หลังจากนั้นไม่นานนักข่าว เหล่าคนดัง และคณะนักเต้นรำที่ต่างตกตะลึงก็มาที่ร้านของฮาร์วีย์ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็เคยต่อต้านฮาร์วีย์กับเคทีมาก่อน ฉะนั้นการช่วยให้ทั้งสองคนมีอารมณ์ดีขึ้นก็น่าจะเป็นการแสดงความขอโทษได้แล้วฮาร์วีย์ไม่สนใจที่จะตัดสินใครที่อยู่ตรงนั้น แต่เขากลับมอบเงินจำนวนมหาศาลให้กับทุกคน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง คนพวกนี้คือตัวแทนของประชาชนโดยทั่วไปตระกูลคอบบ์รู้สึกแย่มากเมื่อเห็นภาพนั้นพวกเขาถึงกับลังเล พวกเขากำลังพิจารณาที่จะเปลี่ยนข้างในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดนี้อีเดนยืนโอนเอนไปมาอยู่ท่ามกลางฝูงชนพร้อมกับใบหน้าซีดเผือด เขาจับมือของเอลเลนแน่นราวกับว่าเธอเป็นความหวังเดียวของเขาแต่ยังไงก็ตามเอลเลนค่อย ๆ ดึงนิ้วของเขาออกทีละนิ้ว แล้วเดินโซซัดโซเซอย่างสิ้นหวังเข้าไปหาฮาร์วีย์“ฉันรู้ว่าทำผิดไปแล้วฮาร์วีย์!” เธอร้องบอกด้วยใบหน้าซีดเผือดเธอพยายามฝืนยิ้มอย่างสวยงาม แล้วพยายามคว้าแขนของฮาร์วีย์เอาไว้อย่างสิ้นหวัง“กลับกันเถอะค่ะ...ดีไหม?“เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันใช่ไหมคะ?”ฮาร์วีย์ก้าวถอยหลัง“เวลาไม่สามารถย้อนกลับได้“ความสัมพันธ์ของเราก็เช่นกัน"เอลเลนตัวแข็งท
"มีอีกอย่างหนึ่งค่ะ แม่บอกว่าจะไปเที่ยวพักผ่อนสักสองสามวัน ฉันได้จัดการเรื่องทุกอย่างให้แม่แล้ว แม่น่าจะอารมณ์ดีขึ้นหลังจากนี้“เพื่อเห็นแก่ฉัน...คุณช่วยพยายามอย่าทะเลาะกับแม่นะคะ"“ก็ได้"ฮาร์วีย์ส่งยิ้มอบอุ่นให้เธอ“คุณลืมอะไรหรือเปล่า?”แมนดี้ตัวแข็งทื่อ“อะไรเหรอคะ?”“อีกสามวันก็จะถึงวันครบรอบแต่งงานของเราแล้ว“เราควรจะจดทะเบียนสมรสกันใหม่ดีไหมครับ?”ใบหน้าของแมนดี้มีสีแดงจัดแล้ววางสายอย่างรวดเร็ว…เวลาบ่ายสามโมงที่ห้องผู้ป่วยวีไอพีของโรงพยาบาลประชาชนแห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้คุณย่าคอบบ์ตื่นนอนมาได้สักพักแล้วเธอเอนกายลงบนเตียง สายตาของเธอดูเย็นชา ริ้วรอยบนใบหน้าของเธอดูเป็นร่องลึก ช่างเป็นภาพที่ดูแย่มากเธอจ้องมองไปข้างหน้าด้วยสายตาอันว่างเปล่าโดยไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว ไม่มีสัญญาณของความโกรธแค้นใด ๆ ด้วยผู้คนที่มารวมตัวอยู่ในห้องเดียวกันต่างมองหน้ากัน โดยหวังว่าคุณย่าคอบบ์จะคิดแผนการอะไรขึ้นมาได้...แต่เธอยังคงนิ่งเงียบอยู่ตลอดเวลา“เราควรจะทำยังไงกันดีคะคุณย่าคอบบ์?”อีเดนไม่สามารถทนต่อบรรยากาศแบบนี้ได้อีกต่อไปเขาเริ่มวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เขากลัวว่าคุณย่าคอ
"แย่แล้ว! มีคนจากสำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์มาที่บ้านของเรา และบอกว่าพวกเขาจะมาตรวจสอบบัญชีและการเสียภาษีของเรา!“คุณย่าคอบบ์! กรมแรงงานมาที่โรงงานของเรา โดยบอกว่าจะดำเนินการทางกฎหมายถ้าเราไม่ยอมจ่ายค่าจ้างให้พนักงาน!“มีนักลงทุนสองสามรายได้ติดต่อเคทีอย่างลับ ๆ เพื่อขายหุ้นของเราในราคาถูก!“เหล่าซัพพลายเออร์กำลังรบเร้าให้เราจ่ายเงินพวกเขาอยู่!“แม้แต่ธนาคารก็ยังสอบถามเราในเรื่องเงินกู้ที่ยังไม่ได้ชำระเงิน...“คุณย่าคอบบ์! ตระกูลโมเรโน่ส่งข่าวมาบอกว่าโนเอมิไม่ได้เป็นคนในตระกูลนี้อีกต่อไปแล้ว...”ข่าวร้ายพวกนี้ฟังดูเลวร้ายยิ่งกว่าครั้งก่อนมาก สถานการณ์ทั้งหมดนี้ทำให้คนในตระกูลนี้ต่างตะลึงงัน“สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้ประกาศว่าสินค้าของตระกูลคอบบ์ล้วนแต่เป็นของปลอม และต่อจากนี้ไปเขาจะใช้แต่น้ำอมฤตสีเงินเท่านั้น...”“เราจบเห่แล้ว!”ผู้คนจำนวนมากทรุดลงกับพื้นพร้อมกับอ้าปากค้างฮาร์วีย์สามารถบดขยี้ตระกูลคอบบ์ได้อย่างง่ายดาย เขาสามารถสูบเงินจากพวกเราจนหมด และบีบบังคับให้พวกเขาออกไปใช้ชีวิตตามท้องถนนโดยไม่ต้องใช้ความพยายามใด ๆ เลย! ในสถานการณ์เช่นนี้ก็นับเป็นเรื่องปกติที่เ
"ถูกต้อง! ถ้าไม่ใช่เพราะคุณย่ามีเรื่องขัดแย้งกับดีนและเคทีอยู่เรื่อย ๆ เราก็คงรวยไปแล้ว เราเป็นตระกูลชั้นนำของประเทศนี้!”“บางทีคุณย่าน่าจะไปขอความเมตตาจากพวกเขาจะดีกว่านะ คุณย่าคอบบ์”“ถึงแม้ว่าเคทีจะไม่ยกโทษให้คุณย่า แต่สามีของคุณย่าจะต้องทำแทนอย่างแน่นอน เพื่อเห็นแก่การที่ได้แต่งงานด้วยกันมา”“แน่นอนว่าถ้าได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขา เราก็จะสามารถเพลิดเพลินกับความรุ่งโรจน์และความร่ำรวยต่อไปได้อีกสองสามทศวรรษ!”สมาชิกของตระกูลนี้ทั้งหมดต่างผลัดกันพูดทีละคนในด้านหนึ่งนั้นพวกเขากำลังระบายความโกรธต่อคุณย่าคอบบ์ในทางกลับกันพวกเขาไม่กล้าปล่อยความร่ำรวยหลุดลอยไป หลังจากที่พวกเขาอยู่กับความร่ำรวยนั้นมาทั้งชีวิตพวกเขาสูญเสียความสามารถในการทำงานเพื่อคนอื่นมานานแล้ว ถ้าพวกเขาไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูล พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปขออาหารกินพวกเขาต่างเต็มใจที่จะคุกเข่าอยู่ต่อหน้าดีนและเคที เพื่อรักษาชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาเอาไว้ ถ้านั่นเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำบอกได้เลยว่าตำแหน่งของคุณย่าคอบบ์ในฐานะหัวหน้าตระกูลได้พังพินาศไปหมดแล้ว เธอไม่ใช้ผู้นำเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
คุณย่าคอบบ์ดูราวกับว่าเธอยอมแพ้แล้ว จากนั้นก็ตบหน้าตัวเองสองสามที ใบหน้าของเธอบวมเป่งเหมือนหน้าหมูดีนถอนหายใจโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำเดียว เขาโบกมือและทำไม้ทำมือส่งสัญญาณให้เคทีเข็นรถเขาเข้าไปในร้านในเวลาเดียวกันคุณย่าคอบบ์ก็ถูกปล่อยให้นั่งคุกเข่าอยู่นอกร้านเพื่อเห็นแก่การที่ได้แต่งงานด้วยกันมาหลายปีแล้วนั้น การนั่งคุกเข่าเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงก็นับเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่ามากหลังจากนั้นคุณย่าคอบบ์ก็ลุกโซซัดโซเซขึ้นจากพื้น แล้วเดินกลับเข้าไปในรถของเธอในขณะที่เธอนั่งลงตรงเบาะหลังนั้น ความรู้สึกผสมปนเปปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ เธอมีแต่ความรู้สึกเดียวดายและเกลียดชังที่ไม่สามารถบรรยายได้เธอทำไม้ทำมือไปที่คนขับ จากนั้นก็ดึงกระจกเก็บเสียงขึ้นไปเธอกดหมายเลขโทรศัพท์แล้วตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด "ทำไมฮาร์วีย์ยังไม่ตายอีก?!”“ฉันได้จ่ายเงินเพิ่มให้คุณไปแล้ว!”“เมื่อไหร่คุณถึงจะฆ่ามันซะที?!”มีเสียงแสดงความเคารพดังขึ้นมาจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง“คุณย่าคอบบ์ ตัวตนของฮาร์วีย์นั้นน่าตกใจมาก มันไม่ง่ายเลยนะครับที่จะฆ่าเขา...”“เราได้จัดเตรียมแผนการทั้งหมดไว้แล้ว แต่เราหาเวลาที่เหมาะสมยังไม่ได
"ฮาร์วีย์ ฉันมาที่นี่เพื่อพูดคุยแบบเปิดอกกับคุณสองสามเรื่อง"ดีนไม่ยอมเสียเวลาในการพูดคุยกับฮาร์วีย์“เรื่องแรก...ฉันอยากจะขอบคุณที่คุณอุตส่าห์มาช่วยฉันที่นี่“ถ้าไม่มีคุณฉันก็คงตายไปแล้ว ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับหลานสาวสุดที่รักของฉันด้วย"ฮาร์วีย์ยิ้ม“คุณชมผมเกินไปแล้วครับ ปัญหาของตระกูลคอบบ์จะต้องได้รับการแก้ไขโดยคนของตระกูลคอบบ์เท่านั้น คนนอกอย่างผมมีแต่จะทำให้เรื่องแย่ลงเท่านั้นเอง"ดีนส่งยิ้มกลับไป“ไม่มีราชวงศ์ไหนอยู่ค้ำฟ้าหรอก และไม่มีตระกูลไหนที่จะอยู่ไปชั่วนิรันดร์ด้วย“เมื่อตระกูลต้องเปลี่ยนผ่านสู่คนรุ่นใหม่ ก็ย่อมต้องมีราคาที่ต้องจ่าย ตระกูลนั้นถึงจะดำเนินต่อไปได้“เมื่อได้รับความช่วยเหลือจากคุณ ตระกูลนี้ก็จะอยู่ต่อไปได้อีกอย่างน้อย ๆ ก็หนึ่งศตวรรษ“ด้วยเหตุนี้ฉันจึงตัดสินใจจะมอบหุ้นของตระกูลให้คุณสามสิบเปอร์เซ็นต์เพื่อเป็นการขอบคุณ โปรดรับไว้ด้วยนะครับ"ฮาร์วีย์อยากจะปฏิเสธแต่จำใจต้องรับเอาไว้ หลังจากเห็นสีหน้าที่ดูจริงใจของดีนหุ้นพวกนี้จะทำให้ตระกูลโมเรโน่หรือตระกูลลีไม่กล้าเป็นศัตรูกับตระกูลคอบบ์และด้วยความช่วยเหลือของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้
ฮาร์วีย์ไม่รู้ว่าจะโต้ตอบยังไงดี เขาแค่ยิ้มเขิน ๆ หลังจากได้ยินคำพูดของดีนดีนเริ่มรู้สึกละอายใจเล็กน้อยเช่นกันฮาร์วีย์หัวเราะแบบเขิน ๆ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องพูดอย่างรวดเร็ว“แล้วเรื่องที่สามที่คุณอยากพูดถึงคือเรื่องอะไรเหรอครับ?ฮาร์วีย์มองดูนาฬิกาโรเล็กซ์บนข้อมือของเขาพวกเขาพูดคุยกันมาประมาณครึ่งชั่วโมงได้แล้ว ฮาร์วีย์ต้องขึ้นเครื่องบินทันทีที่พูดคุยกันเสร็จดีนทำไม้ทำมือบอกให้ฮาร์วีย์หยุดอยู่ที่ศาลากลางสวนอย่างไม่ยอมให้เสียเวลา“ผมคิดว่ามันคงจะไม่สร้างปัญหาให้คุณมากนัก" เขาพูดพร้อมกับยิ้ม“ผมหวังว่าคุณจะช่วยจัดการปัญหาสุดท้ายนี้ให้ผมได้"“ถ้าผมยืนไม่ได้ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะทำอะไรเองได้ ผมเชื่อว่าคุณจะสามารถทำเรื่องนี้ให้ผมได้จริงไหม?”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว“คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้นะครับผู้อาวุโสคอบบ์ คุณย่อมรู้จักร่างกายของคุณดีที่สุด“คุณจะฟื้นตัวเป็นปกติในเวลาเพียงแค่หกเดือน อย่าบอกนะครับว่าคุณรอนานขนาดนั้นไม่ได้"ดีนถอนหายใจ“ไม่ใช่ว่าฉันรอไม่ไหว แต่เวลาไม่เคยคอยใคร...“เราต้องการเทพสงครามเพื่อช่วยยืนหยัดเพื่อตระกูลของเรา“ไม่อย่างนั้นเราก็ไม่ได้พบกับความ
"แค่สองเหตุผลนี้ก็ทำให้เราลงมือทำได้แล้ว"ดีนขมวดคิ้ว“แกบอกว่าแกจับตาดูฉันมาหลายปีแล้ว...”“ใช่แล้ว" หัวหน้ากลุ่มพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม“มีเพียงเทพสงครามแห่งทะเลใต้เท่านั้นแหละที่จะต้องไม่ได้หลับไม่นอนบ้างเป็นธรรมดา เมื่อหลายสิบปีก่อนมีคนจ่ายเงินให้อย่างงามเพื่อเป็นค่าจ้างในการฆ่าแก!“นับตั้งแต่รับภารกิจนั้นมาเราก็ยังไม่สามารถลงมือทำได้เลย"“เคทีคอยดูแลความปลอดภัยให้แกตลอดแม้ในยามที่แกโดนวางยาพิษจนกลายเป็นคนพิการไป เราก็หาโอกาสในการฆ่าแกไม่ได้“ด้วยเหตุนี้ราชสำนักจึงรู้สึกอับอายขายหน้ามานานหลายทศวรรษแล้ว“ในที่สุดตอนนี้เราก็มีโอกาสจะได้ลงมือแล้ว ถ้าเราทำเรื่องนี้ให้จบเร็ว ๆ ก็จะเยี่ยมไปเลยจริงไหม?” หัวหน้ากลุ่มกล่าวเสริมพร้อมกับยังยิ้มแย้มอยู่เช่นเดิม“นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะมาก และเวลาก็ไม่ได้แย่เกินไปด้วย วันนี้ถูกกำหนดให้เป็นวันครบรอบวันตายของแกแล้ว"หัวหน้ากลุ่มโบกมือแล้วเผยให้เห็นมีดดาบเล่มใหญ่คนอื่น ๆ ก็หัวเราะอย่างเย็นชาและทำแบบเดียวกันมีแสงสีฟ้าจาง ๆ เปล่งออกมาจากมีดดาบพวกนั้นมีดดาบพวกนั้นถูกอาบยาพิษเอาไว้แล้วดีนถอนหายใจ“ฉันน่าจะทำตัวเงียบ ๆ เอาไว้ ฉันเข้าใจล่