Home / โรแมนติก / บ่วงรักผีเสื้อ / บทที่ 1 ผีเสื้อหัดบิน - 50%

Share

บทที่ 1 ผีเสื้อหัดบิน - 50%

last update Last Updated: 2024-10-31 21:15:35

ฝ่ามือเหี่ยวย่นลูบศีรษะเล็กด้วยความสงสาร ตั้งแต่เล็กจนโต ตนเห็นคุณหนูตัวน้อยนั่งรอบุพการีกลับมาจากทำงานอยู่ที่ขั้นบันไดตรงมุกหน้าบ้านเสมอ จนบางครั้งก็ฟุบหลับหน้าแนบไปกับราวบันได เคยปลุกให้ขึ้นไปนอนบนห้องก็ไม่ยอม จะรอแต่พ่อกับแม่อย่างเดียว ถึงมาพักหลังนี้จะไม่ค่อยเห็นเด็กสาวมานั่งรอเหมือนเมื่อก่อนอีก แต่ตนก็รู้ดีว่าในใจลึก ๆ ของรวิชานั้นโหยหาความอบอุ่นมากแค่ไหน

“น้องอายรู้ค่ะ แหม...น้องอายโตแล้วนะคะไม่ใช่เด็ก ๆ ที่จะมานั่งงอนตะพึดตะพือเหมือนเมื่อก่อน”

รวิชายิ้มจนตาหยีเพื่อให้แม่นมสูงวัยคลายกังวล ทั้งที่ในใจนั้นยังอัดแน่นไปด้วยความน้อยใจบุพการีที่เหมือนลืมไปแล้วว่ามีเธอเป็นลูก

สายตาของผู้สูงวัยได้แต่มองคนตรงหน้าที่นั่งกินมื้อเย็นไปเงียบ ๆ คนเดียวเช่นทุกครั้งด้วยความรักและสงสาร ถึงแม้อีกฝ่ายจะพยายามแสดงออกมากแค่ไหนว่าตัวเองเข้มแข็ง แต่คนที่เลี้ยงมากับมือตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งโตเป็นสาวน้อยน่ารัก ทำไมตนจะไม่รู้ว่าในใจของรวิชากำลังคิดอะไร บางคืนตนยังได้ยินเสียงคุณหนูน้อยละเมอร้องไห้อยู่เลย

หลังเสร็จจากมื้อเย็นแล้ว รวิชาก็ออกมานั่งเล่นที่ระเบียงห้องนอน มุมนี้เป็นมุมที่เธอชอบมากที่สุดเวลาที่ต้องคิดอะไรเพลิน ๆ เพียงลำพัง สายลมโชยเอื่อยพัดพากลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกแก้วในสวนด้านล่างขึ้นมาโอบล้อมรอบกาย หญิงสาวปล่อยใจมองไปยังท้องฟ้ามืดมิด พลันความคิดบางอย่างก็ผุดวาบขึ้นมาในหัว

ไปเรียนต่อเมืองนอกดีไหมนะ...

“เค้นเอาคำตอบจากมันมาให้ได้ ถ้ามันไม่ยอมพูดก็จัดการง้างปากมันพูดให้ได้ คงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าต้องจัดการยังไง”

เสียงทุ้มสั่งความอย่างเคร่งเครียดของชายหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ข้างบ้าน และอาศัยรั้วเดียวกันกับบ้านของเธอ ทำให้รวิชาต้องรีบทรุดตัวลงนั่งกับพื้นระเบียง โชคดีที่มุมนี้มีต้นไม้ใหญ่บดบังมุมโปรดจากสายตาคนภายนอก จึงทำให้คนมองจากข้างนอกแทบดูไม่ออกว่าหลังกิ่งก้านของต้นไม้ต้นนี้ยังมีห้องนอนของเธอซุกซ่อนอยู่

รวิชาแอบมองชายหนุ่มเจ้าของบ้านติดกันผ่านซี่ช่องว่างระหว่างราวระเบียง เธอมักเห็นเขาในเวลาค่ำมืดประมาณนี้ที่ตนออกมานั่งที่นี่ น่าแปลกว่าตอนกลางวันเธอไม่เคยเจอเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียวทั้งที่บ้านอยู่ติดกัน อีกทั้งโรงรถของเขาก็ดันอยู่ใกล้กับระเบียงห้องนอนของเธอเสียได้ และเท่าที่เห็นจากลักษณะท่าทางภายนอก รวมถึงการพูดจาดุดันราวกับสั่งเก็บใครสักคนของเขาบ่อย ๆ หรือบางคราวก็ดูข่มขู่คุกคามอยู่ในที จึงทำให้เธอแอบตั้งฉายาของเขาว่า “คุณแวมไพร์มาเฟีย” หรือบางครั้งจะเรียกสั้น ๆ แค่ว่า “คุณผีดิบ” เพราะเหมาะกับบุคลิกของเขาที่สุด

ชายหนุ่มขับรถสปอร์ตคู่ใจออกไปแล้ว รวิชาจึงโผล่หน้าออกมาจากราวระเบียงแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตามเดิม ดวงตากลมโตมองตามไฟท้ายของรถที่แล่นห่างออกไปเรื่อย ๆ จนสุดสายตา

“ได้เวลาผีดิบออกหากินแล้วสินะ”

พรรณรายขับรถมาบ้านรวิชาในเวลาประมาณสามทุ่มเศษ หญิงสาวลงจากรถแล้วเปิดประตูด้านหลังเพื่อหยิบเดรสสั้นสีขาวครีมที่แขวนไว้ ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในตัวบ้าน ซึ่งเจ้าของบ้านกำลังนั่งดูโทรทัศน์รออยู่ในห้องรับแขกแล้ว พอเห็นพรรณรายเดินมาพร้อมกับเดรสที่ตนขอเอาไว้ จึงหยิบรีโมตขึ้นมาปิดโทรทัศน์แล้วลุกขึ้นเดินนำขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเอง

ทั้งคู่ใช้เวลาแต่งตัวแต่งหน้าไม่ถึงชั่วโมงก็พากันออกจากบ้าน ทิ้งสายตาของผู้สูงวัยที่แอบมองอยู่ตรงหน้าต่างด้วยความเป็นห่วงอยู่เบื้องหลัง

“โธ่ คุณหนูนะคุณหนู ที่แท้ก็แอบออกไปเที่ยวกลางคืนหรอกหรือเนี่ย นึกว่าเพื่อนจะมาหากันเฉย ๆ เสียอีก ที่ไหนได้...”

ได้แต่รำพึงกับตัวเอง สุดท้ายก็ตัดสินใจหอบหมอนและผ้าห่มออกมานอนที่โซฟาตัวยาวในห้องรับแขกเพื่อรอรวิชากลับบ้าน เพราะถ้าคุณหนูกลับมาในตอนค่ำมืดดึกดื่น บุญเกิดที่เป็นทั้งคนสวนและคนขับรถอาจจะไม่ได้ยินเสียงกดออดเรียกที่หน้าประตูรั้ว ตนจึงตัดสินใจมานอนเฝ้าเสียตรงนี้เลย

รวิชาก้าวขาลงจากรถด้วยความไม่มั่นใจนัก ครั้นพอลงมายืนที่ข้างรถได้ ก็รีบเอามือดึงชายกระโปรงให้ปิดขาลงมาอีกสักหน่อยเพราะมันสั้นแสนสั้น เมื่อครู่ตอนนั่งอยู่ในรถเธอก็ดึงแล้วดึงอีก จนพรรณรายเห็นแล้วอดค่อนขอดไม่ได้

“แกจะดึงอะไรกันนักกันหนายายอาย เดี๋ยวชุดของฉันก็ยืดหมดพอดี” พรรณรายยืนหน้าง้ำกอดอกมองเพื่อน

“ฉันเหมือนใส่เสื้อแค่ตัวเดียวแล้วไม่ได้ใส่กระโปรงเลยน่ะ ชุดอะไรของแกเนี่ยทำไมมันสั้นอย่างนี้ นี่ถ้านมพิมมาเห็นต้องบ่นหูชาแน่เลย”

รวิชาทำปากยื่น ยิ่งเห็นสายตาของหนุ่ม ๆ ที่เริ่มมองมาทางตนก็ยิ่งทำให้ความมั่นใจหดหาย พรรณรายเห็นอาการของเพื่อนแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ส่ายหน้าช้า ๆ ทอดสายตามองราวกับผู้ใหญ่มองเด็ก

“อ่อนจริง ๆ เลยแก นี่...ลองมองไปรอบ ๆ สิยายอาย คนอื่นเขาแต่งกันยิ่งกว่าแกอีก ไม่เห็นจะมีใครเขาทำท่าทางเป็นเด็กหัดเปรี้ยวอย่างแกเลยสักคน”

พรรณรายกวาดตามองเพื่อนสาวขึ้นลงตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า รู้ดีว่าตนกับรวิชานั้นค่อนข้างมีทรวดทรงองค์เอวเกินกว่าเด็กสาววัยมัธยมพอสมควร เพื่อนในกลุ่มยังเคยเปรยให้ฟังอยู่หลายครั้งว่าอิจฉาพวกเธอในเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นหากแต่งตัวแต่งหน้าแบบนี้ไม่มีทางที่จะมีคนมองออกว่าพวกตนเพิ่งพ้นรั้วกระโปรงบานมาสด ๆ ร้อน ๆ

“ฉันอุตส่าห์แต่งตัวแต่งหน้าให้แกเป็นสาวสวย ไม่มีใครเขามองออกหรอกว่าแกเพิ่งจะจบม.ปลายมา” พรรณรายกระซิบกระซาบกับรวิชา ก่อนจะฉุดแขนให้เข้าไปข้างในสถานบันเทิง

รวิชามองเพื่อนที่ยืนเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยระหว่างที่ยื่นบัตรสมาชิกให้พนักงานตรวจสอบที่หน้าประตูด้วยแววตาขบขัน เธอเห็นแล้วว่าพรรณรายพยายามอย่างยิ่งที่จะวางตัวให้ดูเหมือนเป็น “ผู้ใหญ่” เพื่อจะได้ไม่ถูกคนอื่นมองว่าเป็นเด็กน้อยหนีเที่ยว ทว่าเธอกลับมองแล้วรู้สึกตลกมากกว่า เพราะยิ่งทำให้ดูเหมือนเท่าไร ท่าทางที่แสดงออกมามันก็ยิ่งดูไม่เป็นธรรมชาติเท่านั้น

คิดได้ดังนั้นเธอจึงวางตัวสบาย ๆ ยิ้มให้พนักงานทั้งสองคนที่หน้าประตูเล็กน้อยหลังจากที่พวกเขาอนุญาตให้เธอกับเพื่อนเข้าไปด้านในได้ โดยมีพนักงานหญิงอีกคนเดินนำไปยังโต๊ะที่อยู่ด้านใน

“โห...”

รวิชาเบิกตากว้างอย่างตื่นเต้นเพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้มาเที่ยวสถานที่อย่างนี้ เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มรอบตัวราวกับมีลำโพงแนบหูอยู่ตลอด ทำให้หญิงสาวไม่ได้ยินสิ่งที่พรรณรายพูดอยู่ด้านข้าง อีกทั้งแสงไฟสลัวสลับกับสปอตไลต์สีต่าง ๆ ที่สาดไปทั่วทั้งฮอลล์ ก็ทำให้เธอเผลอตัวหยุดยืนอยู่กับที่แล้วกวาดตามองไปรอบด้านราวกับเด็กหลงทางที่หลุดไปในดินแดนมหัศจรรย์

อืม...ตอนนี้รู้แล้วล่ะว่าอลิสรู้สึกอย่างไรตอนที่วิ่งตามกระต่ายเข้าไปในโพรง

รวิชาก้าวขาออกเดิน แต่สายตาก็ยังมิวายมองนั่นมองนี่ไปรอบกายด้วยความตื่นเต้น กลิ่นของเครื่องปรับอากาศผสานไปกับกลิ่นแอลกอฮอล์ และกลิ่นของน้ำหอมราคาแพงที่เหล่านักเที่ยวต่างประพรมร่างกันมานั้นลอยอบอวลอยู่ในอากาศ เสียงพูดคุย เสียงหัวเราะแข่งกันกับเสียงเพลงที่ดังสนั่นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเวียนหัวแต่อย่างใด กลับรู้สึกสนุกมากกว่า

Related chapters

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 1 ผีเสื้อหัดบิน - 75%

    จนกระทั่งนัยน์ตากลมโตไปปะทะเข้ากับชายหนุ่มหน้าหล่อเหลาที่ยืนอยู่ในบูธดีเจ เขาคนนั้นส่งรอยยิ้มกระชากใจมาให้พร้อมกับทำท่าตะเบ๊ะเหมือนทหารทำความเคารพ ส่งผลให้สาวน้อยรีบหลบสายตาเป็นพัลวัน และอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มออกมา“อ้าว ยายพิงค์หายไปไหน”รวิชาเพิ่งรู้สึกตัวว่าเพื่อนไม่ได้อยู่ข้างตัว ตอนนี้รอบกายเธอมีแต่บรรดาผีเสื้อราตรีที่กำลังวาดลวดลายอยู่ตามโต๊ะ หญิงสาวสอดส่ายสายตามองหาพรรณรายพร้อมกับเดินไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ตัวว่าตนได้ย่างเท้าก้าวเข้ามาในโซนวีไอพีแล้วเพราะมัวแต่มองหาเพื่อน อีกทั้งรองเท้าที่ใส่ก็สูงแหลมเสียจนน่าหวาดเสียว จึงทำให้รวิชาสะดุดขาตัวเองจนร่างเซถลาไปข้างหน้า หญิงสาวหวีดร้องด้วยความตระหนกเมื่อคิดว่าคงต้องเจ็บตัวแน่แล้ว ไหนจะต้องอับอายขายหน้าคนอื่นอีกที่ทำตัวเซ่อซ่า แต่แล้วจู่ ๆ วงแขนแข็งแรงของใครบางคนก็คว้าร่างเธอให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาได้อย่างพอเหมาะพอเจาะก่อนจะล้มหัวเข่ากระแทกพื้นทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมากจนรวิชาไม่ทันได้คิดอะไร เพราะยังรู้สึกตกใจไม่น้อยกับเหตุการณ์เมื่อครู่ จึงไม่ทันได้สังเกตว่าตอนนี้ใบหน้าของเธอแนบอยู่กับอกกว้างของคนที่กำลังยกแขนขึ้นโอบเอวเธอหลวม ๆ

    Last Updated : 2024-10-31
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 1 ผีเสื้อหัดบิน - 100%

    รวิชากระแทกตัวลงนั่งติดกับพรรณรายด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์พร้อมกับเอากระเป๋าสะพายใบเล็กวางไว้ข้างตัวเพื่อป้องกันไม่ให้กลวิชรเข้ามานั่งติดกับตนเธอไม่ชอบผู้ชายคนนี้ตั้งแต่เจอหน้าครั้งแรกที่บริษัทของบิดา ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับเขา เห็นเขาเป็นแค่คนแปลกหน้าจึงไม่สนใจ แต่คงเป็นเพราะบุญเก่าของเธอยังมีอยู่จึงทำให้ได้รับรู้เรื่องความเหลวแหลก และเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อของเขาเข้าด้วยความบังเอิญตอนชายหนุ่มกำลังคุยโทรศัพท์สับรางกับบรรดาสาว ๆ ในมหาวิทยาลัย ผู้ชายคนนี้คุยโวโอ้อวดเรื่องบ้านรวยและเส้นใหญ่อย่างไม่อายปาก จึงทำให้เธอพยายามไม่เสวนากับเขา“เป็นอะไรยายอาย หน้าบึ้งมาเชียว” พรรณรายเอี้ยวตัวมากระซิบถามทันทีที่เห็นรวิชาหย่อนตัวลงนั่ง“พิงค์ แกไปรู้จักกับพวกหนุ่มมหา’ลัยตั้งแต่เมื่อไร ไม่เห็นเคยเล่าให้ฟัง”รวิชาเหลือบตามองไปยังชายหนุ่มหน้าตาดีที่นั่งเบียดชิดอยู่กับเพื่อนสาว หนำซ้ำยังเอาแขนมาโอบเอวเพื่อนเธออีกด้วย“เมื่อสองเดือนที่แล้วตอนไปเรียนติว วันนั้นที่แกไม่สบายเลยไม่ได้มาติวไงจำได้ไหม ฉันเลยต้องไปเดินเล่นคนเดียว กินข้าวคนเดียว ก็เลยได้รู้จักกับพี่ทิวน่ะ พี่เขาอยู่วิศวะฯ เชียวนะแก”พรรณรายบอกชื่อมห

    Last Updated : 2024-10-31
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 2 คุณผีดิบ - 35%

    ภีมพลยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างด้วยใบหน้านิ่งสนิท หากแต่แววตาที่มองไปยังทิวาภัทรกับกลวิชรนั้นดูดุดันและข่มขู่อยู่ในที เบื้องหลังของเขามีชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่สี่คนที่ทั้งคู่จำได้ดีว่าคือการ์ดของที่นี่ และคนกลุ่มนั้นก็กำลังมองมาที่พวกเขาเช่นกัน“คุณผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ ดูเหมือนเธอไม่ค่อยสบาย”ภีมพลมองร่างไร้สติของหญิงสาวที่ถูกสองคนนี้หิ้วปีกอยู่ ก่อนจะเบนสายตาไปมองทั้งคู่ราวกับต้องการกดดันอีกฝ่าย“ธะ...เธอเมามากครับเพราะดื่มไปหลายแก้ว ผมเลยคิดว่าพาเธอกลับบ้านดีกว่า เธอเป็นแฟนของผมเองครับ”กลวิชรเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อเห็นภีมพลเลิกคิ้วขึ้นขณะจ้องหน้าเขา พลางเอียงคอเล็กน้อยราวกับกำลังประเมินคำพูดของเขาอยู่“แน่ใจ?”ภีมพลก้าวเข้าไปหาคนพูด เห็นหญิงสาวที่หลับตาพริ้มไม่ได้สติแล้วจึงก้มลงเล็กน้อย เขามองใบหน้าเรียวเล็กนั้นชั่วครู่ ก่อนจะเงยหน้ามองชายหนุ่มที่อ้างว่าเป็นแฟนของเธอ จนคนถูกมองสะดุ้งวาบกลวิชรลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ แต่ก็ยังทำใจดีสู้เสือตอบยืนยัน“แน่ใจสิครับ ก็ผมนั่งอยู่กับเธอตลอด ไม่ทราบว่าคุณภีมพลมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”กลวิชรพยายามยิ้มอย่างสุภาพ และไม่

    Last Updated : 2024-12-22
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 2 คุณผีดิบ - 70%

    ภีมพลกลับขึ้นมาบนห้องพักอีกครั้งในสภาพเมามายเดินปัดไปเป๋มา คืนนี้เขาเจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนปริญญาโทที่ต่างประเทศมาท้าดวลออน เดอะ ร็อค หรือดื่มเหล้าเพียว ๆ จนหมดขวด ซึ่งเขาในฐานะเจ้าบ้านและเจ้าของสถานที่ มีหรือจะปฏิเสธให้เสียเชิง เขารับคำท้าทันที และสุดท้ายก็มีสภาพอย่างที่เห็นชายหนุ่มพยายามบังคับร่างกายให้เดินไปยังเตียงนอนหนานุ่มโดยเร็วที่สุด แต่กลับรู้สึกว่าวันนี้เตียงนั่นอยู่ไกลเหลือเกิน ทั้งที่เขาก็พยายามลากขาอันหนักอึ้งแล้วก้าวยาว ๆ ไปให้ถึงโดยไว อีกทั้งพื้นพรมที่เหยียบย่างอยู่ตอนนี้ก็รู้สึกฝืดราวกับฉาบไปด้วยกาวเหนียวหนืดอย่างไรอย่างนั้น“บ้าชะมัด! พรุ่งนี้จะสั่งเปลี่ยนพรมทั้งผืนเลย คอยดู”น้ำเสียงอ้อแอ้ของคนไม่ยอมรับว่าตนเองเมาบ่นออกมาเบา ๆ ขณะทิ้งตัวลงบนที่นอน เขาจัดการลอกคราบของตนออกจากกาย ทั้งที่ยังนอนอยู่แล้วเหวี่ยงเสื้อผ้าทิ้งไปบนพื้นโดยไม่สนใจว่ามันจะไปตกอยู่ตรงไหนของห้อง จากนั้นก็สอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกับรวิชาภีมพลหันมองใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังหลับสนิทเพราะฤทธิ์ยานอนหลับอยู่ข้างกาย เขาถือวิสาสะยื่นหน้าเข้าไปก

    Last Updated : 2024-12-22
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 2 คุณผีดิบ - 100%

    นมพิมบีบมือตนเองไปมา ไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหาตรงหน้าอย่างไรดี หล่อนไม่ใช่คนโกหกได้เก่งนัก อายุปูนนี้แล้วจะให้มาแก้ตัวแทนคุณหนูก็คงจะฟังไม่ขึ้นสักเท่าไรร่างท้วมของแม่นมเดินไปหยุดอยู่ที่บันไดขั้นสุดท้ายของมุกหน้าบ้านเพื่อรอรับคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศด้วยใบหน้าที่พยายามปั้นแต่งให้ยิ้มมากที่สุดเท่าที่จะมากได้“สวัสดีจ้ะนม” รวิวรรณ มารดาของรวิชาก้าวลงจากรถด้วยใบหน้าอิดโรย แต่ยังคงรอยยิ้มละไมประดับอยู่บนใบหน้า พลางสอดส่ายสายตามองหาบุตรสาวสุดที่รักเธอกับสามีตัดสินใจกลับจากดูไบก่อนกำหนดเพราะเป็นห่วงความรู้สึกของรวิชา รู้ดีว่าผิดนัดบุตรสาวมาหลายครั้ง และทำให้เจ้าตัวน้อยใจมากแค่ไหน โชคดีที่การเจรจาธุรกิจเครื่องหอมประสบผลสำเร็จด้วยดี อีกทั้งทางฝ่ายนั้นก็ขอเลื่อนประชุมให้เร็วขึ้น จึงเป็นโอกาสได้กลับเมืองไทยก่อนกำหนด และแน่นอนว่าการกลับมาครั้งนี้คนที่บ้านไม่มีใครรู้นอกจากบุญเกิด คนขับรถที่ขับไปรับเพราะต้องการเซอร์ไพรส์บุตรสาว“หนูอายล่ะจ๊ะนม”รวิวรรณถามถึงบุตรสาวทันทีที่มองไม่เห็นร่างปราดเปรียวของรวิชายืนยิ

    Last Updated : 2024-12-22
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 3 หมั้นกับตาแก่ - 35%

    “ผมพูดว่าผมจะให้ลูกสาวเราหมั้นกับคุณภีม” อาทิตย์พูดเสียงแผ่วเบาราวกับเกรงว่าจะมีใครมาได้ยิน ทว่าสายตาที่มองมายังภรรยาขณะที่พูดนั้นดูจริงจัง ไร้วี่แววล้อเล่นแต่อย่างใด“ฉันว่าไม่เหมาะมั้งคะคุณ ลูกเราอายุห่างจากคุณภีมตั้งเยอะ และเราก็ไม่รู้ว่าคุณภีมเขามีคนรักรึยัง” รวิวรรณค้าน เธอไม่เห็นด้วยกับความคิดของสามีนัก“ผมมีเหตุผลก็แล้วกัน...เข้าไปข้างในกันดีกว่า” อาทิตย์พูดพลางชวนภรรยาเข้าไปคุยกันในห้อง“เหตุผลอะไรคะ” เธอถามขึ้นหลังจากที่เดินตามหลังสามีมานั่งบนโซฟาตัวเดียวกัน“เหตุผลของผมข้อแรกเลยก็คือ ผมต้องการกันสองพ่อลูกนั่นไม่ให้มายุ่งกับหนูอายโดยเฉพาะกลวิชร ลูกชายของเขา ถ้าเขายังเห็นว่าหนูอายยังไม่มีคนรักหรือมีแฟน เขาก็จะยิ่งตื๊อให้ลูกเราหมั้นกับลูกชายเขาแน่ ถึงแม้เราจะปฏิเสธไปแล้ว แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเขาจะใช้วิธีสกปรกอะไรมายุ่งกับลูกของเรารึเปล่าข้อสอง ผมต้องการอาศัยอิทธิพลของคุณภีมในการทำธุรกิจครั้งนี้ เพราะถ้าข่าวการหมั้นของคุณภีมกับหนูอายแพร่สะพัดออกไป บรรดาบริษัทใหญ่ ๆ ที่

    Last Updated : 2024-12-23
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 3 หมั้นกับตาแก่ - 70%

    รวิชานั่งรถแท็กซี่มาจอดหน้าบ้าน ครั้นพอเห็นว่าบิดามารดากำลังยืนคุยกันอยู่ที่โรงรถ เธอจึงรีบบอกให้โชเฟอร์ขับเลยไปอีกเล็กน้อยจนเกือบถึงบ้านของคุณผีดิบ หลังจ่ายค่าแท็กซี่เสร็จเรียบร้อยก็เดินย้อนกลับมาที่บ้านของตน แล้วแอบซุ่มดูอยู่ข้างประตูเล็กเพื่อดูว่าจะมีคนเดินมาหน้าบ้านบ้างหรือเปล่า โชคดีที่แม่นมเดินออกมายืนหน้าบ้านพอดี เธอจึงรีบโบกมือให้อีกฝ่ายมาเปิดประตูให้“ตายแล้วคุณหนูของนมทำไมกลับมาเอาป่านนี้คะ คุณท่านทั้งสองกลับมาถึงแล้วนะคะ” นมพิมปลดล็อกประตูมือไม้สั่นเพราะความรีบเร่งแต่ก็ยังไม่วายบ่นหญิงสาวไปด้วย“โธ่…นมจ๋าอย่าเพิ่งดุน้องอายสิ ขอน้องอายรีบเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน คุณพ่อคุณแม่ขึ้นไปบนห้องรึยัง” รวิชาถามอย่างร้อนรน พลางชะเง้อมองเข้าไปในตัวบ้าน“เพิ่งขึ้นไปเมื่อสักครู่นี่เองค่ะ เห็นว่าจะขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่รู้จะลงมาเมื่อไร”รวิชาไม่รอให้แม่นมพูดจบ รีบเดินเลาะไปตามริมกำแพงโดยใช้ต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกไว้ริมกำแพงเป็นที่กำบังกายจากด้านบน โดยมีแม่นมเดินตามหลังคอยช่วยมองดูต้นทางให้อีกที จนกระ

    Last Updated : 2024-12-23
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 3 หมั้นกับตาแก่ - 100%

    กว่าหนึ่งชั่วโมงที่ห้องทำงานชั้นล่างปิดเงียบอยู่อย่างนั้น มีเปิดออกมาเพียงครั้งเดียวตอนที่รวิวรรณเดินมาหยิบขวดน้ำจากตู้เย็นในครัวไปสองขวด แล้วก็กลับเข้าไปในห้องตามเดิม“พี่ทิตย์ครับ สำหรับเรื่องเงินผมไม่มีปัญหาหรอกนะพี่ก็รู้ เรามันก็คนบ้านใกล้เรือนเคียง ต่อให้พี่ขอยืมผมมากกว่านี้ผมก็ให้พี่ยืมอยู่แล้ว แต่เรื่องหมั้นผมว่าไม่จำเป็นก็ได้มั้งครับ น้องอายยังเด็กอยู่เลย ทางนั้นมันจะเห็นแก่ผลประโยชน์จนถึงขนาดหวังรวบรัดน้องอายทั้งที่ยังใส่ชุดนักเรียนนี่เชียวหรือ ถ้ามันจะเลวขนาดนั้น เดี๋ยวผมช่วยส่งคนคอยตามดูแลน้องอายให้ก็ได้ครับ ลูกน้องผมมีเยอะอยู่ พี่ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลยครับระหว่างที่พี่ต้องจัดการธุระเรื่องงาน สำหรับผมแล้วน้องอายก็เหมือนหลานผมคนหนึ่ง ผมป้อนข้าวป้อนน้ำตั้งแต่หัวเท่ากำปั้น”ภีมพลพูดอย่างที่ใจคิด ภาพเด็กหญิงตัวกลมแก้มยุ้ยน่ารักผุดขึ้นมาในห้วงคำนึง เขาจำรวิชาในตอนนั้นได้ เด็กน้อยตัวจ้อยยิ้มเก่ง หัวเราะง่าย แค่เขาแกล้งสะดุดขาตนเองจนเกือบล้มก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจ ทั้งยังขี้อ้อนเป็นที่หนึ่งหนูน้อยเจอหน้าเขาทีไร จะกางแขนให้อุ้มพ

    Last Updated : 2024-12-23

Latest chapter

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 14 เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ - 50%

    “ใครจะมองยังไงก็เรื่องของเขา เราไปห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้หรอก คนคิดดีกับเราก็มีคนคิดร้ายกับเราก็เยอะ แค่เรารู้ตัวเองก็พอแล้วว่ากำลังทำอะไรอยู่ คนอื่นจะคิดยังไงก็ช่างเขาอย่าไปใส่ใจเลยครับ” ชายหนุ่มบีบมือเธอเบา ๆ“หรือว่าเราอาย” ภีมพลหันหน้าไปถามก่อนจะหันไปมองถนนเบื้องหน้าต่อ“อายอะไรคะ อาภีมหมายถึงอะไร”“เราอายเพื่อนหรือเปล่าที่อาไปรับที่มหาวิทยาลัยทุกวัน หรือว่าอายเพื่อนไหมที่ต้องบอกว่าอาเป็นคู่หมั้น น้องอายบอกอาได้นะ อาอยากให้เราเปิดใจคุยกันทุกเรื่องให้เข้าใจ”ภีมพลกระแอมเล็กน้อย นึกกลัวคำตอบอยู่เหมือนกัน แต่เขาก็อยากรู้ว่าเธอคิดอย่างไรกับการที่ต้องมีคู่หมั้นอายุห่างกันถึงสิบสี่ปี เด็กสาวอย่างเธอจะนึกอายเพื่อนบ้างหรือเปล่าเวลาที่ต้องแนะนำใครต่อใครว่าเขาคือคู่หมั้น“เปล่าค่ะ ไม่ได้อาย”รวิชาตอบเขาสั้น ๆ นึกอยากถามกลับไปบ้างว่าเขาล่ะอายเพื่อนบ้างหรือเปล่าที่ต้องมีคู่หมั้นเป็นเด็กน้อยปีหนึ่งอย่างเธอ ในขณะที่รอบตัวเขามีแต่สาวสวยเซ็กซี่วนเวียนมาทอดไมตรีให้ตลอด หญิงสาวชั่งใจอยู่สักพักก่อ

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 14 เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ - 25%

    เดือนแรกกับการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยในฐานะของเฟรชชี่เนื้อหอม ทำให้รวิชาต้องทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัยอยู่บ่อยครั้ง มีหลายคนมาทาบทามให้หญิงสาวประกวดดาวมหาวิทยาลัย แต่เธอไม่สนใจเนื่องจากไม่ต้องการเป็นจุดเด่นจนเกินไปนัก เพราะแค่นี้รวิชาก็รู้ตัวดีว่ามีรุ่นพี่รวมถึงเพื่อนรุ่นเดียวกันหมั่นไส้ และไม่ชอบหน้าเธอหลายคนมาก สังเกตจากแววตาและสีหน้าของคนเหล่านั้นก็รู้แล้วสังคมในมหาวิทยาลัยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับสังคมของเด็กมัธยมที่เธอเคยผ่านมา เพราะฉะนั้นรวิชาจึงพยายามไม่ทำอะไรที่เป็นการสร้างจุดเด่นให้ตน ยกเว้นก็แต่สุนิตาที่ดูเหมือนจะทำตรงกันข้ามกับเธออย่างสิ้นเชิง“อาย วันนี้คุณภีมมารับอีกหรือเปล่า”สุนิตาถือโอกาสตอนที่สกลธีกับอารดาไม่ได้นั่งอยู่ด้วยกัน จึงเดินเข้าไปถามและชวนคุยเหมือนทุกวัน โดยขณะที่ถามก็ทำทีเป็นเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือรวิชาเงยหน้าขึ้นปรายตามองเพื่อนสาวที่เริ่มมีพฤติกรรมแปลก ๆ จนเธออดสงสัยหลายสิ่งหลายอย่างที่เพื่อนคนนี้ทำไม่ได้“คิดว่าไม่มานะ วันนี้เราคงกลับเอง” รวิชาปดออกไป ความจริงแล้ววันนี้เขานัดกับเธอเอาไว้ว่าจะพาไปนั่ง

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 13 ทิ้งระยะห่าง - 100%

    รวิชาหันมองตามที่เพื่อนบอก เห็นใบหน้าหล่อเหลาของเขามีรอยยิ้มกว้างมาแต่ไกลก็พานให้หัวใจดวงน้อยสั่นหวิว เลือดลมสูบฉีดขึ้นไปมาจนรู้สึกว่าใบหน้าเห่อร้อนวูบวาบ“อุ๊ยตาย! เขย่าใจกะเทยเหลือเกิน วันนี้ผู้ชายของหล่อนแต่งตัวกระชากวัยมากเลย ถ้าไม่บอกว่าสามสิบกว่าแล้วฉันไม่เชื่อเด็ดขาดเลยนะยะ” สกลธียกมือขึ้นทาบที่อกด้านซ้าย ทำหน้าตาเพ้อฝันเกินจริง จนเพื่อนอดหัวเราะตามไปด้วยไม่ได้รวิชามองแล้วก็เห็นด้วยกับเพื่อน วันนี้คู่หมั้นของเธอแต่งตัวได้กลมกลืนกับนักศึกษามากราวกับวัยเดียวกัน ร่างสูงสมาร์ตของเขาอยู่ในชุดกางเกงยีนกับเสื้อยืดคอวีแขนสั้นสีกาแฟขนาดพอดีตัว และเพราะบุคลิกที่ดูมาดมั่นแบบนักธุรกิจของเขาเปล่งรัศมีความเป็นผู้นำออกมาแม้จะอยู่ในชุดเสื้อผ้าที่แสนธรรมดา จึงส่งผลให้เขาดูโดดเด่นกว่าคนอื่น“สวัสดีค่ะ” อารดากับสกลธียกมือไหว้พร้อมกับเอ่ยทักทายแทบจะพร้อมกัน แต่สุนิตานั้นกลับลอบสำรวจชายหนุ่มตรงหน้าอยู่เงียบ ๆ อย่างพึงพอใจนี่หรือคู่หมั้นของรวิชา ดูจากบุคลิกและเครื่องประดับที่สวมใส่ก็รู้แล้วว่าเป็นคนมีระดับแน่นอน อีกทั้งหน้าตาก็หล่อเหลาดูดี รูปร

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 13 ทิ้งระยะห่าง - 75%

    รวิชาหน้าง้ำเมื่อถูกพูดจี้ใจดำเข้าให้ เรื่องนี้นับว่าเป็นปัญหาที่เกาะกินใจเธอมานานแล้ว นั่นเพราะไม่รู้ว่าท่าทางที่เขาแสดงต่อเธอนั้นเป็นเพราะเอ็นดูในฐานะเด็กข้างบ้าน หรือว่าเขามีความรู้สึกพิเศษกับเธอในฐานะคู่หมั้นกันแน่“อาย แกอย่าไปฟังที่พี่วิชรพูดนะ แกก็รู้ว่าเขาไม่ชอบอาภีมก็เลยมาใส่ไฟ นิสัยแย่ที่สุดเลย เขาอยู่ของเขาดี ๆ ก็มายุยงให้คนแตกคอกัน”อารดาแตะแขนเพื่อนพร้อมบีบเบา ๆ อย่างให้กำลังใจ เธอเองก็ไม่รู้จะช่วยคู่นี้อย่างไรเพราะดูเหมือนว่าต่างฝ่ายต่างคิดกันไปคนละอย่าง แต่ที่เธอมั่นใจคือภีมพลนั้นเป็นห่วงรวิชาอย่างแท้จริง“แต่พี่วิชรก็พูดถูกนะอุ้ย ฉันยังเคยเห็นอาภีมกอดกับผู้หญิงคนอื่นมาต่อหน้าต่อตาเลย ทีกับฉันเขายังไม่เคยเห็นทำอย่างนั้นบ้างเลย” รวิชาทำปากยื่นออกมาเล็กน้อย เรื่องคราวก่อนนั้นเธอนำมาเล่าให้เพื่อนสองคนนี้ฟังจนหมดสิ้น“โอ๊ย! หล่อนจะคิดมากทำไม ผู้ชายมันก็ต้องมีบ้างแหละที่จะซิกแซกซอกซอนเลี้ยวไปทางนั้นเลี้ยวไปทางนี้ แต่สุดท้ายจุดหมายปลายทางอยู่ตรงไหนเขารู้ดีหรอกย่ะ หล่อนไม่ต้องไปคิดแทนเขาหรอก หน้าที่ของหล่อนก็แค่ฉีกยิ้

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 13 ทิ้งระยะห่าง - 50%

    “ได้ข่าวว่าเรียนเก่งด้วยนี่ใช่ไหม...ทำเกรดให้ดีนะ ถ้าผลงานเข้าตาเกรดเฉลี่ยเป็นที่น่าพอใจ ผมมีตำแหน่งรองรับไว้ให้ไม่ต้องกลัวว่าจะตกงาน”ภีมพลพูดอย่างใจป้ำ เขาชอบคนเก่ง ซื่อสัตย์ และขยัน เพราะหากได้คนแบบนี้มาร่วมงานจะยิ่งช่วยส่งเสริมให้บริษัทก้าวหน้ามั่นคงยิ่งขึ้น“ขอบคุณค่ะอาภีม ใจดีจัง...มิน่าล่ะ ยายอายถึงได้ร้าก...รักขนาดนี้”อารดาเผลอพูดออกไปด้วยความดีใจ แต่คนฟังอย่างภีมพลนั้นหัวใจพองฟูคับอกขึ้นมา“หมดธุระแล้วล่ะ อ้อ...อย่าลืมเอาเลขที่บัญชีให้เป็นต่อด้วยนะ นายอย่าลืมพาน้องอุ้ยไปซื้อโทรศัพท์ด้วยล่ะ” ประโยคหลังเขาหันไปพูดกับเป็นต่อ อีกฝ่ายผงกศีรษะรับคำสั่งก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับอารดา“ขอบคุณมากเลยนะคะอาภีม อุ้ยลานะคะ” หญิงสาวกระพุ่มมือไหว้อย่างนอบน้อมแล้วเดินตามเป็นต่อออกไปจากห้องทำงาน ทิ้งให้เจ้าของห้องได้แต่นั่งมองรูปของคู่หมั้นสาวจากโทรศัพท์อยู่ที่เดิม“ทำอะไรอยู่นะป่านนี้ หายโกรธหายกลัวหรือยังก็ไม่รู้”ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ระหว่างที่เลื่อนดูภาพอื่น ๆ ก่อนตัดใจปิดโ

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 13 ทิ้งระยะห่าง - 25%

    ภีมพลนั่งอ่านรายงานที่ได้รับมาจากเจ้าหน้าที่ของทางเยอรมัน ก่อนหน้านี้มีผู้มาเช่าเครื่องบินของบริษัทลำหนึ่งเพื่อไปลงที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมันนีโดยทำทีว่าเป็นข้าวใหม่ปลามันที่ต้องการไปฮันนีมูนที่นั่น แต่แล้วกลับลอบบรรทุกขนยาเสพติดจำนวนมากทั้งโคเคน ยาไอซ์ ยาอีโดยมีเจ้าหน้าที่สนามบินบางคนรู้เห็นเป็นใจ และที่สำคัญคือพนักงานบางคนของเขาก็มีส่วนร่วมด้วย จึงทำให้รอดจากการตรวจสอบไปได้เขาจะไม่เดือดร้อนเลยถ้าพนักงานของเขาจะไม่ทำเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว จากการสอบสวนลึกลงไปทำให้ได้รู้ว่าคนกลุ่มนี้ลักลอบขนของผิดกฎหมายมาหลายต่อหลายครั้งโดยใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำของบริษัทเขาเอง ทางการของเยอรมันนีจึงพุ่งเป้ามาที่เขาซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท และผู้บริหารว่าอาจจะมีเอี่ยวกับขบวนการนี้ด้วย กว่าเขาจะหาหลักฐานและเดินเรื่องเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ก็ทำให้เสียเวลาไปถึงสองอาทิตย์กลับมาถึงเมืองไทย นึกว่าจะได้อยู่กับสาวน้อยรวิชาให้หายคิดถึง แต่ดันมาเกิดเรื่องยุ่งขึ้นเสียได้เพราะความหื่นบังตาแท้ ๆ เขาอยากตามไปหาเธอที่บ้านแต่ก็เกรงว่าสาวเจ้าจะกลัวลนลานพานให้เสียความรู้สึ

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 12 สาวน้อยช่างยั่ว - 100%

    “เขาบอกไว้ก่อนแล้วล่ะ แต่ไม่คิดว่าจะออกไปเลย” พูดจบชายหนุ่มก็เดินเข้าห้อง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร. หารวิชา แต่รอสายอยู่นานก็ยังไม่มีทีท่าว่าเจ้าตัวจะรับสายจนเขาต้องถอดใจภีมพลทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้บุนวมตัวใหญ่ สีหน้าครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร. ออกอีกครั้ง แต่ผลก็ยังเป็นเหมือนเดิม เขาจึงเปลี่ยนใจพิมพ์ข้อความส่งหาเธอแทน‘โกรธอาหรือครับ อาขอโทษ’ภีมพลนั่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์อยู่นาน แต่ไม่มีทีท่าว่าหญิงสาวจะอ่านข้อความและพิมพ์ตอบกลับมา เขาจึงวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่รวิชาคงโกรธเขาจริง ๆ หรือไม่ก็คงหวาดกลัวเป็นแน่ที่จู่ ๆ เขาไปหักหาญทำอะไรล่วงเกินไปอย่างนั้น เธอยังเด็กเหลือเกินสำหรับเขา จึงคิดว่าจะค่อย ๆ สอนไปทีละนิดทีละน้อย ให้เธอค่อย ๆ ซึมซับความสัมพันธ์ทางกายไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อที่ว่าเมื่อถึงเวลานั้นจริง เธอจะโตพอสำหรับการเริ่มต้นผูกพันลึกซึ้งกับเขาได้ตามประสาคนรักทั่วไปแต่เขาก็มาทำเสียเรื่องเข้าจนได้ เขาใจร้อนวู่วามเกินไปที่จู่ ๆ ก็ไปปล้ำจูบเธอ สมควรแล้วที่เด็กสา

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 12 สาวน้อยช่างยั่ว - 70%

    “เค้กร้านเดิมนั่นแหละค่ะ อาภีมจะกินเลยไหมคะน้องอายไปเอาจานกับช้อนมาให้” รวิชาเดินตามมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ภีมพลยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาก่อนเอ่ยตอบ“ยังดีกว่า อายังไม่ได้กินมื้อเที่ยงเลย น้องอายกินมาหรือยัง”“กินมากับตีตี้แล้วค่ะ”หญิงสาวเดินเข้ามาตั้งใจว่าจะลงนั่งบนโซฟาตัวเดียวกับเขา ทว่าเพราะไม่ทันระวังเท้าจึงสะดุดเข้ากับขาโต๊ะจนคะมำไปข้างหน้าทั้งตัว รวิชาร้องเสียงหลงด้วยความตกใจไม่ต่างจากภีมพลที่รีบถลาอ้าแขนเข้าไปรับร่างของเธอไว้ได้ทันท่วงที“โอ๊ย!”รวิชาร้องเบา ๆ เมื่อร่างของตนทิ้งตัวลงไปทาบทับกับร่างของชายหนุ่ม รู้สึกเจ็บจนน้ำตาเล็ดเพราะเหมือนศีรษะจะถูกอะไรแข็ง ๆ กระแทกใส่ หญิงสาวดิ้นขลุกขลักพยายามยันกายขึ้นและค่อย ๆ เอาศอกเท้าไว้กับโซฟาก่อนจะผงกศีรษะขึ้นมอง“อาภีม! น้องอายขอโทษค่ะ น้องอายไม่ได้ตั้งใจ อาภีมเจ็บไหมคะ”รวิชาเอามือแตะริมฝีปากเขาเบา ๆ เมื่อเห็นรอยเลือดซึมออกมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาคงโดนศีรษะของเธอกระแทกเป็นแน่ในขณะที่ภีมพลรู้สึกเหมือนเห็นดาวลอยวนเวียนอ

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 12 สาวน้อยช่างยั่ว - 35%

    เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นจากในกระเป๋า ส่งผลให้คนที่กำลังจะเอื้อมหยิบหนังสือนิยายบนชั้นวางต้องลดมือลงแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แว้บแรกที่เห็นรายชื่อของคนโทร. เข้า ใบหน้าเนียนใสก็คลี่ยิ้มกระจ่างเต็มวงหน้าทันที“อาภีมกลับมาแล้วหรือคะ”รวิชาทักทายคนปลายสายเสียงใส สองอาทิตย์ที่ไม่ได้เจอหน้าทำให้รู้สึกราวกับว่าชีวิตเหมือนขาดอะไรไป เพราะช่วงก่อนเปิดเทอมนั้นเวลาเขาจะไปไหนมักจะหนีบเธอไปด้วยเสมอ แม้กระทั่งตอนไปทำงานที่ออฟฟิศ เขาก็จะพาเธอไปนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ที่ห้องทำงานของเขาแทน หากว่าวันนั้นเธอไม่ได้เข้าโรงงานของครอบครัว“กลับมาแล้วครับ ลงเครื่องมาปุ๊บก็โทร. หาน้องอายเลย แล้วนี่ทำอะไรอยู่”ภีมพลหันมองลูกน้องที่เดินตามมาห่าง ๆ ซึ่งอีกฝ่ายกำลังชี้บอกเขาว่าคนขับรถมารออยู่ตรงไหน ชายหนุ่มจึงเดินตามไป“มาซื้อหนังสืออ่านเล่นค่ะ ตอนนี้อยู่ที่ห้างสยามพารากอนกับตีตี้ แล้วนี่อาภีมจะกลับบ้านเลยหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถามกลับไป เพราะหากภีมพลกลับบ้านเลยเธอจะได้รีบซื้อหนังสือแล้วรีบกลับไปหาเขา“อาคงเข้าออฟฟิศก่อนน่ะ ม

DMCA.com Protection Status