ทุกคนตกใจมาก พวกเขามองภาพที่เกิดขึ้นด้วยความไม่เชื่อเป็นอย่างยิ่งเอเวอรี่อ้าปากค้างทันที เธอไม่รู้จะพูดอะไรในขณะนั้นทุกคนอยากจะเยาะเย้ยฮาร์วีย์ แต่ใบหน้าของพวกเขากลับเปลี่ยนเป็นสีแดงสดท้ายที่สุดแล้วทุกคนรู้ว่าการขโมยอะไรจากพิพิธภัณฑ์บรรพบุรุษนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ถึงแม้ว่าจะมีใครทำอย่างนั้น แต่พวกเขาก็คงจะไม่ขายภาพนั้นในราคาเพียงหนึ่งหมื่นห้าพันดอลลาร์หรอกที่สำคัญกว่านั้นก็คือป่านนี้คงมีข่าวใหญ่โตแล้ว ถ้าภาพวาดนั้นถูกขโมยไปจริง ๆด้วยความที่ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้เลย ฉะนั้นแม้แต่คนโง่เง่าก็ยังรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นทุกคนต่างจ้องมองกาเบรียลด้วยสีหน้าแปลก ๆ'อย่างน้อยก็น่าจะเลือกภาพที่โด่งดังน้อยกว่านี้หน่อย ถ้าคุณอยากจะทำอะไรแบบนี้ล่ะก็!''ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาถูกเปิดเผยความจริงด้วยข่าวออนไลน์นั้น...'กาเบรียลผู้ภาคภูมิใจรู้สึกว่าใบหน้าของเขาได้กลายเป็นสีแดงแจ๊ดฮาร์วีย์ไม่ได้ตบหน้าเขาโดยตรง แต่ก็รู้สึกเหมือนตบหน้านั่นแหละใบหน้าของลิเลียนดูมืดมนลงทันที“หยุดทำอวดเบ่งได้แล้ว!“ถึงแม้ว่าภาพนี้จะเป็นของปลอม แต่ก็ถูกเตรียมการมาอย่างดี!“ที่เราโดนหลอกก็เพราะว่
ลิเลียนจ้องมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาอาฆาตแค้น“แกมาทำอะไรที่นี่เหรอฮาร์วีย์?” กาเบรียลร้องถาม“แกมาที่นี่เพื่อขออนุญาตแต่งงานใหม่เหรอ?“หรือแกมาที่นี่เพื่อวางยาพิษและเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเรา?“ฉันจะไม่ยอมให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นแน่!”“ลูกชายของฉันพูดถูก!” ลิเลียนตะโกนบอก“ถึงแม้ภาพวาดของเขาจะเป็นของปลอม แต่เขาก็ยังซื้อมันด้วยเงินสดที่หามาได้อย่างยากลำบาก!“ภาพวาดของเขาไม่ได้ฆ่าใครตาย!”แน่นอนว่าลิเลียนอยู่ข้างเดียวกับกาเบรียล ในสายตาของเธอนั้นเขาคือสุนัขตัวเล็ก ๆ ที่เธอเลี้ยงเอาไว้ทุกคนต่างหันไปมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามอีกครั้ง'เห็นได้ชัดว่าที่นี่ไม่ให้ให้การต้อนรับเขาเลย แต่เขาก็ยังพยายามเกาะแข้งเกาะขาคนในตระกูลนี้ โดยใช้ตัวตนของเขาในฐานะอดีตลูกเขยที่อาศัยอยู่กับครอบครัวของภรรยา!''ที่สำคัญกว่านั้นก็คือเขายังมาอวดอ้างความแข็งแกร่งเพียงเพื่อให้ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ!'ผู้คนทั้งหมดนั้นต่างหัวเราะคิกคักแมนดี้อดที่จะเอามือถูขมับไม่ได้ ฮาร์วีย์และลิเลียนเป็นคู่กัดที่สร้างความหายนะได้อย่างแท้จริง“แกได้ยินที่ฉันพูดไหม?“แกคิดว่าแกมีสิทธิ์มาทำให้ฉันอับอายต่อหน้าพ่อกั
"ตาย ๆ ไปซะเถอะไอ้สารเลว!“ตายไปซะ!“ออกไป! ออกไปจากบ้านของเราซะ!“เราไม่ต้อนรับแก!“ออกไปให้ไกลจากที่นี่เลยนะ!”หลังจากที่แขกเหรื่อกลับไปแล้ว ลิเลียนก็ก่นด่าออกมาในที่สุด หลังจากระงับความโกรธแค้นเอาไว้ตลอดทั้งเย็นวันนั้นฮาร์วีย์ได้เปิดเผยข้อมูลภาพวาดปลอม ๆ ของลูกชายสุดที่รักของเธอต่อหน้าผู้คนมากมาย ไม่เพียงแต่กาเบรียลจะโดนดูหมิ่นเท่านั้น แต่ลิเลียนก็ยังรู้สึกอับอายขายหน้าเป็นอย่างมากด้วยท้ายที่สุดแล้วเธอได้ประกาศกับใคร ๆ ในโกลด์เด้น แซนด์ว่าฮาร์วีย์เป็นเพียงลูกเขยไร้ประโยชน์ ที่พยายามจะกลับมาคบหากับแมนดี้อีกครั้ง...แต่เธอกลับมองไม่เห็นสิ่งที่ลูกเขยจับผิดขึ้นมาได้นี่อาจหมายความว่าเธอมีอะไรที่ด้อยกว่าเขา!แต่ถึงกระนั้นลิเลียนก็ไม่สามารถบอกกับทุก ๆ คนได้ว่าเธอเข้าข้างกาเบรียลเธอต้องการกดดันฮาร์วีย์! เธออยากให้เขาออกไป!เธอรู้สึกโกรธแค้นเป็นอย่างมากที่เห็นเขามาปรากฏตัว!'นี่มันบ้าไปแล้ว!''เขารู้ดีว่าไอ้เมล็ดแฟลกซ์อะไรนั้นมีราคามากแค่ไหน แต่เขาก็ยังกลืนกินมันลงไปต่อหน้าฉัน!''เขาทำให้ฉันต้องได้รับความอับอายในเรื่องนี้!'ลิเลียนมีแต่ความรู้สึกอับอาย โกรธแค้น และเคืองขุ
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ“เราผ่านอะไร ๆ มามากมายแล้วเมื่อมาถึงจุดนี้ คุณไม่คิดว่ามันไม่ยุติธรรมกับผมไปหน่อยเหรอ?”แมนดี้อยากจะพูดอะไรออกมาหลังจากเห็นทั้งสองคนทะเลาะกัน แต่เธอก็ได้แต่ถอนหายใจโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำเดียว“ถ้าไม่ยุติธรรมกับแกแล้วจะเป็นยังไงเหรอ?!“แกอ้อนวอนขอร้องที่จะมาเป็นลูกเขยของตระกูลนี้เองนะ! ยังไงซะแกก็คนเป็นคนไร้ยางอายอยู่ดี!ลิเลียนรู้สึกเดือดดาลด้วยความโกรธ“การให้ความเคารพของแกเทียบไม่ได้กับลูกชายตัวน้อยของเราหรอก!“ผู้ชายที่เกาะเมียกินอย่างแกเทียบไม่ได้เลยกับบุคคนที่มีความโดดเด่นขนาดนี้!“กาเบรียลมอบข้าวของที่มีมูลค่าหลายร้อยหลายพันดอลลาร์ให้กับเรา!“แต่แกไม่เคยให้อะไรกับตระกูลเราเลยด้วยซ้ำ! แล้วจะมาแข่งขันกันได้ยังไงเหรอ?!“แกจะแข่งขันยังไงเหรอ?!“นอกจากนี้การที่ฉันทำการดูหมิ่นแกก็นับเป็นบุญของแกแล้วนะ!ลิเลียนทำสีหน้าภาคภูมิใจ“แกจะเข้าใจอะไรในตัวฉันได้เหรอ?!”สำหรับลิเลียนแล้วฮาร์วีย์ควรจะถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเธอ เขาควรจะหยุดต่อสู้กับแล้วปล่อยให้เธอทำทุกอย่างตามชอบใจชอบการกระทำของฮาร์วีย์เป็นการดูหมิ่นเธออย่างมากแต่ถึงกระนั้นลิเลียนก็ยั
ฮาร์วีย์ทำเมินเฉยต่ออาการตัวชาของลิเลียนอย่างสิ้นเชิง ในขณะที่เบนสายตาไปที่แมนดี้พร้อมกับยิ้มอย่างอบอุ่น“พรุ่งนี้นำทะเบียนบ้านติดตัวไปด้วยนะแมนดี้ เราจะไปจดทะเบียนสมรสกัน“ผมจะจัดงานแต่งงานให้หรูหราอย่างที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนเลย“ผมจะทำให้คุณเป็นผู้หญิงที่มีความสุขมากที่สุดในโลก"แมนดี้ยืนตัวแข็งทื่อ ใบหน้าของเธอดูเป็นสีแดงสด เธอไม่คิดมาก่อนว่าฮาร์วีย์จะมีสายตาที่ดูทรงอำนาจขนาดนั้นซินเธียร์หันมองไปทางอื่นโดยสัญชาตญาณ โดยเก็บความเศร้าโศกของเธอไว้ไม่ให้ใครรู้“พรุ่งนี้เหรอ?!”ลิเลียนหัวเราะอย่างโกรธ ๆ“แกมันก็แค่คนที่เกาะเมียกิน! แกกล้าดียังไงถึงมาพูดจาแบบนั้น?!“แกคิดว่าแกเป็นใครกัน?!“แกอยากจะแต่งงานพรุ่งนี้เหรอ?!“ฝันไปเถอะ!“ฉันว่าแกตามแมนดี้กลับมาที่นี่เพียงเพื่อจะกลับเกาะตระกูลของเราอีกครั้ง!“อะไรกัน?! แกไม่มีใครให้เกาะแล้วเหรอ?!“เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วแกก็อาจจะตายด้วยความไร้ประโยชน์ของแกนั่นแหละ!”สำหรับลิเลียนแล้วแมนดี้น่าจะได้แต่งงานกับคนในตระกูลที่ร่ำรวย เพื่อที่เธอจะได้อยู่ตรงจุดสูงสุดของโลกแทนที่จะต้องมาอยู่กับไอ้คนโสโครกอย่างฮาร์วีย์ไม่ว่าฮาร์วีย์จะร่ำรว
ครึ่งชั่วโมงต่อมาฮาร์วีย์ก็นอนอยู่บนเตียงในขณะที่มีเสียงเคาะประตูเบา ๆซีนเธียร์สวมชุดนอนเดินเข้าไปในห้องนั้นพร้อมกับนมหนึ่งแก้ว“ฉันจับตามองพี่อยู่ตลอดเลยนะพี่ฮาร์วีย์!“พี่ไม่ควรทำแบบนี้นะคะถ้าพี่อยากจะกลับมาอยู่กับพี่แมนดี้จริง ๆ“ตอนนี้แม่ของฉันไม่มีอำนาจก็จริง แต่เธอได้พยายามหาข้ออ้างในการซ่อนทะเบียนบ้านของพี่สาวฉันเอาไว้“พี่จะแต่งงานได้ยังไงถ้าไม่มีเจ้าสิ่งนั้น!”ฮาร์วีย์จิบนมก่อนจะเหลือบมองน้องสะใภ้ของเขาเธอเติบโตขึ้นมากจริง ๆไม่เพียงแต่ขาของเธอจะดูเรียวยาวขึ้นเท่านั้น แต่ใบหน้าของเธอยังดูบริสุทธิ์ผุดผ่องขึ้นอีกด้วย ถึงแม้จะไม่ได้แต่งหน้าแต่งตาก็ตามฮาร์วีย์หายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง ก่อนจะเผยให้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้า“แม่ของเธอได้ตกลงกับพี่แล้ว“ตราบใดที่พี่ทวงหนี้สามสิบล้านดอลลาร์มาจากหอการค้านิวเกตได้ เธอก็จะตกลงให้พี่ได้แต่งงานกับพี่สาวเธออีกครั้ง“เรียบง่ายและตรงไปตรงมาดี พี่ชอบ"ซีนเธียร์ถอนหายใจ“พี่เขยที่รัก...มีเรื่องบางอย่างที่พี่ยังไม่รู้ องค์กรแห่งนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่พี่คิดหรอก“มันอาจดูเหมือนองค์กรธุรกิจที่เรียบง่าย แต่จริง ๆ แล้วมันเป
"ไม่ได้!”แมนดี้จ้องฮาร์วีย์เขม็ง“ถ้าคุณกล้าก็ลองดูสิ!”ฮาร์วีย์พูดอะไรไม่ออก เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกล้ำกลืนนมลงไปด้วยสีหน้าขมขื่นแมนดี้ยิ้มอย่างอบอุ่นหลังจากเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าเธอ“อย่างนั้นแหละ“แล้วอีกอย่างหนึ่งนะ ไม่ต้องไปใส่ใจกับคำพูดของแม่ด้วย“ฉันจะจัดการกับหอการค้านิวเกตเอง“ท้ายที่สุดแล้วฉันยังมีตระกูลฌองอยู่กับฉัน แม้แต่ประตูสวรรค์ก็ยังต้องแสดงความเคารพต่อเราเลย“ถ้าถ้าคุณไปที่นั่นคุณก็จะโดนสับจนเละไม่มีชิ้นดี คุณจะไม่มีโอกาสได้กลับมาอีกเลย...“คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของประตูสวรรค์ ไม่ว่าคุณจะเก่งกาจในเรื่องการต่อสู้ขนาดไหนก็ตาม“แค่พักอยู่ที่บ้านไปอีกสองสามวัน เราจะได้จดทะเบียนสมรสแน่หลังจากฉันจัดการกับเรื่องนี้แล้ว"หน้าของแมนดี้ดูแดงขึ้นเล็กน้อยในขณะที่เธอหันหลังกลับแล้วเดินจากไปฮาร์วีย์ยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นในที่สุดเขาก็สัมผัสได้ถึงความมั่นใจในตัวแมนดี้***โดยไม่ได้สนใจคำแนะนำของแมนดี้กับซีนเธียร์เลย...ฮาร์วีย์มาถึงหอการค้านิวเกตตอนสิบโมงเช้าของวันรุ่งขึ้นสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่สุดถนนของเมืองเก่ารายล้อมไปด้วยอาคารรูปทรงโบราณตัวอาคาร
อันธพาลผมสีบลอนด์ที่นั่งอยู่ข้างหน้ากวาดตามองฮาร์วีย์ ก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกมา“แกเป็นใคร? มาที่นี่ทำไม?” เขาถามอย่างเย็นชา“แกมานี่เพื่อจ่ายค่าคุ้มครองเหรอ?”“ฉันชื่อฮาร์วีย์ ยอร์ก ฉันมาจากบริษัทซิมเมอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์" ฮาร์วีย์ตอบอย่างสุภาพ“ฉันมาที่นี่เพื่อสอบถามเกี่ยวกับหนี้สินจำนวนสามสิบล้านดอลลาร์"“ฮาร์วีย์ ยอร์กเหรอ? บริษัทซิมเมอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์?“แกเป็นลูกเขยที่อาศัยอยู่กับครอบครัวภรรยางั้นสิ?”เห็นได้ชัดว่าลิเลียนได้ประกาศข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับฮาร์วีย์ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ถ้าไม่อย่างนั้นพวกแก๊งอันธพาลก็คงจะไม่รู้จักตัวตนของเขาในฐานะลูกเขยที่อาศัยอยู่กับครอบครัวภรรยาหรอกอันธพาลผมสีบลอนด์ปรบมือจากนั้นก็มีผู้คนจำนวนมากเข้าไปรุมล้อมตรงถนนพร้อมกับไม้ตีเบสบอลและท่อเหล็กผู้ชายท่าทีอ่อนโยนที่กำลังเล่นสร้อยลูกปัดอยู่ก็เดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมยาวเหมือนนักวิชาการที่มีแววตาอาฆาตแค้นนี่คือเคลแลน รุยซ์! ซีอีโอของหอการค้านิวเกต ซึ่งเป็นสาวกผู้ภักดีของประตูสวรรค์ในสาขาโกลด์เด้น แซนด์!หลังจากกวาดตามองฮาร์วีย์ด้วยสายตาดุดันแล้ว เขาก็หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะถามว่า "แกคือฮาร์วีย์สิ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข