"ฉันเป็นผู้หญิงของคุณตั้งแต่ชาติไหนไม่ทราบ?"อลันเงยหน้าถามชายหนุ่มที่สูงเหนือศีรษะเธอ "ในเมื่อคุณไม่เคยให้สถานะ แล้วก็ไม่เคยเปิดตัวฉัน แถมยังแต่งงานกับฉันไม่ได้อีก แล้วยังนับว่าเป็นผู้หญิงของคุณตรงไหน? คู่นอน? คู่ขา? ซูเหยียน คุณบอกฉันทีสิ ความสัมพันธ์แบบนี้ต้องเรียกว่าอะไร?"ซูเหยียนหน้าซีดไปเล็กน้อย เดินขึ้นหน้ากอดอลันอีกครั้ง แล้วกดศีรษะของเธอมาฝังกับแผงอก "อลัน ฉันจะหาวิธีแต่งงานกับเธอ รอฉันอีกหน่อยได้ไหม?"อลันเห็นในแววตาของซูเหยียนเต็มไปด้วยความลนลานร้อนใจ ราวกับกลัวว่าเธอจะจากไปด้วยสาเหตุนี้อลันจึงรู้ว่าตัวเองน่าจะประสบความสำเร็จ ยังขาดก็แต่ขั้นสุดท้ายนั่นก็คือส่งซูเหยียนไปนรก!อลันซุกอยู่ในอ้อมอกของเขา ถามเขาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก "คุณคิดจะใช้วิธีไหนเพื่อแต่งงานกับฉัน?"ซูเหยียนเงียบไปหลายวินาที จากนั้นตอบเธออย่างไม่ปิดบัง "ออกจากตระกูลซู ตัดขาดความสัมพันธ์"เขาพูดจบก็เชยคางของอลัน แล้วสบตากับดวงตาของเธอตรงๆ "อลัน ฉันจะแต่งงานกับเธอ อย่าเปิดใจให้ซีอี้"อลันผลักซูเหยียนออกเบาๆ เมื่อช้อนสายตามองเขาอีกครั้ง ในแววตาไม่มีความรักอย่างที่เคยเสแสร้งทำอีกต่อไป สิ่งที่มี เหล
น้ำตาที่รินไหลลงมาเหล่านั้น ทิ่มแทงหัวใจของซูเหยียนอย่างเจ็บปวด มือที่วางอยู่ด้านหลัง สั่นตามอย่างรุนแรงเขาหดนิ้ว ฝั่งเข้าไปในฝ่ามือ สาวขายาวเข้าไปหาอลัน แต่กลับถูกซูหว่านกับซานซานที่พุ่งออกมาจากในวิลล่าห้ามไว้ซานซานกอดอลัน ก้มหน้าสำรวจบาดแผลบนใบหน้าของเธอ ส่วนซูหว่านก็ปกป้องอลันไว้จากด้านหน้า ขมวดคิ้วมองซูเหยียน"หมอซู ทำอะไรของคุณ?"ซูหว่านไม่ค่อยเข้าใจซูเหยียน ทั้งที่แคร์อลันมากขนาดนั้น แต่ทำไมถึงได้ลงมือตบเธอ?ซูเหยียนไม่ได้สนใจซูหว่าน ดวงตาดำทะมึนสีแดงก่ำ จ้องไปที่อลันอย่างทำอะไรไม่ถูกอลันที่กุมใบหน้าอยู่ตลอด ก็มองเขาเช่นเดียวกัน ความรู้สึกที่เสแสร้งในแววตาหายไป เหลือไว้เพียงความผิดหวังทั้งสองคนสบตากันชั่วขณะ จากนั้นอลันเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน "ซูเหยียน หลายปีที่ผ่านมา ที่ฉันพูดว่ารักคุณ จะแต่งงานกับคุณ ทั้งหมดนั้นเป็นแค่เรื่องโกหก ฉันไม่รักคุณ แล้วก็ไม่อยากแต่งงานกับคุณด้วย..."ใบหน้าคมสันของซูเหยียน ซีดเผือดมากขึ้นกว่าเดิม "เธอพูดอะไร..."อลันปล่อยมือลง เผยให้เห็นใบหน้าบวมช้ำ แล้วฉีกยิ้มมุมปาก "เมื่อก่อนคุณทำร้ายฉัน ตอนนี้ฉันทำร้ายคุณครั้งนึง นับว่าหายกัน ระหว่างเรามัน
สีหน้าของซูเหยียนขาวซีดสุดขีด ในสมองผุดภาพอดีตที่น่าอับอายเหล่านั้น ทำให้เขาหวาดกลัวจนสั่นไปทั้งตัว"อลัน ฉัน...ฉันไม่รู้ว่าเธอเคยชอบฉัน คืนนั้นฉันนึกว่าเธอจะไปกับผู้ชายคนอื่น ฉัน..."เขาปะติดปะต่อคำพูดไม่ได้จนพูดไม่ออก เดินขึ้นหน้าก้าวนึงหวังจะกอดอลันเอาไว้ อยากจะพูดถึงความแค้นและความคับข้องใจทั้งหมดในวัยเยาว์ให้ชัดอยากจะบอกเธอว่า ถ้าไม่เอามดลูกออก เธอจะตาย อยากจะอธิบายให้เธอฟังว่าไม่ใช่เขาที่ส่งคนให้โยนเธอไปในป่ารกร้างแต่อลันกลับมองเขาอย่างเย็นชา "ซูเหยียน คุณรู้ไหมว่าฉันมีชีวิตยังไงตอนอยู่ต่างประเทศสิบปี ฉันอาศัยจากความเกลียดชังคุณ ถึงได้ยืนหยัดในการมีชีวิตอยู่ ทุกๆวันฉันเอาแต่คิด ว่าฉันจะต้องทำให้คุณรักฉัน จากนั้นค่อยแก้แค้นอย่างสาสม!"เธอวางแผนมาสิบปี ก็เพื่อรอเวลานี้ไม่ใช่หรอ?!ซูเหยียนชะงักอยู่กับที่ ทั้งๆที่ห่างกับอลันเพียงเอื้อมมือ แต่วินาทีนี้ความรู้สึกกับห่างกันไปไกลมากเขาจ้องเธอนิ่ง แต่กลับมองไม่เห็นความรักในแววตาของเธอที่มีต่อเขาอีก ต่อให้แค่เสแสร้งก็ยังไม่มีที่แท้...อลันของเขา ก็แค่กำลังแก้แค้นเขาอยู่เท่านั้น...คำพูดที่บอกว่ารัก คำหวานหูเหล่านั้น ทั้งหมดล้วน
ความแค้นระหว่างอลันกับซูเหยียน มีต้นกำเนิดมาจากแม่ของซูชิงแม่ของเขาเป็นที่เลื่องชื่อในเมืองหลวง เป็นเมียน้อยที่ตั้งใจยั่วยุเฉพาะผู้ชายที่มีภรรยาแล้วหลังจากที่เธออาศัยการตั้งครรภ์ซูชิงและขึ้นตำแหน่ง ก็บีบแม่ของซูเหยียนให้ตายทั้งเป็นซูเหยียนในเวลานั้น อายุแค่ห้าขวบ มองดูแม่ตัวเองกระโดดตึกต่อหน้าต่อตา เลือดสดๆสาดลงบนใบหน้าของเขาหลังจากนั้นเป็นต้นมา ซูเหยียนที่เรียบร้อยว่าง่าย ก็นิสัยเปลี่ยนไปราวกับคนละคน กลายเป็นคนโหดเหี้ยมตั้งแต่เด็ก หยิกซูชิงที่ยังอยู่ผ้าอ้อมแม่ของซูชิง กลัวว่าลูกจะถูกซูเหยียนทำร้ายจนตาย ก็ส่งซูชิงไปยังตระกูลจี้ ให้ผู้ดูแลบ้านของเพื่อนสนิทในเวลานั้น ช่วยดูแลส่วนแม่ของซูชิงนั้น จะว่าเป็นคนเลวก็ไม่เชิง เธอรับหลานสาวที่พ่อแม่เสียชีวิตทั้งคู่มาดูแลด้วยตัวเอง เป็นเหตุให้...แต่จะบอกว่าเธอไม่ใช่คนเลวก็ไม่ใช่ เพราะเธอบังคับให้ซูเหยียนเป็นลูกของเธอ บีบให้ซูเหยียนเรียกเธอว่าแม่ ถ้าซูเหยียนไม่เชื่อฟัง ก็จะถูกพ่อของเขาเฆี่ยนตีซูเหยียนที่ยังเป็นเด็กนั้น เอาชนะแม่ของซูชิงไม่ได้ จึงเอาความแค้นทั้งหมดไปลงกับอลัน...เขารู้ดีว่าอลันไม่รู้เรื่อง เพราะแบบนั้นทั้งที่อยากจะฆ
บางทีคงเป็นเพราะได้รับรู้ถึงอดีตของอลัน ซูหว่านจึงนอนไม่หลับเลยทั้งคืร เมื่อตื่นมาตอนเช้า ร่างกายก็เบลอไปหมด...เธอเปิดโทรศัพท์ขึ้นดูนิดหน่อย ปกติเวลานี้ จี้ซือหานจะต้องโทรวิดีโอคอลมาหาเธอแล้ว แต่วันนี้กลับไม่มีเธอแอบรู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อย นิ้วมือวางลงบนแป้นพิมพ์ ปลุกความกล้ากดเบอร์โทรออกไป แต่อีกฝ่ายกลับไม่กดรับสาย...ซูหว่านวางโทรศัพท์ลง เลิกผ้าห่มออก ลุกขึ้นเดินไปยังริมหน้าต่างที่สูงจรดพื้น มองดวงอาทิตย์ที่โผล่พ้นออกมาจากมุมของหน้าต่าง แล้วค่อยๆเหม่อลอยเธอกับซานซานไปเยี่ยมอลันที่โรงพยาบาลเสร็จ ก็ไปเรียนที่ศูนย์ติว จากนั้นออกแบบที่ห้องหนังสือ แต่สุดท้ายจี้ซือหานก็ไม่ได้โทรมาเธอนอนแผ่อยู่บนเตียง กอดโทรศัพท์ จ้องกล่องแชทนิ่ง รอจนผ่านไปหนึ่งชั่วโมง จนผ่านไปคืนนึง แต่เขาก็ยังไม่โทรมา...ใกล้จะรุ่งสาง เธอฝืนร่างกายไม่ไหวจึงนอนหลับไป จากนั้นก็ฝันแปลกๆ...ภาพในนั้น เธอจำไม่ได้ชัดนัก แต่จำได้แค่ว่าใบหน้าเย็นชาของจี้ซือหาน เดินผ่านร่างของเธอไปเธอวิ่งตามไป คว้าแขนเสื้อของเขา แล้วขอโทษเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ "ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ..."เขาหยุดฝีเท้าลง ไม่ได้หันกลับมามองเธอ แต่กลับผลักมื
ดวงตาเรียวแดงก่ำของชายหนุ่ม จ้องใบหน้าของเธอนิ่ง"หว่านหว่าน ชีวิตนี้เธอจะไม่ผิดหวัง และตลอดไป"เขาจับคางของเธอขึ้น จุมพิตอันหอมหวานก็ประทับลงบนริมฝีปาก คิ้ว แก้ม คางของเธอ...เขาจูบทุกส่วนของร่างกายเธออย่างนุ่มนวล และถนุถนอม ราวกับกำลังจูบสิ่งล้ำค่าที่สุดในโลก...เขากอดเธอแน่น ขณะที่ความรักเอ่อล้นมาจนถึงขีดสุด เขาก็โน้มตัวมาใกล้ใบหูของเธอ กัดติ่งหู เสียงแหบพร่าพูดขึ้นว่า "ซูหว่าน ฉันรักเธอ"จากใจเต้นสู่รักที่ล้นหัวใจ สิบปี ไม่ใช่ตัวเลขที่ยาวนาน แต่กลับใช้ความกล้าหาญทั้งหมดที่มี เพื่อรัก และไล่ตามเธอ...หลังจากที่ซูหว่านเปิดใจ และยอมรับเขาอีกครั้ง ก็สัมผัสได้ถึงความรักอย่างสุดขั้วหัวใจ ความรักที่เป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว...ค่ำคืนนี้ของพวกเขา ได้สัมผัสกับความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน นั่นคือความอุ่นใจจากการมีอยู่ซึ่งมาจากความรักที่ทั้งสองคนมีให้กัน...ขณะที่ซูหว่านฝืนร่างกายไม่ไหว ใกล้จะหลับไป ชายหนุ่มก็กล่อมเธออย่างไม่หยุดพัก "หว่านหว่าน ลองอีกสักสองสามครั้งนะ ได้ไหม?"เธอตอบกลับ "ไม่ได้" แล้วผลักเขาออก จากนั้นหมุนตัว กอดหมอนของเขาแล้วสลบไป...ต่อให้ยังอยากจะได้เธออยู่ จี้ซือ
ซูหว่านถูกเขาล่อลวงเข้า เชื่อในมารยาของเขาอย่างจัง ถึงคิดว่าเขาจะพาเธอไปดูของจริงๆจังๆ...เขากุมมือของเธอ ให้เธอสัมผัสจุดที่กำลังเร่าร้อน น้ำเสียงแหบพร่ากระเส่า ลูบไล้ซอกคอของเธอ"น่าดูไหม?"เมื่อกี้เขาหูแดงฉ่า แต่ตอนนี้เป็นตาของซูหว่าน ที่แดงจนจำสีเดิมไม่ได้แล้ว"ไม่ ไม่น่าดู..."มุมปากของเขายกขึ้น แฝงรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม "งั้น...ใช้การดีไหม?"ซูหว่านกุมใบหน้าที่แดงก่ำ แหงนหน้าถลึงตาใส่จี้ซือหาน แต่กลับสบตาเข้ากับดวงตาเรียวคมเป็นประกายคู่นั้นข้างในนั้นมีแต่เงาและใบหน้าของเธอ ความรู้สึกอบอุ่นได้มาถึง เหมือนสายลมฤดูใบไม้ผลิที่พัดผ่านหลายหมื่นไมล์ ที่ทําให้ลุ่มหลงได้อย่างง่ายดายและไม่อาจถอนตัวบนใบหน้างดงามนั้น มีรอยยิ้มบางๆค่อยๆกว้างมากขึ้น จนคิ้วตาเรียวสวยยกเป็นเส้นโค้ง งดงามจนไร้ที่ติซูหว่านจ้องใบหน้าสูงศักดิ์ที่ไม่อาจเอื้อมนั้น ก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นคนเดียวกับผู้ชายที่พูดจา "สองแง่สองง่าม" ข้างใบหู...เธอดึงสายตาที่มองเขากลับมา อยากจะปล่อยมือออก แต่เขากลับออกแรงกดเอาไว้"หว่านหว่าน ครั้งนี้ ควรทำให้ฉันได้แล้วมั้ง?"ในเรื่องแบบนี้ ซูหว่านมักจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเสมอ ครั้งนี
ซานซานคาดเดาได้ว่านายน้อยเพลย์บอยสุดเลื่องชื่ออย่างจี้เหลียงชวน สักวันนึงจะต้องเลิกกันอันเหยียน เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้เธอไม่ได้ตกใจอะไรกับเรื่องนี้นัก "นายอกหักแล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน"เธอไม่ได้ทำให้เขาอกหักสักหน่อย มาหาเธอทำไม แปลกคน!จี้เหลียงชวนลุกขึ้น เดินโซเซขึ้นหน้ามาหาซานซานอย่างไม่มั่นคงซานซานได้กลิ่นเหล้าหึ่ง ก็ขมวดคิ้วอุดจมูก "อยู่ห่างๆฉันหน่อย เหม็นชะมัด"แต่จี้เหลียงชวนกลับไม่ เขายกมือขึ้นวางลงเหนือศีรษะเธอ ล้อมตัวเธอไว้ในอ้อมอกเขาซุกหน้าลงกับซอกคอของซานซานหมือนเด็กน้อย "ต้องโทษพี่นั่นแหละ ที่ทำให้ผมกับอันเหยียนเลิกกัน"ซานซานกรอกตาขึ้นบน "ฉันว่านายดื่มเยอะเกินไป ไม่มีที่ให้อ้วก เลยตั้งใจเอาฉันเป็นกระโถน ทำให้ฉันสะอิดสะเอียนล่ะสิ"ซานซานยกเล็บแหลมคมขึ้น เล็งไปที่ขมับ แล้วออกแรงหยิก ศีรษะของเขารีบไถลลงจากไหล่ทันทีซานซานใช้โอกาสนี้ผลักเขาออก จี้เหลียงชวนที่เมาเละไม่เป็นท่า โดนเธอผลักทีเดียว ร่างกายที่ไม่มั่นคงอยู่แล้วก็เซลงไปบนพื้นได้ยินแค่เสียง "ตุ้บ" ท้ายทอยของเขา ก็กระแทกเข้ากับขอบกระถางต้นไม้ที่อยู่หน้าประตูวิลล่าตามมาด้วยเสียงกระเบื้องที่กระแทกลงพื้
ช่างเสื้อหยิบชุดเจ้าสาวชุดนั้นลงมา เมื่อสัมผัสโดนเนื้อผ้าและเพชรที่ประดับอยู่ด้านบน ก็อึ้งไปชุดแต่งงานชุดนี้เต็มไปด้วยผ้ากอซสีอ่อนหลายชั้น ประดับด้วยดอกกุหลาบและเพชรที่ทอจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเป็นสีขาวคริสตัลเรียบง่ายและวิจิตรงดงามด้วยเพชรที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่องประกายด้วยเสน่ห์อันงดงามและสง่างามจนน่าทึ่งถ้าดูไม่ผิด หากอ่านไม่ผิด นี่คือชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวในโลกที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกหลายปีก่อน ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกเก็บเอาไว้ในห้องนิทรรศการที่ต่างประเทศ แต่ต่อมาได้ยินว่าถูกคนซื้อไปในราคาสูงลิ่วคิดไม่ถึงว่าคนที่ซื้อชุดเจ้าสาวไป จะเป็นท่านประธานของกลุ่มบริษัทจี้ ถ้าไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง จะยอมจ่ายหนักขนาดนี้ได้ยังไง?ที่สำคัญอีกชุดนึงที่อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เดาว่าก็น่าจะมีแค่ชุดเดียว ไม่ซ้ำใคร"คุณนายจี้ ท่าทางคุณผู้ชายจะรักคุณมากเลยนะคะ..."ซูหว่านได้ยินคำพูดของช่างเสื้อ ก็พยักหน้าอย่างไม่ปิดบังผู้ชายคนนั้นรักเธอมาก รักจนยอมมอบทุกอย่างให้กับเธอ รักจนยอมตายไปพร้อมกับเธอเธอคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่หล
ซูหว่านพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ก็ได้ค่ะ ฉันเอาตามที่คุณพูด ตอนนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นเครื่องบิน ก็ต้องขึ้นรถพยาบาลก่อน..."ถ้ายังไม่ห้ามเลือดอีก เขาจะทนไม่ไหวเอา จี้ซือหานเห็นว่าเธอเป็นห่วงเขา ถึงได้จับมือเธอขึ้นเครื่องบินอย่างว่าง่ายคืนนี้ ซูหว่านเฝ้าอยู่ข้างกายจี้ซือหาน รอหมอห้ามเลือด เย็บแผล เปลี่ยนยาให้เขาเสร็จ เธอถึงได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง ซูหว่านก็รู้สึกว่าไม่น่าจะจัดงานแต่งได้ จึงเอ่ยข้อเสนอกับเขา "หรือเลื่อนออกไปวันนึงไหม"ชายหนุ่มที่ถือผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เธอ พูดด้วยความแน่วแน่ "ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องจัดงานแต่ง!"ซูหว่านที่เพิ่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ อุงไอน้ำร้อนๆในมือ หันกลับไปมองเขา "แต่แผลของคุณ..."จี้ซือหานพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ต่อให้แผลจะใหญ่กว่านี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการจัดงานแต่ง"ซูหว่านยังอยากพูดอะไรอีก แต่จี้ซือหานหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้เธอจากนั้น ขับรถไปส่งเธอที่วิลล่าของซานซานด้วยตัวเอง โดยไม่สนคำทัดท้านของเธอ"สิบเอ็ดโมง ฉันจะพาคนของตระกูลจี้ มารับเธอ"กำหนดการณ์เดิมคือสิบโมง แต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป อยากให้เธอพักผ่อนกว่านี้อีกหน่อย ชาย
จี้ซือหานกอดเธอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดจนชา ก็ค่อยๆสงบลงเขาคลายซูหว่านออก เห็นร่างกายของเธอเปียกปอนไปทั้งตัว ทั้งยังสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก"คนที่ควรพูดขอโทษคือฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""คุณพูดอะไรโง่ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ"ซูหว่านพูดจบ ก้มหน้าลงมองมือตัวเองแวบนึง เมื่อเห็นเลือดที่เลอะเต็มมือ ใบหน้าก็ซีดไปทันที"แผลที่หลังของคุณฉีกแล้ว รีบขึ้นรถพยาบาลเถอะ..."เมื่อกี้เธอนึกว่าเป็นน้ำทะเล ไม่คิดว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเลือด แผลที่หลังจะต้องฉีกออกแล้วแน่ๆ!ซูหว่านควงแขนของเขาได้ ก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางของรถพยาบาล ทว่าจี้ซือหานกลับดึงเธอกลับมา"หว่านหว่าน แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก"เขาพูดจบ ก็มองเจียงโม่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลแวบนึง"จับตัวเธอ แล้วค่อยแจ้งคุณเจียง ให้เขามาไถ่ตัวด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ปลดชีวิตเธอซะ!"คำพูดนั้นเขาพูดกับซูชิง ซูชิงรีบรับคำสั่งทันที "ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!"เจียงโม่ที่คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าคุณเย่ไม่มีทางปล่อยเธอ เห็นซ
ซูหว่านครุ่นคิด ก่อนจะถามเขา "คุณแซ่ชู งั้นคุณรู้จัก..."ชูยีไหม?ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำนี้ออกไป ก็ถูกชูจิ่นเหยียนตัดบท "ผมจะส่งคุณกลับไป"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็กลืนคำพูดลงไป ขมวดคิ้วมองเขา "ลำบากแทบตายกว่าฉันจะหนีออกมาได้ จะส่งกลับไปทำไม?"ชูจิ่นเหยียนกรอกตาใส่เธออย่างหมดคำพูด "ผมหมายความว่า จะส่งคุณกลับบ้าน..."ซูหว่านจึงได้พยักหน้า ลุกขึ้นจากหาดทราย เธอต้องรีบกลับไปบอกจี้ซือหาน...ว่าเธอหนีออกมาแล้ว เธอปลอดภัย เธอไม่ได้กลายเป็นภาระของเขา และเขาก็ไม่ต้องถูกแบล็กเมล์อีกหลังจากที่เธอขึ้นฝั่งมากับชูจิ่นเหยียน ก็เห็นรถพยาบาลคันแล้วคันเล่าขับตรงไปยังบีชคลับอย่างรวดเร็วฝีเท้าของเธอชะงัก ช้อนสายตามองไปยังชายหาดที่อยู่ห่างไกล มองเห็นร่างมนุษย์ไม่ชัด เห็นแต่เรือลำเล็กลำใหญ่แล่นลงทะเลทีละลำซูหว่านทอดสายตาลงต่ำครุ่นคิดอยู่สักครู่ เอาแต่รู้สึกว่าเจียงโม่ไม่น่าจะส่งคนจำนวนมากขนาดนั้นมาตามหาและช่วยชีวิตเธอ หรือว่าจี้ซือหานมาแล้ว?ถ้าจี้ซือหานมาถึงแล้ว รู้ว่าเธอกระโดดลงทะเล เกรงว่าจะทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดมาถึงตรงนี้ซูหว่านก็เปลี่ยนความคิด"เราไปดูตรงนู้นหน่อยเถอะ?"ไปดูแปบนึง ถ้าจี้
ซูหว่านที่พยายามหนีถึงสามครั้งแต่ก็ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้ง หันกลับมามองเจียงโม่ที่เดินตามหลังเป็นระยะๆเธอเห็นเอาแต่รับโทรศัพท์ตลอดเวลา ราวกับกำลังปรึกษาเรื่องอะไรอยู่ เพราะระยะค่อนข้างห่าง จึงได้ยินไม่ชัด แต่บางครั้งก็จะได้ยินแค่ชื่อของจี้ซือหานเธอไม่รู้ว่าจี้ซือหานรับปากหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระของจี้ซือหานไม่ได้เธอมองไปยังผืนน้ำทะเลที่สาดเป็นคลื่นดุเดือด หลังจากมองอยู่หลายอึดใจ ก็กระโดดเข้าไปในทะเลโดยไม่ลังเล...เธอเคยพูดว่าถ้าหากมีใครเอาตัวเธอเพื่อไปข่มขู่จี้ซือหาน ถ้างั้นเธอก็จะไม่ยอมกลายเป็นตัวถ่วงของเขาเด็ดขาดเจียงโม่ที่กำลังเกลี้ยกล่อมพ่อบุญธรรมว่าอย่าแบล็กเมลล์จี้ซือหานอีก ได้เห็นภาพช็อตนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดในทันที"ซูหว่าน!"เธอกรีดร้องออกมาทีนึง โยนโทรศัพท์แล้วพุ่งลงไปในทะเลเพื่อช่วยชีวิต ทว่าถูกร่างใครบางคนพุ่งตัดหน้าเข้ามาก่อน...เสียงกระโดดลงทะเลดัง "ตู้ม" ของชูจิ่นเหยียน ว่ายเข้าไปหาร่างเล็กบางที่พุ่งเข้าไปในคลื่นทะเลด้วยความแข็งขันเจียงโม่ที่อยู่บนชายหาด ตอนแรกยังพอจะเห็นร่างของทั้งสองคนลอยอยู่เหนือผิวน
ฝีเท้าของซูหว่านชะงักไปทันทีเธออยากจะหันกลับไปโต้ตอบเขาสักสองสามประโยค แต่ก็กลัวจะเสียเวลา จึงไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แต่ผลักประตูห้องน้ำหญิงด้วยความรวดเร็วหลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว ก็เดินสำรวจห้องน้ำรอบนึง เมื่อเห็นว่าด้านข้างมีหน้าต่างบานเล็ก ก็รีบเดินเข้าไปแล้วเปิดออกข้างนอกเป็นถนนหลวง แค่ปีนออกจากตรงนี้ไป ก็จะสามารถเดินไปถึงถนนหลวงได้ และโอกาสที่จะหนีรอดก็สูงมากทีเดียวเธอเองก็ขี้เกียจมานั่งคิดว่าหลังจากเดินไปถนนหลวงแล้วจะกลับไปยังไง จึงพับแขนเสื้อขึ้น แล้วปีนไปยังขอบหน้าต่างสูงชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนถนนหลวง เขางอขาข้างหนึ่งขึ้น มือข้างหนึ่งทาบบนเข่า กำลังสูบบุหรี่ไปพร้อมกับที่มองดูเธอปีนออกไปนอกหน้าต่างพิลึกคน!ถ้าอยากจะออก ก็เดินผ่านคลับ ออกจากมาประตูหลัก หรือไม่ก็ข้ามชายหาดมาก็ได้แล้ว ทำไมต้องปีนหน้าต่าง?"นี่!"เขาแหกปากคำนึง ทำเอาซูหว่านตกใจจนตกลงมาจากบนขอบหน้าต่าง...ซูหว่านล้มลงอย่างแรง เธอหน้าบูดบึ้งเนื่องจากความเจ็บปวด โชคดีที่ด้านล่างเต็มไปด้วยทราย ไม่อย่างนั้นคงได้กระดูกหักเธอตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น จ้องผู้ชายที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนถนนหลวงตาเขม็ง "นายเป็นโรคหรือไง
เจียงโม่ไม่หลงกล ซูหว่านจึงใช้เล่นแง่ในทางความรู้สึกแทน"คุณหนูเจียง คุณก็รู้ว่าคนที่จี้ซือหานแคร์ มีแต่ฉันมาโดยตลอด""คุณกักตัวเพื่อนของฉันไม่ยอมปล่อย ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ ทำไมต้องให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มารับเคราะห์ด้วยล่ะ?"เจียงโม่จ้องดวงตาใสบริสุทธิ์ของซูหว่านนานอยู่สักพัก จากนั้นก็โบกมือ "ช่างเถอะ แค่คุณอยู่ก็พอแล้วล่ะ"เธอส่งคนไปโทรศัพท์ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายวางสาย ก็หันมาพยักหน้าให้เธอ แล้วจึงอธิบายให้ซูหว่านฟัง"เพื่อนของคุณไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัว ฉันก็แค่ส่งคนไปก่อกวนพวกเขานิดหน่อย หลังจากที่คุณกลับไป อย่าพูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกัน"สรุปว่าที่ซานซานออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ที่อลันกับซีอี้ไม่ได้มาที่วิลล่า ไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัว แต่ถูกคนของเจียงโม่สร้างสถานการณ์แต่ว่า ฟังจากความหมายของเจียงโม่ ถ้าเธอไม่มาล่ะก็ คตที่สร้างสถานการณ์กลุ่มนั้น จะต้องลงมือกับพวกซานซานเป็นแน่...เพียงแต่เพราะเจียงโม่คำนึงถึงจี้ซือหานหรือเธอ ถึงได้เลือกใช้วิธีนุ่มนวล ไม่งั้นลักพาตัวไปเลยก็จะง่ายกว่า...แต่ไม่ว่าคนที่เจียงโม่คำนึงเป็นใคร หรือไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ซูหว่านฟังเข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของเจียงโม่ ก็ถามเธอว่า "ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?"เจียงโม่อ่านความคิดของเธอออกทันที "คุณซู คิดถึงสถานการณ์ของเพื่อนคุณให้มากหน่อยก็ดีค่ะ"ความหมายอีกอย่างก็คือ มีชีวิตของเพื่อนเธออยู่ในกำมือ ถึงเธอจะใช้ข้ออ้างไปบอกบอดี้การ์ด หรือแหกปากร้องตะโกนก็ไม่มีประโยชน์ซูหว่านครุ่นคิด ปล่อยมือที่ประคองประตูรถมาตลอดลง ไพล่ไว้ด้านหลัง ทำสัญลักษณ์ให้กับบอดี้การ์ดหลังจากที่เธอส่งสัญญาณมือโดยเงียบเชียบเสร็จ ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเห็นเธอขึ้นรถมาแต่โดยดี เจียงโม่ก็เขี่ยซิก้าร์ในมือจนมอด จากนั้นสตาร์ทรถ...ตอนที่เธอเหยียบคันเร่ง มองกระจกมองหลังแวบนึง บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นตามมาดังคาดเจียงโม่ดึงสายตากลับ เหยียบคันเร่งจนมิด เลี้ยวผ่านไปไม่กี่โค้งก็สลัดบอดี้การ์ดสำเร็จถึงยังไงก็เป็นถึงระดับหัวหน้าของทีมย่อยในS การที่เจียงโม่สลัดบอดี้การ์ดทิ้งได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากซูหว่านกำเข็มขัดนิรภัยแน่นถึงไม่โดนสะบัดออกจากรถไป ทว่าความรู้สึกพะอืดพะอมในท้องกลับทำให้เธออยากอ้วกเธอกุมหน้าอกที่เต้นระรัว อดกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ มองไปย
นิ้วของเจียงโม่ที่คีบซิการ์ เคาะขี้เถ้าเบาๆ"คุณซู มีใครเค้าพาสามีไปร่วมปาร์ตี้คนโสดกันบ้าง?"การที่เจียงโม่จะปฏิเสธ เป็นสิ่งที่คาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ทำไมล่ะ?ที่เจียงโม่เชิญเธอไปร่วมงานปาร์ตี้คนโสด ก็เพราะอยากให้เธอสอนว่าจะจีบเจียงเจ๋อยังไงไม่ใช่หรอ?งั้นถ้าเธอจะพาจี้ซือหานไปด้วย ก็ไม่ได้หน่วงต่อการสอนเจียงโม่จีบเจียงเจ๋อไม่ใช่หรอ?เธอคิดว่าบางทีเจียงโม่อาจจะอยากอาศัยปาร์ตี้นี้เพื่อพาตัวเธอไป ส่วนเป้าหมายคืออะไร เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงเจ๋อคุยกับจี้ซือหานหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ดังนั้น ก็มองเจียงโม่ด้วยสายตาที่จริงใจ"คุณหนูเจียง ฉันกับจี้ซือหานถูๆไถๆกันมาเกือบสิบปี กว่าจะได้แต่งงานกันไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก่อนวันแต่งงาน""พรุ่งนี้เช้า ฉันแค่อยอยากสวมชุดแต่งงานที่เขาส่งมาให้ แต่งให้เขาด้วยสภาพร่างกายจิตใจที่สมบูรณ์แบบที่สุด หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้เราสมหวังด้วย"ตอนที่พูดสิ่งเหล่านี้ เธอเห็นสีหน้าของเจียงโม่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจียงโม่มีจุดประสงค์อย่างแท้จริง จึงยกริมฝีปากยิ้ม"คุณหนูเจียง ถ้าคุณอยากให้ฉันสอนคุณจีบ