Share

chapter 8

Author: จิ่วเทียนอี้อี
last update Last Updated: 2024-11-26 10:50:35

กฤติการู้เพียงแค่ว่าวินาทีนี้เธออยากกรีดร้องอย่างนางมารร้ายที่ถูกนางเอกแย่งแฟนอย่างในละครทีวีเสียเหลือเกิน ผู้ชายอะไรบ้าชะมัด...ปากจัดยิ่งกว่ากรรไกรโรงพยาบาล ต่อให้หน้าตาคมเข้มหล่อเหลาราวกับพระเอกหนัง แต่อ้าปากพูดแล้วเหมือนกับเพาะพันธุ์ไอ้ด่างสี่ขาไว้จนเต็มอย่างนี้ จากคะแนนสิบเต็มที่ให้เมื่อแรกเจอ ตอนนี้น่ะหรือลดฮวบฮามแถมติดลบสิบด้วย กลายเป็นผู้ชายที่สมควรจะจรลีหลีกหนีไปให้ไกล ๆ ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะเอามาทำพันธุ์!

“เฮ้ย!! จะทำอะไรนะ โอ๊ย!! ไอ้คิงคอง ฉันเจ็บนะโว้ย ปล่อย!!” ทุบไปบนร่างหนายักษ์ที่ยังไงก็ไม่ได้สะดุ้งสะเทือนเลยสักนิด แถมยังจะเงยหน้าเย็นชา นัยน์ตาดุกร้าวมองมา โดยมือยังจับอยู่ที่ข้อเท้าของเธอ

“จะหักขาทำให้เธอให้เดินไม่ได้ แทนการหาผ้าขี้ริ้วมาอุดปากเธอ” ชายหนุ่มขู่เสียงต่ำในลำคอ แยกเขี้ยวโง้งใส่ 

คำพูดจากปากหนายังไม่ทันจะขาดดี ความเจ็บร้าวราวกับกระดูกจะหักกร๊อบดังสะเทือนเลื่อนลั่นในหูกฤติกา

“โอ๊ย!! ไอ้คิงคอง แกจะฆ่าฉัน...หรือไงหา ไอ้บ้า!!” กลีบปากสีชมพูอิ่มระเรื่อหวีดร้องเสียงหลง น้ำตาหยดแหมะลงบนร่องแก้ม อีตาคิงคองยักษ์นี่หักขาเธอทิ้งแล้วใช่ไหม!

ดวงหน้านวลงอง้ำ ขบกัดกลีบปากที่สั่นระริกไม่ยอมให้เสียงสะอื้นหลุดออกจากปาก ‘โอ๊ย!! แล้วนี่ไอ้เพื่อนบ้าแสงกล้าไปอยู่เสียที่ไหนนี่ ทำไมถึงไม่มาช่วยเพื่อนสาวผู้แสนจะน่ารักและบอบบางอย่างเธอนะ คอยดูนะอีตาผิวหมึก จะ...จะชงกาแฟๆ ใส่ปรอทให้กิน’ หญิงสาวก่นถึงเพื่อนพร้อมฝากความอาฆาตไว้ในใจ ถ้าแสงกล้าอยู่ด้วยอีตาคิงคองยักษ์นี่คงไม่กล้าทำร้ายเธออย่างนี้หรอก

ดวงตาใสเปล่งประกายวิบวับ ทำให้เขานึกถึงดวงตะวันที่สาดทอแสงโลมไล้ล้อหลอกเล่นกับน้ำทะเลสีใส จนกลายเป็นแสงระยิบระยับ

ผู้หญิงคนนี้นัยน์ตาเหมือนจะพูดได้ บ่งบอกถึงอารมณ์ที่รู้สึก มันทำให้เขาคิดว่า ถ้าได้ตะปบเล่นบนเตียง...สีหน้าและแววตาจะเป็นแบบไหน...นี่เขาคิดอย่างนี้กับผู้หญิงที่เพิ่งจะเจอได้ยังไงกัน อันเจโล่รีบสะบัดศีรษะไล่ความคิดแปลก ๆ ที่ผุดขึ้นมาในสมองทิ้งไปและหยิบเอาหน้ากากแห่งความเฉยชาขึ้นมาสวมอีกครั้ง

“ถ้าฉันจะฆ่าเธอ ป่านนี้เธอคอหักหมุนได้สามร้อยหกสิบองศา นอนแอ้งแม้งอยู่มุมไหนของสนามบินนี้แล้วก็ไม่รู้ แต่ไอ้ที่ทำไปนี่นะ ถือว่าสงเคราะห์ยายปากปลาร้าค้างปีให้กลับบ้านได้ โดยไม่ต้องเดินลากขาราวกับถูกใครเอาไม้มาดักตี” 

กฤติกาอ้าปากค้าง ถ้าเปรียวดวงหน้าเธอเป็นดอกไม้ละก็ คงเป็นดอกชบาที่เบ่งบานตอนเช้าและเหี่ยวหุบเมื่อตกเย็น กลีบปากเม้มเข้าหากัน นัยน์ตาวาวจ้าสาดมองไปยังกลุ่มหนุ่มร่างใหญ่อีกสองคนที่ตามติดคิงคองยักษ์ ซึ่งตอนนี้กลั้นหัวเราะเธอจนหน้าขาววอกราวกับตูดลิงกังแดงปลั่งยิ่งกว่าผลเชอร์รี่แล้ว

ชิ...อีตาปากเสีย ฉันเจ็บขาหรอก ถึงหาคำเถียงนายไม่ทันนะ ไอ้ฝรั่งขี้นก

“เออ...ขอบคุณ แต่วันหลังไม่ต้องก็ได้นะ ฉันมันคนพื้นที่ ยังไงก็มีคนมาช่วย ผิดกับพวกคุณ...คุณและคุณ” ชี้หน้าแต่ละคนอย่างไม่หวั่นเกรงรัศมีเย็นยะเยือกที่แผ่ซ่านมา

“ขืนพูดมากปากอมไอ้ด่างสี่ขาไว้แบบนี้นะ นอกจากเขาจะไม่ช่วยกันแล้ว ยังจะร่วมรุมสะกรัมให้หม่ำบาทารสเบอร์เจ็ดเบอร์แปดด้วย” สะบัดข้อเท้าดูเห็นว่าดีขึ้นแล้ว กฤติกาก็รีบผุดลุกขึ้นอย่างเร็วไว พร้อมคว้าเอากระเป๋าที่อยู่ในมือหนึ่งหนุ่มแล้วเดินลากลิ่วๆ ไปอย่างไม่สนใจเลยว่า...มันผิดใบ!

“บ้าจริง!” เพียงเปิดกระเป๋าจะเอาโน้ตบุ๊กขึ้นมาเพื่อเช็กและติดต่องาน แต่ปรากฏว่าตอนแรกเปิดไม่ได้ เขาสงสัยอยู่แล้วเชียว มันต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน แล้วเมื่อสามารถเปิดได้ สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้ากลับกลายเป็น...กล่องของขวัญขนาดเท่าแฟ้มเอกสาร ห่อด้วยกระดาษสีสันสดใสลวดลายชวนเวียนหัวตาลาย ทำเอาเพลิงโทสะในกายแกร่งพุ่งลิ่วขึ้นมา ราวกับว่าบนพื้นเตียงนุ่มๆ ที่นั่งอยู่นั้นคือกองไฟขนาดใหญ่ 

เสียงสบถขุ่นเขียวราวกับถูกห่อหุ้มด้วยก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ ดังมาจากผู้เป็นนายจ้างที่นั่งง่วนอยู่กับกระเป๋าเดินทางในห้องส่วนตัว ทำเอาหนุ่มเดโก้และมาริโอ้ซึ่งยืนเอนกายหนาเอนอิงกับขอบระเบียง ดวงตาสีฟ้าทอดมองไปยังวิวทิวทัศน์อันสวยงามขึ้นชื่อของเมืองท่องเที่ยวนามภูเก็ตถึงกับสะดุ้ง หันมองหน้ากันดังขวับราวกับนัดไว้ ก่อนพยักหน้าจืดเจื่อน ก้าวเดินลิ่วๆ ไปหาหน้าตาตื่น

“เกิดอะไรขึ้นครับนาย” เดโก้และมาริโอ้เอ่ยถามแทบจะพร้อมเพรียงกัน

“นายสองคนจำหน้ายายผู้หญิงปากเสียได้ใช่ไหม” อันเจโล่เอ่ยถามเสียงเข้มเครียด กรามหนาขบกัดจนแก้มนูนขึ้นสัน โทษสองคนนี้ก็ได้ไม่เต็มปาก เพราะตัวเขาเองก็ประมาทเลินเล่อ ไม่ระมัดระวังข้าวของให้ดี ปล่อยให้ยายตัวเล็กจอมซุ่มซ่ามนั่นหลอกและฉกเอาไปเสียได้ 

“ครับ” มาริโอ้พยักหน้ารับพลางเหลือบมองเดโก้ด้วยสายตาสงสัย ทำไมจะจำแม่สาวฝีปากกล้า ที่อาจหาญต่อปากต่อคำกับผู้เป็นนายอย่างไม่กลัวเกรงคนนั้นได้เล่า ว่าแต่นายเอ่ยถามถึงแม่สาวน้อยหน้าใส่คนนั้นทำไม หรือว่าจะติดใจเข้าเสียให้แล้ว

เป็นเขาสองคนก็สนใจเหมือนกัน หน้าตาเธอน่ารักใช่เล่น หุ่นเล็กกะทัดรัด ปากนิดจมูกหน่อย แก้มป่องอิ่มใส นัยน์ตากลมใส ตอนโกรธก็เห็นประกายวาววับเจิดจ้า ตอนเจ็บก็เหมือนจะบอกด้วยสายตาได้ ผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียนน่าสัมผัส ถ้าเปลี่ยนจากปากจัดจ้านมาพูดจาฉอเลาะหวานๆ ท่าจะน่าฟังใช่หยอก อีกอย่างผู้หญิงบ้านเขาส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่วิ่งไล่จับจะลากนาย คุณชายอันเจโล่ เด โบคันวาโร่ขึ้นเตียงท่าเดียว เรียกได้ว่าผิดกันลิบกับแม่สาวนัยน์ตาคมราวกับตาสาวแขกคนนั้น  นอกจากจะไม่สนใจความหล่อเหล่าราวเทพบุตร (มาร) มาจุติแล้ว ยังด่าว่าฉอดๆ อย่างไม่กลัวจะถูกหักคอทิ้งเสียด้วย

“ตามหาตัวหล่อนให้เจอ เร็วที่สุด!” กรามหนาขบกัดจนมีเสียงดังกรอดๆ นัยน์ตาเข้มดุเปล่งประกายดุกร้าว พร้อมเพลิงแค้นเพลิงโทสะที่ลุกโชนอยู่ในใจ ให้เขาเจอตัวเถอะ จะหักคอทิ้งหมกโถส้วมเสียเลย ยายปากปลาร้าค้างปีเอ๊ย!

นับเนื่องมาจากสิ่งที่เกิดขึ้น เขาสืบข่าวจนได้รู้ว่าช่วงนี้มีพนักงานเดินทางไปท่องเที่ยวสองกลุ่มด้วยกัน กลุ่มหนึ่งพาครอบครัวอันประกอบด้วยภรรยาและลูกเด็กเล็กแดงอีกกลุ่มใหญ่ไปท่องเที่ยวอังกฤษ ซึ่งเขาก็ส่งลูกน้องที่ไว้ใจตามติดไปคอยจับตาและเก็บหลักฐานทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว

ส่วนอีกสามคน...หนึ่งหนุ่มใหญ่ซึ่งตอนนี้ก็มีอายุสี่สิบกว่าแล้วแต่ยังไม่มีเมียมีลูก แต่มีสาวๆ รายล้อมไม่ขาด อีกหนึ่งหนุ่มวัยต้นสามสิบหัวหน้าฝ่ายไอที อีกคนเป็นรองหัวหน้าฝ่ายตรวจสอบคุณภาพสินค้า คนนี้มีคู่หมั้นแล้ว คงไม่นานที่จะร่วมหอลงโรงกัน ซึ่งคนสุดท้ายเป็นหนุ่มวัยยี่สิบปลายๆ เริ่มต้นทำงานในบริษัทของเขามาตั้งแต่เรียนจบ ด้วยตำแหน่งหนึ่งในฝ่ายป้องกันการถูกโจรกรรมข้อมูล ไต่เต้าจากเพียงแค่พนักงานธรรมดา จนตอนนี้กินตำแหน่งผู้ช่วยมือดีของรองหัวหน้าฝ่าย ทั้งสามคนเลือกมาเที่ยวเมืองไทย

Related chapters

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 9

    ถึงแม้ไม่มีหลักฐานใดบ่งบอกและเหตุผลรองรับ ทำไมเขาถึงได้เลือกตามสามคนนั้นมาเมืองไทย ไม่เลือกตามอีกกลุ่มเขาไป คงเป็นเพราะเชื่อในสัญชาติญาณที่บ่งบอกว่า สามคนนี้มีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติไป ซึ่งเขาจะต้องตามหาตัวให้เจอ พร้อมหาหลักฐานมาผูกมัดตัวคนพวกนั้น หรือใครคนใดคนหนึ่งที่กล้ากระตุกหนวดเสือร้ายอย่างเขาให้จงได้เหตุการณ์ในครานี้บอกให้เขาได้ล่วงรู้ว่า คนที่ทำเรื่องนี้มีพวกด้วยเช่นกัน การเดินทางที่สมควรเป็นความลับ ด้วยเขาปิดทุกคนแม้กระทั่งคนในครอบครัว แต่ก็ยังมีคนล่วงรู้จนได้ แล้วยังส่งยายผู้หญิงปากเสียมาแย่งชิงคอมพิวเตอร์ไปอีก คงคิดว่าข้อมูลสำคัญนั่นจะอยู่ในเครื่องล่ะสิ เขาไม่โง่ซ้ำสองซ้ำสามแบบนั้นหรอก อีกอย่างเกิดเหตุการณ์นี้ก็ดีเหมือนกัน เขาจะได้รู้ว่าการมาหาหลักฐานครั้งนี้มีมารคอยขัดขวางอยู่ จะได้ระมัดระวังตัวไม่ให้ตัวเองและลูกน้องที่ตามมาเป็นอันตราย“ครับ” ที่รับปากน่ะไม่ใช่เพราะจะตามหาตัว แต่งุนงงต่างหาก ด้วยคำพูดคนเป็นนายนั้นดูเหมือนจะไม่ได้ให้หาด้วยจิตพิศวาสแต่อย่างใด หากแต่หาด้วยจิตมุ่งหมายคิดร้ายเสียมากกว่า เจอกันเพียงครั้งเดียว แม่ตัวเล็กนั่นไปทำอะไรให้นายเขาไม่พอใจ จึงจัดให้ถึงเพี

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 10

    “จริงหรือ” กิ่งแก้วเท้าศอกบนเคาร์เตอร์ไม้ จ้องเข้าไปในดวงตากลมใส คลี่ยิ้มเหมือนกำลังเยาะเย้ย ด้วยไม่เชื่อในคำพูดที่ได้ยิน ข่าวลือนะไปไวเสมอแหละ ยิ่งข่าวร้าย ๆ นี่ยิ่งแพร่สะบัดไปไวยิ่งกว่าไฟลามทุ่งอีก ยิ่งเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันร้ายแรงเกินกว่าคนในพื้นที่หลาย ๆ คนจะรับได้ แม้จะรู้ซึ้งและเข้าใจถึงสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ทว่าการมีสิ่งไม่ดีที่ทำให้อนาคตของลูกหลานต้องย่อยยับก็เป็นที่ยอมรับไม่ได้“แต่ที่ฉันได้ข่าวมา ดูท่าจะทำให้เธอกินไม่ได้นอนไม่หลับไปหลายวันเลยเชียวนะ”นั่นไง ว่าแล้วเชียว สุดท้ายก็ไม่พ้นเรื่องนี้บ้า ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันนี้ตอนสายจริง ๆ ด้วย เฮ้อ...กลอกตากลมใสไปมา เบะกลีบปากอิ่มใส่คนถามอย่าเบื่อหน่ายจับใจ ใช่...เรื่องที่เกิดขึ้นมาในวันนี้ทำให้เธอเป๋ไม่ไม่น้อย กินข้าวเย็นอย่างฝืดคอนิด ๆ คืนนี้อาจนอนไม่หลับด้วย เพราะมัวแต่คิดมากหมกมุ่นอยู่กับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมหาทางแก้ปัญหาที่จะตามติดมาเป็นระรอกคลื่น แต่ปัญหาทุกปัญหาย่อมมีทางออก ใช่ว่าพรุ่งนี้ตื่นมาแล้วฟ้าจะไม่กระจ่างสดใสนี่น่าไหล่มลเลิกขึ้นอย่างระอิดระอาใจ คนเรานี่เป็นยังไงกันนะ ทำไมถึงได้สอดรู้สอดเห็นเรื่องของคนอื่น

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 11

    “กิ่ง...กิ่ง” เรียกหลายครั้งแล้วแต่อีกฝ่ายก็ไม่มีทีท่าว่าจะได้ยิน แล้วยังจะหันหน้าไปมองอะไรก็ไม่รู้ “กิ่ง” คราวนี้กฤติการ้องเรียกพร้อมกับยกมือวางบนแขนเรียวยาวเขย่าเบา ๆ เรียกสติอีกฝ่าย“หือ...” กิ่งแก้วละสายตาจากสองหนุ่มหน้าตาหล่อหันมองเพื่อนสาว คิ้วโก่งดกดำจากการวาดเลิกขึ้นเล็กน้อย “มีอะไร”“ดึกแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อนนะ พรุ่งนี้ต้องเปิดร้านอีก กลัวไม่ไหวน่ะ”“อือ...อยากกลับก็กลับสิ ใครไปรั้งเธอไว้ล่ะ ความจริงน่าจะกลับมาไปเสียตั้งนานแล้ว เธอนี่น่ารำคาญจริง ๆ แล้วนี่ยังคิดจะเปิดร้านอีกหรือ ไม่กลัวไม่มีลูกค้าเข้าร้านหรือไง ข่าวออกจะดังขนาดนั้น”กฤติกาส่ายศีรษะอย่างระอิดระอาที่กิ่งแก้วยังไม่วายแขวะกัด “ฉันไม่ได้ทำอะไรนี่น่า คนทำเขาก็ได้รับกรรมของเขาแล้ว อีกอย่าง ไม่เปิดร้านหาเงินแล้วจะให้ฉันเอาเงินที่ไหนซื้อข้าวกินล่ะ จะให้มาทำงานอย่างเธอหรือ ฉันก็ทำไม่ได้ซะด้วย กลัวจะทนไม่ไหว เอาแก้วเหล้าสาดน้ำพวกฝรั่งชีกอแทน”“อ้าว...แล้วเธอทำทัวร์อย่างนั้น คิดว่าจะไม่เจอหรือไง ถ้าจะเพี้ยนนะเธอนี่ คิดไปได้ อยากกลับก็ตามใจสิ ฉันไม่ได้ห้าม ไม่ได้มัดเธอไว้กับเก้าอี้สักหน่อย รีบกลับเร็ว ๆ ก็ดีนะ ขืนอยู่ดึกกว

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 12

    เสียงเข้มดุกร้าวที่ดังเข้ามาอีกละรอก พอทำให้กฤติกาเริ่มคลายความตื่นตระหนกและเบาใจลงมาเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้มั่นใจว่าไอ้คนที่กอดรัดอยู่จะทำตามคำพูด เธอจะต้องคิดหาหนทางพาตัวให้รอด ที่ตอนนี้เขาพูดว่าอะไรก็จำต้องยอมรับเอาไว้ก่อน เพื่อตัวเองจะไม่เป็นอันตรายไปมากกว่านี้ ศีรษะทุยจึงผงกรับบอกตกลง“ห้ามร้อง ขืนหลุดปากมาแม้คำเดียว เธอโดนดีแน่” ชายหนุ่มขู่ซ้ำ พลางยกดันร่างเล็กไปจนแผ่นหลังอิงแอบแนบกับแผ่นพื้นซึ่งลาดยกขึ้นสูง ด้านบนคือพื้นถนน กดสองขาเรียวยาวที่ลอยขึ้นเหนือพื้นเล็กน้อยกับสองขาแข็งแกร่ง ตรึงซ้ำด้วยเรือนร่างแข็งกระด้างที่แนบชิดเนื้อนุ่มนิ่มไปเสียทุกส่วน“อือ...” กฤติการับคำขลุกขลักในลำคอ รับปากเอาไว้ก่อน รอสบโอกาสเมื่อไหร่ รับรองได้ว่าเธอเอาคืนเป็นเท่าตัว ไม่เจ็บจนคางเหลือง ปากเจ่อทานน้ำพริกไม่ได้ไปหลายวันเชียวล่ะ คนอย่างเธอไม่ได้เก่งกาจอะไรหรอกนะ แต่ก็ไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ยิ่งโดนทำร้ายกันอย่างนี้ มีหรือที่จะไม่เอาคืนน่ะแสงสว่างสาดส่องมาแวบหนึ่ง ทำให้ชายหนุ่มได้เห็นประกายเกรี้ยวกราดจากนัยน์ตากลมโตที่ฉายออกมา กลีบปากหนาหยักยกขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาวาววับ “รู้ไหมถ้าเธอผิดคำพู

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 13

    แม้ถูกกอดรัดเสียจนกระดิกกระเดี้ยไม่ได้ อีกทั้งปากอิ่มนุ่มก็ยังตออยู่ภายใต้การครอบครองของเขา ทว่าแม่คนตัวเล็กก็ยังไม่ยอมแพ้ จนอันเจโล่รู้สึกว่าได้เจอเข้ากับพริกเม็ดเล็ก ที่แม้ตอนกินเข้าไปจะเผ็ดร้อน แต่รสเนื้อกลับหวานล้ำเมื่อยามได้เคี้ยว ยิ่งแม่ตัวเล็กต่อต้านมากเท่าไหร่ ความอยากเอาชนะที่อยู่ในสายเลือด ทำให้เขาเลือกที่จะรุกรานแม่สาวตัวแสบต่อไปจนสุดกู่ชายหนุ่มกดแนบริมฝีปากหนาร้อน ขมเม้มปากอิ่มนุ่มมอบจุมพิตวาบหวามใจให้กับสาวน้อยตัวแสบอย่างหนักหน่วง แต่ก็ไม่ลืมที่จะล่อหลอกด้วยชั้นเชิงอันจัดเจน เรียกร้องให้คนตัวเล็กค่อย ๆ คลายความแข็งขืนลงไป ปลายลิ้นสากระคายและร้อนผ่าว ตวัดลากไล้วนเวียนพยายามสอดแทรกเข้าไปหาความหวานภายในโพรงปากนุ่ม ถึงเรือนกายจะเริ่มอ่อนระทวย แรงต่อต้านจะลดลงไปเยอะ แต่แม่ตัวเล็กก็ยังไม่ยอมให้ความร่วมมือเท่าไหร่กฤติการ้องครางแผ่วเบา เรือนกายอรชรสั่นสะท้านด้วยไม่รู้ว่าจะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไรดี อ้อมแขนกำยำกดกอดรัดราวกับงูรัดเหยื่อ จูบแรก...ที่เธอคิดฝันเอาไว้ นอกจากจะไม่อ่อนโยนแล้วยังเต็มไปด้วยอาการกระแทกกระทั้นดุดัน อยากร้องไห้ แต่ก็ไม่มีน้ำตาไม่ไหลออกมา กลับมีความเจ

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 14

    ฮึ...เขาว่าแล้ว เธอต้องไม่ยอมเปิดปากพูดความจริง ปากแข็งหรือ อยากรู้นักจะแข็งไปได้สักกี่น้ำ ถ้าเป็นผู้ชายเขามีวิธีทรมานแบบไม่เจ็บก็นอนหยอดข้าวต้มไปจนถึงพิการ แต่เมื่อเธอเป็นหญิงหุ่นอวบอัดเต็มไม้เต็มมืออย่างนี้ แถมเนื้อตัวยังหอมกรุ่นราวกับกลิ่นดอกไม้อย่างนี้ มีวิธีให้เขาเริงรื่นในการรีดเอาความลับจนฉ่ำปอดเชียวแหละฝ่ามือร้อนระอุคลึงเคล้นเจ้าก้อนเนื้อนุ่ม พลางปากหนาอุ่นขบกัดผิวเนื้อนุ่มเบาๆ ไล่เลื่อนขึ้นไปตามซอกนวลเนียนหอม ขบกัดติ่งหูสลับกระเซ้าเย้าแหย่ช่องหูนุ่ม “แน่ใจนะว่าจะไม่ยอมบอกฉัน”“อือ...นะ...แน่ใจ ไม่ใช่นะ คุณถอยออกไปก่อนนะ อยู่แบบนี้ฉันอึดอัด หายใจไม่ออก แล้วคิดอะไรไม่ออกด้วย”ทาบมือผลักร่างหนาให้ถอยห่างไป แต่ก็เหมือนกับเธอเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง เพราะมันไม่แม้แต่จะขยับเคลื่อนด้วยซ้ำ แล้วอีตายักษ์กินคนยังจะแกล้งบดเบียดเรือนกายแนบชิดมากยิ่งขึ้น สายลมร้อนผ่าวทำให้ระบบในเรือนกายทำงานผิดปรกติ ท้องไส้ปั่นป่วนราวกับมีเกลียวสายน้ำถาโถมเข้ามาระรอกแล้วระรอกเล่า ในหัวใจหรือก็หวั่นไหวแบบแปลกๆ อย่างไม่ควรจะเป็น จากไอ้ตัวยักษ์ที่จะเป็นคนทำร้ายเธอ!“ไม่ล่ะ...ฉันไม่ไว้วางใจ เธอมันพวกฤทธิ์มาก แสบ

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 15

    “คิดจะทำอะไร ไม่กลัวโดนฉันปล้ำบนพื้นทรายหรือไง เอ๊ะ...หรือเธอติดใจ อยากลองสักครั้ง” ยอมคลายร่างอรชรจนสองเท้าบอบบางเหยียบพื้นทราย “ได้สิ จะเอารสชาติแบบไหนล่ะ ดุเด็ดเผ็ดมัน หรือวาบหวามซาบซ่านตรึงใจดี” จูบไซ้คลอเคลียบนแก้มนุ่มเรื่อยลงไปขบกัดซอกคอระหง ฝ่ามือร้อนผ่าวลูบไล้บัวตูมเต่งตึงอย่างหนักหน่วงจนคนตัวเล็กสั่นสะท้านไหว“ปะ...เปล่านะ แค่ฉัน...ฉันอึดอัด หายใจไม่ออกก็เท่านั้น” ตอบกลับเสียงอ่อยและตะกุกตะกัก ด้วยวาบหวามปั่นป่วน เมื่อคนตัวใหญ่ลูบไล้ฝ่ามือคลึงเคล้นไปทั่วร่าง เน้นหนักที่อกอิ่มนุ่มนิ่ม จนสมองหมุนเร็วจี๋ราวกับล้อรถที่วิ่งลิ่วไปอย่างไร้เบรก เพื่อพาตัวเองให้รอดพ้นจากสถานการณ์อันตรายนี้ให้จงได้ เริ่มสะดุดบางทีก็ขาดตอนไปเสียเฉย ๆ คล้ายแผ่นเสียงตกร่อง“งั้นเธอก็ตอบมา...ทำงานให้ใคร” ปล่อยเวลาให้ยืดเยื้อนานเกินไปแล้ว สมควรแก่เวลาเชือด...ไก่!อยากรู้ว่าเธอทำงานให้ใครงั้นหรือ อืม...เอาใครดี ฟันซี่เล็กขบกัดกลีบปากจนเจ็บ แต่นึกไม่ออกว่าจะอ้างชื่อใคร ที่มีน้ำหนักทำให้คนตรงหน้าเชื่อได้“ว่าไง” ถามซ้ำ รวบสองมือเล็กที่ทำเหมือนจะลูบไล้กายเขา ทว่าแม่ตัวเล็กกลับกดปลายเล็บลากจนเขาสะดุ้งอยู่บ่อยครั

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 16

    “เฮ้ย!! อย่าบอกนะยายลูกเจี๊ยบ แกไปถูกใครจับปล้ำมาน่ะ”คำที่เพื่อนเอ่ยถาม เหมือนมีดปลายแหลมมาสะกิดต่อมความรู้สึก ที่เธอพยายามจะจับใส่กล่องลั่นกุญแจและโยนเจ้าลูกกุญแจทิ้งไป ก่อนฝังกลบให้อยู่ในซอกส่วนลึกสุด ๆ ในที่ซึ่งจะไม่มีอะไรหรือใครไปควานหามาได้ แรงกดดันมาจากไหนไม่รู้โอบล้อมรอบเรือนกาย อึดอัดจนหายใจไม่ออกเอาเสียเลย“แกจะบ้าหรือไงไอ้ผิวหมึก ถามอะไรบ้า ๆ อย่างนี้ ฉันเป็นลูกผู้หญิง มีพ่อมีแม่นะโว้ย จะไปทำอย่างที่แกว่าได้ยังไง” ตวาดแว้ดใส่คนถามเสียงขุ่นเขียวกลบเกลื่อนเรื่องที่ถูกถาม แล้วยังตวัดค้อนคม ๆ ส่งให้ ก่อนปรามซ้ำด้วยสายตาแข็งกร้าวอีกตลบ“อ้าว...” แสงกล้าทำหน้าเหรอ “ใครมันจะไปรู้ล่ะ ก็เห็นที่คอแกมีรอยแดงเป็นจ้ำ ๆ อย่างกับถูกใครประทับจูบแสดงความเป็นเจ้าของมา” สายตาจับจ้องมองอย่างพินิจพิจารณา ก็ได้เห็นถึงความผิดปรกติจากคนตัวเล็กที่ดูหลุกหลิกลุกลนราวกับไปทำอะไรผิดมาอย่างนั้นแหละยิ่งถูกถามก็ยิ่งเข้าตัว “แกมาทำไม ไม่ทำงานหรือไง” กฤติการีบหาทางพาออกนอกเรื่อง“กฤติกา!”“อะไร...เรียกทำไม” ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ผุดลุกเดินไปที่ตู้เหล็กสามชั้นที่ภายในบรรจุเอกสารเกี่ยวกับร้านและรายละเอียดของการ

Latest chapter

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 35

    กฤติกาหายใจหอบพร่า มือใหญ่สำรวจตรวจตราไปทั่วร่าง ลูบไล้ไต่ไปบนเรือนร่างอรชรตรงเข้าครอบครองทรวงอกอิ่มเต็มไม้เต็มมือซึ่งปลายยอดชูชันสนองตอบ ปลุกเร้าเพลิงพิศวาสในกายสาวให้ตื่นจากหลับใหล สองแขนเรียวยกขึ้นโอบรอบบ่ากว้าง ปากอิ่มแยกแย้มกว้างยิ่งขึ้น เธอหาญกล้าถึงขนาดส่งเรียวลิ้นเล็กเข้าไปสำรวจโพรงปากอุ่น กระหวัดเกาะเกี่ยวกับเรียวลิ้นอุ่นชื้น เรียวนิ้วเล็กสอดแทรกไปพัวพันกับเส้นผมหนานุ่ม บดเบียดแลกจุมพิตกับอันเจโล่จนชายหนุ่มถึงกับเปล่งเสียงร้องคำรามลั่น“ลูกไก่จ๋า...หวานที่สุดเลยรู้ไหม” เอื้อนเอ่ยเสียงแตกพร่า คลอเคลียปากอุ่นระอุไซ้ซุกซอกคอขาว นิ้วยาวหยอกเอินคลึงเคล้นยอดบัวตูมเต่งจนคนตัวเล็กถึงกับร้องครางเสียงหลง ส่งยืนกายสาวเชิญชวนให้เขาได้ลิ้มรสทุกซอกมุมอย่างถนัดถนี่ จนชายหนุ่มถึงกับทนไม่ไหว ประพรมปากอุ่นระอุแนบบนกลีบปากนุ่มอย่างรุนแรงราวกับจะลงทัณฑ์ด้วยความหวานเร่าร้อน แขนแกร่งช้อนร่างบอบบางขึ้นไปทอดตัวนอนบนฟูกใบไม้ ให้แสงไฟสาดส่องมาเพื่อเขาจะได้ยลกายสาวงามสะพรั่งอย่างชัดเจน“คุณอันเจโล่...ไหนคุณบอกว่าจะไม่...” กฤติกาเอ่ยถามเสียงสั่น รีบยกมือปิดบังทรวงอกอวบอิ่มไว้จากสายตาคมวามวาวเต็มไปด้วยคว

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 34

    “สัญญา ไม่ปล้ำ...แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำอย่างอื่นลูกไก่นี่น่า” ชายหนุ่มตอบกลับเสียงพร่าแหบจนน่าตกใจ เงยหน้าขึ้นมองสบกับนัยน์ตากลมใส “แล้วอีกอย่าง...เธอก็ต้องให้ความร่วมมือด้วย เข้าใจไหม”ถ้ามองให้ดีจะเห็นถึงความเจ้าเล่ห์ที่ผุดขึ้นมาในแววตาและรอยยิ้มบนมุมปากหนาหยัก แต่ในตอนนี้เพราะต้องการเอาตัวรอดกฤติกาจึงรีบพยักหน้ารับ “ละ...แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไงล่ะ” หญิงสาวถามกลับอย่างตะกุกตะกัก“อยู่เฉย ๆ ไม่ดิ้นรนขัดขืน” อดไม่ได้เลยที่จะไม่ไต่มือไปบนผิวเนื้อเนียนนุ่ม“ให้คุณปล้ำฉันง่าย ๆ ใช่ไหมล่ะ”อันเจโล่ถึงกับผ่อนลมหายใจออกจากปอดอย่างหนักอก เรื่องง่าย ๆ ทำไมกฤติกาถึงได้ทำให้กลายเป็นเรื่องยากนักก็ไม่รู้ แค่เขาเอาเสื้อผ้าเธอออกแล้วไปผึ่งไฟให้แห้ง กับการนอนกอดและแตะต้องเธอนิดหน่อยนี่มันทำใจยากนักหรือไง“มันก็ไม่แน่ ถ้าหากเธอยังทำตะบึงตะบอนยั่วฉันอยู่อย่างนี้”กฤติกาทำหน้างอง้ำ ตกลงเธอผิดอีกแล้วใช่ไหม น้ำตาอุ่นร้อนเอ่อล้นและพลัดตกจากสองเบ้าตาอย่างรวดเร็ว“โอ๋...ไม่ร้องนะคนเก่ง” อันเจโล่รียยกมือขึ้นกดซับหยดน้ำตาบนร่องแก้มอย่างอ่อนโยน“ไม่ต้องมาโอ๋ ไม่ใช่เด็ก” หญิงสาวปัดมือใหญ่ออกห่าง ขบเม้มกลีบป

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 33

    กฤติกากลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง ไม่อยากมองอันเจโล่เลย แต่ถ้าเธอละสายตาจากเขาไปเพียงนิดเดียว อีตาคิงคองหื่นต้องคว้าแขนจับเอาตัวไป จากนั้น...ก็ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว เพราะอาจไม่ใช่เขาหรอกที่ทำเรื่องบ้า ๆ นั่น เป็นเธอนี่แหละอยากปล้ำเขาแทน ก็ใจมันอยากตกเป็นของชายหนุ่มจะแย่อยู่แล้วอันเจโล่สะบัดศีรษะอย่างระอิดระอา รู้นะกฤติกากลัวอะไร แต่ในสถานการณ์ล่อแหลมอย่างนี้ เขาไม่มีกะจิตกะใจทำอย่างที่เธอกลัวหรอก มันเสี่ยงเกินไป อีกอย่างจะแอ้มสาวเอาความจิ้นของเขาทั้งที ให้ใช้หาดทรายอย่างนี้น่ะหรือ...แม้มีเสียงสายน้ำสาดซัดพื้นทรายเป็นทำนองเพลง มีท้องฟ้าเป็นหลังคา ดาราดาษดื่นส่องแสงมาราวกับจะอิจฉาริษยา สายลมพัดโชยโบกร่วมโลมไล้ร่างน้อย ใบไม้ก็พร้อมใจกันไหวเอนลู่โอนละม้ายคล้ายระรอกคลื่นไล่ล้อกันคล้ายเสียงกระซิบหยอกเย้า โรแมนติกน่าจดจำอยู่หรอกนะ แต่...จะหม่ำลูกไก่มีฤทธิ์แต่หวานอย่างแรง...อย่างกับมีหมู่มวลพฤกษานานาพันธ์ครั้งแรกต้องเป็นห้องสบาย ๆ หรู ๆ อย่างในโรงแรมที่เขาพักโน่น จุดเทียนไขพอให้มีแสงวับ ๆ แวบ ๆ มีเสียงดนตรีหวาน ๆ คลอเคล้า บิ้วอารมณ์ต่ออีกนิด ด้วยกลิ่นดอกไม้หอม ๆ ทำให้เขามีเรี่ยวแรงหม่ำลูกไก่น

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 32

    “อ้าว” คนตัวใหญ่ที่ไม่รู้ว่าจะเดินไปทางใดทำหน้าเหรอ “เธอเป็นไกด์ไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงไม่รู้ล่ะ”“ฉันเป็นแค่ไกด์ ไม่ได้เป็นพรานนำทาง แล้วอีกอย่างไกด์อย่างฉันมีหน้าที่พาลูกทัวร์ไปดำน้ำ ไม่ได้พาลูกทัวร์เจ้าเล่ห์ หื่นกาม บ้าตัณหา คิดเป็นแต่จะลากผู้หญิงขึ้นเตียงอย่างเดียวมาถูก...รุมสะกรัมกินขนมตุบตับและหลงป่านี่น่า” กระดิกปลายเท้าอย่างรื่นรมขึ้นมานิด ๆ เพราะไม่ต้องเดินให้เมื่อยตุ้ย เลยอารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อย“เห็นตัวเล็ก ๆ แค่นี้ กินอะไรเข้าไปนี่ ตัวหนักเชียว” คนตัวใหญ่กระเซ้า หันหลังกลับเดินไปทางเก่า เขาว่ากลับไปหามุมใดมุมหนึ่งหลบรอคอยคนเรือและลูกน้องที่แถว ๆ หน้าชายหาดจะดีกว่าปึก!! กฤติกากำหมัดทุบไปบนแผ่นหลังกว้าง “คุณนี่ปากเสียจริงๆ แล้วฉันก็ไม่ได้หนักเสียหน่อย คุณนั่นแหละที่แก่แล้ว เลยอุ้มเด็กแรกรุ่นอย่างฉันไม่ไหว”อันเจโล่หัวเราะ “อยากรู้ไหวไม่ไหวเดี๋ยวคืนนี้ฉันจัดให้แล้วกัน รุ่นนี้น่ะเตะปี๊บไม่มีได้ยินเสียงตก กลัวเธอนั่นแหละที่จะรับไม่ไหวลูกไก่” พูดกลั้วหัวเราะในลำคอ มือหนึ่งจับสองขาเรียวไว้ อีกมือยกขึ้นมาลูบไล้ลำแขนเสลาให้รู้ความนัยของคำพูด“คุณนี่มัน...” ชายหนุ่มสวนกลับมามุกนี้ทำเอา

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 31

    มือใหญ่ยกขึ้นลูบไล้ปลายคางสาก “ฉันให้เงิน แกก็บอกมา ว่าใครเป็นคนว่าจ้างให้มาเก็บฉัน”“อย่าถามมาก ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่กับเมีย แกก็จ่ายเงินมาดีกว่า พวกฉันจะได้ไปเสียที เย็นจะตายอยู่แล้ว แม่ง...ไอ้ฝนห่าเหวบ้านี่มันจะตกลงมาทำไหมตอนนี้วะ”เพราะสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาทำให้พวกมันหายใจไม่สะดวก หมวกไหมพรมที่เปียกน้ำจึงค่อย ๆ เคลื่อนขึ้นไปพำนักอยู่เหนือจมูก ซึ่งเป็นผลดีแก่อันเจโล่ที่จะจดจำรายละเอียดบนวงหน้าของแต่ละคนเอาไว้ เพื่อจัดการในภายหลัง“แหม...พวกแกนี่เร่งจริง ฉันคิดว่าจะให้สักล้าน ให้พวกแกแบ่งกันคนละสองแสน ถ้ายอมบอกชื่อคนว่าจ้าง แต่ปากหนักอย่างนี้เอาไปคนหมื่นสองหมื่นพอแล้วละ ให้มากเปลือง” คนเราเมื่อได้ยินเงินมาก ๆ ก็ตาโตลุกวาว “หรือเอาอย่างนี้ดีกว่าไหมลูกไก่ ฉันใจป้ำให้ซักห้าแสน แต่มีเงื่อนไขว่าต้องบอกชื่อคนว่าจ้าง” เงินสามารถซื้อทุกอย่างได้จริง ๆ อย่างเช่นกลุ่มคนที่กำลังตะลุมบอนอยู่เบื้องหน้าเขานี่ไงละกฤติกาอ้าปากค้าง ก่อนแหงนหน้าขึ้นมองคนตัวใหญ่อย่างคิดไม่ถึง เขาจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ไม่เพียงแค่ได้ความจริง แต่ยังตัดทอนกำลังคู่ต่อสู้ได้ด้วย“พวกมันไม่ทันสนใจ เรารีบไปกันดีกว่าลูกไก่”

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 30

    “ขอบคุณ แต่ไม่จำเป็น ฉันเอาตัวเองรอดได้ คุณนั่นแหละ เอาตัวเองให้รอดพ้นจากสหบาทาของคนพวกนี้จะดีกว่า” ต่อให้เก่งแค่ไหน แต่ห้าคนตรงหน้าที่ยืนล้อมไว้นี่ก็ดูท่าทางมีฝีมือด้วยเช่นกัน หุ่นแต่ละคนน้องๆ ของช้างอีก ส่วนคนพูดน่ะตัวคนเดียว จะเอาตัวรอดได้หรือ “น้องสาวนี่พูดถูกนะ ก่อนไปห่วงคนอื่นน่ะ เอาตัวเองให้รอดจากบาทาพวกกูก่อนดีกว่าไอ้ฝรั่งดอง”“พวกแกนี่...นอกจากเข้ามาเป็นมารขัดขวางความสุขฉันกับแฟนแล้ว ยังพูดจาหมาไม่รับประทานอีก เก่งมากใช่ไหม ช่วยโชว์ฝีมือแม่ไม้มวยหมู่ให้ได้ชิมหน่อยสิ” มวยไทยเขาไม่ได้เก่ง แต่ก็พอเป็นอยู่บ้างเล็กน้อย ส่วนอย่างอื่น...จะเอาอะไรไปสู้กับคนพวกนี้ดีละ...เทควันโด้ ไอคิโด้ หรือคาราเต้ดี“เฮ้ย!! พวกเราลุย เอามันให้มอบเว้ย!!”“อ๊ะ...เดี๋ยวก่อน” พออีกฝ่ายกร่างเข้ามา มือใหญ่ก็ยกขึ้นโบกห้าม“มีอะไร หรือว่ากลัวแล้ว งั้นก็รีบทิ้งเงินและข้าวของมีค่าเอาไว้ให้หมด อ๋อ...แถมผู้หญิงข้าง ๆ ตัวแกด้วยนะ หน้าตาสวยก็สวย หุ่นก็ดี อย่างนี้พวกฉันคงมีความสุขได้หลายคืนอยู่เชียว ก่อนพาไปเร่ขายเนื้อสด” ไม่ได้หื่นอย่างได้ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หุ่นอย่างกับไม้เสียบผีแบบนี้หรอก แต่คำสั่งที่ได้รับมา คือ

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 29

    เมื่อเห็นว่าร้องขอความช่วยเหลือแล้วไม่มีใครสนใจให้ความช่วยเหลือ กฤติกาเลยใช้วิธีการ...งับ!! ปากเล็กอ้ากว้างและทาบกดฟันซี่เล็กบนต้นแขนแกร่งเต็ม ๆ“โอ๊ย!! เจ็บนะลูกไก่” คนถูกกัดโอดครวญ แต่ก็ยังไม่ปล่อยร่างอรชรให้หลุดจากแขน แต่กลับเลือกพาเธอไปใต้ร่มไม้ซึ่งมีกิ่งไม้ยื่นออกมา ก่อนปล่อยร่างอรชรแต่ก็ยังกักเธอไว้ในอ้อมแขน“ทำร้ายฉันอย่างนี้ ไม่กลัวฉันเอาคืนหรือไงลูกไก่” เอ่ยถามเสียงเข้มห้าวและดุเกรี้ยวพอ ๆ กับนัยน์ตาที่เปล่งประกายวาวด้วยเพลิงไฟ จับสองมือเล็กที่ระดมทุบสลับผลักดันกายหนาแกร่งให้ถอยห่างไปอย่างสุดชีวิตด้วยมือเพียงข้างเดียว“ไม่กลัว!!” กฤติกาตอบกลับเสียงสั่น ถามมาได้ว่ากลัวหรือเปล่า ไม่กลัวก็บ้าน่ะสิ ฉี่จะราดอยู่แล้วนี่ แต่ขืนไม่ทำอะไรก็กลายเป็นว่าเธอยินยอมให้เขาลากเข้ารกเข้าพงทำมิดีมิร้ายได้ง่าย ๆ น่ะสิ ไม่เอาหรอก เป็นผู้หญิง ยังไงก็ต้องมีฤทธิ์มีเดชเอาไว้บ้าง เรื่องอะไรจะยอมให้ถูกปล้ำกันง่าย ๆ กันเล่า“จริงหรือ...ไม่กลัว แล้วทำไมถึงเสียงสั่นล่ะ แล้วตัวก็...” อันเจโล่ลากเลื่อนนิ้วยาวบนกายนุ่มนิ่มที่สั่นระริกราวนกน้อยที่ผลักตกลงไปในน้ำไหลเชียวกราก “สั่นอย่างลูกไก่ตกน้ำด้วยนี่น่า” ชา

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 28

    “หือ...แล้วจะกลับไงล่ะ บอกคนเรือให้พากลับหรือ เอาสิถ้าเธอคิดว่าเขาเชื่อฟังนะ” อันเจโล่ท้าทายอย่างอยากรู้ว่าหญิงสาวจะทำอย่างไรให้คนเรือนำเรือกลับเข้าฝั่งได้เธอว่าแล้วเชียว ต้องมีอะไรสักอย่าง ‘โอ๊ย!! นี่เธอจะจัดการยังไงกับอีตาคิงคองเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการนี่ดีนะ’“นั่งอยู่ตรงนี้แหละ ไม่ต้องไปไหน” กดแขนกอดกระชับ เมื่อคนตัวเล็กขยุกขยิกอยู่ไม่สุกและเริ่มต้นร่ายระบำรำฟ้อนเล็บแหลมยาวบนท่อนแขนแกร่ง พร้อมกับส้นเท้าทิ้งน้ำหนักกดลงมาบนเท้าใหญ่ “ไม่รู้หรือไงว่าบนเรือเร็วแบบนี้เขาห้ามเดินไปเดินมา มันไม่ปลอดภัย”“เหอะ...อยู่กับคุณ ไม่ปลอดภัยกว่าร้อยเท่าพันเท่า ปล่อย!!” หญิงสาวแผดเสียงใส่และทั้งผลักทั้งดันตามด้วยทุบไปอีก แต่ก็ไม่มีทีท่าเลยว่าคีมเหล็กจะง้างออก“ไอ้ที่ไม่ปลอดภัยนะหัวใจเธอใช่ไหมล่ะลูกไก่ เพราะตอนนี้มันดันมาหลงรักฉันไปแล้ว”พูดไปก็เหมือนเข้าตัวของเธอเอง กฤติกาเลยเลือกที่ไม่พูดกับชายหนุ่มและหันไปตะโกนบอกกับคนขับเรือให้นำเรือกลับเข้าฝั่ง ทว่าคำพูดของเธอเป็นเพียงแค่สายลมพัดผ่านหูคนขับเรือไป ด้วยคำพูดของคนตัวใหญ่“ทำตามคำสั่งของฉัน แล้วฉันจะจ่ายเงินค่าแรงให้สองเท่าจากค่าจ้างของคุณลูกไก่” ดังกว

  • บุพเพเล่ห์รักมาเฟีย   chapter 27

    “อะไร” หญิงสาวเอ่ยถามน้ำเสียงหวั่นไหว ถ้าตกปากรับคำไป เกิดอีตาคิงคองนี่ขอนอนกับเธอ อะไรทำให้คิดอย่างนี้น่ะหรือ ก็สายตาวามวาวเต็มไปด้วยความต้องการที่ไม่ปกปิดจากนัยน์ตาคมเข้มคู่นี่น่ะสิ เลยต้องถามเอาไว้ก่อนอันเจโล่อมยิ้มแก้มตุ่ย ไม่ตอบคำถามกฤติกาเพราะรู้ดีว่าถ้าขืนเขาเอ่ยพูดออกไป ไม่มีทางได้ในสิ่งที่ต้องการ สู้ลงมือทำเลยไม่ดีกว่าหรือ ชายหนุ่มแนบปากร้อนระอุแนบลงไปบนกลีบปากอิ่มนุ่ม จูบซับดูดดื่มกับความหวานปานน้ำผึ้งรวงราวกับจะสูญเอาวิญญาณออกจากร่างจนหนำใจ ถึงได้ยอมถอนจุมพิตออกและปล่อยร่างคนตัวเล็กที่ตัวอ่อนระทวย“ให้ฉันใส่เจ้านี้ให้ด้วยไหมลูกไก่ อืม...ความจริงแล้ว ฉันเป็นคนถอดมันออกไป ฉันก็น่าเป็นคนใส่ให้ด้วยสินะ”“ไม่ต้องเลย ให้คุณใส่ก็มีหวังฉันไม่ได้ออกจากห้องน้ำนี่น่ะสิ” โชคดีที่เธอเพิ่งขัดถูล้างห้องน้ำ ก่อนทำกิจกรรมส่วนตัวในห้องน้ำด้านบนที่อยู่ในห้องนอน ไม่เช่นนั้นคงได้นั่งมึน...มากกว่าวาบหวาม อับอายระคนโกรธเกรี้ยวคนตัวใหญ่ดังเช่นตอนนี้มือเล็กยื่นไปหมายคว้าเสื้อชั้นในมาปกปิดอกอิ่มที่ไหวกระเพื่อม ยั่วยุอารมณ์พ่อคนตัวใหญ่ ซึ่งทอดมองมาตาปรอย แต่แล้วอันเจโล่กลับยกขึ้นสูง “คุณ...เล่นบ้าอ

DMCA.com Protection Status