“ส่งแขกด้วย!”หลังจากชงชาดำอีกกาหนึ่ง ฮาร์วีย์โบกมือเป็นสัญญาณอย่างสงบ โดยไม่คิดจะให้เกียรติเจ้าหญิงองค์ที่สี่เลยแม้แต่น้อย“ฮาร์วีย์ ยอร์ก!”เจ้าหญิงองค์ที่สี่กัดฟัน เธออยากจะออกฤทธิ์ แต่ก็ควบคุมตัวเองไว้ได้อย่างสุดกำลังเธออยากจะสาดน้ำชาใส่ฮาร์วีย์แต่เธอทำได้เพียงต้องระงับความโกรธเอาไว้ เธอรู้ว่าผลที่ตามมาของการทำสิ่งนั้นจะเลวร้ายเพียงใดหลังจากจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชาเพียงไม่กี่นาที เจ้าหญิงองค์ที่สี่ก็ลุกออกไปจากสถานที่นั้นไม่กี่นาทีต่อมา เธอก็นั่งอยู่ที่ด้านหลังของรถโรลส์รอยซ์ของเธอด้วยท่าทางเศร้าหมองอย่างยิ่งเลขาหน้าตาหล่อเหลาและสง่ายื่นแก้วแชมเปญให้เธอด้วยความเคารพ“เจ้าหญิงองค์ที่สี่ เราควรทำอย่างไรดี?”สีหน้าของเจ้าหญิงองค์ที่สี่มืดลงทันที“เรียกอัศวินโต๊ะกลมให้มารวมตัวกัน!” เธอเอ่ยขึ้นอัศวินโต๊ะกลมเป็นผู้ที่ได้รับคัดเลือกจากกองกำลังอัศวินเทมพลาร์อีกทีหากอัศวินเทมพลาร์ถือเป็นกองกำลังพิเศษ อัศวินโต๊ะกลมก็จะเป็นราชาแห่งกองกำลังพิเศษแม้แต่เจ้าหญิงองค์ที่สี่ซึ่งมีสถานะค่อนข้างสูง ก็ยังไม่มีอัศวินเหล่านั้นติดตามข้างกายและหลังจากได้ยินคำสั่งของเธอ สีหน้าของเลขา
ดูเหมือนว่าควินนี่จะเข้าใจในสิ่งที่ฮาร์วีย์ต้องการ“ถ้าเป็นอย่างนั้น เราควรเพิ่มการป้องกันหรือเปล่า” เธอถามด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น“ไม่อย่างนั้นแล้ว หากเจ้าหญิงองค์ที่สี่สามารถช่วยคนของเธอไปได้ เธอจะต้องร่วมมือกับวินซ์หันมาแว้งกัดเราแน่นอน”"ไม่เป็นไรหรอก ฉันมีแผนสำหรับเรื่องนั้นไว้อยู่แล้ว” ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็น“เธอมีอำนาจค่อนข้างจำกัด ในตอนนี้เธอทำได้เพียงพึ่งพาลูกหลานของประเทศ H ที่อยู่ในดินแดนพระอาทิตย์ฯได้เท่านั้น“ถึงแม้จะมีอัศวินโต๊ะกลมอยู่ด้วย เธอก็ไม่มีทางเข้าใกล้ลูกน้องของเธอได้ถ้าฉันยังอยู่ที่นี่”ควินนี่พยักหน้า จากนั้นจึงเริ่มไตร่ตรองสถานการณ์ต่าง ๆ“ถ้าเธอเข้ามาช่วยพวกเขาไม่ได้ เธอก็อาจจะหาตัวประกันมาแลกเปลี่ยนกับคุณสองสามคน”“เธอคิดมากเกินไปแล้ว การมียอดฝีมือของตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงอยู่เคียงข้างแบบนี้ ฝ่ายนั้นไม่มีทางแตะต้องเธอได้หรอก“เลสลี่มีทั้งรัฐบาลฮ่องกงอยู่กับเธอ…“โยอาน่ามีวังมังกร…“ไอรีนมีสาขาของหลงเหมิน…“ซีน่ามีตระกูลแฮมิลตัน…“ถ้าเจ้าหญิงองค์ที่สี่พอมีสมองอยู่บ้าง เธอจะไม่ไปหาสาว ๆ พวกนั้น“ยิ่งกับพวกจิ้งจอกขาวเจ้าเล่ห์คนอื่น ๆ… ถ้าพวกเขาทำให้ตั
ควินนี่ประทับใจกับใบหน้าเรียบเฉยของฮาร์วีย์ขณะที่เธอกังวลเกี่ยวกับการโจมตีของเจสัน ฮาร์วีย์ก็วางแผนล่วงหน้าไว้แล้ว โดยวางกับดักแล้วล่อให้เจสันเข้ามา ควินนี่ตั้งตารอให้เจ้าหญิงองค์ที่สี่ลงมือแทบไม่ไหวเธอหวังว่าเจ้าหญิงองค์ที่สี่จะฆ่าวินซ์ตามที่ฮาร์วีย์เรียกร้องหากเจ้าหญิงองค์ที่สี่ไม่ทำตามนั้นและคิดจะเล่นตุกติก ฮาร์วีย์จะฆ่าเธอได้โดยไม่ลังเลเลย"จริงสิ อย่างแรกเจ้าหญิงองค์ที่สี่คงไม่ใช่จะจัดการได้ง่ายอย่างที่เราคิด”ฮาร์วีย์เปลี่ยนเรื่องก่อนจะโยนยูเอสบีไปให้ควินนี่“ฉันต้องการให้ยูเอสบีนี้ไปที่วอลช์ เดลินิวส์ด้วยวิธีที่สมเหตุสมผลที่สุด ในตอนที่จำเป็น”ควินนี่ตัวแข็งเล็กน้อย"นี่คือ…""ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่ภาพที่เจ้าหญิงองค์ที่สี่กำลังคุกเข่าก็เท่านั้น“แน่นอน ฉันลบภาพตัวเองออกไปหมดแล้ว"บอกฉันที หากดินแดนพระอาทิตย์ฯ ผู้หยิ่งในศักดิ์ศรีค้นพบว่าเจ้าหญิงองค์ที่สี่ของพวกเขากำลังคุกเข่าอยู่ในดินแดนต่างประเทศ…“จะเกิดอะไรขึ้นกับตำแหน่งของเธอ”ควินนี่ถอนหายใจ ฮาร์วีย์ค่อนข้างพูดจาขวานผ่าซากเลยทีเดียวถ้าเจ้าหญิงองค์ที่สี่พยายามทำอะไรสักอย่าง เธอคงมีจุดจบที่น่าสยดสยอง…ใน
นายน้อยคนที่สิบสามหรี่ตามองแมนดี้ก่อนจะพูดว่า “คุณซิมเมอร์ คงไม่มีข้อกังขาในแผนธุรกิจของคุณ”“แต่ถึงจะนั้นผมยังคงคิดว่าเราควรปรับเปลี่ยนส่วนแบ่งรายได้ของเรา ตัวอย่างเช่น ผมจะได้เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ และคุณจะได้เพียงสามสิบ”"แน่นอน…"“เราจะมามัวอ้อมค้อมต่อไปไม่ได้แล้ว“ถ้าในสองวันนี้คุณพอมีเวลา ก็ไปที่ฟลัตเวลล์กับผมสิ“แล้วคนจะได้รู้ว่าคุณโชคดีแค่ไหนที่ได้ร่วมงานกับตระกูลบาวเออร์“หากคุณจับมือกับเรา ตำแหน่งของคุณภายในตระกูลฌองก็จะมั่นคงยิ่งขึ้น“ท้ายที่สุดแล้ว จากตระกูลสิบอันดับแรกของประเทศ H ตระกูลฌองก็ถือว่ารั้งท้ายที่สุด พวกเขาเทียบตระกูลเราไม่ได้ด้วยซ้ำ!“แน่นอน ถ้าคุณพิจารณาข้อเสนอเพิ่มเติมของผม ผมก็ยินดีจะประนีประนอมให้ด้วยเช่นกัน“ในโลกนี้ การแต่งงานดองกันดีกว่าสัญญากระดาษเพียงใบเดียวอยู่แล้ว“แล้วผม โจเซฟ บาวเออร์ ก็เรียกได้ว่ามีความรู้สึกที่จริงใจต่อคุณอย่างที่สุดเช่นกัน“คุณควรกลับไปคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วน เพราะคุณคือผู้หญิงคนแรกที่ผมคิดจะแต่งงานด้วย”คำพูดของโจเซฟทำให้เลขาและผู้ช่วยรอบ ๆ แมนดี้เบิกบานใจอย่างยิ่งนี่เป็นข้อเสนอที่มาจากซีอีโอยอดฝีมือในตำนาน!
แมนดี้ยกสัญญาในมือของเธอขึ้นมาอย่างใจเย็น“ขอบคุณที่เชิญค่ะ นายน้อยบาวเออร์” เธอกล่าวอย่างสงบ“แต่ฉันไม่คิดว่าการไปที่นั่นกับคุณก่อนที่ข้อตกลงจะลุล่วงเป็นเรื่องจำเป็นอะไร”“ถ้ามันไม่จำเป็นสำหรับการร่วมงานของเรา ทำไมไม่ลองคิดซะว่ามันเป็นการไปพักผ่อนดูล่ะ?” โจเซฟแนะนำ"จริงสิ ผมลืมบอกอะไรคุณไปบางอย่าง ผมชวนคุณป้าเยตส์มาด้วย แล้วเธอก็ตอบรับคำเชิญอย่างยินดี…“เพราะว่าคุณจะไปกับพวกเราด้วย“ไม่งั้นคุณจะปล่อยให้แม่ผู้เป็นที่รักไปในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์ได้หรือ?”ใบหน้าของแมนดี้มืดลงทันทีเมื่อมาถึงจุดนี้ เธอไม่รู้ว่าจะจัดการกับโจเซฟอย่างไรต่อไปเนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นในลาสเวกัส ทำให้เธอไม่ได้ติดต่อกับฮาร์วีย์มาครึ่งปีแล้วในทางกลับกัน ลิเลียนเอาแต่ยุ่งย่ามเพื่อให้เธอหย่ากับฮาร์วีย์อย่างไม่ยอมเลิกรา แมนดี้รู้สึกท้อแท้มากเพราะเหตุนี้โจเซฟเผยรอยยิ้มจาง ๆ เมื่อสังเกตเห็นท่าทางไม่ยินดีของแมนดี้"เอาละ ผมจะไม่รบกวนเวลาของคุณอีกต่อไปแล้ว“ผมจะรอคำตอบจากคุณ!“ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้เลย"ไม่ต้องห่วงนะ ไม่ว่าคุณจะมาหรือไม่มามันก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเรา”โจเ
แมนดี้ขมวดคิ้วทันที“ถ้าอย่างนั้นหนูขอบอกให้แม่รู้อีกทีนะคะว่าเงินทั้งหมดนั้นเป็นของสาขาที่เก้า หนูไม่มีสิทธิ์ในเงินนั้น” เธอพูดด้วยความทุกข์ใจ“หนูมีเงินเหลืออยู่ไม่กี่แสนดอลลาร์เท่านั้น และหนูก็ให้แม่ไปหมดแล้ว”ลิเลียนส่งเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา“ฉันพึ่งพาอะไรแกเลยไม่ได้จริง ๆ! ถ้าแกไม่หาเงินมาให้ฉันอย่างน้อยหนึ่งร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์ แกได้เจอฉันอีกแน่! ได้ยินไหม?!“อย่าคิดว่าแกจะหนีฉันพ้นล่ะ! ทีฉันปล่อยแกไปวันนี้เพราะฉันอารมณ์ดีหรอก…”จากนั้นลิเลียนก็หยิบกระเป๋าแอร์เมสสีขาวหิมะออกมา เธอดูหวงมันมากด้วยกระเป๋าแอร์เมสสีขาวหิมะมีราคาหลายพันดอลลาร์แต่ลิเลียนกลับมีมันในการครอบครอง มันทำให้แมนดี้ตกใจมาก“แม่ไปเอากระเป๋าใบนั้นมาจากไหน?”“จากไหนเหรอ? ก็ซื้อสิ!”ลิเลียนส่งเสียงเยาะเย้ยอีกครั้ง“แกจะมาอ้างว่าแกซื้อให้ฉันหรือไง?“ยังไงแกก็ไม่มีวันซื้อของแบบนี้ให้ฉันอยู่แล้ว!“ฉันจะบอกอะไรแกให้นะ! ถ้าไม่ใช่เพราะนายน้อยบาวเออร์ล่ะก็…”ลิเลียนรีบหยุดตัวเองทันทีหลังจากที่รู้ตัวว่าตัวเองเผลอหลุดปาก เธอมองแมนดี้อย่างระมัดระวังแน่นอนว่าโจเซฟได้บอกลิเลียนแล้วว่ามีบางอย่างที่แมนดี้ไม่คว
เมื่อเห็นแม่ตนเองโมโหขนาดนี้แมนดี้ก็เป็นทุกข์เธอไม่ได้คุยกับฮาร์วีย์มาครึ่งปีแล้ว เธอยังจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งในฮ่องกงและลาสเวกัสได้แมนดี้ไม่อยากจะเชื่อว่าฮาร์วีย์พยายามจะฆ่าแม่ของเธอจริง ๆแต่การนองเลือดยังคงฉายอยู่ในหัวของเธอราวกับว่ามันเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวานตรรกะของเธอบอกเธอว่าถ้าฮาร์วีย์ต้องการที่จะฆ่าลิเลียน เขาคงจะไม่ปล่อยให้ตัวเองพลาดแต่เธอไม่สามารถลืมสิ่งที่เธอเห็นด้วยตาตนเองได้แมนดี้ถอนหายใจและไม่สนใจมันอีกต่อไป“เราไม่คุยเรื่องนี้กันได้ไหมคะแม่?”หลังจากที่เห็นสีหน้าที่เศร้าหมองของลูกสาวตนเอง ลิเลียนก็ยิ้มด้วยความดีใจ ดูเหมือนเธอจะรู้แล้วว่าแมนดี้คิดอย่างไร“เอาล่ะ ๆ เราอย่าพูดถึงไอ้สารเลวนั่นเลย“อ๋อ! นายน้อยบาวเออร์ชวนฉันไปทานอาหารที่โรงแรมพอทโฮลที่เพิ่งเปิดใหม่ในใจกลางเมือง เขาบอกว่าเราจะเป็นลูกค้ารายแรกเลย“ทำไมแกไม่ไปกับฉันล่ะ?”แมนดี้ส่ายหัว“หนูไปไม่ได้ หนูมีประชุม…”“แกต้องไป!“แกต้องพักผ่อนบ้าง! แกอายุยังน้อย แกควรจะออกไปหาคู่ครองที่เหมาะกับตัวเอง! แกจะทำงานหนักตลอดเวลาเพื่ออะไร?“เมื่อแกแต่งงานกับนายน้อยบาวเออร์และเขาให้ส่วนแบ่งเหมืองทองเรา
ขณะที่ซีนเธียร์กำลังจะให้แย้งลิเลียน คนขับก็เลื่อนหน้าต่างคั่นกลางลงด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี“ซีอีโอซิมเมอร์ คุณหญิง มีรถสองสามคันตามเรามาสักพักหนึ่งแล้ว…“ผมอุตส่าห์เปลี่ยนเส้นทางแล้ว แต่พวกเขาก็ยังตามพวกเรามาตลอด…“ผมเกรงว่าพวกเขาจะติดตามพวกเรา!”แมนดี้ชะงักก่อนที่จะเหลือบมองกระจกมองหลังอย่างที่คนขับได้กล่าวไว้ รถสองสามคันที่มีป้ายทะเบียนประเทศ H กำลังตามหลังพวกเขาอย่างต่อเนื่องรถทุกคันเป็นสีดำ นอกจากป้ายทะเบียนที่โดดเด่นแล้ว วิธีการขับเป็นขบวนของพวกเขายังดูยิ่งใหญ่มากทว่า พวกเขากระจัดกระจายกันไปทันทีหลังจากที่ตระหนักว่าตัวเองถูกเปิดโปง ตอนนี้พวกเขาอยู่ทุกทิศทางและล้อมรอบขบวนรถของตระกูลซิมเมอร์ทันทีคันหนึ่งพุ่งไปข้างหน้าเพื่อปิดทาง ขณะที่อีกสองคันค่อย ๆ เข้าใกล้รถของแมนดี้สีหน้าของแมนดี้เปลี่ยนทันที เธอไม่คิดว่าจะมีใครกล้าสร้างปัญหาให้กับตระกูลฌองในมอร์ดูด้วยซ้ำแต่หลังจากที่ไตร่ตรองเกี่ยวกับสถานการณ์อยู่ครู่หนึ่ง เธอก็รู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สักวันจะต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วหลังจากที่หายใจเข้าลึก ๆ แมนดี้ก็สามารถสงบสติอารมณ์ได้ไม่ว่าศัตรูจะเป็นใครหรือคิดจะทำอะไร ความปลอด