สัมผัสอุ่นๆจากปลายนิ้วของหญิงวัยกลางคน ทำให้ซูหว่านรู้สึกไม่สบายตัว เธอหกคอกลับมาเล็กน้อย"นายหญิงจิ..."เธอเอ่ยเตือนด้วยเสียงเรียบ ทำให้เสิ่นเจียวหลินดึงสติกลับมา"ขอโทษทีนะ ฉันลืมตัวไปหน่อย..."หลังจากที่เธอกลับมาที่อังกฤษ ก็คิดอยู่นานสุดท้ายก็เอาชนะความหวาดกลัวต่อใบหน้านี้ได้ในที่สุดถึงยังไงลูกชายก็ตายไปแล้ว เวรกรรมที่เธอต้องได้รับ ยังไงมันก็ต้องมาถึงในสักวัน แล้วจะไปกลัวทำไม?คิดมาถึงตรงนี้ เสิ่นเจียวหลินก็ยกมุมปากขึ้นอย่างหมดหนทาง..."คุณซู เธอรู้ไหม เธอหน้าตาเหมือนกับแม่ของเธอมาก"เพราะเธอหน้าตาเหมือนแม่ของเธอ เสิ่นเจียวหลินถึงได้ตกใจขนาดนั้นตอนที่เห็นเธอครั้งแรก?แต่ถ้าเทียบกับความตกใจแล้ว ซูหว่านรู้สึกว่า เมื่อเสิ่นเจียวหลินได้เห็นเธอ อีกฝ่ายดูหวาดกลัวซะมากกว่า...เสิ่นเจียวหลินทำเรื่องอะไรไม่ดีกับแม่ของเธอหรือเปล่า ถึงได้กลัวเธอแบบนี้?ขณะที่ซูหว่านกำลังสงสัยอย่างที่สุด เสิ่นเจียวหลินที่กำลังมองใบหน้าของเธอนั้น จู่ๆก็หัวเราะออกมาเบาๆ..."ก่อนที่แม่ของเธอจะเสียโฉม เป็นคนสวยเหมือนกับเธอเลย น่าเสียดายนะ..."เสิ่นเจียวหลินพูดถึงตรงนี้ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกในแววตาเผยควา
คำว่ากลับบ้าน ทำให้ซูหว่านดึงสติกลับมาจากความเหม่อลอยเธอแหงนหน้าขึ้นเล็กน้อย มองชายหนุ่มที่ร่างสูงใหญ่อ้าปากอยากจะพูดะไร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูด แค่พยักหน้าให้เขาหลังจากที่จี้ซือหานจับมือเธอขึ้นรถ ก็นั่งลงข้างเธอ จากนั้นยื่นนิ้วเรียวยาวไปคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอซูหว่านมองชายหนุ่มที่คาดเข็มขัดให้ตัวเอง นิ้วมือที่กำนามบัตรอยู่ ลูบไล้อยู่สองสามที จู่ๆก็เอ่ยปากออกมา"ซือหาน...""หืม?"น้ำเสียงน่าฟังของชายหนุ่มเปล่งออกมาจากลำคอ ทุ้มต่ำมีเสน่ห์"นายหญิงจิรู้ว่าแม่ของฉันเป็นใคร แต่เอากั่วกัวมาเป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยน""เธอยังพูดอีกว่า..."จี้ซือหานเห็นเธอเงียบ ก็หันข้างไปและเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน"ให้เธออยู่ห่างจากฉัน?"ซูหว่านชะงักไปนิดหน่อย ราวกับไม่คิดว่าเขาจะเดาได้นานแล้ว เธอทอดสายตามองต่ำหลายวินาที สุดท้ายก็เลือกที่จะพูดความจริง"เธอบอกว่าถ้าฉันรู้ว่าแม่เป็นใคร ฉันก็จะไม่แต่งให้คุณ""ฟังจากความหมายที่เธอพูด เหมือนว่าระหว่างแม่ของฉันกับพวกคุณจะมีความแค้นอะไร"จี้ซือหานมีสีหน้าอึ้งไป ความจริงเขาก็กลัวอยู่ว่าก่อนแต่งงาน จะมีใครมาสร้างความบาดหมาง แต่ไม่คิดว่าจะมีจริงๆเขามองใบหน้า
น้อยครั้งที่เธอจะกระตือรือร้นขนาดนี้ นี่ถือเป็นครั้งแรกด้วยซ้ำ...จี้ซือหานชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็โอบรอบเอวของเธอ อุ้มเธอมานั่งบนต้นขาคงเป็นเพราะจูบอันดูดดื่มที่เธอเป็นฝ่ายรุก ปลอบประโลมหัวใจของเขา ทำให้เขาไม่รู้สึกว้าวุ่นใจเหมือนตอนแรกอีกซูหว่านสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของเขา ที่เปลี่ยนจากอ่อนโยนเป็นเร่าร้อน ก็รู้ว่าชายหนุ่มถูกไฟราคะเข้าครอบงำเรียบร้อยแล้ว จึงรีบผลักเขาออก"ดูสถานการณ์ด้วยค่ะ"นิ้วมือของชายหนุ่มที่ล้วงเข้าไปที่แผ่นหลัง ชะงักลงทันที ดวงตางดงามที่พร่ามัง จ้องเธอด้วยประกายออดอ้อน"ขอจุ๊บอีกหน่อยนะ?"ขืนยังจูบต่ออีกหน่อย อย่าหวังว่าจะได้ลงจากรถเลย ยังดีที่คนขับรถที่อยู่ข้างหน้า ปิดพนักกั้นไว้ตั้งแต่ขึ้นรถมาแล้ว กั่วกัวเองก็นั่งอยู่ในรถคันอื่น ไม่งั้นได้อายตายหลังจากที่ซูหว่านใช้มือปิดใบหน้าที่ยื่นเข้ามาชายหนุ่ม ก็พูดกับเขาว่า "ซือหาน อีกเดี๋ยวกลับประเทศ เราไปจดทะเบียนกันเถอะ..."ถ้าจดทะเบียนกันแล้ว เขาก็จะไม่กระวนกระวายใจแบบนี้อีกความปรารถนาในดวงตาของจี้ซือหานสลายหายไป แทนที่ด้วยความประหลาดใจ "จดทะเบียน?"ซูหว่านที่ยังนั่งอยู่บนต้นขาของเขา ก้มหน้าลงมองเขา
เสิ่นหนานอี้อยากอยู่ที่อังกฤษต่อเพื่อจัดการบริษัทของจิเหยียนโจว จึงไม่ได้กลับประเทศด้วย แต่จะรีบตามไปร่วมงานแต่งของทั้งสองคนทั้งครอบครัวและอาชีพการแพทย์ของจอร์จก็ล้วนอยู่ที่อังกฤษ จึงไม่ได้กลับไปกับพวกเขาอยู่แล้ว ได้แต่บอกลากั่วกัวอย่างอาวรณ์"กั่วกัว ต่อไปถ้าฉันไม่ได้อยู่กับหนู หนูต้องเชื่อฟังน้าเล็กับน้าเขย ตั้งใจเรียนหนังสือนะ"กั่วกัวเป็นเด็กฉลาดมาก กางมือเล็กๆออก แล้วกอดขาของจอร์จ"ปู่จอร์จ หนูจะเชื่อฟังค่ะ ปู่ไม่ต้องห่วงนะคะ"จอร์จเผยรอยยิ้มอ่อนโยน มองกั่วกัวยิ้มๆ จากนั้นมองไปยังซูหว่านกับจี้ซือหาน"ต่อไปลำบากพวกคุณแล้ว"ซูหว่านส่ายหน้าเล็กน้อย "ฉันเป็นน้าเล็กของกั่วกัว ไม่คำว่าลำบากหรอกค่ะ"แน่นอนว่าจอร์จไม่ได้กลัวว่าซูหว่านจะลำบาก แต่หลังจากที่หญิงสาวแต่งงานไปแล้ว ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ต้องพึ่งพิงชายหนุ่มผู้ชายคนนี้ที่ซูหว่านแต่งงานด้วย เป็นผู้ครอบครองอำนาจตระกูลจี้ ทั้งสถานะตำแหน่งก็สูงจนไม่อาจเอื้อม ถ้าต้องแต่งโดยพาหลานเข้าตระกูลไปด้วย...จอร์จมองจี้ซือหานแวบนึง เห็นเขาเอ่มือข้างนึงล้วงกระเป๋ากางเกง มองมาที่ตัวเองด้วยสายตาเรียบเฉย คำพูดที่บอกถึงความไม่สบายใจ ก็ค่อย
เขาเหงื่อตกโดยอัตโนมัติ หันกลับมา ก็เห็นชายหนุ่มที่สูงร้อยเก้าสิบเซ็น ยืนตัวตั้งตรงอยู่หน้าประตู กำลังเอียงศีรษะน้อยๆจ้องเขาอยู่หน้าตาของชายหนุ่ม เย็นยะเยือกราวหิมะ รูปงามเกินพรรณนา ทั้งตัวของเขาแผ่ออร่าความสง่างามสูงศักดิ์ แผ่รัศมีที่ใครก็ไม่กล้าเข้าใกล้ซีอี้เห็นบอสใหญ่ของโรงพยาบาล ใช้สายตาส่งสัญญาณอันตรายเตือน กระทั่งเหมือนจะบอกว่า "อยากจะฆ่าเขา" จ้องมาที่ตัวเอง หัวใจก็กระตุกขึ้นทันทีเขาจำได้ว่าตัวเองไม่เคยทำอะไรผิดต่อประธานจี้นี่นา ทำไมถึงจ้องเขาด้วยสายตาแบบนี้?น่ากลัวชะมัด...ซีอี้คิดไม่ตก แต่ซูหว่านรู้ เธอเหล่มองจี้ซือหานด้วยความโมโหปนอยากขำ"รอฉันแปบนึง ฉันขึ้นไปเอาเอกสารก่อนค่ะ"เมื่อเธอขึ้นไปข้างบน ในห้องรับแขกก็เหลือเพียงแค่ซานซาน อลัน กั่วกัว และซีอี้สามคนที่อยู่ด้านหน้า รู้สึกเคยชินกับความสามารถในการพ่นความเย็นเฉียบดั่งแอร์เคลื่อนที่ของจี้ซือหานไปแล้วมีเพียงซีอี้ ที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยความกระอักกระอ่วน จะยิ้มก็ไม่ยิ้ม จะพูดอะไรก็ไม่กล้าและชายหนุ่มที่ยืนตัวตรงอยู่หน้าประตู ยังจะปรายตามองเขาอยู่เป็นเนืองๆ ราวกับประติมากรรมน้ำแข็งถ้าไม่ใช่เพราะคุณซูใช้เวลาไม่น
ชายหนุ่มปิดตู้เซฟ หันหลังให้เธอ แล้วเปลี่ยนรหัสซูหว่าน...ผู้ชายคนนี้ ยกทรัพย์สินส่วนตัว สมบัติของตระกูลจี้ทั้งหมดให้กับเธอแล้ว ทว่ากลับระแวดระวังกับทะเบียนสมรสใบเดียวเธอรู้สึกตลกและจนปัญญา "ซือหาน ฉันแต่งงานกับคุณแล้ว ก็จะไม่มีทางหย่า คุณไม่ต้องห่วงนะ"คำสัญญาประโยคนี้ เป็นดั่งยาที่ช่วยสงบใจ แต่จี้ซือหานคิดว่าการมีประกันสองชั้นไว้ก็จะปลอดภัยกว่าเขาเปลี่ยนรหัสเสร็จ ก็โบกมือให้บอดี้การ์ดรีบย้ายตู้เซฟออกไป แล้วจึงหันตัวมาโอบเอวของเธอ"คุณนายจี้ เธออยากจะทำอะไรในคืนเข้าหอ?"น้ำเสียงของชายหนุ่ม ใสๆเย็นๆ ทว่าตอนที่พูดถึงคำว่าคืนเข้าหอ กลับแฝงไว้ด้วยเสน่ห์ที่เย้ายวนซูหว่านไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น แค่ส่งยิ้มหวานให้เขาแล้วคิด แผลยังไม่ทันจะหายดี ยังคิดจะทำกิจกรรมคืนเข้าหอ ฝันไปเถอะจี้ซือหานเห็นเธอเงียบ ก็นึกว่าเธอเอาตามที่เขาจะจัดการ มุมปากยกขึ้นช้าๆ เผยรอยยิ้มสดใสบริสุทธิ์"เรือนหอตกแต่งเสร็จแล้ว ไปเรือนหอไหม?"เวลาที่เขายิ้ม แววตาเป็นประกายราวกับดวงดาวระยิบระยับ ทั้งคิ้วและตาโค้งขึ้นเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว หล่อเหลาน่ามองอย่างที่สุดซูหว่านลุ่มหลงอยู่กับรอยยิ้มของเขา จนแม้แต่ตัวเ
จี้ซือหานชะงักการคเลื่อนไหวทันที ช้อนแพขนตาดกดำขึ้น มองไปยังทิศทางหน้าประตูแวบนึง และวินาทีต่อมา...เขาก็ดึงสายตากลับ ก้มหน้าลงงับริมฝีปากอันเย้ายวนของหญิงสาว จูบเธอต่อไปโดยไม่สนใจอะไรซูหว่านยังนึกว่าเขาจะไปเปิดประตู แต่ใครจะคิดว่าเขาไม่เห็นคนด้านนอกประตูอยู่ในสายตาเธอจึงได้แต่อาศัยจังหวะที่เขากำลังจูบต้นคอของเธออย่างดูดดื่ม ใช้มือข้างที่อยู่ใกล้กับหน้าอกดันเขาออก"ไปเปิดประตูค่ะ!""ทำก่อน"ข้างนอกต่อให้เป็นพระเจ้ามา เขาก็ต้องทำเธอก่อน!ชายหนุ่มใช้มือข้างนึงโอบเอวของเธอ แล้วอุ้มเธอขึ้นมาในขณะที่ท้องฟ้าแผ่นดินกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง ซูหว่านถูกกดลงบนโซฟาตัวนุ่มดวงตาของเขาพร่ามัว จับมือขึ้นเธอขึ้นมาเกี่ยวไว้บนเข็มขัดหนังหัวสีทองที่อยู่บริเวณเอว"ถอดให้ฉันหน่อย"ซูหว่านที่นอนอยู่เบื้องล่าง ส่ายหน้านิดหน่อย "แผลที่หลังของคุณยังไม่หายดี ไม่เพิ่งออกกำลังหนักๆ"ไฟราคะสุมขึ้นหน้าของชายหนุ่มเรียบร้อย แค่คำว่าออกกำลังกายหนัๆ ก็มากพอที่จะกระตุ้นฮอร์โมนของเขาเขาจับมือของซูหว่านอย่างรีบร้อน กดลำตัวลง ใช้ดวงตาที่ถูกครอบงำด้วยตัณหามองไปที่เธอ"การออกกำลังอย่างเหมาะสม จะช่วยบรรเทาอาก
เจียงโม่เห็นชายหนุ่มที่เหมือนกับประติมากรรมน้ำแข็ง ไม่แม้แต่จะหันกลับมาสักนิด ก็ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย"พี่ พรุ่งนี้ค่อยมาเถอะ"คนเค้ากำลังสวีทกับภรรยาที่เพิ่งจะทะเบียนมาหมาดๆ เขาที่เป็นผู้ชายตัวโตๆยืนอยู่ใต้ชายคาบ้านคนอื่น เอาแต่จับจ้องไปยังบานประตูใหญ่ด้วยสายตาคาดหวังรอคอย ใครที่ไม่รู้ คงได้นึกว่าเจียงเจ๋อแอบชอบคุณเย่แหงๆแต่อย่าหาว่าเอ็ดไป ยิ่งมองก็ยิ่งเหมือนแบบนั้นจริงๆ...นายน้อยเจียงแห่งS ฝึกวิชามาพร้อมกับคุณเย่มาตั้งแต่เด็กๆ นานวันเข้าก็เกิดเป็นความรัก แต่ทว่าเพราะเพศที่ต่างกัน จึงได้แต่เก็บความรักนี้ไว้ในใจกระทั่งที่หน้าประตูสำนักทะเบียร ได้เห็นคุณเย่จดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนอื่น นายน้อยเจียงถึงได้เสียศูนย์โดยสิ้นเชิง ตามตูดรถหรูของคุณเย่ ถามมาจนถึงหน้าเรือนหอนายน้อยเจียงที่รักจนไม่อาจถอนตัว กดกริ่งด้วยความบ้าคลั่ง คิดแต่จะแย่งตัวคุณเย่ลับมา แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อในใจของคุณเย่มีแค่ภรรยาคนสวยของเขาเท่านั้น และไม่สนใจนายน้อยเจียงแม้แต่นิดเดียวนายน้อยเจียงที่เจ็บปวดเจียนตาย ได้แต่รอคอยด้วยความทรหดอยู่ที่นอกประตู หวังว่าหลังจากที่คุณเย่สวีทกับภรรยาคนสวยเสร็จแล้ว