ร่างเพรียวบางเดินเข้ามาในห้องโถงอีวอนน์ ซาเวียร์เธอไม่แต่งหน้า เพียงแค่สวมกางเกงยีนส์และเสื้อเชิ้ตสีขาว สวมแว่นกรอบสีดำและผูกผมหางม้าถึงอย่างนั้นเธอก็ดูมีเสน่ห์และเย้ายวน ความบริสุทธิ์ผุดผ่องเปล่งประกายออกมาจากเธอ สายตาของทุกคนจับจ้องมาที่เธอทันทีที่อีวอนน์ปรากฏตัว ห้องโถงก็เงียบลงทันที ทุกคนดูตกใจและเหมือนว่าทุกคนสามารถเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบางทีอีวอนน์อาจเป็นตัวแทนของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ มาเจรจากับพวกเขาหรือเปล่า?ในเวลาเดียวกัน แววตาของผู้ชายที่นั่นเป็นประกายเมื่อพวกเขาจ้องไปที่อีวอนน์เธอทำให้พวกเขาตกตะลึงได้มากจริง ๆ เธอสวยเกินไป รูปร่างของเธอช่างเย้ายวนถ้าเป็นเมื่อก่อน ตระกูลซิมเมอร์คงไม่กล้าแม้แต่จะมองเธอแต่วันนี้แตกต่างออกไป พวกเขากำลังจะเป็นตระกูลใหญ่แห่งบัควู้ด พวกเขาคิดว่าพวกเขาอาจจะมีโอกาสได้ผู้หญิงอย่างเธอมาครอบครองแซ็คแสดงท่าทางที่น่ารังเกียจที่สุดเขาคิดเอาไว้แล้ว เมื่อเขาจัดการทุกอย่างที่เขาต้องการในบัควู้ดเรียบร้อยแล้ว เขาคิดจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ผู้หญิงคนนี้มาครอบครอง!“โอ้ มิสซาเวียร์! เชิญนั่ง!”ผู้อาวุโสซิมเมอร์ขมวดคิ้ว แต่เขาเป็นคนที่มีประสบก
สีหน้าของผู้อาวุโสซิมเมอร์หมองลงเมื่อเขามองไปที่อีวอนน์“มิสซาเวียร์ อะไร... คุณหมายถึงอะไร?”อีวอนน์หัวเราะ แล้วจ้องไปแซ็คที่ยืนอยู่ใกล้พวกเขาแซ็คตัวสั่นเมื่อเห็นว่าถูกจ้องมอง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที“ฉันคิดว่าทานประธานซิมเมอร์ คุณบอกว่าคุณอ่านสัญญาอย่างดี ดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้น ฉันเกรงว่าสัญญาที่คุณอ่านคือสัญญาที่ได้ย่อมาแล้ว”“ในเมื่อท่านประธานซิมเมอร์ไม่รู้รายละเอียดที่แน่ชัดในสัญญา วันนี้ฉันพาท่านประธานฮอว์กินส์ของเนติบัณฑิตยสภามาคุยกับคุณเกี่ยวกับรายละเอียดและผลที่จะตามมาจากการละเมิดสัญญา”อีวอนน์ปรบมือของเธอเบา ๆ ผ่านไปครู่หนึ่ง ชายวัยกลางคนในชุดสูทก็เดินเข้าไปในห้องโถงพร้อมกับกระเป๋าเอกสารของเขาจิตใจของผู้อาวุโสซิมเมอร์ปลิวลอยออกไปทันทีหลังจากเห็นชายคนนั้นนี่คือประธานฮอว์กินส์ของเนติบัณฑิตยสภาแห่งเมืองนิอัมมี่ เขามีสถานะที่สูงในเมืองนี้สำหรับตระกูลและบริษัททั่วไปที่จะได้พบเขานั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เขามีคุณธรรมสูงส่ง แต่ผู้อาวุโสซิมเมอร์ไม่คิดว่าเขาจะปรากฏตัวพร้อมกับอีวอนน์เหมือนคนในอำนาจของเธอ“ช่วยบอกท่านประธานซิมเมอร์และคนอื่น ๆ ให้รับรู้เกี่ยวกับสถานการ
‘อะไรนะ?’‘ตอนนี้ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ เป็นเจ้าของที่ดินและเรายังต้องจ่ายชดใช้ด้วยเงินมูลค่าสี่ร้อยห้าสิบหกล้านดอลลาร์เพื่อเป็นค่าชดเชยงั้นเหรอ?’ทุกคนตกใจเมื่อได้ยินแบบนั้น ทุกสายตาที่มองมาที่ประธานฮอว์กินส์“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปได้ยังไงเนี่ย! ฉันดูสัญญาเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้อย่างดีแล้ว! ไม่เหมือนฉบับนี้! แซ็ค เอาสัญญามาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”ผู้อาวุโสซิมเมอร์เหงื่อเต็มตัว ถ้าเขารู้รายละเอียดสัญญาแล้วเขาจะคิดขายโครงการศูนย์การค้าได้ยังไง?“คุณปู่…”แซ็คมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เขายื่นสัญญาให้ผู้อาวุโสซิมเมอร์ แต่มันเป็นการปลอมแปลงขึ้นมา ไม่ใช่สัญญาที่แมนดี้เซ็นสัญญาไว้ก่อนหน้านี้เขาต้องการไปบัควู้ดจริง ๆ เพราะโครงการในบัควู้ดตกอยู่ในกำมือของเขาแล้ว เขาสูญเสียความรู้สึกเพียงพอแล้วในสิ่งที่แมนดี้ทำไว้ที่นี่ เขาต้องการแสดงความสามารถและพิสูจน์ตัวเองในบัควู้ด!เขาจึงปลอมแปลงสัญญาขึ้นมาเขายังได้พบกับผู้บริหารระดับสูงสองสามคนของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ และขอให้พวกเขาช่วยเขาเล็ก ๆ น้อย ๆพวกที่ตำแหน่งสูงนั่นไม่ได้ใส่ใจอะไรที่จะทำตามแผนของแซ็ค จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากซิมเม
ผู้อาวุโสซิมเมอร์มองไปที่ประธานฮอว์กินส์ที่เดินออกจากห้องโถงไป จากนั้นสายตาของเขาก็เริ่มหรี่ลง เขาทรุดนั่งลงบนบัลลังก์เหล็กของเขาด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป“พวกเราจะทำอะไรต่อไป?”“แม้ว่าเราจะขายทรัพย์สินทั้งหมดของเรา ฉันไม่คิดว่าเราจะได้เงินมาสี่ร้อยห้าสิบหกล้านดอลลาร์ ใช่ไหม?”“พูดถึงเรื่องสัญญา ทำไมถึงเป็นสัญญาปลอม? เกิดอะไรขึ้น?”“...”คนอื่น ๆ ในตระกูลซิมเมอร์กำลังซุบซิบกันถึงประเด็นนี้ สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่แซ็คด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธหากตระกูลซิมเมอร์ล้มละลาย และจบลงด้วยการขอทานตามท้องถนน แซ็คจะต้องถูกตำหนิสำหรับเรื่องนี้ทุกอย่าง!ผู้อาวุโสซิมเมอร์สูดหายใจเข้าลึก ๆ ตอนี้เขาแทบจะไม่มีสติหลงเหลืออยู่ เขาชี้นิ้วไปที่แซ็คขณะที่ตัวสั่นเทา“แซ็ค… บอกฉัน… แก… แก… ทำไมแกถึงทำแบบนี้?!”“แกรู้ตัวไหมว่าแกทำลายทั้งครอบครัวของเรา!”แซ็คอ้าปากค้าง ไม่สามารถพูดอะไรได้เขาไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรออกมาดี!ในตอนนั้น แซ็คไม่รู้วิธีระงับอารมณ์ของเขาได้แมนดี้ มองเหตุการณ์ตรงหน้าเกิดความสับสน เธอยังพูดอะไรไม่ออก“คุณปู่ แซ็คทำเพื่อช่วยครอบครัวเราเท่านั้น เขาจะไม่ทำอะไรที่จงใจทำร้ายคร
“หมายความว่าไงไร้ยางอาย! อย่าเพิ่งพ่นเรื่องไร้สาระออกมาเลยเถอะ ไม่มีใครคิดว่าแกเป็นใบ้หรอกถ้าแกหุบปาก! ลูกเขยอย่างแกมีสิทธิอะไรมาพูดแบบนี้ที่นี่?!” ควินน์ พูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันฮาร์วีย์พูดอย่างเย็นชาว่า “ในเมื่อคุณมีความสามารถในการแก้ตัวแบบนี้ ทำไมคุณถึงกลัวว่าคนอื่นจะพูดจาไม่ดีด้วยล่ะ? ใครกันที่กำลังร้องไห้และตะโกนใส่ภรรยาของผมที่ได้สัญญามาโดยที่ไม่มีใครทำได้!”“และตอนนี้คุณปลอมแปลงสัญญาเพื่อหลอกและคนอื่น ๆ ทำผิดครั้งใหญ่แบบนี้ แต่กลับโยนโทษให้คนอื่น!”“พวกคุณสองคนหยุดทำตัวไร้ยางอายไปกว่านี้ได้ไหม? พวกคุณคิดว่าคุณปู่เป็นคนงี่เง่าที่เชื่ออะไรแบบนี้? หรือคิดว่าเขาเป็นโรคอัลไซเมอร์และจะเชื่อสิ่งที่คุณพูด?”ผู้อาวุโสซิมเมอร์นั่งอยู่บนบัลลังค์ขณะที่ตากระตุก‘ไอ้บ้านี่! แน่นอนสิ ฉันต้องเชื่อเขา! เขาเป็นหลานชายของฉัน! ทำไมฉันจะไม่เชื่อ!’ปัญหาคือลูกเขยบ้านี่ได้พูดแบบนั้นไปแล้ว ถ้าเขายอมรับว่าเชื่อแซ็ค เขาจะไม่ดูโง่ในสถานการณ์นี้หรือ?ผู้อาวุโสซิมเมอร์หายใจเข้าลึก ๆ และบังคับตัวเองให้สงบลง จากนั้นตบมือของเขาลงบนโต๊ะอย่างโมโห“พอได้แล้ว! นี่เป็นเรื่องของความเป็นความตายของตระกูลซิม
“ผมไม่เห็นด้วย!” ฮาร์วีย์ยืนขึ้นและตะเบ็งเสียงออกมา‘ลูกเขยนี่อีกแล้วเหรอ?! ทุกอย่างต้องมีเขาเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไง?!’ทุกคนต่างจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ถ้าไม่ใช่เพราะบทเรียนที่ผ่านมาของแซ็ค และกลัวว่าฮาร์วีย์จะหัวเสีย เขาคงจะชกฮาร์วีย์ไปแล้ว“ถ้านายไม่เห็นด้วย แล้วนายมีแผนอื่นไหม?” ผู้อาวุโสซิมเมอร์ถามขณะที่เขาจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชาฮาร์วีย์หัวเราะ“คุณปู่ คุณปู่รู้เกี่ยวกับการเอาหนามมาเพื่อขอบทลงโทษไหมครับ?”“แล้วไง?”ผู้อาวุโสซิมเมอร์ขมวดคิ้ว“ผมคิดว่าท่านประธานของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ไม่ต้องการเงินหรอกครับ สิ่งที่ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ให้ความสำคัญมากที่สุดไม่ใช่การบอกเลิกสัญญา แต่เป็นอย่างอื่น” ฮาร์วีย์พูดอย่างอิสระผู้อาวุโสซิมเมอร์เริ่มให้ความสนใจ“ถ้าอย่างนั้น บอกฉันทีว่า ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ สนใจอะไร?”“ความเคารพ”ฮาร์วีย์พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ต้องการเงินงั้นเหรอ? ไม่ใช่แน่!”“ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลยอร์ก บริษัทแบบนี้จะต้องการอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อยึดทรัพย์สินของตระกูลอื่นจริง ๆ งั้
ฮาร์วีย์ พูดอย่างมั่นใจว่า “อาจจะสำเร็จครับ”“ถึงจะไม่สำเร็จ อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าพวกเรามีความจริงใจกับพวกเขา”“ผมคิดว่าแม้ว่าท่านประธานของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ จะไม่มีเหตุผล แต่เขาก็คงจะใจเย็นลงหลังจากเห็นรองประธานของตระกูลซิมเมอร์คุกเข่าลงตรงหน้าสำนักงานของเขา จริงไหมครับ?”“แต่ถ้ามันไม่ได้ผลล่ะ?”ผู้อาวุโสซิมเมอร์ขมวดคิ้วมุ่น“เกียรติยศศักดิ์ศรีของตระกูลซิมเมอร์จะไม่สูญเปล่าไปด้วยหรือไง?”“คุณปู่ครับ”ฮาร์วีย์พยายามเกลี้ยกล่อมเขาอย่างใจเย็น“แม้ว่าจะไม่มีทางแก้ไขได้ แต่อย่างน้อยเราก็สามารถแสดงความจริงใจของเราให้พวกเขาได้เห็น!”“ถึงเราจะแก้ปัญหาไม่ได้ เราก็ยังมีเวลาช่วยกันหาทางออกด้วยกันได้อีกสองสามวัน จริงไหมครับ?”“นอกจากนี้ ยังไงก็เคยมีคนบางคนคุกเข่าในงานแสดงโบราณวัตถุแล้ว อีกอย่างมันก็ไม่ได้เลวร้ายมากขนาดนั้น จริงไหมครับ?”ผู้อาวุโสซิมเมอร์ครุ่นคิดอยู่ลึก ๆ เขารู้สึกสับสนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น“แน่นอน มันอาจจะดีกว่านี้ถ้าท่านประธานของตระกูลซิมเมอร์ไปด้วยตัวเอง”ฮาร์วีย์ใช้โอกาสนี้เกลี้ยมกล่อม“ถ้าผมทำได้ ผมจะไปที่หน้าประตูบ้านพวกเขาและคุกเข่าโดยไม่คิดอะไรเลยด้ว
แมนดี้ถอนหายใจ สีหน้าของเธอยังคงดูสับสนเธอก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งในตระกูลซิมเมอร์ เธอเพียงต้องการเห็นครอบครัวของเธอปลอดภัยแซ็คยอมขอโทษแล้ว ปู่ของเธอได้พูดย้ำกับเธอ เธอไม่เห็นประโยชน์ที่จะเอามาคิดอะไรอีกฮาร์วีย์แอบถอนหายใจเบื่อหน่าย ในสถานการณ์นี้แมนดี้ควรขอให้ตัวเองมีอำนาจในครอบครัวมากกว่านี้แต่แมนดี้ให้ความสำคัญกับครอบครัวของเธอมากกว่าสิ่งอื่นใดหรือถ้าแม้เธอจะขอมัน แต่เธอก็อาจไม่ยอมรับเมื่อมองไปที่แมนดี้ใจเย็นลงแล้ว ผู้อาวุโสซิมเมอร์ก็ลุกขึ้นยืน“แซ็ค ในเมื่อเรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นแล้ว อย่านิ่งเฉย เธอไปช่วงบ่ายวันนี้ อย่าลืมนำกระเช้าของขวัญไปด้วย”ไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาก็ต้องบังคับให้แซ็คไปยอร์ค เอ็นเทอร์ไพรส์ แซ็คบอกไม่ถูกว่าตอนนี้รู้สึกยังไง ในตอนนั้นเองเขาจ้องไปที่ควินน์เพื่อขอความช่วยเหลือผู้หญิงที่กำลังจะกลายเป็นผู้สูงศักดิ์ที่สุดเร็ว ๆ นี้ ไม่แม้แต่จะพูดอะไรเลยเธอยังไม่ได้แต่งงานกับตระกูลซิลวา เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลีออนหน้าตาเป็นยังไงในตอนนี้เธอไม่กล้าที่จะทำตัวเย่อหยิ่งออกมาเหมือนคนโง่‘จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณปู่อยากให้ฉันไปคุกเข่าด้วย?’ถ้าเป็นอย่างนั้น หล่อนคงเสี
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข