ซูหว่านถูกเขาล่อลวงเข้า เชื่อในมารยาของเขาอย่างจัง ถึงคิดว่าเขาจะพาเธอไปดูของจริงๆจังๆ...เขากุมมือของเธอ ให้เธอสัมผัสจุดที่กำลังเร่าร้อน น้ำเสียงแหบพร่ากระเส่า ลูบไล้ซอกคอของเธอ"น่าดูไหม?"เมื่อกี้เขาหูแดงฉ่า แต่ตอนนี้เป็นตาของซูหว่าน ที่แดงจนจำสีเดิมไม่ได้แล้ว"ไม่ ไม่น่าดู..."มุมปากของเขายกขึ้น แฝงรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม "งั้น...ใช้การดีไหม?"ซูหว่านกุมใบหน้าที่แดงก่ำ แหงนหน้าถลึงตาใส่จี้ซือหาน แต่กลับสบตาเข้ากับดวงตาเรียวคมเป็นประกายคู่นั้นข้างในนั้นมีแต่เงาและใบหน้าของเธอ ความรู้สึกอบอุ่นได้มาถึง เหมือนสายลมฤดูใบไม้ผลิที่พัดผ่านหลายหมื่นไมล์ ที่ทําให้ลุ่มหลงได้อย่างง่ายดายและไม่อาจถอนตัวบนใบหน้างดงามนั้น มีรอยยิ้มบางๆค่อยๆกว้างมากขึ้น จนคิ้วตาเรียวสวยยกเป็นเส้นโค้ง งดงามจนไร้ที่ติซูหว่านจ้องใบหน้าสูงศักดิ์ที่ไม่อาจเอื้อมนั้น ก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นคนเดียวกับผู้ชายที่พูดจา "สองแง่สองง่าม" ข้างใบหู...เธอดึงสายตาที่มองเขากลับมา อยากจะปล่อยมือออก แต่เขากลับออกแรงกดเอาไว้"หว่านหว่าน ครั้งนี้ ควรทำให้ฉันได้แล้วมั้ง?"ในเรื่องแบบนี้ ซูหว่านมักจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเสมอ ครั้งนี
ซานซานคาดเดาได้ว่านายน้อยเพลย์บอยสุดเลื่องชื่ออย่างจี้เหลียงชวน สักวันนึงจะต้องเลิกกันอันเหยียน เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้เธอไม่ได้ตกใจอะไรกับเรื่องนี้นัก "นายอกหักแล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน"เธอไม่ได้ทำให้เขาอกหักสักหน่อย มาหาเธอทำไม แปลกคน!จี้เหลียงชวนลุกขึ้น เดินโซเซขึ้นหน้ามาหาซานซานอย่างไม่มั่นคงซานซานได้กลิ่นเหล้าหึ่ง ก็ขมวดคิ้วอุดจมูก "อยู่ห่างๆฉันหน่อย เหม็นชะมัด"แต่จี้เหลียงชวนกลับไม่ เขายกมือขึ้นวางลงเหนือศีรษะเธอ ล้อมตัวเธอไว้ในอ้อมอกเขาซุกหน้าลงกับซอกคอของซานซานหมือนเด็กน้อย "ต้องโทษพี่นั่นแหละ ที่ทำให้ผมกับอันเหยียนเลิกกัน"ซานซานกรอกตาขึ้นบน "ฉันว่านายดื่มเยอะเกินไป ไม่มีที่ให้อ้วก เลยตั้งใจเอาฉันเป็นกระโถน ทำให้ฉันสะอิดสะเอียนล่ะสิ"ซานซานยกเล็บแหลมคมขึ้น เล็งไปที่ขมับ แล้วออกแรงหยิก ศีรษะของเขารีบไถลลงจากไหล่ทันทีซานซานใช้โอกาสนี้ผลักเขาออก จี้เหลียงชวนที่เมาเละไม่เป็นท่า โดนเธอผลักทีเดียว ร่างกายที่ไม่มั่นคงอยู่แล้วก็เซลงไปบนพื้นได้ยินแค่เสียง "ตุ้บ" ท้ายทอยของเขา ก็กระแทกเข้ากับขอบกระถางต้นไม้ที่อยู่หน้าประตูวิลล่าตามมาด้วยเสียงกระเบื้องที่กระแทกลงพื้
ซานซานส่ายหน้าอย่างแน่วแน่ "สามวันนั้น นายดูถูกฉันไว้ยังไงบ้าง ฉันไม่มีวันลืมหรอก กลับไปซะ"ซานซานทิ้งประโยคนั้น ก็หมุนตัวเดินขึ้นด้านบน โดยไม่หันกลับมามองอีก ราวกับไม่ได้สนใจไยดีอะไรจี้เหลียงชวนจี้เหลียงชวนมองแผ่นหลังสง่างามนั่น หัวใจก็เหมือนถูกของอะไรทับเอาไว้ รู้สึกชา และปวดนิดหน่อยทั้งๆที่อาศัยข้ออ้างจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ และอาศัยว่าอยู่ในบ้านของเธอ และจะพูดจาที่ไม่เหมาะสมและหน้าอายยังไงก็ได้แต่ไม่รู้ว่าทำไม คำว่า "ผมขอโทษ ผมไม่ควรทำแบบนั้นกับพี่" กลับพูดไม่ออก...ณ คฤหาสน์ตระกูลจี้ หลังจากที่ทั้งสองคนรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว จี้ซือหานจูงมือของเธอมายังสวนดอกไม้...สวนดอกไม้ที่เคยเต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด เวลานี้เหลือเพียงดอกกุหลาบPink O'Hara กลิ่นหอมคล้ายลิ้นจี่ ซึมซาบเข้าไปในจมูกซูหว่านสูดกลิ่นหอมของดอกไม้ มองสวนดอกไม้ที่เป็นเหมือนทะเลดอกไม้สีชมพูไกลสุดลูกหูลูกตา ล้อมรอบด้วยไฟบนท้องถนนที่ส่องแสงราวกับดวงดาว เธอก็หยุดหายใจไปชั่วขณะชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ข้างกาย ยกมือขึ้นลูบผมของเธอเบาๆ "ที่นี่น่าดูกว่าข้อความใช่ไหม?"ซูหว่านได้ยินคำนั้น จู่ๆก็รู้สึกว่าบรรยากาศโรแมนติก
ซูหว่านปล่อยมือที่กำกระโปรงออก แล้วพูดกับเขา "ให้ฉันคิดหน่อย"ในแววตาของจี้ซือหานเริ่มกระวนกระวายมากขึ้น "ต้องคิดนานแค่ไหน?"ซูหว่านค่อยๆก้มสายตาลงต่ำ มองท้องน้อยของตัวเอง...เขาไม่สนใจที่เธอเคยจดทะเบียนสมรส ส่วนความแตกต่างทางสถานะ ก็สามารถใช้ความพยายามค่อยๆขยับขึ้นมาได้ มีเพียงเรื่องลูก...ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ทรงอำนาจขนาดนั้น ในฐานะที่เป็นผู้ครอบครองอำนาจของตระกูลจี้ จะไม่มีลูกได้ยังไง?ตอนนี้ยังไม่พูดถึงว่าสื่อทั่วโลกจะวิจารณ์กันว่ายังไง แต่พวกผู้ใหญ่ในตระกูลจี้ ยอมรับได้ยากแน่ๆซูหว่านครุ่นคิดหนัก ก็ไม่กล้าตอบตรงๆ แต่หลังจากเงียบไปสักครู่ ก็ตอบเสียงนุ่มว่า "ประมาณครึ่งเดือน"อลันบอกว่ากินยาปรับร่างกายไปแล้วก็ลองได้ สองวันมานี้ก็ทำไปหลายครั้ง ลองดูว่าหลังจากนี้ครึ่งเดือนจะท้องหรือเปล่าจี้ซือหานรู้ดีว่าหากปล่อยไว้นานอะไรก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ จึงจับคางของเธอ แล้วพูดอย่างเผด็จการ "ไม่ได้ นานเกินไป"ซูหว่านจ้องดวงตาที่เต็มไปด้วยความรักที่มีต่อเธออย่างเหลือล้น ก็เอ่ยคำปฏิเสธไม่ลง จึงลดระยะเวลาแทน "ถ้างั้นสิบวัน"จี้ซือหานเอียงศีรษะ เส้นผมที่ลดลงมาปรกตรงหน้าผาก ลมกลางคืนพัดผ่านเข้า
ซูหว่านกอดหนังสือภาษาฝรั่งเศส ออกมาจากศูนย์ติว ก็เห็นคนสวมสูทผูกไทด์กลุ่มนึง เดินมาหาเธอจี้ซือหานกำชับเอาไว้ว่า เมื่อเธอเลิกเรียนแล้วจะส่งบอดี้การ์ดมารับเธอกลับบ้าน ซูหว่านจึงเข้าใจว่าเป็นคนของจี้ซือหานเธอยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่ได้เดินหนี แต่กลับเห็นชายที่มีรอยมีดที่เป็นหัวหน้า เดินมาตรงหน้าเธอ จากนั้นเผยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตรออกมา"คุณซู คุณรู้จักคุณเย่ใช่ไหม?"เมื่อได้ยินชื่อคุณเย่ หัวใจของซูหว่านก็บีบตัวทันที มือที่กอดหนังสือภาษาฝรั่งเศสก็สั่นตามไปด้วยก่อนหน้านี้จี้ซือหานเคยบอกว่า ตัวตนคุณเย่ หากถูกเปิดเผยออกไป ก็จะมีอันตรายถึงชีวิต ผู้ชายคนนี้รู้จักคุณเย่ได้ยังไง?เธอกำมือแน่น บังคับตัวเองให้สงบนิ่ง แล้วจงใจแสดงสีหน้าตื่นตระหนก "นายเป็นใคร รู้จักชื่อของฉันได้ยังไง?"แน่นอนว่าผู้ชายคนนั้นไม่มีทางบอกซูหว่าน ว่าเขาเป็นใคร และมีสถานะอะไร แค่พูดเสียงเย็นว่า "แค่ตอบผมมา รู้จักหรือเปล่า"ในใจของซูหว่านโหวงจนถึงขีดสุด แต่ใบหน้ากลับแสร้งว่าไม่รู้สึกอะไร "ทีนายยังไม่ตอบคำถามของฉัน ทำไมฉันต้องตอบนาย?"ผู้ชายคนนั้นเห็นว่าเหมือนเธอจะพัวพันด้วยยาก ในแววตาก็เผยความรำคาญ "ก่อนหน้านี้คุณเคย
ชายหนุ่มที่อยู่ในเมืองหลวงที่ห่างออกไป เห็นข่าวนี้ ใบหน้าที่ซีดก็ค่อยๆขาวจนไม่เห็นเส้นเลือดเธอไม่ได้อยู่หน้าตรง แต่แผ่นหลังนั่น เป็นคนที่เขาฝังลึกไว้ในกระดูกจนไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิตน่าจะอีกไม่นาน อีกไม่นานก็คงได้ยินข่าวที่เธอกับเขาแต่งงานกันแล้วสินะ...ชายหนุ่มที่ถูกคุมขังในสนามหญ้าด้วยรถเข็น แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีฟ้าและเมฆสีขาวนอกรั้วแสงอาทิตย์ที่สดใสและอบอุ่นขนาดนั้น แต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกหนาว...ความหนาวเย็นนั้นเปรียบเสมือนเถาวัลย์ที่พันรอบตัวเขา ทำให้เขาไม่สงบสุขตลอดทั้งคืน...กู้เจ๋อและเสี่ยวโยวที่อยู่ด้านหลัง สบตากันแวบนึง จากนั้นไปเอาผ้าห่มมาคลุมลงบนขาให้เขา"ประธานกู้ ให้พวกเราไปหาเธอไหมครับ?"เขาได้ยินดังนั้น ก็ยกยิ้มมุมปากอ่อนโยน มองทั้งสองคน ด้วยออร่าบริสุทธิ์ของเด็กหนุ่ม"ไม่ว่าใครก็ห้ามไปรบกวนเธอ..."ชีวิตนี้ ไม่ว่าเขาจะอยู่หรือตาย ก็ห้ามบอกเธอ ให้เธอได้ใช้ชีวิตดีๆ อยู่กับคนที่เธอรักที่สุดไปเถอะซูหว่านตื่นจากความฝัน มองจี้ซือหานที่อยู่ข้างกายอย่างมึนงง เห็นเขานั่งอยู่บนหัวเตียง มือนึงนวดขมับอยู่อาการมึนงงหายไป จึงถามด้วยความกังวล "ก็กินยาแก้ไมเกรนตรงเวลา
ซูหว่านเดินเอามือปิดหน้าตามหลังอลันไปที่แผนกสูตินารีเวช หลังจากที่ทำการตรวจต่างๆ เสร็จแล้ว อลันก็พาเธอกลับไปรอฟังผลที่ห้องของผู้อํานวยการจี้ซือหานที่อยู่ไกลถึงวอชิงตัน ร้อนใจยิ่งกว่าพวกเธอซะอีก เขาโทรศัพท์มาไม่หยุด อลันก็เลยตัดสินใจไม่วางสายแล้วเปิดลำโพงแทน...ส่วนซูหว่านก็นั่งกอดหมอนใบเล็กๆ อยู่บนโซฟา ได้แต่เอาหัวซุกเข้าไปในหมอน เธออายจนไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมองอลันเลยทีเดียวดีที่ไม่นานนางพยาบาลก็เดินเอาผลการตรวจมาส่งให้ อลันรีบรับมาแล้วเปิดดูอย่างรวดเร็ว ประกายความรอคอยในดวงตาค่อยๆ จางหายไปเมื่อซูหว่านเห็นสีหน้าของอลัน ก็รู้ได้ทันทีว่าไม่ท้อง ในใจเกิดความรู้สึกผิดหวังอยู่ลึกๆ ดูท่าเธอคงจะท้องยากจริงๆ...อลันวางผลการรายงานลง ลุกขึ้นเดินมาตรงหน้าของซูหว่าน แล้วพูดปลอบใจเธอ "หว่านหว่าน ไม่แน่อาจเพราะเวลาสั้นเกินไปก็เลยยังตรวจไม่พบ หรืออาจจะเป็นเพราะเพิ่งกินยาปรับฮอร์โมนไปได้ไม่นานพอ รออีกสักหน่อยเถอะ อย่าเพิ่งรีบ แล้วก็อย่าเพิ่งท้อด้วย..."เมื่อได้ยินที่อลันพูด หัวใจของจี้ซือหาน ก็เหมือนกับถูกมือใหญ่ๆ มาบีบเอาไว้ เจ็บจนไม่อาจหายใจ เป็นเขาที่ทำร้ายเธอเขากำมือถือไว้แน่น พยายาม
ซีอี้ที่เพิ่งลุกขึ้นจากพื้น เมื่อเห็นว่าเขาบังคับอลันอีกแล้ว ก็กำหมัดทั้งสองข้างแน่น แล้ววิ่งเข้าไปทางซูเหยียนเพียงแต่ยังไม่ทันที่หมัดจะโดนใบหน้าของซูเหยียน ก็ถูกซูเหยียนที่ได้เทควันโด้เก้าดั้งถีบจนลงไปนอนกองอยู่กับพื้นซะก่อนซูเหยียนมองจากมุมสูงไปที่ซีอี้อย่างดูแคลน "อย่างแก ไม่คู่ควรมาแย่งผู้หญิงกับฉันหรอก!"หลังจากที่เขาพูดประโยคนี้จบ พลางก็กำมือของอลันไว้ พลางก็ยกเท้าขึ้นมาถีบไปที่ซีอี้อย่างแรง"กล้ามาสารภาพรักกับผู้หญิงของฉัน สมควรตาย!"เมื่อหมอและพยาบาลคนอื่น เห็นหมอซูที่ได้รับฉายาว่า "หมออัจฉริยะ" กล้าลงมือทำร้ายคนที่โรงพยาบาลของพวกเขา ก็อยากที่จะเข้าไปช่วย แต่ก็ถูกบอดี้การ์ดที่ซูเหยียนพามา ล้อมเอาไว้...ซูเหยียนใช้รองเท้าหนังส้นหนาข้างนั้น ถีบลงไปยังจุดชีพจรที่ซีอี้จะยืนไม่ได้ แต่ละทีทีถีบไปแรงอย่างกับจะคร่าชีวิต...อลันเห็นซีอี้ถูกเขาถีบจนกระอักเลือด ก็โมโหจนตัวสั่น อ้าปากไปกัดแขนของซูเหยียนอย่างแรงเธอรวมรวมแรงทั้งร่างกาย กัดเขาไปอย่างแรง จนกระทั่งชายหนุ่มรู้สึกถึงความเจ็บปวด ถึงห้ามเขาให้หยุดได้สำเร็จ...ซูเหยียนเงยดวงตาที่แดงก่ำไปด้วยความโกรธจัด จ้องมองไปที่อลันสั