Share

บทที่ 200

Penulis: เจียงหนานเยียน
ซือเจ๋อเยว่กล่าวเสียงดัง “ช้าก่อน”

อวิ๋นเยว่ปิงมองนางด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก “เจ้ายังมีอะไรที่ต้องพูดอีก?”

มุมปากของซือเจ๋อเยว่ยกขึ้นเล็กน้อย “ข้าไม่ได้มีอะไรที่ต้องพูด ข้าแค่อยากจะบอกท่านว่า ค่ายกลที่พังไปแล้วอันนั้นข้าซ่อมได้”

อวิ๋นเยว่ปิงถามอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “เจ้าซ่อมได้อย่างนั้นหรือ?”

ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ถูกต้อง อันที่จริงข้าไม่ได้ตั้งใจอยากจะทำลายค่ายกลนั่นหรอก”

“เพียงแต่ตอนนั้นที่งูยักษ์นั่นเลื้อยออกมา ข้าตกใจจนทนไม่ไหว ใช้คาถาเต๋าผิดไปเพราะความรีบร้อน จึงทำลายค่ายกลนั่นโดยไม่ทันระวัง”

ในสายตาของอวิ๋นเยว่ปิงที่มองนางมีความประเมินเพิ่มขึ้นไม่น้อย

นางพยายามกล่าวต่อ “ท่านก็รู้นี่ ถึงแม้ว่าข้าจะแซ่ซือ แต่ว่าท่านแม่ของข้าแซ่อวิ๋น จวนกั๋วกงเป็นที่พึ่งพาที่ใหญ่ที่สุดของข้า”

“ในใจของข้า ย่อมอยากจะให้จวนกั๋วกงดี มีเพียงแค่จวนกั๋วกงดีเท่านั้น ข้าถึงจะดีไปด้วย”

เมื่อเยียนเซียวหรานได้ยินประโยคนี้ก็เหลือบตามองนางแวบหนึ่ง

นี่นางกำลังนำคำพูดที่หนิงกั๋วกงพูดกับนางก่อนหน้านี้ มาพูดใหม่อีกรอบ

เพียงแต่ตอนนี้นางเต็มไปด้วยความจริงจัง ดวงตาที่สวยงามคู่นั้นมองดูแล้วเต็มไปด้วยความจร
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 201

    แม้เขาจะไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ก็เคยได้ยินราชครูสวรรค์พูดถึงวิธีการใช้ของสิ่งนั้นดูท่านางคงทำลายค่ายกลโดยไม่ตั้งใจจริงๆ เพราะหากนางเจตนาของนางเต็มไปด้วยความเป็นศัตรูแล้วละก็ ราชครูสวรรค์คงกำจัดนางไปแล้วแน่ภายใต้ผืนฟ้าแห่งนี้ ไม่มีผู้ใดรอดจากเงื้อมมือของราชครูสวรรค์ไปได้เขาจงใจกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ในเมื่อเจ้ารู้ความผิดแล้ว ก็จงคิดหาวิธีชดเชยเสียเถิด”“ที่บอกว่าสามารถซ่อมแซมค่ายกลนั่นได้ เช่นนั้นก็ลองพูดให้ข้าฟังดูทีว่าจะซ่อมอย่างไร?”ซือเจ๋อเยว่ตอบว่า “ค่ายกลนี้เป็นเวทวิชาโบราณที่เก่าแก่มากชนิดหนึ่ง การตั้งค่ายกลให้สำเร็จมีเงื่อนไขที่เข้มงวดมาก”“บัดนี้ ถูกข้าทำลายลงโดยไม่ได้ตั้งใจ คิดจะซ่อมแซมมันให้ดีดังเดิมนั้น มิใช่เรื่องง่ายเลย”“และเพราะหลายปีมานี้ จวนหนิงกั๋วกงเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์โดยตรงที่สุด ดังนั้น จึงต้องให้ผู้ที่มีสายเลือดในสายนี้ของจวนกั๋วกง มาเป็นผู้สังเวยและเคลื่อนย้าย”เมื่ออวิ๋นเยว่ปิงได้ยินนางพูดถึงที่มาของค่ายกลนี้ออกมา และวิธีการซ่อมแซมที่นางกล่าวก็คล้ายกับคำอธิบายที่ราชครูสวรรค์เหลือทิ้งไว้ก่อนหน้าอย่างมากแววตาของเขาก็ลุ่มลึกขึ้นเล็กน้อย “เจ้ารู้เรื

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 202

    ซือเจ๋อเยว่ถอนใจ “ท่านดูสภาพที่ไม่มีแรงแม้แต่จะฆ่าไก่ของข้าสิ ข้าจะไปฆ่าเขาได้อย่างไร?”ดวงตาของอวิ๋นเยว่ปิงหรี่ลงเบาๆ “เรื่องนี้ง่ายมาก องค์หญิงสามารถดูอยู่ด้านข้างได้”“รอตอนที่มันใกล้ตาย องค์หญิงแค่มาแทงมันเพิ่มอีกดาบก็พอแล้ว”ทันทีที่เขากล่าวจบก็โบกมือครั้งหนึ่ง จากนั้นองครักษ์พวกนั้นก็พุ่งเข้ามาดั่งฝูงหมาป่าทันทีซือเจ๋อเยว่รู้ว่าการที่อวิ๋นเยว่ปิงสามารถกลายเป็นซื่อจื่อของจวนกั๋วกงได้ คนจะต้องไม่โง่แน่ นางก็ไม่สามารถหลอกเขาได้นานทว่าตอนนี้ เพียงแค่พบหน้า นางก็พบว่าเขาระมัดระวังตัวและอำมหิตกว่าที่นางคาดการณ์นักนางถอนใจทีหนึ่งแล้วกล่าวว่า “ธรรมเนียมของจวนหนิงกั๋วกงไม่ค่อยดีจริงๆ อะไรนิดอะไรหน่อยก็จะฆ่าคนแล้ว ไม่กลัวผลกรรมจะตามสนองหรืออย่างไร”เยียนเซียวหรานกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “ถ้าพวกเขากลัวกรรมตามสนอง ก็ไม่มีทางสร้างค่ายกลที่ชั่วช้าไร้มโนธรรมเช่นนี้ออกมาแล้ว”ขณะที่ปากของเขาเอ่ยวาจา กระบี่ในมือก็ถูกยกขึ้นมาแล้ว บีบบังคับให้องครักษ์ที่อยู่ใกล้พวกเขาถอยออกไป จากนั้นจับมือซือเจ๋อเยว่ได้ก็วิ่งออกไปทันทีซือเจ๋อเยว่รู้สึกว่าน่าเสียดายอยู่บ้าง อีกเพียงนิดเดียวก็จะหลอก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 203

    ช่วงนี้ดวงเขาไม่ค่อยดีจริงๆ ไม่ว่าไปที่ใด เรื่องโชคร้ายที่สุดก็จะเกิดขึ้นกับเขาแค่เพราะวรยุทธ์ของเขาดี จึงรอดมาได้อย่างหวุดหวิดทุกครั้ง รวมกับยามปกติเขาก็ไม่พูดถึงเรื่องเช่นนี้ดังนั้นแม้ซือเจ๋อเยว่จะรู้ว่าดวงชะตาของเขาถูกขโมย แต่ก็มิได้รู้สึกอย่างชัดเจนนักนางจึงรีบกล่าวอย่างร้อนใจว่า “เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดแล้ว พวกเรารีบไปกันเถอะ!”หากมีเพียงเยียนเซียวหรานคนเดียว เมื่อเผชิญกับกำแพงการขวางกั้นของที่กำลังถล่มเช่นนี้ เขาย่อมสามารถหนีออกไปได้อย่างแน่นอนแต่เพราะบนร่างของเขาแบกซือเจ๋อเยว่ไว้ แม้ตัวนางจะเบา แต่ถึงอย่างไรก็มีน้ำหนัก จึงยากที่จะเลี่ยงไม่ให้กระทบต่อความเร็วของเขาขณะที่เขากำลังร้อนใจ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าตลอดร่างตั้งแต่บนจรดร่างเบาขึ้นมา ความเร็วเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวของยามปกติในทันที!ในช่วงเวลาอันคับขันที่กำแพงกำลังถล่มลงมา คนทั้งสองหนีผ่านทางเดินแคบๆ นั่นออกไปได้ส่วนองครักษ์ที่ไล่ตามมาทางด้านหลังของพวกเขา กลับมิได้โชคดีเช่นนี้ ส่วนมากล้วนถูกทับอยู่ใต้กำแพงแล้วซือเจ๋อเยว่กล่าวอยู่บนหลังเยียนเซียวหรานว่า “ต้องขอโทษด้วย ก่อนหน้านี้ข้าลืมไปว่าข้ายังใช้ยันต์ตัวเบากับยันต์เร่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 204

    เห็นเพียงซือเจ๋อเยว่หยิบแหวนออกมาวงหนึ่ง แล้วส่องไปทางทิศของเครื่องประดับเหล่านั้นคราหนึ่ง จากนั้นพื้นที่แถบนั้นก็ว่างเปล่าแล้วก่อนหน้านี้ เยียนเซียวหรานก็พบว่าของที่นางพกไว้บนร่างมีน้อยมาก แต่กลับหยิบสิ่งต่างๆ ที่ทั้งมีและไม่มีออกมาบ่อยครั้ง บัดนี้จึงได้รู้ว่าภายในมีความมหัศจรรย์ซ่อนอยู่ก่อนหน้านี้ เขาเคยได้ยินว่าลัทธิเต๋ามีแหวนมิติที่ใช้วิชาเต๋าสร้างขึ้นมา ดูเหมือนชิ้นเล็กๆ แต่ในความเป็นจริงกลับสามารถบรรจุของได้มากมายคิดว่าเจ้าสิ่งที่อยู่ในมือนางก็คือของประเภทนั้นแล้วดังนั้น เขาจึงเฝ้าดูนางกวาดทุกสิ่งในคลังเก็บของไปจนหมด ด้วยความเร็วอันยิ่งยวดอย่างเหม่อลอย!ทุกครั้งที่เยียนเซียวหรานคิดว่า เขานับได้ว่าเข้าใจในตัวนางแล้ว นางก็มักจะแสดงสิ่งใหม่ออกมาอีกหลังจากที่ซือเจ๋อเยว่เก็บของเสร็จ เพลิงจากอัสนีบนหลังคาจึงได้ไหม้ลงมาถึงด้านล่างภายนอก เสียงร้องตะโกนให้ดับไฟดังสนั่นไปทั่วแล้วซือเจ๋อเยว่กล่าวกับเยียนเซียวหรานว่า “รีบออกทางหน้าต่างเร็ว”เยียนเซียวหราน “…”หนนี้นางเป็นฝ่ายกระโดดขึ้นหลังของเขาโดยตรง “อย่าบอกข้าว่าเจ้าปีนหน้าต่างอะไรพวกนั้นไม่เป็นนะ ครั้งก่อนที่เจ้าเข้าห้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 205

    เพราะไม่มีผู้ใดขัดขวาง ครั้งนี้พวกเขาจึงหนีออกไปได้ราบรื่นกว่าเดิมมากถึงจะเจอองครักษ์สองสามคนบ้างบางครั้ง เยียนเซียวหรานล้วนสามารถรับมือได้ในไม่ช้า พวกเขาก็จะบุกไปถึงเรือนส่วนหน้าแล้ว เมื่อผ่านเรือนส่วนหน้า ก็จะสามารถออกจากจวนหนิงกั๋วกงได้แล้วเพียงแต่พวกเขายังไปไม่ถึงประตูของเรือนส่วนหน้า ก็เห็นชายชราที่ผมขาวโพลนผู้หนึ่ง นำองครักษ์กลุ่มหนึ่งขวางอยู่ตรงนั้นทั่วร่างของชายชราผู้นั้นรายล้อมไปด้วยไอพลังสีม่วง ดูไปแล้วน่าเกรงขามอย่างมาก ทว่ารายละเอียดเล็กๆ บริเวณมุมคิ้วและหางตา กลับแสดงออกถึงความอำมหิตไอพลังสีม่วงที่เข้มข้นเช่นนี้ เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายคือผู้ที่ได้รับประโยชน์จากค่ายกลชั่วร้ายนั่น และเป็นผู้ที่กุมอำนาจอย่างแท้จริงในเวลานี้ของจวนหนิงกั๋วกงทันทีที่ซือเจ๋อเยว่เห็นลักษณะใบหน้าของชายชรา ก็รู้ได้ทันทีว่าเขาก็คืออดีตหนิงกั๋วกง ท่านตาของนางนั่นเองก่อนหน้านี้นางก็เดาได้แล้วว่าการจัดตั้งค่ายกลนั่นเกี่ยวข้องกับอดีตกั๋วกงเพียงแต่หลายปีมานี้ อดีตหนิงกั๋วกงมีชื่อเสียงดีงามอย่างยิ่งในเมืองหลวง เลื่องชื่อในฐานะผู้ที่มีจิตใจเมตตา และมิได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ อีก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 206

    ซือเจ๋อเยว่ยิ้มบางๆ “ช่วยไม่ได้เจ้าค่ะ ข้าไม่มีบิดามารดาหรือญาติพี่น้องให้พึ่งพา ทุกเรื่องจึงได้แต่อาศัยตนเอง”“หากไม่ตั้งใจเรียนวิชาเต๋าดีๆ เพื่อใช้ตั้งแผงหาเงิน เกรงว่าคงหิวตายไปนานแล้ว”อดีตหนิงกั๋วกงคล้ายฟังไม่ออกถึงการเยาะหยันที่อยู่ในคำพูดของนาง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า “แต่ไม่ว่าองค์หญิงจะมีความสามารถมากเพียงใด วันนี้ก็อย่าได้คิดจะไปจากที่นี่แล้ว”“เพราะตั้งแต่จวนหนิงกั๋วกงสร้างเสร็จ ก็ไม่เคยได้รับความเสียเปรียบเช่นนี้มาก่อน”ซือเจ๋อเยว่กล่าวเรียบๆ ว่า “ไม่เป็นไร นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น วันหลังเมื่อท่านเสียเปรียบมากหน่อย เสียเปรียบจนเคยชินแล้วก็จะดีเอง”อดีตหนิงกั๋งกงพูดอย่างเย็นชาว่า “ช่างปากคอเราะรายนัก ข้าไม่ถกเถียงปะทะฝีปากกับเจ้าแล้ว”เมื่อเขากล่าวจบ ก็หยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ ในขณะที่กำลังจะลงมือ ที่ด้านหลังของเขาก็มีเสียงของเหวยอิ้งหวนดังมา“นำตัวเยียนเซียวหรานและองค์หญิงเจ๋อเยว่กลับศาลต้าหลี่เพื่อสอบสวน ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือด้วย!”เมื่ออดีตหนิงกั๋วกงได้ยินคำพูดนี้ ก็หันไปมองซือเจ๋อเยว่ทันทีสายตาในครั้งนี้ของเขาดุจคมดาบที่ส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 207

    ภายในจวนหนิงกั๋วกง มีความลับที่ไม่อาจให้ผู้คนรู้มากมาย เขาไม่ต้องการให้คนของศาลต้าหลี่เข้ามาตรวจสอบในจวนเขาจึงกล่าวว่า “คนในจวนทำตะเกียงล้มโดยไม่ทันระวัง ไหม้เรือนไปสองสามหลัง มิได้สลักสำคัญอะไร”“เรื่องเล็กน้อยพวกนี้ ก็ไม่ขอรบกวนใต้เท้าเหวยแล้ว”เมื่อเหวยอิ้งหวนได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ก็ยิ่งมั่นใจว่าเรื่องนี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนเพียงแต่การที่ศาลต้าหลี่จะสืบคดีต้องมีหลักฐาน เมื่ออดีตหนิงกั๋วกงรับเรื่องนี้ไว้ด้วยตนเอง เขาก็ไม่อาจแทรกแซงได้เขาจึงกล่าวว่า “ท่านอดีตกั๋วกงเกรงใจไปแล้วขอรับ หากมีเรื่องจำเป็น สามารถมาหาข้าที่ศาลต้าหลี่ได้ทุกเมื่อ”คนทั้งสองสนทนากันอย่างเกรงใจอีกสองสามประโยค จากนั้นเหวยอิ้งหวนก็พาซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานออกจากจวนหนิงกั๋วกงไปหลังซือเจ๋อเยว่ออกมา ก็ลูบหน้าอกว่า “ยังดีที่วันนี้ใต้เท้าเหวยมาได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นเกรงว่าข้ากับน้องสามคงต้องจบชีวิตอยู่ในจวนหนิงกั๋วกงแล้ว”เหวยอิ้งหวนตอบอย่างเย็นชาว่า “เมื่อคืนที่องค์หญิงทรงส่งจดหมายมา ให้ข้ามาหาท่านที่จวนหนิงกั๋วกงในช่วงเค่อแรกขอยามโหย่ว”“ตัวข้ายังมาไม่ถึงจวนหนิงกั๋วกง ก็เห็นภายในจวนเกินเพลิงไหม้แ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 208

    เหวยอิ้งหวนเหลือบมองนางทีหนึ่ง รู้ว่านางกล่าวไม่ผิด ละครฉากนี้จำเป็นต้องเล่นให้จบจริงๆมิเช่นนั้น เรื่องอื่นไม่พูดถึง ทางด้านหนิงกั๋วกงจะต้องถือโอกาสสร้างความลำบากให้เขาแน่นอกจากนี้ เขาก็อยากรู้มากว่าที่แท้วันนี้ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานไปทำสิ่งใดที่จวนหนิงกั๋วกงกันแน่จนขนาดที่ จู่ๆ ก็เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ขึ้นในจวนหนิงกั๋วกง แต่อดีตกั๋วกงกลับไม่เอาความเรื่องนี้ไม่ว่าจุดใดก็แสดงความผิดปกติออกมาทั้งนั้นเมื่อมาถึงศาลต้าหลี่ ซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานก็ตรงไปที่ห้องของเหวยอิ้งหวนหลังพวกเขาเข้าไป ซือเจ๋อเยว่ก็ถามเหวยอิ้งหวนว่า “ใต้เท้าเหวยเคยได้ยินคดีเมื่อยี่สิบปีก่อน ที่มีคนหายไปจำนวนมากในเมืองหลวงหรือไม่?”เหวยอิ้งหวนไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงกล่าวเช่นนี้ แต่กลับรู้ว่าแม้นางจะชอบพูดจาและมีพฤติกรรมแปลกๆ ดูลึกลับอยู่บ้าง ทว่าเมื่อเอ่ยปากถามย่อมต้องมีเรื่องแน่เขามองนางทีหนึ่งแล้วกล่าวว่า “ยี่สิบปีก่อน ตอนที่อดีตฮ่องเต้เพิ่งก่อตั้งแคว้นต้าฉู่ได้ไม่นานนัก ทั้งในและนอกเมืองหลวงยังคงมีความวุ่นวายอยู่บ้าง”“ในเวลานั้น แต่ละหน่วยงานยังไม่นับว่าสมบูรณ์ เอกสารที่เหลืออยู่จึงมีไม่มาก”“ร

Bab terbaru

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 381  

    เขาจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา "เป็นข้าที่ไร้เดียงสาเกินไป คิดว่าเรื่องราวระหว่างเราจะต่างออกไป" "แต่ข้ากลับลืมไปว่า เจ้าเป็นคนของสำนักเต๋า เราสองคนก็อยู่กันคนละฝ่ายตั้งแต่แรกเริ่ม" "ซือเจ๋อเยว่ ตั้งแต่นี้ไปข้าขอตัดขาดจากเจ้า หากพบกันอีก ข้าจะฆ่าเจ้าแน่นอน!" เมื่อเอ่ยจบเขาก็หยิบของสิ่งหนึ่งจากร่างกายแล้วขว้างออกไป สิ่งนั้นทำหน้าที่รับแรงโจมตีจากค่ายกลแทนเขา ก่อนที่ตัวเขาจะพุ่งออกจากค่ายกลราวกับดาวตกก็ไม่ปาน ซือเจ๋อเยว่รีบไล่ตามออกไป แต่ภายนอกกลับไร้เงาของไป๋จื้อเซียน นางรู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่ง วันนี้เขาเข้าใจนางผิด แล้วจากไปเช่นนี้ ภายภาคหน้าก็ไม่อาจล่วงรู้เลยว่าจะเกิดอันใดขึ้นอีก ยังดีที่เขาเคยสาบานต่อสวรรค์ ว่าจะไม่สังหารผู้บริสุทธิ์ อย่างน้อยสถานการณ์ก็ยังไม่เลวร้ายถึงระดับนั้น แต่เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาขาดสะบั้นในบัดนี้ ด้วยนิสัยของเขา ย่อมต้องหาหนทางสังหารนางให้ได้อย่างแน่นอน! นางคิดว่าตนเองยังคงประเมินไป๋จื้อเซียนต่ำเกินไป คิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถหลบหนีออกจากค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาได้ เยียนเซียวหรานถามขึ้น "เมื่อครู่นี้เกิดอันใดขึ้น?" ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ "ตุ๊

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 380

    ซือเจ๋อเยว่ประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้นับหลังจากตั้งแต่ที่อาจารย์สามปั้นเสร็จแล้ววางไว้ที่นี่ ก็ไม่เคยมีความรู้สึกอะไรนางคิดมาตลอดว่าอาจารย์สามทำเช่นนี้เพราะจะหยอกนางเล่น ไม่คิดเลยว่าจนกระทั่งวันนี้จะมีความเคลื่อนไหวแล้วที่ประตูมีเสียงของไป๋จื้อเซียนดังลอยเข้ามา “เจ้าล่อลวงข้ามาที่นี่ ก็เพราะอยากจะฆ่าข้าใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับไปมองก็เห็นไป๋จื้อเซียนยืนอยู่ที่หน้าประตู ตุ๊กตาดินเผาเหล่านั้นรวมตัวกันกลายเป็นค่ายกล จะจัดการกับเขาหลังจากที่วันนี้เขาเดินเข้ามาในสำนักเต๋า ความสามารถทุกด้านก็ถูกลดทอนลง ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้ยังเป็นตุ๊กตาที่อาจารย์สามปั้นขึ้นเองกับมืออีกด้วย ด้านในมีค่ายกลที่ร้ายแรงเป็นอย่างยิ่งซ่อนอยู่ไป๋จื้อเซียนในเวลานี้ถูกค่ายกลนี้ขังเอาไว้ ไม่สามารถดิ้นให้หลุดได้เขาเกิดความสงสัยมาก ประกอบกับก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่อยากจะจัดการเขามาตลอด เขาจึงคิดว่านางเป็นผู้ควบคุมให้ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้มาจัดการเขาก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่เคยคิดอยากจะจัดการเขาในสำนักเต๋าจริง ๆ แต่เป็นครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนางจริง ๆเป็นเพราะร่างกายที่พิเศษเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 379

    ความทรุดโทรมนี้เริ่มปรากฏตั้งแต่ประตูเขาที่เก่าและทรุดโทรม ยาวไปตลอดทางจนถึงกระทั่งถึงโถงใหญ่ของสำนักเต๋าด้านในก็มีเพียงรูปหล่องทองคำปรมาจารย์เต๋าที่ยังมีสภาพดีอยู่เพียงเท่านั้น อาคารอื่น ๆ ของวัดก็สามารถใช้คำว่าชำรุดทรุดโทรมมาบรรยายได้เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมา นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ที่เฝ้าภูเขาก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว ไม่ไปไหนแล้วใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ได้ยินก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ข้าอาศัยคืนเดียวก็จะไปแล้ว”ใบหน้าของนักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ก็มีสีหน้าผิดหวังปรากฏขึ้นมาทันที นางหยิบทองหนึ่งกำมือออกมาจากมิติคาถาเต๋าแล้วมอบให้เขา “ค่าอาหารของปีนี้”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ใช้สองมือรับทองคำ ใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาทันที “อย่างไรเสียศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็เก่งกาจ!”สำนักเต๋าผ่านไปด้วยความยากลำบากมาก ทองคำเหล่านี้เมื่อแลกเป็นเงินก็ได้หลายพันตำลึง เพียงพอที่จะให้พวกเขามีกินได้ถึงสิ้นปีซือเจ๋อเยว่ถามเขา “พวกอาจารย์ออกจากสำนักเต๋าตั้งแต่เมื่อใด?”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ “ทันทีที่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ออกไปจากสำนักเต๋า เจ้าสำนักพวกเขาก็ไปแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ขมวดคิ้ว “พวกเขาได้บอกหรือไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 378

    ซือเจ๋อเยว่เผชิญหน้ากับสายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของไป๋จื้อเซียน นางมีความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้วยท่าทางเช่นนี้ของเขา เกรงว่าคนที่ไม่รู้จะคิดว่าพวกเขากำลังสุมหัวกันกลั่นแกล้งเขาแต่เรื่องจริงคือเขาเกือบทำให้พวกเขาต้องติดกับดักจนตายในเวลานี้นางจำต้องกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋มาก”ไป๋จื้อเซียนมองนางด้วยสีหน้าน่าสงสารพร้อมกล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าดุข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางสูดหายใจในใจทีหนึ่ง เจ้าหมอนี่แสดงละครเก่งมาก!นางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ข้ามีนิสัยใจร้อน เวลามองอะไรก็มักจะมองแค่สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ไม่สู้คุณชายไป๋ที่มองการณ์ไกล”“คุณชายไป๋คาดการณ์เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในตอนหลังได้ตั้งแต่แรกแล้ว ข้าชื่นชมตบะอันล้ำลึกทำให้ข้านับถือจากใจจริง”“ครั้งหน้าหากยังมีเรื่องแบบเดียวกันอีก คุณชายไป๋ได้โปรดแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเสียหน่อย พวกเราจะได้ร่วมมือกันได้ดี”นางพูดจบก็ยิ้มให้เขาเล็กน้อย “คุณชายไป๋ช่วยพวกเราคำนวณดูหน่อยได้หรือไม่ พวกเรากลับเมืองหลวงครั้งนี้ จะล้มจวนหนิงกั๋วกงได้หรือไม่?”ไป๋จื้อเซียน “...”ถึงแม้เขาจะมีชีวิตอยู่มาหนึ่งพันปีแล้วก็ตาม เรียนรู้เพียงความสามารถฆ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 377

    “ถึงแม้วันนี้ข้ากับชื่อปาเลี่ยจะบุกฝ่าออกมาได้ แต่ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด”“การล้อเล่นแบบนี้ อย่างไรคุณชายไป๋ช่วยลดลงหน่อยจะดีมาก”ไป๋จื้อเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เขาหันหน้าไปมองไป๋จื้อเซียน โดยไม่ยอมอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อยชื่อปาเลี่ยที่อยู่ข้าง ๆ พูดไกล่เกลี่ย “ครั้งนี้พวกข้าไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ช่างเถอะ”ความโกรธที่ไป๋จื้อเซียนมีอยู่มากมายไม่มีที่ระบาย ยกมือขึ้นแล้วสะบัดทำให้ชื่อปาเลี่ยลอยกระเด็นออกไปชื่อปาเลี่ย “!!!!!”หากวันหลังเขายังกล้าสอดเรื่องของพวกเขาอีก เขาก็คือก็คือไอ้ลูกหมา!เขากระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ร้องโอ๊ยออกมาทีหนึ่งซือเจ๋อเยว่รีบยื่นมือออกไปประคองชื่อปาเลี่ย “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”ชื่อปาเลี่ยกุมหน้าอกกล่าว “ข้าเจ็บหน้าอกนิดหน่อย”ในระหว่างที่พูดเขารู้สึกผิดปกติบริเวณหน้าอก ยื่นมือออกไปแล้วล้วง ไม่คิดเลยว่าจะควักสมุดบันทึกเล็ก ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากข้างใน “นี่มันอะไรกัน?”หลังจากซือเจ๋อเยว่รับมาก็เปิดสมุดบันทึกเล่มเล็ก พบว่าเป็นสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้ายฉบับนั้นที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าวไว้นางทั้งตกใจทั้งดีใจ “นี่คือสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้าย!”เยียนเซียวหรา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 376

    ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร”นางพูดจบก็กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”เยียนเซียวหรานยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นอะไร”เขาพูดจบก็ประสานมือคำนับไป๋จื้อเซียนกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋ที่พาองค์หญิงออกมาได้อย่างปลอดภัย ทำให้ข้าไม่ต้องเป็นพะวงที่จะบุกฝ่ากองทัพออกมา”สีหน้าของไป๋จื้อเซียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เรื่องนี้เขาวางแผนทำร้ายเยียนเซียวหราน เยียนเซียวหรานขอบคุณเขาจึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมากยังมีท่าทีของซือเจ๋อเยว่อีก ในดวงตาของนางมีเพียงเยียนเซียวหรานเท่านั้น ไม่มีเขาเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเขารู้สึกไม่พอใจ จึงอยากจะทำร้ายชื่อปาเลี่ยอีกครั้งดวงตาของเขากวาดมองไปยังชื่อปาเลี่ย ชื่อปาเลี่ยได้หลบไปอยู่ที่ด้านหลังของซือเจ๋อเยว่อย่างรวดเร็ว “คุณชายไป๋จะทำร้ายข้า องค์หญิงช่วยด้วย!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าไป๋จื้อเซียนมีนิสัยขี้โมโห เขาติดตามอยู่ข้าง ๆ พวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา ไม่รู้ว่าจะเบิดขึ้นเมื่อไหร่เพียงแต่หากปล่อยเขาไป วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเหตุวุ่นวายอะไรขึ้นอีกนางคิดว่า อย่างไรเสียก็ต้องคิดหาว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 375

    เขายิ้มแย้มพร้อมกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ข้าพาเจ๋อเยว่นำไปก่อน พวกเจ้าสู้ ๆ ล่ะ”ซือเจ๋อเยว่ “...”เยียนเซียวหราน “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยความร้อนใจ “นี่ เจ้าพาพวกเขาไปด้วยกันสิ!”ไป๋จื้อเซียนกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “สถานการณ์แบบนี้ไม่ฆ่าคนก็พาพวกเขาออกไปไม่ได้”“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสาบานต่อสวรรค์ไว้ว่า ไม่สามารถลงมือฆ่าคนได้โดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้น...”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ามองเขา ในดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งสองข้างของเขาแฝงไปด้วยหยอกเย้า ท่าทางเหมือนกับกำลังดูละครด้วยความสุขนางรู้ดีว่า เรื่องในวันนี้เขานั้นเจตนา!นางรู้ดีว่า คนที่ชั่วร้ายเช่นไป๋จื้อเซียนจะยอมร่วมมือกับพวกเขาได้อย่างไร?นางกล่าวด้วยความร้อนใจ “ปล่อยข้าลง! ข้าจะไปช่วยพวกเขา!”ไป๋จื้อเซียนยิ้มด้วยความร่าเริงพร้อมกล่าว “ตอนนี้ด้านล่างมีแต่คน ทั้งเจ้ายังไม่เป็นวรยุทธ์ หากลงไปจริง ๆ ก็รังแต่จะยิ่งอันตราย”“อีกอย่าง ขอเพียงเจ้าสงบ เยียนเซียวหรานก็จะไม่เป็นพะวง ก็สามารถแสดงความสามารถของเขาได้อย่างเต็มที่”“ข้าเชื่อ ด้วยความสามารถของเขา ต้องสามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้แน่ ปลอดภัยหายห่วง” ซือเจ๋อเยว่ค้อนเขา เขากะพริบตาใส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 374

    เยียนเซียวหรานกวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างสุดแรง พยายามพาซือเจ๋อเยว่พุ่งตัวออกไปด้านนอกชื่อปาเลี่ยกลับด่าทออย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงนั้น “ไอ้แม่งเอ๊ย ครั้งก่อนเกือบตายที่ด่านอวิ๋นหลิ่ง ครั้งนี้ยังจะมาอีก!”เขาพูดจบก็กล่าวกับซือเจ๋อเยว่อีก “องค์หญิง ค่ายกลนั่นของท่านเมื่อครั้งก่อน เอาออกมาใช้อีกครั้งได้หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “เอามาใช้อีกครั้ง ข้าก็สามารถตายตรงนี้ต่อหน้าพวกเจ้าได้เลย!”ชื่อปาเลี่ย “...”เยียนเซียวหรานกล่าวเสียงขรึม “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว พุ่งไปข้างหน้าด้วยกันกับข้า”ซือเจ๋อเยว่ครุ่นคิด ครั้งนี้อยู่ภายในห้องปิดตาย จะอย่างไรก็ต้องพุ่งตัวเข้าไปหาก่อนดังนั้นนางจึงหยิบยันต์ออกมา ใช้คาถาเต๋าทำให้ระเบิด ภายในชั่วพริบตา ภายในห้องก็มีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น พัดทหารยามพวกนั้นที่อยู่หน้าประตูลอยกระเด็นออกไปข้างนอกชื่อปาเลี่ยหลบไม่ทัน หัวจึงกระแทกพื้นเยียนเซียวหรานอยากจะจับเขาเอาไว้ แต่ลมแรงเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถจับเขาได้เลยซือเจ๋อเยว่คว้าขาของชื่อปาเลี่ยเอาไว้แล้วกล่าว “รีบไป!”ชื่อปาเลี่ย “!!!!!!”เขาเองก็อยากจะหนีไปโดยเร็วเช่นกัน แต่ปัญหาคือลมทั้งรุนแ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 373

    สิ่งของที่อยู่ด้านในมองดูค่อนข้างสลับซับซ้อน กองกันเละเทะ ทันทีที่ดูก็รู้ว่าหลังจากถูกใครบางคนรื้อค้นจนเละเทะ ก็ไม่ได้จัดระเบียบใหม่ภายในห้องที่รกรุงรังแบบนี้ อยากจะตามหาสิ่งของที่พวกเขาอยากได้ เหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานรื้อค้นรอบหนึ่ง ก็ไม่ได้อะไรแม้แต่อย่างเดียวทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เห็นความจนปัญญาจากดวงตาของอีกฝ่ายภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราวกับว่าไม่มีความจำเป็นที่จะตามหาต่อไปแล้วในเวลานี้เอง เสียงของทหารยามก็ดังลอยมาจากหน้าประตู “ใครกัน?”ซือเจ๋อเยว่รีบเก็บไข่มุกราตรีลงไป ด้านในจึงกลับคืนสู่ความมืดอีกครั้งเนื่องจากเมื่อครู่นี้ทหารยามได้เห็น ‘การแสดง’ ของไป๋จื้อเซียน ภายในใจจึงหวาดกลัวเป็นอย่างมากแต่เพราะมีคำสั่งของนายพลที่เฝ้าด่าน เขาจึงไม่กล้าละทิ้งหน้าที่โดยพลการอีก จึงเรียกเพื่อนร่วมงาน ตั้งใจว่าจะจุดเทียนแล้วเข้าไปตรวจค้นด้านในตอนที่เขากำลังจะเปิดประตู ทหารยามคนนั้นก็หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของไป๋จื้อเซียน เสื้อผ้าสีแดงราวกับเลือดทหารยามไม่ได้รู้สึกตัวในทันที ยังถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”ไป๋จื้อ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status