แชร์

บทที่ 1 ผีเสื้อหัดบิน - 75%

จนกระทั่งนัยน์ตากลมโตไปปะทะเข้ากับชายหนุ่มหน้าหล่อเหลาที่ยืนอยู่ในบูธดีเจ เขาคนนั้นส่งรอยยิ้มกระชากใจมาให้พร้อมกับทำท่าตะเบ๊ะเหมือนทหารทำความเคารพ ส่งผลให้สาวน้อยรีบหลบสายตาเป็นพัลวัน และอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มออกมา

“อ้าว ยายพิงค์หายไปไหน”

รวิชาเพิ่งรู้สึกตัวว่าเพื่อนไม่ได้อยู่ข้างตัว ตอนนี้รอบกายเธอมีแต่บรรดาผีเสื้อราตรีที่กำลังวาดลวดลายอยู่ตามโต๊ะ หญิงสาวสอดส่ายสายตามองหาพรรณรายพร้อมกับเดินไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ตัวว่าตนได้ย่างเท้าก้าวเข้ามาในโซนวีไอพีแล้ว

เพราะมัวแต่มองหาเพื่อน อีกทั้งรองเท้าที่ใส่ก็สูงแหลมเสียจนน่าหวาดเสียว จึงทำให้รวิชาสะดุดขาตัวเองจนร่างเซถลาไปข้างหน้า หญิงสาวหวีดร้องด้วยความตระหนกเมื่อคิดว่าคงต้องเจ็บตัวแน่แล้ว ไหนจะต้องอับอายขายหน้าคนอื่นอีกที่ทำตัวเซ่อซ่า แต่แล้วจู่ ๆ วงแขนแข็งแรงของใครบางคนก็คว้าร่างเธอให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาได้อย่างพอเหมาะพอเจาะก่อนจะล้มหัวเข่ากระแทกพื้น

ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมากจนรวิชาไม่ทันได้คิดอะไร เพราะยังรู้สึกตกใจไม่น้อยกับเหตุการณ์เมื่อครู่ จึงไม่ทันได้สังเกตว่าตอนนี้ใบหน้าของเธอแนบอยู่กับอกกว้างของคนที่กำลังยกแขนขึ้นโอบเอวเธอหลวม ๆ อย่างปกป้อง ถึงแม้จะดูว่าใกล้ชิดกันมากจนเกินไป ทว่าท่าทางของเขากลับไม่ได้ดูคุกคามหรือหาเรื่องฉวยโอกาสใด ๆ ทั้งสิ้น

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”

เสียงทุ้มน่าฟังที่พูดอยู่เหนือศีรษะของเธอนั้นฟังดูคุ้นหูอย่างประหลาด รวิชาเงยหน้าขึ้นมองคนที่ช่วยเหลือทันที แล้วก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อเห็นหน้าของเขาชัด ๆ

แน่ล่ะ ก็เธอแอบเห็นเขาอยู่บ่อย ๆ ที่ระเบียง...คุณผีดิบ!

พรรณรายนั่งชะเง้อคอมองหาเพื่อนสาวไปทั่วบริเวณ เธอจำได้ว่าตอนเดินเข้ามา รวิชาก็เดินตามมาติด ๆ ไม่ใช่หรือ แล้วตอนนี้แม่เพื่อนตัวดีกลับหลงไปอยู่ตรงไหนของฮอลล์แล้วก็ไม่รู้

“พี่ว่าเพื่อนของน้องพิงค์คงหาโต๊ะเราไม่เจอ”

ชายหนุ่มที่นั่งโอบเอวของเธอไว้กระซิบที่ข้างหู ก่อนหันไปสบตากับเพื่อนที่มาด้วยกัน เพราะเจ้าตัวเคยบอกเขาว่าถูกตาต้องใจรวิชา พอรู้ว่าหญิงสาวจะมา หมอนี่ก็เลยรีบรับนัดทันทีทั้งที่ก่อนหน้านี้ปฏิเสธเพราะมีนัดกับสาวสวย ดาวคณะนิเทศศาสตร์แล้ว

“เดี๋ยวพี่ไปตามน้องอายให้เอง น้องพิงค์ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” กลวิชรลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกไป แต่ติดที่พรรณรายเรียกเอาไว้ก่อน

“พี่วิชรรู้จักยายอายเพื่อนพิงค์ด้วยหรือคะ เคยเห็นหน้าหรือ”

“น้องพิงค์ไม่รู้อะไร พ่อพี่กับพ่อน้องอายเป็นหุ้นส่วนทำบริษัทด้วยกัน พี่เคยเจอน้องอายบ่อย ๆ ตอนไปหาพ่อที่บริษัทน่ะ”

กลวิชรเลือกที่จะโกหกบางส่วนเพื่อให้พรรณรายวางใจในความสัมพันธ์ระหว่างเขากับรวิชา ทั้งที่ความจริงแล้วเขากับรวิชาเคยเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง ตอนที่เขาไปหาบิดาที่บริษัท และเธอก็ไปหาบิดาของเธอด้วยเช่นกัน ความที่เธอหน้าตาน่ารัก รูปร่างสูงโปร่ง ผิวพรรณขาวนวลเนียนหมดจด ทำให้เขาเกิดสนใจขึ้นมา หลังจากนั้นจึงเริ่มต้นทำความรู้จักและอยากสานสัมพันธ์ด้วยจึงลองจีบดู แต่ทว่าเจ้าตัวกลับเมิน ทั้งยังทำหยิ่งใส่ราวกับไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา

ทั้งที่บิดาของเขาเป็นหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทของบิดาเธอ หญิงสาวยังไม่ยอมให้ความสนิทสนมด้วย ทั้งที่เขาเองก็จัดได้ว่าหน้าตาดี มีรถหรู มีเงินหนา สาว ๆ ระดับดาวคณะต่าง ๆ เขาก็เคยควงมาแล้ว แล้วเธอเป็นใครกันถึงได้มาทำท่าทางราวกับรังเกียจเขาอย่างนั้น ทั้งที่เธอเองก็เป็นแค่เด็กมัธยมปลาย

แน่นอนว่าคนอย่างกลวิชร ไม่มีทางยอมให้ผู้หญิงคนไหนมาเชิดใส่ได้เด็ดขาด เขาจะต้องหาทางจีบเธอให้มาเป็นผู้หญิงในสต๊อกให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม และเขาก็เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว

คืนนี้แหละ...ได้รู้กัน!

“เอ่อ...ขะ ขอบคุณค่ะ” เมื่อตั้งหลักได้ รวิชาจึงเอ่ยขอบคุณเบา ๆ ส่วนชายหนุ่มนั้น เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยืนได้มั่นคงแล้วจึงปล่อยเธอให้เป็นอิสระ

“ยินดีครับ ว่าแต่คุณไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหม”

ภีมพลถามพลางจ้องใบหน้าเรียวเล็กนั้นอย่างค้นหา เขารู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาผู้หญิงตรงหน้านี้เหลือเกิน ราวกับเคยเจอกันที่ไหนมาก่อน โดยไม่รอฟังคำตอบก็ถามต่อในสิ่งที่สงสัยในทันที

“เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าครับ”

ถามแล้วก็ขมวดคิ้วเอียงคอเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้หน้าตาจัดว่าน่ารักจิ้มลิ้มใช้ได้เลยทีเดียว ถ้าหากเธอเคยเป็นคู่นอนของเขามาก่อน เขาก็ต้องจำได้แน่นอนโดยเฉพาะสาวสวย แต่นี่ไม่ใช่ เขามั่นใจว่าไม่เคยรู้จักหรือพูดคุยกับผู้หญิงคนนี้ แต่น่าแปลกตรงที่เขากลับรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอเธอมาแล้ว เพียงแต่นึกไม่ออกว่าที่ไหน

“มะ...ไม่เคยค่ะ คงจำผิดคนแล้วมั้งคะ”

รวิชาโบกมือไปมา ปฏิเสธปากคอสั่นเพราะกลัวเขาจะจำได้ว่าเธอคือใคร เพราะเห็นสายตาเคลือบแคลงสงสัยของเขา เธอเอ่ยขอบคุณอีกครั้ง ก่อนจะรีบผละออกมา

“น้องอาย”

เสียงเรียกจากด้านหลังดังแข่งกับเสียงเพลง พร้อมกับมือใครบางคนที่คว้าหมับเข้าที่ต้นแขนทำให้รวิชาต้องหันกลับไปมอง ครั้นพอเห็นว่าเป็นใคร หญิงสาวถึงกับปัดมือเขาออกอย่างแรงพร้อมกับถอยห่างจากร่างสูงนั้นประมาณสองก้าว และส่งสายตาแสดงความไม่พอใจกลับไปให้

“พี่วิชร!”

รวิชาลอบระบายลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่คิดว่าตัวเองจะโชคร้ายที่เจอกลวิชรที่นี่

“น้องพิงค์ให้พี่ออกมาตามหาน้องอาย พวกเรานั่งกันอยู่ตรงโน้น”

กลวิชรชี้ไปทางโต๊ะที่พวกตนนั่งอยู่ รวิชามองตาม ก่อนจะหันกลับมามองหน้าเขาอีกครั้งอย่างสงสัย

“พี่วิชรรู้จักกับเพื่อนอายด้วยหรือคะ”

รวิชานึกระแวงขึ้นมาเพราะรู้สึกไม่ชอบหน้ากลวิชรเป็นทุนเดิม อีกทั้งเรื่องที่ได้ยินจากเขาก็ทำให้เธอหมดอารมณ์สนุกในคืนนี้แทบจะทันทีอีกเช่นกัน

“รู้จักสิครับ ก็เพื่อนพี่กำลังคบกับน้องพิงค์ ไปกันเถอะ เดี๋ยวพวกนั้นจะรอ”

กลวิชรยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นรวิชาชักสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะออกเดินนำเธอไปยังโต๊ะที่อยู่ในโซนวีไอพี

ทั้งคู่ไม่มีโอกาสรู้เลยว่าเหตุการณ์เมื่อครู่ได้ตกอยู่ในสายตาของภีมพลตั้งแต่ต้นจนจบ คราแรกชายหนุ่มคิดจะเดินกลับเข้าไปในอาคารที่เป็นส่วนของออฟฟิศอยู่แล้ว หลังจากที่หญิงสาวคนเมื่อครู่ขอตัวผละออกไป ทว่าพอเห็น ชายหนุ่มคนนั้นเข้ามาคว้าแขนของเธอเอาไว้ จึงเป็นเหตุให้เขาต้องหยุดเดินแล้วหลบเข้ามุมทันที

ปกติเขาจะไม่สนใจเรื่องส่วนตัวของลูกค้า แต่คราวนี้กลับรู้สึกว่าไม่สามารถละสายตาไปจากผู้หญิงคนนั้นได้ ยิ่งได้เห็นท่าทางราวกับไม่อยากเข้าใกล้ผู้ชายที่เดินเข้ามาหา ก็ยิ่งทำให้เขานึกแปลกใจ

แต่มาคิดอีกที หรือสองคนนี้อาจกำลังงอนกันอยู่ก็ได้กระมัง

คิดได้ดังนั้น ภีมพลจึงเดินไปยังทิศทางที่จะเข้าสู่ตัวอาคารตามความตั้งใจเดิม คืนนี้มีอะไรอีกหลายอย่างที่เขาต้องทำ จึงไม่อยากจะปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status