กู้ฉางเกอเดินไปหาเจียงหวานอย่างขี้อายเจียงหวานหว่านหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาชุบให้เปียกแล้วเช็ดหน้า ล้างมือให้กับกู้ฉางเกอ“ไม่ว่าชีวิตจะลำบากแค่ไหน ก็ต้องสะอาดอยู่เสมอนะ!”กู้ฉางเกอจ้องไปที่เจียงหวานหว่านนิ่งๆ ดวงตาของเขาเป็นประกายเจียงหวานหว่านและกู้ฉางเกอเป็นเหมือนพี่น้องร่วมสายเลือด บรรยากาศทั้งกลมกลืนและอบอุ่นเมื่อสือหลิ่วกลับมา ก็พบว่าคุณหนูกำลังขีดเขียนพื้นด้วยกิ่งไม้พร่ำสอนกู้ฉางเกอให้รู้สึกตัวอักษรอยู่หลังจากหาฟืนและหม้อดินเก่าๆ ได้แล้ว สือหลิ่วก็เริ่มต้มยากู้ฉางชิงดื่มยาแล้วรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย“คุณชายกู้ สองสามวันนี้ ข้าจะสั่งให้คนส่งอาหารและยามาให้เจ้า ถ้าเจ้าหายเมื่อไหร่ให้มาหาข้าที่จวนเจียง”กู้ฉางชิงกล่าวอย่างสุดซึ้ง "นังตั้งแต่สกุลกู้ประสบปัญหา แม่นางเจียงเป็นคนเดียวที่ยื่นมือมาช่วยเหลือฉางชิง ฉางชิงจะจำเอาไว้ในใจ"เจียงหวานหว่านหยิบพู่กัน หมึก กระดาษ และหินฝนหมึกที่สือหลิ่วซื้อมา แล้วร่างสัญญาให้เรียบร้อย“นี่คือสัญญาของเรา ข้าให้เพิ่มเป็นสามเท่า คุณชายกู้ เชิญ!”กู้ฉางชิงไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย เขาเขียนชื่อและประทับลายนิ้วมือของตนทันทีกู้ฉางชิงกำปั้น "อย่า
ท่านย่าเรียกพบตน เปลือกตาของเจียงหวานหว่านกระตุกเล็กน้อย รู้สึกว่าไม่น่าจะมีเรื่องดีเกิดขึ้นแน่นอนเป็นไปตามคาด สิ่งแรกที่ฮูหยินใหญ่เจียงทำเมื่อเห็นหน้าเจียงหวานหว่านคือการตั้งคำถาม“หวานเจี่ยเออร์ พ่อเจ้ากำลังลำบากอยู่ในคุก แต่เจ้ากลับยังมีใจออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกเพิ่งจะกลับมากลางค่ำกลางคืนเช่นนี้อีกหรือ”เจียงหวานหว่านอธิบาย “ท่านย่าเข้าใจผิดแล้ว หวานหว่านเป็นห่วงท่านพ่อมาก จึงออกไปหาท่านอ๋องให้พระองค์ช่วยคิดหาวิธีดูถึงได้กลับมาช้าเจ้าค่ะ”ฮูหยินใหญ่เจียงตาเป็นประกาย “แล้วท่านอ๋องว่าอย่างไรบ้าง”เจียงหวานหว่านส่ายศีรษะเศร้าใจ “วันนี้หวานหว่านรออยู่ที่จวนอ๋องทั้งวัน แต่ไม่เห็นท่านอ๋องเลยเจ้าค่ะ ดูเหมือนท่านอ๋องจะไม่อยู่ในจวน”แสงสว่างในตาฮูหยินใหญ่เจียงหายไปในพริบตา“ท่านย่าอย่าได้กังวลไปเลยเจ้าค่ะ หวานหว่านจะไปหาท่านอ๋องอีกจนกว่าจะช่วยท่านพ่อออกมาได้”คำพูดหอมหวานใครจะพูดไม่ได้ เพราะอย่างไร เจียงป๋อเหนียนก็ไม่ถูกขังตัวไว้นานหรอกเมื่อรู้ว่าเจียงหวานหว่านออกไปหาทางช่วยเหลือเจียงป๋อเหนียน ฮูหยินใหญ่เจียงก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก“พรุ่งนี้ค่อยไปขอร้องท่านอ๋อง ตราบใดที่ช่วยพ่อเจ้าอ
“หาในวังหรือยัง”เซี่ยงหรงอ้ำอึ้ง “บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้”เขาไม่พูดพล่ำทำเพลง หมุนตัวเดินไปหาสมุนไพรยาที่ราชวังทันทีเจียงหวานหว่านมองดูหรงซีที่นอนไม่ได้สติพลันนึกถึงความลำบากที่เขาต้องเผชิญเมื่อชาติที่แล้ว ชาตินี้นางจะไม่มีทางปล่อยให้เกิดเรื่องกับหรงซีแน่นอนหรงซีต้องมีอายุยืนยาวร้อยๆ ปีครึ่งชั่วยามผ่านไป เซี่ยงหรงยังคงกลับมามือเปล่า“คุณหนูเจียง ในห้องยาหลวงก็ไม่มีขอรับ”เซี่ยงหรงเอ่ยอย่างรีบร้อนเจียงหวานหว่านนึกสงสัย เหตุใดถึงบังเอิญเพียงนี้“บ่าวถามเถ้าแก่ร้านยาในเมืองหลวงแล้ว บอกว่ามีคนใหญ่โตซื้อยาพวกนี้ไปจำนวนมากในราคาสูงขอรับ”คำพูดของเซี่ยงหรง ทำให้เจียงหวานหว่านยืนยันในสิ่งที่ตนคาดเดาเจียงหวานหว่านเอ่ยเสียงขรึม “รอข้าประเดี๋ยว ข้าจะรีบกลับ”“คุณหนู บ่าวไปด้วย”เจียงหวานหว่านส่ายศีรษะ “เจ้าอยู่เฝ้าท่านอ๋อง ข้าจะไปดูที่อำเภอใกล้ๆ เมืองหลวง น่าจะซื้อมาได้”คนที่กล้าทำร้ายหรงซี นางไม่ปล่อยไว้แน่“ขอรับ”ยังมีอีกที่หนึ่งที่น่าจะมียาสมุนไพรที่ต้องการเจียงหวานหว่านแค่นเสียงเย็นชา ตอนนี้นางถอนพิษให้กับหรงซีก่อนล่วงหน้า ทำให้คนที่วางยาหรงซีอยู่เบื้องหลังนั่งไม่นิ่งอีกต
เซี่ยงหรงต้มยาเสร็จพลันยื่นให้กับเจียงหวานหว่าน ส่วนตนยืนเฝ้าอยู่นอกประตูห้องข้างในห้องมีเพียงเจียงหวานหว่านกับหรงซีสองคนเท่านั้นนางตักยาสมุนไพรมาช้อนหนึ่งแล้วป้อนเข้าปากหรงซี ทว่าน้ำต้มยาสมุนไพรไหลออกตามมุมปากนางลองอยู่หลายหนแต่ไม่เป็นผล เจียงหวานหว่านจึงอมยาสมุนไพรไว้ในปากจากนั้นใช้ลิ้นคลี่ฟันของหรงออก แล้วปล่อยยาสมุนไพรออกไปไหลสู่ลำคอของหรงซีเจียงหวานหว่านขวยเขิน หัวใจเต้นรัว สัมผัสอันนุ่มนิ่ม ทำให้นางสติหลุดนิ้วหัวแม่มืออันนุ่มนิ่มปาดผ่านริมฝีปากของหรงซี นางเช็ดคราบยาสมุนไพรบนริมฝีปากออก“หรงซี ใครหน้าไหนก็ไม่มีมีทางทำร้ายท่านได้ ชาตินี้ ข้าจะปกป้องท่านเอง”เจียงหวานหว่านเดินไปพูดคุยกับเซี่ยงหรงเสียงเบาตกดึก องครักษ์ในจวนอ๋องมาเดินสำรวจมีเงาร่างหนึ่งแอบเข้าไปในห้องหนังสือของหรงซี เริ่มค้นไปทั่วห้องเซี่ยงหรงซ่อนตัวอยู่ในที่ลับจึงเห็นบุคคลที่เข้ามาในห้องหนังสือของหรงซีเต็มตาสีหน้าของเขานิ่งขรึม คาดไม่ถึงว่าแม่นางเจียงจะพูดถูก มีคนทรยศอยู่ในหมู่คนสนิทของท่านอ๋องไม่คิดว่าคนที่ทรยศนั่นจะเป็นซุนอู่ พี่น้องร่วมทุกข์ร่วมสุขของตนเพื่อต้องการให้ได้แผนที่การจัดกำลังท
ยืมมือเขาจัดการองค์รัชทายาท อยากเป็นดั่งชาวประมงได้ประโยชน์[footnoteRef:1] ไร้สาระเหมือนความเพ้อฝันของคนปัญญาอ่อนอย่างเซี่ยงหรง [1: ชาวประมงได้ประโยชน์ มาจากสำนวนนกกระยางสู้กับหอยกาบ ชาวประมงได้ประโยชน์ ความหมายว่า สองฝ่ายที่ต่อสู้กันต่างไม่ได้รับผลประโยชน์ แต่กลับให้ฝ่ายที่สามกอบโกยผลประโยชน์ไป] “เซี่ยงหรง นำเงินภัยพิบัติที่หรงมู่หานยักยอกออกมาซิ”“ขอรับ”หรงซีกุมหลักฐานในการทุจริตของหรงมู่หานไว้ ไม่ได้ใช้ทำอะไร เพราะว่าไม่ได้ให้ค่าหรงมู่หานในเมื่อหรงมู่หานว่างเกินไปแล้ว เช่นนั้นก็หาเรื่องให้เขาทำหน่อยแล้วกันซ่างกวนอวิ๋นเฟยเก็บรอยยิ้มบนใบหน้า“ท่านพ่อส่งจดหมายมา ถามว่าท่านป้าเป็นอย่างไรบ้าง”หรงซีกำกำปั้นแน่น สิบสองปีแล้ว เรื่องของเสด็จแม่ไม่คืบหน้าเลยสักนิดเขาเชื่อว่าเสด็จแม่ยังมีชีวิตอยู่แน่ๆ นางรอเขาอยู่หรงซีไม่ได้พูดอะไร ซ่างกวนอวิ๋นเฟยถอนหายใจคราหนึ่ง“อีกไม่กี่วันท่านพ่อก็จะกลับเมืองหลวง”หรงซีตอบกลับอืม ที่ท่านลุงกลับเมืองหลวง ต้องเป็นเพราะเรื่องท่านแม่“อืม”ซ่างกวนอวิ๋นเฟยพูดขึ้นช้าๆ “เด็กเยียนหรานนั่นก็กลับมาแล้ว”สีหน้าของหรงซีไม่เปลี่ยนแปลงสักนิดซ่าง
ตอนที่เจียงหวานหว่านตื่นขึ้นมาก็พบว่ามือของนางถูกมัดด้วยเชือกป่านไว้ด้านหลังดวงตาทั้งคู่ถูกปิดด้วยผ้า ภายในห้องมีกลิ่นอับชื้นและเน่าเปื่อยในปากถูกยัดด้วยผ้าขี้ริ้วที่ส่งกลิ่นเหม็นเน่าผืนหนึ่ง รสชาติก็น่าขยะแขยงอย่างอธิบายไม่ได้นางไม่คาดคิดว่าจะมีใครมาป้นรถม้าของพระราชวัง นางต้องหาทางเอาชีวิตรอดด้วยตัวเองเจียงหวานหว่านใช้มือแตะพื้นซึ่งมีหลุม มีดินเหนียวอยู่มากนางต้องการหาของที่มีคมมาตัดเชือกที่ผูกมือไว้ออกหลังจากคลำอยู่ครึ่งค่อนวันนางก็พบหินที่มีหัวแหลมนูนบนพื้นตรงหัวมุมเจียงหวานหว่านค่อยๆ ขยับตัวไปข้อมือที่ถูกผูกไว้ถูกับหินที่มีหัวแหลมนูนอย่างต่อเนื่องผ่านไปครึ่งชั่วยาม เจียงหวานหว่านก็ใช้เรี่ยวแรงจนหมดอากาศหนาวเย็น แต่นางกลับเหงื่อออกไปท่วมตัวแต่นางไม่อยากตาย นางต้องการปกป้องท่านแม่ และหรงซี นางต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปข้อมือของนางมีเลือดหยด แต่นางก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยในเวลานี้ มีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกประตูเจียงหวานหว่านชะงักการถูเชือกป่าน นางนั่งกับพื้นโดยไม่เคลื่อนไหว แสร้งทำเป็นหมดสติไม่ฟื้น“เอี๊ยด” ประตูส่งเสียงเสียดหู และฝีเท้าของผู้ที่มาก็เบามาก“แม่น
เจียงหวานหว่านหันกายมอง แสงคบเพลิงเข้าใกล้ตัวเองขึ้นเรื่อยๆ นางใช้ไหวพริบนางถอดรองเท้าปักข้างหนึ่ง ทิ้งอยู่ตรงขอบหน้าผาแล้วปีนขึ้นบนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ซ่อนกายอยู่บนปลายต้นไม้ นั่งนิ่งไม่กล้าขยับโจรที่ไล่ตามมาด้านหลัง พบว่าตนไล่ตามเจียงหวานหว่านไม่ทันแล้ว ตรวจหารอบสี่ทิศ“ใต้เท้า เกรงว่าแม่นางผู้นั้นจะรีบวิ่งหนีจนตกหน้าผาไปแล้ว”หนึ่งในโจรถือรองเท้าปักของเจียงหวานหว่านไว้แล้วคาดเดา“ใต้เท้า จะตายร้ายตายดียังไงก็ตายอยู่ดี คิดว่าเจ้านายคงไม่คาดโทษ”โจรอ้วนอีกคนพูดต่อว่า“จะตายช้าตายเร็วก็ต้องตายอยู่ดี”หัวหน้าโจรพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า“พี่ใหญ่พูดถูก เทพสงครามหรงซีแห่งแคว้นตงหลิงถูกพิษ ขอเพียงเทพสงครามตายไป กองทัพเกรียงไกรของแคว้นซีหลิงเราจะเหยียบแคว้นตงหลิงให้ราบเป็นหน้ากลอง”โจรอ้วนพูดขึ้นอย่างได้ใจโจรทั้งหลายหัวเราะฮ่าฮ่าขึ้น ราวกับเห็นภาพที่แคว้นซีหลิงเอาชนะแคว้นตงหลิงได้แล้วอย่างไรอย่างนั้นเจียงหวานหว่านได้ยินพวกเขาสนทนากัน ตกใจจนสั่นไปทั้งตัว ที่แท้เป็นแผนการของแคว้นซีหลิงนี่เองหัวหน้าโจรโบกมือ ให้ลูกน้องทั้งหมดจากไปเจียงหวานหว่านโกรธจนขึ้นหัว ที่แท้คนที่วางยาห
ตัวเจียงหวานหว่านเองก็เตรียมตัวก่อนถึงจะลงมือ เพียงแต่นางคิดไม่ถึงว่าจู่ๆ จะมีคนโผล่มาจากพวกโจรได้ขณะที่ทั้งสองพูดคุยกันอยู่ เซี่ยงหรงได้ปลิดชีพชายชุดดำแล้วพอปลดหน้ากากของชายชุดดำออก เจียงหวานหว่านรู้สึกว่าชายชุดดำหน้าตาคุ้นเคยยิ่งนักหรงซีไม่ได้พูดกล่าว โอบร่างเจียงหวานหว่านแล้วเหินจากไปเจียงหวานหว่านเกาะเสื้อของหรงซีแน่นเหมือนหมึกทะเลนางยกยิ้มมุมปาก แนบหน้าตรงตำแหน่งหัวใจของหรงซีเขายังมีชีวิตอยู่ ช่างดียิ่งนักหรงหยีและเจียงหวานหว่านขึ้นรถม้าเจียงหวานหว่านวางมือบนชีพจรของหรงซีหรงซีเหลืบตามองไปทางนางอย่างเฉยเมย แต่ไม่ได้ปฏิเสธที่นางจะจับชีพจรของตนช่างประหลาดยิ่งนัก ราวกับว่าหรงซีไม่ถูกพิษมาก่อน เพียงแต่ยังมีพิษหนอนกู่ที่หลงเหลืออยู่ในร่างกายเท่านั้นหรงซีราวกับรู้ถึงความสงสัยของเจียงหวานหว่าน“ข้าสลับพิษที่พวกแคว้นซีหลิงวางข้า ยายใบ้ให้ยาข้ามา แสร้างทำเป็นถูกพิษเท่านั้น”เจียงหวานหว่านพอได้ยินถึงตรงนี้ ความสงสัยในใจถูกคลี่คลาย นางจึงเพิ่งกระจ่างว่าเรื่องราวเป็นเช่นไร20 ปีก่อน ยายใบ้เป็นหญิงงามมีพิษแห่งยุทธพบ ฝีมือการวางยาพิษของนางโด่งดังขจรไปทั่วยุทธจักร ได้รับข
เจียงหวานหว่านตกอยู่ในภวังค์ของตัวเองชาติก่อน หรงมู่หานขังนางเอาไว้ในห้องลับ ยังมีสตรีอีกนางหนึ่งอยู่ด้วยตอนที่นางถูกจับเข้าไป สตรีนางนั้นก็ถูกนำตัวออกไปสตรีนางนั้นหายใจโรยรินตอนที่หิ้วสตรีนางนั้นออกไป นางได้เห็นใบหน้าสตรีนางนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจตอนนั้นคิดว่าสตรีนางนั้นหน้าตาคุ้นตามากเมื่อรวมกับใบหน้าของหรงซี สตรีนางนั้นและหรงซีมีความคล้ายกันอยู่แปดส่วนคงเป็นเสด็จแม่ของหรงซีซ่างกวนเสวี่ยเจียงหวานหว่านมองหรงซีด้วยสายตาสับสนนางรู้แล้ว เป็นความลับที่ชาติก่อนนางกับหรงซีไม่ล่วงรู้นางคิดว่าจะบอกเรื่องนี้กับหรงซีเช่นไรหรงซีเห็นสีหน้าเจียงหวานหว่านก็คิดว่านางต้องรู้เรื่องบางอย่าง“เจ้ารู้จักเสด็จแม่ข้า?”หรงซีกล่าวประโยคนี้ออกมาสัญชาตญาณเขาบอกเขาว่าเจียงหวานหว่านเคยพบเสด็จแม่ของเขาเจียงหวานหว่านสับสนในใจห้องลับอยู่ในห้องอักษรของฝ่าบาทหากสตรีนางนั้นเป็นเสด็จแม่ของหรงซีจริงเช่นนั้นใครเป็นผู้บงการเรื่องการหายตัวของเสด็จแม่หรงซี ก็ไม่ต้องคาดเดาแล้วเป็นฝ่าบาทองค์ปัจจุบันฝ่าบาทมีประสงค์ใดจึงได้กักขังเสด็จแม่ของหรงซีเอาไว้ในห้องลับหรือเพื่อควบคุมอำนาจทหารในมือหรง
“เจียงหวานหว่าน เจ้าเคยทำอาหารให้เซียวหวายกินหรือไม่?”เจียงหวานหว่านยิ้ม “นอกจากท่านแม่และสือหลิ่วแล้ว ข้าเคยทำอาหารให้ท่านอ๋องแค่คนเดียว”หรงซีพอใจกับคำตอบของเจียงหวานหว่านมาก“ต่อไปทำอาหารให้ข้ากินได้คนเดียวเท่านั้น”เจียงหวานหว่านคิดสักพัก “ได้”หรงซีพอใจมากเมื่อเห็นคราบโจ๊กที่มุมปากนางหรงซีใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดให้ ทำเอาเจียงหวานหว่านเขินจนหน้าแดง“ท่านอ๋อง มือท่านไม่มีแรงไม่ใช่หรือ?”เจียงหวานหว่านถามอย่างรู้ทัน“อืม”หรงซีหน้าไม่แดง ใจไม่เต้นเร็วเจียงหวานหว่านเบะปาก หรงซีกำลังโกหกชัดๆแต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่หรงซีถูกพิษเพราะขนมของนาง นางก็ยอมให้ความร่วมมือกับเขา“ท่านอ๋องต้องกินให้มากหน่อย ไม่แน่พรุ่งนี้ก็อาจลุกจากเตียงได้แล้ว”เจียงหวานหว่านกล่าวด้วยความหงุดหงิด“ยาพิษกลืนวิญญาณ จะหายเร็วเพียงนั้นได้เช่นไร”“ตุบ”ชามในมือเจียงหวานหว่านร่วงลงพื้น“ท่านถูกยาพิษกลืนวิญญาณ?”ผู้ถูกยาพิษกลืนวิญญาณจะต้องตายภายในสามวันนางจับมือของหรงซีแล้ววางนิ้วมือตัวเองทาบลงไปหรงซีเห็นท่าทางร้อนใจของนางก็รู้สึกอบอุ่นในใจ“ชีพจรท่านอ๋องได้รับความเสียหาย ยังดีที่ยายใบ้อยู่ด้วย
เจียงหวานหว่านส่ายหน้า นางไม่ได้วางยาหรงซี“ปล่อยนาง”หรงซีได้ยินเสียงจึงเอ่ยปาก“ท่านอ๋อง พิษถอนหมดแล้ว พักผ่อนมากๆ”หญิงชรานั่งอยู่ข้างเตียงหรงซีกล่าวเสียงทุ้มต่ำ“ขอบคุณมากยายเฒ่า”หรงซีกล่าวอย่างไร้เรี่ยวแรงหญิงชราลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปตอนที่เจียงหวานหว่านได้เห็นใบหน้าหญิงชราก็ใจกระตุกหญิงชราก็คือยายใบ้ อาจารย์ของซิ่วกู่“เทียนซู เจ้าก็ออกไปด้วย”“ท่านอ๋อง แต่ว่า...”เทียนซูไม่ไว้ใจกลัวว่าเจียงหวานหว่านจะคิดร้ายต่อท่านอ๋อง“ออกไป...”แม้เสียงของหรงซีจะอ่อนแรง แต่น้ำเสียงนั้นก็เกินพอแล้วเทียนซูมองเจียงหวานหว่านด้วยสายตาเตือน จากนั้นก็ออกจากห้องไปเจียงหวานหว่านเห็นหรงซีใบหน้าซีดขาว นางไม่กล้าเข้าไปหานางนึกถึงฉากที่หรงซีตายเพื่อนางในชาติที่แล้วขึ้นมา“เข้ามา”หรงซีขมวดคิ้วเจียงหวานหว่านน้ำตาตก เดินเข้าไปหาหรงซี“เจียงหวานหว่าน เป็นโชคดีของเจ้าที่ข้ายังไม่ตาย”หรงซีมองเจียงหวานหว่านที่กำลังตื่นตระหนกทำสิ่งใดไม่ถูกเขาถูกพิษหลังจากที่กินขนมของเจียงหวานหว่านแต่เขาไม่สงสัยในตัวเจียงหวานหว่านสักนิด“ท่านอ๋อง ข้าไม่รู้เหตุใด...”“เจ้าไม่ใช่คนวางยา ข้ารู้”
“ไอ้หยา”เจียงจิ่นเซวียนแกล้งทำเงินตกพื้นอย่างไม่ตั้งใจสือหลิ่วเห็นดังนั้นก็วางกล่องอาหารลงและวิ่งไปเก็บเศษเงินที่ตกกระจายอยู่ทั่วพื้นเจียงจิ่นเซวียนค่อยๆ ขยับและเปิดกล่องอาหารอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็โรยผงบางอย่างลงไปสือหลิ่วเก็บเศษเงินกลับมาหมดแล้ว เจียงจิ่นเซวียนกล่าวขอโทษ “แม่นางสือหลิ่วลำบากแล้ว”“ไม่เป็นไร คุณชายสี่ ข้าไปก่อนเจ้าค่ะ”สือหลิ่วหยิบกล่องอาหารขึ้นมาแล้วบอกลาเจียงจิ่นเซวียนเจียงจิ่งเซวียนกล่าวอย่างนุ่มนวล “แม่นางสือหลิ่วเดินทางระวังด้วย”“เจ้าค่ะ”สือหลิ่วรู้สึกเขินอายหลังจากพยักหน้าให้เจียงจิ่นเซวียนแล้ว นางก็เดินทางไปจวนอ๋องในมุมที่สือหลิ่วมองไม่เห็น เจียงจิ่นเซวียนยิ้มเยาะเย็นชานี่คือบทเรียนเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาให้เจียงหวานหว่านสือหลิ่วไม่สงสัยสักนิด นางเดินถือกล่องอาหารมาถึงจวนอ๋องหลังส่งกล่องอาหารเรียบร้อย นางไปร้านหนังสือเพื่อซื้อกระดาษให้เจียงจิ่นเซวียนซื้อกระดาษเสร็จแล้ว สือหลิ่วกลับถึงจวนและนำกระดาษไปส่งให้เจียงจิ่นเซวียน“แม่นางสือหลิ่ว เรื่องซื้อกระดาษในวันนี้ ไม่ต้องบอกน้องหก นางไม่ชอบให้ข้าเข้าใกล้คนเรือนเหมย หากนางรู้ว่าข้าเรียกใช้คนข
เจียงหวานหว่านมองดูรถม้าจวนอ๋องจากไปรถม้าจวนอ๋องไปไกลแล้ว เจียงหวานหว่านเก็บสายตากลับมาและเดินเข้าจวนไป“น้องหก รอก่อน”เจียงจิ่นเซวียนเรียกเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านหยุดเดินแล้วถามเสียงเย็น “มีเรื่องใด?”“น้องหก ได้รับความโปรดปรานจากท่านอ๋อง เป็นวาสนาของเจ้านัก ต้องรักษาไว้ให้ดี อย่าทำให้ท่านอ๋องโกรธจนลากคนในจวนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย”เจียงจิ่นเซวียนเดินมาข้างกายเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านหงุดหงิด เจียงจิ่นเซวียนไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปจริงด้วย คอยแต่จะหาโอกาสถากถางนางน้ำเสียงดูแคลนหาว่านางไม่คู่ควรกับท่านอ๋อง ช่างเป็นพี่ชายแท้ๆ ของนางจริงๆ“พี่สี่คอยปรนนิบัติรัชทายาทมาตั้งหลายปี การประจบสอพลอคงเป็นสิ่งที่พี่สี่ถนัดนัก หน้าไหว้หลังหลอกเป็นความสามารถโดดเด่นของพี่สี่ พี่สี่ใช้ชีวิตได้อย่างหน้าซื่อใจคดจริงๆ”รอยยิ้มจอมปลอมของเจียงจิ่นเซวียนเลือนหายไปเขานึกไม่ถึงว่าเจียงหวานหว่านจะด่าเขาไม่ไว้หน้าสักนิดเจียงหวานหว่านไม่มองเจียงจิ่นเซวียนแม้แต่น้อย นางเดินเข้าไปในประตูจวนหากอยู่นานกว่านี้หน่อยนางยิ่งรู้สึกขยะแขยง เจียงจิ่นเซวียนน่ารังเกียจกว่าเจียงจิ่นหนิงเสียอีกเจียงจิ่น
นางเปิดผ้าม่านเตรียมตัวลงรถม้าทันใดก็ถูกแรงกระชากนางกลับเข้ามาในรถม้าเจียงหวานหว่านจมเข้าสู่อ้อมกอดหรงซีกลิ่นหอมอำพันทะเลลอยเข้าจมูกนางหรงซีกุ้มหน้ามองเจียงหวานหว่านไม่พูดไม่จาเจียงหวานหว่านคิดจะลุกขึ้นกลับถูกหรงซีกอดเอาไว้แน่นคนสองคนจ้องตากันและกัน ไม่มีใครพูดจา“เหตุใดรถม้าจวนอ๋องถึงจอดอยู่ตรงนี้?”เจียงจิ่นเซวียนกลับมาถึงจวนพอดีและเห็นรถม้าจวนอ๋องจอดอยู่หน้าบ้านของตนเจียงหวานหว่านได้ยินเสียงเจียงจิ่นเซวียน ดวงตาก็กลับมาแจ่งชัดอีกครั้ง“ท่านอ๋อง พี่สี่ข้าอยู่ข้างนอก รีบปล่อยข้า”หรงซียิ้มเย็น “ข้าต้องกลัวเขาด้วย?”เจียงหวานหว่านกัดฟัน “ท่านอ๋องไม่กลัว แต่ชื่อเสียงข้าไม่เหลือแล้ว วันหน้าหากแต่งงานก็จะถูกผู้คนวิพากษ์วิจารณ์เอาได้”“เจ้าคิดจะแต่งกับใคร? กู้ฉางชิง? หรือเซียวหวาย?”เจียงหวานหว่านประหลาดใจ นางแต่งงานเกี่ยวข้องอันใดกับพวกเขาฝีเท้าของเจียงจิ่นเซวียนเดินเข้ามาใกล้เจียงหวานหว่านกดร่างต่ำลงแล้วกล่าวอย่างออดอ้อน “ท่านอ๋อง ขอร้องท่านล่ะ”หรงซีได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเจียงหวานหว่าน ความโมโหในใจลดไปไม่น้อย“เจียงหวานหว่าน เจ้าติดค้างข้า ครั้งหน้าข้าไม่ปล่อ
เจียงหวานหว่านได้ฟังคำพูดของหรงซีก็หันไปยิ้มให้เซียวหวายอย่างจนปัญญา“เซียวหวาย ขอโทษด้วย พรุ่งนี้ข้าจะไปพบเจ้า”เซียวหวายยิ้มแย้ม “แม่นางเจียง พรุ่งนี้ข้ามารับเจ้า”“ก็ดี...”ยังไม่ทันได้กล่าวจบประโยค เจียงหวานหว่านรู้สึกว่าตัวเองถูกจับข้อมือเอาไว้ไม่รู้ว่าหรงซีลงมาจากรถม้าตั้งแต่เมื่อใดเขาสีหน้าบึ้งตึง ดึงข้อมือเจียงหวานหว่าน ลากนางขึ้นรถม้าจวนอ๋อง“ท่านอ๋อง โปรดปล่อยแม่นางเจียงด้วย”เซียวหวายเห็นเจียงหวานหว่านถูกหรงซีผลักขึ้นรถม้า เขาจึงตามไปขวางแต่ถูกเทียนซูขวางเอาไว้ เซียวหวายผลักเทียนซู ทว่าเทียนซูไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อยหรงซีทำเหมือนไม่ได้ยินเซียวหวายโกรธเจียงหวานหว่านหันหน้ามากล่าวกลับเซียวหวายที่อยู่ด้านหลัง“คุณชายเซียว ข้าไปก่อนนะ”มือของหรงซีดึงศีรษะเจียงหวานหว่านเข้าไปในรถม้าเซียวหวายนั่งอยู่บนรถม้าสกุลเซียว กำลังตามท้ายรถม้าจวนอ๋อง“ท่านอ๋อง รถม้าของคุณชายเซียวตามอยู่ด้านหลัง”เทียนซูที่อยู่ด้านนอกกล่าวรายงานหรงซี“สะกดรอยตามราชวงศ์ มีเจตนาไม่ดี เทียนซู ส่งคุณชายเซียวไปยังสถานที่ที่เขาควรไป”เทียนซูลังเล“ท่านอ๋อง คุณชายเซียวเป็นน้องชายเซียวกุ้ย
เซียวกุ้ยเฟยยิ้มอย่างอบอุ่น“ฝีมือของอ้ายเฟย ข้าชอบยิ่งนัก”ฝ่าบาทตรัสด้วยถ้อยคำสองแง่สองง่ามเซียวกุ้ยเฟยหุบตาลงด้วยความเขินอาย จากนั้นก็พยุงฝ่าบาทเดินไปด้วยกันรอจนกระทั่งไม่เห็นเงาฝ่าบาทแล้วหรงซีสีหน้าเย็นชา ดวงตาเย็นชายิ่งกว่า จับจ้องมองหรงมู่หานหรงมู่หานรับรู้ถึงความโกรธท่วมท้นของหรงซี“เสด็จอา หลานขอตัวก่อน”ระหว่างที่กล่าว สายตาเขาเหล่มองเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านกรอกตาบนใส่หรงมู่หานนัยน์ตาหรงซีใกล้ระเบิดแล้วเขาขยับข้อมือก้อนเงินถูกดีดออกไปดีดโดนบริเวณกระดูกขาของหรงมู่หาน“เอื้อ...”หรงมู่หานรู้สึกถึงกระแทกที่ขาความเจ็บปวดจู่โจมกะทันหัน ทำให้เขาทรุดเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าเจียงหวานหว่าน”“องค์ชายรอง รู้ว่าผิดรู้จักแก้ไข เป็นสิ่งที่ดียิ่ง แต่ไม่จำเป็นต้องพิธีรีตองเช่นนี้”เจียงหวานหว่านกล่าวด้วยท่าทางใจกว้าง“เจ้า พวกเจ้า...”หรงซีและเจียงหวานหว่านเดินเคียงข้างกันจากไปโดยไม่สนใจหรงมู่หานหรงมู่หานรู้ว่าเป็นฝีมือหรงซีความรู้สึกอัปยศอดสูพุ่งเข้าสู่หน้าอกใบหน้าของเขาถูกหรงซีกับเจียงหวานหว่านทำลายจนป่นปี้หรงมู่หานมองแผ่นหลังทั้งสองคนแล้วสาบานกับตัวเอง
วิชาการแพทย์ของเจียงหวานหวานล้ำเลิศ พิษในร่างกายของน้องชายจะกำจัดไปได้เมื่อใดก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว เขาต้องวางแผนเอาไว้“น้องชาย ช่วงนี้สุขภาพเจ้าดีหรือไม่ เจ้าไม่ได้ไปให้หมอหลวงตรวจนานแล้ว”หรงซีหุบสายตาลง จากนั้นก็ประสานมือ “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงนึกถึง ช่วงนี้น้องชายสุขภาพไม่ดี วันนี้จะไปให้หมอหลวงตรวจอาการ”ฝ่าบาทเมื่อได้รับฟังก็เบาพระทัยลงมากพิษในตัวน้องชายถูกถอนไปแล้วหรือไม่ ถามหมอหลวงก็รู้แล้วฝ่าบาทหรี่พระเนตร มีแผนการในพระทัยแค่หมอหลวงจับชีพจรก็จะรู้ว่าหรงซีถอนพิษไปแล้วหรือไม่“แม่นางเจียง โรคของหรงซี เจ้ามีวิธีรักษาหรือไม่?”ฝ่าบาททอดพระเนตรเจียงหวานหว่าน“ฝ่าบาท แม่นางเจียงก็รักษาโรคของข้าไม่หายเช่นกัน”หรงซีกล่าวประโยคหนึ่งเจียงหวานหว่านรู้สึกว่าหรงซีประหลาดมาก เหตุใดกล่าวเช่นนั้นทว่าเมื่อเห็นสายพระเนตรฝ่าบาท นางเข้าใจทันทีฝ่าบาทต้องการให้หรงซีประคองความมั่นคงของแคว้น เขาไม่มีทางเปิดโอกาสให้หรงซีได้ครองบัลลังก์ในสมองเจียงหวานหว่านผุดความคิดหนึ่งขึ้นมาพิษหนอนกู่ในร่างกายหรงซีเป็นของฝ่าบาทจังหวะหัวใจนางเต้นเร็วขึ้น หากเป็นเช่นนี้ หรงซีก็จะถูกฝ่าบาทควบคุม