ซูหว่าน "..."เธอสงสัยว่าจี้ซือหานจงใจ ก็กัดฟันค้อนใส่เขา "คุณไม่มีมือหรือไง?"จี้ซือหานเห็นเธอหูแดงระเรื่อ มุมปากก็ยกยิ้มขึ้นอ่อนๆ "ฉันอยากให้เธอช่วย"ซูหว่านสูดหายใจลึก ยกมือขาวนุ่มขึ้นถอดแว่นออกจากสันจมูกให้เขาอย่างมีความอดทนทันทีที่ถอดออก ก็เห็นชายหนุ่มหันหน้ามาจูบลงบนริมฝีปากของเธอ ริมฝีปากบางที่ดื่มด่ำอยู่นั้น สำรวจอย่างบ้าคลั่งขณะที่จูบเธอ ก็เอื้อมมือไปจับเอวของเธอ ดึงเธอให้เข้าใกล้ร่างของเขา ลมหายใจที่คลอเคลีย ลอยมาจากระหว่างริมฝีปากและฟันมือทั้งสองข้างของซูหว่านกดตรงบริเวณหน้าอกของเขา ออกแรงผลักเขาออก แต่ไม่ว่ายังไงก็ผลักไปออก จึงได้แต่ช้อนดวงตาขึ้นจ้องเขา...เมื่อจี้ซือหานจูบจนตัวเองแทบจะหมดลมหายใจแล้ว ถึงได้คลายหญิงสาวในอ้อมกอดที่ทำให้เขาเสพติดราวกับดอกป็อบปี้ออกอย่างอาวรณ์เขาลิ้มรสชาติของเธอมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ทุกครั้งก็ทำเขาอารมณ์ค้างเสมอ คงเพราะรักผู้หญิงคนนี้จนหมดหัวใจเท่านั้น ที่จะทำให้เขาเป็นแบบนี้ได้เขามองซูหว่านที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอหอบหายใจพร้อมกับถลึงตาใส่เขาไปด้วย ในแววตาของชายหนุ่มก็เผยสีหน้าเหมือนกับชีวิตนี้เขาต้องการเธอเท่านั้น"หว่านหว่าน เอาโทรศ
ชายหนุ่มปรายตาลงมองข้อความเล็กน้อย แล้วค่อยๆช้อนสายตาขึ้นมองเธอ"เธอเป็นห่วงฉัน?"น้ำเสียงเกียจคร้านของเขา แฝงไว้ด้วยความเซ็กซี่ ราวกับจงใจสะกดเธอ ให้พูดคำตอบที่เขาอยากได้ยินออกมาแต่ซูหว่านไม่ได้ต้องมนสะกด เพียงจ้องเขาขึ้นลงอย่างประเมิน...ดวงตาคมที่ลึกล้ำ แม้จะหายแดงแล้ว แต่ก็ยังทิ้งรอยเส้นเลือดจางๆไว้อยู่ริมฝีปากบางที่ประทับลงบนริมฝีปากสีแดงของเธอ มองไม่เห็นสีเดิมเลย แต่ใบหน้าหล่อเหลานั่นยังเผยให้เห็นสีขาวซีดที่ไม่ปกติซูหว่านเห็นเขาในสภาพนี้ แววตาก็เผยความรู้สึกที่ซับซ้อน ขณะที่ริมฝีปากแดงเผยอออก อยากจะพูด จู่ๆเขาก็โน้มตัวเข้ามาหากลิ่นหอมซีดาร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาลอยเข้ามา ทำให้หัวใจของซูหว่านสั่น แนบตัวติดกับหน้าต่างด้วยความเกร็งแผ่นหลังของเธอเพิ่งจะติดกับหน้าต่างรถ ก็เห็นปลายนิ้วที่ถูกตัดแต่งอย่างเรียบร้อย ลูบผ่านแก้มเบาๆ ไปคร่อมกับหน้าต่างรถหลังจากชายหนุ่มต้อนเธอแล้ว ก็ทอดสายตาลงมา "หว่านหว่าน ตอบฉัน..."ขณะที่ใบหน้างดงามประณีตนั่นเข้ามาใกล้สายตา ซูหว่านก็เข้าไปอยู่ในดวงตาที่ระยิบระยับราวกับมีดวงดาวอยู่เต็มท้องฟ้าคู่นั้นพอดีแสงดวงดาวระยิบระยับนั่นเข้ามาในดวงตาข
คำว่า "อ้อ" ที่แฝงความนัย ทำให้ซูหว่านกระอักกระอ่วนขั้นสุดยังไม่ทันจะได้แก้ตัว อลันก็เอ่ยคำที่น่าอายกว่านั้นออกมา"หว่านหว่าน เธอไม่ต้องห่วง ร่างกายของประธานจี้ยังแข็งแรงกำยำมาก ไม่กระทบต่อการมีลูกของพวกเธอสักนิด"ซูหว่าน "..."เธอเป็นห่วงเรื่องลูกหรือไง?เธอเธอเธอ...ซูหว่านช้อนสายตาขึ้นมองจี้ซือหานที่ต้อนเธอจนมุม พอเห็นสีหน้าแข็งทื่อของเขา คำพูดที่อยากจะโต้ตอบเขา จู่ๆก็ถูกกลืนลงไปจี้ซือหานตัดสาย คืนโทรศัพท์ให้เธอ จากนั้นยกมือขึ้นลูบผมของเธอ จากนั้นปล่อยเธอออก แล้วนั่งตัวตรงเขาไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น สตาร์ทรถเงียบๆ แล้วขับไปยังวิลล่าของซานซาน...บรรยากาศที่คลุมเครือในรถจางหายไป มีแต่ความอ้างว้างบนใบหน้าของชายหนุ่ม ที่ทําให้พื้นแคบๆ เต็มไปด้วยความเศร้าโศกหางตาของซูหว่านลอบสังเกตเขา มองไปได้แค่แวบเดียว ชายหนุ่มก็คลายมือจากพวงมาลัยมาจับมือเธอไว้นิ้วเรียวยาว ลอดผ่านฝ่ามือของเธอประสานนิ้วทั้งสิบเข้ากับเธออีกครั้งน้ำหนักที่จับไว้ไม่ปล่อย ทำให้ซูหว่านหันข้างไปมองเขาที่ขับรถด้วยมือเดียว"คุณ...""หว่านหว่าน เธอจะต้องมีลูกแน่ ต้องมีแน่"ตอนที่เขาพูดประโยคนั้น ไม่กล้าเข้าใกล้
ภายใต้แสงไฟบนถนนที่มืดสลัว ชายหนุ่มที่มีรูปร่างสวยงามกอดหญิงสาวตัวเล็ก และจูบเธออย่างลึกซึ้งโดยไม่สนใจอะไรซูหว่านถูกบังคับให้เชยคางขึ้น รับจูบอันบ้าคลั่งของเขา ดวงตาเป็นประกายจ้องมองเขานิ่ง"จี้ซือหาน"ตอนที่เขาผละออกจากริมฝีปากและฟันเบาๆ ซูหว่านอาศัยจังหวะนั้นผลักเขา "คุณกำลังทำอะไรอีก?"ความมัวเมาในแววตาของจี้ซือหานยังไม่หายไป เมื่อได้ยินคำถามของเธอ ก็ค่อยๆระงับตัณหา "ขอโทษ"เขาปล่อยเอวบางที่กอดรัด ถอยหลังไปก้าวนึง รักษาระยะห่างกับเธอ จู่ก็รู้สึกตัวเซโชคดีที่ด้านหลังมีรถ เขาก็เลยไม่ได้เสียหลัก อาศัยแรงของประตูรถ พิงอยู่บนนั้น...ความปวดหัวที่ติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้เขาควบคุมไม่ได้ ยกนิ้วเรียวยาวขึ้นหวังจะนวดขมับ...ขณะที่สายตาปะทะเข้ากับหญิงสาวตรงหน้า มือที่ยกขึ้นกลางอากาศได้ครึ่งนึง ก็เปลี่ยนไปลูบผมสั้นของเธอเขาฝืนทนความเจ็บปวดที่ลึกถึงกระดูก พูดกับเธอเสียงแหบพร่า "หว่านหว่าน รถนี่ให้เธอ ฉันไม่เอาคืน ตอนนี้เธอไม่อยากขับก็ไม่เป็นไร รอวันไหนที่เธออยากขับ ก็ค่อยขับ"เขาพูดจบก็ดึงนิ้วกลับมาอย่างรวดเร็ว หยิบกุญแจรถออกมาวางลงบนฝ่ามือของเธอ จากนั้นพูดเบาๆ "ฉันกลับไปก่อน เธอพัก
ตอนนี้เธอมีเงินจากโปรเจคองค์การนาซ่า ทรัพย์สินประมาณห้าสิบล้าน มากพอที่จะคืนน้ำใจของอาจารย์เสิ่น...หลายเดือนที่ผ่านมา ถ้าไม่ใช่การชี้แนะที่ "ใส่ใจ" และ "คมคาย" ของเขา เธอก็คงเติบโตขึ้นมาไม่เร็วขนาดนี้ทำเรื่องเหล่านี้เสร็จ ซูหว่านเปิดคอมพิวเตอร์ เปิดซอฟแวร์ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง และวิดีโอเรียนรู้ด้วยตัวเอง...เธอแจ้งเกิดมาจากการออกแบบ ซอฟแวร์พวกนี้ล้วนเคยเรียนมาแล้ว ตอนนี้แค่ทบทวนสองสามรอบ ก็น่าจะจำได้ตอนนี้เธอเร่งการก่อสร้างโปรเจค ออกภาพร่างได้แค่ใบเดียว ต่อไปเมื่อทำโปรเจคของพี่สาวเสร็จแล้ว เธอต้องรับโปรเจคต่อแน่นอนถ้างั้นก็มีแต่ต้องทำเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่แบบร่างไปจนถึงรูปเอฟเฟ็ก ถึงจะเรียนรู้ทุกขั้นตอนได้อย่างรวดเร็วและแจ่มแจ้งเธอรู้จนถึงห้าทุ่ม เพื่อรักษาดวงตา เธอปิดคอมตรงเวลา ลุกขึ้นกลับไปพักผ่อนที่ห้องนอนพระอาทิตย์ขึ้นยามฟ้าสาง โทรศัพท์ที่วางอยู่โต๊ะหัวเตียงก็สั่นเล็กน้อย ทำให้ซูหว่านที่กำลังหลับสบายสะดุ้งตื่นเธอคว้าโทรศัพท์ แล้วดูข้อความที่ "คุณเย่" ส่งมาอย่างสะลึมสะลือ[หว่านหว่าน ตื่นหรือยัง?]ซูหว่านที่มุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม พลิกตัวตะแคงพิมพ์ข้อความ[ตื่นแล้
เธอยืนอยู่หน้าประตูวิลล่า ยืนอยู่สักพัก ก็เห็นรถของจี้ซือหานขับมาตรงหน้าเธอหน้าต่างรถลดลงมา แสงอาทิตย์ส่องเข้าไปในรถ เผยให้เห็นใบหน้าคมสัน เครื่องหน้าประณีตแว่นกันแดดสีดำแนบอยู่บนสันจมูกของเขา ตอนที่หันข้างมามองเธอ ทำให้เห็นแววตาไม่ชัดเจนนักเขาผลักประตูออก ลงมาจากรถ รูปร่างสูงโปร่งบอดบังซูหว่านไว้ใต้ร่างกายเขาปรายตาต่ำสำรวจหญิงสาวที่แผ่ออร่าความบริสุทธิ์อย่างละเอียด ผ่านแว่นกันแดด"หว่านหว่าน วันนี้...เธอ"เขาโน้มตัวลง เอียงศีรษะเข้ามาใกล้ใบหูของเธอ แล้วพูดเย้ายวน "สวยมาก"ซูหว่านยกมือขึ้นปิดใบหู รักษาระยะห่างลมหายใจอุ่นๆให้อยู่หลังมือ"คุณ...ทุกครั้งไม่ต้องพูดใกล้ขนาดนี้ได้ไหม ฉันไม่ได้หูหนวกสักหน่อย..."ริมฝีปากบางของชายหนุ่มที่เม้มอยู่เบาๆ ก็ค่อยๆยกยิ้มมุมปากเขาลูบผมจุกของเธออ่อนโยนอย่างรักใคร่ "ผมของเธอยาวแล้ว..."น่าจะไม่ต้องรอนาน ก็ได้เห็นเธอที่เคยผมยาวเท่าเอวแล้วมั้งหวังว่า...เขาจะรอจนได้เห็นเขาจูงมือซูหว่านที่ไม่ได้พูดอะไร เปิดประตูข้างคนขับ ให้เธอขึ้นรถ จากนั้นหยิบช่อดอกไม้จากหลังรถส่องให้เธอเมื่อซูหว่านเห็นกุหลาบpink o'haraที่สวยงามอ่อนช้อย ก็ช้อนสายตาขึ
เขาพาซูหว่านมายังแผนกขายอัญมณี แล้วก็ถามเพียงว่า "มีอันไหนที่ถูกใจไหม"หลังจากได้รับคำปฏิเสธ เขาก็ไม่ได้ถามอะไรอีก แต่บอกให้พนักงานขายส่งอัญมณีดีไซน์ใหม่ล่าสุดไปให้ที่คฤหาสน์แทนหลังจากที่พนักงานขายมองไปที่ซูหว่านอย่างอิจฉาแล้วก็ตอบกลับอย่างเคารพว่า "ได้ค่ะ ประธานจี้..."ซูหว่านที่ถูกจี้ซือหานเดินจูงมือออกจากแผนกขายอัญมณี มองตามแผ่นหลังเขาไปอย่างอึ้งๆให้รถ ให้ดอกไม้ ให้เครื่องประดับ ต่อไปคงไม่ได้จะให้เสื้อผ้าเธออีกหรอกนะ?และก็เป็นอย่างที่ซูหว่านคิด จี้ซือหานพาเธอเดินไปยังโซนสำหรับสั่งตัดชุดหรู ครั้งนี้เขาเหมาทั้งหมดโดยไม่ถามอะไรสักคำเมื่อเห็นพนักงานร้านกำลังวุ่นวายกับการช่วยเอาเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าใส่กล่องให้กับเธอ ซูหว่านก็ได้แต่เอามือกุมหัวเธอก้มหน้าลงมองไปยังชายหนุ่มที่กำลังนั่งคุกเข่าข้างหนึ่งช่วยเธอลองรองเท้าแก้วอยู่ "คุณไปเรียนรู้วิธีการพวกนี้มาจากไหนเนี่ย?"เธอคิดว่าจากนิสัยและการกระทำที่ผ่านมาของจี้ซือหานแล้ว เขาไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่ คงจะต้องมีคนคอยช่วยสอนวิธีการบ้าบอนี้ให้เขาอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอนนิ้วมือที่กำลังจับรองเท้าแก้วอยู่ของจี้ซือหานชะงักไปเล็กน
ที่จี้รั่วซีมาแสดงตัวก็เพราะอยากที่จะเห็นหน้าของซูหว่านเท่านั้น ตอนนี้ก็ได้เห็นแล้ว จึงหมุนตัวเดินออกไปอย่างรู้งานเมื่อมองตามแผ่นหลังสง่างามนั้นไป จิตใจที่ว้าวุ่นกระวนกระวายของซูหว่านก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง...เธอเข้าใจว่าคนของตระกูลจี้จะเป็นเหมือนกับเหลียนซิงหรูที่ดูถูกเหยียดหยามเธอ กระทั่งพูดจาไม่น่าฟังกับเธอคิดไม่ถึงเลยว่าพี่ใหญ่ของจี้ซือหานจะเป็นคนจิตใจดีสง่างามถึงเพียงนี้ ไม่มีความหยิ่งผยองถือตัวเลยสักนิดเธอช่างเป็นลูกหลานคนมีตระกูลที่ได้รับการอบรมมาและได้รับการศึกษามาอย่างดีจริงๆจี้ซือหานก้มหน้าลง ถามไปยังผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง "หว่านหว่าน จะกลับไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้านตระกูลจี้กับผมเมื่อไรดี?"ซูหว่านเงยดวงตาที่สดใสของตัวเองขึ้น จ้องมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ตินั้น แล้วแอบพูดกับตัวเองอยู่ในใจว่า ไว้ก่อนตอนนี้เธอยังไม่ถึงจุดที่สามารถจะคู่ควรกับเขา อีกทั้งสามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงตระกูลจี้ได้เขาไม่ได้รับการตอบกลับจากเธอ แต่ก็เห็นว่าเธอยื่นมือออกมารับเอาถุงกระดาษจากมือเขาไป นั่นก็หมายความว่าเธอได้ตกลงแล้วจี้ซือหานกอดเอวของเธอไว้ ให้เธอแนบชิดกับร่างกายของเขาแล้วก็
ช่างเสื้อหยิบชุดเจ้าสาวชุดนั้นลงมา เมื่อสัมผัสโดนเนื้อผ้าและเพชรที่ประดับอยู่ด้านบน ก็อึ้งไปชุดแต่งงานชุดนี้เต็มไปด้วยผ้ากอซสีอ่อนหลายชั้น ประดับด้วยดอกกุหลาบและเพชรที่ทอจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเป็นสีขาวคริสตัลเรียบง่ายและวิจิตรงดงามด้วยเพชรที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่องประกายด้วยเสน่ห์อันงดงามและสง่างามจนน่าทึ่งถ้าดูไม่ผิด หากอ่านไม่ผิด นี่คือชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวในโลกที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกหลายปีก่อน ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกเก็บเอาไว้ในห้องนิทรรศการที่ต่างประเทศ แต่ต่อมาได้ยินว่าถูกคนซื้อไปในราคาสูงลิ่วคิดไม่ถึงว่าคนที่ซื้อชุดเจ้าสาวไป จะเป็นท่านประธานของกลุ่มบริษัทจี้ ถ้าไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง จะยอมจ่ายหนักขนาดนี้ได้ยังไง?ที่สำคัญอีกชุดนึงที่อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เดาว่าก็น่าจะมีแค่ชุดเดียว ไม่ซ้ำใคร"คุณนายจี้ ท่าทางคุณผู้ชายจะรักคุณมากเลยนะคะ..."ซูหว่านได้ยินคำพูดของช่างเสื้อ ก็พยักหน้าอย่างไม่ปิดบังผู้ชายคนนั้นรักเธอมาก รักจนยอมมอบทุกอย่างให้กับเธอ รักจนยอมตายไปพร้อมกับเธอเธอคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่หล
ซูหว่านพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ก็ได้ค่ะ ฉันเอาตามที่คุณพูด ตอนนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นเครื่องบิน ก็ต้องขึ้นรถพยาบาลก่อน..."ถ้ายังไม่ห้ามเลือดอีก เขาจะทนไม่ไหวเอา จี้ซือหานเห็นว่าเธอเป็นห่วงเขา ถึงได้จับมือเธอขึ้นเครื่องบินอย่างว่าง่ายคืนนี้ ซูหว่านเฝ้าอยู่ข้างกายจี้ซือหาน รอหมอห้ามเลือด เย็บแผล เปลี่ยนยาให้เขาเสร็จ เธอถึงได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง ซูหว่านก็รู้สึกว่าไม่น่าจะจัดงานแต่งได้ จึงเอ่ยข้อเสนอกับเขา "หรือเลื่อนออกไปวันนึงไหม"ชายหนุ่มที่ถือผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เธอ พูดด้วยความแน่วแน่ "ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องจัดงานแต่ง!"ซูหว่านที่เพิ่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ อุงไอน้ำร้อนๆในมือ หันกลับไปมองเขา "แต่แผลของคุณ..."จี้ซือหานพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ต่อให้แผลจะใหญ่กว่านี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการจัดงานแต่ง"ซูหว่านยังอยากพูดอะไรอีก แต่จี้ซือหานหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้เธอจากนั้น ขับรถไปส่งเธอที่วิลล่าของซานซานด้วยตัวเอง โดยไม่สนคำทัดท้านของเธอ"สิบเอ็ดโมง ฉันจะพาคนของตระกูลจี้ มารับเธอ"กำหนดการณ์เดิมคือสิบโมง แต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป อยากให้เธอพักผ่อนกว่านี้อีกหน่อย ชาย
จี้ซือหานกอดเธอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดจนชา ก็ค่อยๆสงบลงเขาคลายซูหว่านออก เห็นร่างกายของเธอเปียกปอนไปทั้งตัว ทั้งยังสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก"คนที่ควรพูดขอโทษคือฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""คุณพูดอะไรโง่ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ"ซูหว่านพูดจบ ก้มหน้าลงมองมือตัวเองแวบนึง เมื่อเห็นเลือดที่เลอะเต็มมือ ใบหน้าก็ซีดไปทันที"แผลที่หลังของคุณฉีกแล้ว รีบขึ้นรถพยาบาลเถอะ..."เมื่อกี้เธอนึกว่าเป็นน้ำทะเล ไม่คิดว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเลือด แผลที่หลังจะต้องฉีกออกแล้วแน่ๆ!ซูหว่านควงแขนของเขาได้ ก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางของรถพยาบาล ทว่าจี้ซือหานกลับดึงเธอกลับมา"หว่านหว่าน แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก"เขาพูดจบ ก็มองเจียงโม่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลแวบนึง"จับตัวเธอ แล้วค่อยแจ้งคุณเจียง ให้เขามาไถ่ตัวด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ปลดชีวิตเธอซะ!"คำพูดนั้นเขาพูดกับซูชิง ซูชิงรีบรับคำสั่งทันที "ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!"เจียงโม่ที่คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าคุณเย่ไม่มีทางปล่อยเธอ เห็นซ
ซูหว่านครุ่นคิด ก่อนจะถามเขา "คุณแซ่ชู งั้นคุณรู้จัก..."ชูยีไหม?ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำนี้ออกไป ก็ถูกชูจิ่นเหยียนตัดบท "ผมจะส่งคุณกลับไป"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็กลืนคำพูดลงไป ขมวดคิ้วมองเขา "ลำบากแทบตายกว่าฉันจะหนีออกมาได้ จะส่งกลับไปทำไม?"ชูจิ่นเหยียนกรอกตาใส่เธออย่างหมดคำพูด "ผมหมายความว่า จะส่งคุณกลับบ้าน..."ซูหว่านจึงได้พยักหน้า ลุกขึ้นจากหาดทราย เธอต้องรีบกลับไปบอกจี้ซือหาน...ว่าเธอหนีออกมาแล้ว เธอปลอดภัย เธอไม่ได้กลายเป็นภาระของเขา และเขาก็ไม่ต้องถูกแบล็กเมล์อีกหลังจากที่เธอขึ้นฝั่งมากับชูจิ่นเหยียน ก็เห็นรถพยาบาลคันแล้วคันเล่าขับตรงไปยังบีชคลับอย่างรวดเร็วฝีเท้าของเธอชะงัก ช้อนสายตามองไปยังชายหาดที่อยู่ห่างไกล มองเห็นร่างมนุษย์ไม่ชัด เห็นแต่เรือลำเล็กลำใหญ่แล่นลงทะเลทีละลำซูหว่านทอดสายตาลงต่ำครุ่นคิดอยู่สักครู่ เอาแต่รู้สึกว่าเจียงโม่ไม่น่าจะส่งคนจำนวนมากขนาดนั้นมาตามหาและช่วยชีวิตเธอ หรือว่าจี้ซือหานมาแล้ว?ถ้าจี้ซือหานมาถึงแล้ว รู้ว่าเธอกระโดดลงทะเล เกรงว่าจะทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดมาถึงตรงนี้ซูหว่านก็เปลี่ยนความคิด"เราไปดูตรงนู้นหน่อยเถอะ?"ไปดูแปบนึง ถ้าจี้
ซูหว่านที่พยายามหนีถึงสามครั้งแต่ก็ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้ง หันกลับมามองเจียงโม่ที่เดินตามหลังเป็นระยะๆเธอเห็นเอาแต่รับโทรศัพท์ตลอดเวลา ราวกับกำลังปรึกษาเรื่องอะไรอยู่ เพราะระยะค่อนข้างห่าง จึงได้ยินไม่ชัด แต่บางครั้งก็จะได้ยินแค่ชื่อของจี้ซือหานเธอไม่รู้ว่าจี้ซือหานรับปากหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระของจี้ซือหานไม่ได้เธอมองไปยังผืนน้ำทะเลที่สาดเป็นคลื่นดุเดือด หลังจากมองอยู่หลายอึดใจ ก็กระโดดเข้าไปในทะเลโดยไม่ลังเล...เธอเคยพูดว่าถ้าหากมีใครเอาตัวเธอเพื่อไปข่มขู่จี้ซือหาน ถ้างั้นเธอก็จะไม่ยอมกลายเป็นตัวถ่วงของเขาเด็ดขาดเจียงโม่ที่กำลังเกลี้ยกล่อมพ่อบุญธรรมว่าอย่าแบล็กเมลล์จี้ซือหานอีก ได้เห็นภาพช็อตนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดในทันที"ซูหว่าน!"เธอกรีดร้องออกมาทีนึง โยนโทรศัพท์แล้วพุ่งลงไปในทะเลเพื่อช่วยชีวิต ทว่าถูกร่างใครบางคนพุ่งตัดหน้าเข้ามาก่อน...เสียงกระโดดลงทะเลดัง "ตู้ม" ของชูจิ่นเหยียน ว่ายเข้าไปหาร่างเล็กบางที่พุ่งเข้าไปในคลื่นทะเลด้วยความแข็งขันเจียงโม่ที่อยู่บนชายหาด ตอนแรกยังพอจะเห็นร่างของทั้งสองคนลอยอยู่เหนือผิวน
ฝีเท้าของซูหว่านชะงักไปทันทีเธออยากจะหันกลับไปโต้ตอบเขาสักสองสามประโยค แต่ก็กลัวจะเสียเวลา จึงไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แต่ผลักประตูห้องน้ำหญิงด้วยความรวดเร็วหลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว ก็เดินสำรวจห้องน้ำรอบนึง เมื่อเห็นว่าด้านข้างมีหน้าต่างบานเล็ก ก็รีบเดินเข้าไปแล้วเปิดออกข้างนอกเป็นถนนหลวง แค่ปีนออกจากตรงนี้ไป ก็จะสามารถเดินไปถึงถนนหลวงได้ และโอกาสที่จะหนีรอดก็สูงมากทีเดียวเธอเองก็ขี้เกียจมานั่งคิดว่าหลังจากเดินไปถนนหลวงแล้วจะกลับไปยังไง จึงพับแขนเสื้อขึ้น แล้วปีนไปยังขอบหน้าต่างสูงชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนถนนหลวง เขางอขาข้างหนึ่งขึ้น มือข้างหนึ่งทาบบนเข่า กำลังสูบบุหรี่ไปพร้อมกับที่มองดูเธอปีนออกไปนอกหน้าต่างพิลึกคน!ถ้าอยากจะออก ก็เดินผ่านคลับ ออกจากมาประตูหลัก หรือไม่ก็ข้ามชายหาดมาก็ได้แล้ว ทำไมต้องปีนหน้าต่าง?"นี่!"เขาแหกปากคำนึง ทำเอาซูหว่านตกใจจนตกลงมาจากบนขอบหน้าต่าง...ซูหว่านล้มลงอย่างแรง เธอหน้าบูดบึ้งเนื่องจากความเจ็บปวด โชคดีที่ด้านล่างเต็มไปด้วยทราย ไม่อย่างนั้นคงได้กระดูกหักเธอตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น จ้องผู้ชายที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนถนนหลวงตาเขม็ง "นายเป็นโรคหรือไง
เจียงโม่ไม่หลงกล ซูหว่านจึงใช้เล่นแง่ในทางความรู้สึกแทน"คุณหนูเจียง คุณก็รู้ว่าคนที่จี้ซือหานแคร์ มีแต่ฉันมาโดยตลอด""คุณกักตัวเพื่อนของฉันไม่ยอมปล่อย ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ ทำไมต้องให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มารับเคราะห์ด้วยล่ะ?"เจียงโม่จ้องดวงตาใสบริสุทธิ์ของซูหว่านนานอยู่สักพัก จากนั้นก็โบกมือ "ช่างเถอะ แค่คุณอยู่ก็พอแล้วล่ะ"เธอส่งคนไปโทรศัพท์ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายวางสาย ก็หันมาพยักหน้าให้เธอ แล้วจึงอธิบายให้ซูหว่านฟัง"เพื่อนของคุณไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัว ฉันก็แค่ส่งคนไปก่อกวนพวกเขานิดหน่อย หลังจากที่คุณกลับไป อย่าพูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกัน"สรุปว่าที่ซานซานออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ที่อลันกับซีอี้ไม่ได้มาที่วิลล่า ไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัว แต่ถูกคนของเจียงโม่สร้างสถานการณ์แต่ว่า ฟังจากความหมายของเจียงโม่ ถ้าเธอไม่มาล่ะก็ คตที่สร้างสถานการณ์กลุ่มนั้น จะต้องลงมือกับพวกซานซานเป็นแน่...เพียงแต่เพราะเจียงโม่คำนึงถึงจี้ซือหานหรือเธอ ถึงได้เลือกใช้วิธีนุ่มนวล ไม่งั้นลักพาตัวไปเลยก็จะง่ายกว่า...แต่ไม่ว่าคนที่เจียงโม่คำนึงเป็นใคร หรือไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ซูหว่านฟังเข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของเจียงโม่ ก็ถามเธอว่า "ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?"เจียงโม่อ่านความคิดของเธอออกทันที "คุณซู คิดถึงสถานการณ์ของเพื่อนคุณให้มากหน่อยก็ดีค่ะ"ความหมายอีกอย่างก็คือ มีชีวิตของเพื่อนเธออยู่ในกำมือ ถึงเธอจะใช้ข้ออ้างไปบอกบอดี้การ์ด หรือแหกปากร้องตะโกนก็ไม่มีประโยชน์ซูหว่านครุ่นคิด ปล่อยมือที่ประคองประตูรถมาตลอดลง ไพล่ไว้ด้านหลัง ทำสัญลักษณ์ให้กับบอดี้การ์ดหลังจากที่เธอส่งสัญญาณมือโดยเงียบเชียบเสร็จ ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเห็นเธอขึ้นรถมาแต่โดยดี เจียงโม่ก็เขี่ยซิก้าร์ในมือจนมอด จากนั้นสตาร์ทรถ...ตอนที่เธอเหยียบคันเร่ง มองกระจกมองหลังแวบนึง บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นตามมาดังคาดเจียงโม่ดึงสายตากลับ เหยียบคันเร่งจนมิด เลี้ยวผ่านไปไม่กี่โค้งก็สลัดบอดี้การ์ดสำเร็จถึงยังไงก็เป็นถึงระดับหัวหน้าของทีมย่อยในS การที่เจียงโม่สลัดบอดี้การ์ดทิ้งได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากซูหว่านกำเข็มขัดนิรภัยแน่นถึงไม่โดนสะบัดออกจากรถไป ทว่าความรู้สึกพะอืดพะอมในท้องกลับทำให้เธออยากอ้วกเธอกุมหน้าอกที่เต้นระรัว อดกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ มองไปย
นิ้วของเจียงโม่ที่คีบซิการ์ เคาะขี้เถ้าเบาๆ"คุณซู มีใครเค้าพาสามีไปร่วมปาร์ตี้คนโสดกันบ้าง?"การที่เจียงโม่จะปฏิเสธ เป็นสิ่งที่คาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ทำไมล่ะ?ที่เจียงโม่เชิญเธอไปร่วมงานปาร์ตี้คนโสด ก็เพราะอยากให้เธอสอนว่าจะจีบเจียงเจ๋อยังไงไม่ใช่หรอ?งั้นถ้าเธอจะพาจี้ซือหานไปด้วย ก็ไม่ได้หน่วงต่อการสอนเจียงโม่จีบเจียงเจ๋อไม่ใช่หรอ?เธอคิดว่าบางทีเจียงโม่อาจจะอยากอาศัยปาร์ตี้นี้เพื่อพาตัวเธอไป ส่วนเป้าหมายคืออะไร เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงเจ๋อคุยกับจี้ซือหานหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ดังนั้น ก็มองเจียงโม่ด้วยสายตาที่จริงใจ"คุณหนูเจียง ฉันกับจี้ซือหานถูๆไถๆกันมาเกือบสิบปี กว่าจะได้แต่งงานกันไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก่อนวันแต่งงาน""พรุ่งนี้เช้า ฉันแค่อยอยากสวมชุดแต่งงานที่เขาส่งมาให้ แต่งให้เขาด้วยสภาพร่างกายจิตใจที่สมบูรณ์แบบที่สุด หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้เราสมหวังด้วย"ตอนที่พูดสิ่งเหล่านี้ เธอเห็นสีหน้าของเจียงโม่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจียงโม่มีจุดประสงค์อย่างแท้จริง จึงยกริมฝีปากยิ้ม"คุณหนูเจียง ถ้าคุณอยากให้ฉันสอนคุณจีบ