แชร์

บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย
บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย
ผู้แต่ง: จิ่วเทียนอี้อี

chapter 1

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-24 20:02:07

“มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง”

น้ำเสียงราบเรียบไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ แต่ทำให้กลุ่มคนที่ถูกถามยิ่งเกิดอาการร้อนสลับหนาวราวกำลังจับไข้ หวาดหวั่นในอก จนเหงื่อผุดไหลออกมาจากข้างขมับ อันเนื่องมาจากรัศมีแห่งอำนาจที่แผ่กระจายมาจากชายเรือนร่างสูงใหญ่อกกว้างผึ่งผาย ซึ่งยืนสองมือสอดล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงสะแล็คส์เนื้อดีรีดเสียจนเรียบ ทอดสายตามองออกไปยังทิวทัศน์ด้านนอกตึก

ที่ตั้งของบริษัทผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และซอฟแวร์ต่างๆ คืออาคารสามชั้น ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน  เพียงมองลอดผ่านม่านสีขาวและหน้าต่างกระจกสีชาก็ทำให้เห็นแผ่นฟ้ากว้างใหญ่ เมฆหมอกสีขาวลอยละลิ่วล่องไปตามกระแสลม ท้องฟ้าสีฟ้าครามและแผ่นพื้นน้ำเป็นสีเขียวอมฟ้าคราม

ท้องทะเลกว้างไกลยาวสุดตา ส่องกระทบกับแสงพระอาทิตย์ซึ่งสาดส่องมาราวกับเพชรหลากสีสัน สายน้ำรวมตัวกันเป็นเกลียวสะบัดไหวปลิวไปตามกระแสลมแรง ละม้ายระลอกคลื่นไล่ล้อกันอย่างสนุกสนาน ก่อนสาดซัดเข้าหาฝากฝั่ง บางส่วนกระแทกเข้ากับโขดหิน ราวกับน้ำทะเลนั้นขอล้อเล่นกับก้อนหินแข็งแกร่งและสายลมพลิ้วเบา บางส่วนก็กลายเป็นฟองฟูฟ่องสาดซัดล้อเล่นกับทรายขาวสะอาด สิ่งที่เห็นเป็นดังเช่นอัญมณีแห่งท้องทะเล นามมุกมรกตที่หลายคนใฝ่ฝันอยากได้ครอบครองเป็นเจ้าของ

แสงและสีอันสดใสสวยงามเบื้องนอกไม่ได้ทำให้หนุ่มร่างสูงคลายความร้อนรุ่มในหัวใจได้เลยสักนิด มีแต่จะถูกเผาไหม้ด้วยเพลิงโทสะมากยิ่งขึ้น ด้วยเอ่ยถามไปแล้วไร้คำตอบกลับมา ชายหนุ่มละสายตาหันกลับมามองผู้เข้าร่วมการประชุมทุกคน เพียงแค่เขาเคลื่อนไหวเท่านั้น แต่ละคนก็สะดุ้งเฮือก หน้าตาซีดเผือดเหลือสองนิ้วเห็นจะได้

มือใหญ่วางทาบบนพนักเก้าอี้ ดึงลากเบาๆ แต่ก็มีเสียงล้อครูดกับพื้น อย่างกับมีใครเอามีดทื่อๆ ไปถูกกับหินขัด จนเกิดเสียงเสียวเข้าไปในช่องปากลามไปถึงใบหูคนที่ได้ยิน จนแต่ละคนแทบไม่กล้าหายใจเข้าออก ทั้งที่ภายในห้องเปิดเครื่องปรับอากาศจนเย็นจัด แต่ทุกคนกลับร้อนรุ่มราวกับนั่งอยู่บนกองเพลิง เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลย้อยลงมาก็ยังไม่กล้ายกมือขึ้นเช็ด

ยิ่งเมื่อร่างหนาใหญ่ทรุดตัวลงนั่ง เอนกายจนแผ่นหลังอิงกับเบาะนุ่มๆ กางแขนออกเล็กน้อยทาบสองมือจับกัน เคาะนิ้วชี้กระทบกันเบาๆ ขณะกวาดตาสีเทาอมเขียวขี้ม้าที่ฉายแววเนือยๆ และเฉื่อยชา มองผู้เข้าร่วมประชุมแต่ละคนอย่างพินิจพิเคราะห์ เหมือนกำลังประเมินศักยภาพ เขาและเธอเหล่านี้ เหมาะสมกับตำแหน่งงานที่ทำอยู่ และผลตอบแทนที่ได้รับในทุกๆ เดือนหรือไม่

สายตาคมกริบราวกับสายตาพญาอินทรีที่กราดมองมา ทำให้คนถูกมองหนาวยะเยือกราวกับนั่งอยู่บนเก้าอี้น้ำแข็ง กลืนน้ำลายอย่างฝืดเคือง ด้วยรู้กันดีว่าสิ่งที่เห็นนั้นเป็นมายาหลอกตาเท่านั้น ภายใต้สีหน้าเรียบเฉยไม่ยินดียินร้ายสิ่งใด แต่เขาคนนี้กลับร้ายยิ่งกว่าเสือ ดุยิ่งกว่าสิงโต เหี้ยมหาญอย่างร้ายกาจ สามารถปล่อยหมัดเดียวทำให้คนหลับทั้งยืนมาแล้ว

ดวงตาเข้มจัดกวาดไล่ไปหยุดอยู่ที่หนุ่มหน้าละอ่อนคนสุดท้ายฝั่งขวามือ พร้อมคำพูดที่ออกจากปากหนาหยัก เหมือนกำลังยิ้มหยามคนทั้งโลก

“ฉันควรได้รับคำตอบ มากกว่าการนั่งเงียบแบบนี้ไม่ใช่หรือ”  ไม่ได้เจาะจงว่าถามใคร แต่คิดว่าคนตั้งหกเจ็ดคนที่เข้าร่วมประชุม น่าจะให้คำตอบได้บ้าง ไม่ใช่นั่งเงียบเป็นเป่าสากอย่างนี้

“เวลาที่ให้ไปไม่พอจะหาคำตอบหรือไง” เอ่ยถามซ้ำอีกครั้ง พลางตวัดสายตากร้าวแข็งมองไล่ไปยังหัวหน้าแผนกแต่ละคนอย่างคาดคั้นเอาคำตอบที่ต้องการ

“ขอโทษครับเจ้านาย พวกผมทำงานสะเพร่า ทำให้ข้อมูลสำคัญของบริษัทรั่วไหล”

“อย่างนี้ควรพิจารณาตัวเอง”

คำพูดผู้เป็นเจ้านายทำเอาทุกคนในที่ประชุมสะดุ้งกันเป็นทิวแถว ถึงแม้งานจะหนัก เจ้านายก็ดุและเข้มงวด ด้วยต้องการให้ผลงานออกมาดี ทว่าผลตอบแทนก็ดีถึงขั้นที่เรียกว่าดีมาก ไม่เพียงแค่เงินเดือนประจำที่สูงลิ่วอยู่แล้ว ยังจะมีสวัสดิการด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักฟรี ยังจะมีอาหารและบริการรถรับส่ง การได้ท่องเที่ยวต่างประเทศฟรีทั้งครอบครัว หากแม้ใครมีบุตรหลานอยู่ในวัยเรียน ก็ยังมีทุนการศึกษาให้ด้วย อย่างนี้แล้วยังมีใครกล้าทุบหม้อข้าวตัวเองอีกเล่า

“ให้เวลาพวกคุณอีกสามชั่วโมงดีไหม ถ้ายังหาคำตอบในเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ คงไม่ต้องให้บอกซ้ำนะ ควรทำยังไง”

พูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องประชุมด้วยสีหน้าเรียบเฉยก็จริง ทว่าในอกนั้นร้อนราวกับมีไฟสุมอยู่ งานนี้ถ้าหวังพึ่งแต่พวกไร้สมรรถภาพเหล่านี้ บริษัทเขาจะต้องเสียหายทั้งด้านชื่อเสียง และความเชื่อมั่นจากกลุ่มบริษัทที่ใช้บริการอยู่ รวมไปถึงเม็ดเงินอันมากมายมหาศาลที่จะต้องสูญเสียไปด้วย แล้วครอบครัวเขาเล่า

งานนี้...เห็นทีเขาต้องลงมือด้วยตัวเองเสียแล้ว!

เสียงเคาะประตูเบาๆ เหมือนไม่กล้า แต่ขัดไม่ได้ดังขึ้น ก่อนมีเสียงคนเปิดเข้ามา เรียกความสนใจจากชายซึ่งยืนเอนกายแอบอิงขอบหน้าต่างหันมองเพียงแค่เล็กน้อย แล้วเมื่อเห็นว่าเป็นใคร ใบหน้าแกร่งกระด้างบึกบึนก็หันกลับไปทอดสายตามองลงไปเบื้องล่าง ซึ่งขณะนี้มีสาวน้อยร่างสูงโปร่งกำลังวิ่งออกกำลังกายอยู่

เธอคนนั้นคงรู้ว่ากำลังถูกมองก็เลยหยุดและเงยหน้าขึ้นมา ก่อนกลีบปากสีชมพูอิ่มนุ่มจะฉีกยิ้ม แก้มขาวนวลอมชมพูระเรื่อป่องออก มือเรียวยกขึ้นโบกไม้โบกมือให้ ก่อนหันไปทำกิจกรรมส่วนตัวต่อไป

“นายครับ” ผู้มาใหม่ยืนรออยู่เป็นครู่ใหญ่ ก่อนเอ่ยเรียกเป็นนายน้ำเสียงอ่อนเบา สีหน้ายุ่งยาก

“มันเป็นใคร” เอ่ยถามเสียงแข็งดุกร้าว นัยน์ตาเข้มดุไม่ผิดแผกกับแววตาสัตว์ร้ายยามค่ำคืน ที่พร้อมกระโจนใส่ศัตรูผู้หมายล่าเอาชีวิต อยากรู้นักใครกล้าเอาของเขาไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

คนถูกถามมองผู้เป็นนายอย่างรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งยวด ในทรวงอัดแน่นไปด้วยความอึดอัด ด้วยข้อมูลที่ได้มามีสิ่งที่นายต้องการเพียงนิดเดียว

“เอ่อ...เรายังควานหาตัวไม่พบเลยครับ คิดว่าการจารกรรมข้อมูลไปขายให้คู่แข่งน่าจะทำมาหลายครั้งแล้ว” สิ้นเสียงคนที่รายงานถึงกับหยุดกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคืองที่สุด หยุดรายงานไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนสูดลมหายใจเข้าปอด เพื่อเรียกเรี่ยวและและพละกำลังที่มีน้อยนิดขึ้นมาบอกกล่าวในสิ่งที่ตนได้ล่วงรู้มา แต่ไร้ซึ่งหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอัน แต่เชื่อว่าข่าวที่ได้รับมามีความจริงเกินครึ่ง

“ตอนนี้...” แม้ตัดสินใจแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ เขากลับพูดไม่ออกเสียดื้อๆ รู้สึกเหมือนมีอะไรมาบีบคอและผ้าอุดปากซ้ำ

รอฟังอยู่ครู่ใหญ่ แต่ก็ไม่มีเสียงใดๆ หลุดออกมาจากปากลูกน้อง ชายหนุ่มถึงต้องหันไปมอง คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อย “อะไร”

“คิดว่าว่าซอฟแวร์เกี่ยวกับการป้องกันและดักจับผู้บุกรุกอันไม่พึงประสงค์ที่อยู่ในช่วงของการทดลองก็อาจถูกจากกรรมไปแล้วด้วยครับ” กว่าจะพูดจบเขาคิดว่าใช้เวลานานเป็นโยชน์ ยิ่งผู้เป็นนายยังคงเงียบกริบอยู่ ทั้งห้องตกอยู่ในภวังค์อันเงียบงัน จนแทบได้ยินเสียงลมหายใจ ที่อึดอัดเหมือนกับมีกระแสลมร้อนผ่าวไหลวนเวียนมาจากทุกสารทิศอัดเข้าตรงที่กล้ามเนื้ออก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 2

    แค่ลักษณะภายนอกของผู้เป็นนาย เรือนร่างสูงใหญ่ราวกับหุ่นทองแดงสำฤทธิ์ ผิวเนื้อสีน้ำตาลคล้ามแดด เครื่องหน้าเข้มจัดยิ่งมีหนวดเคราที่แลเห็นเป็นปื้นเขียวยาวจากข้างแก้มและเหนือริมฝีปาก ดวงตาสีเทาอมเขียวขี้ม้า คมดุใต้กรอบตากว้างลึก มองมาแต่ละครั้งทำให้เขานึกถึงนกอินทรีที่เหินอยู่บนเวหา ใช้สายตาอันแหลมคมและฉับไว มองเห็นเป้าหมายได้จากระยะไกล โจมตีเป้าหมายอย่างแม่นยำ ทำเขากลัวจนฉี่จะราดอยู่แล้วต้องมาเจอกับมาดนิ่งๆ แต่ประกายในดวงตาเจิดจรัสวาวจ้าราวสิงโตตัวเขื่องหมายขย้ำเหยื่อ บวกกับพระอาทิตย์จากด้านนอกสาดแสงส่องมาขับเน้นพายุเพลิงโทสะเป็นราวน้ำแข็งห่อลาวาเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าทวีคูณอีก อากาศในห้องที่เย็นจัดกลับร้อนผ่าวขึ้นมาราวกับอยู่ในเตาอบก็มิปานถ้าเป็นไปได้ เขาอยากบอกว่าตัวเองกลัวจนขี้หดตดหาย อยากวิ่งออกจากห้องไปแล้วไม่ย้อนกลับมาอีก แต่ทำไม่ได้ เพราะเขามีภาระหน้าที่ต้องหาเงินไปจุนเจือครอบครัว รักษาพ่อที่กำลังป่วยด้วยโรคไตเรื้อรัง รวมถึงค่าเทอมน้องที่เหลือเพียงแค่ปีเดียวก็จบแล้ว เขาจะเป็นไทมาเปราะหนึ่ง ดังนั้นไม่ว่าจะต้องเจอเข้ากับพายุร้ายโหมกระหน่ำ จนเรือไม้ผุแทบแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก็ต้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-24
  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 3

    “ไม่รีบไปไหนใช่ไหม นั่งคุยกันก่อนสิ คิดถึงจะแย่ แวะไปหาที่บ้านก็ไม่เคยเจอ แล้วเป็นไงสบายดีใช่ไหม ทำงานอะไรล่ะตอนนี้ หางานอยู่หรือเปล่า ต้องการให้ช่วยอะไรบอกได้นะ”“ดีใจอะไรหนักหนาฮึ ถามยาวเป็นหางว่าวเชียว หยุดหายใจบ้างก็ได้ ฉันยังอยู่ตรงนี้ ไม่ได้หนีหายไปไหน” หญิงสาวกระเซ้ากลับแววตาเป็นประกายสดใส ทอดสายตามองเพื่อนอย่างดีใจเช่นกัน นับตั้งแต่เรียนจบมัธยมปลาย แต่ละคนก็ต้องแยกย้ายกันไปทำตามความฝันของตัวเอง เธอไปเรียนต่อในเมืองหลวง ในขณะที่แสงกล้าก็มีหน้าที่ทำมาหากิน เพื่อช่วยครอบครัวอันมีพ่อและแม่ รวมถึงน้องๆ อีกสองคนแม้จะเป็นเพื่อนสาวที่เห็นกันมาตั้งแต่เล็กๆ เคยร่วมเรียนร่วมเล่น เกือบจะเรียกได้ว่าเคยหนีพ่อแม่มาแก้ผ้ากระโดดน้ำในทะเลเล่นกันอยู่เลย แสงกล้าก็ยังมีความอายเล็กๆ จึงเสมือหนายกขึ้นลูบต้นคอแกร่ง “ก็คนมันคิดถึงนี่น่า เจอหน้ากันตั้งหลายครั้ง แต่ไม่เคยได้พูดกันเลย”“เพราะคนบางคนไม่กล้าเข้ามาทัก กลัวคนใกล้ตัวหึงละมั้ง” กฤติกาอดกระเซ้าหยอกคนขี้อายไม่ได้ รับรู้มาตลอดว่าเพื่อนชายผิวหมึกแต่หน้าหวานคนนี้ แอบรักแอบชอบสาวต่างโรงเรียน ที่เผอิญได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือตอนที่รถมีปัญหา จนถูกเพื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-24
  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 4

    “เออ... ให้มันเจริญๆ แล้วกัน” ไม่รู้จะพูดอะไรดี เพราะอึ้งจนพูดไม่ออกเสียมากกว่า“อ้าว แกพูดอย่างนี้หมายความว่าไงไอ้พระแสงกล้ามีดบิ่น แช่งกันนี่หว่า” ดวงหน้าขาวใสงอง้ำ นัยน์ตากลมใสเริ่มเปล่งประกายเจิดจ้า กลีบปากอิ่มสีชมพูระเรื่อเม้มเข้าหากันอย่างเอาเรื่องแสงกล้าสะบัดศีรษะ ขึ้นชื่อเขาด้วยไอ้และเรียกยาวต่อท้ายมาด้วยสรรพนามแปลกๆ เมื่อไหร่ แสดงว่าเพื่อนสาวไม่เริ่มไม่พอใจแล้ว ให้เขารีบดึงการสนทนาออกไปเส้นทางอื่น ก่อนความโกรธนั้นจะทำให้อีกฝ่ายงัดเรื่องน่าอายๆ ของเขามาพูดประจานให้อายเพื่อนฝูง“ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แกคิดมากไปเองต่างหากล่ะ ว่าแต่แกเถอะ มาจากไหนนะ ไหนว่าเปิดร้านแล้วทำไมถึงไม่เฝ้าร้าน”“ฉันก็มีธุระปะปังกันบ้างสิ จะให้นั่งเฝ้าร้านตลอดยีบสี่ (ยี่สิบสี่) ชั่วโมงได้ไงกัน” หญิงสาวตวัดค้อนขวับๆ ใส่เพื่อนที่พอมีแฟนแล้วรู้สึกว่าหน้าตาจะแจ่มใสขึ้น ยิ้มเก่งหัวเราะง่ายเสียเหลือเกิน เห็นอย่างนี้แล้วชักจะอิจฉา อยากมีแฟนมาคอยดูและกะเขามั่งจัง แต่พอคิดอีกที ไม่ดีกว่า มีลูกกวนตัว มีแฟน (ผัว) กวนใจ มีทั้งลูกมีทั้งแฟน (ผัว) กวนทั้งตัวกวนทั้งใจ “พอดีแม่มาหานะ ฉันเลยถือโอกาสมาส่งของไปรษณีย์

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-24
  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 5

    “เขาชื่อริวาโก้ คาสซายะ”“อ๋อ...อะไรนะ วันวันโก้ คัดจายะ เออ...แปลกดีนะ ทั้งชื่อทั้งนามสกุลเลย พ่อแม่ตั้งมาได้ไงหว่า? ชื่อยังกับคนเป็นหวัด” แสงกล้าแกล้งผันชื่ออีกฝ่ายให้ผิดเพี้ยนไปด้วยตั้งใจล้อเพื่อน“รู้ไหมยายลูกเจี๊ยบ ตอนนั้นกลัวใจแกจะแย่ กลัวทนเก็บความรักเอาไว้ในอกไม่ไหว รีบไปสารภาพรักและเอาไม้หน้าสามตีหัวไอ้ฝรั่งดองนั่นพาเข้าห้องปล้ำเขาเสียแล้วนะ” แบะปาก พร้อมเสียงขลุกขลักในลำคอ กลั้นหัวเราะจนหน้าคล้ำแดดเริ่มมีสีแดงแต้ม“เออ...ทีใครทีมันนะไอ้กล้า” กฤติกายกมือชี้หน้าเพื่อน จมูกเล็กโด่งได้รูปยู่ย่น กลีบปากอิ่มนุ่มยู่ยื่นถึงวันนี้เธอก็ยังไม่กล้าบอกความในใจให้กับเพื่อนหนุ่มคนที่ถูกเอ่ยถึงได้รู้ แต่ยังดีที่ก่อนอีกฝ่ายจะตามบิดากลับไปประเทศ เธอและริวาโก้ได้กลายเป็นเพื่อนกันแล้ว จึงไดมีการติดต่อทางจดหมาย ก่อนจะมาเปลี่ยนเป็นการสื่อสารในโลกออนไลน์อย่างปัจจุบัน และไม่ค่อยจะอายสักเท่าไหร่ ถ้าจะพูดคุยเรื่องความรู้สึกภายในที่เหมือนกับการแย้มๆ เปิดหัวใจให้อีกฝ่ายได้ล่วงรู้ถึงความภายในใจที่มีให้“ไม่แขวะฉันสักครั้ง แกกินปลาแล้วก้างมันติดคอหรือไงวะ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างกระแทกกระทั้น หน้าบูดบึ้ง“

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-24
  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 6

    “บอก...ไม่บอก แล้วเรื่องอะไรฉันจะบอกแกล่ะ บอกไปก็ไม่เป็นความลับสิ ไม่บอกหรอกย่ะ” หญิงสาวยกนิ้วชี้ขึ้นส่ายไปมา นัยน์ตาใสพร่างพราวระยับ ทำเสียงขลุกขลักในลำคอ อย่างบอกให้รู้ว่ากำลังกลั้นหัวเราะอย่างสุดความสามารถ ดูได้จากแก้มนวลเนียนใสที่สีระเรื่อขึ้นป่องออก“แกเก่งไม่ใช่เหรอ เดาเอาเองสิ” ความจริงเธอยังนึกไม่ออกว่าจะพูดอะไร แค่ขู่เอาไว้ก่อนเท่านั้นเองแหละ“บอกมานะแก ไม่งั้นฉันไม่พาแกกลับนะโว้ย”กฤติกาหน้ามุ่ยเมื่อผู้เป็นเพื่อนเล่นมุกนี้ จะทำไงได้ก็เธอดันขอติดรถอีตาผิวหมึกนี่มาซะด้วย หญิงสาวกลอกตาไปมากอย่างคนคิดหนัก “อ๊ะ...ฉันบอกแกก็ได้ จะทำอะไร แกเอาหูมาใกล้ๆ สิ จะได้บอกเสียงดังๆ ฟังชัดๆ ” คิดว่าเธอจะแพ้ง่ายๆ งั้นหรือ หึ...คิดผิดเสียแล้วไอ้เพื่อนเกลอ“แกมีแผนอะไรหรือเปล่ายายลูกเจี๊ยบ” จะไม่ให้เขาถามอยางนี้ได้ยังไง ก็ดวงตายายเพื่อนตัวแสบมันเปล่งประกายพร่างพราวระยับเหลือเกินนี่น่า ต้องหาเรื่องคิดแกล้งเขาอยู่แน่ ๆ“เปล๊า” กฤติกาตอบปฏิเสธเสียงสูงลิ่ว สะบัดศีรษะจนเส้นผมกระจาย แถมฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันซี่เล็กขาวสะอาดเรียบตัวกันอย่างเป็นระเบียบ หลุบตาเล็กน้อยปิดบังความเจ้าเล่ห์ไม่ให้เพื่อนหนุ่มได

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-24
  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 7

    ใบหน้านวลผุดผ่องถึงกับบึ้งตึง เธอรึก็พูดออกจะเสียงดัง ทว่าชายหนุ่มร่างหนาใหญ่ จนทำให้นึกถึงตัวเจ้าลิงตัวโตราวกับตึกสามชั้นนามคิงคองยักษ์ที่เพิ่งดูผ่านไปเมื่อไม่กี่วันนี้เอง กลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง อ้อ...ไม่ใช่ไม่มีนะ มีเป็นรัศมีเย็นๆ ปะปนด้วยความเกรี้ยวกราดลอยมามากระทบ ทำให้ต้องรีบสาวเท้าบอบบางถอยร่นออกมา แต่การไพล่ไปสะดุดอะไรก็ไม่รู้ของเธอกลายเป็นปัญหา เพราะเมื่อทิ้งน้ำหนักลงไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น อาการปวดแปลบที่ข้อเท้าก็แผ่ซ่านขึ้นมาเป็นสาย“อูย!!” กฤติกาเผลอร้องเบาๆ เจ็บจนหน้านิ่ว รีบเอียงตัวลงจับ ดูเหมือนวันนี้จะเป็นวันซวยของเธอจริงๆ ตั้งแต่เช้าที่เมื่อตื่นนอนเพราะฝันร้ายเลยพลัดตกจากเตียงนอนขนาดสามฟุต มีผ้าห่มนวมผืนโตห่อมัดกายราวกับมัมมี่ เปิดประตูห้องน้ำก็ดันเอาหน้าผากโขกไปกับประตู ดีว่าหัวไม่โนให้อับอายแสงกล้าที่หากรู้จะต้องเอามากัด ก่อนขึ้นรถมานี่ก็ดันไปเหยียบเอาเปลือกกล้วยถลาเกือบจะล้มตะครุบกบ ดีว่าเอามือยันตัวรถไว้ได้เสียก่อน“เป็นอะไร” ชายหนุ่มถามเสียงดุไม่แพ้วงหน้าที่เรียบเฉยจนเป็นเย็นชา ยื่นมือไปช่วยจับร่างเล็กที่เอียงจะล้มแหล่มิล้มแหล่อย่างเร็ว‘คิดจะอ่อยเขาด้วยการแสร้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-24
  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 8

    กฤติการู้เพียงแค่ว่าวินาทีนี้เธออยากกรีดร้องอย่างนางมารร้ายที่ถูกนางเอกแย่งแฟนอย่างในละครทีวีเสียเหลือเกิน ผู้ชายอะไรบ้าชะมัด...ปากจัดยิ่งกว่ากรรไกรโรงพยาบาล ต่อให้หน้าตาคมเข้มหล่อเหลาราวกับพระเอกหนัง แต่อ้าปากพูดแล้วเหมือนกับเพาะพันธุ์ไอ้ด่างสี่ขาไว้จนเต็มอย่างนี้ จากคะแนนสิบเต็มที่ให้เมื่อแรกเจอ ตอนนี้น่ะหรือลดฮวบฮามแถมติดลบสิบด้วย กลายเป็นผู้ชายที่สมควรจะจรลีหลีกหนีไปให้ไกล ๆ ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะเอามาทำพันธุ์!“เฮ้ย!! จะทำอะไรนะ โอ๊ย!! ไอ้คิงคอง ฉันเจ็บนะโว้ย ปล่อย!!” ทุบไปบนร่างหนายักษ์ที่ยังไงก็ไม่ได้สะดุ้งสะเทือนเลยสักนิด แถมยังจะเงยหน้าเย็นชา นัยน์ตาดุกร้าวมองมา โดยมือยังจับอยู่ที่ข้อเท้าของเธอ“จะหักขาทำให้เธอให้เดินไม่ได้ แทนการหาผ้าขี้ริ้วมาอุดปากเธอ” ชายหนุ่มขู่เสียงต่ำในลำคอ แยกเขี้ยวโง้งใส่ คำพูดจากปากหนายังไม่ทันจะขาดดี ความเจ็บร้าวราวกับกระดูกจะหักกร๊อบดังสะเทือนเลื่อนลั่นในหูกฤติกา“โอ๊ย!! ไอ้คิงคอง แกจะฆ่าฉัน...หรือไงหา ไอ้บ้า!!” กลีบปากสีชมพูอิ่มระเรื่อหวีดร้องเสียงหลง น้ำตาหยดแหมะลงบนร่องแก้ม อีตาคิงคองยักษ์นี่หักขาเธอทิ้งแล้วใช่ไหม!ดวงหน้านวลงอง้ำ ขบกัดกลีบปากท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-24
  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 9

    ถึงแม้ไม่มีหลักฐานใดบ่งบอกและเหตุผลรองรับ ทำไมเขาถึงได้เลือกตามสามคนนั้นมาเมืองไทย ไม่เลือกตามอีกกลุ่มเขาไป คงเป็นเพราะเชื่อในสัญชาติญาณที่บ่งบอกว่า สามคนนี้มีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติไป ซึ่งเขาจะต้องตามหาตัวให้เจอ พร้อมหาหลักฐานมาผูกมัดตัวคนพวกนั้น หรือใครคนใดคนหนึ่งที่กล้ากระตุกหนวดเสือร้ายอย่างเขาให้จงได้เหตุการณ์ในครานี้บอกให้เขาได้ล่วงรู้ว่า คนที่ทำเรื่องนี้มีพวกด้วยเช่นกัน การเดินทางที่สมควรเป็นความลับ ด้วยเขาปิดทุกคนแม้กระทั่งคนในครอบครัว แต่ก็ยังมีคนล่วงรู้จนได้ แล้วยังส่งยายผู้หญิงปากเสียมาแย่งชิงคอมพิวเตอร์ไปอีก คงคิดว่าข้อมูลสำคัญนั่นจะอยู่ในเครื่องล่ะสิ เขาไม่โง่ซ้ำสองซ้ำสามแบบนั้นหรอก อีกอย่างเกิดเหตุการณ์นี้ก็ดีเหมือนกัน เขาจะได้รู้ว่าการมาหาหลักฐานครั้งนี้มีมารคอยขัดขวางอยู่ จะได้ระมัดระวังตัวไม่ให้ตัวเองและลูกน้องที่ตามมาเป็นอันตราย“ครับ” ที่รับปากน่ะไม่ใช่เพราะจะตามหาตัว แต่งุนงงต่างหาก ด้วยคำพูดคนเป็นนายนั้นดูเหมือนจะไม่ได้ให้หาด้วยจิตพิศวาสแต่อย่างใด หากแต่หาด้วยจิตมุ่งหมายคิดร้ายเสียมากกว่า เจอกันเพียงครั้งเดียว แม่ตัวเล็กนั่นไปทำอะไรให้นายเขาไม่พอใจ จึงจัดให้ถึงเพี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-24

บทล่าสุด

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 90 (จบ)

    “ใคร...มันเป็นใครกล้ามาอยู่ห้องลูกไก่” คิ้วเข้มขมวดมุ่นเข้าหากัน “ทำอย่างนี้ได้ยังไงลูกไก่ ไหนสัญญาแล้วไง เธอจะรอฉันน่ะ” ชายหนุ่มแสร้งถามทั้งที่ก็รู้ดีว่าไม่มีผู้ชายคนไหนเข้าใกล้แม่ลูกไก่น้อยของเขาได้ในระยะห้าเมตร ด้วยเขามีผู้ช่วยมือดีคอยดูแลให้อยู่ ซึ่งถ้าหากเธอรู้ละก็...มีหวังคนส่งข่าวคงกลายเป็นกระสอบทรายไม่แพ้เขานัยน์ตาเข้าสีเทาปนเขียวขี้ม้าเป็นประกายแพรวพราวระยับอย่างน่าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง “เป็นใครแล้วคุณยุ่งอะไรด้วยละ ไม่ได้เป็นอะไรกับฉันสักหน่อย” ตอบกลับอย่างยียวน คอยจับตามองคนตัวใหญ่ที่เต็มไปด้วยพิรุธมากมาย “อีกอย่างถ้าฉันแต่งงานมีสามีเป็นตัวเป็นตน มันผิดแปลกตรงไหน คนมันสวยนี่น่า” หญิงสาวเอ่ยพร้อมเชิดหน้าขึ้นสูงอันเจโล่เกือบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ไหว นี่คงไม่รู้สิน่าว่าเขารู้การเคลื่อนไหวของเธอตลอดเวลานะ “ไม่จริง ก็ไหน...” แสร้งเอ่ยถามอย่างร้อนรน แต่กลับหลุดบางอย่างออกไปจนคนตัวเล็กจับพิรุธมองมาอย่างจ้องจับผิด“ไหนอะไร” กฤติกายกมือเท้าสะเอว จ้องเข้าไปในดวงตาซ่อนความเจ้าเล่ห์ไว้ไม่มิด “บอกมานะ ไม่งั้นลูกไก่โกรธจริง ๆ ด้วย” เธอพยายามขู่เสียงเข้มให้อีกฝ่ายกลัว ทว่าแปลกยิ่งนักที่อั

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 89

    “ใคร...มันเป็นใครกล้ามาอยู่ห้องลูกไก่” คิ้วเข้มขมวดมุ่นเข้าหากัน “ทำอย่างนี้ได้ยังไงลูกไก่ ไหนสัญญาแล้วไง เธอจะรอฉันน่ะ” ชายหนุ่มแสร้งถามทั้งที่ก็รู้ดีว่าไม่มีผู้ชายคนไหนเข้าใกล้แม่ลูกไก่น้อยของเขาได้ในระยะห้าเมตร ด้วยเขามีผู้ช่วยมือดีคอยดูแลให้อยู่ ซึ่งถ้าหากเธอรู้ละก็...มีหวังคนส่งข่าวคงกลายเป็นกระสอบทรายไม่แพ้เขานัยน์ตาเข้าสีเทาปนเขียวขี้ม้าเป็นประกายแพรวพราวระยับอย่างน่าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง “เป็นใครแล้วคุณยุ่งอะไรด้วยละ ไม่ได้เป็นอะไรกับฉันสักหน่อย” ตอบกลับอย่างยียวน คอยจับตามองคนตัวใหญ่ที่เต็มไปด้วยพิรุธมากมาย “อีกอย่างถ้าฉันแต่งงานมีสามีเป็นตัวเป็นตน มันผิดแปลกตรงไหน คนมันสวยนี่น่า” หญิงสาวเอ่ยพร้อมเชิดหน้าขึ้นสูงอันเจโล่เกือบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ไหว นี่คงไม่รู้สิน่าว่าเขารู้การเคลื่อนไหวของเธอตลอดเวลานะ “ไม่จริง ก็ไหน...” แสร้งเอ่ยถามอย่างร้อนรน แต่กลับหลุดบางอย่างออกไปจนคนตัวเล็กจับพิรุธมองมาอย่างจ้องจับผิด“ไหนอะไร” กฤติกายกมือเท้าสะเอว จ้องเข้าไปในดวงตาซ่อนความเจ้าเล่ห์ไว้ไม่มิด “บอกมานะ ไม่งั้นลูกไก่โกรธจริง ๆ ด้วย” เธอพยายามขู่เสียงเข้มให้อีกฝ่ายกลัว ทว่าแปลกยิ่งนักที่อั

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 88

    “ยิ้มนะลูกไก่ ให้กำลังใจฉันไปทำหน้าที่ของตัวเอง เอาชนะพวกมารและจะได้รีบกลับมาหาเธอ” บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเขาตั้งใจเอ่ยคำนี้หรือเปล่า แต่เอ่ยออกไปแล้วก็ไม่ได้เสียใจ เมื่อเห็นรอยยิ้มดีใจของแม่เนื้อนุ่มหวาน“คุณเจ” หัวใจถึงกับโป่งพองราวลูกโป่งอัดแก๊ส จนลอยลิ่วไปบนฟากฟ้าสีครามสดใส ก่อนดวงหน้าผ่องพรรณจะหมองหม่นลงเมื่อเสียงประกาศเตือนดังมาอีกครั้ง ที่ทำให้เธอตัดสินใจทำอย่างแสงกล้าพูด...เอ่ยบอกเขาให้รู้ความจริงในใจ ดีกว่าเก็บเอาไว้ในอกพร้อมความเจ็บช้ำ ได้บอกรักแม้ต้องผิดหวัง ยังดีกว่าไม่ได้บอกให้เขารู้กฤติกาจับมือใหญ่ มองเข้าไปในแววตาเข้ม “ลูกไก่มาเพราะมีเรื่องสำคัญอยากบอกคุณเจค่ะ...” สูดลมหายใจเข้าปอด รวมรวมความกล้า“ลูกไก่...รักคุณเจค่ะ” กฤติกาเอ่ยเสียงเข้มและหนักแน่นอันเจโล่เต็มตื้นกับคำรักที่ได้ยินจนหัวใจคล้ายลูกโป่งที่ถูกสูบแก็สอัดไปจนเต็มลอยพุ่งขึ้นบนฟากฟ้าในทันควัน “ลูกไก่!” สมควรเป็นเขาที่ต้องเอ่ยบอกคำนี้ออกไปก่อน แต่นี่คนตัวเล็กกลับ...เขายอมแพ้ใจเธอจริงๆ แขนกำยำสอดรวบกอดร่างเล็กแนบอก“ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี คงมีแค่คำนี้...ขอบใจนะลูกไก่ที่รักคนนิสัยไม่ดีอย่างฉัน” คำเล็ก ๆ ที่มีอาน

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 87

    อันเจโล่ผ่อนลมหายใจออกจากปอดแผ่วเบา แม้อยากยืดเวลาออกไปแม้แค่เสียววินาที เพื่อให้ตัวเองได้เฝ้ารอด้วยความหวังอีกครั้ง ทว่าสุดท้ายแล้วเขาก็จำต้องยอมรับความจริง กฤติกาไม่มาร่างหนาผุดลุกจากเก้าอี้ที่นั่งด้วยเท้าที่หนักอึ้งจนแทบเดินต่อไม่ไหว ในหัวใจราวกับถูกเศษแก้วแตกที่ฝังอยู่ในก้อนเนื้อบาดเฉือนทุกการหายใจ เหมือนโลกที่ยืนอยู่แปรปรวน แผ่นดินไหวโยกทำให้เขายืนทรงตัวไม่อยู่ จนต้องเฝ้าถามย้ำกับตัวเองอีกครั้ง เป็นอะไรไป?“นายครับ”“มีอะไร”“จะเปลี่ยนใจก็ยังทันนะครับ” กลับไปคราวนี้ศึกหนักหนาสาหัสรอนายอยู่ แล้วก็ไม่รู้จะใช้เวลานานเท่าไหร่ ถึงสามารถเคลียร์เรื่องราวให้มันจบลงไปด้วยดี เขาอยากให้นายได้มีเวลาอยู่กับกฤติกาอีกหน่อย ได้เก็บช่วงเวลานี้ไว้เป็นกำลังใจยามที่ต้องต่อสู้กับเรื่องร้าย“ฉันไม่เป็นไร” อาการเขาคงหนักมากจริงๆ แม้กระทั่งลูกน้องยังสังเกตเห็นได้“จะให้คุณ...”“อย่าเลย” รู้ว่าเดโก้จะเสนออะไร เขาเองก็เคยคิดแวบ ๆ แต่คิดแล้วคิดอีกหลายตลบอยู่ ส่วนหนึ่งก็เพื่อความปลอดภัยของกฤติกา แต่อีกส่วนก็มาจากตัวเองที่ดันปากหนักเองช่วยไม่ได้ ถ้าเอ่ยปากชวนแม่เนื้อนุ่มไปด้วยนะ ป่านนี้ก็มีเธอข้างกายเรียบร้

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 86

    “ลูกไก่” เอ่ยเรียกเสียงแหบพร่า ฝ่ามือหนาไล้ลูบอย่างแผ่วเบาอ่อนโยน ริมฝีปากร้อนผ่าวทาบทับจุมพิตไต่เลื่อนเคลื่อนไปบนผิวกายเนียนนุ่มลื่นราวกับแพรไหมอย่างเชื่องช้า“ขา...” กฤติกาขานรับ เพียงแค่มองสบนัยน์ตากับอีกฝ่ายก็รู้แล้วว่าเขาต้องการสิ่งใด ไม่จำเป็นต้องเอ่ยด้วยคำพูดอีกแล้ว... “เมื่อไหร่คะคุณเจ” เธออยากรู้ มีเวลานานเท่าไหร่ในอ้อมแขนแกร่งนี้“พรุ่งนี้” ตอบกลับเสียงพร่าแหบราวกับในอกถูกก้อนหินไร้น้ำหนักกดทับอยู่“เร็วจังเลยนะคะ” เปรยเสียงแหบแห้ง อยากขอเขาว่าอย่างเพิ่งไปได้ไหม อยู่กับเธออีกสักวันได้ไหม แต่กฤติกาก็พูดไม่ออก ด้วยรู้ถึงความอึดอัดใจของอีกฝ่าย คงทำได้แค่...ใช้เวลาที่มีอยู่ให้มีค่าที่สุด เก็บเอาไว้เป็นความทรงจำในวันต้องจากร้างห่างลากัน“ฉัน...” ถ้าเธอพูดอะไรนอกจากนี้สักคำ เขาคงรู้สึกดีกว่าการได้รับรอยยิ้มแห้งๆ นัยน์ตาหวานเศร้าอมโศกอย่างนี้นิ้วยาวเล็กยื่นไปทาบบนปากหนา “ไม่เป็นไรค่ะ ลูกไก่รู้ว่าคุณเจจำเป็น แค่...คืนนี้ เรา...” ปวดร้าวไปหมดทั้งทรวงจนพูดไม่ออก“ฉันรู้...คืนนี้ จนถึงเวลานั้น” ไม่อยากพูดถึงเวลาจำต้องลาจาก “เราจะมีกันและกันใช่ไหมลูกไก่”“ค่ะ...เราจะมีกันและกัน” กฤติกา

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 85

    “ว่าไงอันเจโล่ จะบอก หรือจะให้ลูกไก่เจ็บมากกว่านี้”“อย่านะคุณเจ อย่า...‘บอก’” กลายเป็นเสียงกรีดร้องแทน เมื่อบาดแผลถูกกดเปิดออกจนเลือดไหลซึมออกมา“ลูกไก่!” กัดฟันกรอด อยากลุกขึ้นไปช่วยแม่หวานใจจนตัวสั่น แต่เพราะถูกจับเอาไว้เลยต้องทนเห็นแม่เนื้อนุ่มร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด จะไม่สัญญาใด ๆ ทั้งสิ้น แต่มีโอกาสพาตัวเองหลุดรอดไปเมื่อไหร่ ริวาโก้ต้องรับผิดชอบในความเจ็บของลูกไก่น้อย แน่นอน!“ว่าไงอันเจโล่ หรือจะให้ฉัน...” ไม่ได้ยินดีกับความเจ็บปวดของใคร แต่มันจำเป็น“ได้” กัดฟันกรอดขณะตอบอีกฝ่าย “ฉันยอมบอก แต่แกห้ามทำร้ายลูกไก่”“ไม่นะคุณเจ! ยะ...อย่า...” กฤติการ้องห้ามก่อนเสียงจะขาดหายไป ด้วยเจ็บและหน้ามืด พ่วงด้วยความรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งร่าง แต่กลับรู้สึกเหมือนมีเหงื่อผุดไหลข้างขมับและแผ่นหลัง“อย่าคิดตุกติกนะอันเจโล่ แกทำเมื่อไหร่ เตรียมตัวเห็นลูกไก่กลายเป็นคนที่มีร่างที่ไร้วิญญาณแน่นอน” ไม่ได้ขู่แม้แต่นิดเดียว เอาจริงทุกคำพูดด้วย เขายอมทำทุกอย่างทุกทางเพื่อให้อันเจโล่และครอบครัวประสบกับความหายนะ แก้แค้นให้กับตัวเองและทุกๆ คนที่ถูกกระทำจากครอบครัวนี้ให้สาสม!อันเจโล่มองดวงหน้าผุดผาดขาวซีด

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 84

    อันเจโล่หน้าตึง ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ บิดามีเบื้องลึกเบื้องหลังอันไม่ดี แต่ไม่ว่าจะยังไง ท่านก็คือบิดาผู้ให้กำเนิด “พ่อฉันไปทำอะไรแก อย่าพูดใส่ความคนอื่นลอย ๆ ถ้าหากไม่มีหลักฐาน” พ่อเขาคงไม่ได้ไปฆ่าไปแกพ่อแม่หรือผู้มีพระคุณของอีกฝ่าย ให้ต้องตามมาจองล้างจองพลาญตอนโต อย่างกับนิยายน้ำเน่าหรอกนะฮึ...ริวาโก้ปาดเหงื่อบนหน้า หันไปยิ้มหยันใส่พ่อลูกชายสุดแสนเลิศประเสริฐศรี ที่ถึงตอนนี้ยังให้ความรักและเคารพไอ้พ่อเลว ๆ ที่ทำร้ายลูกตัวเองลับหลังได้ลงคอ อยากรู้นักถ้าได้รู้ความจริง คู่ควงของตัวเองลับหลังถูกคนเป็นพ่อลากเข้าห้อง ปู้ยี้ปู้ยำไปไม่รู้สักกี่คนต่อกี่คน อันเจโล่รับได้หรือเปล่าชายหนุ่มพาร่างเพรียวเดินคล้ายคนเมา ทรงตัวไม่ได้ไปหยุดและค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งเบื้องหน้าอันเจโล่ นิ้วยาวไล้บนแก้มตอบเรื่อยลงมาถึงคางบึกบึน ก่อนลากเลยไปถึงจอนหูอีกฝั่ง โน้มใบหน้าไปแนบกับหู หลับตา ซึมซับเอาความอับอายและเจ็บปวดจากการถูกผู้ชายวัยคราวพ่อสั่งให้ถูกน้องจับเอาตัวขึ้นรถ ลากเข้าโรงแรมแล้วทำอย่างกับว่าเขาเป็นผู้หญิงขายเรือนร่าง น้ำตาอุ่น ๆ เอ่อล้นคลอหน่วยตา“พ่อแกข่มขืนฉัน!”“แกเอาเรื่องบ้าบอเฮงซวยอะไรมาใส่ความพ่อฉ

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 83

    “จะไปไหนลูกไก่ มานี่เลยยายตัวดี” ยื่นมือไปอย่างเร็วจนคว้าเอาเส้นผมหนานุ่มดึงกลับมาอย่างไม่ปรานีปราศรัย วงหน้าแดงปลั่งด้วยเพลิงโทสะ นัยน์ตาฉายแววเกรี้ยวกราดกฤติการ้องโอ๊ยดังลั่น สองมือจับผมบนศีรษะ ดวงหน้าผ่องพรรณเหยเกบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บจากแรงกระตุก พลางสาวก้าวเท้าถอยกลับไปด้านหลังอย่างเร็วรี่ เพราะถ้าขืนดันทุรังไป จะทำให้ตัวเองต้องเจ็บตัวมากขึ้น“ปล่อยฉันนะริวาโก้” กฤติกาพูดเมื่อทนไม่ไหว เจ็บจนน้ำตาแทบไหล เมื่อพูดไปแล้วริวาโก้กระตุกจนในหูได้ยินเสียงดังกราว ราวกับเส้นผมจะหลุดร่วงออกมาทั้งแผง“อย่าทำอะไรลูกไก่นะไอ้ริวาโก้”“ตัวมึงเอง มึงยังเอาไม่รอดเลย ยังจะมาห่วงคนอื่น” หัวเราะใส่หน้า พลางสอดมือมาจับกุมลำคอระหง “ถ้ากูจะหักคอสวย ๆ นี่ทิ้ง มึงจะทำอะไรกูหา...ไอ้อันเจโล่”“ไอ้เลว!” อันเจโล่ฮึดฮัด แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะตัวเองก็ถูกคุมอยู่ จนแขนแทบจะหักออกเป็นสองท่อน “ถ้ากูหลุดไปได้ มึง...พลั่ก!!” พูดไม่ทันจบหมัดหนัก ๆ ก็สวนเข้ามาที่มุมปากเสียก่อน ชายหนุ่มเหลียวไปมองคนที่ทำให้เขาเจ็บด้วยนัยน์ตาดุร้ายราวกับเสือลำบาก ที่พร้อมสู้ไม่เหลียวหลังหนีอีกแล้ว“เอาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่าไหมคุณอันเจโล่

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 82

    “ลูกไก่ไม่เป็นอะไรค่ะ แต่คุณเจน่ะสิ รู้อยู่แล้วว่าคนพวกนั้นเขาต้องการอะไร ยังจะ...” ถ้าเธอไม่บ้าจนเพี้ยนฟังอะไรผิดพลาดไปจนจนกลายเป็นความสะเพร่า ปล่อยให้ตัวเองถูกจับเอาตัวมาเพื่อต่อรองกับอันเจโล่ละก็ ป่านนี้ชายหนุ่มจัดการพวกตัวร้ายพวกนี้จนหมอบราบคาบแก้วไปแล้วบ้าจริง...กลีบปากอิ่มนุ่มขบเม้มเข้าหากัน ก้มหน้าหมองเศร้าด้วยความรู้สึกผิด น้ำตาอุ่นร้อนเอ่อล้นคลอเบ้า เพราะเสียใจที่ตัวเองกลายเป็นต้นเหตุให้อันเจโล่ต้องเพลี่ยงพล้ำ แล้วยังกลายเป็นตัวภาระให้ชายหนุ่มต้องคอยกังวลในความปลอดภัยอีก“ร้องไห้ทำไมล่ะลูกไก่” อันเจโล่จับรั้งปลายคางมนให้แหงนขึ้นมองสบตาด้วย นิ้วยาวร้อยไกล่เกลี่ยกดซับหยดน้ำที่เอ่อล้นไหลซึมลงมาตามร่องแก้ม “หรือกลัวฉันเป็นอันตรายฮึ”“แต่ถ้าไม่มีลูกไก่สักคน คุณเจก็คงไม่...”อันเจโล่รีบยกมือปิดปากคนตัวเล็ก ศีรษะทุยสะบัดส่ายเบาๆ “ถึงไม่มีเธอ ริวาโก้ก็ต้องหาทางเล่นงานฉันจนได้นั่นแหละ เพียงแค่ประจวบเหมาะเล็กน้อยเท่านั้นเอง ไม่เป็นไรหรอกเรื่องขี้ปะติ๋ว ฉันรับมือได้สบายมาก” แม้จะกังวล ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ไม่สู้ดีเอาเสียเลย หนทางหนีแทบปิดตาย ด้วยเมื่อมองไปรอบทิศทั่วทุกทางก็ล้วนแล้วแต่ท้อ

DMCA.com Protection Status