรักจากเธอ หลังจากที่ได้อยู่กับเธอแล้ว ก็มักจะสัมผัสได้ถึงความรักที่เต็มเปี่ยมจากเธออยู่เสมอเขาคิดว่าตัวเองรักเธอมากกว่า แต่เมื่อได้ยินเธอพูดคำพูดเหล่านั้น จู่ๆก็รู้สึกว่า จริงๆแล้วความรักของพวกเขาที่มีให้อีกฝ่ายนั้นเท่ากันชายหนุ่มจับมือของเธอแน่น ใช้กำลังดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด"ฉันจะไม่ให้ใครมาแตะต้องเธอได้ทั้งนั้น"ตอนที่เขาพูดประโยคนั้น ในแววตาเต็มไปด้วยรังศีสังหารเจียงเจ๋อพูดถูก เขาตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ไม่สามารถแม้แต่จะปกป้องตัวเองได้แต่ไม่ว่าจะS หรือวงการมืด ก็อย่าคิดแม้แต่จะแตะต้องผู้หญิงของเขาใครที่มันกล้า ต่อให้เขาต้องถึงตาย ก็จะลากให้อีกฝ่ายลงนรกไปด้วย!เพราะสำหรับเขาแล้ว ไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่าซูหว่านอีกเธอคือชีวิตของเขา เป็นแสงสว่างที่เขาตามหามาตลอดชีวิต เป็นคนที่เขาต้องการมาโดยตลอดเขาไม่มีทางทำให้คนที่ฆ่าตัวตายไปแล้วสามปีและกลับมาใหม่ต้องผิดหวัง...ในคืนนั้นซูหว่านกับจี้ซือหานไม่ได้พักอยู่ในบ้านหลังใหม่ อีกไม่นานก็จะต้องจัดงานแต่งงานแล้ว บ้านใหม่ก็ต้องตกแต่งเธอเองก็ต้องกลับไปตกแต่งวิลล่าที่เธอจะใช้ออกเรือน แต่เธอเชิญตัวผู้
นิ้วของเจียงโม่ที่คีบซิการ์ เคาะขี้เถ้าเบาๆ"คุณซู มีใครเค้าพาสามีไปร่วมปาร์ตี้คนโสดกันบ้าง?"การที่เจียงโม่จะปฏิเสธ เป็นสิ่งที่คาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ทำไมล่ะ?ที่เจียงโม่เชิญเธอไปร่วมงานปาร์ตี้คนโสด ก็เพราะอยากให้เธอสอนว่าจะจีบเจียงเจ๋อยังไงไม่ใช่หรอ?งั้นถ้าเธอจะพาจี้ซือหานไปด้วย ก็ไม่ได้หน่วงต่อการสอนเจียงโม่จีบเจียงเจ๋อไม่ใช่หรอ?เธอคิดว่าบางทีเจียงโม่อาจจะอยากอาศัยปาร์ตี้นี้เพื่อพาตัวเธอไป ส่วนเป้าหมายคืออะไร เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงเจ๋อคุยกับจี้ซือหานหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ดังนั้น ก็มองเจียงโม่ด้วยสายตาที่จริงใจ"คุณหนูเจียง ฉันกับจี้ซือหานถูๆไถๆกันมาเกือบสิบปี กว่าจะได้แต่งงานกันไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก่อนวันแต่งงาน""พรุ่งนี้เช้า ฉันแค่อยอยากสวมชุดแต่งงานที่เขาส่งมาให้ แต่งให้เขาด้วยสภาพร่างกายจิตใจที่สมบูรณ์แบบที่สุด หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้เราสมหวังด้วย"ตอนที่พูดสิ่งเหล่านี้ เธอเห็นสีหน้าของเจียงโม่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจียงโม่มีจุดประสงค์อย่างแท้จริง จึงยกริมฝีปากยิ้ม"คุณหนูเจียง ถ้าคุณอยากให้ฉันสอนคุณจีบ
ซูหว่านฟังเข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของเจียงโม่ ก็ถามเธอว่า "ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?"เจียงโม่อ่านความคิดของเธอออกทันที "คุณซู คิดถึงสถานการณ์ของเพื่อนคุณให้มากหน่อยก็ดีค่ะ"ความหมายอีกอย่างก็คือ มีชีวิตของเพื่อนเธออยู่ในกำมือ ถึงเธอจะใช้ข้ออ้างไปบอกบอดี้การ์ด หรือแหกปากร้องตะโกนก็ไม่มีประโยชน์ซูหว่านครุ่นคิด ปล่อยมือที่ประคองประตูรถมาตลอดลง ไพล่ไว้ด้านหลัง ทำสัญลักษณ์ให้กับบอดี้การ์ดหลังจากที่เธอส่งสัญญาณมือโดยเงียบเชียบเสร็จ ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเห็นเธอขึ้นรถมาแต่โดยดี เจียงโม่ก็เขี่ยซิก้าร์ในมือจนมอด จากนั้นสตาร์ทรถ...ตอนที่เธอเหยียบคันเร่ง มองกระจกมองหลังแวบนึง บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นตามมาดังคาดเจียงโม่ดึงสายตากลับ เหยียบคันเร่งจนมิด เลี้ยวผ่านไปไม่กี่โค้งก็สลัดบอดี้การ์ดสำเร็จถึงยังไงก็เป็นถึงระดับหัวหน้าของทีมย่อยในS การที่เจียงโม่สลัดบอดี้การ์ดทิ้งได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากซูหว่านกำเข็มขัดนิรภัยแน่นถึงไม่โดนสะบัดออกจากรถไป ทว่าความรู้สึกพะอืดพะอมในท้องกลับทำให้เธออยากอ้วกเธอกุมหน้าอกที่เต้นระรัว อดกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ มองไปย
ช่างเสื้อหยิบชุดเจ้าสาวชุดนั้นลงมา เมื่อสัมผัสโดนเนื้อผ้าและเพชรที่ประดับอยู่ด้านบน ก็อึ้งไปชุดแต่งงานชุดนี้เต็มไปด้วยผ้ากอซสีอ่อนหลายชั้น ประดับด้วยดอกกุหลาบและเพชรที่ทอจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเป็นสีขาวคริสตัลเรียบง่ายและวิจิตรงดงามด้วยเพชรที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่องประกายด้วยเสน่ห์อันงดงามและสง่างามจนน่าทึ่งถ้าดูไม่ผิด หากอ่านไม่ผิด นี่คือชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวในโลกที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกหลายปีก่อน ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกเก็บเอาไว้ในห้องนิทรรศการที่ต่างประเทศ แต่ต่อมาได้ยินว่าถูกคนซื้อไปในราคาสูงลิ่วคิดไม่ถึงว่าคนที่ซื้อชุดเจ้าสาวไป จะเป็นท่านประธานของกลุ่มบริษัทจี้ ถ้าไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง จะยอมจ่ายหนักขนาดนี้ได้ยังไง?ที่สำคัญอีกชุดนึงที่อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เดาว่าก็น่าจะมีแค่ชุดเดียว ไม่ซ้ำใคร"คุณนายจี้ ท่าทางคุณผู้ชายจะรักคุณมากเลยนะคะ..."ซูหว่านได้ยินคำพูดของช่างเสื้อ ก็พยักหน้าอย่างไม่ปิดบังผู้ชายคนนั้นรักเธอมาก รักจนยอมมอบทุกอย่างให้กับเธอ รักจนยอมตายไปพร้อมกับเธอเธอคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่หล
ซูหว่านพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ก็ได้ค่ะ ฉันเอาตามที่คุณพูด ตอนนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นเครื่องบิน ก็ต้องขึ้นรถพยาบาลก่อน..."ถ้ายังไม่ห้ามเลือดอีก เขาจะทนไม่ไหวเอา จี้ซือหานเห็นว่าเธอเป็นห่วงเขา ถึงได้จับมือเธอขึ้นเครื่องบินอย่างว่าง่ายคืนนี้ ซูหว่านเฝ้าอยู่ข้างกายจี้ซือหาน รอหมอห้ามเลือด เย็บแผล เปลี่ยนยาให้เขาเสร็จ เธอถึงได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง ซูหว่านก็รู้สึกว่าไม่น่าจะจัดงานแต่งได้ จึงเอ่ยข้อเสนอกับเขา "หรือเลื่อนออกไปวันนึงไหม"ชายหนุ่มที่ถือผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เธอ พูดด้วยความแน่วแน่ "ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องจัดงานแต่ง!"ซูหว่านที่เพิ่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ อุงไอน้ำร้อนๆในมือ หันกลับไปมองเขา "แต่แผลของคุณ..."จี้ซือหานพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ต่อให้แผลจะใหญ่กว่านี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการจัดงานแต่ง"ซูหว่านยังอยากพูดอะไรอีก แต่จี้ซือหานหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้เธอจากนั้น ขับรถไปส่งเธอที่วิลล่าของซานซานด้วยตัวเอง โดยไม่สนคำทัดท้านของเธอ"สิบเอ็ดโมง ฉันจะพาคนของตระกูลจี้ มารับเธอ"กำหนดการณ์เดิมคือสิบโมง แต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป อยากให้เธอพักผ่อนกว่านี้อีกหน่อย ชาย
จี้ซือหานกอดเธอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดจนชา ก็ค่อยๆสงบลงเขาคลายซูหว่านออก เห็นร่างกายของเธอเปียกปอนไปทั้งตัว ทั้งยังสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก"คนที่ควรพูดขอโทษคือฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""คุณพูดอะไรโง่ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ"ซูหว่านพูดจบ ก้มหน้าลงมองมือตัวเองแวบนึง เมื่อเห็นเลือดที่เลอะเต็มมือ ใบหน้าก็ซีดไปทันที"แผลที่หลังของคุณฉีกแล้ว รีบขึ้นรถพยาบาลเถอะ..."เมื่อกี้เธอนึกว่าเป็นน้ำทะเล ไม่คิดว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเลือด แผลที่หลังจะต้องฉีกออกแล้วแน่ๆ!ซูหว่านควงแขนของเขาได้ ก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางของรถพยาบาล ทว่าจี้ซือหานกลับดึงเธอกลับมา"หว่านหว่าน แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก"เขาพูดจบ ก็มองเจียงโม่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลแวบนึง"จับตัวเธอ แล้วค่อยแจ้งคุณเจียง ให้เขามาไถ่ตัวด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ปลดชีวิตเธอซะ!"คำพูดนั้นเขาพูดกับซูชิง ซูชิงรีบรับคำสั่งทันที "ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!"เจียงโม่ที่คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าคุณเย่ไม่มีทางปล่อยเธอ เห็นซ
ซูหว่านครุ่นคิด ก่อนจะถามเขา "คุณแซ่ชู งั้นคุณรู้จัก..."ชูยีไหม?ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำนี้ออกไป ก็ถูกชูจิ่นเหยียนตัดบท "ผมจะส่งคุณกลับไป"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็กลืนคำพูดลงไป ขมวดคิ้วมองเขา "ลำบากแทบตายกว่าฉันจะหนีออกมาได้ จะส่งกลับไปทำไม?"ชูจิ่นเหยียนกรอกตาใส่เธออย่างหมดคำพูด "ผมหมายความว่า จะส่งคุณกลับบ้าน..."ซูหว่านจึงได้พยักหน้า ลุกขึ้นจากหาดทราย เธอต้องรีบกลับไปบอกจี้ซือหาน...ว่าเธอหนีออกมาแล้ว เธอปลอดภัย เธอไม่ได้กลายเป็นภาระของเขา และเขาก็ไม่ต้องถูกแบล็กเมล์อีกหลังจากที่เธอขึ้นฝั่งมากับชูจิ่นเหยียน ก็เห็นรถพยาบาลคันแล้วคันเล่าขับตรงไปยังบีชคลับอย่างรวดเร็วฝีเท้าของเธอชะงัก ช้อนสายตามองไปยังชายหาดที่อยู่ห่างไกล มองเห็นร่างมนุษย์ไม่ชัด เห็นแต่เรือลำเล็กลำใหญ่แล่นลงทะเลทีละลำซูหว่านทอดสายตาลงต่ำครุ่นคิดอยู่สักครู่ เอาแต่รู้สึกว่าเจียงโม่ไม่น่าจะส่งคนจำนวนมากขนาดนั้นมาตามหาและช่วยชีวิตเธอ หรือว่าจี้ซือหานมาแล้ว?ถ้าจี้ซือหานมาถึงแล้ว รู้ว่าเธอกระโดดลงทะเล เกรงว่าจะทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดมาถึงตรงนี้ซูหว่านก็เปลี่ยนความคิด"เราไปดูตรงนู้นหน่อยเถอะ?"ไปดูแปบนึง ถ้าจี้
ซูหว่านที่พยายามหนีถึงสามครั้งแต่ก็ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้ง หันกลับมามองเจียงโม่ที่เดินตามหลังเป็นระยะๆเธอเห็นเอาแต่รับโทรศัพท์ตลอดเวลา ราวกับกำลังปรึกษาเรื่องอะไรอยู่ เพราะระยะค่อนข้างห่าง จึงได้ยินไม่ชัด แต่บางครั้งก็จะได้ยินแค่ชื่อของจี้ซือหานเธอไม่รู้ว่าจี้ซือหานรับปากหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระของจี้ซือหานไม่ได้เธอมองไปยังผืนน้ำทะเลที่สาดเป็นคลื่นดุเดือด หลังจากมองอยู่หลายอึดใจ ก็กระโดดเข้าไปในทะเลโดยไม่ลังเล...เธอเคยพูดว่าถ้าหากมีใครเอาตัวเธอเพื่อไปข่มขู่จี้ซือหาน ถ้างั้นเธอก็จะไม่ยอมกลายเป็นตัวถ่วงของเขาเด็ดขาดเจียงโม่ที่กำลังเกลี้ยกล่อมพ่อบุญธรรมว่าอย่าแบล็กเมลล์จี้ซือหานอีก ได้เห็นภาพช็อตนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดในทันที"ซูหว่าน!"เธอกรีดร้องออกมาทีนึง โยนโทรศัพท์แล้วพุ่งลงไปในทะเลเพื่อช่วยชีวิต ทว่าถูกร่างใครบางคนพุ่งตัดหน้าเข้ามาก่อน...เสียงกระโดดลงทะเลดัง "ตู้ม" ของชูจิ่นเหยียน ว่ายเข้าไปหาร่างเล็กบางที่พุ่งเข้าไปในคลื่นทะเลด้วยความแข็งขันเจียงโม่ที่อยู่บนชายหาด ตอนแรกยังพอจะเห็นร่างของทั้งสองคนลอยอยู่เหนือผิวน
ฝีเท้าของซูหว่านชะงักไปทันทีเธออยากจะหันกลับไปโต้ตอบเขาสักสองสามประโยค แต่ก็กลัวจะเสียเวลา จึงไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แต่ผลักประตูห้องน้ำหญิงด้วยความรวดเร็วหลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว ก็เดินสำรวจห้องน้ำรอบนึง เมื่อเห็นว่าด้านข้างมีหน้าต่างบานเล็ก ก็รีบเดินเข้าไปแล้วเปิดออกข้างนอกเป็นถนนหลวง แค่ปีนออกจากตรงนี้ไป ก็จะสามารถเดินไปถึงถนนหลวงได้ และโอกาสที่จะหนีรอดก็สูงมากทีเดียวเธอเองก็ขี้เกียจมานั่งคิดว่าหลังจากเดินไปถนนหลวงแล้วจะกลับไปยังไง จึงพับแขนเสื้อขึ้น แล้วปีนไปยังขอบหน้าต่างสูงชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนถนนหลวง เขางอขาข้างหนึ่งขึ้น มือข้างหนึ่งทาบบนเข่า กำลังสูบบุหรี่ไปพร้อมกับที่มองดูเธอปีนออกไปนอกหน้าต่างพิลึกคน!ถ้าอยากจะออก ก็เดินผ่านคลับ ออกจากมาประตูหลัก หรือไม่ก็ข้ามชายหาดมาก็ได้แล้ว ทำไมต้องปีนหน้าต่าง?"นี่!"เขาแหกปากคำนึง ทำเอาซูหว่านตกใจจนตกลงมาจากบนขอบหน้าต่าง...ซูหว่านล้มลงอย่างแรง เธอหน้าบูดบึ้งเนื่องจากความเจ็บปวด โชคดีที่ด้านล่างเต็มไปด้วยทราย ไม่อย่างนั้นคงได้กระดูกหักเธอตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น จ้องผู้ชายที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนถนนหลวงตาเขม็ง "นายเป็นโรคหรือไง
เจียงโม่ไม่หลงกล ซูหว่านจึงใช้เล่นแง่ในทางความรู้สึกแทน"คุณหนูเจียง คุณก็รู้ว่าคนที่จี้ซือหานแคร์ มีแต่ฉันมาโดยตลอด""คุณกักตัวเพื่อนของฉันไม่ยอมปล่อย ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ ทำไมต้องให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มารับเคราะห์ด้วยล่ะ?"เจียงโม่จ้องดวงตาใสบริสุทธิ์ของซูหว่านนานอยู่สักพัก จากนั้นก็โบกมือ "ช่างเถอะ แค่คุณอยู่ก็พอแล้วล่ะ"เธอส่งคนไปโทรศัพท์ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายวางสาย ก็หันมาพยักหน้าให้เธอ แล้วจึงอธิบายให้ซูหว่านฟัง"เพื่อนของคุณไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัว ฉันก็แค่ส่งคนไปก่อกวนพวกเขานิดหน่อย หลังจากที่คุณกลับไป อย่าพูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกัน"สรุปว่าที่ซานซานออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ที่อลันกับซีอี้ไม่ได้มาที่วิลล่า ไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัว แต่ถูกคนของเจียงโม่สร้างสถานการณ์แต่ว่า ฟังจากความหมายของเจียงโม่ ถ้าเธอไม่มาล่ะก็ คตที่สร้างสถานการณ์กลุ่มนั้น จะต้องลงมือกับพวกซานซานเป็นแน่...เพียงแต่เพราะเจียงโม่คำนึงถึงจี้ซือหานหรือเธอ ถึงได้เลือกใช้วิธีนุ่มนวล ไม่งั้นลักพาตัวไปเลยก็จะง่ายกว่า...แต่ไม่ว่าคนที่เจียงโม่คำนึงเป็นใคร หรือไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ซูหว่านฟังเข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของเจียงโม่ ก็ถามเธอว่า "ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?"เจียงโม่อ่านความคิดของเธอออกทันที "คุณซู คิดถึงสถานการณ์ของเพื่อนคุณให้มากหน่อยก็ดีค่ะ"ความหมายอีกอย่างก็คือ มีชีวิตของเพื่อนเธออยู่ในกำมือ ถึงเธอจะใช้ข้ออ้างไปบอกบอดี้การ์ด หรือแหกปากร้องตะโกนก็ไม่มีประโยชน์ซูหว่านครุ่นคิด ปล่อยมือที่ประคองประตูรถมาตลอดลง ไพล่ไว้ด้านหลัง ทำสัญลักษณ์ให้กับบอดี้การ์ดหลังจากที่เธอส่งสัญญาณมือโดยเงียบเชียบเสร็จ ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเห็นเธอขึ้นรถมาแต่โดยดี เจียงโม่ก็เขี่ยซิก้าร์ในมือจนมอด จากนั้นสตาร์ทรถ...ตอนที่เธอเหยียบคันเร่ง มองกระจกมองหลังแวบนึง บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นตามมาดังคาดเจียงโม่ดึงสายตากลับ เหยียบคันเร่งจนมิด เลี้ยวผ่านไปไม่กี่โค้งก็สลัดบอดี้การ์ดสำเร็จถึงยังไงก็เป็นถึงระดับหัวหน้าของทีมย่อยในS การที่เจียงโม่สลัดบอดี้การ์ดทิ้งได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากซูหว่านกำเข็มขัดนิรภัยแน่นถึงไม่โดนสะบัดออกจากรถไป ทว่าความรู้สึกพะอืดพะอมในท้องกลับทำให้เธออยากอ้วกเธอกุมหน้าอกที่เต้นระรัว อดกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ มองไปย
นิ้วของเจียงโม่ที่คีบซิการ์ เคาะขี้เถ้าเบาๆ"คุณซู มีใครเค้าพาสามีไปร่วมปาร์ตี้คนโสดกันบ้าง?"การที่เจียงโม่จะปฏิเสธ เป็นสิ่งที่คาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ทำไมล่ะ?ที่เจียงโม่เชิญเธอไปร่วมงานปาร์ตี้คนโสด ก็เพราะอยากให้เธอสอนว่าจะจีบเจียงเจ๋อยังไงไม่ใช่หรอ?งั้นถ้าเธอจะพาจี้ซือหานไปด้วย ก็ไม่ได้หน่วงต่อการสอนเจียงโม่จีบเจียงเจ๋อไม่ใช่หรอ?เธอคิดว่าบางทีเจียงโม่อาจจะอยากอาศัยปาร์ตี้นี้เพื่อพาตัวเธอไป ส่วนเป้าหมายคืออะไร เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงเจ๋อคุยกับจี้ซือหานหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ดังนั้น ก็มองเจียงโม่ด้วยสายตาที่จริงใจ"คุณหนูเจียง ฉันกับจี้ซือหานถูๆไถๆกันมาเกือบสิบปี กว่าจะได้แต่งงานกันไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก่อนวันแต่งงาน""พรุ่งนี้เช้า ฉันแค่อยอยากสวมชุดแต่งงานที่เขาส่งมาให้ แต่งให้เขาด้วยสภาพร่างกายจิตใจที่สมบูรณ์แบบที่สุด หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้เราสมหวังด้วย"ตอนที่พูดสิ่งเหล่านี้ เธอเห็นสีหน้าของเจียงโม่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจียงโม่มีจุดประสงค์อย่างแท้จริง จึงยกริมฝีปากยิ้ม"คุณหนูเจียง ถ้าคุณอยากให้ฉันสอนคุณจีบ