ซูหว่านถอนหายใจหนัก "คืออะไรคะ"น้ำเสียงเย็นชาของจิเหยียนโจวดังมาจากปลายสายโทรศัพท์ "วาดรูปเป็นไหม"ซูหว่านอึ้งไปครู่หนึ่ง ไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร "เป็น..."เธอค่อนข้างมีพรสวรรค์ในการวาดภาพตั้งแต่เด็ก จึงเรียนการออกแบบมาจิเหยียนโจวกล่าวว่า "ข้อตกลงแรกผมต้องการให้คุณทำแทนชูยีก็คือ ทำโครงการที่ยังไม่เสร็จของเธอให้สำเร็จ"ซูหว่านชะงักอีกครั้ง เธอจําได้ว่าชูยีเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก เธอเป็นเพียงนักศึกษาที่จบการศึกษาจากคณะออกแบบเท่านั้น จะมาแทนชูอี๋ไปรับโปรเจกต์ที่ยังไม่เสร็จของเธอได้อย่างไรจิเหยียนโจวกลับไม่สนใจว่าเธอจะทําได้หรือไม่ พูดต่อด้วยน้ําเสียงเย็นชาว่า "ภาพสถาปัตยกรรมที่เธอเคยออกแบบมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นแบบร่างหรือแบบสําเร็จรูป ผมได้ส่งคนส่งให้คุณแล้ว ในนั้นมีสมุดภาพเปล่าแผ่นหนึ่ง ก็คือโครงการที่เธอรับมา คุณทําตามลําดับให้เสร็จ"ซูหว่านขมวดคิ้วแล้วถามว่า "แต่ฉันเรียนการออกแบบแบรนด์ ไม่ใช่การออกแบบสถาปัตยกรรมนะคะ ฉันวาดภาพสถาปัตยกรรมไม่เป็น.."ฝั่งจิเหยียนโจวหยุดไปไม่กี่วินาที เหมือนจะรู้สึกได้ถึงความระอาของเขา "พี่สาวของคุณมีบริษัทก่อสร้างในเมืองเอ
ซานซานเห็นเธอคุยโทรศัพท์เสร็จ ก็ยังยืนอยู่ที่เดิม จึงรีบกดแตรซูหว่านจึงได้สติกลับมา รีบผลักสัมภาระเดินไปที่ซานซานหลังจากที่ซานซานพาเธอกลับไปที่คฤหาสน์ ทั้งสองนอนอยู่บนเตียงเดียวกันเหมือนเมื่อก่อน พูดคุยเรื่องในอดีต ปัจจุบัน อนาคตซูหว่านฟังซานซานพูดพล่าม ค่อย ๆ ผ่อนคลายไปทั้งตัว พิงบนไหล่ของเธอ แล้วนอนหลับไปซานซานเห็นเธอนอนหลับแล้ว ห่มผ้าให้เธอ และค่อย ๆ หลับตาลง เข้าสู้ฝันที่สวยงาม...เช้าวันต่อมา เดิมทีซานซานอยากจะไปพบซ่งซือเยว่กับซูหว่านแต่เกิดเหตุที่ไนท์คลับ เธอต้องไปจัดการ ซานซานจึงไม่ได้ตามไปก่อนที่ซูหว่านจะออกจากบ้าน ใส่ทะเบียนสมรสเล่มนั้นเข้าไปในกระเป๋าสะพายเล็กเธอสะพายกระเป๋าไว้ ถือโทรศัพท์มือถือ มาถึงคฤหาสน์ที่ซ่งซือเยว่อยู่เขายังคงนั่งอยู่ในสวนดอกไม้ที่อยู่ข้างหลัง ก้มหน้าอ่านหนังสือ มองจากที่ไกล ๆ เหมือนภาพวาดภาพหนึ่งเพียงแต่ว่าแผ่นหลังของเขา โดดเดี่ยวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ราวกับโดนโลกทอดทิ้ง ไร้ความโมโหซูหว่านสามารถรับรู้ถึงอารมณ์ของเขา กลับแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลย เดินไปที่เขาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"ซือเยว่..."เขาได้ยินเสียงเธอ ไม่ได้หันกลับไปมองด
"หว่านหว่าน ที่เธอปฏิบัติกับฉันก็เป็นเพียงแค่ความละอายใจเท่านั้น คนที่เธอรักมาโดยตลอดคือจี้ซือหาน""เขาก็รักเธอมาก และฉันก็ไม่สามารถที่จะเห็นแก่ตัวไปแยกคนที่รักกันทั้งคู่ได้ เธอ..."เขาพูดเพียงเท่านี้ก็หยุดนิ่งไปสักพัก แล้วน้ำเสียงก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นแหบแห้งลง "เธอไปหาเขาเถอะ ไม่ต้องมาสนใจฉันแล้ว..."เขาเคยคิดจะเห็นแก่ตัวสักครั้ง แต่จี้ซือหานทำเพื่อเขาไปตั้งมากมายจะให้เขาครอบครองหว่านหว่านไว้อย่างสงบจิตสงบใจได้ยังไงหลังจากที่เขาเงยศีรษะขึ้นเพื่อบังคับให้น้ำตาที่อยู่ภายในดวงตา และความอาลัยอาวรณ์ทั้งหมดหายออกไป ก็เข็นรถเข็นหันตัวออกไปซูหว่านนั่งย่ออยู่ที่เดิมแล้วมองไปยังแผ่นหลังของเขาก่อนจะพูดอย่างสูญเสีย "ซือเยว่ นาย...ไม่ต้องการฉันแล้วเหรอ?"ซ่งซือเยว่หยุดลงอย่างกะทันหันแล้วหันกลับไปมองซูหว่านที่นั่งย่อเป็นก้อนเล็ก ๆ อยู่บนพื้นเขาอยากจะวิ่งไปหาเธอแล้วนำเธอมากอดไว้ในอ้อมอก พร้อมบอกกับเธอว่าเขาจะไม่ต้องการเธอได้ยังไง ชั่วชีวิตนี้แม้ว่าจะไม่ต้องการชีวิตนี้ยังไงก็ยังคงต้องการเธอแต่เขาในตอนนี้ ก็เป็นเพียงแค่คนไร้ค่าที่ถูกจองจำอยู่บนรถเข็น มีแต่จะทำให้เธอลำบาก และเดือดร้อน...แล
เมื่อซานซานได้ยินว่าทั้งสองกําลังจะจัดงานแต่งงานใหม่ก็ตกใจมาก "เธอ เธอคิดดีแล้วเหรอ?"ซูหว่านใช้ช้อนเล็กๆ คนมาส์กหน้าดินขาวพลางตอบเธอว่า "จดทะเบียนสมรสแล้ว ก็ต้องจัดงานแต่งงานใหม่เป็นธรรมดา"เธอกลัวว่าซ่งซือเยว่จะไม่สบายใจมากขึ้น ใช้งานแต่งงานเพื่อทําให้เขาสงบลง แล้วปล่อยวางอดีตและเริ่มต้นใหม่ซานซานมองหว่านหว่านที่ตัดสินใจดีแล้ว ทันใดนั้นก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีเมื่อเธอเงียบ ซูหว่านก็พูดกับเธอว่า "ซานซาน เธอเคยบอกว่าฉันแต่งงานกับซือเยว่ แล้วเธอจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวของฉัน"ซานซานไม่ได้ตอบรับ เพียงยกมือขึ้นลูบผมสั้นของเธอ "หว่านหว่าน เธอตัดสินใจจะเริ่มต้นใหม่กับซือเยว่จริง ๆ เหรอ?"ซูหว่านพยักหน้าอย่างไม่ปิดบัง "เมื่อก่อนฉันอยากดูแลเขาตลอดชีวิต แต่ถ้าไปดูแลเขาเพราะความรู้สึกผิดอย่างเดียว มันไม่ยุติธรรมกับเขาเลย หลังจากฉันเคลียร์ใจตัวเองที่วัดแล้ว ก็ตัดสินใจปล่อยวางทุกอย่าง แล้วเริ่มต้นใหม่กับเขา..."เมื่อซานซานได้ยินเช่นนี้ ไม่รู้ว่าควรจะดีใจที่ได้พาเธอไปที่วัดหรือไม่ เธอรู้สึกว่าแบบนี้ดูเหมือนจะไม่ยุติธรรมกับจี้ซือหาน เพราะจี้ซือหานก็ทําเพื่อหว่านหว่านมากมาย แม้กระทั่งชีวิตของซ่งซื
เมื่อซูหว่านเห็นบัตรธนาคารสองใบนี้หัวใจก็อบอุ่นขึ้นมา แต่กลับปฏิเสธเธอ"ซานซาน ฉันเก็บไว้ให้คุณก็คือของคุณ ไม่ต้องคืนให้ฉันหรอก อีกอย่างเงินออมของคุณเก็บไว้ให้ดีเอง หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล ส่วนมากจะเป็นที่ที่ต้องใช้เงิน ส่วนหนี้ที่ฉันค้างไว้ฉันจะจ่ายเอง คุณไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก..."ซานซานย่อมไม่เห็นด้วยกับคําพูดของเธอ ยืนกรานที่จะเอาบัตรให้เธอ"หว่านหว่าน เธออาจจะยังไม่รู้ หลังจากเธอจากไป อลันให้เงินฉันก้อนหนึ่ง ซือเยว่ก็มอบทรัพย์สินส่วนตัวของเขาให้ฉันทั้งหมด เงินเหล่านี้นอกจากของซือเยว่ยังไม่ทันได้คืนให้เขา ฉันก็ได้คืนของอลันไปแล้ว"เธอพูดถึงตรงนี้ หยุดไปครู่หนึ่งแล้วถามซูหว่านว่า "เธอรู้ไหมว่าฉันคืนยังไง?"ซูหว่านส่ายหน้า ซานซานพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ฉันถือบัตรธนาคารและไล่ตามอลันมาสามปี เธอทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ ถึงได้เก็บเงินกลับไป เธอคงไม่อยากให้ฉันไล่ตามเธอไปตลอดชีวิตใช่ไหม?"ซูหว่านคิดไม่ถึงว่าซานซานจะติดตามอลันเป็นเวลาสามปีเพื่อคืนเงิน "ซานซาน เธอทําแบบนี้กับคุณหมอโจว เธอไม่ได้ให้ยากล่อมประสาทแก่เธอเหรอ?"ซานซานนึกถึงสีหน้าจนใจและความหงุดหงิดของคุณหมอโจวในตอนนั้น ก็อดหัวเราะไม
เมื่อซานซานได้ยินเขาพูดแบบนั้นก็โล่งอก "งั้นฉันก็ไว้ใจแล้ว แต่ฉันจะไม่เอามรดกนายหรอก"ซานซานพูดจบก็ลุกขึ้น ไม่พูดพร่ำอ้อมค้อมกับซ่งซือเยว่ซ่งซือเยว่เห็นเธอรีบเดินออกไปก็ส่ายหัวเล็กน้อยซานซานยังคงเหมือนตอนเด็ก ๆ ให้ตายยังไงก็ไม่เอาของของเขาแต่เธอดูแลเขามาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่ายังไงก็ต้องคืนบุญคุณนี้เขาหันไปมองกู้เจ๋อแล้วบอกกับเขา "เก็บไว้ก่อนเถอะ ไว้เธอมาคราวหน้าฉันค่อยให้เธออีก"กู้เจ๋อพยักหน้า หยิบซองเอกสารขึ้นมาแล้วหมุนตัวเข้าไปในห้องทำงานตอนออกมาซ่งซือเยว่ก็สั่งอีก "ยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่นายต้องไปทำ..."กู้เจ๋อถาม "เรื่องอะไรครับ?"ซ่งซือเยว่มองคฤหาสน์หลังนี้และเสี่ยวโยวที่กำลังทำมื้เช้าในครัว แล้วบอกกับกู้เจ๋อว่า "สามปีมานี้ เขาให้ที่อยู่อาศัยฉัน จ้างพนักงานดูแลและยังส่งคนมากมายมาปกป้องฉันอีก ค่าใช้จ่ายพวกนี้ไม่ใช่น้อย ๆ นายคิดคำนวนดูแล้วคืนเขาซะ"สิ่งที่เขาคืนให้ได้ในตอนนี้ก็มีแค่พวกนี้ ส่วนหนี้ชีวิตถ้าวันไหนเขาต้องการให้เขาคืน เขาจะใช้ชีวิตนี้คืนเองกู้เจ๋อตอบกลับว่าครับ จากนั้นก็ไปกินมื้อเช้าง่าย ๆ ในครัวแล้วออกจากคฤหาสน์ไปทำธุระ...กลุ่มบริษัทจี้ ห้องทำงานท่านประธา
ซูชิงรู้ว่าเขาได้ยินชัดเจนแล้วแต่แค่ไม่อยากยอมรับเขามองจี้ซือหานอย่างน่าเห็นใจ "ประธานจี้ ตอนที่คุณผลักคุณซูให้กู้จิ่งเซินด้วยตัวคุณเอง ผลลัพธ์ก็ถูกกำหนดให้เป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว"ใบหน้าหลล่อเหลาไร้ที่ติของจี้ซือหานซีดเล็กน้อย แววตาเรียบเฉยมีสีแดงสดปรากฏเขากำบัตรธนาคารใบนั้นแน่น ไฟโทสะอันท่วมท้นทำให้เขาบีบบัตรจนหักอย่างแรงจนแทบจะแหลกเป็นชิ้น"ประธานจี้..."ซูชิงมองชายหนุ่มที่สั่นสะท้านไปทั้งตัวด้วยความกังวล"เตรียมรถ!"ซูชิงผงะไปเล็กน้อยแต่ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็วแล้วตอบว่า "ครับ" จากนั้นก็รีบออกไปณ ร้านชุดแต่งงาน ม่านห้องลองชุดถูกลากออกจากสองฝั่ง ซูหว่านสวมชุดเจ้าสาวซีทรูลายยิปโซหันมาเธอคิดว่าจะได้เห็นซานซาน แต่ไม่คิดว่าคนที่ยืนอยู่ข้างนอกนั้นจะเป็น จี้ซือหานเขาสวมชุดสูทสีดำ ใบหน้าหล่อเหลาเต็ไมปด้วยความเย็นชา ดวงตาแดงคู่นั้นกำลังจ้องเธอซูหว่านเห็นสายตาแบบนั้นก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย รีบยกชายกระโปรงชุดเจ้าสาวอยากออกไปหาซานซานแต่จังหวะที่เดินสวนกับเขา จู่ ๆ เขาก็จับแขนเธอแล้วดึงเธอกลับไปในห้องลองชุดวินาทีที่ผ้าม่านปิดลงชายหนุ่มก็กดเธอไว้กับกำแพงทันทีเขาก้มหน้า กวาดต
ราวกับว่าอารมณ์ที่อัดอั้นมานานเกิดปะทุขึ้นมาอย่างกระทันหัน เขาจูบเธออย่างรุนแรงแบบที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ซูหว่านต่อต้านสุดชีวิต แต่เขาก็เหมือนเป็นบ้าไปแล้วเค้าพยามฉีกชุดแต่งงานของเธอโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นวินาทีที่ชุดแต่งงานแบบเกาะอกถูกฉีกขาด ซูหว่านหน้าซีดเผือด สายตาที่เธอมองเขาแฝงไปด้วยแววเกลียดชังแต่เขายังคงจูบเธออย่างบ้าคลั่งโดยไม่สนอะไร ในขณะเดียวกัน มือของเขาก็ประคองเอวเธอไว้ดึงเธอมาแนบชิดกายซูหว่านถูกบังคับให้ต้องทนกับการกระทำทั้งหมดนี้ เธอพยายามดิ้นสบัดขาแต่ก็โดนเขาเอาขามาหนีบไว้จนขยับตัวไม่ได้เหมือนตุ๊กตาที่ไม่มีชีวิตเธอทำได้เพียงต้องยอมเปิดปากที่เม้มแน่นมาตลอดและอาศัยจังหวะที่ชายหนุ่มพยายามบุกรุกเข้ามาในปากของเธอกัดเขาจี้ซือหานเจ็บจนต้องขมวดคิ้วเป็นปม แต่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อย เขาจ้องมองใบหน้าเรียวเล็กของเธอด้วยดวงตาแดงก่ำ อยากดูว่าจะโหดร้ายได้ถึงแค่ไหนกันเชียว…ซูหว่านเห็นว่าเขายังไม่ยอมปล่อยตัวเอง ก็เลยออกแรงมากขึ้นอย่างกระทันหัน…ริมฝีปากบางของจี้ซือหาน กระตุกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย รอยยิ้มที่ซีดเผือดนั้นสะท้อนเข้ามาในดวงตามันทำให้เขาผิดหวัง เขาจึงค่อย ๆ ปล่อยเธอช้า ๆ