ฮาร์วีย์เลิกพูดเรื่องของจอร์แดน หลังจากเห็นทั้งสองเดินออกมา“ตอนนี้คุณไม่เป็นอะไรแล้ว” ฮาร์วีย์พูดหลังจากก้าวไปข้างหน้าแมนดี้พยักหน้าเบา ๆ เธอไม่คิดว่าเธอจะได้รับการปล่อยตัวโดยปราศจากรอยขีดข่วนภายในสามวันเท่านั้นเธอนึกภาพออกเลยว่าฮาร์วีย์ทำทุกอย่างเพื่อให้เธอได้ออกมาอย่างปลอดภัย“ขอบคุณนะฮาร์วีย์”แมนดี้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอจ้องมองไปที่ราเชลซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลจากเธอ"แล้วนี่…""ให้ผมแนะนำนะ เธอคือ ซีอีโอของบริษัทฮาร์ทสโตน คุณราเชล ฮาร์ดี”ฮาร์วีย์แสดงรอยยิ้มอันอบอุ่น“ณ ตอนนี้ เธอถือหุ้นของบริษัทจำนวนเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์“พูดง่าย ๆ ก็คือ เธอสามารถควบคุมเหมืองทองคำของฟลัตเวลล์ได้อย่างเบ็ดเสร็จ”แมนดี้ตกใจมากเมื่อได้ยินสิ่งที่ฮาร์วีย์แนะนำ เธอไม่คิดเลยว่าราเชลจะเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถถึงขนาดนี้ลิเลียนซึ่งไม่ได้ปิดปากเลยแม้แต่คำเดียวได้ยินเช่นนั้นก็ตัวแข็งทื่อ จากนั้นเธอก็ดึงชายเสื้อของฮาร์วีย์“กำลังจะบอกว่าผู้หญิงคนนี้มีหุ้นของบริษัทนั่นเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์เลยหรือ?!“แล้วส่วนแบ่งของฉันล่ะ!”“คุณมีด้วยเหรอ!“คุณน่าจะรู้นะว่าของพวกนั้นไม่เคยเป็นของคุณมาตั้งแต่แรก” ฮาร
“เมื่อกี้แกพูดว่ายังไงนะ นังลูกทรพี!”ลิเลียน เยตส์โกรธมากเมื่อเห็นลูกสาวที่เคยเชื่อฟังของเธอทำตัวกระด้างกระเดื่อง“พูดอีกสิ! ฉันท้าแก! ฉันจะตีแกให้ตายเลย!”เธอเกลียดฮาร์วีย์ ยอร์กมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาไม่เพียงแต่ทำให้แมนดี้ ซิมเมอร์เข้าข้างเขาเท่านั้น แต่เขายังทำให้ลูกสาวคนเล็กของเธอต่อต้านเธออีกด้วยทุกอย่างเป็นความผิดของฮาร์วีย์แมนดี้ถึงกับกุมขมับ เมื่อลิเลียนและซีนเธียร์ ซิมเมอร์เริ่มทะเลาะกัน"พอได้แล้ว ทั้งคู่นั่นแหละ“เราเพิ่งออกจากคุก เราจะอยู่กันอย่างสงบบ้างไม่ได้เลยหรือไง?“อีกอย่าง แม่คิดว่าสัญญาไร้สาระพวกนั้นจะทำให้แม่ได้หุ้นจริง ๆ เหรอ?“ต่อให้แม่จะได้รับทุกอย่างมา แล้วแม่คิดว่าแม่จะคุมมันได้หรือไง?“ในฟลัตเวลล์แห่งนี้มีตระกูลเศรษฐีมากมาย แม่คิดว่าพวกเขาจะปล่อยให้เราที่ไม่ได้มีรากฐานอะไรที่นี่ไปควบคุมชีวิตพวกเขาหรือไง?“หุ้นพวกนั้นไม่ได้ส่งผลดีกับใครเลย! มันเป็นบทเรียนต่างหาก!“ถ้าคนไม่มีอำนาจอย่างพวกเราได้รับหุ้น พวกเราจะต้องพบกับความตาย!”ลิเลียนหัวเราะอย่างเย็นชา"ดี! ดูเหมือนว่าแกจะเข้าข้างไอ้สารเลวนี่ด้วยอีกคนสินะ!“คนไม่มีอำนาจจะต้องตายงั้นหรือ!“ก่อนหน
จอร์แดน โบวี่ดูเดือดดาลมากในเวลานี้ หากไม่ใช่เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนคอยปรามเขาอยู่ เขาคงวิ่งเข้ามาเอาเรื่องฮาร์วีย์ ยอร์กไปแล้ว“คุณต้องใจเย็นก่อนคุณโบวี่ราเชล ฮาร์ดีก้าวไปข้างหน้าฮาร์วีย์“ฉันได้ให้หลักฐานกับตำรวจไปแล้ว“การตายของเอซร่า บาวเออร์และลูกชายของไม่เกี่ยวอะไรกับคุณยอร์ก“ก่อนหน้านี้พวกเขาทะเลาะกันก็จริง แต่คุณยอร์กไม่ได้ฆ่าใครเลย“หลักฐานจากสถานที่เกิดเหตุและภาพจากกล้องวงจรปิดที่ฉันหามาได้ถือเป็นข้อพิสูจน์“กรุณาอย่าทำตัวไร้เหตุผล…”หลังจากได้ยินคำพูดของราเชล ลิเลียน เยตส์ก็กรีดร้องอย่างเกรี้ยวกราดขณะกุมใบหน้าของเธอ“ไอ้เด็กสารเลวนี่! ทำไมฉันต้องมาทนทุกข์ทรมานจากอาชญากรรมบ้า ๆ ของนายด้วย!”ลิเลียนต้องการตบหน้าฮาร์วีย์อย่างมาก แต่แมนดี้ ซิมเมอร์ขวางเธอเอาไว้จอร์แดนไม่สนใจที่จะฟังคำอธิบายของราเชลในเวลานั้น“ราเชลงั้นเหรอ? หุบปากไปสักทีจะได้ไหม!” จอร์แดนพูดด้วยสีหน้าเศร้าหมอง“เธอคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์พูดอะไรหรือไง!“เธอก็เป็นแค่ลิ่วล้อของเขา เพราะงั้นเลิกอวดดีได้แล้ว!"ฉันจะบอกเธอให้! สิ่งที่เธอเรียกว่าหลักฐานนั้นไม่มีประโยชน์สำหรับฉัน!“เธอหลอกตำรวจได้
หลังจากได้ยินคำพูดของจอร์แดน โบวี่ นักสู้ที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็พยักหน้าพร้อมกันเช่นเดียวกับที่จอร์แดนพูด ตระกูลโบวี่ครอบงำฟลัตเวลล์ได้เนื่องจากการสนับสนุนจากตระกูลบาวเออร์ผู้คนแทบไม่มีใครกล้าต่อต้านดีแลน โบวี่นอกจากคนนอกที่โง่เขลาอย่างฮาร์วีย์ ยอร์กแล้ว ใครจะโง่พอไปหาเรื่องดีแลนได้?ถ้าทำแบบนั้นพวกเขาคงจะบ้าไปแล้ว!หลังจากเห็นสีหน้าบ้าคลั่งของจอร์แดน ราเชล ฮาร์ดีก็ตัวแข็งก่อนที่เธอจะอุทานว่า “ไม่ใช่แค่คุณจะไม่มีเหตุผลอย่างที่สุดเท่านั้น แต่คุณยังวางแผนที่จะต่อสู้กับคุณยอร์กด้วยหรือ?”"ใช่แล้ว!" จอร์แดนตอบด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าของเขา“นายมีแก๊งขวาน กองบังคับคดีแห่งหลงเหมิน และบริษัทฮาร์ทสโตน แต่แล้วไงล่ะ?“คิดว่าตระกูลของเราอ่อนแอนักหรือไง!”“นั่นไม่ใช่ธุระโครงการอะไรของฉัน แต่ถ้าคุณใส่ร้ายคุณยอร์กและทำตัวหยิ่งผยองแบบนี้ ฉันก็จำเป็นต้องหยุดคุณ!”แมนดี้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของราเชล'เขากลายเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?'ก่อนหน้านี้เขามีอีวอนน์ ซาเวียร์คอยหนุนหลังให้เขา และตอนนี้ก็มีราเชลอีก เหตุใดผู้หญิงที่โดดเด่นเหล่านี้จึงเต็มใจเสียสละเพื่อฮาร์วีย์มากมายถ
“เลิกพูดได้แล้ว”จอร์แดน โบวี่ชี้ไปที่ฮาร์วีย์ ยอร์ก“ฉันจะล้างแค้นให้ลูกชายของฉัน ฮาร์วีย์!“นายจะหนีก็ตามใจ แต่นายหนีไปไม่ได้ตลอดหรอก!”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว เขาบอกได้เลยว่าจอร์แดนพร้อมที่จะทำทุกอย่างเขาอยากจะส่งจอร์แดนให้บินไปด้วยกันตบ แต่เขากลับรั้งตัวเองไว้เนื่องจากที่นี่เป็นสถานีตำรวจ“เอาล่ะ คุณจะลองดูก็ได้ฮาร์วีย์ดูเหมือนไม่แยแส“ผมจะบอกคุณแค่ครั้งเดียวเท่านั้นผมจะไม่ขัดขวางคุณ เพราะเห็นแก่ที่คุณสูญเสียลูกชายไป “แต่ถ้าคุณยังวุ่นวายไม่เลิก ผมจะลบตระกูลโบวี่ทั้งหมดออกจากประวัติของฟลัตเวลล์!”ปัง!ทันทีที่ฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้า รอยแตกจำนวนนับไม่ถ้วนก็ก่อตัวขึ้นจากปลายเท้าของเขาพื้นปูด้วยกระเบื้องหินบลูสโตนเกิดรอยร้าวขึ้นก่อนที่กระเบื้องจะกลายเป็นฝุ่น“นี่มันอะไรกัน...”ทุกคนตกใจเป็นอย่างมากร่างกายของจอร์แดนสั่นสะท้านก่อนที่จะหลบเศษชิ้นส่วนที่พุ่งตรงมาที่เขาเนื่องจากเขาหลบหลีกช้าอยู่สักหน่อย เศษหินจึงปาเข้าที่ใบหน้าของเขาการแสดงออกของจอร์แดนเปลี่ยนไปทันทีในฟลัตเวลล์มีผู้เชียวชาญด้านศิลปะการต่อสู้มากมาย แต่จอร์แดนไม่เคยเห็นใครสามารถทำลายกระเบื้องทั่วบริเวณได้จาก
จอร์แดน โบวี่รู้สึกสับสนเนื่องจากเขาเป็นคนค่อนข้างโหด เขาจึงดึงปืนกระบอกงามออกมาจากใต้เบาะนั่งและเตะประตูรถออกก่อนที่จะพาบอดี้การ์ดและเลขาไปด้วยมีรอยแตกปรากฏขึ้นที่ประตูหน้าคฤหาสน์ กลิ่นเลือดโชยมาจากภายในจอร์แดนขมวดคิ้วก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไป“มีบางอย่างผิดปกติ!“ปลดเซฟตี้ของปืนออกเดี๋ยวนี้!"ไป!"เขาเตะประตูลงก่อนจะเข้าไปข้างใน อาวุธกระจัดกระจายไปทั่วพื้นโดยมีเลือดปะปนกันทั่วตัวประตูห้องโถงใหญ่ถูกปิดลง ไม่มีใครบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในจอร์แดนมีความกังวลอย่างมาก เขามีความรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ได้พบเลยเขามีท่าทางฉุนเฉียวก่อนที่คนของเขาจะเล็งปืนไปที่ห้องโถงใหญ่“ใครซ่อนอยู่ตรงนั้น! ก้าวออกมาเดี๋ยวนี้!“คุณมาสายนะ หัวหน้าโบวี่…”เสียงสงบดังก้องมาจากห้องโถงจอร์แดนถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากได้ยินเสียงนั้น“ทำไมคุณมาถึงคฤหาสน์ของเราเลยล่ะ นายน้อย?“มีคนเผลอไปทำอะไรให้คุณขุ่นเคืองใจหรือเปล่า?“บอกผมมาว่าพวกนั้นเป็นใคร! ผมจะตามไปฆ่าล้างโคตรพวกเขาเอง!”คนสามคนเดินออกจากห้องโถงขณะที่จอร์แดนยังคงพูดอยู่คนตรงหน้าคือโจเซฟ บาวเออร์พวกส้นสวมชุดสูทสีขา
วันรุ่งขึ้นช่วงเช้าตรู่ ฮาร์วีย์ ยอร์กตื่นขึ้นเพราะเสียงโทรศัพท์ของเขาเมื่อเขารับสาย เสียงที่กระวนกระวายของราเชล ฮาร์ดีก็ดังขึ้นจากปลายสาย“แย่แล้วค่ะคุณยอร์ก เมื่อคืนนี้ตระกูลโบวี่ถูกสังหารทั้งตระกูล…”เมื่อฮาร์วีย์ไปถึงที่เกิดเหตุ ผู้คนก็ท่วมท้นไปทั่วทั้งสถานที่แล้วนอกเหนือจากญาติของตระกูลโบวี่แล้ว ผู้ตรวจการและสมาชิกของกองบังคับคดีของหลงเหมินหลายคนก็อยู่ที่นั่นด้วยคนทั้งเมืองตกตะลึงหลังจากที่เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ว่ากันว่าสังคมชนชั้นสูงโกรธเคืองกับข่าวนี้มาก พวกเขาระดมเงินหลายล้านดอลลาร์เพื่อเป็นรางวัลแก่ผู้ที่สามารถจับฆาตกรได้ราเชลยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน เธอเพิ่งจะมาที่ฟลัตเวลล์ได้ไม่นานแต่ก็เริ่มกลมกลืนกับสังคมชนชั้นสูงของเมืองแล้วเธอยืนอยู่ด้านหลังผู้คนเพื่อหลีกเลี่ยงคนอื่น ๆ ในขณะที่รอฮาร์วีย์มาถึงราเชลก้าวออกมาทันทีที่เธอเห็นฮาร์วีย์“ขอโทษที่รบกวนคุณแต่เช้าคุณยอร์ก”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว“เกิดอะไรขึ้น?”ฮาร์วีย์ไม่ชอบจอร์แดนมาก พวกเขาเพิ่งจะทะเลาะกันที่สถานีตำรวจด้วย…หลังจากนั้นตระกูลของเขาก็ถูกสังหารไม่ว่าจะอย่างไรฮาร์วีย์ก็จะต้องสืบให้รู้ถึงความจริงทั้งหมดนี
“มีคนในฟลัตเวลล์กี่คนที่จะสามารถทำอะไรแบบนี้ได้?”“ไม่มาก” ราเชล ฮาร์ดีตอบทันที“นอกเหนือจากทูตของวังทองคำ บุคคลสำคัญบางคนของหลงเหมิน และเหล่านายน้อยของตระกูลบาวเออร์...“ก็มีเพียงอีกไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถทำอะไรแบบนี้ได้”“รวมถึงฉันด้วยหรือเปล่า?”ราเชลหัวเราะอย่างขมขื่น“คุณคิดว่ายังไงล่ะคะคุณยอร์ก?”“แสดงว่าเธอกำลังจะบอกว่าหลักฐานทั้งหมดชี้ตรงมาที่ฉัน…”ฮาร์วีย์ ยอร์กเพียงแต่ยิ้ม“แต่เนื่องจากพวกมันไม่ชัดเจนพอ จึงไม่มีทางพิสูจน์ได้ว่าฉันเป็นคนทำใช่ไหม?”ตาของราเชลกระตุก“นั่นคือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดเลยค่ะคุณยอร์ก“พวกเขาไม่มีทางพิสูจน์ได้ว่าทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของพวกเรา แต่พวกเราก็ไม่มีอะไรไปยืนยันพวกเขาว่านี่ไม่ใช่ฝีมือของพวกเราเช่นกัน“ถ้าวันนี้เราไม่ระวังให้ดี เราจะต้องรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดนี้แน่นอน”ฮาร์วีย์หรี่ตามองไปที่ตระกูลบาวเออร์ก่อนที่จะถอนหายใจ“ไม่เลวเลย พวกเขาถึงกับยอมตัดมือตนเองเพื่อฆ่าฉัน…”ราเชลมองตามสายตาของเขาก่อนที่เธอจะขนลุก...“คุณกำลังจะบอกว่าโจเซฟ บาวเออร์…”“นายกล้ามาที่นี่ได้ยังไงฮาร์วีย์?!”ก่อนที่เธอจะทันได้พูดจบก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินออก
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข