ชายหนุ่มปรายตาลงมองข้อความเล็กน้อย แล้วค่อยๆช้อนสายตาขึ้นมองเธอ"เธอเป็นห่วงฉัน?"น้ำเสียงเกียจคร้านของเขา แฝงไว้ด้วยความเซ็กซี่ ราวกับจงใจสะกดเธอ ให้พูดคำตอบที่เขาอยากได้ยินออกมาแต่ซูหว่านไม่ได้ต้องมนสะกด เพียงจ้องเขาขึ้นลงอย่างประเมิน...ดวงตาคมที่ลึกล้ำ แม้จะหายแดงแล้ว แต่ก็ยังทิ้งรอยเส้นเลือดจางๆไว้อยู่ริมฝีปากบางที่ประทับลงบนริมฝีปากสีแดงของเธอ มองไม่เห็นสีเดิมเลย แต่ใบหน้าหล่อเหลานั่นยังเผยให้เห็นสีขาวซีดที่ไม่ปกติซูหว่านเห็นเขาในสภาพนี้ แววตาก็เผยความรู้สึกที่ซับซ้อน ขณะที่ริมฝีปากแดงเผยอออก อยากจะพูด จู่ๆเขาก็โน้มตัวเข้ามาหากลิ่นหอมซีดาร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาลอยเข้ามา ทำให้หัวใจของซูหว่านสั่น แนบตัวติดกับหน้าต่างด้วยความเกร็งแผ่นหลังของเธอเพิ่งจะติดกับหน้าต่างรถ ก็เห็นปลายนิ้วที่ถูกตัดแต่งอย่างเรียบร้อย ลูบผ่านแก้มเบาๆ ไปคร่อมกับหน้าต่างรถหลังจากชายหนุ่มต้อนเธอแล้ว ก็ทอดสายตาลงมา "หว่านหว่าน ตอบฉัน..."ขณะที่ใบหน้างดงามประณีตนั่นเข้ามาใกล้สายตา ซูหว่านก็เข้าไปอยู่ในดวงตาที่ระยิบระยับราวกับมีดวงดาวอยู่เต็มท้องฟ้าคู่นั้นพอดีแสงดวงดาวระยิบระยับนั่นเข้ามาในดวงตาข
คำว่า "อ้อ" ที่แฝงความนัย ทำให้ซูหว่านกระอักกระอ่วนขั้นสุดยังไม่ทันจะได้แก้ตัว อลันก็เอ่ยคำที่น่าอายกว่านั้นออกมา"หว่านหว่าน เธอไม่ต้องห่วง ร่างกายของประธานจี้ยังแข็งแรงกำยำมาก ไม่กระทบต่อการมีลูกของพวกเธอสักนิด"ซูหว่าน "..."เธอเป็นห่วงเรื่องลูกหรือไง?เธอเธอเธอ...ซูหว่านช้อนสายตาขึ้นมองจี้ซือหานที่ต้อนเธอจนมุม พอเห็นสีหน้าแข็งทื่อของเขา คำพูดที่อยากจะโต้ตอบเขา จู่ๆก็ถูกกลืนลงไปจี้ซือหานตัดสาย คืนโทรศัพท์ให้เธอ จากนั้นยกมือขึ้นลูบผมของเธอ จากนั้นปล่อยเธอออก แล้วนั่งตัวตรงเขาไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น สตาร์ทรถเงียบๆ แล้วขับไปยังวิลล่าของซานซาน...บรรยากาศที่คลุมเครือในรถจางหายไป มีแต่ความอ้างว้างบนใบหน้าของชายหนุ่ม ที่ทําให้พื้นแคบๆ เต็มไปด้วยความเศร้าโศกหางตาของซูหว่านลอบสังเกตเขา มองไปได้แค่แวบเดียว ชายหนุ่มก็คลายมือจากพวงมาลัยมาจับมือเธอไว้นิ้วเรียวยาว ลอดผ่านฝ่ามือของเธอประสานนิ้วทั้งสิบเข้ากับเธออีกครั้งน้ำหนักที่จับไว้ไม่ปล่อย ทำให้ซูหว่านหันข้างไปมองเขาที่ขับรถด้วยมือเดียว"คุณ...""หว่านหว่าน เธอจะต้องมีลูกแน่ ต้องมีแน่"ตอนที่เขาพูดประโยคนั้น ไม่กล้าเข้าใกล้
ภายใต้แสงไฟบนถนนที่มืดสลัว ชายหนุ่มที่มีรูปร่างสวยงามกอดหญิงสาวตัวเล็ก และจูบเธออย่างลึกซึ้งโดยไม่สนใจอะไรซูหว่านถูกบังคับให้เชยคางขึ้น รับจูบอันบ้าคลั่งของเขา ดวงตาเป็นประกายจ้องมองเขานิ่ง"จี้ซือหาน"ตอนที่เขาผละออกจากริมฝีปากและฟันเบาๆ ซูหว่านอาศัยจังหวะนั้นผลักเขา "คุณกำลังทำอะไรอีก?"ความมัวเมาในแววตาของจี้ซือหานยังไม่หายไป เมื่อได้ยินคำถามของเธอ ก็ค่อยๆระงับตัณหา "ขอโทษ"เขาปล่อยเอวบางที่กอดรัด ถอยหลังไปก้าวนึง รักษาระยะห่างกับเธอ จู่ก็รู้สึกตัวเซโชคดีที่ด้านหลังมีรถ เขาก็เลยไม่ได้เสียหลัก อาศัยแรงของประตูรถ พิงอยู่บนนั้น...ความปวดหัวที่ติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้เขาควบคุมไม่ได้ ยกนิ้วเรียวยาวขึ้นหวังจะนวดขมับ...ขณะที่สายตาปะทะเข้ากับหญิงสาวตรงหน้า มือที่ยกขึ้นกลางอากาศได้ครึ่งนึง ก็เปลี่ยนไปลูบผมสั้นของเธอเขาฝืนทนความเจ็บปวดที่ลึกถึงกระดูก พูดกับเธอเสียงแหบพร่า "หว่านหว่าน รถนี่ให้เธอ ฉันไม่เอาคืน ตอนนี้เธอไม่อยากขับก็ไม่เป็นไร รอวันไหนที่เธออยากขับ ก็ค่อยขับ"เขาพูดจบก็ดึงนิ้วกลับมาอย่างรวดเร็ว หยิบกุญแจรถออกมาวางลงบนฝ่ามือของเธอ จากนั้นพูดเบาๆ "ฉันกลับไปก่อน เธอพัก
ตอนนี้เธอมีเงินจากโปรเจคองค์การนาซ่า ทรัพย์สินประมาณห้าสิบล้าน มากพอที่จะคืนน้ำใจของอาจารย์เสิ่น...หลายเดือนที่ผ่านมา ถ้าไม่ใช่การชี้แนะที่ "ใส่ใจ" และ "คมคาย" ของเขา เธอก็คงเติบโตขึ้นมาไม่เร็วขนาดนี้ทำเรื่องเหล่านี้เสร็จ ซูหว่านเปิดคอมพิวเตอร์ เปิดซอฟแวร์ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง และวิดีโอเรียนรู้ด้วยตัวเอง...เธอแจ้งเกิดมาจากการออกแบบ ซอฟแวร์พวกนี้ล้วนเคยเรียนมาแล้ว ตอนนี้แค่ทบทวนสองสามรอบ ก็น่าจะจำได้ตอนนี้เธอเร่งการก่อสร้างโปรเจค ออกภาพร่างได้แค่ใบเดียว ต่อไปเมื่อทำโปรเจคของพี่สาวเสร็จแล้ว เธอต้องรับโปรเจคต่อแน่นอนถ้างั้นก็มีแต่ต้องทำเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่แบบร่างไปจนถึงรูปเอฟเฟ็ก ถึงจะเรียนรู้ทุกขั้นตอนได้อย่างรวดเร็วและแจ่มแจ้งเธอรู้จนถึงห้าทุ่ม เพื่อรักษาดวงตา เธอปิดคอมตรงเวลา ลุกขึ้นกลับไปพักผ่อนที่ห้องนอนพระอาทิตย์ขึ้นยามฟ้าสาง โทรศัพท์ที่วางอยู่โต๊ะหัวเตียงก็สั่นเล็กน้อย ทำให้ซูหว่านที่กำลังหลับสบายสะดุ้งตื่นเธอคว้าโทรศัพท์ แล้วดูข้อความที่ "คุณเย่" ส่งมาอย่างสะลึมสะลือ[หว่านหว่าน ตื่นหรือยัง?]ซูหว่านที่มุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม พลิกตัวตะแคงพิมพ์ข้อความ[ตื่นแล้
เธอยืนอยู่หน้าประตูวิลล่า ยืนอยู่สักพัก ก็เห็นรถของจี้ซือหานขับมาตรงหน้าเธอหน้าต่างรถลดลงมา แสงอาทิตย์ส่องเข้าไปในรถ เผยให้เห็นใบหน้าคมสัน เครื่องหน้าประณีตแว่นกันแดดสีดำแนบอยู่บนสันจมูกของเขา ตอนที่หันข้างมามองเธอ ทำให้เห็นแววตาไม่ชัดเจนนักเขาผลักประตูออก ลงมาจากรถ รูปร่างสูงโปร่งบอดบังซูหว่านไว้ใต้ร่างกายเขาปรายตาต่ำสำรวจหญิงสาวที่แผ่ออร่าความบริสุทธิ์อย่างละเอียด ผ่านแว่นกันแดด"หว่านหว่าน วันนี้...เธอ"เขาโน้มตัวลง เอียงศีรษะเข้ามาใกล้ใบหูของเธอ แล้วพูดเย้ายวน "สวยมาก"ซูหว่านยกมือขึ้นปิดใบหู รักษาระยะห่างลมหายใจอุ่นๆให้อยู่หลังมือ"คุณ...ทุกครั้งไม่ต้องพูดใกล้ขนาดนี้ได้ไหม ฉันไม่ได้หูหนวกสักหน่อย..."ริมฝีปากบางของชายหนุ่มที่เม้มอยู่เบาๆ ก็ค่อยๆยกยิ้มมุมปากเขาลูบผมจุกของเธออ่อนโยนอย่างรักใคร่ "ผมของเธอยาวแล้ว..."น่าจะไม่ต้องรอนาน ก็ได้เห็นเธอที่เคยผมยาวเท่าเอวแล้วมั้งหวังว่า...เขาจะรอจนได้เห็นเขาจูงมือซูหว่านที่ไม่ได้พูดอะไร เปิดประตูข้างคนขับ ให้เธอขึ้นรถ จากนั้นหยิบช่อดอกไม้จากหลังรถส่องให้เธอเมื่อซูหว่านเห็นกุหลาบpink o'haraที่สวยงามอ่อนช้อย ก็ช้อนสายตาขึ
เขาพาซูหว่านมายังแผนกขายอัญมณี แล้วก็ถามเพียงว่า "มีอันไหนที่ถูกใจไหม"หลังจากได้รับคำปฏิเสธ เขาก็ไม่ได้ถามอะไรอีก แต่บอกให้พนักงานขายส่งอัญมณีดีไซน์ใหม่ล่าสุดไปให้ที่คฤหาสน์แทนหลังจากที่พนักงานขายมองไปที่ซูหว่านอย่างอิจฉาแล้วก็ตอบกลับอย่างเคารพว่า "ได้ค่ะ ประธานจี้..."ซูหว่านที่ถูกจี้ซือหานเดินจูงมือออกจากแผนกขายอัญมณี มองตามแผ่นหลังเขาไปอย่างอึ้งๆให้รถ ให้ดอกไม้ ให้เครื่องประดับ ต่อไปคงไม่ได้จะให้เสื้อผ้าเธออีกหรอกนะ?และก็เป็นอย่างที่ซูหว่านคิด จี้ซือหานพาเธอเดินไปยังโซนสำหรับสั่งตัดชุดหรู ครั้งนี้เขาเหมาทั้งหมดโดยไม่ถามอะไรสักคำเมื่อเห็นพนักงานร้านกำลังวุ่นวายกับการช่วยเอาเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าใส่กล่องให้กับเธอ ซูหว่านก็ได้แต่เอามือกุมหัวเธอก้มหน้าลงมองไปยังชายหนุ่มที่กำลังนั่งคุกเข่าข้างหนึ่งช่วยเธอลองรองเท้าแก้วอยู่ "คุณไปเรียนรู้วิธีการพวกนี้มาจากไหนเนี่ย?"เธอคิดว่าจากนิสัยและการกระทำที่ผ่านมาของจี้ซือหานแล้ว เขาไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่ คงจะต้องมีคนคอยช่วยสอนวิธีการบ้าบอนี้ให้เขาอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอนนิ้วมือที่กำลังจับรองเท้าแก้วอยู่ของจี้ซือหานชะงักไปเล็กน
ที่จี้รั่วซีมาแสดงตัวก็เพราะอยากที่จะเห็นหน้าของซูหว่านเท่านั้น ตอนนี้ก็ได้เห็นแล้ว จึงหมุนตัวเดินออกไปอย่างรู้งานเมื่อมองตามแผ่นหลังสง่างามนั้นไป จิตใจที่ว้าวุ่นกระวนกระวายของซูหว่านก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง...เธอเข้าใจว่าคนของตระกูลจี้จะเป็นเหมือนกับเหลียนซิงหรูที่ดูถูกเหยียดหยามเธอ กระทั่งพูดจาไม่น่าฟังกับเธอคิดไม่ถึงเลยว่าพี่ใหญ่ของจี้ซือหานจะเป็นคนจิตใจดีสง่างามถึงเพียงนี้ ไม่มีความหยิ่งผยองถือตัวเลยสักนิดเธอช่างเป็นลูกหลานคนมีตระกูลที่ได้รับการอบรมมาและได้รับการศึกษามาอย่างดีจริงๆจี้ซือหานก้มหน้าลง ถามไปยังผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง "หว่านหว่าน จะกลับไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้านตระกูลจี้กับผมเมื่อไรดี?"ซูหว่านเงยดวงตาที่สดใสของตัวเองขึ้น จ้องมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ตินั้น แล้วแอบพูดกับตัวเองอยู่ในใจว่า ไว้ก่อนตอนนี้เธอยังไม่ถึงจุดที่สามารถจะคู่ควรกับเขา อีกทั้งสามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงตระกูลจี้ได้เขาไม่ได้รับการตอบกลับจากเธอ แต่ก็เห็นว่าเธอยื่นมือออกมารับเอาถุงกระดาษจากมือเขาไป นั่นก็หมายความว่าเธอได้ตกลงแล้วจี้ซือหานกอดเอวของเธอไว้ ให้เธอแนบชิดกับร่างกายของเขาแล้วก็
เมื่อซูหว่านได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่กลับพยักหน้า "ได้..."เมื่อเห็นว่าเธอตกลง มุมปากของจี้ซือหานก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มน้อยๆเขาเปิดกล้องขึ้นมาใหม่ ยื่นแขนยาวๆ ของตัวเองออกไปคว้าเอวของซูหว่านเข้ามาก่อนที่จะกดปุ่มถ่ายรูป จี้ซือหานก็แอบหยิกผู้หญิงในอ้อมแขนของตัวเองเบาๆพอซูหว่านเจ็บก็เงยหน้าขึ้นมามองไปยังชายหนุ่มข้างตัวโดยสัญชาตญาณริมฝีปากแดงเผยอออกน้อยๆ ยังไม่ทันจะได้ถามอะไรก็เห็นเขาก้มหัวจูบเธอลงมาแล้วและในเวลาเดียวกัน นิ้วมือเรียวยาวก็กดปุ่มถ่ายรูป...ซูหว่านเข้าใจว่าเขาต้องการถ่ายรูปคู่ แต่คิดไม่ถึงว่าเป็นรูปคู่แบบนี้เมื่อเห็นเขาเก็บมือถือกลับมา ก็รีบเขย่งเท้าชะโงกหน้าไปดูทางหน้าจอทันที...ก็เห็นภาพเธอเงยหน้า เขาก้มหน้า ทั้งสองคนจูบกันอย่างหวานซึ้งท่ามกลางท้องฟ้าสีคราม แก้มก็แดงขึ้นในทันที"รีบลบเลย ถ่ายใหม่อีกรูปหนึ่ง..."หลังจากที่จี้ซือหานคว้านิ้วมือที่คิดแต่จะลบรูปนั้นไว้ได้ ก็รีบเก็บมือถือทันที"หว่านหว่าน ผมพาคุณไปทานอาหารนะ"เขากำมือของเธอเอาไว้แน่น จูงมือเธอเดินไปทางโซนพักผ่อน แต่ซูหว่านกลับเอาแต่จ้องไปที่กระเป๋าเสื้อสูทของเขาอีกเดี๋ยวตอนกินข้าว หากว่าเข