กั่วกัวพอหลับไปได้พักหนึ่งก็สะลึมสะลือลืมตาตื่นขึ้นมาภายในห้องที่มืดสลัวๆ เธอก็ไม่เห็นน้าสาวเลย เธอตกใจจนร้องไห้ออกมาเสียงดัง "แง"...เธอร้องไห้เสียงดังมาก ไม่นานนักจอร์จและจิเหยียนโจวก็มาหาจอร์จผลักประตุห้องเปิดออกและเปิดไป เขาเข้าไปอุ้มกั่วกัวขึ้นมาและปลอมเธอจิเหยียนโจวพอเห็นว่าไม่เห็นแม้แต่เงาของซูหว่านในห้อง เขาก็รีบเข้าไปที่ห้องน้ำพอเขาเปิดประตูห้องน้ำออก เขาก็ใจเต้นสั่นเมื่อเห็นเลือดสดๆ นองเต็มพื้น พร้อมกับหญิงสาวใบหน้าซีดขาวนอนอยู่ในอ่างน้ำ"จอร์จ รีบมาช่วยเธอเร็ว!"เขาเดินเข้าไปอย่างรวดเร็วแล้วอุ้มซูหว่านขึ้นมา หลังจากวางเธอลงกับพื้น เขาก็รีบกดตรงข้อมือที่เบือดไหลออกมาไว้แน่นจอร์จพอมาถึงยังห้องน้ำก็เห็นว่าซูหว่านกรีดข้อมือฆ่าตัวตาย เขาใจเต้นรัวอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นก็สงบสติอารมร์ลงมาเขาตะเรียกให้คนรับใช้เอากล่องยามา หลังจากยุ่งกับการห้ามเลือดจนหยุดแล้วก็รีบช่วยซูหว่านหญิงสาวที่นอนตรงพื้นและก่อนจะใกล้สิ้นลมหายใจ จอร์จได้ลากเธอกลับมาจากประตูปรโลกได้อย่างทันท่วงที"อุ้มเธอไปไว้บนเตียง!"จิเหยียนโจวพอเห็นจอร์จถอนหายใจออกมา เขาก็ได้อุ้มซูหว่านและเอาเธอมาไว้บนเตียง
จิเหยียนโจวสั่งผู้ช่วยเสร็จ ก็พาพวกเขาโยกย้าย มาจนถึงเกาะซานโตรินี่อีกครั้ง...ในวันต่อๆไป เพื่อป้องกันไม่ให้ซูหว่านฆ่าตัวตาย จิเหยียนโจวจึงใช้กุญแจมือ ล็อคมือของเธอเอาไว้กับเตียง จำกัดการเคลื่อนไหวของเธอแล้วจึงสั่งให้คนรับใช้จับตาดูเธอยี่สิบสี่ชั่วโมง ไม่ให้เธอกัดลิ้นฆ่าตัวตาย...หลังจากที่เขาตัดขาดหนทางการฆ่าตัวตายของซูหว่านเรียบร้อยแล้ว ก็สั่งให้จอร์จรักษาเธอครั้งนี้ไม่ได้หยุดการให้ยารักษาดวงตาเธออีก แต่ทำทุกวิถีทางเพื่อขนส่งอุปกรณ์การแพทย์ที่ดีที่สุดมาเพื่อรักษาดวงตาของเธอ...ซูหว่านปล่อยให้จิเหยียนโจวทรมานตามใจชอบ แต่ความปณิธานที่อยากไปตายนั้น กลับไม่เคยเปลี่ยนไป กระทั่งสามเดือนให้หลัง จอร์จหยิบแท็บเล็ตเครื่องนึงมาเขากดเปิดข่าวบนหน้าจอ แล้วยื่นให้ซูหว่าน "คุณดูสิ เขาออกงานแถลงข่าวการก่อสร้างใหม่ของสำนักงานใหญ่กลุ่มบริษัทจี้ เขายังไม่ตาย"ในวิดีโอ ร่างที่สวมชุดสูทหรูราคาแพง เปล่งออร่าสง่างามสูงส่งในทุกอิริยาบถแสงแฟลชจำนวนมาก ถ่ายใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติราวกับถูกพระเจ้าแกะสลักอย่างบ้าคลั่ง...ชายหนุ่มในกล้อง ช้อนดวงตาเรียวคมอันแสนเยือกเย็นคู่นั้น จิกเลนส์นิ่งโดยไม่กระพริบ
ตอนที่จิเหยียนโจวกลับมา ก็เป็นเวลาหลังเที่ยงคืนแล้ว ซูหว่านกอดกั่วกัว ฝืนความง่วงรอเขากลับมา...สามเดือนที่ผ่านมานี้ จิเหยียนโจวมาค่อยมาเจอซูหว่านสักเท่าไหร่ หรือถ้าเจอก็จะหมุนตัวเดินหนีราวกับไม่เห็นเธอในสายตาครั้งนี้เมื่อเปิดประตูเข้าวิลล่ามา เห็นเด็กกับผู้ใหญ่นั่งรอเขาอยู่ในห้องรับแขก ก็ยังคงทำเหมือนอย่างเคย คือเลือกที่จะทำเป็นมองไม่เห็นตอนที่เขาเตรียมจะยกขาเดินไป ซูหว่านก็เรียกเขาไว้ "ร่างกายของฉันดีเกือบปกติแล้ว ตั้งใจว่าพรุ่งนี้ก็จะไป ส่วนกั่วกัวฉันจะพาไปด้วย"เธอไม่มีความอดทนมานั่งเสียเวลากับจิเหยียนโจวต่อไป จึงเอ่ยความต้องการด้วยเสียงเย็นชาทันทีจิเหยียนโจวชะงักฝีเท้าลง หันกลับไปมองเธอแวบนึง "เด็กนั่นไม่ใช่ลูกของเธอสักหน่อย เธอจะพาไปด้วยทำไม?"ซูหว่านตอบกลับเสียงเย็น "กั่วกัวเป็นลูกของพี่สาวฉัน ฉันเป็นคุณน้าของเธอ ฉันมีสิทธิ์ปกป้องดูแล ก็ต้องพาไปได้อยู่แล้ว"จิเหยียนโจวแค่นเสียงเย็น "เธอกำลังจะบอกว่า ฉันไม่สมควรเลี้ยงดูเด็กคนนั้น?"ซูหว่านพูดเสียงเย็น "สมหรือไม่สมควร คุณก็รู้ดีอยู่แก่ใจ"จิเหยียนโจวเห็นเธอกลับมาปากคอเราะร้ายอย่างเคย ก็รู้ว่าเธอเห็นที่จี้ซือหานไปออกงาน
ซูหว่านถูกขังไว้กับเตียงมาเป็นระยะเวลานาน จึงไม่รู้สถานการณ์ของทั้งสองคน เห็นกั่วกัวรู้เรื่องขนาดนี้ ก็ปวดใจ"กั่วกัว เขา..."ซูหว่านยังพูดไม่ทนัจบ ก็เห็นกั่วกัวขัดขืนลงจากตัวของเธอ แล้วอ้าแขนสองข้างให้จิเหยียนโจวอุ้มนอกจากจิเหยียนโจวจะไม่ปฏิเสธแล้ว ยังอุ้มกั่วกัวขึ้นมาทันทีกั่วกัวซุกตัวเข้าอ้อมกอดของเขาตามแรง ยกมือเล็กป้อมๆขึ้นโบกให้ซูหว่าน"คุณน้า กลับไปอย่างหายห่วงได้เลยค่ะ"ซูหว่านมองจิเหยียนโจวอุ้มกั่วกัวขึ้นด้านบนอย่างตกตะลึงเธอยังอยากจะแย่งสิทธิ์ในการปกป้องดูแลของกั่วกัว แต่ไม่คิดว่ากั่วกัวอยากจะอยู่กับจิเหยียนโจวด้วยใจจริงเธอจ้องแผ่นหลังของเด็กน้อยและผู้ชายคนนั้น ไม่รู้ว่าทำไม แต่ยิ่งดูยิ่งรู้สึกว่าพวกเขาเหมือนกับ...ทันใดนั้นในใจของเธอก็ผุดความคิดนึงออกมา กั่วกัว คงไม่ใช่ลูกของจิเหยียนโจวกับพี่สาวหรอกนะ?ความคิดนี้ทำเอาซูหว่านตกใจใหญ่ รีบสะบัดศีระษะทำลายความคิดในสมองทิ้ง...ครั้งจิเหยียนโจวนับว่ารักษาคำพูด ปล่อยให้ซูหว่านจากไป ทั้งยังเตรียมเครื่องบินส่วนตัวไว้สำหรับเธอโดยเฉพาะหลังจากที่ซูหว่านโบกมือลากั่วกัวอย่างทำใจลำบากเสร็จ ก็หมุนตัวขึ้นไปนั่งในรถ ออกจากวิล
ร่างเล็กบาง ทอดมองเขาท่ามกลางลมและหิมะ ในดวงตาที่แผงไว้ด้วยความรู้สึกที่เอ่อล้น น้ำตาไหลรินดั่งน้ำพุจี้ซือหานยืนนิ่งอยู่กับที่ จ้องเธออยู่ชั่วครู่ ก็ยกเท้า ค่อยๆเดินไปยังทิศทางที่เธออยู่ช้าๆ...ซูหว่านเห็นเขาเดินออกจากบริษัท อีกทั้งยังเดินมายังที่ตัวเองอยู่ ก็รีบเดินขึ้นหน้าไปหาทั้งน้ำตา "ซือหาน ฉัน..."ทันทีที่เธอเรียกชื่อของเขาออกไป ก็เห็นเขาเดินผ่านไหล่ของเธอไปด้วยสีหน้าเย็นชา ไม่แม้แต่จะชายตามองเธอด้วยซ้ำซูหว่านตกตะลึง น้ำตาที่คลอเบ้า ใช้ความอดทนสุดชีวิตกลั้นไม่ให้ไหล แต่เพราะการกระทำนั้นของเขา ทันใดนั้นมันก็ไหลออกมาเธอค่อยๆหันกลับไป มองไปยังชายหนุ่มที่เดินลงบันได โดยที่ไม่หันศีรษะกลับมาไปพร้อมกับกลุ่มบอดี้การ์ดอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาแผ่นหลังของเขาที่สูงใหญ่และแข็งแรง ทว่ากลับโดดเดี่ยวและเฉยชา ราวกับอยู่กันคนละโลก ทำให้เธอไม่อาจสัมผัส หรือเข้าใกล้ได้...ซูหว่านจ้องแผ่นหลังนั้น มึนงงจนนึกว่าตัวเองถูกขังอยู่ในห้วงแห่งความฝัน เป็นฝันร้ายที่เธอเคยฝันถึงมาก่อนจริงๆเธอตายไปตั้งนานแล้วมั้ง เพราะเธอไม่อาจยอมรับได้ว่าจี้ซือหานไม่รักเธอ ดังนั้นแล้วเมื่อไม่สามารถฟื้นกลับมา จึงสา
ซูหว่านรอคำตอบจากจี้ซือหาน รออยู่นานมาก แต่เขาก็ไม่ได้ตอบ สุดท้ายเป็นเธอที่ยกมุมปากขึ้น แล้วยิ้มแข็งทื่อให้เขา..."ฉันเข้าใจแล้ว คุณ...ไม่ต้องการฉันแล้ว..."เธอยกมือขึ้นปัดน้ำตาที่หางตาออก เดินถอยหลังก้าวนึง น้ำตาที่เอ่อล้น เต็มไปด้วยความผิดหวัง...ทว่าเธอไม่ได้เดินจากไป แต่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเดียวดาย มองชายหนุ่มตรงหน้าที่เงียบไม่พูด แล้วเอ่ยปากเบาๆ"ให้เหตุผลสักข้อกับฉันได้ไหม?"ชายหนุ่มที่คลุมเสื้อโค้ทตัวใหญ่สีดำ สวมแว่นกรอบสีทอง ราวกับเทพบุตรที่ไกลเกินเอื้อมซูหว่านรู้ระยะห่างของตัวเองกับเขาดี มันเหมือนฟ้ากับผืนดิน ไม่มีวินาทีที่จะได้มาบรรจบกันแต่เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสพื้นดินมาแล้ว เธอก็จะกำความหวังอันเจือจางนี้ไว้ให้แน่น เพื่อเอาคำตอบที่อาจจะพรากชีวิตของเธอไปเลยก็ได้ถึงกระนั้น ชายหนุ่มกลับทำลายความหวังของเธอจนย่อยยับ เขาเอาแต่เงียบ และไม่ได้เงยหน้ามองเธอ ราวกับกำลังใช้ความเย็นยะเยือกบังคับให้เธอจากไปหลังจากที่ซูหว่านสำรวจความคิดของเขาออกแล้ว ก็ยกมือขวาขึ้น ลูบรอยแผลเป็นที่ฆ่าตัวตายเพื่อเขาบนมือซ้าย...จนถึงตอนนี้ เธอถึงได้รู้ว่าอะไรที่เรียกว่าความเจ็บปวดที่แท้จริงจากกา
ชายหนุ่มบนรถโคนิเซ็กจ้องร่างเล็กนั่งยองๆกับพื้นแล้วค่อยๆหดตัวลง ผ่านกระจกมองหลังหลังนิ่ง...กระทั่งร่างนั้นกลายเป็นแค่จุดสีดำ ทันใดนั้นชายหนุ่มก็คลายกำปั้นที่มือออก แล้วตะโกนออกมา..."จอดรถ..."คนขับรีบเหยียบเบรกกระทันหัน รถหรูที่ตามหลังมาสิบกว่าคัน ก็รีบจอดลงตามนิ้วมือที่สั่นเทาของจี้ซือหาน หยิบเสื้อโค้ทตัวใหญ่สีดำ ผลักประตูรถออก ก้าวขายาวเดินไปหาซูหว่านเขาเหยียบลงบนกองหิมะนุ่ม เมื่อมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ ได้ยินเสียงหัวเราะไม่ค่อยปกติที่เธอเปล่งออกมา จู่ๆหัวใจก็กระตุก"หว่านหว่าน..."เขาเรียกชื่อของเธอ คนบนพื้น สะดุ้งออกมาเบาๆ ทว่าไม่กล้าเงยหน้าขึ้นจี้ซือหานจ้องร่างกายที่บางประหนึ่งกระดาษแผ่นนึง สายตาเรียบเฉย จู่ๆก็แดงระเรื่อขึ้นเขาคุกเข่าข้างนึงลงตรงหน้าเธอ จากนั้นกางเสื้อโค้ทในมือ แล้วคลุมลงบนร่างกายอ่อนแอของเธอ"อากาศหนาวขนาดนี้ ทำไมเธอถึงใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นแบบนี้"เสียงแหบพร่าลอยมาจากเหนือศีรษะ ทำให้ซูหว่านเข้าสู่สภาวะมึนงงอีกครั้งกระทั่งตอนที่เสื้อโค้ทตัวใหญ่คละคลุ้งด้วยกลิ่นซิก้าร์ นำความอบอุ่นมาให้เธอ เธอถึงได้ดึงสติกลับมาเธอค่อยๆเงยหน้าขึ้น มองไปยังชายหนุ่มที่ค
ขณะที่จี้ซือหานกำลังอยากจะตอบ จู่ๆเธอก็คว้าแขนเสื้อเขามาจับเอาไว้ แล้วอธิบายอย่างร้อนใจ"ฉันเปล่า ฉันไม่ได้คบกับเขา!""เจาป้อนยาสลบฉัน แล้วพาฉันไปอังกฤษ!""เขาหลอกฉัน โกหกว่าคุณตายไปแล้ว ฉันนึกว่าคุณตายไปแล้วจริงๆ ก็เลยอยากกลับมาเจอหน้าคุณอีกครั้ง!""แต่เขากลับใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ แล้วอยากให้ฉันอยู่เป็นตัวแทนพี่สาว ฉันไม่ยอม อยากจะไปตาย แต่เขาโกหกว่าฉันท้อง!"ซูหว่านพูดมาจนถึงตรงนี้ ยกมือขึ้นลูบหน้าท้องตัวเอง มองจี้ซือหานกระชากลำคอตะโกนออกมาราวกับใจจะขาด"ฉันนึกว่าฉันมีเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณแล้ว ก็อยากจะคลอดเด็กออกมา เลยรับปากเขาไป!""แต่พอผ่านไปหนึ่งเดือน ฉันก็พบว่าตัวเองไม่ได้ท้อง!""เขาหลอกฉัน! หลอกฉันมาตลอด!!!"หลังจากที่ซูหว่านคำรามเสร็จ ก็ใจเย็นขึ้น จ้องดวงตาของจี้ซือหานที่ตกตะลึง แล้วพูดกลั้วหัวเราะ "คุณรู้ไหมว่าฉันกลับมาได้ยังไง?"จี้ซือหานมองซูหว่านที่สภาพไม่ค่อยปกติตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "กลับ...กลับมาได้ยังไง?"ร่างกายของเขาสั่นไปหมด แต่ก็กลัวว่าทุกอากัปกิริยาของตัวเองจะไปกระตุ้นเธอเข้า จึงได้แต่กดความหวาดกลัวที่ไร้ขีดจำกัดนั้นไว้ แล้