จี้ซือหานหัวเราะอย่างเยือกเย็น ดวงตาเย็นชาและห่างเหินคู่หนึ่งเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยตัวเองเขากดความเจ็บปวดที่อึดอึดในหัวใจของเขา เเล้วหยิบแก้วขึ้นมาและดื่มอีกครั้งลูกกระเดือกที่เซ็กซี่ขยับไปมา เขาใช้วิธีกลืนความเจ็บปวดเหล่านั้นลงไปพร้อมกับไวน์แต่ไวน์ก็ไม่สามารถหยุดความเจ็บปวดนั้นได้ จี้ซือหานวางแก้วของเขา ลุกขึ้นและเดินโซเซไปทางชั้นสอง...เมื่อมองดูเเผ่นหลังที่เย็นชาและโดดเดี่ยวนั้น จู่ ๆ จี้เหลียงชวนก็รู้สึกว่าสิ่งที่ปู่ของเขาพูดนั้นถูกต้อง ความรักเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะไปยุ่งกับมันดันเป็นพี่ีรองที่ถูกสอนแต่เด็กว่าอย่าหวั่นไหวกับอะไรง่าย ๆ กลับกลายเป็นคนที่หวั่นไหวมากที่สุด แต่กลับเป็นเขาที่เลือกที่จะเฉยเมยต่อความรักจี้เหลียงชวนเล่นกับแก้วไวน์และจ้องมองไปที่ซูชิง ซึ่งมีสีหน้าเป็นกังวลเช่นกัน "พี่ีรองของฉันรู้ว่าคุณซูยังมีชีวิตอยู่ แต่เขายังคงหดหู่และไม่มีความสุข ไม่ใช่ว่าไปขอเขาคืนดี เเต่ถูกปฏิเสธมาหรอกนะ?"ซูชิงถอนสายตาที่เป็นกังวลของเธอออกและพยักหน้าไปทางจี้เหลียงชวน "ดูเหมือนว่าคุณซูจะผิดหวังกับประธานจี้เเล้ว"เขาก็ไม่ได้บอกว่าคุณซูไม่รักประธานจี้ แต่เขารู้สึกเสมอว่าเธอเคยรั
พอพูดจบจี้เหลียงชวนก็วางแก้วไวน์ หยิบเสื้อนอกแล้วลุกออกไปพอเขาเดินออกมาถึงข้างนอกกำลังเปิดประตูรถ เฉียวซานซานก็โทรเข้ามาพอดีเขารับสายไปพลางระหว่างขึ้นไปนั่งในรถ "มีอะไร"ซานซานกุมโทรศัพท์ไว้ในมือพูดกับเขาว่า "คุณชายเจ็ด คุณอยู่ไหน ฉันมีธุระกับคุณนิดหน่อย"จี้เหลียงชวนเงยหน้าขึ้นมองดวงอาทิตย์ ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "ก็บอกแล้วว่าจะไม่เจอกันตอนกลางวัน เจอแค่ตอนกลางคืนไม่ใช่หรือไง?"เขาไปเอาผู้หญิงที่เคยหย่าร้างมาเป็นแฟน ถูกเพื่อนคนรวยที่เป็นเพลย์บอยเยาะเย้ยมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนแต่เสน่ห์ของเธอทำให้เขาอดใจไม่ได้ เขาจึงต้องทนรับแรงกดดันจากการถูกเยาะเย้ย ให้เธอได้นั่งตำแหน่งแฟนสาวของเขาต่อไปแต่อย่าหวังว่าเขาจะไปหาเธอตอนกลางวัน ถ้าถูกพวกเพื่อน ๆ เห็นเข้า เขาต้องถูกพวกนั้นถากถางอีกแน่ เขาคงทนไม่ไหวซานซานเหลือบมองคฤหาสน์ของจี้เหลียงชวนแล้วพูดว่า "ฉันอยู่หน้าบ้านคุณแล้ว คุณกลับมาหน่อยนะ"จี้เหลียงชวนหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็ยังพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "โอเค งั้นเธอรอฉันก่อน"กับผู้หญิงถ้าอีกฝ่ายขออะไรเขาก็ตอบสนองตลอดอยู่แล้ว ยิ่งกับแฟนยิ่งไม่ต้องพูดถึงเขาวางสายแล้วสตาร์ทรถตรงกลับไปที่ค
ซานซานคิดว่าการมาหาเขาในตอนกลางวันจะทำให้เขาหงุดหงิด แต่คิดไม่ถึงว่าคำแรกที่คำพูดกับเธอเมื่อเจอกันคืออย่าสูบบุหรี่เดิมทีเธออยากจะพูดกับเขาแบบสบาย ๆ ว่าจี้เหลียงชวนเราเลิกกันเถอะแล้วหันหลังกลับไปเลย แต่ตอนนี้เธอกลับพูดไม่ออกจี้เหลียงชวนจูงมือเธอเข้าบ้านไป "รีบร้อนมาหาฉันแบบนี้ เธออยากเหรอทำกับฉันเหรอ?"ตอนแรกซานซานก็รู้สึกประทับใจเล็กน้อย แต่พอเธอได้ยินเขาพูดออกมาแบบนี้ สีหน้าเธอก็แย่ลง "เปล่า ฉันอยากจะ..."ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรจี้เหลียงชวนก็หันกลับมาเชยคางของเธอขึ้นแล้วก้มหน้าลงมาจูบเธอการจูบที่เนิ่นนานและน่าอึดอัดทำให้ซานซานหายใจไม่ออก เธอจึงหยิกเอวของเขาอย่างแรง เขาถึงยอมหยุดเพิ่งจะปล่อยให้เธอหายใจได้แค่แวบเดียว จี้เหลียงชวนก็อุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินไปที่ห้องนอนหลังจากที่ชายหนุ่มโยนเธอลงบนเตียง เขาก็กระชากเน็คไทออก ปลดกระดุมเสื้อแล้วคร่อมทับร่างเธอทันทีหลังจากเสร็จกิจกันแล้ว ซานซานก็เอื้อมไปหยิบบุหรี่บนโต๊ะหัวเตียงตามความเคยชิน แต่จี้เหลียงชวนจับมือเธอไว้แล้วดึงเธอมากอดไว้ในอ้อมแขนเขาพูดด้วยความรำคาญใจเล็กน้อย "ทำไมคุณถึงดื้อขนาดนี้นะ..."ซานซานนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา เ
กิจการไนท์คลับเป็นไปได้ดีมาก ถ้าจะขายก็น่าเสียดาย มอบให้ผู้จัดการดูแลต่อไปเป็นทางที่ดีที่สุดแล้วซานซานแบ่งหุ่นไนท์คลับบางส่วนให้กับผู้จัดการ และให้เขาส่งรายงานการเงินให้เธอตรงเวลาทุกเดือนหลังจากที่เธอกลับบ้านจัดกระเป๋าเดินทางเสร็จ เธอก็ส่งข้อความหาหว่านหว่านบอกว่าเธอจัดการเรื่องของเธอเสร็จแล้วพร้อมออกเดินทางไม่นานซูหว่านก็ตอบข้อความของเธอ บอกว่าครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของจิเหยียนโจวต้องดำเนินการขออนุญาติก่อน บอกให้เธอรอไปก่อนซานซานคิดว่ามันคงต้องใช้เวลานาน ไม่คิดว่าคนที่ความสามารถทางด้านการเงินสูงอย่างจิเหยียนโจวจัดการขอเส้นทางบินได้รวดเร็วขนาดนี้ก่อนที่เธอจะลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่หลายใบออกจากบ้าน เธอก็หันกลับไปมองคฤหาสน์ที่เธอซื้อมาอีฃกครั้งเดิมทีเธอคิดจะขายบ้านทิ้ง แต่เธอคิดว่าไม่แน่หว่านหว่านอาจจะหลุดพ้นจากจิเหยียนโจวได้ในอนาคต ดังนั้นเธอจึงเก็บไว้ก่อนเธอถอนสายตากลับมา หลังจากกำชับแม่บ้านให้ดูแลบ้านให้ดีแล้วก็ลากกระเป๋าออกจากบ้านชายในรถโรลส์-รอยซ์ แฟนธอมที่อยู่ห่างออกไปเมื่อเห็นเธอท่าทางเหมือนกำลังจะเดินทางไกล ก็ทนไม่ได้ต้องลงจากรถ"เธอจะไปไหน?"พอได้ยินเสียงดังมาจากข้
ซานซานโบกมือ เธอไม่สนใจเรื่องนี้ แต่เธอสนใจว่าจี้ซือหานเคยมาหาหว่านหว่านซานซานถามด้วยความสับสน "จี้ซือหานมาหาเธอทำไม?"เมื่อนึกถึงท่าทางสูญเสียการควบคุมของจี้ซือหานแล้ว สีหน้าของซูหว่านก็ดูคล้ายจะหายใจไม่ออกเล็กน้อย "เขาบอกว่าเขารักฉันมาแปดปีแล้ว เขาขอให้ฉันให้โอกาสเขาสักครั้ง"พอพูดจบ เธอก็ยิ้มแห้ง ๆ อย่างขมขื่น "ซานซาน เธอว่ามันตลกไหมล่ะ?"เขาทำกับเธอแบบนั้น แล้วยังมาบอกว่าเขารักเธอเนี่ยนะ ยากที่เชื่อว่าความรักที่ล่าช้านี้แบบนี้มันมาจากใจเขาจริง ๆหลังจากที่ซานซานหายตกใจ อารมณ์ในสายตาเธอก็กลายเป็นซับซ้อนขึ้นมาทันที"หว่านหว่าน มีเรื่องนึงที่ฉันไม่ได้บอกเธอ""ที่จริงหลังจากที่เธอตาย จี้ซือหานเคยมาหาเธอ""ตอนนั้นพอเขารู้ว่าเธอตาย เขาดูเหมือนตายทั้งเป็นเลย""แต่ฉันจมอยู่กับความโกรธแค้นที่เขาเป็นต้นเหตุทำให้เธอต้องตาย ฉันก็เลยไม่ได้คิดอะไรต่อ""แต่ตอนนี้พอเธอบอกว่าเขารักเธอมาแปดปี ก็เลยรู้สึกว่าไม่แน่เขาจะรักเธอจริง ๆ..."แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่า ในเมื่อจี้ซือหานรักหว่านหว่าน แล้วทำไมเขาต้องทอดทิ้งหว่านหว่านด้วยหลังจากทิ้งหว่านหว่านไปแล้วยังลงมือลงไม้กับเธอเพื่อปกป้องคนเลวสอ
ณ สนามบิน ห้องน้ำข้าง ๆ ห้องรับรองวีไอพีหลังจากซูหว่านล้างมือเสร็จก็มาเติมหน้าที่หน้ากระจกผิวของเธอตอนนี้ไม่ได้ซีดเซียวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ดูมีเลือดฝาดขึ้นเยอะแค่ลงรองพื้นบาง ๆ ทาลิปสักหน่อยก็ทำให้ดูสดใสขึ้นมาไม่น้อยหลังจากเติมหน้าเสร็จกำลังจะกลับไปห้องรับรองวีไอพี ก็มีคนร่างสูงคนหนึ่งเดินเข้ามาเขาสวมชุดสูทสีดำ รัศมีความเยือกเย็นแผ่ออกมาจากตัวเขา หน้าตาหล่อเหลาคมคายดวงตาคู่งามเย็นชาราวหิมะ สายตาของเขาเฉียบคมราวกับจะมองเธอให้ทะลุไปทุกอนูรูขุมขน มันหนาวเหน็บจนน่าหวาดกลัวเขาเดินจ้ำอ้าวเข้ามาหาเธอโดยไม่พูดอะไรเอาแต่ปั้นหน้าเคร่งขรึม แล้วก็ลากเธออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำหลังจากซูหว่านหายตกใจแล้วเธอก็ออกแรงสบัดมือเขาออก แต่เขากลับล็อกตัวเธอไว้แน่นไม่ให้เธอได้มีโอกาสดิ้นหลุดไปได้"จี้ซือหาน!"เธอคิดว่าเธอก็พูดกับเขาชัดเจนแล้ว ทำไมเขาถึงยังตามตื้อไม่เลิก?จี้ซือหานไม่ได้หันหน้ามาแต่คว้าแขนเธอแล้วลากออกจากห้องน้ำไปเลย ซูหว่านเกาะประตูไว้แน่นให้ตายยังไงก็ไม่ยอมไปกับเขาจี้ซือหานหลับตาพยายามระงับความโกรธไว้ แล้วสั่งซูชิงที่อยู่หน้าประตูว่า "อย่าให้ใครเข้ามานะ"พอสั่งเสร็จปุ๊ปเขา
เมื่อซูหว่านได้ยินประโยคนี้ก็หัวเราะเยาะออกมาเช่นกัน "ถ้าหากว่าฉันทายไม่ผิด คุณจี้คงจะหาคนที่เข้าขากับคุณไม่ได้เท่าฉันแล้ว ถึงได้เอาแต่ตามตื้อฉันไม่หยุดสินะ"เมื่อจี้ซือหานได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าขาวซีดของเขาก็เริ่มดุดันขึ้นมา ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ พยายามเก็บซ่อนอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้ราวกับว่าเขากำลังโกรธจัดอย่างไม่อาจควบคุมได้ เขาใช้มือคว้าหมับไปที่แก้มของเธอ แล้วดึงเอาร่างบอบบางของเธอให้มาอยู่ตรงหน้าของตัวเองเข้าจ้องไปยังใบหน้าที่มีขนาดเล็กเท่ากับฝ่ามือเขม็ง แล้วกัดฟันพูดว่า "เธอพูดถูก เพราะว่าฉันหาคนที่เข้าขากับฉันมากกว่าเธอไม่ได้แล้วถึงได้คอยตามตื้อกับเธออยู่แบบนี้"หัวใจของซูหว่านรู้สึกเจ็บปวด มันรู้สึกอึดอัดและเจ็บปวดราวกับจะขาดใจ สีหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนไป แต่ก็พยายามทำเป็นเข้มแข็งไว้เธอยิ้มให้กับเขาราวกับไม่ใส่ใจเลยสักนิด "ตอนนี้ฉันแต่งงานแล้ว ไม่ได้รับงานเหมือนเมื่อก่อนอีก ยังไงก็ขอให้คุณจี้ได้โปรดปล่อยฉันไป อย่ามาระรานฉันอีกเลย"จี้ซือหานรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง มันเป็นความรู้สึกเจ็บแปล๊บๆ ราวกับมีตาข่ายหลังหนึ่งมาคลุมร่างของเขาเอาไว้ ทำให้เขาไม่อาจหนีไปไหนได้ซู
เขากอดเธอไว้แน่น แต่ก็ไม่รู้สึกถึงการมีตัวตนอยู่ของเธอเลย ความรู้สึกว่างเปล่าเช่นนี้ แทบจะทำให้เขาเป็นบ้า!แถมเธอยังถามเขาด้วยสีหน้าเย็นชาต่ออีกว่า "คุณจะเอาหรือเปล่า ถ้าไม่เอาก็ปล่อยฉันไปได้แล้ว"จี้ซือหานรู้สึกเพียงว่าตัวเองเจ็บปวดจนยากที่จะหายใจ เจ็บปวดจนแทบจะพูดไม่ออก ทำได้เพียงกดศีรษะของเธอเอาไว้ที่หน้าอกของเขา หวังอยากให้เธอได้ยินเสียงหัวใจที่แตกสลายของเขา แต่เธอที่ไม่ได้รักเขา จะสนใจได้ยังไงว่าเขาจะเจ็บปวดสักเท่าไร...ซูหว่านออกแรงผลักเขา แต่ก็ไม่เป็นผลอะไรเลย เขาก็ยังคงกอดเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อยเธอไปเธอรู้สึกจนใจ ได้แต่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ "คุณจะให้ฉันทำยังไงกันแน่ถึงจะยอมปล่อยฉันไป"น้ำเสียงเย็นชาแฝงไว้ด้วยความแข็งกร้าวของจี้ซือหานดังขึ้นจากข้านบนศีรษะของเธอ "ฉันต้องการให้เธอรักฉัน"เมื่อได้ฟังประโยคนี้ หัวใจของซูหว่านก็สั่นไหวน้อยๆ แต่ใบหน้ากลับเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ผู้หญิงในอ้อมกอดเขายังคงเงียบไม่พูดอะไร จี้ซือหานก็รู้แล้วว่าคำตอบของเธอคืออะไรเขาก้มหน้าลงแล้วถามเธอด้วยดวงตาที่แดงก่ำ "ซูหว่าน เธอจะรักฉันไม่ได้สักครั้งเลยเหรอ?"รักเขาสักครั้ง ต่อให้แค่วันเดียวก็ยังดี ให้