ฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ น้ำฝนตกเป็นสายลงบนตัวชายหนุ่มผมดกสีดำขลับและชุดสูทแสนเนี๊ยบ ล้วนเปียกหมดน้ำฝนไหลจากใบหน้าหล่อเหลาที่สมบูรณ์แบบลงไปตามคอเรียวระหงส์เขาเดินตรงไปยังรถอย่างเหม่อลอยโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไปอลันเห็นเขากลับมาก็รีบกางร่มเดินไปตรงหน้าเขาเพื่อกันฝนให้เขา"ขอโทษค่ะ ประธานจี้"เธอไม่ได้รับความยินยอมจากประธานจี้และมาหาคุณซูโดยพลการเองเดิมคิดว่าสามารถอธิบายให้เข้าใจ คุณซูอาจพิจารณากลับมาหาประธานจี้ แต่ไม่คิดว่าจะได้ผลลัพธ์แบบนี้น้ำฝนไหลรินตามไรผมบนหน้าผากของจี้ซือหานและหยดลงมา กระทบบนขนตาหนาเป็นแพรจนเขากะพริบเล็กน้อยเขาช้อนแววตาที่เย็นชาราวหิมะขึ้นมองอลัน "ฉันกับเธอจบลงอย่างสิ้นสุดแล้ว วันหลังเธออย่าพูดถึงชื่อนี้ต่อหน้าฉันอีก..."อลันมองจี้ซือหานอย่างอึ้ง ๆ เล็กน้อย แต่ก็ยังไม่อยากจะยอมรับผลลัพธ์แบบนี้ "ประธานจี้ คุณซูเคยรักคุณนะคะ"จี้ซือหานยกริมฝีปากบางยิ้มบาง ๆ "อลัน คนที่เธอรัก มีแค่ซ่งซือเยว่..."อลันเห็นเขาเป็นแบบนี้ก็ขมวดคิ้วทันที "ประธานจี้คะ เมื่อกี้เธอยอมรับออกมาแล้วว่าเคยรักคุณ เพียงแค่ระหว่างที่ทดสอบคุณได้แต่ความผิดหวังเป็นคำตอบ ทำให้ตอนนี้พวกคุณมาถึ
ซูชิงมองบอดี้การ์ดที่ตามหลังคุณซูไม่ใกล้ไม่ไกลก็ถอนหายใจเล็กน้อยประธานจี้รักคุณซูมากขนาดนั้นแต่สุดท้ายก็เลือกที่จะปล่อยมือ ในใจเขาจะเจ็บแค่ไหนกันนะซูชิงครุ่นคิดจากนั้นก็หยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งซองแล้วยื่นให้จี้ซือหาน "ประธานจี้ ผ่อนคลายหน่อยเถอะครับ..."จี้ซือหานกวาตามองบุหรี่ซองนั้นอย่างเฉยเมย สีหน้าค่อย ๆ กลับมาเย็นชาและเข้าถึงยาก "ทิ้งไปเถอะ"วันหลังเขาไม่ต้องการของพวกนี้แล้ว คนบางคน ซ่อนไว้ในใจลึก ๆ ก็เพียงพอในการเคียงข้างเขาไปตลอดชีวิตแล้ว...ซูชิงไม่คิดว่า ประธานจี้ที่ใช้ชีวิตโดยการอาศัยบุหรี่และเหล้าตลอดสามปีมานี้ จะทิ้งได้อย่างง่ายดายขนาดนี้เขาเหลือบมองประธารนจี้ เห็นเขาเอามือพาดหน้าต่างรถข้างเดียวแล้วเอียงคอมองข้างนอก เหมือนเขาเห็นประธานจี้คนเดิมอีกครั้งก่อนที่เขาจะพบกับคุณซูนั้น เขาไม่แตะบุหรี่และเหล้าสักนิด ทั้งยังเหย่อหยิ่ง เฉยเมยไม่แยแสกับทุกสิ่งไม่ว่าจะคนหรือสิ่งอื่นเขาตอนนี้ที่ผ่านความเจ็บปวดจากความรัก แววตาเย็นชาดุจหิมะของเขามีความเศร้าหมองเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่กลับให้ความรู้สึกว่าเขาคนเดิมกลับมาแล้วซูชิงตื่นเต้นเล็กน้อยและเก็บบุหรี่ในมือพูดกับเขาว่า "ประธานจี
ซานซานพึ่งพูดจบสายตาก็เหลือบเห็นร่มสีดำในมือของเธอเธอมองร่มนั้นแล้วมองซูหว่านที่หน้าซีดเผือด แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมาเรียกให้แม่บ้านเอาผ้าเช็ดตัวมาให้ แล้วซับผมและใบหน้าที่เปียกฝนของเธอซับเสร็จก็พูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "หว่านหว่าน เธอไปแช่น้ำร้อน ๆ ก่อน ฉันจะต้มน้ำขิงให้เธอ เดี๋ยวเธออกมาก็ดื่มได้แล้ว"พูดจบเธอก็ผลักซูหว่านไปยังห้องน้ำ แต่อยุ่ ๆ ซูหว่านก็ตาแดงก่ำขึ้นมา ใบหน้าเล้กเท่าฝ่ามือซีดเผือดซานซานเห็นเธอเป็นแบบนี้ก็ปวดใจมาก "หว่านหว่าน จี้ซือหานพูดอะไรกับเธอใช่ไหม..."แม้ไม่รู้ว่าหลีงจากที่เธอถูกจี้ซือหานพาไปจะเจอกับอะไร แต่สามารถรับรู้ได้ว่าตอนนี้ซูหว่านกำลังเจ็บปวดมากเธออ้าแขนออกแล้วพูดกับเธอเสียงนุ่มนวล "หว่านหว่าน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันอยู่ข้างเธอเสมอ ถ้าเธอหมดหนทางก็มาซบลงตรงนี้..."เมื่อซูหว่านได้ยินแบบนั้น น้ำตาที่ฝืนกลั้นไว้ก็ทะลักออกมาทันทีเธอดผเข้าในอ้อมกอดเหมือนเด็กน้อย ทิ้งการป้องกันตัวและการสร้างภาพลงแล้วร้องไห้อฟูมฟายออกมา"ซานซาน ที่เขาบอกว่ารักฉัน มันเป็นความจริง..."ที่แท้แล้ว เขาเติบโตท่ามกลางสภาพแวดล้อมอันเลวร้ายที่แท้แล้ว ถ้าเขาใส่ใจสิ่
ซูหว่านตอบว่าได้แต่โดยดีแล้วหมุนตัวเข้าห้องน้ำไป เติมน้ำร้อนในอ่างเสร็จแล้วก็แช่ตัวลงไปอุณหภูมิอุ่นร้อนของน้ำแผ่ซ่านลงบนผิว ทำให้เธอที่เหนื่อยทั้งกายและใจผ่อนคลายลงบ้าง...ซานซานเตรียมผ้าเช็ดตัวและชุดนอนที่สะอาดให้เธอเสร็จก็เข้าครัวต้มน้ำขิงให้เธอถ้วยใหญ่แม้หว่านหว่านจะเปลี่ยนหัวใจแล้ว แต่คนที่เคยผ่าตัดใหญ่มานั้นร่างกายอ่อนแอกว่าคนปกติอยู่แล้วตากฝนนานขนาดนี้จะเป็นหวัดเป็นไข้รึเปล่าไม่รู้ เมื่อนึกถึงตรงนีเซานซานก็ให้แม่บ้านไปเอายาแก้หวัดมาให้ซูหว่านอาบน้ำสะอาดออกมาเห็นบนโต๊ะน้ำชามีทั้งน้ำขิงและยาแก้หวัดก็รุ้สึกอุ่นใจขึ้นมาทันทีเธอนั่งลงบนโซฟา ดื่มน้ำขิงและกินยาแก้หวัดถึงค่อยตามซานซานไปชั้นสอง"ตอนที๋ฉันซื้อบ้านหลังนี้ได้ทำห้องนอนไว้สองห้อง แม้ตอนนั้นรู้ว่าเธออาจจะไม่กลับมา แต่ฉันยังคงยืนยันที่จะทำแบบนี้ รู้สึกว่าการเก็บไว้ให้เธอหนึ่งห้องเหมือนยังมีเธออยู่ข้างกายฉันเสมอ..."ซูหว่านมองซานซานที่กำลังปูที่นอนน้ำตาก็รื้นอีกครึ่งชีวิตแรกได้รับการดูแลจากซานซานและซ่งซือเยว่ จึงผ่านมาได้อย่างยากลำบากครึ่งชีวิตหลังก็ถึงเวลาที่เธอจะดูแลพวกเขาแล้ว...ซานซานปูที่นอนเสร็จก็ตบลงบนเตี
หลังจากที่จี้เหลียงชวนบล็อกและลบทุกอย่างออกจนเสร็จก็โยนโทรศัพท์ทิ้งออกไปจี้ซือหานที่กำลังเดินเข้ามาจากด้านนอกคฤหาสน์พอดี เมื่อเห็นโทรศัพท์อยู่บนพื้นจึงขมวดคิ้วลงเล็กน้อย"พี่รอง พี่กลับมาแล้วเหรอ?"จี้เหลียงชวนลุกขึ้นมาจากโซฟา เมื่อเห็นว่าจี้ซือหานมีเนื้อตัวเปียกปอน ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความกังวล "พี่รอง ทำไมพี่ถึงเปียกแบบนี้?"จี้ซือหานไม่ได้ตอบกลับคำพูดของเขา แต่ถอดเสื้อสูทตัวนอกออกก่อนจะรับผ้าขนหนูที่คนรับใช้ส่งมาให้เขาเช็ดผมอย่างไม่ช้าไม่เร็วไปพร้อม ๆ กับถามจี้เหลียงชวน "ทำไมแกถึงมาอยู่บ้านของฉัน?"จี้เหลียงชวนถอนหายใจแล้วตอบออกมาอย่างรู้สึกเบื่อหน่าย "วันหยุดมันน่าเบื่อเกินไปเลยมาหาพี่ดื่มสักแก้วสองแก้ว"จี้ซือหานเหลือบมองไปที่เขาหนึ่งครั้ง "น่าเบื่อก็ไปรับช่วงงานต่อกับเจ้าห้าที่แอฟริกาซะ"จี้เหลียงชวนได้ยินคำว่าแอฟริกาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา "พี่รอง พี่ห้าเขาผิวหนังหยาบหนาไม่กลัวแดดเผา แต่ผมไม่ได้นะ ใบหน้าของผมเป็นนั้นเป็นต้นทุนใช้สำหรับหาสาว ๆ นะ พี่จะมาตัดทางชีวิตของผมไม่ได้นะ..."เหตุผลหลัก ๆ คือเขาไม่ชอบรสชาติสาวแอฟริกาสักหน่อย ไม่เหมือนพี่ห้าที่ชอบรสจัดอีกอย่างการทำ
เมื่อซูหว่านตื่นขึ้น ก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว ดวงตาที่ร้องไห้ของเธอนั้นบวมและเเดงมากเธอยกมือขึ้นและขยี้ตาของเธอ เมื่อเธอลืมอีกครั้ง ทันใดนั้นภาพก็เบลอเล็กน้อยเธอนั่งเหม่อที่ข้างเตียงและผ่อนคลายเป็นเวลานานก่อนที่สายตาของเธอจะกลับมาโฟกัสอีกครั้ง...หลังจากมองเห็นชัดเจนแล้ว เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งข้อความถึงจอร์จ[คุณหมอจอร์จ ดวงตาของฉันเบลออีกแล้วค่ะ]ทางจอร์จไม่ได้ตอบเร็วขนาดนั้น เธอจึงวางโทรศัพท์ ดึงผ้าห่มออกแล้วลุกลงจากเตียงเมื่อเธอผลักประตูห้องและลงไปชั้นล่าง เธอเห็นจิเหยียนโจวนั่งเเละซานซานนั่งจ้องหน้ากันอยู่ในห้องรับเเขกเธอเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่จิเหยียนโจวยังอยู่ที่นี่เธอถอนหายใจลึก ๆ เดิมทีเธอต้องการพาซานซานไปหาซ่งซือเยว่วันนี้ แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว คงจะไปไม่ได้เเล้วเมื่อซานซาน เห็นว่าเธอตื่นแล้ว ก็รีบลุกขึ้นเดินไปหาเธอแล้วถามเธออย่างอ่อนโยน ๆ ว่า "หว่านหว่าน หิวไหม เดี๋ยวฉันไปอุ่นอาหารให้"ขณะที่ซูหว่านกำลังจะกลับ เสียงที่พูดส่ง ๆ ของจิเหยียนโจวก็ดังมาจากด้านหลังของทั้งสองคน "ถึงเวลากลับบ้านแล้ว"ซานซานห
เมื่อผู้จัดการได้ยินคำพูดประโยคนี้ ใบหน้าสำนึกผิดก็เต็มไปด้วยความลำบากใจ "คุณชายถัง ผมจะโทรไปเร่งให้อีกสักรอบ กรุณารอสักครู่นะครับ..."หลังจากที่ผู้จัดการหมุนตัวเดินออกไปแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนไปเป็นความกังวลตั้งแต่สถานที่แห่งนี้มีการเปลี่ยนตัวเจ้าของ ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาหาเรื่องอีก ใครจะไปคิดว่าวันนี้จะมีพวกคุณชายตระกูลร่ำรวยอำนาจล้นฟ้ามากันเขาอุตส่าห์ส่งคนมากกว่าครึ่งร้านมาเพื่อมาดูแลพวกเขา เดิมคิดว่ารายได้วันนี้คงจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าแน่ ใครจะไปคิดว่าพวกเขาจะมาหาเรื่องในขณะที่ผู้จัดการกำลังแอบบ่นว่าวันนี้ซวยจริง ก็เห็นซานซานที่ใส่ชุดเดรสยาวเว้าหลังสีดำ เดินเข้ามาพร้อมกับรองเท้าส้นสูง"บอสครับ ในที่สุดบอสก็มาสักที พวกเขาบอกว่าถ้าหากบอสยังไม่มา จะสั่งปิดที่นี่ซะ!""ไม่ต้องกลัว"ซานซานพูดออกมาเสียงเรียบๆ อย่างไม่ตื่นเต้นเลยสักนิด จากนั้นก็สาวเท้าเดินไปทางห้องรับรองวีไอพีเมื่อเปิดประตูเข้าไป มองเห็นผู้ชายที่นั่งอยู่ในมุมมืดๆ ข้างในห้อง สีหน้าของซานซานก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเดิมทีเธอคิดว่าก็คงจะเป็นพวกคุณชายลูกผู้ดีที่ว่างจัด จงใจมาหาอะไรสนุกๆ ทำแก้เบื่อเท่าน
เขาใส่เสื้อสูทสีขาว ในมือถือแก้วเหล้าไว้พลางนั่งไขว่ห้างไปพลางอย่างเกียจคร้านด้วยท่าทางคุณชายสุดๆถึงจะดูราวกับว่าเขาไม่ใส่ใจ แต่สายตากลับแอบมองมายังผู้หญิงที่กำลังดื่มเหล้าเป็นขวดๆ อยู่เธอสวมเดรสสีดำคอวีลึก ยิ่งทำให้เห็นสัดส่วนผอมเพียวที่ชัดเจน ท่ามกลางแสงไฟที่สาดส่อง ยิ่งทำให้ดูผุดผ่องมีเสน่ห์ใบหน้างดงามแดงก่ำเนื่องจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ผิวเดิมที่ขาวผ่องยิ่งส่งผลให้ตัวของเธอดูแดงก่ำเข้าไปอีกออร่าความงามที่แผ่กระจายออกมา ต่อให้เป็นตัวท๊อปที่นั่งอยู่ก็ยังสู้เธอไม่ได้เลยเมื่อพวกคุณชายทั้งหลายได้เห็นซานซานที่ใจเด็ดแบบนี้ก็อดที่จะเกิดความคิดไม่ดีขึ้นมาไม่ได้...จี้เหลียงชวนพบว่าพวกผู้ชายต่างจับจ้องไปที่ร่องอกที่อยู่ภายใต้เสื้อคอวีของเธอ สีหน้าเขาเคร่งขรึมขึ้นมาในทันที จากนั้นก็โยนแก้วเหล้าในมือออกไป"เพล๊ง" เสียงแก้วแตกดังขึ้นก่อนที่ซานซานจะได้ก้มลงไปหยิบเหล้าขวดที่สามขึ้นมา...เธอเงยหน้าขึ้นมองไปที่แก้วเหล้าของจี้เหลียงชวน ใบหน้าเล็กๆ สีแดงเรื่อส่งยิ้มจอมปลอมทางการค้ามาให้เขา "นายน้อยที่เจ็ดจี้ มีอะไรไม่พอใจหรือเปล่าคะ?"เมื่อจี้เหลียงชวนเห็นรอยยิ้มยั่วยวนบนใบหน้าของเธอก็รู้สึกไ