ภายใต้แสงไฟบนถนนที่มืดสลัว ชายหนุ่มที่มีรูปร่างสวยงามกอดหญิงสาวตัวเล็ก และจูบเธออย่างลึกซึ้งโดยไม่สนใจอะไรซูหว่านถูกบังคับให้เชยคางขึ้น รับจูบอันบ้าคลั่งของเขา ดวงตาเป็นประกายจ้องมองเขานิ่ง"จี้ซือหาน"ตอนที่เขาผละออกจากริมฝีปากและฟันเบาๆ ซูหว่านอาศัยจังหวะนั้นผลักเขา "คุณกำลังทำอะไรอีก?"ความมัวเมาในแววตาของจี้ซือหานยังไม่หายไป เมื่อได้ยินคำถามของเธอ ก็ค่อยๆระงับตัณหา "ขอโทษ"เขาปล่อยเอวบางที่กอดรัด ถอยหลังไปก้าวนึง รักษาระยะห่างกับเธอ จู่ก็รู้สึกตัวเซโชคดีที่ด้านหลังมีรถ เขาก็เลยไม่ได้เสียหลัก อาศัยแรงของประตูรถ พิงอยู่บนนั้น...ความปวดหัวที่ติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้เขาควบคุมไม่ได้ ยกนิ้วเรียวยาวขึ้นหวังจะนวดขมับ...ขณะที่สายตาปะทะเข้ากับหญิงสาวตรงหน้า มือที่ยกขึ้นกลางอากาศได้ครึ่งนึง ก็เปลี่ยนไปลูบผมสั้นของเธอเขาฝืนทนความเจ็บปวดที่ลึกถึงกระดูก พูดกับเธอเสียงแหบพร่า "หว่านหว่าน รถนี่ให้เธอ ฉันไม่เอาคืน ตอนนี้เธอไม่อยากขับก็ไม่เป็นไร รอวันไหนที่เธออยากขับ ก็ค่อยขับ"เขาพูดจบก็ดึงนิ้วกลับมาอย่างรวดเร็ว หยิบกุญแจรถออกมาวางลงบนฝ่ามือของเธอ จากนั้นพูดเบาๆ "ฉันกลับไปก่อน เธอพัก
ตอนนี้เธอมีเงินจากโปรเจคองค์การนาซ่า ทรัพย์สินประมาณห้าสิบล้าน มากพอที่จะคืนน้ำใจของอาจารย์เสิ่น...หลายเดือนที่ผ่านมา ถ้าไม่ใช่การชี้แนะที่ "ใส่ใจ" และ "คมคาย" ของเขา เธอก็คงเติบโตขึ้นมาไม่เร็วขนาดนี้ทำเรื่องเหล่านี้เสร็จ ซูหว่านเปิดคอมพิวเตอร์ เปิดซอฟแวร์ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง และวิดีโอเรียนรู้ด้วยตัวเอง...เธอแจ้งเกิดมาจากการออกแบบ ซอฟแวร์พวกนี้ล้วนเคยเรียนมาแล้ว ตอนนี้แค่ทบทวนสองสามรอบ ก็น่าจะจำได้ตอนนี้เธอเร่งการก่อสร้างโปรเจค ออกภาพร่างได้แค่ใบเดียว ต่อไปเมื่อทำโปรเจคของพี่สาวเสร็จแล้ว เธอต้องรับโปรเจคต่อแน่นอนถ้างั้นก็มีแต่ต้องทำเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่แบบร่างไปจนถึงรูปเอฟเฟ็ก ถึงจะเรียนรู้ทุกขั้นตอนได้อย่างรวดเร็วและแจ่มแจ้งเธอรู้จนถึงห้าทุ่ม เพื่อรักษาดวงตา เธอปิดคอมตรงเวลา ลุกขึ้นกลับไปพักผ่อนที่ห้องนอนพระอาทิตย์ขึ้นยามฟ้าสาง โทรศัพท์ที่วางอยู่โต๊ะหัวเตียงก็สั่นเล็กน้อย ทำให้ซูหว่านที่กำลังหลับสบายสะดุ้งตื่นเธอคว้าโทรศัพท์ แล้วดูข้อความที่ "คุณเย่" ส่งมาอย่างสะลึมสะลือ[หว่านหว่าน ตื่นหรือยัง?]ซูหว่านที่มุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม พลิกตัวตะแคงพิมพ์ข้อความ[ตื่นแล้
เธอยืนอยู่หน้าประตูวิลล่า ยืนอยู่สักพัก ก็เห็นรถของจี้ซือหานขับมาตรงหน้าเธอหน้าต่างรถลดลงมา แสงอาทิตย์ส่องเข้าไปในรถ เผยให้เห็นใบหน้าคมสัน เครื่องหน้าประณีตแว่นกันแดดสีดำแนบอยู่บนสันจมูกของเขา ตอนที่หันข้างมามองเธอ ทำให้เห็นแววตาไม่ชัดเจนนักเขาผลักประตูออก ลงมาจากรถ รูปร่างสูงโปร่งบอดบังซูหว่านไว้ใต้ร่างกายเขาปรายตาต่ำสำรวจหญิงสาวที่แผ่ออร่าความบริสุทธิ์อย่างละเอียด ผ่านแว่นกันแดด"หว่านหว่าน วันนี้...เธอ"เขาโน้มตัวลง เอียงศีรษะเข้ามาใกล้ใบหูของเธอ แล้วพูดเย้ายวน "สวยมาก"ซูหว่านยกมือขึ้นปิดใบหู รักษาระยะห่างลมหายใจอุ่นๆให้อยู่หลังมือ"คุณ...ทุกครั้งไม่ต้องพูดใกล้ขนาดนี้ได้ไหม ฉันไม่ได้หูหนวกสักหน่อย..."ริมฝีปากบางของชายหนุ่มที่เม้มอยู่เบาๆ ก็ค่อยๆยกยิ้มมุมปากเขาลูบผมจุกของเธออ่อนโยนอย่างรักใคร่ "ผมของเธอยาวแล้ว..."น่าจะไม่ต้องรอนาน ก็ได้เห็นเธอที่เคยผมยาวเท่าเอวแล้วมั้งหวังว่า...เขาจะรอจนได้เห็นเขาจูงมือซูหว่านที่ไม่ได้พูดอะไร เปิดประตูข้างคนขับ ให้เธอขึ้นรถ จากนั้นหยิบช่อดอกไม้จากหลังรถส่องให้เธอเมื่อซูหว่านเห็นกุหลาบpink o'haraที่สวยงามอ่อนช้อย ก็ช้อนสายตาขึ
เขาพาซูหว่านมายังแผนกขายอัญมณี แล้วก็ถามเพียงว่า "มีอันไหนที่ถูกใจไหม"หลังจากได้รับคำปฏิเสธ เขาก็ไม่ได้ถามอะไรอีก แต่บอกให้พนักงานขายส่งอัญมณีดีไซน์ใหม่ล่าสุดไปให้ที่คฤหาสน์แทนหลังจากที่พนักงานขายมองไปที่ซูหว่านอย่างอิจฉาแล้วก็ตอบกลับอย่างเคารพว่า "ได้ค่ะ ประธานจี้..."ซูหว่านที่ถูกจี้ซือหานเดินจูงมือออกจากแผนกขายอัญมณี มองตามแผ่นหลังเขาไปอย่างอึ้งๆให้รถ ให้ดอกไม้ ให้เครื่องประดับ ต่อไปคงไม่ได้จะให้เสื้อผ้าเธออีกหรอกนะ?และก็เป็นอย่างที่ซูหว่านคิด จี้ซือหานพาเธอเดินไปยังโซนสำหรับสั่งตัดชุดหรู ครั้งนี้เขาเหมาทั้งหมดโดยไม่ถามอะไรสักคำเมื่อเห็นพนักงานร้านกำลังวุ่นวายกับการช่วยเอาเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าใส่กล่องให้กับเธอ ซูหว่านก็ได้แต่เอามือกุมหัวเธอก้มหน้าลงมองไปยังชายหนุ่มที่กำลังนั่งคุกเข่าข้างหนึ่งช่วยเธอลองรองเท้าแก้วอยู่ "คุณไปเรียนรู้วิธีการพวกนี้มาจากไหนเนี่ย?"เธอคิดว่าจากนิสัยและการกระทำที่ผ่านมาของจี้ซือหานแล้ว เขาไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่ คงจะต้องมีคนคอยช่วยสอนวิธีการบ้าบอนี้ให้เขาอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอนนิ้วมือที่กำลังจับรองเท้าแก้วอยู่ของจี้ซือหานชะงักไปเล็กน
ที่จี้รั่วซีมาแสดงตัวก็เพราะอยากที่จะเห็นหน้าของซูหว่านเท่านั้น ตอนนี้ก็ได้เห็นแล้ว จึงหมุนตัวเดินออกไปอย่างรู้งานเมื่อมองตามแผ่นหลังสง่างามนั้นไป จิตใจที่ว้าวุ่นกระวนกระวายของซูหว่านก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง...เธอเข้าใจว่าคนของตระกูลจี้จะเป็นเหมือนกับเหลียนซิงหรูที่ดูถูกเหยียดหยามเธอ กระทั่งพูดจาไม่น่าฟังกับเธอคิดไม่ถึงเลยว่าพี่ใหญ่ของจี้ซือหานจะเป็นคนจิตใจดีสง่างามถึงเพียงนี้ ไม่มีความหยิ่งผยองถือตัวเลยสักนิดเธอช่างเป็นลูกหลานคนมีตระกูลที่ได้รับการอบรมมาและได้รับการศึกษามาอย่างดีจริงๆจี้ซือหานก้มหน้าลง ถามไปยังผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง "หว่านหว่าน จะกลับไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้านตระกูลจี้กับผมเมื่อไรดี?"ซูหว่านเงยดวงตาที่สดใสของตัวเองขึ้น จ้องมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ตินั้น แล้วแอบพูดกับตัวเองอยู่ในใจว่า ไว้ก่อนตอนนี้เธอยังไม่ถึงจุดที่สามารถจะคู่ควรกับเขา อีกทั้งสามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงตระกูลจี้ได้เขาไม่ได้รับการตอบกลับจากเธอ แต่ก็เห็นว่าเธอยื่นมือออกมารับเอาถุงกระดาษจากมือเขาไป นั่นก็หมายความว่าเธอได้ตกลงแล้วจี้ซือหานกอดเอวของเธอไว้ ให้เธอแนบชิดกับร่างกายของเขาแล้วก็
เมื่อซูหว่านได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่กลับพยักหน้า "ได้..."เมื่อเห็นว่าเธอตกลง มุมปากของจี้ซือหานก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มน้อยๆเขาเปิดกล้องขึ้นมาใหม่ ยื่นแขนยาวๆ ของตัวเองออกไปคว้าเอวของซูหว่านเข้ามาก่อนที่จะกดปุ่มถ่ายรูป จี้ซือหานก็แอบหยิกผู้หญิงในอ้อมแขนของตัวเองเบาๆพอซูหว่านเจ็บก็เงยหน้าขึ้นมามองไปยังชายหนุ่มข้างตัวโดยสัญชาตญาณริมฝีปากแดงเผยอออกน้อยๆ ยังไม่ทันจะได้ถามอะไรก็เห็นเขาก้มหัวจูบเธอลงมาแล้วและในเวลาเดียวกัน นิ้วมือเรียวยาวก็กดปุ่มถ่ายรูป...ซูหว่านเข้าใจว่าเขาต้องการถ่ายรูปคู่ แต่คิดไม่ถึงว่าเป็นรูปคู่แบบนี้เมื่อเห็นเขาเก็บมือถือกลับมา ก็รีบเขย่งเท้าชะโงกหน้าไปดูทางหน้าจอทันที...ก็เห็นภาพเธอเงยหน้า เขาก้มหน้า ทั้งสองคนจูบกันอย่างหวานซึ้งท่ามกลางท้องฟ้าสีคราม แก้มก็แดงขึ้นในทันที"รีบลบเลย ถ่ายใหม่อีกรูปหนึ่ง..."หลังจากที่จี้ซือหานคว้านิ้วมือที่คิดแต่จะลบรูปนั้นไว้ได้ ก็รีบเก็บมือถือทันที"หว่านหว่าน ผมพาคุณไปทานอาหารนะ"เขากำมือของเธอเอาไว้แน่น จูงมือเธอเดินไปทางโซนพักผ่อน แต่ซูหว่านกลับเอาแต่จ้องไปที่กระเป๋าเสื้อสูทของเขาอีกเดี๋ยวตอนกินข้าว หากว่าเข
ซูหว่านเดินขึ้นมาถึงห้องนอนที่อยู่ชั้นสอง ไม่ได้เปิดไฟ อาศัยแสงไฟสลัวๆ มองไปยังรถโคนิเซ็กที่จอดอยู่ข้างล่างคันนั้น อีกทั้งชายหนุ่มที่นั่งอยู่ในรถ...กระจกรถถูกลดระดับลงมาครึ่งหนึ่ง เหมือนกับว่าเขากำลังพิมพ์อะไรอยู่ในมือถือ ไม่กี่วินาทีต่อมา มือถือของซูหว่านก็สั่นขึ้น...เธอหยิบมือถือออกมาจากในกระเป๋า เปิดดูแอปพลิเคชั่นไลน์ เห็นว่าเขาส่งรูปมารูปหนึ่ง เป็นรูปถ่ายคู่กันระหว่างทั้งสองคนเขาพิมพ์มาแปดคำ [หว่านหว่าน อย่าลบ เก็บเป็นที่ระลึก]ที่ระลึก...ทำไมถึงเป็นที่ระลึกล่ะ?ซูหว่านอยากจะตอบเขา แต่ก็เห็นว่าจู่ๆ รูปโปรไฟล์ของเขาก็ถูกเปลี่ยนเป็นรูปของเธอแล้วเขาส่งมาอีกประโยคแล้ว [หว่านหว่าน ผมรักคุณ ฝันดีนะ]ซูหว่านพิจรณาอยู่หลายวินาทีก่อนจะตอบกลับไปว่า [ฝันดี...]เช้าวันถัดมา ซูหว่านก็ได้รับดอกกุหลาบPink O'Hara ที่เขาส่งมาให้อย่างตรงเวลา ซูชิงเป็นคนเอามาส่งให้ เขาไม่ได้มาซูชิงอธิบายว่า "คุณซู วันนี้ประธานจี้มีนัดประชุมนานาชาติหลายงาน เลยให้ผมมาส่งให้แทน ขอคุณอย่าได้ถือสาเลยนะครับ"ซูหว่านส่ายหน้า "ไม่เป็นไร คุณช่วยไปบอกขอบคุณเขาแทนฉันทีนะคะ..."ซูชิงตอบกลับว่า "ได่ครับ" หลังจาก
ความเย็นจากการถูกไวน์แดงสาดลงบนใบหน้า ทำให้ซานซานหลับตาลงโดยสัญชาตญาณ ใบหน้าเชิดๆ ที่ไม่เคยก้มลงก็หดตามไปด้วยเธอค่อยๆ หลุบสายตาลง ดูอับจนหนทาง เธอในตอนนี้ ดูโดดเดี่ยวน่าสงสาร เหมือนกับเด็กน้อยที่ไม่มีคนช่วยเหลือเมื่อเห็นซานซานที่เป็นคนเด็ดเดี่ยวมั่นใจมาตลอด แสดงสีหน้าโดดเดี่ยวอ้างว้างแบบนี้ หัวใจของจี้เหลียงชวนก็กระตุก จู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา...เขารีบเอามือที่โอบเอวของอันเหยียนอยู่ออก อยากจะเอื้อมไปหยิบกระดาษบนโต๊ะ ก็เห็นซานซานยื่นมือเรียวขาวของเธอออกไปก่อนเขาแล้วหลังจากที่เธอดึงกระดาษออกมาหลายแผ่น เช็ดไวน์แดงบนใบหน้าของเธอจนแห้งดีแล้ว ก็ค่อยๆ ลุกขึ้น เชิดหน้า...สายตาของเธอมองเลยอันเหยียนไปยังจี้เหลียงชวนอย่างเย็นชา "นายน้อยที่เจ็ดจี้ จบแล้วล่ะ"เธอหมายถึงว่าหมดเวลาการให้บริการแล้ว จี้เหลียงชวนเข้าใจว่าเรื่องระหว่างพวกเขามันจบลงแล้วเขารู้สึกหวั่นใจน้อยๆ อยากจะคว้าไปที่ข้อมือของซานซาน แต่ยังไม่ทันจะแตะโดน ก็เห็นเธอหยิบเบียร์ขึ้นมาขวดหนึ่งเธอเขย่าหลายทีแล้วใช้ฟันเปิดมันออกโดยไม่แม้แต่จะใช้ที่เปิดขวดเลยด้วยซ้ำ เบียร์ที่อยู่ภายในพุ่งกระฉูดออกมาทันทียังไม่ทันที่จี้เหลียง