ที่จี้รั่วซีมาแสดงตัวก็เพราะอยากที่จะเห็นหน้าของซูหว่านเท่านั้น ตอนนี้ก็ได้เห็นแล้ว จึงหมุนตัวเดินออกไปอย่างรู้งานเมื่อมองตามแผ่นหลังสง่างามนั้นไป จิตใจที่ว้าวุ่นกระวนกระวายของซูหว่านก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง...เธอเข้าใจว่าคนของตระกูลจี้จะเป็นเหมือนกับเหลียนซิงหรูที่ดูถูกเหยียดหยามเธอ กระทั่งพูดจาไม่น่าฟังกับเธอคิดไม่ถึงเลยว่าพี่ใหญ่ของจี้ซือหานจะเป็นคนจิตใจดีสง่างามถึงเพียงนี้ ไม่มีความหยิ่งผยองถือตัวเลยสักนิดเธอช่างเป็นลูกหลานคนมีตระกูลที่ได้รับการอบรมมาและได้รับการศึกษามาอย่างดีจริงๆจี้ซือหานก้มหน้าลง ถามไปยังผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง "หว่านหว่าน จะกลับไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้านตระกูลจี้กับผมเมื่อไรดี?"ซูหว่านเงยดวงตาที่สดใสของตัวเองขึ้น จ้องมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ตินั้น แล้วแอบพูดกับตัวเองอยู่ในใจว่า ไว้ก่อนตอนนี้เธอยังไม่ถึงจุดที่สามารถจะคู่ควรกับเขา อีกทั้งสามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงตระกูลจี้ได้เขาไม่ได้รับการตอบกลับจากเธอ แต่ก็เห็นว่าเธอยื่นมือออกมารับเอาถุงกระดาษจากมือเขาไป นั่นก็หมายความว่าเธอได้ตกลงแล้วจี้ซือหานกอดเอวของเธอไว้ ให้เธอแนบชิดกับร่างกายของเขาแล้วก็
เมื่อซูหว่านได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่กลับพยักหน้า "ได้..."เมื่อเห็นว่าเธอตกลง มุมปากของจี้ซือหานก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มน้อยๆเขาเปิดกล้องขึ้นมาใหม่ ยื่นแขนยาวๆ ของตัวเองออกไปคว้าเอวของซูหว่านเข้ามาก่อนที่จะกดปุ่มถ่ายรูป จี้ซือหานก็แอบหยิกผู้หญิงในอ้อมแขนของตัวเองเบาๆพอซูหว่านเจ็บก็เงยหน้าขึ้นมามองไปยังชายหนุ่มข้างตัวโดยสัญชาตญาณริมฝีปากแดงเผยอออกน้อยๆ ยังไม่ทันจะได้ถามอะไรก็เห็นเขาก้มหัวจูบเธอลงมาแล้วและในเวลาเดียวกัน นิ้วมือเรียวยาวก็กดปุ่มถ่ายรูป...ซูหว่านเข้าใจว่าเขาต้องการถ่ายรูปคู่ แต่คิดไม่ถึงว่าเป็นรูปคู่แบบนี้เมื่อเห็นเขาเก็บมือถือกลับมา ก็รีบเขย่งเท้าชะโงกหน้าไปดูทางหน้าจอทันที...ก็เห็นภาพเธอเงยหน้า เขาก้มหน้า ทั้งสองคนจูบกันอย่างหวานซึ้งท่ามกลางท้องฟ้าสีคราม แก้มก็แดงขึ้นในทันที"รีบลบเลย ถ่ายใหม่อีกรูปหนึ่ง..."หลังจากที่จี้ซือหานคว้านิ้วมือที่คิดแต่จะลบรูปนั้นไว้ได้ ก็รีบเก็บมือถือทันที"หว่านหว่าน ผมพาคุณไปทานอาหารนะ"เขากำมือของเธอเอาไว้แน่น จูงมือเธอเดินไปทางโซนพักผ่อน แต่ซูหว่านกลับเอาแต่จ้องไปที่กระเป๋าเสื้อสูทของเขาอีกเดี๋ยวตอนกินข้าว หากว่าเข
ซูหว่านเดินขึ้นมาถึงห้องนอนที่อยู่ชั้นสอง ไม่ได้เปิดไฟ อาศัยแสงไฟสลัวๆ มองไปยังรถโคนิเซ็กที่จอดอยู่ข้างล่างคันนั้น อีกทั้งชายหนุ่มที่นั่งอยู่ในรถ...กระจกรถถูกลดระดับลงมาครึ่งหนึ่ง เหมือนกับว่าเขากำลังพิมพ์อะไรอยู่ในมือถือ ไม่กี่วินาทีต่อมา มือถือของซูหว่านก็สั่นขึ้น...เธอหยิบมือถือออกมาจากในกระเป๋า เปิดดูแอปพลิเคชั่นไลน์ เห็นว่าเขาส่งรูปมารูปหนึ่ง เป็นรูปถ่ายคู่กันระหว่างทั้งสองคนเขาพิมพ์มาแปดคำ [หว่านหว่าน อย่าลบ เก็บเป็นที่ระลึก]ที่ระลึก...ทำไมถึงเป็นที่ระลึกล่ะ?ซูหว่านอยากจะตอบเขา แต่ก็เห็นว่าจู่ๆ รูปโปรไฟล์ของเขาก็ถูกเปลี่ยนเป็นรูปของเธอแล้วเขาส่งมาอีกประโยคแล้ว [หว่านหว่าน ผมรักคุณ ฝันดีนะ]ซูหว่านพิจรณาอยู่หลายวินาทีก่อนจะตอบกลับไปว่า [ฝันดี...]เช้าวันถัดมา ซูหว่านก็ได้รับดอกกุหลาบPink O'Hara ที่เขาส่งมาให้อย่างตรงเวลา ซูชิงเป็นคนเอามาส่งให้ เขาไม่ได้มาซูชิงอธิบายว่า "คุณซู วันนี้ประธานจี้มีนัดประชุมนานาชาติหลายงาน เลยให้ผมมาส่งให้แทน ขอคุณอย่าได้ถือสาเลยนะครับ"ซูหว่านส่ายหน้า "ไม่เป็นไร คุณช่วยไปบอกขอบคุณเขาแทนฉันทีนะคะ..."ซูชิงตอบกลับว่า "ได่ครับ" หลังจาก
ความเย็นจากการถูกไวน์แดงสาดลงบนใบหน้า ทำให้ซานซานหลับตาลงโดยสัญชาตญาณ ใบหน้าเชิดๆ ที่ไม่เคยก้มลงก็หดตามไปด้วยเธอค่อยๆ หลุบสายตาลง ดูอับจนหนทาง เธอในตอนนี้ ดูโดดเดี่ยวน่าสงสาร เหมือนกับเด็กน้อยที่ไม่มีคนช่วยเหลือเมื่อเห็นซานซานที่เป็นคนเด็ดเดี่ยวมั่นใจมาตลอด แสดงสีหน้าโดดเดี่ยวอ้างว้างแบบนี้ หัวใจของจี้เหลียงชวนก็กระตุก จู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา...เขารีบเอามือที่โอบเอวของอันเหยียนอยู่ออก อยากจะเอื้อมไปหยิบกระดาษบนโต๊ะ ก็เห็นซานซานยื่นมือเรียวขาวของเธอออกไปก่อนเขาแล้วหลังจากที่เธอดึงกระดาษออกมาหลายแผ่น เช็ดไวน์แดงบนใบหน้าของเธอจนแห้งดีแล้ว ก็ค่อยๆ ลุกขึ้น เชิดหน้า...สายตาของเธอมองเลยอันเหยียนไปยังจี้เหลียงชวนอย่างเย็นชา "นายน้อยที่เจ็ดจี้ จบแล้วล่ะ"เธอหมายถึงว่าหมดเวลาการให้บริการแล้ว จี้เหลียงชวนเข้าใจว่าเรื่องระหว่างพวกเขามันจบลงแล้วเขารู้สึกหวั่นใจน้อยๆ อยากจะคว้าไปที่ข้อมือของซานซาน แต่ยังไม่ทันจะแตะโดน ก็เห็นเธอหยิบเบียร์ขึ้นมาขวดหนึ่งเธอเขย่าหลายทีแล้วใช้ฟันเปิดมันออกโดยไม่แม้แต่จะใช้ที่เปิดขวดเลยด้วยซ้ำ เบียร์ที่อยู่ภายในพุ่งกระฉูดออกมาทันทียังไม่ทันที่จี้เหลียง
ซานซานยกริมฝีปากขึ้นมาเป็นรอยยิ้มเย้ายวน"ไม่เกี่ยวอะไรกับนายน้อยที่เจ็ดจี้หนิคะ"ไม่เกี่ยว?จี้เหลียงชวนผู้ซึ่งมีความเป็นสุภาพบุรุษ ปฏิบัติกับผู้หญิงอย่างอ่อนโยนเสมอ ตอนนี้กลับมีสีหน้าถมึงทึง"เฉียวซานซาน คุณแน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าจะท้าทายผม?"ซานซานรู้สึกว่าเขากำลังพูดบิดเบือนความเป็นจริงอยู่ ดังนั้นสีหน้าของเธอจึงงอง้ำไม่พอใจเช่นกัน"นายน้อยที่เจ็ดจี้ เอาดีๆ นะ คุณต่างหากที่พาผู้หญิงคนอื่นมาท้าทายฉันก่อน""นั่นก็ไม่ใช่เพราะว่าเมื่อหลายวันก่อนคุณไม่รู้ความ ปฏิเสธผมโดยไม่คิดหรอกเหรอ!"ความโกรธเคืองในแววตาของซานซาน กลับกลายเป็นความฉงนสงสัยทันทีจี้เหลียงชวนเคยมีผู้หญิงมามากมาย แต่ว่าแต่ไหนแต่ไรพอได้ปุ๊บเขาก็จบความสัมพันธ์ ไม่เคยจริงจังกับใครมาก่อนว่ากันตามเหตุผล หลังจากเลิกกัน เขาไม่มีทางลดตัวลงมาขอเธอคืนดีอีกครั้งแน่นอนแต่ว่าคืนนั้น เขาอาศัยความกล้าจากฤทธิ์เหล้ากอดเธอ ราวกับเด็กตัวน้อยๆ คนหนึ่ง ซุกหน้าซบอยู่ตรงคอของเธอ"พี่ซานซาน ผมรู้สึกคิดถึงคุณ อย่าเลิกกับผมเลยจะได้ไหม?"พอเธอได้กลิ่นเหล้าคละคลุ้งจากตัวเขาก็ยังคิดอยู่เลยว่าเขาคงจะแค่พูดไปเรื่อย คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะจริงจั
ซานซานมองไปยังผู้ชายที่แผ่ออร่าความไม่พอใจออกมาตรงหน้า แล้วความกดดันอย่างมหาศาลที่ไร้รูปร่างก็บังเกิดขึ้นนี่ทำให้เธอคิดไปถึงครั้งแรกที่ได้พบกับจี้ซือหาน จะบอกว่าคล้ายกันก็คงไม่ได้ ต้องบอกว่าเหมือนกันไม่มีผิด ออร่าแรงมาก ความกดดันเต็มเปี่ยมแต่ว่าระหว่างทั้งสองคนนี้ก็ไม่เหมือนกันเลย จี้ซือหานดูสูงส่งและหลีกเลี่ยงตัณหา ให้ความรู้สึกกดดันแบบเหน็บหนาว ส่วนคุณลู่กลับเป็นความกดดันแบบ...คลุ้มคลั่งอย่างเช่นในตอนนี้ที่เขาไม่ตอบอะไรซานซานก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีก กระทั่งว่าอยู่ต่อหน้าเขา เธอไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ...เธอจำครั้งแรกที่คุณลู่มาเหมาสถานที่ได้แม่น เป็นเพราะพนักงานรินเหล้าผิดพลาด เขาถึงกับซัดแก้วเหล้าเลยเมื่อเธอเห็นว่าลูกค้าคนนี้มีนิสัยขี้หงุดหงิดเอาใจยากจึงรีบให้พนักงานออกไป ส่วนตัวเธอไปบริการเขาเองบางทีอาจเป็นเพราะการบริการของเธอไม่เลวครั้งนี้เมื่อคุณลู่มาอีกก็เลยเจาะจงเรียกให้เธอมาบริการซานซานคิดว่าคุณลู่ต้องการให้เธอรินเหล้าให้ แต่เขากลับเงยดวงตาดำขลับของเขาทั้งคู่จ้องมองประเมินใบหน้าของเธอเมื่อถูกสายตาก้าวร้าวเอาแต่ใจอย่างนี้จับจ้องมาที่ตัวเอง ก็ทำให้ซานซานที่เป็นคนสงบเ
เมื่อซานซานเห็นมือของเหล่าบอดี้การ์ดจับไปที่ด้านหลังเอวอีกครั้ง หัวใจของเธอก็ตื่นเต้นจนสั่นไหว แต่ก็พยายามที่จะรักษาความสงบในจิตใจไว้ แล้วเริ่มพูดจาเหลวไหว"เธออยู่ที่อังกฤษกับคุณจิ จิเหยียนโจวค่ะ หากว่าคุณต้องการพบเธอก็ไปหาที่อังกฤษเถอะ..."ไปเถอะ ไปวุ่นวายกับจิเหยียนโจว ฉันก็อยากจะรู้ว่าระหว่างพวกคุณสองคนใครจะชนะ...เมื่อได้ยินประโยคนี้ อารมณ์โมโหที่แทบจะควบคุมไม่อยู่ของคุณลู่ก็แผ่ซ่านออกมาจากดวงตาดำขลับ"ผมไปสืบมาแล้ว เธอกลับมาจากอังกฤษแล้ว และคนแรกที่มาพบก็คือคุณ ที่นี่แหละ!"ครั้งแรกที่เขามาที่นี่ก็เพื่อที่จะถามเรื่องชูยีกับเธอ แต่กลับถูกพนักงานเสริฟทำให้โมโหจนพูดไม่ออกครั้งนี้พอปรับอารมณ์เรียบร้อย กลับมาที่นี่อีกครั้ง คิดไม่ถึงว่าเธอจะกล้าแสร้งโง่ต่อหน้าเขา ช่างรนหาที่ตายเหลือเกิน!เมื่อเขาพูดจบก็ลุกขึ้นทันที รูปร่างสูงใหญ่ ทำให้ซานซานที่ถึงแม้จะสวมส้นสูงอยู่แต่ก็สูงเพียงหน้าอกของเขาเท่านั้นถูกบดบังจนมิดเขาค้อมตัวลง ใช้สายตาก้าวร้าวไม่พอใจจับจ้องมาที่ซานซานเขม็ง"คุณเฉียว ขอถามอีกครั้ง เธออยู่ที่ไหน?"ซานซานถูกเขาบีบคั้นด้วยท่าทางแบบนี้จึงตกใจจนก้าวถอยไปหนึ่งก้าว แต่ก
ซานซานเพิ่งจะได้เห็นคุณชายที่เอาแต่เสเพลไปวันๆ แสดงท่าทีและสีหน้าตื่นตระหนกแบบนี้เป็นครั้งแรก นี่เขาคงจะไม่..."นายน้อยที่เจ็ด ที่คุณแคร์ และตื่นตระหนกแบบนี้ คงจะไม่ได้ชอบฉันจริงๆ หรอกนะคะ?"นิ้วมือของจี้เหลียงชวนชะงักไป เขาหลุบตาลงจ้องมองไปยังใบหน้าที่งดงามของซานซาน แล้วงุนงงไปชั่วขณะเขาเหรอชอบเธอ จะเป็นไปได้ยังไง ก็แค่เคยนอนด้วยกันมาสามปี ก็เลยปล่อยวางไม่ได้เท่านั้นแหละเขา จี้เหลียงชวนเคยมีผู้หญิงมาตั้งมากมาย จะไปมีใจให้กับผู้หญิงที่เคยหย่าร้างมาแล้วได้ยังไง นี่ไม่มีทาง!"ลู่เฉินซีเป็นศัตรูกับพี่รองผม คุณเป็นแฟนเก่าผม ทางที่ดีอย่าไปเกี่ยวข้องกับเขาจะดีกว่า..."ข้ออ้างของเขามันฟังไม่ขึ้นจนทำให้ซานซานเชื่อไม่ลง แต่ซานซานก็ไม่ได้ถามอะไรมากอีกจี้เหลียงชวนเป็นคนหลายใจเกินไป ไม่ใช่คู่ชีวิตที่ดีของเธอ เธอเคยหย่ามาแล้ว ก็ไม่ใช่คู่ชีวิตที่ดีของเขาเช่นกันสามปีที่ผ่านมาของพวกเขาก็เป็นเพียงความสัมพันธ์ทางกายที่ฉาบฉวย ไม่ว่าใครก็ไม่ควรมีใจให้ใคร...ซานซานพยักหน้าให้กับเขา "ไม่ใช่ก็ดี..."เมื่อเธอพูดจบก็หันไปทางอันเหยียนที่ยืนรอจี้เหลียงชวนอยู่ที่สุดทางเดินไกลๆ "ถึงคุณอันจะเอาแต่ใจไป
ช่างเสื้อหยิบชุดเจ้าสาวชุดนั้นลงมา เมื่อสัมผัสโดนเนื้อผ้าและเพชรที่ประดับอยู่ด้านบน ก็อึ้งไปชุดแต่งงานชุดนี้เต็มไปด้วยผ้ากอซสีอ่อนหลายชั้น ประดับด้วยดอกกุหลาบและเพชรที่ทอจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเป็นสีขาวคริสตัลเรียบง่ายและวิจิตรงดงามด้วยเพชรที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่องประกายด้วยเสน่ห์อันงดงามและสง่างามจนน่าทึ่งถ้าดูไม่ผิด หากอ่านไม่ผิด นี่คือชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวในโลกที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกหลายปีก่อน ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกเก็บเอาไว้ในห้องนิทรรศการที่ต่างประเทศ แต่ต่อมาได้ยินว่าถูกคนซื้อไปในราคาสูงลิ่วคิดไม่ถึงว่าคนที่ซื้อชุดเจ้าสาวไป จะเป็นท่านประธานของกลุ่มบริษัทจี้ ถ้าไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง จะยอมจ่ายหนักขนาดนี้ได้ยังไง?ที่สำคัญอีกชุดนึงที่อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เดาว่าก็น่าจะมีแค่ชุดเดียว ไม่ซ้ำใคร"คุณนายจี้ ท่าทางคุณผู้ชายจะรักคุณมากเลยนะคะ..."ซูหว่านได้ยินคำพูดของช่างเสื้อ ก็พยักหน้าอย่างไม่ปิดบังผู้ชายคนนั้นรักเธอมาก รักจนยอมมอบทุกอย่างให้กับเธอ รักจนยอมตายไปพร้อมกับเธอเธอคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่หล
ซูหว่านพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ก็ได้ค่ะ ฉันเอาตามที่คุณพูด ตอนนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นเครื่องบิน ก็ต้องขึ้นรถพยาบาลก่อน..."ถ้ายังไม่ห้ามเลือดอีก เขาจะทนไม่ไหวเอา จี้ซือหานเห็นว่าเธอเป็นห่วงเขา ถึงได้จับมือเธอขึ้นเครื่องบินอย่างว่าง่ายคืนนี้ ซูหว่านเฝ้าอยู่ข้างกายจี้ซือหาน รอหมอห้ามเลือด เย็บแผล เปลี่ยนยาให้เขาเสร็จ เธอถึงได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง ซูหว่านก็รู้สึกว่าไม่น่าจะจัดงานแต่งได้ จึงเอ่ยข้อเสนอกับเขา "หรือเลื่อนออกไปวันนึงไหม"ชายหนุ่มที่ถือผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เธอ พูดด้วยความแน่วแน่ "ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องจัดงานแต่ง!"ซูหว่านที่เพิ่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ อุงไอน้ำร้อนๆในมือ หันกลับไปมองเขา "แต่แผลของคุณ..."จี้ซือหานพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ต่อให้แผลจะใหญ่กว่านี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการจัดงานแต่ง"ซูหว่านยังอยากพูดอะไรอีก แต่จี้ซือหานหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้เธอจากนั้น ขับรถไปส่งเธอที่วิลล่าของซานซานด้วยตัวเอง โดยไม่สนคำทัดท้านของเธอ"สิบเอ็ดโมง ฉันจะพาคนของตระกูลจี้ มารับเธอ"กำหนดการณ์เดิมคือสิบโมง แต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป อยากให้เธอพักผ่อนกว่านี้อีกหน่อย ชาย
จี้ซือหานกอดเธอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดจนชา ก็ค่อยๆสงบลงเขาคลายซูหว่านออก เห็นร่างกายของเธอเปียกปอนไปทั้งตัว ทั้งยังสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก"คนที่ควรพูดขอโทษคือฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""คุณพูดอะไรโง่ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ"ซูหว่านพูดจบ ก้มหน้าลงมองมือตัวเองแวบนึง เมื่อเห็นเลือดที่เลอะเต็มมือ ใบหน้าก็ซีดไปทันที"แผลที่หลังของคุณฉีกแล้ว รีบขึ้นรถพยาบาลเถอะ..."เมื่อกี้เธอนึกว่าเป็นน้ำทะเล ไม่คิดว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเลือด แผลที่หลังจะต้องฉีกออกแล้วแน่ๆ!ซูหว่านควงแขนของเขาได้ ก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางของรถพยาบาล ทว่าจี้ซือหานกลับดึงเธอกลับมา"หว่านหว่าน แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก"เขาพูดจบ ก็มองเจียงโม่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลแวบนึง"จับตัวเธอ แล้วค่อยแจ้งคุณเจียง ให้เขามาไถ่ตัวด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ปลดชีวิตเธอซะ!"คำพูดนั้นเขาพูดกับซูชิง ซูชิงรีบรับคำสั่งทันที "ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!"เจียงโม่ที่คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าคุณเย่ไม่มีทางปล่อยเธอ เห็นซ
ซูหว่านครุ่นคิด ก่อนจะถามเขา "คุณแซ่ชู งั้นคุณรู้จัก..."ชูยีไหม?ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำนี้ออกไป ก็ถูกชูจิ่นเหยียนตัดบท "ผมจะส่งคุณกลับไป"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็กลืนคำพูดลงไป ขมวดคิ้วมองเขา "ลำบากแทบตายกว่าฉันจะหนีออกมาได้ จะส่งกลับไปทำไม?"ชูจิ่นเหยียนกรอกตาใส่เธออย่างหมดคำพูด "ผมหมายความว่า จะส่งคุณกลับบ้าน..."ซูหว่านจึงได้พยักหน้า ลุกขึ้นจากหาดทราย เธอต้องรีบกลับไปบอกจี้ซือหาน...ว่าเธอหนีออกมาแล้ว เธอปลอดภัย เธอไม่ได้กลายเป็นภาระของเขา และเขาก็ไม่ต้องถูกแบล็กเมล์อีกหลังจากที่เธอขึ้นฝั่งมากับชูจิ่นเหยียน ก็เห็นรถพยาบาลคันแล้วคันเล่าขับตรงไปยังบีชคลับอย่างรวดเร็วฝีเท้าของเธอชะงัก ช้อนสายตามองไปยังชายหาดที่อยู่ห่างไกล มองเห็นร่างมนุษย์ไม่ชัด เห็นแต่เรือลำเล็กลำใหญ่แล่นลงทะเลทีละลำซูหว่านทอดสายตาลงต่ำครุ่นคิดอยู่สักครู่ เอาแต่รู้สึกว่าเจียงโม่ไม่น่าจะส่งคนจำนวนมากขนาดนั้นมาตามหาและช่วยชีวิตเธอ หรือว่าจี้ซือหานมาแล้ว?ถ้าจี้ซือหานมาถึงแล้ว รู้ว่าเธอกระโดดลงทะเล เกรงว่าจะทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดมาถึงตรงนี้ซูหว่านก็เปลี่ยนความคิด"เราไปดูตรงนู้นหน่อยเถอะ?"ไปดูแปบนึง ถ้าจี้
ซูหว่านที่พยายามหนีถึงสามครั้งแต่ก็ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้ง หันกลับมามองเจียงโม่ที่เดินตามหลังเป็นระยะๆเธอเห็นเอาแต่รับโทรศัพท์ตลอดเวลา ราวกับกำลังปรึกษาเรื่องอะไรอยู่ เพราะระยะค่อนข้างห่าง จึงได้ยินไม่ชัด แต่บางครั้งก็จะได้ยินแค่ชื่อของจี้ซือหานเธอไม่รู้ว่าจี้ซือหานรับปากหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระของจี้ซือหานไม่ได้เธอมองไปยังผืนน้ำทะเลที่สาดเป็นคลื่นดุเดือด หลังจากมองอยู่หลายอึดใจ ก็กระโดดเข้าไปในทะเลโดยไม่ลังเล...เธอเคยพูดว่าถ้าหากมีใครเอาตัวเธอเพื่อไปข่มขู่จี้ซือหาน ถ้างั้นเธอก็จะไม่ยอมกลายเป็นตัวถ่วงของเขาเด็ดขาดเจียงโม่ที่กำลังเกลี้ยกล่อมพ่อบุญธรรมว่าอย่าแบล็กเมลล์จี้ซือหานอีก ได้เห็นภาพช็อตนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดในทันที"ซูหว่าน!"เธอกรีดร้องออกมาทีนึง โยนโทรศัพท์แล้วพุ่งลงไปในทะเลเพื่อช่วยชีวิต ทว่าถูกร่างใครบางคนพุ่งตัดหน้าเข้ามาก่อน...เสียงกระโดดลงทะเลดัง "ตู้ม" ของชูจิ่นเหยียน ว่ายเข้าไปหาร่างเล็กบางที่พุ่งเข้าไปในคลื่นทะเลด้วยความแข็งขันเจียงโม่ที่อยู่บนชายหาด ตอนแรกยังพอจะเห็นร่างของทั้งสองคนลอยอยู่เหนือผิวน
ฝีเท้าของซูหว่านชะงักไปทันทีเธออยากจะหันกลับไปโต้ตอบเขาสักสองสามประโยค แต่ก็กลัวจะเสียเวลา จึงไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แต่ผลักประตูห้องน้ำหญิงด้วยความรวดเร็วหลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว ก็เดินสำรวจห้องน้ำรอบนึง เมื่อเห็นว่าด้านข้างมีหน้าต่างบานเล็ก ก็รีบเดินเข้าไปแล้วเปิดออกข้างนอกเป็นถนนหลวง แค่ปีนออกจากตรงนี้ไป ก็จะสามารถเดินไปถึงถนนหลวงได้ และโอกาสที่จะหนีรอดก็สูงมากทีเดียวเธอเองก็ขี้เกียจมานั่งคิดว่าหลังจากเดินไปถนนหลวงแล้วจะกลับไปยังไง จึงพับแขนเสื้อขึ้น แล้วปีนไปยังขอบหน้าต่างสูงชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนถนนหลวง เขางอขาข้างหนึ่งขึ้น มือข้างหนึ่งทาบบนเข่า กำลังสูบบุหรี่ไปพร้อมกับที่มองดูเธอปีนออกไปนอกหน้าต่างพิลึกคน!ถ้าอยากจะออก ก็เดินผ่านคลับ ออกจากมาประตูหลัก หรือไม่ก็ข้ามชายหาดมาก็ได้แล้ว ทำไมต้องปีนหน้าต่าง?"นี่!"เขาแหกปากคำนึง ทำเอาซูหว่านตกใจจนตกลงมาจากบนขอบหน้าต่าง...ซูหว่านล้มลงอย่างแรง เธอหน้าบูดบึ้งเนื่องจากความเจ็บปวด โชคดีที่ด้านล่างเต็มไปด้วยทราย ไม่อย่างนั้นคงได้กระดูกหักเธอตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น จ้องผู้ชายที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนถนนหลวงตาเขม็ง "นายเป็นโรคหรือไง
เจียงโม่ไม่หลงกล ซูหว่านจึงใช้เล่นแง่ในทางความรู้สึกแทน"คุณหนูเจียง คุณก็รู้ว่าคนที่จี้ซือหานแคร์ มีแต่ฉันมาโดยตลอด""คุณกักตัวเพื่อนของฉันไม่ยอมปล่อย ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ ทำไมต้องให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มารับเคราะห์ด้วยล่ะ?"เจียงโม่จ้องดวงตาใสบริสุทธิ์ของซูหว่านนานอยู่สักพัก จากนั้นก็โบกมือ "ช่างเถอะ แค่คุณอยู่ก็พอแล้วล่ะ"เธอส่งคนไปโทรศัพท์ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายวางสาย ก็หันมาพยักหน้าให้เธอ แล้วจึงอธิบายให้ซูหว่านฟัง"เพื่อนของคุณไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัว ฉันก็แค่ส่งคนไปก่อกวนพวกเขานิดหน่อย หลังจากที่คุณกลับไป อย่าพูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกัน"สรุปว่าที่ซานซานออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ที่อลันกับซีอี้ไม่ได้มาที่วิลล่า ไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัว แต่ถูกคนของเจียงโม่สร้างสถานการณ์แต่ว่า ฟังจากความหมายของเจียงโม่ ถ้าเธอไม่มาล่ะก็ คตที่สร้างสถานการณ์กลุ่มนั้น จะต้องลงมือกับพวกซานซานเป็นแน่...เพียงแต่เพราะเจียงโม่คำนึงถึงจี้ซือหานหรือเธอ ถึงได้เลือกใช้วิธีนุ่มนวล ไม่งั้นลักพาตัวไปเลยก็จะง่ายกว่า...แต่ไม่ว่าคนที่เจียงโม่คำนึงเป็นใคร หรือไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ซูหว่านฟังเข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของเจียงโม่ ก็ถามเธอว่า "ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?"เจียงโม่อ่านความคิดของเธอออกทันที "คุณซู คิดถึงสถานการณ์ของเพื่อนคุณให้มากหน่อยก็ดีค่ะ"ความหมายอีกอย่างก็คือ มีชีวิตของเพื่อนเธออยู่ในกำมือ ถึงเธอจะใช้ข้ออ้างไปบอกบอดี้การ์ด หรือแหกปากร้องตะโกนก็ไม่มีประโยชน์ซูหว่านครุ่นคิด ปล่อยมือที่ประคองประตูรถมาตลอดลง ไพล่ไว้ด้านหลัง ทำสัญลักษณ์ให้กับบอดี้การ์ดหลังจากที่เธอส่งสัญญาณมือโดยเงียบเชียบเสร็จ ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเห็นเธอขึ้นรถมาแต่โดยดี เจียงโม่ก็เขี่ยซิก้าร์ในมือจนมอด จากนั้นสตาร์ทรถ...ตอนที่เธอเหยียบคันเร่ง มองกระจกมองหลังแวบนึง บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นตามมาดังคาดเจียงโม่ดึงสายตากลับ เหยียบคันเร่งจนมิด เลี้ยวผ่านไปไม่กี่โค้งก็สลัดบอดี้การ์ดสำเร็จถึงยังไงก็เป็นถึงระดับหัวหน้าของทีมย่อยในS การที่เจียงโม่สลัดบอดี้การ์ดทิ้งได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากซูหว่านกำเข็มขัดนิรภัยแน่นถึงไม่โดนสะบัดออกจากรถไป ทว่าความรู้สึกพะอืดพะอมในท้องกลับทำให้เธออยากอ้วกเธอกุมหน้าอกที่เต้นระรัว อดกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ มองไปย
นิ้วของเจียงโม่ที่คีบซิการ์ เคาะขี้เถ้าเบาๆ"คุณซู มีใครเค้าพาสามีไปร่วมปาร์ตี้คนโสดกันบ้าง?"การที่เจียงโม่จะปฏิเสธ เป็นสิ่งที่คาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ทำไมล่ะ?ที่เจียงโม่เชิญเธอไปร่วมงานปาร์ตี้คนโสด ก็เพราะอยากให้เธอสอนว่าจะจีบเจียงเจ๋อยังไงไม่ใช่หรอ?งั้นถ้าเธอจะพาจี้ซือหานไปด้วย ก็ไม่ได้หน่วงต่อการสอนเจียงโม่จีบเจียงเจ๋อไม่ใช่หรอ?เธอคิดว่าบางทีเจียงโม่อาจจะอยากอาศัยปาร์ตี้นี้เพื่อพาตัวเธอไป ส่วนเป้าหมายคืออะไร เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงเจ๋อคุยกับจี้ซือหานหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ดังนั้น ก็มองเจียงโม่ด้วยสายตาที่จริงใจ"คุณหนูเจียง ฉันกับจี้ซือหานถูๆไถๆกันมาเกือบสิบปี กว่าจะได้แต่งงานกันไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก่อนวันแต่งงาน""พรุ่งนี้เช้า ฉันแค่อยอยากสวมชุดแต่งงานที่เขาส่งมาให้ แต่งให้เขาด้วยสภาพร่างกายจิตใจที่สมบูรณ์แบบที่สุด หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้เราสมหวังด้วย"ตอนที่พูดสิ่งเหล่านี้ เธอเห็นสีหน้าของเจียงโม่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจียงโม่มีจุดประสงค์อย่างแท้จริง จึงยกริมฝีปากยิ้ม"คุณหนูเจียง ถ้าคุณอยากให้ฉันสอนคุณจีบ