ซานซานคาดเดาได้ว่านายน้อยเพลย์บอยสุดเลื่องชื่ออย่างจี้เหลียงชวน สักวันนึงจะต้องเลิกกันอันเหยียน เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้เธอไม่ได้ตกใจอะไรกับเรื่องนี้นัก "นายอกหักแล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน"เธอไม่ได้ทำให้เขาอกหักสักหน่อย มาหาเธอทำไม แปลกคน!จี้เหลียงชวนลุกขึ้น เดินโซเซขึ้นหน้ามาหาซานซานอย่างไม่มั่นคงซานซานได้กลิ่นเหล้าหึ่ง ก็ขมวดคิ้วอุดจมูก "อยู่ห่างๆฉันหน่อย เหม็นชะมัด"แต่จี้เหลียงชวนกลับไม่ เขายกมือขึ้นวางลงเหนือศีรษะเธอ ล้อมตัวเธอไว้ในอ้อมอกเขาซุกหน้าลงกับซอกคอของซานซานหมือนเด็กน้อย "ต้องโทษพี่นั่นแหละ ที่ทำให้ผมกับอันเหยียนเลิกกัน"ซานซานกรอกตาขึ้นบน "ฉันว่านายดื่มเยอะเกินไป ไม่มีที่ให้อ้วก เลยตั้งใจเอาฉันเป็นกระโถน ทำให้ฉันสะอิดสะเอียนล่ะสิ"ซานซานยกเล็บแหลมคมขึ้น เล็งไปที่ขมับ แล้วออกแรงหยิก ศีรษะของเขารีบไถลลงจากไหล่ทันทีซานซานใช้โอกาสนี้ผลักเขาออก จี้เหลียงชวนที่เมาเละไม่เป็นท่า โดนเธอผลักทีเดียว ร่างกายที่ไม่มั่นคงอยู่แล้วก็เซลงไปบนพื้นได้ยินแค่เสียง "ตุ้บ" ท้ายทอยของเขา ก็กระแทกเข้ากับขอบกระถางต้นไม้ที่อยู่หน้าประตูวิลล่าตามมาด้วยเสียงกระเบื้องที่กระแทกลงพื้
ซานซานส่ายหน้าอย่างแน่วแน่ "สามวันนั้น นายดูถูกฉันไว้ยังไงบ้าง ฉันไม่มีวันลืมหรอก กลับไปซะ"ซานซานทิ้งประโยคนั้น ก็หมุนตัวเดินขึ้นด้านบน โดยไม่หันกลับมามองอีก ราวกับไม่ได้สนใจไยดีอะไรจี้เหลียงชวนจี้เหลียงชวนมองแผ่นหลังสง่างามนั่น หัวใจก็เหมือนถูกของอะไรทับเอาไว้ รู้สึกชา และปวดนิดหน่อยทั้งๆที่อาศัยข้ออ้างจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ และอาศัยว่าอยู่ในบ้านของเธอ และจะพูดจาที่ไม่เหมาะสมและหน้าอายยังไงก็ได้แต่ไม่รู้ว่าทำไม คำว่า "ผมขอโทษ ผมไม่ควรทำแบบนั้นกับพี่" กลับพูดไม่ออก...ณ คฤหาสน์ตระกูลจี้ หลังจากที่ทั้งสองคนรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว จี้ซือหานจูงมือของเธอมายังสวนดอกไม้...สวนดอกไม้ที่เคยเต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด เวลานี้เหลือเพียงดอกกุหลาบPink O'Hara กลิ่นหอมคล้ายลิ้นจี่ ซึมซาบเข้าไปในจมูกซูหว่านสูดกลิ่นหอมของดอกไม้ มองสวนดอกไม้ที่เป็นเหมือนทะเลดอกไม้สีชมพูไกลสุดลูกหูลูกตา ล้อมรอบด้วยไฟบนท้องถนนที่ส่องแสงราวกับดวงดาว เธอก็หยุดหายใจไปชั่วขณะชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ข้างกาย ยกมือขึ้นลูบผมของเธอเบาๆ "ที่นี่น่าดูกว่าข้อความใช่ไหม?"ซูหว่านได้ยินคำนั้น จู่ๆก็รู้สึกว่าบรรยากาศโรแมนติก
ซูหว่านปล่อยมือที่กำกระโปรงออก แล้วพูดกับเขา "ให้ฉันคิดหน่อย"ในแววตาของจี้ซือหานเริ่มกระวนกระวายมากขึ้น "ต้องคิดนานแค่ไหน?"ซูหว่านค่อยๆก้มสายตาลงต่ำ มองท้องน้อยของตัวเอง...เขาไม่สนใจที่เธอเคยจดทะเบียนสมรส ส่วนความแตกต่างทางสถานะ ก็สามารถใช้ความพยายามค่อยๆขยับขึ้นมาได้ มีเพียงเรื่องลูก...ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ทรงอำนาจขนาดนั้น ในฐานะที่เป็นผู้ครอบครองอำนาจของตระกูลจี้ จะไม่มีลูกได้ยังไง?ตอนนี้ยังไม่พูดถึงว่าสื่อทั่วโลกจะวิจารณ์กันว่ายังไง แต่พวกผู้ใหญ่ในตระกูลจี้ ยอมรับได้ยากแน่ๆซูหว่านครุ่นคิดหนัก ก็ไม่กล้าตอบตรงๆ แต่หลังจากเงียบไปสักครู่ ก็ตอบเสียงนุ่มว่า "ประมาณครึ่งเดือน"อลันบอกว่ากินยาปรับร่างกายไปแล้วก็ลองได้ สองวันมานี้ก็ทำไปหลายครั้ง ลองดูว่าหลังจากนี้ครึ่งเดือนจะท้องหรือเปล่าจี้ซือหานรู้ดีว่าหากปล่อยไว้นานอะไรก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ จึงจับคางของเธอ แล้วพูดอย่างเผด็จการ "ไม่ได้ นานเกินไป"ซูหว่านจ้องดวงตาที่เต็มไปด้วยความรักที่มีต่อเธออย่างเหลือล้น ก็เอ่ยคำปฏิเสธไม่ลง จึงลดระยะเวลาแทน "ถ้างั้นสิบวัน"จี้ซือหานเอียงศีรษะ เส้นผมที่ลดลงมาปรกตรงหน้าผาก ลมกลางคืนพัดผ่านเข้า
ซูหว่านกอดหนังสือภาษาฝรั่งเศส ออกมาจากศูนย์ติว ก็เห็นคนสวมสูทผูกไทด์กลุ่มนึง เดินมาหาเธอจี้ซือหานกำชับเอาไว้ว่า เมื่อเธอเลิกเรียนแล้วจะส่งบอดี้การ์ดมารับเธอกลับบ้าน ซูหว่านจึงเข้าใจว่าเป็นคนของจี้ซือหานเธอยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่ได้เดินหนี แต่กลับเห็นชายที่มีรอยมีดที่เป็นหัวหน้า เดินมาตรงหน้าเธอ จากนั้นเผยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตรออกมา"คุณซู คุณรู้จักคุณเย่ใช่ไหม?"เมื่อได้ยินชื่อคุณเย่ หัวใจของซูหว่านก็บีบตัวทันที มือที่กอดหนังสือภาษาฝรั่งเศสก็สั่นตามไปด้วยก่อนหน้านี้จี้ซือหานเคยบอกว่า ตัวตนคุณเย่ หากถูกเปิดเผยออกไป ก็จะมีอันตรายถึงชีวิต ผู้ชายคนนี้รู้จักคุณเย่ได้ยังไง?เธอกำมือแน่น บังคับตัวเองให้สงบนิ่ง แล้วจงใจแสดงสีหน้าตื่นตระหนก "นายเป็นใคร รู้จักชื่อของฉันได้ยังไง?"แน่นอนว่าผู้ชายคนนั้นไม่มีทางบอกซูหว่าน ว่าเขาเป็นใคร และมีสถานะอะไร แค่พูดเสียงเย็นว่า "แค่ตอบผมมา รู้จักหรือเปล่า"ในใจของซูหว่านโหวงจนถึงขีดสุด แต่ใบหน้ากลับแสร้งว่าไม่รู้สึกอะไร "ทีนายยังไม่ตอบคำถามของฉัน ทำไมฉันต้องตอบนาย?"ผู้ชายคนนั้นเห็นว่าเหมือนเธอจะพัวพันด้วยยาก ในแววตาก็เผยความรำคาญ "ก่อนหน้านี้คุณเคย
ชายหนุ่มที่อยู่ในเมืองหลวงที่ห่างออกไป เห็นข่าวนี้ ใบหน้าที่ซีดก็ค่อยๆขาวจนไม่เห็นเส้นเลือดเธอไม่ได้อยู่หน้าตรง แต่แผ่นหลังนั่น เป็นคนที่เขาฝังลึกไว้ในกระดูกจนไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิตน่าจะอีกไม่นาน อีกไม่นานก็คงได้ยินข่าวที่เธอกับเขาแต่งงานกันแล้วสินะ...ชายหนุ่มที่ถูกคุมขังในสนามหญ้าด้วยรถเข็น แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีฟ้าและเมฆสีขาวนอกรั้วแสงอาทิตย์ที่สดใสและอบอุ่นขนาดนั้น แต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกหนาว...ความหนาวเย็นนั้นเปรียบเสมือนเถาวัลย์ที่พันรอบตัวเขา ทำให้เขาไม่สงบสุขตลอดทั้งคืน...กู้เจ๋อและเสี่ยวโยวที่อยู่ด้านหลัง สบตากันแวบนึง จากนั้นไปเอาผ้าห่มมาคลุมลงบนขาให้เขา"ประธานกู้ ให้พวกเราไปหาเธอไหมครับ?"เขาได้ยินดังนั้น ก็ยกยิ้มมุมปากอ่อนโยน มองทั้งสองคน ด้วยออร่าบริสุทธิ์ของเด็กหนุ่ม"ไม่ว่าใครก็ห้ามไปรบกวนเธอ..."ชีวิตนี้ ไม่ว่าเขาจะอยู่หรือตาย ก็ห้ามบอกเธอ ให้เธอได้ใช้ชีวิตดีๆ อยู่กับคนที่เธอรักที่สุดไปเถอะซูหว่านตื่นจากความฝัน มองจี้ซือหานที่อยู่ข้างกายอย่างมึนงง เห็นเขานั่งอยู่บนหัวเตียง มือนึงนวดขมับอยู่อาการมึนงงหายไป จึงถามด้วยความกังวล "ก็กินยาแก้ไมเกรนตรงเวลา
ซูหว่านเดินเอามือปิดหน้าตามหลังอลันไปที่แผนกสูตินารีเวช หลังจากที่ทำการตรวจต่างๆ เสร็จแล้ว อลันก็พาเธอกลับไปรอฟังผลที่ห้องของผู้อํานวยการจี้ซือหานที่อยู่ไกลถึงวอชิงตัน ร้อนใจยิ่งกว่าพวกเธอซะอีก เขาโทรศัพท์มาไม่หยุด อลันก็เลยตัดสินใจไม่วางสายแล้วเปิดลำโพงแทน...ส่วนซูหว่านก็นั่งกอดหมอนใบเล็กๆ อยู่บนโซฟา ได้แต่เอาหัวซุกเข้าไปในหมอน เธออายจนไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมองอลันเลยทีเดียวดีที่ไม่นานนางพยาบาลก็เดินเอาผลการตรวจมาส่งให้ อลันรีบรับมาแล้วเปิดดูอย่างรวดเร็ว ประกายความรอคอยในดวงตาค่อยๆ จางหายไปเมื่อซูหว่านเห็นสีหน้าของอลัน ก็รู้ได้ทันทีว่าไม่ท้อง ในใจเกิดความรู้สึกผิดหวังอยู่ลึกๆ ดูท่าเธอคงจะท้องยากจริงๆ...อลันวางผลการรายงานลง ลุกขึ้นเดินมาตรงหน้าของซูหว่าน แล้วพูดปลอบใจเธอ "หว่านหว่าน ไม่แน่อาจเพราะเวลาสั้นเกินไปก็เลยยังตรวจไม่พบ หรืออาจจะเป็นเพราะเพิ่งกินยาปรับฮอร์โมนไปได้ไม่นานพอ รออีกสักหน่อยเถอะ อย่าเพิ่งรีบ แล้วก็อย่าเพิ่งท้อด้วย..."เมื่อได้ยินที่อลันพูด หัวใจของจี้ซือหาน ก็เหมือนกับถูกมือใหญ่ๆ มาบีบเอาไว้ เจ็บจนไม่อาจหายใจ เป็นเขาที่ทำร้ายเธอเขากำมือถือไว้แน่น พยายาม
ซีอี้ที่เพิ่งลุกขึ้นจากพื้น เมื่อเห็นว่าเขาบังคับอลันอีกแล้ว ก็กำหมัดทั้งสองข้างแน่น แล้ววิ่งเข้าไปทางซูเหยียนเพียงแต่ยังไม่ทันที่หมัดจะโดนใบหน้าของซูเหยียน ก็ถูกซูเหยียนที่ได้เทควันโด้เก้าดั้งถีบจนลงไปนอนกองอยู่กับพื้นซะก่อนซูเหยียนมองจากมุมสูงไปที่ซีอี้อย่างดูแคลน "อย่างแก ไม่คู่ควรมาแย่งผู้หญิงกับฉันหรอก!"หลังจากที่เขาพูดประโยคนี้จบ พลางก็กำมือของอลันไว้ พลางก็ยกเท้าขึ้นมาถีบไปที่ซีอี้อย่างแรง"กล้ามาสารภาพรักกับผู้หญิงของฉัน สมควรตาย!"เมื่อหมอและพยาบาลคนอื่น เห็นหมอซูที่ได้รับฉายาว่า "หมออัจฉริยะ" กล้าลงมือทำร้ายคนที่โรงพยาบาลของพวกเขา ก็อยากที่จะเข้าไปช่วย แต่ก็ถูกบอดี้การ์ดที่ซูเหยียนพามา ล้อมเอาไว้...ซูเหยียนใช้รองเท้าหนังส้นหนาข้างนั้น ถีบลงไปยังจุดชีพจรที่ซีอี้จะยืนไม่ได้ แต่ละทีทีถีบไปแรงอย่างกับจะคร่าชีวิต...อลันเห็นซีอี้ถูกเขาถีบจนกระอักเลือด ก็โมโหจนตัวสั่น อ้าปากไปกัดแขนของซูเหยียนอย่างแรงเธอรวมรวมแรงทั้งร่างกาย กัดเขาไปอย่างแรง จนกระทั่งชายหนุ่มรู้สึกถึงความเจ็บปวด ถึงห้ามเขาให้หยุดได้สำเร็จ...ซูเหยียนเงยดวงตาที่แดงก่ำไปด้วยความโกรธจัด จ้องมองไปที่อลันสั
นิ้วมือของซูหว่านที่จับขากางเกงของซูเหยียนเอาไว้สั่นระริก ใบหน้าที่ขาวซีด ทำให้เธอดูเหม่อลอยเธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา มองไปทางซูเหยียนที่กำลังมองเธออย่างดูแคลน "เขา...เป็นอะไร?"ซูเหยียนกดขาของอลันที่กำลังเตะเขาอย่างบ้าคลั่งไว้ แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า "คุณไม่คู่ควรที่จะได้รู้!"เขาเตะมือของซูหว่านที่จับไว้ไม่ปล่อยออก แบกตัวอลันเดินไปทางลิฟท์อย่างรวดเร็วสภาพของซูหว่านที่นอนแผ่อย่างหมดสภาพอยู่บนพื้นทำให้อลันรู้สึกผิดในใจอย่างมากและที่เธอกลัวยิ่งกว่านั้นคือ กลัวว่าเพราะคำพูดเหน็บแนมเพียงสองสามประโยคของซูเหยียนจะทำให้ซูหว่านเลือกที่จะเลิกกับประธานจี้อีกครั้งกว่าพวกเขาจะมาอยู่ด้วยกันได้มันไม่ง่ายเลย เธอจะยอมให้พวกเขาเลิกกันอีกครั้งเพราะเธอได้ยังไง?เมื่ออลันคิดมาถึงตรงนี้ ในดวงตาก็เริ่มมีความรู้สึกเกลียดชังขึ้นมา "ซูเหยียน ฉันจะทำให้คุณเสียใจไปตลอดชีวิต!"เมื่อซูเหยียนได้ยินดังนั้น มือที่กดแผ่นหลังของเธอเอาไว้ก็สั่นไหวขึ้นมาทันที แต่ก็ยังคงไม่พูดอะไร ยังออกแรงกอดเธอเอาไว้แน่นอลัน ผมก็เพียงต้องการจะพาคุณกลับบ้าน กลับเมืองหลวง กลับมาอยู่ข้างกายผม ต่อให้จะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตก็ไม่เป็
ช่างเสื้อหยิบชุดเจ้าสาวชุดนั้นลงมา เมื่อสัมผัสโดนเนื้อผ้าและเพชรที่ประดับอยู่ด้านบน ก็อึ้งไปชุดแต่งงานชุดนี้เต็มไปด้วยผ้ากอซสีอ่อนหลายชั้น ประดับด้วยดอกกุหลาบและเพชรที่ทอจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเป็นสีขาวคริสตัลเรียบง่ายและวิจิตรงดงามด้วยเพชรที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่องประกายด้วยเสน่ห์อันงดงามและสง่างามจนน่าทึ่งถ้าดูไม่ผิด หากอ่านไม่ผิด นี่คือชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวในโลกที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกหลายปีก่อน ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกเก็บเอาไว้ในห้องนิทรรศการที่ต่างประเทศ แต่ต่อมาได้ยินว่าถูกคนซื้อไปในราคาสูงลิ่วคิดไม่ถึงว่าคนที่ซื้อชุดเจ้าสาวไป จะเป็นท่านประธานของกลุ่มบริษัทจี้ ถ้าไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง จะยอมจ่ายหนักขนาดนี้ได้ยังไง?ที่สำคัญอีกชุดนึงที่อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เดาว่าก็น่าจะมีแค่ชุดเดียว ไม่ซ้ำใคร"คุณนายจี้ ท่าทางคุณผู้ชายจะรักคุณมากเลยนะคะ..."ซูหว่านได้ยินคำพูดของช่างเสื้อ ก็พยักหน้าอย่างไม่ปิดบังผู้ชายคนนั้นรักเธอมาก รักจนยอมมอบทุกอย่างให้กับเธอ รักจนยอมตายไปพร้อมกับเธอเธอคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่หล
ซูหว่านพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ก็ได้ค่ะ ฉันเอาตามที่คุณพูด ตอนนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นเครื่องบิน ก็ต้องขึ้นรถพยาบาลก่อน..."ถ้ายังไม่ห้ามเลือดอีก เขาจะทนไม่ไหวเอา จี้ซือหานเห็นว่าเธอเป็นห่วงเขา ถึงได้จับมือเธอขึ้นเครื่องบินอย่างว่าง่ายคืนนี้ ซูหว่านเฝ้าอยู่ข้างกายจี้ซือหาน รอหมอห้ามเลือด เย็บแผล เปลี่ยนยาให้เขาเสร็จ เธอถึงได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง ซูหว่านก็รู้สึกว่าไม่น่าจะจัดงานแต่งได้ จึงเอ่ยข้อเสนอกับเขา "หรือเลื่อนออกไปวันนึงไหม"ชายหนุ่มที่ถือผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เธอ พูดด้วยความแน่วแน่ "ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องจัดงานแต่ง!"ซูหว่านที่เพิ่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ อุงไอน้ำร้อนๆในมือ หันกลับไปมองเขา "แต่แผลของคุณ..."จี้ซือหานพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ต่อให้แผลจะใหญ่กว่านี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการจัดงานแต่ง"ซูหว่านยังอยากพูดอะไรอีก แต่จี้ซือหานหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้เธอจากนั้น ขับรถไปส่งเธอที่วิลล่าของซานซานด้วยตัวเอง โดยไม่สนคำทัดท้านของเธอ"สิบเอ็ดโมง ฉันจะพาคนของตระกูลจี้ มารับเธอ"กำหนดการณ์เดิมคือสิบโมง แต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป อยากให้เธอพักผ่อนกว่านี้อีกหน่อย ชาย
จี้ซือหานกอดเธอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดจนชา ก็ค่อยๆสงบลงเขาคลายซูหว่านออก เห็นร่างกายของเธอเปียกปอนไปทั้งตัว ทั้งยังสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก"คนที่ควรพูดขอโทษคือฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""คุณพูดอะไรโง่ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ"ซูหว่านพูดจบ ก้มหน้าลงมองมือตัวเองแวบนึง เมื่อเห็นเลือดที่เลอะเต็มมือ ใบหน้าก็ซีดไปทันที"แผลที่หลังของคุณฉีกแล้ว รีบขึ้นรถพยาบาลเถอะ..."เมื่อกี้เธอนึกว่าเป็นน้ำทะเล ไม่คิดว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเลือด แผลที่หลังจะต้องฉีกออกแล้วแน่ๆ!ซูหว่านควงแขนของเขาได้ ก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางของรถพยาบาล ทว่าจี้ซือหานกลับดึงเธอกลับมา"หว่านหว่าน แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก"เขาพูดจบ ก็มองเจียงโม่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลแวบนึง"จับตัวเธอ แล้วค่อยแจ้งคุณเจียง ให้เขามาไถ่ตัวด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ปลดชีวิตเธอซะ!"คำพูดนั้นเขาพูดกับซูชิง ซูชิงรีบรับคำสั่งทันที "ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!"เจียงโม่ที่คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าคุณเย่ไม่มีทางปล่อยเธอ เห็นซ
ซูหว่านครุ่นคิด ก่อนจะถามเขา "คุณแซ่ชู งั้นคุณรู้จัก..."ชูยีไหม?ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำนี้ออกไป ก็ถูกชูจิ่นเหยียนตัดบท "ผมจะส่งคุณกลับไป"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็กลืนคำพูดลงไป ขมวดคิ้วมองเขา "ลำบากแทบตายกว่าฉันจะหนีออกมาได้ จะส่งกลับไปทำไม?"ชูจิ่นเหยียนกรอกตาใส่เธออย่างหมดคำพูด "ผมหมายความว่า จะส่งคุณกลับบ้าน..."ซูหว่านจึงได้พยักหน้า ลุกขึ้นจากหาดทราย เธอต้องรีบกลับไปบอกจี้ซือหาน...ว่าเธอหนีออกมาแล้ว เธอปลอดภัย เธอไม่ได้กลายเป็นภาระของเขา และเขาก็ไม่ต้องถูกแบล็กเมล์อีกหลังจากที่เธอขึ้นฝั่งมากับชูจิ่นเหยียน ก็เห็นรถพยาบาลคันแล้วคันเล่าขับตรงไปยังบีชคลับอย่างรวดเร็วฝีเท้าของเธอชะงัก ช้อนสายตามองไปยังชายหาดที่อยู่ห่างไกล มองเห็นร่างมนุษย์ไม่ชัด เห็นแต่เรือลำเล็กลำใหญ่แล่นลงทะเลทีละลำซูหว่านทอดสายตาลงต่ำครุ่นคิดอยู่สักครู่ เอาแต่รู้สึกว่าเจียงโม่ไม่น่าจะส่งคนจำนวนมากขนาดนั้นมาตามหาและช่วยชีวิตเธอ หรือว่าจี้ซือหานมาแล้ว?ถ้าจี้ซือหานมาถึงแล้ว รู้ว่าเธอกระโดดลงทะเล เกรงว่าจะทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดมาถึงตรงนี้ซูหว่านก็เปลี่ยนความคิด"เราไปดูตรงนู้นหน่อยเถอะ?"ไปดูแปบนึง ถ้าจี้
ซูหว่านที่พยายามหนีถึงสามครั้งแต่ก็ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้ง หันกลับมามองเจียงโม่ที่เดินตามหลังเป็นระยะๆเธอเห็นเอาแต่รับโทรศัพท์ตลอดเวลา ราวกับกำลังปรึกษาเรื่องอะไรอยู่ เพราะระยะค่อนข้างห่าง จึงได้ยินไม่ชัด แต่บางครั้งก็จะได้ยินแค่ชื่อของจี้ซือหานเธอไม่รู้ว่าจี้ซือหานรับปากหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระของจี้ซือหานไม่ได้เธอมองไปยังผืนน้ำทะเลที่สาดเป็นคลื่นดุเดือด หลังจากมองอยู่หลายอึดใจ ก็กระโดดเข้าไปในทะเลโดยไม่ลังเล...เธอเคยพูดว่าถ้าหากมีใครเอาตัวเธอเพื่อไปข่มขู่จี้ซือหาน ถ้างั้นเธอก็จะไม่ยอมกลายเป็นตัวถ่วงของเขาเด็ดขาดเจียงโม่ที่กำลังเกลี้ยกล่อมพ่อบุญธรรมว่าอย่าแบล็กเมลล์จี้ซือหานอีก ได้เห็นภาพช็อตนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดในทันที"ซูหว่าน!"เธอกรีดร้องออกมาทีนึง โยนโทรศัพท์แล้วพุ่งลงไปในทะเลเพื่อช่วยชีวิต ทว่าถูกร่างใครบางคนพุ่งตัดหน้าเข้ามาก่อน...เสียงกระโดดลงทะเลดัง "ตู้ม" ของชูจิ่นเหยียน ว่ายเข้าไปหาร่างเล็กบางที่พุ่งเข้าไปในคลื่นทะเลด้วยความแข็งขันเจียงโม่ที่อยู่บนชายหาด ตอนแรกยังพอจะเห็นร่างของทั้งสองคนลอยอยู่เหนือผิวน
ฝีเท้าของซูหว่านชะงักไปทันทีเธออยากจะหันกลับไปโต้ตอบเขาสักสองสามประโยค แต่ก็กลัวจะเสียเวลา จึงไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แต่ผลักประตูห้องน้ำหญิงด้วยความรวดเร็วหลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว ก็เดินสำรวจห้องน้ำรอบนึง เมื่อเห็นว่าด้านข้างมีหน้าต่างบานเล็ก ก็รีบเดินเข้าไปแล้วเปิดออกข้างนอกเป็นถนนหลวง แค่ปีนออกจากตรงนี้ไป ก็จะสามารถเดินไปถึงถนนหลวงได้ และโอกาสที่จะหนีรอดก็สูงมากทีเดียวเธอเองก็ขี้เกียจมานั่งคิดว่าหลังจากเดินไปถนนหลวงแล้วจะกลับไปยังไง จึงพับแขนเสื้อขึ้น แล้วปีนไปยังขอบหน้าต่างสูงชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนถนนหลวง เขางอขาข้างหนึ่งขึ้น มือข้างหนึ่งทาบบนเข่า กำลังสูบบุหรี่ไปพร้อมกับที่มองดูเธอปีนออกไปนอกหน้าต่างพิลึกคน!ถ้าอยากจะออก ก็เดินผ่านคลับ ออกจากมาประตูหลัก หรือไม่ก็ข้ามชายหาดมาก็ได้แล้ว ทำไมต้องปีนหน้าต่าง?"นี่!"เขาแหกปากคำนึง ทำเอาซูหว่านตกใจจนตกลงมาจากบนขอบหน้าต่าง...ซูหว่านล้มลงอย่างแรง เธอหน้าบูดบึ้งเนื่องจากความเจ็บปวด โชคดีที่ด้านล่างเต็มไปด้วยทราย ไม่อย่างนั้นคงได้กระดูกหักเธอตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น จ้องผู้ชายที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนถนนหลวงตาเขม็ง "นายเป็นโรคหรือไง
เจียงโม่ไม่หลงกล ซูหว่านจึงใช้เล่นแง่ในทางความรู้สึกแทน"คุณหนูเจียง คุณก็รู้ว่าคนที่จี้ซือหานแคร์ มีแต่ฉันมาโดยตลอด""คุณกักตัวเพื่อนของฉันไม่ยอมปล่อย ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ ทำไมต้องให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มารับเคราะห์ด้วยล่ะ?"เจียงโม่จ้องดวงตาใสบริสุทธิ์ของซูหว่านนานอยู่สักพัก จากนั้นก็โบกมือ "ช่างเถอะ แค่คุณอยู่ก็พอแล้วล่ะ"เธอส่งคนไปโทรศัพท์ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายวางสาย ก็หันมาพยักหน้าให้เธอ แล้วจึงอธิบายให้ซูหว่านฟัง"เพื่อนของคุณไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัว ฉันก็แค่ส่งคนไปก่อกวนพวกเขานิดหน่อย หลังจากที่คุณกลับไป อย่าพูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกัน"สรุปว่าที่ซานซานออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ที่อลันกับซีอี้ไม่ได้มาที่วิลล่า ไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัว แต่ถูกคนของเจียงโม่สร้างสถานการณ์แต่ว่า ฟังจากความหมายของเจียงโม่ ถ้าเธอไม่มาล่ะก็ คตที่สร้างสถานการณ์กลุ่มนั้น จะต้องลงมือกับพวกซานซานเป็นแน่...เพียงแต่เพราะเจียงโม่คำนึงถึงจี้ซือหานหรือเธอ ถึงได้เลือกใช้วิธีนุ่มนวล ไม่งั้นลักพาตัวไปเลยก็จะง่ายกว่า...แต่ไม่ว่าคนที่เจียงโม่คำนึงเป็นใคร หรือไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ซูหว่านฟังเข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของเจียงโม่ ก็ถามเธอว่า "ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?"เจียงโม่อ่านความคิดของเธอออกทันที "คุณซู คิดถึงสถานการณ์ของเพื่อนคุณให้มากหน่อยก็ดีค่ะ"ความหมายอีกอย่างก็คือ มีชีวิตของเพื่อนเธออยู่ในกำมือ ถึงเธอจะใช้ข้ออ้างไปบอกบอดี้การ์ด หรือแหกปากร้องตะโกนก็ไม่มีประโยชน์ซูหว่านครุ่นคิด ปล่อยมือที่ประคองประตูรถมาตลอดลง ไพล่ไว้ด้านหลัง ทำสัญลักษณ์ให้กับบอดี้การ์ดหลังจากที่เธอส่งสัญญาณมือโดยเงียบเชียบเสร็จ ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเห็นเธอขึ้นรถมาแต่โดยดี เจียงโม่ก็เขี่ยซิก้าร์ในมือจนมอด จากนั้นสตาร์ทรถ...ตอนที่เธอเหยียบคันเร่ง มองกระจกมองหลังแวบนึง บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นตามมาดังคาดเจียงโม่ดึงสายตากลับ เหยียบคันเร่งจนมิด เลี้ยวผ่านไปไม่กี่โค้งก็สลัดบอดี้การ์ดสำเร็จถึงยังไงก็เป็นถึงระดับหัวหน้าของทีมย่อยในS การที่เจียงโม่สลัดบอดี้การ์ดทิ้งได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากซูหว่านกำเข็มขัดนิรภัยแน่นถึงไม่โดนสะบัดออกจากรถไป ทว่าความรู้สึกพะอืดพะอมในท้องกลับทำให้เธออยากอ้วกเธอกุมหน้าอกที่เต้นระรัว อดกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ มองไปย
นิ้วของเจียงโม่ที่คีบซิการ์ เคาะขี้เถ้าเบาๆ"คุณซู มีใครเค้าพาสามีไปร่วมปาร์ตี้คนโสดกันบ้าง?"การที่เจียงโม่จะปฏิเสธ เป็นสิ่งที่คาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ทำไมล่ะ?ที่เจียงโม่เชิญเธอไปร่วมงานปาร์ตี้คนโสด ก็เพราะอยากให้เธอสอนว่าจะจีบเจียงเจ๋อยังไงไม่ใช่หรอ?งั้นถ้าเธอจะพาจี้ซือหานไปด้วย ก็ไม่ได้หน่วงต่อการสอนเจียงโม่จีบเจียงเจ๋อไม่ใช่หรอ?เธอคิดว่าบางทีเจียงโม่อาจจะอยากอาศัยปาร์ตี้นี้เพื่อพาตัวเธอไป ส่วนเป้าหมายคืออะไร เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงเจ๋อคุยกับจี้ซือหานหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ดังนั้น ก็มองเจียงโม่ด้วยสายตาที่จริงใจ"คุณหนูเจียง ฉันกับจี้ซือหานถูๆไถๆกันมาเกือบสิบปี กว่าจะได้แต่งงานกันไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก่อนวันแต่งงาน""พรุ่งนี้เช้า ฉันแค่อยอยากสวมชุดแต่งงานที่เขาส่งมาให้ แต่งให้เขาด้วยสภาพร่างกายจิตใจที่สมบูรณ์แบบที่สุด หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้เราสมหวังด้วย"ตอนที่พูดสิ่งเหล่านี้ เธอเห็นสีหน้าของเจียงโม่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจียงโม่มีจุดประสงค์อย่างแท้จริง จึงยกริมฝีปากยิ้ม"คุณหนูเจียง ถ้าคุณอยากให้ฉันสอนคุณจีบ