ผู้นำตระกูลคาร์ลสันทำราวกับว่าเขาได้ยินเสียงราชโองการศักดิ์สิทธิ์ เขาถึงกับถอนหายใจออกมาและพูดว่า “ใช่ ใช่ คุณชายรองมีเมตตาต่อตระกูลคาร์ลสันมาก มันเป็นโชคดีของเรา เราจะระลึกถึงความกรุณาและจะจงรักภักดีต่อคุณชายรอง เราจะไม่นำความยุ่งยากมาให้คุณชายรอง…”ตอนนี้ผู้นำตระกูลคาร์ลสันตัวสั่นไปทั้งตัวทันใดนั้น ก็มีเลือดไหลออกมาทางมุมปากของเขาดูน่ากลัว จากนั้นเขาก็ทรุดตัวลงกับพื้นอย่างช้า ๆ ตะเกียกตะกายเหมือนหายใจไม่ออกเขาถูกสั่งให้กินยาพิษเข้าไปก่อนที่จะมาที่นี่!ในฐานะผู้นำตระกูลด้านการแพทย์ เขาควบคุมปริมาณยาพิษที่กินเข้าไปได้เหมาะสมกับเวลาผู้จัดการยอร์กพูดอย่างไม่สนใจว่า “ส่งศพนี้กลับไปหาพวกคาร์ลสันเพื่อทำพิธีฝังให้เหมาะสม”“แล้วสั่งให้ตระกูลคาร์ลสันแต่งตั้งผู้นำคนใหม่ด้วยตัวเอง”ผู้จัดการยอร์กหันหลังเดินจากไปคุณชายรองให้โอกาสเสมอ แต่พวกคาร์ลสันทำงานล้มเหลวและทำให้แผนของคุณชายรองเสียหาย นี่ถือเป็นการลงโทษที่เบาที่สุดแล้ว***ที่โถงบริเวณด้านข้างของลานซิลเวอร์นิมบัส สถานที่แห่งนี้ดูธรรมดา สวยงาม และมีสไตล์ของศตวรรษที่ 18 และ 19 ผสมผสานเข้าด้วยกันทุกคนมารวมตัวกันที่นี่ แต่ในตอนนี
ควินตันยกมือซ้ายขึ้นและมองมัน เส้นโชคชะตาไคว้สลับกันและอัดแน่นยุ่งเหยิงเหมือนกระดานหมากรุกแม้ดูเหมือนว่าเขาจะมองเห็นชะตากรรมของเขา ควินตันยังคงยิ้มและพูดว่า “ฉันรู้ว่าที่ผ่านมาคน ๆ นั้นได้คอยให้ความช่วยเหลือพวกคุณหลายคน และในช่วงสามปีที่ผ่านมา แม้ว่าพวกคุณจะย้ายฝั่งมาเป็นคนของฉัน ทว่ามีแต่พวกคุณเท่านั้นที่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่…”“พวกคุณรู้ว่าฉันปฏิบัติต่อคุณยังไง สิ่งที่เขาสามารถให้พวกคุณได้ ฉันสามารถให้พวกคุณได้มากกว่านั้น…”“ถ้าใครยังต้องการช่วยเขาอีกล่ะก็ ฉันจะให้โอกาสพวกคุณบอกฉันมาตอนนี้ ฉันจะไม่ไล่ตามล่าพวกคุณ และจะปล่อยคุณไป…”“แต่คิดให้รอบคอบก่อนนะ ทุกคนมีส่วนในการขับไล่เขาออกไปเมื่อสามปีที่แล้ว…”ประโยคสุดท้ายกระแทกพวกเขาเหมือนฟ้าผ่าเข้าอย่างจัง คนที่ลังเลในตอนแรกก็ตัดสินใจได้ทันทีบางคนถึงกับคุกเข่าลงบนพื้นแล้วส่งเสียงอ้อนวอนว่า “คุณชายรอง เราจะรับใช้คุณอย่างซื่อสัตย์ เราอยู่เคียงข้างคุณเสมอ!“เราขอสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อคุณ!”เจ้าพ่อวงการธุรกิจเหล่านั้นซึ่งปกติแล้วจะทรงอำนาจมาก แต่กลับกลายเป็นเหมือนลูกน้องที่ซื่อสัตย์พวกเขากำลังปฏิบัติต่อควินตันราวกับว่าเขาเ
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเธอก็แค่กลัวสูญเสียตำแหน่งตอนนี้ไป!”“แต่เธอคิดดีแล้วหรือยัง? ตระกูลซิมเมอร์กำลังจะขยับขยายไปที่เมืองบัควู้ด!”“เมื่อฉันได้เป็นลูกสะใภ้ นั่นก็จะได้การสนับสนุนจากตระกูลซิลวา พวกเราซิมเมอร์จะเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น!”“ถ้าเธอยอมเชื่อฟังดี ๆ ฉันอาจจะเลี้ยงดูเธอสักนิดในขณะที่ฉันได้รับการดูแลเยี่ยงเจ้าหญิง...”ควินน์กอดอกของเธอแน่นอย่างมั่นอกมั่นใจ เชิดหน้าอกผ่ายไหล่ผึ่งทำท่าทางเย่อหยิ่ง“ใช่! พ่อของเธอเอาความคิดดี ๆ แบบนี้มาเสนอเอง เธอจะต่อต้านพ่อตัวเองหรือไง เธอจะขัดขวางแผนการของเราที่จะขยับขยายไปที่บัควู้ดใช่ไหม?”“ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อของเธอ เราก็ไม่จำเป็นต้องขายทรัพย์สินของเราด้วยซ้ำ!”“ใช่ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเธอและครอบครัวของเธอ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอยังคงทำตัวเหมือนเป็นตกเป็นเหยื่อ แม้ว่าเธอจะเป็นคนที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุดก็ตาม!”“ถ้าถามฉัน เราไม่จำเป็นต้องขายทรัพย์สินทั้งหมดของเราก็จริง แต่โครงการของแมนดี้จะต้องขายโดยเร็วที่สุด!”“...”สมาชิกในตระกูลซิมเมอร์พูดแสดงความคิดเห็นของพวกเขาเสียงดังพวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะมุ่งหน้าไปยังบัควู้ดเพื่อไปเป็นยักษ์ให
“คุณปู่”แมนดี้ไม่แม้แต่จะสบตากับแซ็ค แต่กลับมองไปที่ผู้อาวุโสซิมเมอร์ด้วยสายตาอ้อนวอน“คุณปู่ พวกเราได้ทุ่มเทแรงกายไปกับโครงการศูนย์การค้าไปมาก ไม่คุ้มค่าที่จะทิ้งมันไป!”“ทำไมคุณปู่ไม่ลองให้โอกาสหนูอีกครั้ง ถ้าหนูไม่สามารถกู้เงินได้ คุณปู่ก็ขายโครงการนี้ได้เลย”เมื่อเขามองไปที่แมนดี้ ผู้อาวุโสซิมเมอร์รู้สึกคล้อยตามเธอแซ็คตบมือลงบนโต๊ะและตะคอกใส่แมนดี้ “แมนดี้ เธอไม่รู้จักที่ของตัวเองเลยหรือไง?!”“พูดตรง ๆ เธอก็เป็นแค่เพียงผู้จัดการฝ่ายการเงินของบริษัท และเป็นแค่ผู้รับผิดชอบโครงการนี้เท่านั้น!”“การดำเนินงานของบริษัทยังอยู่ภายใต้การควบคุมของคุณปู่และฉัน เธอไม่ได้รับอนุญาตให้มาโต้แย้ง!”“พ่อของเธอยังเร่งให้เรารีบดำเนินการตามแผนด้วยซ้ำ!”“เรามีการประชุมเพื่อขายทรัพย์สินของเราไปแล้ว ถ้าตอนนี้เธอเข้ามาขัดขวาง แล้วทำให้ลูกค้าหวาดกลัว จะทำยังไง?”“แล้วถ้าโครงการมีผลกำไรไม่พอจ่ายงวดแรกล่ะ?”“เธอรู้ไหมว่าเราจะสูญเสียเงินจำนวนมากแค่ไหนถ้าเราไม่ได้รับเงินสิบห้าล้านดอลลาร์ตามกำหนดเวลา”แซ็คไม่มีเหตุผลเหลืออยู่ในตัวเขาแล้ว ส่งคำถามมากมายไปยังแมนดี้โครงการที่บัควู้ดถูกนำกลับมาเสนอให
แซ็คเป็นคนแรกที่ยืนขึ้นชี้ไปที่ฮาร์วีย์แล้วหัวเราะเยาะเขาอย่างเย็นชา“ไอ้ถังขยะไร้ค่า พวกเรากำลังพูดประเด็นสำคัญของตระกูล แกมีสิทธิ์อะไรเข้ามายุ่งวุ่นวายแบบนี้? ถ้าแกเปิดเผยความลับของตระกูลเรา แล้วมีคนล่วงรู้ใครจะรับผิดชอบเรื่องนี้?”แมนดี้จ้องไปที่แซ็ค“มากเกินไปแล้วนะแซ็ค ฮาร์วีย์ก็เป็นส่วนหนึ่งของพวกเราด้วย”แซ็คหัวเราะสะใจ“โอ้ แมนดี้ เธอไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของพวกเราเพราะคุณปู่ไม่ยอมให้เขาหย่ากับเธองั้นเหรอ?”“เธอคิดว่าเขาเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรู้ของตตระกูลไนส์เวลล์ และช่วยให้เราได้มีโอกาสทำโครงการร่วมกับเขาจะทำให้เขามีจุดยืนในตระกูลขึ้นมางั้นเหรอ?”“ฉันบอกอะไรเธอให้นะ ตระกูลเราแตกต่างไปจากเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้เราก็แค่ให้เกียรติไนส์เวลล์เท่านั้น ไม่อย่างนั้นเราคงจะไม่ทำโครงการนี้หรอก!”แซ็คมองไปที่ผู้อาวุโสซิมเมอร์“คุณปู่ ฉันว่าเราปลดแมนดี้ออกจากตำแหน่ง เพื่อป้องกันไม่ให้เธอมีส่วนร่วมในกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตระกูลซิมเมอร์!”“แน่นอนว่าตระกูลเราไม่ได้ไร้หัวใจขนาดนั้น เราจะส่งเสียให้เงินสี่ร้อยห้าสิบดอลลาร์กับเธอทั้งสองคนทุกเดือน ก็น่าจะเพียงพอแล้วส
ฮาร์วีย์กำลังจะพูดต่อแต่แซ็คไม่สามารถระงับความโกรธได้อีกต่อไป เขาเอามือตบโต๊ะและตะคอกใส่ฮาร์วีย์อย่างดุเดือดแล้วชี้ไปที่เขา “แกคิดว่าแกเป็นใคร! ลูกเขยอย่างแกมีสิทธิอะไรมาตั้งคำถามกับการตัดสินใจของคุณปู่!”ฮาร์วีย์เหลือบมองแซ็คอย่างเย็นชา“แซ็ค ทำไมถึงโง่ได้ขนาดนี้? ฉันเตือนคุณแล้วนะ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำอะไรลงไป ให้ตรวจสอบสัญญาที่คุณลงนามให้ดีเสียก่อนก่อน!”“ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ไม่ได้เป็นเพียงบริษัทธรรมดา ๆ ตามท้องถนน คุณคิดว่าคุณสามารถรับเงินลงทุนจากพวกเขาได้ง่าย ๆ งั้นหรือ? จะขายโครงการอะไรได้ตามที่คุณต้องการงั้นเหรอ? คุณเชื่ออย่างนั้นจริง ๆ เหรอว่าถ้าคุณได้รับการสนับสนุนจากตระกูลซิลวา คุณสามารถทำอะไรก็ได้ตามปราถนาต่อหน้าคนของยอร์กงั้นเหรอ?”“คุณยังไม่เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้านี้อีกเหรอ และคุณกำลังตัดสินใจรีบร้อนเกินไป! ฉันไม่เข้าใจว่าตระกูลซิมเมอร์มีรองประธานโง่ ๆ อย่างคุณได้ยังไง”“ไอ้สารเลว!”แซ็คโกรธจนอยากจะเหวี่ยงหมัดใส่หน้าฮาร์วีย์แต่ครั้งสุดท้ายที่เขาโดนกระทำเขายังจำได้ดี เขารู้สึกตัวสั่นทันทีเมื่อนึกถึงมัน เขาทำได้เพียงจ้องไปที่ฮาร์วีย์ด้วยความขุ่นเคืองที่อยากจะถลกหน
ร่างเพรียวบางเดินเข้ามาในห้องโถงอีวอนน์ ซาเวียร์เธอไม่แต่งหน้า เพียงแค่สวมกางเกงยีนส์และเสื้อเชิ้ตสีขาว สวมแว่นกรอบสีดำและผูกผมหางม้าถึงอย่างนั้นเธอก็ดูมีเสน่ห์และเย้ายวน ความบริสุทธิ์ผุดผ่องเปล่งประกายออกมาจากเธอ สายตาของทุกคนจับจ้องมาที่เธอทันทีที่อีวอนน์ปรากฏตัว ห้องโถงก็เงียบลงทันที ทุกคนดูตกใจและเหมือนว่าทุกคนสามารถเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบางทีอีวอนน์อาจเป็นตัวแทนของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ มาเจรจากับพวกเขาหรือเปล่า?ในเวลาเดียวกัน แววตาของผู้ชายที่นั่นเป็นประกายเมื่อพวกเขาจ้องไปที่อีวอนน์เธอทำให้พวกเขาตกตะลึงได้มากจริง ๆ เธอสวยเกินไป รูปร่างของเธอช่างเย้ายวนถ้าเป็นเมื่อก่อน ตระกูลซิมเมอร์คงไม่กล้าแม้แต่จะมองเธอแต่วันนี้แตกต่างออกไป พวกเขากำลังจะเป็นตระกูลใหญ่แห่งบัควู้ด พวกเขาคิดว่าพวกเขาอาจจะมีโอกาสได้ผู้หญิงอย่างเธอมาครอบครองแซ็คแสดงท่าทางที่น่ารังเกียจที่สุดเขาคิดเอาไว้แล้ว เมื่อเขาจัดการทุกอย่างที่เขาต้องการในบัควู้ดเรียบร้อยแล้ว เขาคิดจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ผู้หญิงคนนี้มาครอบครอง!“โอ้ มิสซาเวียร์! เชิญนั่ง!”ผู้อาวุโสซิมเมอร์ขมวดคิ้ว แต่เขาเป็นคนที่มีประสบก
สีหน้าของผู้อาวุโสซิมเมอร์หมองลงเมื่อเขามองไปที่อีวอนน์“มิสซาเวียร์ อะไร... คุณหมายถึงอะไร?”อีวอนน์หัวเราะ แล้วจ้องไปแซ็คที่ยืนอยู่ใกล้พวกเขาแซ็คตัวสั่นเมื่อเห็นว่าถูกจ้องมอง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที“ฉันคิดว่าทานประธานซิมเมอร์ คุณบอกว่าคุณอ่านสัญญาอย่างดี ดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้น ฉันเกรงว่าสัญญาที่คุณอ่านคือสัญญาที่ได้ย่อมาแล้ว”“ในเมื่อท่านประธานซิมเมอร์ไม่รู้รายละเอียดที่แน่ชัดในสัญญา วันนี้ฉันพาท่านประธานฮอว์กินส์ของเนติบัณฑิตยสภามาคุยกับคุณเกี่ยวกับรายละเอียดและผลที่จะตามมาจากการละเมิดสัญญา”อีวอนน์ปรบมือของเธอเบา ๆ ผ่านไปครู่หนึ่ง ชายวัยกลางคนในชุดสูทก็เดินเข้าไปในห้องโถงพร้อมกับกระเป๋าเอกสารของเขาจิตใจของผู้อาวุโสซิมเมอร์ปลิวลอยออกไปทันทีหลังจากเห็นชายคนนั้นนี่คือประธานฮอว์กินส์ของเนติบัณฑิตยสภาแห่งเมืองนิอัมมี่ เขามีสถานะที่สูงในเมืองนี้สำหรับตระกูลและบริษัททั่วไปที่จะได้พบเขานั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เขามีคุณธรรมสูงส่ง แต่ผู้อาวุโสซิมเมอร์ไม่คิดว่าเขาจะปรากฏตัวพร้อมกับอีวอนน์เหมือนคนในอำนาจของเธอ“ช่วยบอกท่านประธานซิมเมอร์และคนอื่น ๆ ให้รับรู้เกี่ยวกับสถานการ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข