จี้ซือหานหัวเราะอย่างเยือกเย็น ดวงตาเย็นชาและห่างเหินคู่หนึ่งเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยตัวเองเขากดความเจ็บปวดที่อึดอึดในหัวใจของเขา เเล้วหยิบแก้วขึ้นมาและดื่มอีกครั้งลูกกระเดือกที่เซ็กซี่ขยับไปมา เขาใช้วิธีกลืนความเจ็บปวดเหล่านั้นลงไปพร้อมกับไวน์แต่ไวน์ก็ไม่สามารถหยุดความเจ็บปวดนั้นได้ จี้ซือหานวางแก้วของเขา ลุกขึ้นและเดินโซเซไปทางชั้นสอง...เมื่อมองดูเเผ่นหลังที่เย็นชาและโดดเดี่ยวนั้น จู่ ๆ จี้เหลียงชวนก็รู้สึกว่าสิ่งที่ปู่ของเขาพูดนั้นถูกต้อง ความรักเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะไปยุ่งกับมันดันเป็นพี่ีรองที่ถูกสอนแต่เด็กว่าอย่าหวั่นไหวกับอะไรง่าย ๆ กลับกลายเป็นคนที่หวั่นไหวมากที่สุด แต่กลับเป็นเขาที่เลือกที่จะเฉยเมยต่อความรักจี้เหลียงชวนเล่นกับแก้วไวน์และจ้องมองไปที่ซูชิง ซึ่งมีสีหน้าเป็นกังวลเช่นกัน "พี่ีรองของฉันรู้ว่าคุณซูยังมีชีวิตอยู่ แต่เขายังคงหดหู่และไม่มีความสุข ไม่ใช่ว่าไปขอเขาคืนดี เเต่ถูกปฏิเสธมาหรอกนะ?"ซูชิงถอนสายตาที่เป็นกังวลของเธอออกและพยักหน้าไปทางจี้เหลียงชวน "ดูเหมือนว่าคุณซูจะผิดหวังกับประธานจี้เเล้ว"เขาก็ไม่ได้บอกว่าคุณซูไม่รักประธานจี้ แต่เขารู้สึกเสมอว่าเธอเคยรั
พอพูดจบจี้เหลียงชวนก็วางแก้วไวน์ หยิบเสื้อนอกแล้วลุกออกไปพอเขาเดินออกมาถึงข้างนอกกำลังเปิดประตูรถ เฉียวซานซานก็โทรเข้ามาพอดีเขารับสายไปพลางระหว่างขึ้นไปนั่งในรถ "มีอะไร"ซานซานกุมโทรศัพท์ไว้ในมือพูดกับเขาว่า "คุณชายเจ็ด คุณอยู่ไหน ฉันมีธุระกับคุณนิดหน่อย"จี้เหลียงชวนเงยหน้าขึ้นมองดวงอาทิตย์ ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "ก็บอกแล้วว่าจะไม่เจอกันตอนกลางวัน เจอแค่ตอนกลางคืนไม่ใช่หรือไง?"เขาไปเอาผู้หญิงที่เคยหย่าร้างมาเป็นแฟน ถูกเพื่อนคนรวยที่เป็นเพลย์บอยเยาะเย้ยมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนแต่เสน่ห์ของเธอทำให้เขาอดใจไม่ได้ เขาจึงต้องทนรับแรงกดดันจากการถูกเยาะเย้ย ให้เธอได้นั่งตำแหน่งแฟนสาวของเขาต่อไปแต่อย่าหวังว่าเขาจะไปหาเธอตอนกลางวัน ถ้าถูกพวกเพื่อน ๆ เห็นเข้า เขาต้องถูกพวกนั้นถากถางอีกแน่ เขาคงทนไม่ไหวซานซานเหลือบมองคฤหาสน์ของจี้เหลียงชวนแล้วพูดว่า "ฉันอยู่หน้าบ้านคุณแล้ว คุณกลับมาหน่อยนะ"จี้เหลียงชวนหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็ยังพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "โอเค งั้นเธอรอฉันก่อน"กับผู้หญิงถ้าอีกฝ่ายขออะไรเขาก็ตอบสนองตลอดอยู่แล้ว ยิ่งกับแฟนยิ่งไม่ต้องพูดถึงเขาวางสายแล้วสตาร์ทรถตรงกลับไปที่ค
ซานซานคิดว่าการมาหาเขาในตอนกลางวันจะทำให้เขาหงุดหงิด แต่คิดไม่ถึงว่าคำแรกที่คำพูดกับเธอเมื่อเจอกันคืออย่าสูบบุหรี่เดิมทีเธออยากจะพูดกับเขาแบบสบาย ๆ ว่าจี้เหลียงชวนเราเลิกกันเถอะแล้วหันหลังกลับไปเลย แต่ตอนนี้เธอกลับพูดไม่ออกจี้เหลียงชวนจูงมือเธอเข้าบ้านไป "รีบร้อนมาหาฉันแบบนี้ เธออยากเหรอทำกับฉันเหรอ?"ตอนแรกซานซานก็รู้สึกประทับใจเล็กน้อย แต่พอเธอได้ยินเขาพูดออกมาแบบนี้ สีหน้าเธอก็แย่ลง "เปล่า ฉันอยากจะ..."ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรจี้เหลียงชวนก็หันกลับมาเชยคางของเธอขึ้นแล้วก้มหน้าลงมาจูบเธอการจูบที่เนิ่นนานและน่าอึดอัดทำให้ซานซานหายใจไม่ออก เธอจึงหยิกเอวของเขาอย่างแรง เขาถึงยอมหยุดเพิ่งจะปล่อยให้เธอหายใจได้แค่แวบเดียว จี้เหลียงชวนก็อุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินไปที่ห้องนอนหลังจากที่ชายหนุ่มโยนเธอลงบนเตียง เขาก็กระชากเน็คไทออก ปลดกระดุมเสื้อแล้วคร่อมทับร่างเธอทันทีหลังจากเสร็จกิจกันแล้ว ซานซานก็เอื้อมไปหยิบบุหรี่บนโต๊ะหัวเตียงตามความเคยชิน แต่จี้เหลียงชวนจับมือเธอไว้แล้วดึงเธอมากอดไว้ในอ้อมแขนเขาพูดด้วยความรำคาญใจเล็กน้อย "ทำไมคุณถึงดื้อขนาดนี้นะ..."ซานซานนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา เ
กิจการไนท์คลับเป็นไปได้ดีมาก ถ้าจะขายก็น่าเสียดาย มอบให้ผู้จัดการดูแลต่อไปเป็นทางที่ดีที่สุดแล้วซานซานแบ่งหุ่นไนท์คลับบางส่วนให้กับผู้จัดการ และให้เขาส่งรายงานการเงินให้เธอตรงเวลาทุกเดือนหลังจากที่เธอกลับบ้านจัดกระเป๋าเดินทางเสร็จ เธอก็ส่งข้อความหาหว่านหว่านบอกว่าเธอจัดการเรื่องของเธอเสร็จแล้วพร้อมออกเดินทางไม่นานซูหว่านก็ตอบข้อความของเธอ บอกว่าครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของจิเหยียนโจวต้องดำเนินการขออนุญาติก่อน บอกให้เธอรอไปก่อนซานซานคิดว่ามันคงต้องใช้เวลานาน ไม่คิดว่าคนที่ความสามารถทางด้านการเงินสูงอย่างจิเหยียนโจวจัดการขอเส้นทางบินได้รวดเร็วขนาดนี้ก่อนที่เธอจะลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่หลายใบออกจากบ้าน เธอก็หันกลับไปมองคฤหาสน์ที่เธอซื้อมาอีฃกครั้งเดิมทีเธอคิดจะขายบ้านทิ้ง แต่เธอคิดว่าไม่แน่หว่านหว่านอาจจะหลุดพ้นจากจิเหยียนโจวได้ในอนาคต ดังนั้นเธอจึงเก็บไว้ก่อนเธอถอนสายตากลับมา หลังจากกำชับแม่บ้านให้ดูแลบ้านให้ดีแล้วก็ลากกระเป๋าออกจากบ้านชายในรถโรลส์-รอยซ์ แฟนธอมที่อยู่ห่างออกไปเมื่อเห็นเธอท่าทางเหมือนกำลังจะเดินทางไกล ก็ทนไม่ได้ต้องลงจากรถ"เธอจะไปไหน?"พอได้ยินเสียงดังมาจากข้
ซานซานโบกมือ เธอไม่สนใจเรื่องนี้ แต่เธอสนใจว่าจี้ซือหานเคยมาหาหว่านหว่านซานซานถามด้วยความสับสน "จี้ซือหานมาหาเธอทำไม?"เมื่อนึกถึงท่าทางสูญเสียการควบคุมของจี้ซือหานแล้ว สีหน้าของซูหว่านก็ดูคล้ายจะหายใจไม่ออกเล็กน้อย "เขาบอกว่าเขารักฉันมาแปดปีแล้ว เขาขอให้ฉันให้โอกาสเขาสักครั้ง"พอพูดจบ เธอก็ยิ้มแห้ง ๆ อย่างขมขื่น "ซานซาน เธอว่ามันตลกไหมล่ะ?"เขาทำกับเธอแบบนั้น แล้วยังมาบอกว่าเขารักเธอเนี่ยนะ ยากที่เชื่อว่าความรักที่ล่าช้านี้แบบนี้มันมาจากใจเขาจริง ๆหลังจากที่ซานซานหายตกใจ อารมณ์ในสายตาเธอก็กลายเป็นซับซ้อนขึ้นมาทันที"หว่านหว่าน มีเรื่องนึงที่ฉันไม่ได้บอกเธอ""ที่จริงหลังจากที่เธอตาย จี้ซือหานเคยมาหาเธอ""ตอนนั้นพอเขารู้ว่าเธอตาย เขาดูเหมือนตายทั้งเป็นเลย""แต่ฉันจมอยู่กับความโกรธแค้นที่เขาเป็นต้นเหตุทำให้เธอต้องตาย ฉันก็เลยไม่ได้คิดอะไรต่อ""แต่ตอนนี้พอเธอบอกว่าเขารักเธอมาแปดปี ก็เลยรู้สึกว่าไม่แน่เขาจะรักเธอจริง ๆ..."แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่า ในเมื่อจี้ซือหานรักหว่านหว่าน แล้วทำไมเขาต้องทอดทิ้งหว่านหว่านด้วยหลังจากทิ้งหว่านหว่านไปแล้วยังลงมือลงไม้กับเธอเพื่อปกป้องคนเลวสอ
ณ สนามบิน ห้องน้ำข้าง ๆ ห้องรับรองวีไอพีหลังจากซูหว่านล้างมือเสร็จก็มาเติมหน้าที่หน้ากระจกผิวของเธอตอนนี้ไม่ได้ซีดเซียวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ดูมีเลือดฝาดขึ้นเยอะแค่ลงรองพื้นบาง ๆ ทาลิปสักหน่อยก็ทำให้ดูสดใสขึ้นมาไม่น้อยหลังจากเติมหน้าเสร็จกำลังจะกลับไปห้องรับรองวีไอพี ก็มีคนร่างสูงคนหนึ่งเดินเข้ามาเขาสวมชุดสูทสีดำ รัศมีความเยือกเย็นแผ่ออกมาจากตัวเขา หน้าตาหล่อเหลาคมคายดวงตาคู่งามเย็นชาราวหิมะ สายตาของเขาเฉียบคมราวกับจะมองเธอให้ทะลุไปทุกอนูรูขุมขน มันหนาวเหน็บจนน่าหวาดกลัวเขาเดินจ้ำอ้าวเข้ามาหาเธอโดยไม่พูดอะไรเอาแต่ปั้นหน้าเคร่งขรึม แล้วก็ลากเธออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำหลังจากซูหว่านหายตกใจแล้วเธอก็ออกแรงสบัดมือเขาออก แต่เขากลับล็อกตัวเธอไว้แน่นไม่ให้เธอได้มีโอกาสดิ้นหลุดไปได้"จี้ซือหาน!"เธอคิดว่าเธอก็พูดกับเขาชัดเจนแล้ว ทำไมเขาถึงยังตามตื้อไม่เลิก?จี้ซือหานไม่ได้หันหน้ามาแต่คว้าแขนเธอแล้วลากออกจากห้องน้ำไปเลย ซูหว่านเกาะประตูไว้แน่นให้ตายยังไงก็ไม่ยอมไปกับเขาจี้ซือหานหลับตาพยายามระงับความโกรธไว้ แล้วสั่งซูชิงที่อยู่หน้าประตูว่า "อย่าให้ใครเข้ามานะ"พอสั่งเสร็จปุ๊ปเขา
เมื่อซูหว่านได้ยินประโยคนี้ก็หัวเราะเยาะออกมาเช่นกัน "ถ้าหากว่าฉันทายไม่ผิด คุณจี้คงจะหาคนที่เข้าขากับคุณไม่ได้เท่าฉันแล้ว ถึงได้เอาแต่ตามตื้อฉันไม่หยุดสินะ"เมื่อจี้ซือหานได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าขาวซีดของเขาก็เริ่มดุดันขึ้นมา ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ พยายามเก็บซ่อนอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้ราวกับว่าเขากำลังโกรธจัดอย่างไม่อาจควบคุมได้ เขาใช้มือคว้าหมับไปที่แก้มของเธอ แล้วดึงเอาร่างบอบบางของเธอให้มาอยู่ตรงหน้าของตัวเองเข้าจ้องไปยังใบหน้าที่มีขนาดเล็กเท่ากับฝ่ามือเขม็ง แล้วกัดฟันพูดว่า "เธอพูดถูก เพราะว่าฉันหาคนที่เข้าขากับฉันมากกว่าเธอไม่ได้แล้วถึงได้คอยตามตื้อกับเธออยู่แบบนี้"หัวใจของซูหว่านรู้สึกเจ็บปวด มันรู้สึกอึดอัดและเจ็บปวดราวกับจะขาดใจ สีหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนไป แต่ก็พยายามทำเป็นเข้มแข็งไว้เธอยิ้มให้กับเขาราวกับไม่ใส่ใจเลยสักนิด "ตอนนี้ฉันแต่งงานแล้ว ไม่ได้รับงานเหมือนเมื่อก่อนอีก ยังไงก็ขอให้คุณจี้ได้โปรดปล่อยฉันไป อย่ามาระรานฉันอีกเลย"จี้ซือหานรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง มันเป็นความรู้สึกเจ็บแปล๊บๆ ราวกับมีตาข่ายหลังหนึ่งมาคลุมร่างของเขาเอาไว้ ทำให้เขาไม่อาจหนีไปไหนได้ซู
เขากอดเธอไว้แน่น แต่ก็ไม่รู้สึกถึงการมีตัวตนอยู่ของเธอเลย ความรู้สึกว่างเปล่าเช่นนี้ แทบจะทำให้เขาเป็นบ้า!แถมเธอยังถามเขาด้วยสีหน้าเย็นชาต่ออีกว่า "คุณจะเอาหรือเปล่า ถ้าไม่เอาก็ปล่อยฉันไปได้แล้ว"จี้ซือหานรู้สึกเพียงว่าตัวเองเจ็บปวดจนยากที่จะหายใจ เจ็บปวดจนแทบจะพูดไม่ออก ทำได้เพียงกดศีรษะของเธอเอาไว้ที่หน้าอกของเขา หวังอยากให้เธอได้ยินเสียงหัวใจที่แตกสลายของเขา แต่เธอที่ไม่ได้รักเขา จะสนใจได้ยังไงว่าเขาจะเจ็บปวดสักเท่าไร...ซูหว่านออกแรงผลักเขา แต่ก็ไม่เป็นผลอะไรเลย เขาก็ยังคงกอดเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อยเธอไปเธอรู้สึกจนใจ ได้แต่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ "คุณจะให้ฉันทำยังไงกันแน่ถึงจะยอมปล่อยฉันไป"น้ำเสียงเย็นชาแฝงไว้ด้วยความแข็งกร้าวของจี้ซือหานดังขึ้นจากข้านบนศีรษะของเธอ "ฉันต้องการให้เธอรักฉัน"เมื่อได้ฟังประโยคนี้ หัวใจของซูหว่านก็สั่นไหวน้อยๆ แต่ใบหน้ากลับเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ผู้หญิงในอ้อมกอดเขายังคงเงียบไม่พูดอะไร จี้ซือหานก็รู้แล้วว่าคำตอบของเธอคืออะไรเขาก้มหน้าลงแล้วถามเธอด้วยดวงตาที่แดงก่ำ "ซูหว่าน เธอจะรักฉันไม่ได้สักครั้งเลยเหรอ?"รักเขาสักครั้ง ต่อให้แค่วันเดียวก็ยังดี ให้
ช่างเสื้อหยิบชุดเจ้าสาวชุดนั้นลงมา เมื่อสัมผัสโดนเนื้อผ้าและเพชรที่ประดับอยู่ด้านบน ก็อึ้งไปชุดแต่งงานชุดนี้เต็มไปด้วยผ้ากอซสีอ่อนหลายชั้น ประดับด้วยดอกกุหลาบและเพชรที่ทอจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเป็นสีขาวคริสตัลเรียบง่ายและวิจิตรงดงามด้วยเพชรที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่องประกายด้วยเสน่ห์อันงดงามและสง่างามจนน่าทึ่งถ้าดูไม่ผิด หากอ่านไม่ผิด นี่คือชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวในโลกที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกหลายปีก่อน ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกเก็บเอาไว้ในห้องนิทรรศการที่ต่างประเทศ แต่ต่อมาได้ยินว่าถูกคนซื้อไปในราคาสูงลิ่วคิดไม่ถึงว่าคนที่ซื้อชุดเจ้าสาวไป จะเป็นท่านประธานของกลุ่มบริษัทจี้ ถ้าไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง จะยอมจ่ายหนักขนาดนี้ได้ยังไง?ที่สำคัญอีกชุดนึงที่อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เดาว่าก็น่าจะมีแค่ชุดเดียว ไม่ซ้ำใคร"คุณนายจี้ ท่าทางคุณผู้ชายจะรักคุณมากเลยนะคะ..."ซูหว่านได้ยินคำพูดของช่างเสื้อ ก็พยักหน้าอย่างไม่ปิดบังผู้ชายคนนั้นรักเธอมาก รักจนยอมมอบทุกอย่างให้กับเธอ รักจนยอมตายไปพร้อมกับเธอเธอคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่หล
ซูหว่านพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ก็ได้ค่ะ ฉันเอาตามที่คุณพูด ตอนนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นเครื่องบิน ก็ต้องขึ้นรถพยาบาลก่อน..."ถ้ายังไม่ห้ามเลือดอีก เขาจะทนไม่ไหวเอา จี้ซือหานเห็นว่าเธอเป็นห่วงเขา ถึงได้จับมือเธอขึ้นเครื่องบินอย่างว่าง่ายคืนนี้ ซูหว่านเฝ้าอยู่ข้างกายจี้ซือหาน รอหมอห้ามเลือด เย็บแผล เปลี่ยนยาให้เขาเสร็จ เธอถึงได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง ซูหว่านก็รู้สึกว่าไม่น่าจะจัดงานแต่งได้ จึงเอ่ยข้อเสนอกับเขา "หรือเลื่อนออกไปวันนึงไหม"ชายหนุ่มที่ถือผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เธอ พูดด้วยความแน่วแน่ "ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องจัดงานแต่ง!"ซูหว่านที่เพิ่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ อุงไอน้ำร้อนๆในมือ หันกลับไปมองเขา "แต่แผลของคุณ..."จี้ซือหานพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ต่อให้แผลจะใหญ่กว่านี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการจัดงานแต่ง"ซูหว่านยังอยากพูดอะไรอีก แต่จี้ซือหานหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้เธอจากนั้น ขับรถไปส่งเธอที่วิลล่าของซานซานด้วยตัวเอง โดยไม่สนคำทัดท้านของเธอ"สิบเอ็ดโมง ฉันจะพาคนของตระกูลจี้ มารับเธอ"กำหนดการณ์เดิมคือสิบโมง แต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป อยากให้เธอพักผ่อนกว่านี้อีกหน่อย ชาย
จี้ซือหานกอดเธอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดจนชา ก็ค่อยๆสงบลงเขาคลายซูหว่านออก เห็นร่างกายของเธอเปียกปอนไปทั้งตัว ทั้งยังสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก"คนที่ควรพูดขอโทษคือฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""คุณพูดอะไรโง่ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ"ซูหว่านพูดจบ ก้มหน้าลงมองมือตัวเองแวบนึง เมื่อเห็นเลือดที่เลอะเต็มมือ ใบหน้าก็ซีดไปทันที"แผลที่หลังของคุณฉีกแล้ว รีบขึ้นรถพยาบาลเถอะ..."เมื่อกี้เธอนึกว่าเป็นน้ำทะเล ไม่คิดว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเลือด แผลที่หลังจะต้องฉีกออกแล้วแน่ๆ!ซูหว่านควงแขนของเขาได้ ก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางของรถพยาบาล ทว่าจี้ซือหานกลับดึงเธอกลับมา"หว่านหว่าน แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก"เขาพูดจบ ก็มองเจียงโม่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลแวบนึง"จับตัวเธอ แล้วค่อยแจ้งคุณเจียง ให้เขามาไถ่ตัวด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ปลดชีวิตเธอซะ!"คำพูดนั้นเขาพูดกับซูชิง ซูชิงรีบรับคำสั่งทันที "ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!"เจียงโม่ที่คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าคุณเย่ไม่มีทางปล่อยเธอ เห็นซ
ซูหว่านครุ่นคิด ก่อนจะถามเขา "คุณแซ่ชู งั้นคุณรู้จัก..."ชูยีไหม?ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำนี้ออกไป ก็ถูกชูจิ่นเหยียนตัดบท "ผมจะส่งคุณกลับไป"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็กลืนคำพูดลงไป ขมวดคิ้วมองเขา "ลำบากแทบตายกว่าฉันจะหนีออกมาได้ จะส่งกลับไปทำไม?"ชูจิ่นเหยียนกรอกตาใส่เธออย่างหมดคำพูด "ผมหมายความว่า จะส่งคุณกลับบ้าน..."ซูหว่านจึงได้พยักหน้า ลุกขึ้นจากหาดทราย เธอต้องรีบกลับไปบอกจี้ซือหาน...ว่าเธอหนีออกมาแล้ว เธอปลอดภัย เธอไม่ได้กลายเป็นภาระของเขา และเขาก็ไม่ต้องถูกแบล็กเมล์อีกหลังจากที่เธอขึ้นฝั่งมากับชูจิ่นเหยียน ก็เห็นรถพยาบาลคันแล้วคันเล่าขับตรงไปยังบีชคลับอย่างรวดเร็วฝีเท้าของเธอชะงัก ช้อนสายตามองไปยังชายหาดที่อยู่ห่างไกล มองเห็นร่างมนุษย์ไม่ชัด เห็นแต่เรือลำเล็กลำใหญ่แล่นลงทะเลทีละลำซูหว่านทอดสายตาลงต่ำครุ่นคิดอยู่สักครู่ เอาแต่รู้สึกว่าเจียงโม่ไม่น่าจะส่งคนจำนวนมากขนาดนั้นมาตามหาและช่วยชีวิตเธอ หรือว่าจี้ซือหานมาแล้ว?ถ้าจี้ซือหานมาถึงแล้ว รู้ว่าเธอกระโดดลงทะเล เกรงว่าจะทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดมาถึงตรงนี้ซูหว่านก็เปลี่ยนความคิด"เราไปดูตรงนู้นหน่อยเถอะ?"ไปดูแปบนึง ถ้าจี้
ซูหว่านที่พยายามหนีถึงสามครั้งแต่ก็ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้ง หันกลับมามองเจียงโม่ที่เดินตามหลังเป็นระยะๆเธอเห็นเอาแต่รับโทรศัพท์ตลอดเวลา ราวกับกำลังปรึกษาเรื่องอะไรอยู่ เพราะระยะค่อนข้างห่าง จึงได้ยินไม่ชัด แต่บางครั้งก็จะได้ยินแค่ชื่อของจี้ซือหานเธอไม่รู้ว่าจี้ซือหานรับปากหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระของจี้ซือหานไม่ได้เธอมองไปยังผืนน้ำทะเลที่สาดเป็นคลื่นดุเดือด หลังจากมองอยู่หลายอึดใจ ก็กระโดดเข้าไปในทะเลโดยไม่ลังเล...เธอเคยพูดว่าถ้าหากมีใครเอาตัวเธอเพื่อไปข่มขู่จี้ซือหาน ถ้างั้นเธอก็จะไม่ยอมกลายเป็นตัวถ่วงของเขาเด็ดขาดเจียงโม่ที่กำลังเกลี้ยกล่อมพ่อบุญธรรมว่าอย่าแบล็กเมลล์จี้ซือหานอีก ได้เห็นภาพช็อตนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดในทันที"ซูหว่าน!"เธอกรีดร้องออกมาทีนึง โยนโทรศัพท์แล้วพุ่งลงไปในทะเลเพื่อช่วยชีวิต ทว่าถูกร่างใครบางคนพุ่งตัดหน้าเข้ามาก่อน...เสียงกระโดดลงทะเลดัง "ตู้ม" ของชูจิ่นเหยียน ว่ายเข้าไปหาร่างเล็กบางที่พุ่งเข้าไปในคลื่นทะเลด้วยความแข็งขันเจียงโม่ที่อยู่บนชายหาด ตอนแรกยังพอจะเห็นร่างของทั้งสองคนลอยอยู่เหนือผิวน
ฝีเท้าของซูหว่านชะงักไปทันทีเธออยากจะหันกลับไปโต้ตอบเขาสักสองสามประโยค แต่ก็กลัวจะเสียเวลา จึงไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แต่ผลักประตูห้องน้ำหญิงด้วยความรวดเร็วหลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว ก็เดินสำรวจห้องน้ำรอบนึง เมื่อเห็นว่าด้านข้างมีหน้าต่างบานเล็ก ก็รีบเดินเข้าไปแล้วเปิดออกข้างนอกเป็นถนนหลวง แค่ปีนออกจากตรงนี้ไป ก็จะสามารถเดินไปถึงถนนหลวงได้ และโอกาสที่จะหนีรอดก็สูงมากทีเดียวเธอเองก็ขี้เกียจมานั่งคิดว่าหลังจากเดินไปถนนหลวงแล้วจะกลับไปยังไง จึงพับแขนเสื้อขึ้น แล้วปีนไปยังขอบหน้าต่างสูงชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนถนนหลวง เขางอขาข้างหนึ่งขึ้น มือข้างหนึ่งทาบบนเข่า กำลังสูบบุหรี่ไปพร้อมกับที่มองดูเธอปีนออกไปนอกหน้าต่างพิลึกคน!ถ้าอยากจะออก ก็เดินผ่านคลับ ออกจากมาประตูหลัก หรือไม่ก็ข้ามชายหาดมาก็ได้แล้ว ทำไมต้องปีนหน้าต่าง?"นี่!"เขาแหกปากคำนึง ทำเอาซูหว่านตกใจจนตกลงมาจากบนขอบหน้าต่าง...ซูหว่านล้มลงอย่างแรง เธอหน้าบูดบึ้งเนื่องจากความเจ็บปวด โชคดีที่ด้านล่างเต็มไปด้วยทราย ไม่อย่างนั้นคงได้กระดูกหักเธอตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น จ้องผู้ชายที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนถนนหลวงตาเขม็ง "นายเป็นโรคหรือไง
เจียงโม่ไม่หลงกล ซูหว่านจึงใช้เล่นแง่ในทางความรู้สึกแทน"คุณหนูเจียง คุณก็รู้ว่าคนที่จี้ซือหานแคร์ มีแต่ฉันมาโดยตลอด""คุณกักตัวเพื่อนของฉันไม่ยอมปล่อย ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ ทำไมต้องให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มารับเคราะห์ด้วยล่ะ?"เจียงโม่จ้องดวงตาใสบริสุทธิ์ของซูหว่านนานอยู่สักพัก จากนั้นก็โบกมือ "ช่างเถอะ แค่คุณอยู่ก็พอแล้วล่ะ"เธอส่งคนไปโทรศัพท์ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายวางสาย ก็หันมาพยักหน้าให้เธอ แล้วจึงอธิบายให้ซูหว่านฟัง"เพื่อนของคุณไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัว ฉันก็แค่ส่งคนไปก่อกวนพวกเขานิดหน่อย หลังจากที่คุณกลับไป อย่าพูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกัน"สรุปว่าที่ซานซานออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ที่อลันกับซีอี้ไม่ได้มาที่วิลล่า ไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัว แต่ถูกคนของเจียงโม่สร้างสถานการณ์แต่ว่า ฟังจากความหมายของเจียงโม่ ถ้าเธอไม่มาล่ะก็ คตที่สร้างสถานการณ์กลุ่มนั้น จะต้องลงมือกับพวกซานซานเป็นแน่...เพียงแต่เพราะเจียงโม่คำนึงถึงจี้ซือหานหรือเธอ ถึงได้เลือกใช้วิธีนุ่มนวล ไม่งั้นลักพาตัวไปเลยก็จะง่ายกว่า...แต่ไม่ว่าคนที่เจียงโม่คำนึงเป็นใคร หรือไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ซูหว่านฟังเข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของเจียงโม่ ก็ถามเธอว่า "ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?"เจียงโม่อ่านความคิดของเธอออกทันที "คุณซู คิดถึงสถานการณ์ของเพื่อนคุณให้มากหน่อยก็ดีค่ะ"ความหมายอีกอย่างก็คือ มีชีวิตของเพื่อนเธออยู่ในกำมือ ถึงเธอจะใช้ข้ออ้างไปบอกบอดี้การ์ด หรือแหกปากร้องตะโกนก็ไม่มีประโยชน์ซูหว่านครุ่นคิด ปล่อยมือที่ประคองประตูรถมาตลอดลง ไพล่ไว้ด้านหลัง ทำสัญลักษณ์ให้กับบอดี้การ์ดหลังจากที่เธอส่งสัญญาณมือโดยเงียบเชียบเสร็จ ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเห็นเธอขึ้นรถมาแต่โดยดี เจียงโม่ก็เขี่ยซิก้าร์ในมือจนมอด จากนั้นสตาร์ทรถ...ตอนที่เธอเหยียบคันเร่ง มองกระจกมองหลังแวบนึง บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นตามมาดังคาดเจียงโม่ดึงสายตากลับ เหยียบคันเร่งจนมิด เลี้ยวผ่านไปไม่กี่โค้งก็สลัดบอดี้การ์ดสำเร็จถึงยังไงก็เป็นถึงระดับหัวหน้าของทีมย่อยในS การที่เจียงโม่สลัดบอดี้การ์ดทิ้งได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากซูหว่านกำเข็มขัดนิรภัยแน่นถึงไม่โดนสะบัดออกจากรถไป ทว่าความรู้สึกพะอืดพะอมในท้องกลับทำให้เธออยากอ้วกเธอกุมหน้าอกที่เต้นระรัว อดกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ มองไปย
นิ้วของเจียงโม่ที่คีบซิการ์ เคาะขี้เถ้าเบาๆ"คุณซู มีใครเค้าพาสามีไปร่วมปาร์ตี้คนโสดกันบ้าง?"การที่เจียงโม่จะปฏิเสธ เป็นสิ่งที่คาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ทำไมล่ะ?ที่เจียงโม่เชิญเธอไปร่วมงานปาร์ตี้คนโสด ก็เพราะอยากให้เธอสอนว่าจะจีบเจียงเจ๋อยังไงไม่ใช่หรอ?งั้นถ้าเธอจะพาจี้ซือหานไปด้วย ก็ไม่ได้หน่วงต่อการสอนเจียงโม่จีบเจียงเจ๋อไม่ใช่หรอ?เธอคิดว่าบางทีเจียงโม่อาจจะอยากอาศัยปาร์ตี้นี้เพื่อพาตัวเธอไป ส่วนเป้าหมายคืออะไร เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงเจ๋อคุยกับจี้ซือหานหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ดังนั้น ก็มองเจียงโม่ด้วยสายตาที่จริงใจ"คุณหนูเจียง ฉันกับจี้ซือหานถูๆไถๆกันมาเกือบสิบปี กว่าจะได้แต่งงานกันไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก่อนวันแต่งงาน""พรุ่งนี้เช้า ฉันแค่อยอยากสวมชุดแต่งงานที่เขาส่งมาให้ แต่งให้เขาด้วยสภาพร่างกายจิตใจที่สมบูรณ์แบบที่สุด หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้เราสมหวังด้วย"ตอนที่พูดสิ่งเหล่านี้ เธอเห็นสีหน้าของเจียงโม่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจียงโม่มีจุดประสงค์อย่างแท้จริง จึงยกริมฝีปากยิ้ม"คุณหนูเจียง ถ้าคุณอยากให้ฉันสอนคุณจีบ