แชร์

บทที่ 199

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
นางถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง “คาถาสายดำนี่โหดเหี้ยมเกินไปจริงๆ”

“คนพวกนี้ของจวนหนิงกั๋วกง ไม่ปฏิบัติเหมือนกับพวกเขาเป็นคนจริง ๆ ชีวิตของพวกกันเองยังไม่ใส่ใจ”

เยียนเซียวหรานกล่าวเสียงเรียบ “ท่านสนใจตัวท่านเองก่อนจะดีกว่า!”

เมื่อเขาเห็นนางมองมา ก็พูดเสริมอีกประโยค “ถึงอย่างไรวันนี้พวกเราก็เป็นฝ่ายบุ่มบ่ามเข้ามา พวกเขาไม่มีทางให้พวกเรามีชีวิตรอดออกไปแน่”

คิ้วของซือเจ๋อเยว่เลิกขึ้นเล็กน้อย “ไม่เป็นไร เรื่องนี้ข้าได้เตรียมการไว้แต่เนิ่น ๆ แล้ว วันนี้พวกเราจะต้องมีชีวิตรอดออกไปจากจวนหนิงกั๋วกง”

เขาหันหน้าไปมองนาง มีความประหลาดใจเล็กน้อยว่านางเตรียมการอะไร นางกลับอุบเอาไว้ ไม่ยอมปริปาก

หลังจากหนิงกั๋วกงถูกอวิ๋นเยว่ปิงประคองออกไปก็ไออย่างรุนแรง

เขากัดฟันกล่าว “ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานล่วงรู้ความลับของพวกเราแล้ว จะให้พวกมันมีชีวิตรอดไม่ได้อย่างเด็ดขาด!”

จวนสกุลอวิ๋นทุ่มเทพละกำลังไปตั้งมากมายกว่าจะทำค่ายกลออกมาได้ วันนี้ถูกทำลายภายในชั่วพริบตา หนิงกั๋วกงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง

เพียงแต่ต่อให้เขาไม่พอใจมากสักแค่ไหน อยากจะฟื้นฟูค่ายกลนี้ให้เป็นเหมือนเดิมกลับเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้

เนื
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 200

    ซือเจ๋อเยว่กล่าวเสียงดัง “ช้าก่อน”อวิ๋นเยว่ปิงมองนางด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก “เจ้ายังมีอะไรที่ต้องพูดอีก?”มุมปากของซือเจ๋อเยว่ยกขึ้นเล็กน้อย “ข้าไม่ได้มีอะไรที่ต้องพูด ข้าแค่อยากจะบอกท่านว่า ค่ายกลที่พังไปแล้วอันนั้นข้าซ่อมได้”อวิ๋นเยว่ปิงถามอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “เจ้าซ่อมได้อย่างนั้นหรือ?”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ถูกต้อง อันที่จริงข้าไม่ได้ตั้งใจอยากจะทำลายค่ายกลนั่นหรอก”“เพียงแต่ตอนนั้นที่งูยักษ์นั่นเลื้อยออกมา ข้าตกใจจนทนไม่ไหว ใช้คาถาเต๋าผิดไปเพราะความรีบร้อน จึงทำลายค่ายกลนั่นโดยไม่ทันระวัง”ในสายตาของอวิ๋นเยว่ปิงที่มองนางมีความประเมินเพิ่มขึ้นไม่น้อยนางพยายามกล่าวต่อ “ท่านก็รู้นี่ ถึงแม้ว่าข้าจะแซ่ซือ แต่ว่าท่านแม่ของข้าแซ่อวิ๋น จวนกั๋วกงเป็นที่พึ่งพาที่ใหญ่ที่สุดของข้า”“ในใจของข้า ย่อมอยากจะให้จวนกั๋วกงดี มีเพียงแค่จวนกั๋วกงดีเท่านั้น ข้าถึงจะดีไปด้วย”เมื่อเยียนเซียวหรานได้ยินประโยคนี้ก็เหลือบตามองนางแวบหนึ่งนี่นางกำลังนำคำพูดที่หนิงกั๋วกงพูดกับนางก่อนหน้านี้ มาพูดใหม่อีกรอบเพียงแต่ตอนนี้นางเต็มไปด้วยความจริงจัง ดวงตาที่สวยงามคู่นั้นมองดูแล้วเต็มไปด้วยความจร

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 201

    แม้เขาจะไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ก็เคยได้ยินราชครูสวรรค์พูดถึงวิธีการใช้ของสิ่งนั้นดูท่านางคงทำลายค่ายกลโดยไม่ตั้งใจจริงๆ เพราะหากนางเจตนาของนางเต็มไปด้วยความเป็นศัตรูแล้วละก็ ราชครูสวรรค์คงกำจัดนางไปแล้วแน่ภายใต้ผืนฟ้าแห่งนี้ ไม่มีผู้ใดรอดจากเงื้อมมือของราชครูสวรรค์ไปได้เขาจงใจกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ในเมื่อเจ้ารู้ความผิดแล้ว ก็จงคิดหาวิธีชดเชยเสียเถิด”“ที่บอกว่าสามารถซ่อมแซมค่ายกลนั่นได้ เช่นนั้นก็ลองพูดให้ข้าฟังดูทีว่าจะซ่อมอย่างไร?”ซือเจ๋อเยว่ตอบว่า “ค่ายกลนี้เป็นเวทวิชาโบราณที่เก่าแก่มากชนิดหนึ่ง การตั้งค่ายกลให้สำเร็จมีเงื่อนไขที่เข้มงวดมาก”“บัดนี้ ถูกข้าทำลายลงโดยไม่ได้ตั้งใจ คิดจะซ่อมแซมมันให้ดีดังเดิมนั้น มิใช่เรื่องง่ายเลย”“และเพราะหลายปีมานี้ จวนหนิงกั๋วกงเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์โดยตรงที่สุด ดังนั้น จึงต้องให้ผู้ที่มีสายเลือดในสายนี้ของจวนกั๋วกง มาเป็นผู้สังเวยและเคลื่อนย้าย”เมื่ออวิ๋นเยว่ปิงได้ยินนางพูดถึงที่มาของค่ายกลนี้ออกมา และวิธีการซ่อมแซมที่นางกล่าวก็คล้ายกับคำอธิบายที่ราชครูสวรรค์เหลือทิ้งไว้ก่อนหน้าอย่างมากแววตาของเขาก็ลุ่มลึกขึ้นเล็กน้อย “เจ้ารู้เรื

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 202

    ซือเจ๋อเยว่ถอนใจ “ท่านดูสภาพที่ไม่มีแรงแม้แต่จะฆ่าไก่ของข้าสิ ข้าจะไปฆ่าเขาได้อย่างไร?”ดวงตาของอวิ๋นเยว่ปิงหรี่ลงเบาๆ “เรื่องนี้ง่ายมาก องค์หญิงสามารถดูอยู่ด้านข้างได้”“รอตอนที่มันใกล้ตาย องค์หญิงแค่มาแทงมันเพิ่มอีกดาบก็พอแล้ว”ทันทีที่เขากล่าวจบก็โบกมือครั้งหนึ่ง จากนั้นองครักษ์พวกนั้นก็พุ่งเข้ามาดั่งฝูงหมาป่าทันทีซือเจ๋อเยว่รู้ว่าการที่อวิ๋นเยว่ปิงสามารถกลายเป็นซื่อจื่อของจวนกั๋วกงได้ คนจะต้องไม่โง่แน่ นางก็ไม่สามารถหลอกเขาได้นานทว่าตอนนี้ เพียงแค่พบหน้า นางก็พบว่าเขาระมัดระวังตัวและอำมหิตกว่าที่นางคาดการณ์นักนางถอนใจทีหนึ่งแล้วกล่าวว่า “ธรรมเนียมของจวนหนิงกั๋วกงไม่ค่อยดีจริงๆ อะไรนิดอะไรหน่อยก็จะฆ่าคนแล้ว ไม่กลัวผลกรรมจะตามสนองหรืออย่างไร”เยียนเซียวหรานกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “ถ้าพวกเขากลัวกรรมตามสนอง ก็ไม่มีทางสร้างค่ายกลที่ชั่วช้าไร้มโนธรรมเช่นนี้ออกมาแล้ว”ขณะที่ปากของเขาเอ่ยวาจา กระบี่ในมือก็ถูกยกขึ้นมาแล้ว บีบบังคับให้องครักษ์ที่อยู่ใกล้พวกเขาถอยออกไป จากนั้นจับมือซือเจ๋อเยว่ได้ก็วิ่งออกไปทันทีซือเจ๋อเยว่รู้สึกว่าน่าเสียดายอยู่บ้าง อีกเพียงนิดเดียวก็จะหลอก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 203

    ช่วงนี้ดวงเขาไม่ค่อยดีจริงๆ ไม่ว่าไปที่ใด เรื่องโชคร้ายที่สุดก็จะเกิดขึ้นกับเขาแค่เพราะวรยุทธ์ของเขาดี จึงรอดมาได้อย่างหวุดหวิดทุกครั้ง รวมกับยามปกติเขาก็ไม่พูดถึงเรื่องเช่นนี้ดังนั้นแม้ซือเจ๋อเยว่จะรู้ว่าดวงชะตาของเขาถูกขโมย แต่ก็มิได้รู้สึกอย่างชัดเจนนักนางจึงรีบกล่าวอย่างร้อนใจว่า “เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดแล้ว พวกเรารีบไปกันเถอะ!”หากมีเพียงเยียนเซียวหรานคนเดียว เมื่อเผชิญกับกำแพงการขวางกั้นของที่กำลังถล่มเช่นนี้ เขาย่อมสามารถหนีออกไปได้อย่างแน่นอนแต่เพราะบนร่างของเขาแบกซือเจ๋อเยว่ไว้ แม้ตัวนางจะเบา แต่ถึงอย่างไรก็มีน้ำหนัก จึงยากที่จะเลี่ยงไม่ให้กระทบต่อความเร็วของเขาขณะที่เขากำลังร้อนใจ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าตลอดร่างตั้งแต่บนจรดร่างเบาขึ้นมา ความเร็วเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวของยามปกติในทันที!ในช่วงเวลาอันคับขันที่กำแพงกำลังถล่มลงมา คนทั้งสองหนีผ่านทางเดินแคบๆ นั่นออกไปได้ส่วนองครักษ์ที่ไล่ตามมาทางด้านหลังของพวกเขา กลับมิได้โชคดีเช่นนี้ ส่วนมากล้วนถูกทับอยู่ใต้กำแพงแล้วซือเจ๋อเยว่กล่าวอยู่บนหลังเยียนเซียวหรานว่า “ต้องขอโทษด้วย ก่อนหน้านี้ข้าลืมไปว่าข้ายังใช้ยันต์ตัวเบากับยันต์เร่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 204

    เห็นเพียงซือเจ๋อเยว่หยิบแหวนออกมาวงหนึ่ง แล้วส่องไปทางทิศของเครื่องประดับเหล่านั้นคราหนึ่ง จากนั้นพื้นที่แถบนั้นก็ว่างเปล่าแล้วก่อนหน้านี้ เยียนเซียวหรานก็พบว่าของที่นางพกไว้บนร่างมีน้อยมาก แต่กลับหยิบสิ่งต่างๆ ที่ทั้งมีและไม่มีออกมาบ่อยครั้ง บัดนี้จึงได้รู้ว่าภายในมีความมหัศจรรย์ซ่อนอยู่ก่อนหน้านี้ เขาเคยได้ยินว่าลัทธิเต๋ามีแหวนมิติที่ใช้วิชาเต๋าสร้างขึ้นมา ดูเหมือนชิ้นเล็กๆ แต่ในความเป็นจริงกลับสามารถบรรจุของได้มากมายคิดว่าเจ้าสิ่งที่อยู่ในมือนางก็คือของประเภทนั้นแล้วดังนั้น เขาจึงเฝ้าดูนางกวาดทุกสิ่งในคลังเก็บของไปจนหมด ด้วยความเร็วอันยิ่งยวดอย่างเหม่อลอย!ทุกครั้งที่เยียนเซียวหรานคิดว่า เขานับได้ว่าเข้าใจในตัวนางแล้ว นางก็มักจะแสดงสิ่งใหม่ออกมาอีกหลังจากที่ซือเจ๋อเยว่เก็บของเสร็จ เพลิงจากอัสนีบนหลังคาจึงได้ไหม้ลงมาถึงด้านล่างภายนอก เสียงร้องตะโกนให้ดับไฟดังสนั่นไปทั่วแล้วซือเจ๋อเยว่กล่าวกับเยียนเซียวหรานว่า “รีบออกทางหน้าต่างเร็ว”เยียนเซียวหราน “…”หนนี้นางเป็นฝ่ายกระโดดขึ้นหลังของเขาโดยตรง “อย่าบอกข้าว่าเจ้าปีนหน้าต่างอะไรพวกนั้นไม่เป็นนะ ครั้งก่อนที่เจ้าเข้าห้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 205

    เพราะไม่มีผู้ใดขัดขวาง ครั้งนี้พวกเขาจึงหนีออกไปได้ราบรื่นกว่าเดิมมากถึงจะเจอองครักษ์สองสามคนบ้างบางครั้ง เยียนเซียวหรานล้วนสามารถรับมือได้ในไม่ช้า พวกเขาก็จะบุกไปถึงเรือนส่วนหน้าแล้ว เมื่อผ่านเรือนส่วนหน้า ก็จะสามารถออกจากจวนหนิงกั๋วกงได้แล้วเพียงแต่พวกเขายังไปไม่ถึงประตูของเรือนส่วนหน้า ก็เห็นชายชราที่ผมขาวโพลนผู้หนึ่ง นำองครักษ์กลุ่มหนึ่งขวางอยู่ตรงนั้นทั่วร่างของชายชราผู้นั้นรายล้อมไปด้วยไอพลังสีม่วง ดูไปแล้วน่าเกรงขามอย่างมาก ทว่ารายละเอียดเล็กๆ บริเวณมุมคิ้วและหางตา กลับแสดงออกถึงความอำมหิตไอพลังสีม่วงที่เข้มข้นเช่นนี้ เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายคือผู้ที่ได้รับประโยชน์จากค่ายกลชั่วร้ายนั่น และเป็นผู้ที่กุมอำนาจอย่างแท้จริงในเวลานี้ของจวนหนิงกั๋วกงทันทีที่ซือเจ๋อเยว่เห็นลักษณะใบหน้าของชายชรา ก็รู้ได้ทันทีว่าเขาก็คืออดีตหนิงกั๋วกง ท่านตาของนางนั่นเองก่อนหน้านี้นางก็เดาได้แล้วว่าการจัดตั้งค่ายกลนั่นเกี่ยวข้องกับอดีตกั๋วกงเพียงแต่หลายปีมานี้ อดีตหนิงกั๋วกงมีชื่อเสียงดีงามอย่างยิ่งในเมืองหลวง เลื่องชื่อในฐานะผู้ที่มีจิตใจเมตตา และมิได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ อีก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 206

    ซือเจ๋อเยว่ยิ้มบางๆ “ช่วยไม่ได้เจ้าค่ะ ข้าไม่มีบิดามารดาหรือญาติพี่น้องให้พึ่งพา ทุกเรื่องจึงได้แต่อาศัยตนเอง”“หากไม่ตั้งใจเรียนวิชาเต๋าดีๆ เพื่อใช้ตั้งแผงหาเงิน เกรงว่าคงหิวตายไปนานแล้ว”อดีตหนิงกั๋วกงคล้ายฟังไม่ออกถึงการเยาะหยันที่อยู่ในคำพูดของนาง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า “แต่ไม่ว่าองค์หญิงจะมีความสามารถมากเพียงใด วันนี้ก็อย่าได้คิดจะไปจากที่นี่แล้ว”“เพราะตั้งแต่จวนหนิงกั๋วกงสร้างเสร็จ ก็ไม่เคยได้รับความเสียเปรียบเช่นนี้มาก่อน”ซือเจ๋อเยว่กล่าวเรียบๆ ว่า “ไม่เป็นไร นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น วันหลังเมื่อท่านเสียเปรียบมากหน่อย เสียเปรียบจนเคยชินแล้วก็จะดีเอง”อดีตหนิงกั๋งกงพูดอย่างเย็นชาว่า “ช่างปากคอเราะรายนัก ข้าไม่ถกเถียงปะทะฝีปากกับเจ้าแล้ว”เมื่อเขากล่าวจบ ก็หยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ ในขณะที่กำลังจะลงมือ ที่ด้านหลังของเขาก็มีเสียงของเหวยอิ้งหวนดังมา“นำตัวเยียนเซียวหรานและองค์หญิงเจ๋อเยว่กลับศาลต้าหลี่เพื่อสอบสวน ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือด้วย!”เมื่ออดีตหนิงกั๋วกงได้ยินคำพูดนี้ ก็หันไปมองซือเจ๋อเยว่ทันทีสายตาในครั้งนี้ของเขาดุจคมดาบที่ส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 207

    ภายในจวนหนิงกั๋วกง มีความลับที่ไม่อาจให้ผู้คนรู้มากมาย เขาไม่ต้องการให้คนของศาลต้าหลี่เข้ามาตรวจสอบในจวนเขาจึงกล่าวว่า “คนในจวนทำตะเกียงล้มโดยไม่ทันระวัง ไหม้เรือนไปสองสามหลัง มิได้สลักสำคัญอะไร”“เรื่องเล็กน้อยพวกนี้ ก็ไม่ขอรบกวนใต้เท้าเหวยแล้ว”เมื่อเหวยอิ้งหวนได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ก็ยิ่งมั่นใจว่าเรื่องนี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนเพียงแต่การที่ศาลต้าหลี่จะสืบคดีต้องมีหลักฐาน เมื่ออดีตหนิงกั๋วกงรับเรื่องนี้ไว้ด้วยตนเอง เขาก็ไม่อาจแทรกแซงได้เขาจึงกล่าวว่า “ท่านอดีตกั๋วกงเกรงใจไปแล้วขอรับ หากมีเรื่องจำเป็น สามารถมาหาข้าที่ศาลต้าหลี่ได้ทุกเมื่อ”คนทั้งสองสนทนากันอย่างเกรงใจอีกสองสามประโยค จากนั้นเหวยอิ้งหวนก็พาซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานออกจากจวนหนิงกั๋วกงไปหลังซือเจ๋อเยว่ออกมา ก็ลูบหน้าอกว่า “ยังดีที่วันนี้ใต้เท้าเหวยมาได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นเกรงว่าข้ากับน้องสามคงต้องจบชีวิตอยู่ในจวนหนิงกั๋วกงแล้ว”เหวยอิ้งหวนตอบอย่างเย็นชาว่า “เมื่อคืนที่องค์หญิงทรงส่งจดหมายมา ให้ข้ามาหาท่านที่จวนหนิงกั๋วกงในช่วงเค่อแรกขอยามโหย่ว”“ตัวข้ายังมาไม่ถึงจวนหนิงกั๋วกง ก็เห็นภายในจวนเกินเพลิงไหม้แ

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 274

    นางสวมรองเท้ามือเป็นระวิง เพียงแต่ยิ่งลนลาน ก็ยิ่งทำได้ไม่ดีเดิมทีรองเท้าที่สวมได้อย่างง่ายดายมากเป็นเพราะนางตกตะลึงสวมห้าหกครั้งก็ยังไม่เข้าเยียนเซียวหรานยื่นมือออกไปจับข้อเท้าของนางเอาไว้ นางหันหน้าไปมองเขา เขากลับไม่ได้มองนาง แต่ยกรองเท้าข้างหนึ่งขึ้นมา ค่อย ๆ สวมเข้าไปที่เท้าของนางซือเจ๋อเยว่ “...”นางรู้สึกว่าตนเองในเวลานี้โง่นิด ๆหลังจากเยียนเซียวหรานสวมรองเท้าในนางเสร็จข้างหนึ่งแล้ว ก็สวมอีกข้างอีกให้นางนางกระโดดลงจากเตียงอย่างว่องไว “ลำบากเจ้าแล้ว”นางพูดจบคิดจะหนี กลับถูกเยียนเซียวหรานจับข้อมือขาวเล็กเอาไว้นางมองเขาแล้วถาม “ยังมีธุระอะไรอีกหรือ?”เยียนเซียวหรานไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยื่นมือออกไปแล้วช่วยติดจัดปกคอเสื้อให้นาง ช่วยนางปรับสายคาดเอวให้เรียบร้อย ซือเจ๋อเยว่ “!!!!!”นางหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันทีเยียนเซียวหรานหวีผมให้นางอีก กล่าวเสียงเรียบ “เสร็จแล้ว”ซือเจ๋อเยว่หันหน้าไปมองเขา ดวงตาของเขาล้ำลึกตามเดิม นางมองเห็นเงาสะท้อนของตนเองในดวงตาของเขาการเต้นของหัวใจนางเริ่มเต้นรัวขึ้นอีกครั้ง นางรู้ว่าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปจะไม่เข้าท่า จึงรีบกระโดดหนีออกทางหน้าต่า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 273

    ตอนนี้สมองของซือเจ๋อเยว่ไม่พอใช้แล้ว เมื่อได้ยินเขาถามแบบนี้ นางตอบว่า‘อืม’ทีหนึ่ง ไม่ได้เข้าใจความหมายของเขาจริง ๆเยียนเซียวหรานจับมือของนาง ดึงแขนเสื้อของนางขึ้น เส้นแดงที่อยู่ภายในก็ปรากฏขึ้นเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยกล่าว “ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยชัดเท่าไหร่”ในที่สุดซือเจ๋อเยว่ก็เข้าใจความหมายของเขา นางอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขากลับกล่าวขึ้น “อาจจะเป็นเพราะห่างกันไปหน่อย”ครู่ต่อมา มือของเขาประคองเอวนาง ทันทีที่ออกแรงเพียงเล็กน้อย ก็อุ้มนางขึ้นมาวางไว้บนต้นขาของเขาซือเจ๋อเยว่ “...”ซือเจ๋อเยว่ “!!!!!”อยู่ ๆ เขากลายเป็นคนที่เร่าร้อนจนเกินไป นางรับมือไม่ค่อยไหว!เยียนเซียวหรานสูงกว่านางมาก แล้วก็แข็งแรงกว่านางมาก ถูกเขากอดไว้ในอ้อมแขน ชุดนอนของเขาคลุมไว้แค่ครึ่งเดียว นางรู้สึกเหมือนกับถูกฝังอยู่ในอ้อมอกของเขาภายในหัวใจของซือเจ๋อเยว่มีความตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่เขากลับไม่ได้พูดอะไร ทั้งยังจูบลงมาบนริมฝีปากนางนางใช้มือดันแผ่นออกของเขาอย่างไม่รู้ตัว เขาหันไปมองนาง ภายในดวงตาที่ดำขลับคู่นั้นสะท้อนให้เห็นถึงแววตาที่เขามองไม่ออกน้ำเสียงของเขาแหบแห้งเล็กน้อย “มีขั้นตอนไหนที่ข้าทำไม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 272

    ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับมาเผชิญหน้ากับใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ถาม “เจ้ามีธุระอะไรอีกอย่างนั้นหรือ?”มุมปากของเยียนเซียวหรานยกขึ้นเล็กน้อย “ไหน ๆ คืนนี้องค์หญิงก็มาแล้ว ไม่เติมอายุขัยสักหน่อยแล้วค่อยไปหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางร้อง‘หา’ทีหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้สติอยู่ครู่หนึ่งเยียนเซียวหรานเหลือบตาขึ้น สายตาจดจ้องไปที่นางกล่าว “องค์หญิงอยากจะอายุยืนยาวร้อยปีไม่ใช่หรือ?”“ข้าเกรงว่าข้าไม่ให้ความร่วมมือ วันข้างหน้าองค์หญิงจะมาหาเรื่องข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางคิดว่าเขาค่อนข้างผูกพยาบาทวันนั้นนางก็แค่พูดเล่นกับเขาต่อหน้าของเหล่าไท่จวินเท่านั้น เขากลับจำได้อย่างแม่นยำในเวลานี้นางรู้ว่านางมีตัวเลือกอยู่สองข้อ ข้อแรกคืออยู่ต่อเสียเลย ข้อสองคือรีบหนีไปอย่างแรกจะน่าอายเกินไปหน่อย อย่างหลังจะขี้ขลาดเกินไปหน่อยนางครุ่นคิดครู่หนึ่ง คิดว่าถึงอย่างไรก็เป็นแบบนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ควรจะเริ่มจากทำอะไรเพื่อผลประโยชน์ระยะยาวของตัวเองหากทำตัวขี้ขลาดในเวลาแบบนี้ ต่อไปนางจะมาหาเขาได้อย่างไร? ต่อให้มาหาเขาด้วยอย่างหน้าด้านอีก คิดว่าก็อาจจะถูกเขาหัวเราะเยาะเอาได้ดังนั้นนางจึงถอดรองเท้า แล้วกระโ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 271

    ตอนที่นางได้ยินก็ไม่ได้ประหลาดใจมากเท่าใดนัก ดวงสมรสของลู่จิ่นเหนียง นั่นก็ทำได้เพียงเป็นอนุของคนอื่นเท่านั้นปกติการเป็นอนุ ขอเพียงแค่ฝั่งผู้ชายชอบนาง ทุกอย่างจะปรากฏขึ้นในดวงสมรสสิ่งเหล่านี้สามารถยืนยันได้ว่า อวิ๋นเยว่หยางรับลู่จิ่นเหนียงเป็นอนุเพราะมีจุดประสงค์อื่น เขาไม่ได้ชอบลู่จิ่นเหนียงเมื่อซือเจ๋อเยว่นึกถึงท่าทางที่หยิ่งผยองเกินความเป็นจริงของลู่จิ่นเหนียง รู้ว่าหากครั้งนี้ลู่จิ่นเหนียงไม่เอาชีวิตไปทิ้งที่จวนหนิงกั๋วกง ก็ต้องได้รับบาดเจ็บทางร่างกายหรือจิตใจเพียงแต่เรื่องนี้ตามที่เหล่าไท่จวินได้กล่าว ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับจวนอ๋องแล้ว นางก็คร้านจะช่วยเป็นธุระให้ลู่จิ่นเหนียงบัดนี้สิ่งที่นางเป็นกังวลยิ่งกว่าก็คือเรื่องที่อวิ๋นเยว่หยางขโมยดวงชะตาของเยียนเซียวหรานไปสองครั้งก่อนนางได้ตามหาค่ายกลนั่นแต่ก็จบลงด้วยความล้มเหลว แล้วก็ตามหาค่ายกลอันนั้นไม่เจออีก เกรงว่าดวงชะตาของเยียนเซียวหรานจะถูกขโมยไปจนหมดแล้วหลายวันมานี้ซือเจ๋อเยว่คิดอยู่หลายวิธี หลังจากตัดออกไปจำนวนหนึ่ง ก็รู้สึกว่าถ้ามีปัญหาแบบนี้หรือว่าแบบนั้น ความเสี่ยงก็มากทั้งนั้นนางคิดอยู่หลายตลบ คิดว่าบางทีอาจจะสาม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 270

    ซุ่ยซุ่ยของนางยังไม่ออกเรือน สถานการณ์ของจวนเยียนอ๋องเป็นแบบนี้ นางต้องปลุกใจให้ฮึกเหิมเสียหน่อย อย่างน้อยก็ไม่ควรเป็นภาระของพวกเขาเหล่าไท่จวินที่อยู่ข้าง ๆ กล่าว “แม้ว่าวันนี้เวินชิงจะรับปากองค์หญิง ต้องทำตามที่รับปาก”“ต่อไปเจ้ามีเวลาว่าง ก็มาอยู่เป็นเพื่อนคนแก่อย่างข้า”เบ้าตาของจู้อี๋เหนียงแดงเล็กน้อย คุกเข่าลงบนพื้นกล่าวเสียงเบา “ลูกอกตัญญู ทำให้เหล่าไท่จวินต้องเป็นห่วง”เหล่าไท่จวินยื่นมือออกไปประคองนางลุกขึ้น จับมือของนางแล้วตบเบา ๆ “เรื่องในอดีตก็ให้ผ่านไป พวกเราต้องมองไปข้างหน้า”จู้อี๋เหนียงเช็ดน้ำตากล่าว “ข้าเชื่อฟังเหล่าไท่จวิน”ซือเจ๋อเยว่ชอบบรรยากาศของจวนเยียนอ๋องที่สุด เหล่าไท่จวินเป็นคนชราที่เฉลียวฉลาด ถึงแม้คนในจวนจะมากมาย แต่นางกลับน่าเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่งตอนที่จวนเยียนอ๋องเกิดเรื่อง คนที่ได้รับความกระทบกระเทือนมากที่สุดไม่ใช่เหล่าไท่จวิน แล้วก็ไม่ใช่พระชายาเยียนอ๋อง แต่ทว่าเป็นจู้อี๋เหนียงก่อนหน้านี้จู้อี๋เหนียงเป็นคนอมทุกข์มาตลอด ออกจากเรือนน้อยมากเหล่าไท่จวินไปปลอบใจจู้อี๋เหนียงเป็นประจำในจวนมีของของดีอะไร เหล่าไท่จวินก็จะคิดถึงนาง ไม่ใช่เพราะว่านางเป็

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 269

    “อย่างไรเสียจวนหนิงกั๋วกงก็ดีกว่าจวนเยียนอ๋อง สิ่งที่เรียกว่าชื่อเสียงของจวนเยียนอ๋อง ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยินดีช่วยพี่ชายของเจ้าให้เลื่อนตำแหน่ง”“ตามที่ข้ามอง จวนเยียนอ๋องที่ไม่มีน้ำใจ ไม่รู้จักปรับตัวเช่นนี้ก็สมควรล่มสลาย!”ลู่จิ่นเหนียงได้ฟังคำพูดพวกนี้ก็ไม่ได้รู้สึกมีตรงไหนผิดปกติ เดิมทีจวนเยียนอ๋องก็ยึดติดกับหลักการมากเกินไปต่อให้เยียนซื่อจะปฏิบัติต่อนางดีมากแค่ไหน ทันทีที่นางพูดเรื่องที่ให้เขาช่วยเหลือ เขาก็จะชักสีหน้าทันทีเมื่อเปรียบเทียบกัน จวนหนิงกั๋วกงมีความเปิดกว้างมากกว่า แล้วก็เต็มไปด้วยความจริงใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมีเรื่องนี้ เมื่อนางมองเห็นเครื่องประดับและผ้าเหล่านี้ ก็ไม่รู้สึกว่าเป็นแบบเก่าอีกแล้วลู่ฮูหยินกล่าวอีกว่า “คุณชายรองให้ความสำคัญกับเจ้าเป็นอย่างมาก อยากจะให้เจ้ารีบเจ้าจวนเร็วหน่อย”“วันนี้ข้าได้ปรึกษากับท่านพ่อของเจ้าแล้ว พรุ่งนี้จะส่งตัวเจ้าเข้าจวนหนิงกั๋วกง ตามความต้องการของจวนกั๋วกง”ลู่จิ่นเหนียงตกตะลึงไปทันที “ไปจวนหนิงกั๋วกงวันพรุ่งนี้? นี่มันจะรีบเกินไปหน่อยหรือไม่?”ลู่ฮูหยินตอบ “รีบที่ไหนกัน นี่เห็นได้ชัดเจนว่าจวนหนิงกั๋วกงให้ความสำคัญกับ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 268

    นางพ่นลมหายใจกล่าว “องค์หญิงอย่างไรเสียก็จัดการเรื่องของตนเองให้ดีเถอะ เลิกริษยาคนอื่น ใจกว้าง บางทีอาจจะสามารถมีชีวิตได้ถึงสิบแปดปี!”เมื่อซือเจ๋อเยว่ได้ยินคำพูดถากถางของลู่จิ่นเหนียงไม่เพียงไม่โกรธ ทั้งยังรู้สึกน่าขันเล็กน้อยนางทำอะไรด้วยใจมาตลอด ในเวลานี้เตือนสติลู่จิ่นเหนียงก็เป็นเพราะเยียนซื่อแต่น่าเสียดายที่ผู้หญิงคนนี้ความคิดบิดเบี้ยวตั้งแต่ภายใน กระเสือกกระสนรนหาที่ตาย ต่อให้เทพต้าหลัวมาที่นี่ เกรงว่าก็คงจะช่วยชีวิตนางเอาไว้ไม่ได้นางพยักหน้ากล่าว “ข้าคิดว่าที่เจ้าพูดนั้นมีเหตุผลมาก คนที่จิตใจคับแคบ จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานจริง ๆ”นางพูดจบก็คร้านจะสนใจลู่จิ่นเหนียงอีก กล่าวกับเยียนเซียวหราน “น้องสาม พวกเราไปกันเถอะ!”ลู่จิ่นเหนียงยังอยากจะพูดอะไรบางอย่างอีก เยียนเซียวหรานมองนางด้วยสายตาเย็นยะเยือกแวบหนึ่งสายตานั้นเย็นยะเยือกเข้ากระดูก ความน่าสะพรึงกลัวเต็มเปี่ยม ลู่จิ่นเหนียงเห็นก็รู้สึกกลัวจนขนลุกขนพอง คำพูดที่กำลังจะพูดออกมาก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวทันใดนั้นนางก็พบว่า เยียนเซียวหรานแตกต่างไปจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง บนร่างกายของเขามีพลังอำนาจอันแข็งแกร่ง ที่ไม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 267

    นางกับเยียนเซียวหรานตรงไปยังร้านขายเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง ซึ่งด้านในร้านมีผ้าหลากหลายที่สุดเยียนเซียวหรานกลัวว่านางจะเกิดเรื่อง จึงเดินตามหลังนางตลอดทุกฝีก้าวซือเจ๋อเยว่เลือกผ้าให้แต่ละคน รวมกันทั้งหมดสิบกว่าพับ พวกเขาไม่สะดวกถือไปด้วย จึงให้เถ้าแก่มอบหมายให้คนส่งไปที่จวนเยียนอ๋องทันทีที่ซือเจ๋อเยว่จ่ายเงินเสร็จ ก็เห็นลู่จิ่นเหนียงพาสาวใช้เดินเข้ามาหา ทั้งสองคนพบกันโดยบังเอิญ จึงมีความประหลาดใจเล็กน้อยลู่จิ่นเหนียงเป็นเพราะครั้งก่อนซือเจ๋อเยว่เคยฉีกหน้านาง นางจึงไม่ชอบซือเจ๋อเยว่เป็นอย่างยิ่งในเวลานี้เมื่อเจอกัน นางยังคงกล่าวด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม “องค์หญิง ไม่เจอกันนานเลย”ซือเจ๋อเยว่คุ้นเคยกับการมองหน้านางแวบหนึ่ง ใต้ตาของนางดำคล้ำ คาดว่านางน่าจะเอาเด็กออกแล้ว ต่อไปก็คงจะไม่มีลูกของตัวเองอีกนอกจากนี้แล้ว ชีวิตในวังหลวงของนางมีเต็มความซับซ้อน เมื่อเห็นฉากนี้ ต่อไปลู่จิ่นเหนียงคงจะใช้ชีวิตอย่างค่อนข้างขรุขระสีหน้าของนางยังนับว่าพอถูไถไปได้ ใบหน้าเหมือนว่ายังพอมีความสุขอยู่บ้างในเมื่ออีกฝ่ายยอมรับผิดแล้วก็ย่อมให้อภัย ซือเจ๋อเยว่ยิ้มตอบ ตั้งใจที่จะออกไปพร้อมกั

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 266

    ซือเจ๋อเยว่ลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าว “อวิ๋นไท่เฟยหมดสติไปเพราะตื่นเต้นเกินไป พวกท่านส่งนางกลับไปเถอะ”คำพูดที่นางพูดกับอวิ๋นไท่เฟยเมื่อครู่นี้ บรรดาคนในวังหลวงที่อยู่ใกล้ต่างก็ได้ยินกันหมดพวกเขามองซือเจ๋อเยว่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ในเวลานี้มีคนหลายคนร่วมแรงกันประคองอวิ๋นไท่เฟยขึ้นมา แล้วรีบวิ่งออกไปคนของวังหลวงที่ถูกวิญญาณรายล้อมคนนั้น ในเวลานี้วิญญาณปล่อยนางไปแล้ว ทันทีที่นางได้รับอิสระ ก็รีบวิ่งหนีอย่างโซซัดโซเซกลางวันแสก ๆ เลยนะ!พวกเขาเจอเรื่องแบบนี้ น่ากลัวมากเกินไปจริง ๆ!ฮองเฮามองไม่เห็นวิญญาณ เห็นเพียงซือเจ๋อเยว่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทำให้อวิ๋นไท่เฟยตกใจจนหมดสติไปทันที จากนั้นกลุ่มคนก็วิ่งหนีกันฉี่ราดสารรูปเช่นนี้ของพวกเขา ตอนที่มาอวดดีมากขนาดไหน ตอนกลับไปก็ดูไม่จืดมากเท่านั้นฮองเฮากับอวิ๋นไท่เฟยประมือกันมาหลายครั้ง ถึงแม้นางจะชนะมากกว่าแพ้ แต่นั่นก็เป็นเพียงการสู้กันด้วยวาจา ไฉนเลยจะมีความสุขเท่าครั้งนี้?นางมองซือเจ๋อเยว่กล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าทำอะไรพวกเขา?”ซือเจ๋อเยว่ตอบ “หม่อมฉันก็อาศัยอยู่ในสำนักเต๋ามาเป็นเวลานาน ถึงอย่างไรก็ยังพอมีความสามารถเป็นของ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status