"หว่านหว่าน เกะเสื้อเชิ๊ตออกหน่อย"ที่เขาพูดว่าให้แกะเสื้อเชิ๊ต หมายถึงให้แกะกระดุมคอของเสื้อเชิ๊ตซูหว่านจะกล้าแตะเขาต่อที่ไหน แน่นอนว่าต้องไม่ยอม "คุณทำเองสิ"จี้ซือหานขยับร่างกายท่อนล่างนิดหน่อย เพียงแค่การขยับเล็กน้อยก็ทำให้เกิดความรู้สึกสั่นสะท้านจนซูหว่านหูแดงไปหมด"ช่วยคุณแกะก็ได้ แต่ปล่อยฉันลงก่อนสิ"ชายหนุ่มส่งเสียงเย้ายวนราวกับพยายามเก็บกดอารมณ์ขึ้นจากในลำคอ "อืม..."เมื่อซูหว่านเห็นเขาตอบถึงได้ยกมือไปจับเสื้อเชิ๊ตผ้าซาตินสีเงินนั้นหลังจากที่เธอช่วยเขาแกะกระดุมสามเม็ดบนแล้ว ก็เห็นของภายใต้คอเสื้อที่เปิดออกด้วย...หน้าอกแข็งแกร่ง อีกทั้งผิวขาวสะอาด กระดูกไหปลาร้าเด่นชัดดูเซ็กซี่ ลูกกระเดือกเย้ายวนน่าหลงไหลเมื่อกวาดสายตาขึ้นไป ก็เห็นเป็นใบหน้าหล่อเหลาที่เห็นไม่ค่อยชัดเจนภายใต้แสงไฟสลัว...ซูหว่านมองดูจี้ซือหานที่แผ่ออร่าเย้ายวนใจ ยิ่งดูยิ่งรู้สึกว่าเขากำลังใช้ร่างกายเขาล่อลวงเธอ..."หว่านหว่าน ผมต้องการคุณมาก"ชายหนุ่มที่นอนเอาหัวพิงโซฟา เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่นั่งอยู่บนตักของตัวเอง ไม่ได้แตะต้องเธอมานานแล้ว คิดถึงอยู่นะแน่นอนว่าซูหว่านที่ถูกจี้ซือหานทรมานในเรื
เสิ่นหนานอี้ที่ได้รับของที่เจ้าของร้านทองส่งมาให้ เดิมทีเขาคิดจะถือมาขอบคุณซูหว่าน อีกทั้งก็อวดคนอื่นสักหน่อยใครจะไปคิดว่าท่านประธานจี้จะอยู่ตรงนี้ด้วย ซวยเหลือเกิน!!!รอยยิ้มบนใบหน้าของเสิ่นหนานอี้ บึ้งตึง "ศิษย์น้อง เธอไม่มีศีลธรรมเลยนะ!"เชิญรูปสลักน้ำแข็งแบบนี้มาร่วมฉลองด้วย อีกเดี๋ยวจะกอดฉลองอย่างสนุกสนานกันได้ยังไง?เหล่าสถาปนิกที่เดินตามหลังเสิ่นหนานอี้เข้ามา เมื่อเห็นชายหนุ่มที่มีออร่าความเย็นยะเยือกเต็มเปี่ยม รอยยิ้มบนใบหน้าก็นิ่งแข็งไปเช่นเดียวกันพวกเขาไม่กล้าที่จะเข้าประตูมา ได้แต่ยืนอยู่ตรงประตู เกี่ยงกัน "ศิษย์พี่ คุณเข้าไปก่อนสิ..."ศิษย์พี่รู้งานดี เลยมีมารยาทสุดๆ รีบโบกมือปฏิเสธอย่างจริงจัง "ไม่ๆๆ ศิษย์น้องเข้าไปก่อนดีกว่า..."ซูหว่านมองดูเหล่าสถาปนิกที่ไม่กล้าเดินเข้ามา แล้วก็มองไปที่จี้ซือหานที่แผ่ออร่าไล่คนอื่นออกมาอย่างไม่รู้ตัวเธอกลืนน้ำลายลงไปก่อนอึกหนึ่ง แล้วพูดเบาๆ ว่า "หรือว่าคุณจะออกไปก่อน เดี๋ยวพอฉันจัดการต้อนรับพวกเขาเสร็จ จะไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนคุณดีไหม?"จี้ซือหานปล่อยหมัดที่กำไว้เพราะปวดหัวมากออก ลูบไปที่ผมของเธอ "พรุ่งนี้ค่อยไปโรงพยาบาล คืนนี
บริกรคืออะไร?เสิ่นหนานอี้ไม่เข้าใจ เลยมองไปที่ซูหว่านซูหว่านเองก็ไม่เข้าใจ ก็เลยส่ายหน้าให้กับเขาในตอนที่ศิษย์อาจารย์กำลังงงอยู่นั้น ซูชิงก็พาหนุ่มหล่อที่แต่งหน้าแต่งตาสวยงามเดินเข้ามาจากข้างนอกเสิ่นหนานอี้ยังคิดอยู่ว่าบริกรคงจะไม่ใช่กระเทยคนนี้มั้ง ก็เห็นซูชิงยกมือชี้มาทางเขา "ไปอยู่เป็นเพื่อนเขาหน่อย!"เสิ่นหนานอี้มองดูบริกรที่เดินบิดสะโพกเข้ามา ในใจก็เกิดคำสบถขึ้นมาเต็มไปหมด เชี่ยเอ๊ย!เขาตกใจจนรีบลุกขึ้นวิ่ง แต่ก็ถูกบริกรที่ "เรี่ยวแรงมหาศาล" "หน้าตาน่ารัก" กดตัวลงไปกับโซฟากลิ่นน้ำหอมที่สามารถใช้ได้ทั้งสองเพศ โชยเข้ามาในจมูกเขา เสิ่นหนานอี้เกือบจะอ้วกออกมาทีเดียว "ไอ้บ้าเอ๊ย รีบปล่อยฉันเดี่ยวนี้นะเว้ย!"บริกรไม่เพียงไม่ปล่อย แถมยังยื่นมือไปลูบใบหน้าหล่อเหลาของเขาอีก "พี่ชาย คืนนี้เค้าเป็นคนของตัวเองแล้วน้า เดี๋ยวเค้าจะช่วยตัวเองปลดปล่อยความอัดอั้นอันร้อนรุ่มเอง!""ปลดปล่อย..." คำว่า "แม่" ยังไม่ทันได้ออกจากปาก เสิ่นหนานอี้ก็รู้สึกเย็นยะเยือกที่แก้ม!ดวงตาสุกสกาวเบิกโพลง จนแทบจะเป็นวงกลมเลยทีเดียว เสิ่นหนานอี้รู้สึกจิตใจพังทลาย!"เชี่ย! ฉันไม่บริสุทธิ์แล้ว!"เหล่าสถ
ตอนที่เขาอุ้มซูหว่านเดินเข้าลิฟต์ ซานซานเดินสาวเท้าฉับๆมาจากห้องโถงใหญ่อย่างรวดเร็ว"เดี๋ยว ฉันมีเรื่องด่วนจะบอกพวกคุณ"เมื่อกี้ซานซานห่วงแต่ว่าซูหว่านจะเป็นอะไรหรือเปล่า จนลืมบอกพวกเขาเรื่องจุดประสงค์ที่ลู่เฉินซีมาที่ไนท์คลับ"ประธานจี้ หว่านหว่าน"ซานซานเดินมาตรงหน้าทั้งสองคน แล้วพูดกับพวกเขาว่า "ลู่เฉินซีมาที่ไนท์คลับ เพื่อสอบถามที่อยู่ของชูยี"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็รีบส่งซิกให้จี้ซือหานปล่อยเธอลง หลังจากลงมายืนจนมั่นคงแล้ว ก็ขมวดคิ้วมองไปหาซานซาน"เขามาถามหาที่อยู่ของพี่สาวฉันทำไม?"หรือเพราะลู่เฉินซีรู้จักกับพี่สาว ถึงได้รู้สึกว่าเธอหน้าตาคุ้นๆ?"ฉันฟังจากน้ำเสียงดุร้ายของเขาแล้ว เหมือนว่าจะมาหาเรื่องชูยี""ศัตรูของพี่สาวฉัน?"ซานซานส่ายหน้า บ่งบอกว่าไม่แน่ใจ"ฉันรู้แค่ว่า ที่เขาหาที่นี่เจอได้ ก็เพราะสืบได้ว่าคนแรกที่เธอเจอหลังจากกลับจากอังกฤษก็คือฉัน สถานที่พบก็คือ ไนท์คลับ ถึงได้มาหาถึงที่""ฉันเห็นเขารู้แค่การเคลื่อนไหวของเธอ ก็เลยเดาว่าเขาไม่รู้เรื่องที่ชูยีเสียชีวิต ก็เลยจงใจหลอกเขาว่าชูยีไปวอชิงตัน ให้เขาไปหาที่วอชิงตัน ไม่รู้ว่าเหมือนกันเขาจะติดกับหรือเปล่า?"
ภายในรถลินคอล์นที่มีความยาวพิเศษ เมื่อซูชิงเข้าไปนั่งในตำแหน่งคนขับ ก็ปิดผนังกั้นลงอย่างคนรู้งานซูหว่านหันข้างไปมองจี้ซือหาน เมื่อเห็นสีหน้าของเขายังซีดเป็นหย่อมๆ ก็พูดขึ้นด้วยความเป็นกังวลอย่างไม่อาจหักห้าม "คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"จี้ซือหานส่ายหน้า "ไม่เป็นไร..."ซูหว่านขมวดคิ้ว "แต่ว่า..."เธอยังพูดไม่ทันจบ ก็เห็นจี้ซือหานยื่นแขนยาวมาอุ้มเธอให้ขึ้นไปนั่งบนต้นขา แล้วเชยคางขึ้นไปจูบเธอมือเล็กของซูหว่าน กำอยู่บนไหล่กว้างของเขา จับเสื้อเชิ้ตผ้าซาตินสีขาวเงินแน่น ก้มหน้ารับความเร่าร้อนจากเขานับว่าเป็นการเรียกร้องที่เกินขอบเขตไปแล้ว ชายหนุ่มกลับรู้สึกว่าริมฝีปากทั้งสองที่แนบชิดกันนั้นยังไม่พอ ต้องงัดฟันของเธอออกด้วยความตามอำเภอใจซะให้ได้ซูหว่านสงวนท่าทีไม่ยอมเปิดปาก นิ้วเรียวยาวที่ลูบไล้อยู่ตรงแผ่นหลัง จู่ๆก็เลื่อนลงไปที่เอวบาง แล้วออกแรงกดไว้ด้วยมือเดียว"จูบ หรือทำ เลือกมา"ขณะที่เขาถาม ปล่อยริมฝีปากสีแดงของเธอให้เป็นอิสระ เลื่อนมาถึงใบหูแล้วกัดติ่งหูของเธออุณหภูมิที่ร้อนผ่าว ทะลุผ่านผิวหนังจากใบหูเข้ามา ทำให้หัวใจสั่นไหว จนอยากจะหลบหนีตามสัญชาตญาณแต่ชายหนุ่มกลับยกฝ่ามือ
ไม่นานรถก็มาถึงวิลล่าของซานซาน ซูหว่านดึงมือที่นวดขมับให้เขากลับมา แล้วพูดกับเขาว่า "พรุ่งนี้ฉันไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนคุณ"จี้ซือหานพยักหน้าเบาๆ จากนั้นรัดเอวของเธอไว้ เงยหน้าขึ้นจูบเธออีกครั้ง ก่อนจะยอมปล่อยอย่างอาวรณ์ "ฝันดี..."ซูหว่านเองก็ตอบกลับว่า "ฝันดี" ลงจากรถ ขณะที่ยื่นมือไปผลักประตูวิลล่า ก็หันกลับมามองแวบนึงหน้าต่างรถที่ลดลงครึ่งนึง เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาคมสัน ราวกับเสี้ยวของพระจันทร์ ดูที่สง่างามสูงส่งซูหว่านยกริมฝีปากยิ้มให้เขานิดหน่อย ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าวิลล่า...ชายหนุ่มบนรถ เห็นประตูบานนั้นประกบปิด ร่างกายที่ฝืนหยัดอยู่ ทันใดนั้นก็ทิ้งตัวลงกับเบาะหลัง"ซูชิง ยาระงับอาการปวด"ซูชิงหยิบยาแก้ปวดออกมาด้วยความรวดเร็ว เปิดผนังกั้นขึ้น แล้วส่งยาให้จี้ซือหานชายหนุ่มยื่นมือมารับ ใส่ยาไว้ในปาก ใบหน้าซีดขาวจนไม่เห็นเส้นเลือดสักเส้นเห็นประธานจี้ในสภาพแบบนี้ คิ้วของซูชิงก็ขมวดเข้าหากันทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล"ประธานจี้ คุณเริ่มใช้ยาแก้ปวดตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?"ถ้าเขาจำไม่ผิด พี่ชายใหญ่ของประธานจี้ ก่อนจะเสียชีวิจก็เริ่มมาจากอาการปวดหัวเหมือนกันจี้ซือหานท
ซูหว่านนอนหลับไปด้วยความกระสับกระส่าย เมื่อตื่นขึ้นในวันถัดมา จึงรู้สึกเหนื่อยล้าเธอเลิกผ้าห่มลงจากเตียง ออกมาจากห้องน้ำ หยิบโทรศัพท์ หิ้วกระเป๋าออกจากวิลล่าเธอตั้งใจจะไปหาจี้ซือหาน ไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อเขา ใครจะคิดว่าเขามารออยู่หน้าประตูตั้งแต่เช้าแล้วชายหนุ่มสวมชุดสูทราคาแพง ใส่แว่นกันแดด มือถือช่อดอกดอกกุหลาบPink O'Hara ยืนพิงกับประตูรถเมื่อเขาเห็นเธอออกมา ริมฝีปากบางที่เม้มเข้าหากัน ก็ยกยิ้มเป็นเส้นโค้งสวยงามบางๆ "หว่านหว่าน..."ซูหว่านเองก็ยกมุมปาก ยิ้มให้เขา ทั้งคู่สาวเท้าเข้าไปหาอีกฝ่ายพร้อมกันจี้ซือหานยื่นดอกไม้ในมือไปตรงหน้าเธอ "สั่งคนเพิ่งเก็บมา ให้เธอ"ซูหว่านรับดอกไม้ของเขามา แหงนหน้ามองชายหนุ่มที่ยืนบังแสงอาทิตย์ ทันใดนั้นก็ปลุกความกล้า ยื่นมือไปถอดแว่นกันแดดของเขาวินาทีที่ถอดออกมา ก็เห็นดวงตาเรียวคมที่เคยเป็นประกาย แต่บัดนี้กลับมีเส้นเลือดแดงเต็มไปหมด ไม่เห็นถึงความเป็นประกายแม้แต่น้อย"ดวงตาของคุณ..."จี้ซือหานยกมือขึ้นปิดดวงตาของซูหว่าน แล้วก้มหน้าพูดกับเธอว่า "เกิดมาจากความผิดปกติในการนอน ถ้านอนไม่หลับ ก็จะตาแดงง่าย"เขาพูดจบ ก็แย่งแว่นกันแดดที่อยู่ในมื
หลังจากที่จี้ซือหานวางสาย อาเจ๋อที่ปลอมตัวเรียบร้อยแล้ว ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้ามานั่ง"คุณผู้ชาย สาเหตุการตายของนายน้อยคนโต ผมสืบมาได้เกือบหมดแล้วครับ"จี้ซือหานวางโทรศัพท์ลง เชยคางขึ้นด้วยความเหนื่อยล้า เป็นการบอกให้อาเจ๋อพูดต่อไป"นายน้อยคนโตทำงานหนักเกินไป จนเป็นเหตุให้เกิดโรคทางสมองกระทันหันและเสียชีวิตไป หมอ พยาบาล ทุกคนที่ดูแลนายน้อยคนโตกู้ รวมถึงยาที่เคยใช้ ผมตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วรอบนึง สอดคล้องกับที่พูด ไม่มีอะไรตกหล่นครับ"จี้ซือหานขมวดคิ้วน้อยๆ สีหน้าขาวซีดนั้น เผยรังศีดำทะมึน "นายหมายความว่า หนิงหว่านกำลังโกหก?"อาเจ๋อตัดสินอย่างรวดเร็ว "คุณหนิงน่าจะเพื่อปกป้องชีวิตตัวเอง ถึงได้ใช้สาเหตุการตายของนายน้อยคนโตมาปกป้องตัวเองครับ"จี้ซือหานย้อนนึกถึงเรื่องในอดีตเมื่อปีนั้น ก็ปวดหัวตุบๆขึ้นมา ไม่มีกระจิตกระใจครุ่นคิดอะไรต่อ จึงยกมือขึ้นโบกให้อาเจ๋อตอนที่อาเจ๋อเปิดประตูรถออก ราวกับก็เพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงหันไปถามว่า "ประธานจี้ ปีนั้นไม่ได้ตรวจสอบร่างของนายน้อยคนโตใช่ไหมครับ?"จี้ซือหานนวดขมับ พยักหน้าเบาๆ เพื่อเก็บร่างที่สมบูรณ์ของพี่ชายใหญ่อาไว้ ทั้งคนของตระกูลจี้ ตระ
ช่างเสื้อหยิบชุดเจ้าสาวชุดนั้นลงมา เมื่อสัมผัสโดนเนื้อผ้าและเพชรที่ประดับอยู่ด้านบน ก็อึ้งไปชุดแต่งงานชุดนี้เต็มไปด้วยผ้ากอซสีอ่อนหลายชั้น ประดับด้วยดอกกุหลาบและเพชรที่ทอจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเป็นสีขาวคริสตัลเรียบง่ายและวิจิตรงดงามด้วยเพชรที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่องประกายด้วยเสน่ห์อันงดงามและสง่างามจนน่าทึ่งถ้าดูไม่ผิด หากอ่านไม่ผิด นี่คือชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวในโลกที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกหลายปีก่อน ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกเก็บเอาไว้ในห้องนิทรรศการที่ต่างประเทศ แต่ต่อมาได้ยินว่าถูกคนซื้อไปในราคาสูงลิ่วคิดไม่ถึงว่าคนที่ซื้อชุดเจ้าสาวไป จะเป็นท่านประธานของกลุ่มบริษัทจี้ ถ้าไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง จะยอมจ่ายหนักขนาดนี้ได้ยังไง?ที่สำคัญอีกชุดนึงที่อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เดาว่าก็น่าจะมีแค่ชุดเดียว ไม่ซ้ำใคร"คุณนายจี้ ท่าทางคุณผู้ชายจะรักคุณมากเลยนะคะ..."ซูหว่านได้ยินคำพูดของช่างเสื้อ ก็พยักหน้าอย่างไม่ปิดบังผู้ชายคนนั้นรักเธอมาก รักจนยอมมอบทุกอย่างให้กับเธอ รักจนยอมตายไปพร้อมกับเธอเธอคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่หล
ซูหว่านพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ก็ได้ค่ะ ฉันเอาตามที่คุณพูด ตอนนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นเครื่องบิน ก็ต้องขึ้นรถพยาบาลก่อน..."ถ้ายังไม่ห้ามเลือดอีก เขาจะทนไม่ไหวเอา จี้ซือหานเห็นว่าเธอเป็นห่วงเขา ถึงได้จับมือเธอขึ้นเครื่องบินอย่างว่าง่ายคืนนี้ ซูหว่านเฝ้าอยู่ข้างกายจี้ซือหาน รอหมอห้ามเลือด เย็บแผล เปลี่ยนยาให้เขาเสร็จ เธอถึงได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง ซูหว่านก็รู้สึกว่าไม่น่าจะจัดงานแต่งได้ จึงเอ่ยข้อเสนอกับเขา "หรือเลื่อนออกไปวันนึงไหม"ชายหนุ่มที่ถือผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เธอ พูดด้วยความแน่วแน่ "ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องจัดงานแต่ง!"ซูหว่านที่เพิ่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ อุงไอน้ำร้อนๆในมือ หันกลับไปมองเขา "แต่แผลของคุณ..."จี้ซือหานพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ต่อให้แผลจะใหญ่กว่านี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการจัดงานแต่ง"ซูหว่านยังอยากพูดอะไรอีก แต่จี้ซือหานหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้เธอจากนั้น ขับรถไปส่งเธอที่วิลล่าของซานซานด้วยตัวเอง โดยไม่สนคำทัดท้านของเธอ"สิบเอ็ดโมง ฉันจะพาคนของตระกูลจี้ มารับเธอ"กำหนดการณ์เดิมคือสิบโมง แต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป อยากให้เธอพักผ่อนกว่านี้อีกหน่อย ชาย
จี้ซือหานกอดเธอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดจนชา ก็ค่อยๆสงบลงเขาคลายซูหว่านออก เห็นร่างกายของเธอเปียกปอนไปทั้งตัว ทั้งยังสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก"คนที่ควรพูดขอโทษคือฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""คุณพูดอะไรโง่ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ"ซูหว่านพูดจบ ก้มหน้าลงมองมือตัวเองแวบนึง เมื่อเห็นเลือดที่เลอะเต็มมือ ใบหน้าก็ซีดไปทันที"แผลที่หลังของคุณฉีกแล้ว รีบขึ้นรถพยาบาลเถอะ..."เมื่อกี้เธอนึกว่าเป็นน้ำทะเล ไม่คิดว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเลือด แผลที่หลังจะต้องฉีกออกแล้วแน่ๆ!ซูหว่านควงแขนของเขาได้ ก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางของรถพยาบาล ทว่าจี้ซือหานกลับดึงเธอกลับมา"หว่านหว่าน แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก"เขาพูดจบ ก็มองเจียงโม่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลแวบนึง"จับตัวเธอ แล้วค่อยแจ้งคุณเจียง ให้เขามาไถ่ตัวด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ปลดชีวิตเธอซะ!"คำพูดนั้นเขาพูดกับซูชิง ซูชิงรีบรับคำสั่งทันที "ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!"เจียงโม่ที่คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าคุณเย่ไม่มีทางปล่อยเธอ เห็นซ
ซูหว่านครุ่นคิด ก่อนจะถามเขา "คุณแซ่ชู งั้นคุณรู้จัก..."ชูยีไหม?ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำนี้ออกไป ก็ถูกชูจิ่นเหยียนตัดบท "ผมจะส่งคุณกลับไป"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็กลืนคำพูดลงไป ขมวดคิ้วมองเขา "ลำบากแทบตายกว่าฉันจะหนีออกมาได้ จะส่งกลับไปทำไม?"ชูจิ่นเหยียนกรอกตาใส่เธออย่างหมดคำพูด "ผมหมายความว่า จะส่งคุณกลับบ้าน..."ซูหว่านจึงได้พยักหน้า ลุกขึ้นจากหาดทราย เธอต้องรีบกลับไปบอกจี้ซือหาน...ว่าเธอหนีออกมาแล้ว เธอปลอดภัย เธอไม่ได้กลายเป็นภาระของเขา และเขาก็ไม่ต้องถูกแบล็กเมล์อีกหลังจากที่เธอขึ้นฝั่งมากับชูจิ่นเหยียน ก็เห็นรถพยาบาลคันแล้วคันเล่าขับตรงไปยังบีชคลับอย่างรวดเร็วฝีเท้าของเธอชะงัก ช้อนสายตามองไปยังชายหาดที่อยู่ห่างไกล มองเห็นร่างมนุษย์ไม่ชัด เห็นแต่เรือลำเล็กลำใหญ่แล่นลงทะเลทีละลำซูหว่านทอดสายตาลงต่ำครุ่นคิดอยู่สักครู่ เอาแต่รู้สึกว่าเจียงโม่ไม่น่าจะส่งคนจำนวนมากขนาดนั้นมาตามหาและช่วยชีวิตเธอ หรือว่าจี้ซือหานมาแล้ว?ถ้าจี้ซือหานมาถึงแล้ว รู้ว่าเธอกระโดดลงทะเล เกรงว่าจะทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดมาถึงตรงนี้ซูหว่านก็เปลี่ยนความคิด"เราไปดูตรงนู้นหน่อยเถอะ?"ไปดูแปบนึง ถ้าจี้
ซูหว่านที่พยายามหนีถึงสามครั้งแต่ก็ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้ง หันกลับมามองเจียงโม่ที่เดินตามหลังเป็นระยะๆเธอเห็นเอาแต่รับโทรศัพท์ตลอดเวลา ราวกับกำลังปรึกษาเรื่องอะไรอยู่ เพราะระยะค่อนข้างห่าง จึงได้ยินไม่ชัด แต่บางครั้งก็จะได้ยินแค่ชื่อของจี้ซือหานเธอไม่รู้ว่าจี้ซือหานรับปากหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระของจี้ซือหานไม่ได้เธอมองไปยังผืนน้ำทะเลที่สาดเป็นคลื่นดุเดือด หลังจากมองอยู่หลายอึดใจ ก็กระโดดเข้าไปในทะเลโดยไม่ลังเล...เธอเคยพูดว่าถ้าหากมีใครเอาตัวเธอเพื่อไปข่มขู่จี้ซือหาน ถ้างั้นเธอก็จะไม่ยอมกลายเป็นตัวถ่วงของเขาเด็ดขาดเจียงโม่ที่กำลังเกลี้ยกล่อมพ่อบุญธรรมว่าอย่าแบล็กเมลล์จี้ซือหานอีก ได้เห็นภาพช็อตนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดในทันที"ซูหว่าน!"เธอกรีดร้องออกมาทีนึง โยนโทรศัพท์แล้วพุ่งลงไปในทะเลเพื่อช่วยชีวิต ทว่าถูกร่างใครบางคนพุ่งตัดหน้าเข้ามาก่อน...เสียงกระโดดลงทะเลดัง "ตู้ม" ของชูจิ่นเหยียน ว่ายเข้าไปหาร่างเล็กบางที่พุ่งเข้าไปในคลื่นทะเลด้วยความแข็งขันเจียงโม่ที่อยู่บนชายหาด ตอนแรกยังพอจะเห็นร่างของทั้งสองคนลอยอยู่เหนือผิวน
ฝีเท้าของซูหว่านชะงักไปทันทีเธออยากจะหันกลับไปโต้ตอบเขาสักสองสามประโยค แต่ก็กลัวจะเสียเวลา จึงไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แต่ผลักประตูห้องน้ำหญิงด้วยความรวดเร็วหลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว ก็เดินสำรวจห้องน้ำรอบนึง เมื่อเห็นว่าด้านข้างมีหน้าต่างบานเล็ก ก็รีบเดินเข้าไปแล้วเปิดออกข้างนอกเป็นถนนหลวง แค่ปีนออกจากตรงนี้ไป ก็จะสามารถเดินไปถึงถนนหลวงได้ และโอกาสที่จะหนีรอดก็สูงมากทีเดียวเธอเองก็ขี้เกียจมานั่งคิดว่าหลังจากเดินไปถนนหลวงแล้วจะกลับไปยังไง จึงพับแขนเสื้อขึ้น แล้วปีนไปยังขอบหน้าต่างสูงชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนถนนหลวง เขางอขาข้างหนึ่งขึ้น มือข้างหนึ่งทาบบนเข่า กำลังสูบบุหรี่ไปพร้อมกับที่มองดูเธอปีนออกไปนอกหน้าต่างพิลึกคน!ถ้าอยากจะออก ก็เดินผ่านคลับ ออกจากมาประตูหลัก หรือไม่ก็ข้ามชายหาดมาก็ได้แล้ว ทำไมต้องปีนหน้าต่าง?"นี่!"เขาแหกปากคำนึง ทำเอาซูหว่านตกใจจนตกลงมาจากบนขอบหน้าต่าง...ซูหว่านล้มลงอย่างแรง เธอหน้าบูดบึ้งเนื่องจากความเจ็บปวด โชคดีที่ด้านล่างเต็มไปด้วยทราย ไม่อย่างนั้นคงได้กระดูกหักเธอตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น จ้องผู้ชายที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนถนนหลวงตาเขม็ง "นายเป็นโรคหรือไง
เจียงโม่ไม่หลงกล ซูหว่านจึงใช้เล่นแง่ในทางความรู้สึกแทน"คุณหนูเจียง คุณก็รู้ว่าคนที่จี้ซือหานแคร์ มีแต่ฉันมาโดยตลอด""คุณกักตัวเพื่อนของฉันไม่ยอมปล่อย ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ ทำไมต้องให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มารับเคราะห์ด้วยล่ะ?"เจียงโม่จ้องดวงตาใสบริสุทธิ์ของซูหว่านนานอยู่สักพัก จากนั้นก็โบกมือ "ช่างเถอะ แค่คุณอยู่ก็พอแล้วล่ะ"เธอส่งคนไปโทรศัพท์ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายวางสาย ก็หันมาพยักหน้าให้เธอ แล้วจึงอธิบายให้ซูหว่านฟัง"เพื่อนของคุณไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัว ฉันก็แค่ส่งคนไปก่อกวนพวกเขานิดหน่อย หลังจากที่คุณกลับไป อย่าพูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกัน"สรุปว่าที่ซานซานออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ที่อลันกับซีอี้ไม่ได้มาที่วิลล่า ไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัว แต่ถูกคนของเจียงโม่สร้างสถานการณ์แต่ว่า ฟังจากความหมายของเจียงโม่ ถ้าเธอไม่มาล่ะก็ คตที่สร้างสถานการณ์กลุ่มนั้น จะต้องลงมือกับพวกซานซานเป็นแน่...เพียงแต่เพราะเจียงโม่คำนึงถึงจี้ซือหานหรือเธอ ถึงได้เลือกใช้วิธีนุ่มนวล ไม่งั้นลักพาตัวไปเลยก็จะง่ายกว่า...แต่ไม่ว่าคนที่เจียงโม่คำนึงเป็นใคร หรือไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ซูหว่านฟังเข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของเจียงโม่ ก็ถามเธอว่า "ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?"เจียงโม่อ่านความคิดของเธอออกทันที "คุณซู คิดถึงสถานการณ์ของเพื่อนคุณให้มากหน่อยก็ดีค่ะ"ความหมายอีกอย่างก็คือ มีชีวิตของเพื่อนเธออยู่ในกำมือ ถึงเธอจะใช้ข้ออ้างไปบอกบอดี้การ์ด หรือแหกปากร้องตะโกนก็ไม่มีประโยชน์ซูหว่านครุ่นคิด ปล่อยมือที่ประคองประตูรถมาตลอดลง ไพล่ไว้ด้านหลัง ทำสัญลักษณ์ให้กับบอดี้การ์ดหลังจากที่เธอส่งสัญญาณมือโดยเงียบเชียบเสร็จ ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเห็นเธอขึ้นรถมาแต่โดยดี เจียงโม่ก็เขี่ยซิก้าร์ในมือจนมอด จากนั้นสตาร์ทรถ...ตอนที่เธอเหยียบคันเร่ง มองกระจกมองหลังแวบนึง บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นตามมาดังคาดเจียงโม่ดึงสายตากลับ เหยียบคันเร่งจนมิด เลี้ยวผ่านไปไม่กี่โค้งก็สลัดบอดี้การ์ดสำเร็จถึงยังไงก็เป็นถึงระดับหัวหน้าของทีมย่อยในS การที่เจียงโม่สลัดบอดี้การ์ดทิ้งได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากซูหว่านกำเข็มขัดนิรภัยแน่นถึงไม่โดนสะบัดออกจากรถไป ทว่าความรู้สึกพะอืดพะอมในท้องกลับทำให้เธออยากอ้วกเธอกุมหน้าอกที่เต้นระรัว อดกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ มองไปย
นิ้วของเจียงโม่ที่คีบซิการ์ เคาะขี้เถ้าเบาๆ"คุณซู มีใครเค้าพาสามีไปร่วมปาร์ตี้คนโสดกันบ้าง?"การที่เจียงโม่จะปฏิเสธ เป็นสิ่งที่คาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ทำไมล่ะ?ที่เจียงโม่เชิญเธอไปร่วมงานปาร์ตี้คนโสด ก็เพราะอยากให้เธอสอนว่าจะจีบเจียงเจ๋อยังไงไม่ใช่หรอ?งั้นถ้าเธอจะพาจี้ซือหานไปด้วย ก็ไม่ได้หน่วงต่อการสอนเจียงโม่จีบเจียงเจ๋อไม่ใช่หรอ?เธอคิดว่าบางทีเจียงโม่อาจจะอยากอาศัยปาร์ตี้นี้เพื่อพาตัวเธอไป ส่วนเป้าหมายคืออะไร เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงเจ๋อคุยกับจี้ซือหานหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ดังนั้น ก็มองเจียงโม่ด้วยสายตาที่จริงใจ"คุณหนูเจียง ฉันกับจี้ซือหานถูๆไถๆกันมาเกือบสิบปี กว่าจะได้แต่งงานกันไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก่อนวันแต่งงาน""พรุ่งนี้เช้า ฉันแค่อยอยากสวมชุดแต่งงานที่เขาส่งมาให้ แต่งให้เขาด้วยสภาพร่างกายจิตใจที่สมบูรณ์แบบที่สุด หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้เราสมหวังด้วย"ตอนที่พูดสิ่งเหล่านี้ เธอเห็นสีหน้าของเจียงโม่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจียงโม่มีจุดประสงค์อย่างแท้จริง จึงยกริมฝีปากยิ้ม"คุณหนูเจียง ถ้าคุณอยากให้ฉันสอนคุณจีบ