เสียงฝีเท้าที่หนักแน่นและทรงพลังดังมาจากประตูใหญ่ที่ปิดสนิทอย่างรวดเร็ว เมื่อเดินเข้าประตูไปทีละก้าวๆ จู่ ๆ ก็หยุดลงซูหว่านคิดว่าอีกฝ่ายจะเปิดประตูทันที แต่นึกไม่ถึงว่าข้างในจะเงียบกริบ กําลังจะยกมือขึ้นเคาะอีกครั้งประตูก็เปิดออกทันทีมือที่เห็นข้อต่อชัดเจนข้างหนึ่งคว้าข้อมือของเธอไว้ แล้วดึงเธอเข้าไปอย่างรวดเร็วเสิ่นหนานอี้ที่อยู่นอกประตูเห็นเพียงมือข้างหนึ่งยื่นออกมา จากนั้นซูหว่านก็หายตัวไปอย่างรวดเร็วแท่งเหล็กเล็ก ๆ ที่เขาซื้อมาและจ้างมาเฟีย ไม่ได้ใช้แม้แต่อย่างเดียว แถมคนยังถูกพาเข้าไปด้วย...เขายืนอยู่ที่เดิม เมื่อมุมปากกระตุกและใบหน้าบิดเบี้ยว กลุ่มบอดี้การ์ดก็โผล่ออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้คนที่เป็นผู้นํา ชี้ไปที่เขาและตะโกนว่า "ส่งพวกเขาเข้าไปสถานีตำรวจและฟ้องพวกเขาให้รวมตัวกันเพื่อสร้างปัญหา!"เมื่อคนกลุ่มนั้นได้ยินว่าจะส่งพวกเขาเข้าไปสถานีตำรวจ ตกใจจนโยนแท่งเหล็กทิ้งและวิ่งหนีไปทุกทิศทางแท่งเหล็กเหล่านั้นตกลงมากระแทกเท้าของเสิ่นหนานอี้ เจ็บจนเขาแยกเขี้ยวยิงฟันและเหงื่อไหลไม่หยุดยังไม่ทันได้หายใจ หัวหน้าบอดี้การ์ดก็นั่งยองๆ อยู่ตรงหน้าเขา ตบไหล่เขาอย่างแรงอย่างเป็นม
"ฉันคือคุณเย่"เขาใช้นิ้วชี้ลูบไล้ใบหน้าขาวผ่องของเธอเบา ๆ ความอาลัยอาวรณ์ที่เผยออกมาจากดวงตา เข้มข้นกว่าแสงแดดข้างนอกเสียอีกซูหว่านจ้องมองชายผู้สูงศักดิ์ตรงหน้าเธอเขม็ง แม้จะสงสัยมานานแล้วแต่ก็ยังไม่กล้าเชื่อ...หลังจากนิ่งงันไปชั่วครู่ เธอก็หยิบหน้ากากสีทองแดงในมือขึ้นมาเขย่งปลายเท้าสวมให้เขา...วินาทีที่จี้ซือหานซ้อนทับกับคุณเย่ในความทรงจํา ทันใดนั้นซูหว่านก็ตกอยู่ในภวังค์สายตาของเธอค่อย ๆ เลื่อนลงมา มองรอยสักมังกรเขียวที่คอของเขา..."มันเป็นภาพวาด"จี้ซือหานเหมือนจะอ่านความสงสัยของเธอออก จึงอธิบายเสียงเบาเป็นภาพวาด งั้นผมยุ่ง เสียงแหบแห้งและลมหายใจของร่างกายก็จงใจปลอมตัวเช่นกันเหรอ?เธอก้าวถอยหลังอย่างยากที่จะยอมรับ "คุณ... ทําไมต้องบังคับและหลอกลวงฉันด้วยตัวตนปลอม?"เธอถามด้วยเสียงเบา ๆ ราวกับว่ามีดแทงเข้าไปในหัวใจของเขา ทําให้เขารู้สึกผิดและทําให้เขากลัวเขากลัวมากว่าจะเสียเธอไปเพราะเหตุนี้ จึงเข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมอกอย่างไม่สนใจ ใช้แรงทั้งหมดที่มีกอดเธอมือทั้งสองข้างของซูหว่านกดลงบนหน้าอกของเขาจนขยับไม่ได้ จึงเลิกดิ้นรนแล้วเงยหน้ามองจี้ซือหาน"คุณคิดว่าตอนนั้นฉัน
"ฉันไม่เข้าใจ!"ซูหว่านกําหมัดแน่น มองชายตรงหน้าอย่างเคียดแค้น"คุณบังคับฉันด้วยตัวตนปลอม ฉันคิดเสมอว่าฉันถูกคนแปลกหน้าละเมิด""ความรู้สึกที่อึดอัดทรมาน ทําให้ฉันไม่สามารถปล่อยวางได้เป็นเวลานาน...""คุณกลับจงใจปิดบังไม่เอ่ยถึงสักคํา เคยคิดถึงความรู้สึกของฉันไหม?"คําพูดของเธอเข้าหูจี้ซือหาน ราวกับเข็มเงินแทงเข้าไปในแก้วหูและค่อย ๆ ทะลุผ่านความไร้เหตุผลของเขา..."หว่านหว่าน ผมไม่ได้ตั้งใจปิดบังคุณ เพราะหลังจากคุณกลับมา ระหว่างเรามีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย""ผมคิดแต่จะกู้คืนคุณกลับมาได้อย่างไร ทิ้งเรื่องของคุณเย่ไว้เบื้องหลังโดยสิ้นเชิง..."หลังจากเขาพูดจบ เขาก็กอดซูหว่านที่โกรธจัดไว้ในอ้อมอกอีกครั้ง"ขอโทษนะ หว่านหว่าน เป็นเพราะผมเห็นแก่ตัว ไม่ได้คํานึงถึงความรู้สึกของคุณ..."ซูหว่านพยายามผลักเขาออก แต่ก็ไม่สามารถต้านแรงของเขาได้ ร่างกายผอมบางสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้จี้ซือหานยกนิ้วที่มีข้อต่อชัดเจนขึ้น ตามหลังของเธอ ปลอบโยนเธอเบาๆ..."หว่านหว่าน เรื่องนี้ก็เป็นความผิดของผมในปีนั้น คุณจะโทษผมหรือเกลียดผมก็ได้ แต่คุณสุขภาพไม่ดี อย่าโกรธนะได้ไหม?"เขาปลอบเธออย่างอ่อนโยน แต่ซูหว่า
ซูหว่านเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองใบหน้าขาวซีดของเขาแล้วอ้าปาก"คุณไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ..."ตอนอยู่ที่วอชิงตันเขาก็เคยบอกว่าปวดหัว แต่ครั้งนี้แค่ถูกเธอผลักออกก็เป็นลมล้มพับไป ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา"ไม่มีอะไรสําคัญไปกว่าคุณ"จี้ซือหานอุ้มซูหว่านขึ้นมา ให้เธอนั่งบนตักของเขา แล้วเอนศีรษะลงบนโซฟาอย่างเบามือ แหงนหน้ามองเธอเธออยู่ด้านบน เขาอยู่ด้านล่าง ท่าทางคลุมเครือมาก ซูหว่านดิ้นรนจะลงจากขาของเขา แต่กลับถูกเขากดเอวไว้ไม่ให้เธอขยับ"หว่านหว่าน อยู่เฉย ๆ..."ซูหว่านรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติที่ใต้ร่างเขา จึงหยุดเคลื่อนไหวและจ้องมองเขาชายคนนั้นกดเอวของเธอ หลังจากควบคุมปัจจัยกระสับกระส่ายในร่างกายแล้ว เขาก็เริ่มริมฝีปากบาง ๆ เบา ๆ"หว่านหว่าน ที่จริงคุณเย่ไม่ใช่ตัวตนปลอม แต่เป็นอีกตัวตนหนึ่งของฉัน...""ตอนที่ฉันอายุเจ็ดขวบ คุณเจียงได้ก่อตั้งองค์กรที่มีชื่อรหัสว่าเอสสําหรับฉัน""องค์กรนี้กระจายอยู่ทั่วโลก ล้วนเป็นสมาชิกของตระกูลใหญ่ ส่วนฉันก็เป็นผู้นําของพวกเขา"ซูหว่านยังคิดว่าคุณเย่เป็นเพียงชื่อจําลองของเขาเท่านั้น แต่นึกไม่ถึงว่าจะมีอีกฐานะหนึ่งไม่แปลกใจที่เขาสามารถเข้าและอ
เมื่อจี้ซือหานพูดมาถึงตรงนี้ ก็หยุดพูด เมื่อดวงตาเรียวสวยที่ไม่ได้ปิดสนิทลงมาหลายคืนมองไปที่ซูหว่าน ก็พลันแดงเรื่อขึ้นอีกครั้ง"หว่านหว่าน ร้านอาหารฝรั่งเศสร้านนั้น ไม่ใช่ร้านสำหรับคู่รัก เป็นแค่ร้านอาหารฝรั่งทั่วๆ ไปเท่านั้นเอง""อีกอย่างกระจกของที่ร้านก็เป็นกระจกเคลือบติดฟิล์มกันแดด พอตกดึกก็จะมองไม่เห็นด้านนอกร้าน..."ซูหว่านที่นิ่งอึ้งไปแล้ว เมื่อได้ยินสองประโยคนี้ ขนตาก็ยังอดสั่นกระพือเบาๆ อย่างไม่อาจควบคุมได้นิ้วมือที่อบอุ่นอ่อนโยนของจี้ซือหานจับประคองใบหน้าของเธอเอาไว้ ราวกับกำลังปลอบโยนเธอที่รู้สึกไม่ปลอดภัย"ฐานะของเจียงโม่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ ค่อนข้างพิเศษ ถ้าจะปฏิบัติภารกิจจะต้องสร้างหลักฐานไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ""เธอขอร้องให้ผมช่วย ให้ผมแกล้งเป็นแฟนกับเธอ แต่ผมไม่ตกลงก็เลยเบนหน้าไปมองที่นอกหน้าต่าง และก็บังเอิญในตอนนี้ คุณมาหาผมพอดี"หลังจากที่เขาพูดจบ ก็กอดเธอที่บอบบางไว้ในอ้อมกอด ดวงตาภายใต้ขนตาที่ดกหนานั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด"หว่านหว่าน ขอโทษนะที่ตอนนั้นไม่เห็นคุณ หากว่าผมรู้ว่าคุณอยู่ข้างนอกนั่น ผมจะต้องออกไปหาคุณแน่ "ซูหว่านขมวดคิ้ว มองจ้องไปที่ผู้ชายตรงห
จูบของเขา เบามาก เพียงแค่แตะสัมผัสเบาๆ แล้วก็ผละออกปลายนิ้วซีดขาวลูบไล้ไปตามเส้นผม สัมผัสเบาๆ ที่ประคองใบหน้าของเธออยู่ เย็นเฉียบซูหว่านมองไปที่นิ้วมือที่กำลังลูบสัมผัสไปตามดวงหน้าของเธอ จากนั้นก็เบือนหน้าหนีเพื่อหลบเลี่ยงการสัมผัสจากเขาการกระทำเพียงเล็กน้อยนั้น เป็นเหมือนคลื่นแรงที่ซัดโหมกระหน่ำลงในใจของชายหนุ่ม ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดในทันทีดวงตาสองชั้นเรียวคมคู่นั้น ค่อยๆ ส่อประกายความเจ็บปวดขึ้นมา หยาดน้ำตาค่อยๆ เอ่อคลอ ราวกับเปียกชุ่มไปด้วยรอยเลือด"คุณ...ไม่ยินดีแล้วเหรอ?"เขารู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ก็ยังคงถามออกไป"อื้ม..."ซูหว่านพยักหน้า ความสับสนน้อยๆ ในดวงตาค่อยๆ กลับมาสดใสชัดเจนคำตอบของเธอ เป็นเหมือนกับหินก้อนน้อยๆ ที่ทลายปราการความเชื่อมั่นสุดท้ายของเขาลง ราวกับเขาใกล้จะหมดสิ้นลมหายใจ มันรู้สึกไร้เรี่ยวแรงอย่างมาก"ทำไม..."ทำไมทั้งๆ ที่เขาก็อธิบายกับเธอชัดเจนไปหมดแล้ว แต่เธอก็ยังคงไม่ยอมอยู่กับเขาอีกทำไมทั้งๆ ที่พยายามเต็มที่ อยากจะคว้าตัวเธอเอาไว้ แต่ไม่ว่าทำยังไงก็คว้าเอาไว้ไม่ได้คำขอตลอดทั้งชีวิตของเขา มีแค่เรื่องเธอเรื่องเดียวเท่านั้น ทำไมถึงไม่ได้มาสักท
จี้ซือหานยกนิ้วมือที่สั่นไหวขึ้นมา ค่อยๆ บรรจงเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาบนแก้มของเธอครั้งแล้วครั้งเล่าภายใต้ดวงตาดอกท้อเต็มไปด้วยความปวดใจ ทำให้ชายหนุ่มอดที่จะดวงตาแดงเรื่อตามไปด้วยไม่ได้นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเธอพูดความรู้สึกที่มีต่อเขาออกมา ตัดพ้อต่อว่าถึงความสิ้นหวังที่มีต่อเขาและจนถึงตอนนี้เขาถึงเพิ่งรู้ว่าที่แท้ซูหว่านของเขาก็รักเขามาก...แต่เขาเคยทำร้ายเธอ และก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกปลอดภัยกับเธอมากเพียงพอ ถึงทำให้เธอกลายเป็นคนที่อ่อนไหวแบบนี้เขาอยากจะได้ตัวเธอ แต่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าความรู้สึกของเธอภายในทรมานมากแค่ไหน...นิ้วมือของเขาสอดเกี่ยวไปกับเส้นผมของเธอ จับลำคอด้านหลังของเธอเอาไว้ ให้เธอที่กำลังร้องไห้อย่างหนักซบลงมาที่ไหล่ของเขา"หว่านหว่าน ผมขอสัญญาว่าจากนี้ต่อไป ข้างกายของผม นอกจากคุณ จะไม่มีผู้หญิงคนไหนโพล่ออกมาอีก"ตอนที่เขาพูดประโยคนี้ก็คล้ายกับเป็นการสาบาน อารมณ์ที่แสดงออกมาทางสายตาเป็นความมั่นคงที่ไม่สั่นคลอน เป็นคำสัญญาที่มีให้กับเธอไปตลอดชีวิตซูหว่านที่กำลังซบหน้าอยู่ที่ไหล่ของเขา กอดเขาเอาไว้แน่น หลังจากที่ร้องไห้ออกมาอย่างหนักแล้ว ก็ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่
จี้ซือหานจ้องมองไปที่ซูหว่าน หลังจากมองอยู่เงียบๆ ไปสักพัก ก็พูดกับเธอว่า "หว่านหว่าน ผมไม่เคยสนใจเรื่องชาติกำเนิดของคุณเลย ผมรักแค่คุณ แค่ที่ตัวคุณ ไม่ว่าคุณจะมีฐานะยังไง ไม่ว่าความรู้ความสามารถคุณจะมีเท่าไร ขอแค่เป็นคุณก็เพียงพอแล้ว..."เพราะแบบนี้ เขาเลยไม่เคยคิดถึงเรื่องปัญหาพวกนี้มาก่อน ก็เลยคิดไม่ถึงว่า ในใจของซูหว่านจะมีไม้บรรทัดมาวัดเรื่องพวกนี้ตลอดไม้บรรทัดยาวด้ามนั้น มันคอยวัดระยะห่างระหว่างพวกเขาอยู่เสมอ แต่สำหรับเขาแล้ว เรื่องพวกนี้ไม่ถือเป็นอุปสรรคอะไรเลยเขายกนิ้วเรียวยาวขึ้น ลูบไปที่ใบหน้าของซูหว่าน แล้วพูดกับเธออย่างลึกซึ้งว่า "ทุกอย่างที่ผมมีก็คือของคุณ ขอเพียงคุณยินดี ผมสามารถให้คุณได้หมดทุกอย่างเลยในตอนนี้..."เมื่อซูหว่านได้ยินอย่างนั้น ก็ยิ้มให้เขาแต่ไม่ได้พูดอะไรเขาสามารถให้เธอได้ทุกอย่าง แต่ให้สมบัติทางความรู้สึกกับเธอไม่ได้สมบัติเกี่ยวกับการรู้จักตนเองนั้น มีเพียงแค่ต้องพึ่งตัวเองเท่านั้นถึงจะได้มา จี้ซือหานไม่มีทางเข้าใจหรอกเมื่อชายหนุ่มเห็นรอยยิ้มอย่างจนใจของเธอ ก็กอดเธอไว้ แล้วพลิกตัวกดเธอลงไปบนโซฟา"ซูหว่าน ต่อไปผมจะให้ความรู้สึกปลอดภัยกับคุณ และ
ช่างเสื้อหยิบชุดเจ้าสาวชุดนั้นลงมา เมื่อสัมผัสโดนเนื้อผ้าและเพชรที่ประดับอยู่ด้านบน ก็อึ้งไปชุดแต่งงานชุดนี้เต็มไปด้วยผ้ากอซสีอ่อนหลายชั้น ประดับด้วยดอกกุหลาบและเพชรที่ทอจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเป็นสีขาวคริสตัลเรียบง่ายและวิจิตรงดงามด้วยเพชรที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่องประกายด้วยเสน่ห์อันงดงามและสง่างามจนน่าทึ่งถ้าดูไม่ผิด หากอ่านไม่ผิด นี่คือชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวในโลกที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกหลายปีก่อน ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกเก็บเอาไว้ในห้องนิทรรศการที่ต่างประเทศ แต่ต่อมาได้ยินว่าถูกคนซื้อไปในราคาสูงลิ่วคิดไม่ถึงว่าคนที่ซื้อชุดเจ้าสาวไป จะเป็นท่านประธานของกลุ่มบริษัทจี้ ถ้าไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง จะยอมจ่ายหนักขนาดนี้ได้ยังไง?ที่สำคัญอีกชุดนึงที่อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เดาว่าก็น่าจะมีแค่ชุดเดียว ไม่ซ้ำใคร"คุณนายจี้ ท่าทางคุณผู้ชายจะรักคุณมากเลยนะคะ..."ซูหว่านได้ยินคำพูดของช่างเสื้อ ก็พยักหน้าอย่างไม่ปิดบังผู้ชายคนนั้นรักเธอมาก รักจนยอมมอบทุกอย่างให้กับเธอ รักจนยอมตายไปพร้อมกับเธอเธอคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่หล
ซูหว่านพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ก็ได้ค่ะ ฉันเอาตามที่คุณพูด ตอนนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นเครื่องบิน ก็ต้องขึ้นรถพยาบาลก่อน..."ถ้ายังไม่ห้ามเลือดอีก เขาจะทนไม่ไหวเอา จี้ซือหานเห็นว่าเธอเป็นห่วงเขา ถึงได้จับมือเธอขึ้นเครื่องบินอย่างว่าง่ายคืนนี้ ซูหว่านเฝ้าอยู่ข้างกายจี้ซือหาน รอหมอห้ามเลือด เย็บแผล เปลี่ยนยาให้เขาเสร็จ เธอถึงได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง ซูหว่านก็รู้สึกว่าไม่น่าจะจัดงานแต่งได้ จึงเอ่ยข้อเสนอกับเขา "หรือเลื่อนออกไปวันนึงไหม"ชายหนุ่มที่ถือผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เธอ พูดด้วยความแน่วแน่ "ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องจัดงานแต่ง!"ซูหว่านที่เพิ่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ อุงไอน้ำร้อนๆในมือ หันกลับไปมองเขา "แต่แผลของคุณ..."จี้ซือหานพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ต่อให้แผลจะใหญ่กว่านี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการจัดงานแต่ง"ซูหว่านยังอยากพูดอะไรอีก แต่จี้ซือหานหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้เธอจากนั้น ขับรถไปส่งเธอที่วิลล่าของซานซานด้วยตัวเอง โดยไม่สนคำทัดท้านของเธอ"สิบเอ็ดโมง ฉันจะพาคนของตระกูลจี้ มารับเธอ"กำหนดการณ์เดิมคือสิบโมง แต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป อยากให้เธอพักผ่อนกว่านี้อีกหน่อย ชาย
จี้ซือหานกอดเธอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดจนชา ก็ค่อยๆสงบลงเขาคลายซูหว่านออก เห็นร่างกายของเธอเปียกปอนไปทั้งตัว ทั้งยังสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก"คนที่ควรพูดขอโทษคือฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""คุณพูดอะไรโง่ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ"ซูหว่านพูดจบ ก้มหน้าลงมองมือตัวเองแวบนึง เมื่อเห็นเลือดที่เลอะเต็มมือ ใบหน้าก็ซีดไปทันที"แผลที่หลังของคุณฉีกแล้ว รีบขึ้นรถพยาบาลเถอะ..."เมื่อกี้เธอนึกว่าเป็นน้ำทะเล ไม่คิดว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเลือด แผลที่หลังจะต้องฉีกออกแล้วแน่ๆ!ซูหว่านควงแขนของเขาได้ ก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางของรถพยาบาล ทว่าจี้ซือหานกลับดึงเธอกลับมา"หว่านหว่าน แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก"เขาพูดจบ ก็มองเจียงโม่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลแวบนึง"จับตัวเธอ แล้วค่อยแจ้งคุณเจียง ให้เขามาไถ่ตัวด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ปลดชีวิตเธอซะ!"คำพูดนั้นเขาพูดกับซูชิง ซูชิงรีบรับคำสั่งทันที "ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!"เจียงโม่ที่คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าคุณเย่ไม่มีทางปล่อยเธอ เห็นซ
ซูหว่านครุ่นคิด ก่อนจะถามเขา "คุณแซ่ชู งั้นคุณรู้จัก..."ชูยีไหม?ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำนี้ออกไป ก็ถูกชูจิ่นเหยียนตัดบท "ผมจะส่งคุณกลับไป"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็กลืนคำพูดลงไป ขมวดคิ้วมองเขา "ลำบากแทบตายกว่าฉันจะหนีออกมาได้ จะส่งกลับไปทำไม?"ชูจิ่นเหยียนกรอกตาใส่เธออย่างหมดคำพูด "ผมหมายความว่า จะส่งคุณกลับบ้าน..."ซูหว่านจึงได้พยักหน้า ลุกขึ้นจากหาดทราย เธอต้องรีบกลับไปบอกจี้ซือหาน...ว่าเธอหนีออกมาแล้ว เธอปลอดภัย เธอไม่ได้กลายเป็นภาระของเขา และเขาก็ไม่ต้องถูกแบล็กเมล์อีกหลังจากที่เธอขึ้นฝั่งมากับชูจิ่นเหยียน ก็เห็นรถพยาบาลคันแล้วคันเล่าขับตรงไปยังบีชคลับอย่างรวดเร็วฝีเท้าของเธอชะงัก ช้อนสายตามองไปยังชายหาดที่อยู่ห่างไกล มองเห็นร่างมนุษย์ไม่ชัด เห็นแต่เรือลำเล็กลำใหญ่แล่นลงทะเลทีละลำซูหว่านทอดสายตาลงต่ำครุ่นคิดอยู่สักครู่ เอาแต่รู้สึกว่าเจียงโม่ไม่น่าจะส่งคนจำนวนมากขนาดนั้นมาตามหาและช่วยชีวิตเธอ หรือว่าจี้ซือหานมาแล้ว?ถ้าจี้ซือหานมาถึงแล้ว รู้ว่าเธอกระโดดลงทะเล เกรงว่าจะทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดมาถึงตรงนี้ซูหว่านก็เปลี่ยนความคิด"เราไปดูตรงนู้นหน่อยเถอะ?"ไปดูแปบนึง ถ้าจี้
ซูหว่านที่พยายามหนีถึงสามครั้งแต่ก็ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้ง หันกลับมามองเจียงโม่ที่เดินตามหลังเป็นระยะๆเธอเห็นเอาแต่รับโทรศัพท์ตลอดเวลา ราวกับกำลังปรึกษาเรื่องอะไรอยู่ เพราะระยะค่อนข้างห่าง จึงได้ยินไม่ชัด แต่บางครั้งก็จะได้ยินแค่ชื่อของจี้ซือหานเธอไม่รู้ว่าจี้ซือหานรับปากหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระของจี้ซือหานไม่ได้เธอมองไปยังผืนน้ำทะเลที่สาดเป็นคลื่นดุเดือด หลังจากมองอยู่หลายอึดใจ ก็กระโดดเข้าไปในทะเลโดยไม่ลังเล...เธอเคยพูดว่าถ้าหากมีใครเอาตัวเธอเพื่อไปข่มขู่จี้ซือหาน ถ้างั้นเธอก็จะไม่ยอมกลายเป็นตัวถ่วงของเขาเด็ดขาดเจียงโม่ที่กำลังเกลี้ยกล่อมพ่อบุญธรรมว่าอย่าแบล็กเมลล์จี้ซือหานอีก ได้เห็นภาพช็อตนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดในทันที"ซูหว่าน!"เธอกรีดร้องออกมาทีนึง โยนโทรศัพท์แล้วพุ่งลงไปในทะเลเพื่อช่วยชีวิต ทว่าถูกร่างใครบางคนพุ่งตัดหน้าเข้ามาก่อน...เสียงกระโดดลงทะเลดัง "ตู้ม" ของชูจิ่นเหยียน ว่ายเข้าไปหาร่างเล็กบางที่พุ่งเข้าไปในคลื่นทะเลด้วยความแข็งขันเจียงโม่ที่อยู่บนชายหาด ตอนแรกยังพอจะเห็นร่างของทั้งสองคนลอยอยู่เหนือผิวน
ฝีเท้าของซูหว่านชะงักไปทันทีเธออยากจะหันกลับไปโต้ตอบเขาสักสองสามประโยค แต่ก็กลัวจะเสียเวลา จึงไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แต่ผลักประตูห้องน้ำหญิงด้วยความรวดเร็วหลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว ก็เดินสำรวจห้องน้ำรอบนึง เมื่อเห็นว่าด้านข้างมีหน้าต่างบานเล็ก ก็รีบเดินเข้าไปแล้วเปิดออกข้างนอกเป็นถนนหลวง แค่ปีนออกจากตรงนี้ไป ก็จะสามารถเดินไปถึงถนนหลวงได้ และโอกาสที่จะหนีรอดก็สูงมากทีเดียวเธอเองก็ขี้เกียจมานั่งคิดว่าหลังจากเดินไปถนนหลวงแล้วจะกลับไปยังไง จึงพับแขนเสื้อขึ้น แล้วปีนไปยังขอบหน้าต่างสูงชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนถนนหลวง เขางอขาข้างหนึ่งขึ้น มือข้างหนึ่งทาบบนเข่า กำลังสูบบุหรี่ไปพร้อมกับที่มองดูเธอปีนออกไปนอกหน้าต่างพิลึกคน!ถ้าอยากจะออก ก็เดินผ่านคลับ ออกจากมาประตูหลัก หรือไม่ก็ข้ามชายหาดมาก็ได้แล้ว ทำไมต้องปีนหน้าต่าง?"นี่!"เขาแหกปากคำนึง ทำเอาซูหว่านตกใจจนตกลงมาจากบนขอบหน้าต่าง...ซูหว่านล้มลงอย่างแรง เธอหน้าบูดบึ้งเนื่องจากความเจ็บปวด โชคดีที่ด้านล่างเต็มไปด้วยทราย ไม่อย่างนั้นคงได้กระดูกหักเธอตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น จ้องผู้ชายที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนถนนหลวงตาเขม็ง "นายเป็นโรคหรือไง
เจียงโม่ไม่หลงกล ซูหว่านจึงใช้เล่นแง่ในทางความรู้สึกแทน"คุณหนูเจียง คุณก็รู้ว่าคนที่จี้ซือหานแคร์ มีแต่ฉันมาโดยตลอด""คุณกักตัวเพื่อนของฉันไม่ยอมปล่อย ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ ทำไมต้องให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มารับเคราะห์ด้วยล่ะ?"เจียงโม่จ้องดวงตาใสบริสุทธิ์ของซูหว่านนานอยู่สักพัก จากนั้นก็โบกมือ "ช่างเถอะ แค่คุณอยู่ก็พอแล้วล่ะ"เธอส่งคนไปโทรศัพท์ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายวางสาย ก็หันมาพยักหน้าให้เธอ แล้วจึงอธิบายให้ซูหว่านฟัง"เพื่อนของคุณไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัว ฉันก็แค่ส่งคนไปก่อกวนพวกเขานิดหน่อย หลังจากที่คุณกลับไป อย่าพูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกัน"สรุปว่าที่ซานซานออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ที่อลันกับซีอี้ไม่ได้มาที่วิลล่า ไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัว แต่ถูกคนของเจียงโม่สร้างสถานการณ์แต่ว่า ฟังจากความหมายของเจียงโม่ ถ้าเธอไม่มาล่ะก็ คตที่สร้างสถานการณ์กลุ่มนั้น จะต้องลงมือกับพวกซานซานเป็นแน่...เพียงแต่เพราะเจียงโม่คำนึงถึงจี้ซือหานหรือเธอ ถึงได้เลือกใช้วิธีนุ่มนวล ไม่งั้นลักพาตัวไปเลยก็จะง่ายกว่า...แต่ไม่ว่าคนที่เจียงโม่คำนึงเป็นใคร หรือไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ซูหว่านฟังเข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของเจียงโม่ ก็ถามเธอว่า "ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?"เจียงโม่อ่านความคิดของเธอออกทันที "คุณซู คิดถึงสถานการณ์ของเพื่อนคุณให้มากหน่อยก็ดีค่ะ"ความหมายอีกอย่างก็คือ มีชีวิตของเพื่อนเธออยู่ในกำมือ ถึงเธอจะใช้ข้ออ้างไปบอกบอดี้การ์ด หรือแหกปากร้องตะโกนก็ไม่มีประโยชน์ซูหว่านครุ่นคิด ปล่อยมือที่ประคองประตูรถมาตลอดลง ไพล่ไว้ด้านหลัง ทำสัญลักษณ์ให้กับบอดี้การ์ดหลังจากที่เธอส่งสัญญาณมือโดยเงียบเชียบเสร็จ ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเห็นเธอขึ้นรถมาแต่โดยดี เจียงโม่ก็เขี่ยซิก้าร์ในมือจนมอด จากนั้นสตาร์ทรถ...ตอนที่เธอเหยียบคันเร่ง มองกระจกมองหลังแวบนึง บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นตามมาดังคาดเจียงโม่ดึงสายตากลับ เหยียบคันเร่งจนมิด เลี้ยวผ่านไปไม่กี่โค้งก็สลัดบอดี้การ์ดสำเร็จถึงยังไงก็เป็นถึงระดับหัวหน้าของทีมย่อยในS การที่เจียงโม่สลัดบอดี้การ์ดทิ้งได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากซูหว่านกำเข็มขัดนิรภัยแน่นถึงไม่โดนสะบัดออกจากรถไป ทว่าความรู้สึกพะอืดพะอมในท้องกลับทำให้เธออยากอ้วกเธอกุมหน้าอกที่เต้นระรัว อดกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ มองไปย
นิ้วของเจียงโม่ที่คีบซิการ์ เคาะขี้เถ้าเบาๆ"คุณซู มีใครเค้าพาสามีไปร่วมปาร์ตี้คนโสดกันบ้าง?"การที่เจียงโม่จะปฏิเสธ เป็นสิ่งที่คาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ทำไมล่ะ?ที่เจียงโม่เชิญเธอไปร่วมงานปาร์ตี้คนโสด ก็เพราะอยากให้เธอสอนว่าจะจีบเจียงเจ๋อยังไงไม่ใช่หรอ?งั้นถ้าเธอจะพาจี้ซือหานไปด้วย ก็ไม่ได้หน่วงต่อการสอนเจียงโม่จีบเจียงเจ๋อไม่ใช่หรอ?เธอคิดว่าบางทีเจียงโม่อาจจะอยากอาศัยปาร์ตี้นี้เพื่อพาตัวเธอไป ส่วนเป้าหมายคืออะไร เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงเจ๋อคุยกับจี้ซือหานหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ดังนั้น ก็มองเจียงโม่ด้วยสายตาที่จริงใจ"คุณหนูเจียง ฉันกับจี้ซือหานถูๆไถๆกันมาเกือบสิบปี กว่าจะได้แต่งงานกันไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก่อนวันแต่งงาน""พรุ่งนี้เช้า ฉันแค่อยอยากสวมชุดแต่งงานที่เขาส่งมาให้ แต่งให้เขาด้วยสภาพร่างกายจิตใจที่สมบูรณ์แบบที่สุด หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้เราสมหวังด้วย"ตอนที่พูดสิ่งเหล่านี้ เธอเห็นสีหน้าของเจียงโม่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจียงโม่มีจุดประสงค์อย่างแท้จริง จึงยกริมฝีปากยิ้ม"คุณหนูเจียง ถ้าคุณอยากให้ฉันสอนคุณจีบ