เจียงหวานหว่านแอบยินดีในใจ กอดขาของหรงซีไว้แน่นไม่เช่นนั้นไม่ต้องรอให้นางเข้าใกล้หรงซีนางก็คงถูกจับข้อหาไส้ศึกแน่นอนนางเงยหน้าขึ้น หัวเราะเบาๆ กล่าวว่า “ท่านอ๋อง มีข้าอยู่ ท่านต้องอายุยืนเป็นร้อยปีเป็นแน่แท้”หรงซีมองใบหน้าเจียงหวานหว่านที่จริงจังแล้วรู้สึกว่าน่าขบขันนัก“หลังกลับจวน ออกบ้านให้น้อย มีคนจับตามองเจ้าอยู่”เจียงหวานหว่านพูดเสียงค่อย “ทราบแล้วเพคะ ข้าจะไม่เสร้างเรื่องเดือดร้อนเพิ่มให้ท่านอ๋อง”หรงซีมาช่วยชีวิตตนไว้ เปิดเผยเรื่องที่เขาไม่ถูกพิษเจียงหวานหว่านจับไปที่กำไลเชื่อมจิต ภายในใจยินดียิ่งหรงซีเห็นเจียงหวานหว่านกำลังมองกำไลบนข้อมือ จึงเปิดปากพูดว่า“กำไลนี้ให้เจ้ายืมใส่ก่อน ห้ามทำหายล่ะ”เจียงหวานหว่านพูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “ท่านอ๋องไม่ได้มอบให้หม่อมฉันแล้วหรือเพคะ” หรงซีรู้สึกเสียใจที่มอบกำไลเชื่อมจิตแก่เจียงหวานหว่าน“ท่านอ๋อง ถึงจวนเจียงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”รถม้าหยุดลง เซี่ยงหรงพูดขึ้นภายนอกรถม้าเจียงหวานหว่านยิ้มร่า เดินลงจากรถม้าไปทางประตูจวนเจียงนายประตูจวนเจียงเปิดประตูใหญ่อย่างนอบน้อม ให้เจียงหวานหว่านเดินเข้าจวนไปนายประตูเห็นแล้วว่าเป็นรถม้า
เพื่อให้เจียงจิ่นหนิงได้ออกจากคุก ฮูหยินใหญ่เจียงมองไปที่เจียงหวานหว่านด้วยใบหน้าเปี่ยมเมตตา“หวานเจี่ยเออร์ แม้นว่าหนิงเกอเออร์จะนิสัยมุทะลุ แต่เขาก็เป็นพี่ชายแท้ๆ ของเจ้า เจ้าลองไปถามท่านอ๋องว่าพอจะหาทางช่วยได้หรือไม่”เจียงหวานหว่านขมวดคิ้วมุ่น รำคาญใจอย่างช่วยไม่ได้“ท่านย่าเจ้าคะ พวกเรารบกวนท่านอ๋องเรื่องท่านพ่อแล้ว หากจะไปขอร้องให้ท่านอ๋องช่วยพูดเรื่องพี่ห้าอีก เกรงว่าจะไม่เหมาะ”คำพูดของเจียงหวานหว่านมีเหตุผล ตอนนี้ท่านอ๋องสนใจในตัวหวานเจี่ยเออร์ ถึงได้ออกมือช่วยตระกูลเจียงหากก่อกวนจนท่านอ๋องรำคาญใจ เรื่องของป๋อเหนียนก็จะไม่มีคนช่วยแล้วฮูหยินใหญ่เจียงคิดวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนแล้ว ไม่กล้าเสี่ยง จึงคิดว่ายอมถอยดีกว่า“เป็นย่าเองที่ไม่คิดให้ดีรอบคอบ เรื่องของพี่ห้าเจ้า ย่าจะคิดหาทางออกอื่นอีกที”“ท่านย่า ลองหาทางผ่อนกับทางนั้นดูก่อน รอท่านพ่อได้กลับจวนแล้ว ตระกูลหลิวอย่างไรก็ต้องยอมถอยสักสามก้าว อย่างไรเสียก็ต้องนึกถึงหน้าที่การงานของคุณชายใหญ่หลิว”เจียงหวานหว่านพูดเตือนฮูหยินใหญ่เจียง หลิวเม่าเซิ่งรับตำแหน่งภายใต้เจียงป๋อเหนียนเชียวนะหากเจียงป๋อเหนียนได้กลับจวนอย่างปล
“ท่านแม่ ไม่ต้องกังวลไป ท่านพี่จะไม่เป็นไรเจ้าค่ะ”เจียงอวิ้นเห็นเจียงหวานหว่านออกมา ร้องไห้หนักกว่าเดิม “พี่หก ตอนนี้มีเพียงท่านที่ช่วยพี่ห้าได้ ด้วยความสัมพันธ์ของพี่กับท่านอ๋อง ขอเพียงพี่เปิดปากพูด พี่หกต้องไม่เป็นไรและถูกปล่อยตัวออกมา น้องขอร้องพี่ล่ะ ช่วยพี่ห้าด้วยเถิดเจ้าค่ะ”เจียงหวานหว่านให้สาวใช้ประคองตัวหลิ่วซู่ไว้ มองเจียงอวิ้นอย่างดูแคลน“เจียงอวิ้น เจียงจิ่นหนิงเป็นคุณชายของจวนเจียง เกิดเรื่องกับเขา เจ้าควรไปขอความช่วยเหลือจากท่านย่า เหตุใดจึงวิ่งมาที่เรือนเหมยเล่า”เจียงอวิ้นตอบเสียงแข็ง “ท่านย่าร่างกายอ่อนล้าเหลือคณา ข้าไม่กล้าไปรบกวนท่านย่าหรอกเจ้าค่ะ”“เจียงจิ่นหนิงทุบตีผู้อื่นจนบาดเจ็บสาหัส เขาไม่ได้ตายสักหน่อย เจ้าร้องห่มร้องไห้อะไรกัน”สายตาเจียงหวานหว่านเต็มไปด้วยการเสียดสี“เจ้าหน้าที่ศาลาว่าการจิงจ้าวอิ่นดุร้ายที่สุด ใบหน้าของพี่ห้าช้ำม่วง เลือดออกท่วมตัว ต้องถูกพวกเจ้าหน้าที่ตีแน่ๆ”เจียงหวานหว่านยิ้มเย็นเยือก “เจ้าบอกว่าเจียงจิ่นหนิงเลือดท่วมตัว จิงจ้าวอิ่นไม่ใช่ที่ๆ จะลงโทษใครได้ตามอำเภอใจ คดีความยังไม่ผ่านการไต่สวน เจียงจิ่นหนิงจะถูกตีจนเลือดท่วมตัวได
เจียงอวิ้นยังไม่ตายใจ พูดขึ้นว่า “ฮูหยิน แม่ลูกเชื่อมจิต พี่ห้าเป็นก้อนเนื้อที่ท่านอุ้มมาตั้งสิบเดือน ท่านทนเห็นเขาต้องทนทุกข์ได้รึ”พูดจบ ไม่รอให้สาวใช้มาเชิญนางออกไป เจียงอวิ้นหันหลับเดินออกไปเองหลิ่วซู่เดินเข้าห้อง เจียงหวานหว่านมองส่งเจียงอวิ้นไปจากเรือนเหมยพอใกล้จะถึงประตูเรือน เจียงอวิ้นชะงักแล้วหันหลังนางยกยิ้มอย่างผิดปกติ ในรอยยิ้มซ่อนด้วยเจตนาร้ายที่เย็นเสียดกระดูกความเกลียดในใจเจียงหวานหว่านแผ่ซ่านไปทั่ว แค้นใหม่หนี้เก่า ต้องมีสักวันที่นางจะให้เจียงอวิ้นชดใช้สิ่งที่นางทำเจียงอวิ้นเดินออกจากเรือนเหมย นางถือกล่องอาหารไปเยี่ยมเจียงจิ่นหนิงพอเจียงจิ่นหนิงเห็นเจียงอวิ้น พูดขึ้นว่า “น้องเจ็ด นี่ไม่ใช่ที่ๆ เจ้าควรมา รีบไปเถอะ”“พี่ห้า ท่านยากำลังไปที่เรือนจวนเจรจาปรองดอง พี่ต้องไม่เป็นไรแน่ๆ”เจียงอวิ้นวางกล่องอาหารในมือลง หยิบอาหารยื่นให้เจียงจิ่นหนิงเจียงจิ่นหนิงพูดขึ้นว่า “น้องเจ็ด มิตรแท้รู้ได้ในยามยาก พี่ไม่ได้รักเจ้าเสียเปล่าจริงๆ”“โถ่ พี่ห้า”เจียงจวิ้นทำท่าใคร่จะพูดแต่ก็เงียบลงเจียงจิ่นหนิงพอเห็นท่าทางของเจียงอวิ้น เจียงจิ่นหนิงถามขึ้นอย่างกังวลใจ “เพรา
เจียงอวิ้นไม่ยอมดองญาติด้วย เจียงป๋อเหนียนจึงคิดให้ตนไปแทน เสียดายที่หรงมู่หานค้นพบว่านางเป็นผู้สืบทอดของปรมาจารย์หมอเซียน จึงลงมือไวกว่าจวนหลิวก้าวหนึ่ง สู่ขอนางไปเป็นพระชายารองนางไม่ต้องการเป็นอนุของผู้อื่นจึงตอบปฏิเสธไปทันทีหรงมู่หานไม่ต้องการให้องค์รัชทายาทในขณะนั้นคลางแคลงใจ จึงได้มาสู่ขอตนด้วยตำแหน่งพระชายาเอกหลังจากที่ตนหวั่นไหวกับการกระทำของเขา ก็ไม่ได้สนใจหรงซี ยืนหยัดจะแต่งกับมู่หรงหานไม่คิดว่าภายหลังจวนหลิวจะเกิดเรื่องขึ้น เจียงป๋อเหนียนจึงฉวยโอกาสตอบปฏิเสธเรื่องดองญาติสามวันให้หลังเซี่ยงหรงส่งของกำนัลมา ทั้งผ้าแพรผ้าไหม ไข่มุกเครื่องหยก ชาดทาหน้าและแป้งน้ำยังมีตั๋วเงินอีกกล่องหนึ่ง เจียงหวานหว่านนับดูปล้ว เป็นจำนวนเงินหนึ่งหมื่นตำลึงถ้วน“ร่างกายของท่านอ๋องเป็นอย่างไรบ้าง วันพรุ่งนี้ข้าจะไปดูอาการให้ท่านอ๋องที่จวนอ๋อง”เซี่ยงหรงตอบอย่างนอบน้อมว่า “แม่นางเจียง หลายวันมานี้ท่านอ๋องไม่อยู่ที่จวนขอรับ รอท่านอ๋องกลับมาแล้ว ข้าน้อยจะมาแจ้งแม่นางเจียงให้ทราบขอรับ”เจียงหวานหว่านทำหน้าบูดบึ้ง ในเมื่อหรงซีออกไปข้างนอก สองวันนี้นางก็จะไปจัดการธุระของตนเองชาติที่แ
ในใจเจียงหว่านหว่านเต็มไปด้วยความเกลียดชังจนปวดหัวใจแน่นอนว่านางรู้จักเขา ต่อให้จางวั่งไฉจะกลายเป็นขี้เถ้า นางก็ยังจำเขาได้เจียงหว่านหว่านหยิบหนึ่งร้อยตำลึงแล้วมอบให้กู้ฉางชิงกู้ฉางชิงส่ายหัว “จางวั่งไฉไม่ต้องการเงิน เขาให้ข้าเอาน้องชายไปใช้หนี้ ข้าเพิ่งถูกลูกน้องของเขาตีมายกหนึ่ง”เจียงหวานหว่านโกรธยิ่งนัก ช่างเป็นคนไร้ยางอายยิ่งนัก“ไป พวกเราไปช่วยฉางเกอกัน”เมื่อกู้ฉางชิงได้ยินคำว่า ‘พวกเรา’ ที่เจียงหวานหว่านพูดก็ตกใจเป็นอย่างมากคนที่เจ็บป่วยอย่างเขากับหญิงสาวอ่อนแอ พวกเขาจะไปเอาเรื่องพวกอันธพาลเหล่านั้นได้อย่างไรเล่าอย่างไรก็ต้องไปช่วยน้องชาย แต่จะพาลทำให้แม่นางเจียงลำบากไม่ได้“แม่นางเจียง มาหาข้ามีธุระอันใดรึ”เจียงหวานหว่านลุกขึ้นยืน เหลือบตามองกู้ฉางชิง “เจ้าไม่อยากช่วยฉางเกอรึ”“อยาก”กู้ฉางชิงพูดอย่างไม่หยุดคิด“สือหลิ่ว เตรียมรถ”สือหลิ่วรีบรุดไปเตรียมรถม้าด้านล่างเจียงหวานหว่านก้าวขาออกจากห้องรับรองแขกพิเศษ เดินลงบันไดไป กู้ฉางชิงเดินขนาบข้างเจียงหวานหว่านตอนเดินผ่านตำแหน่งห้องครัวที่ชั้นหนึ่ง เจียงหวานหว่านหยุดลงนางหยิบเอาท่อนไม้สุมไฟที่วางอยู่ตรงป
เจียงหวานหว่านกล่าวเสียงเย็น“จางวั่งไฉ”เจี๋ยหู่คิดว่าเจียงหวานหว่านเป็นชู้รักที่จางวั่งไฉเลี้ยงดูไว้ข้างนอกเขาตะลึงกับรูปร่างหน้าตางดงามเหลือเกินของเจียงหวานหว่าน และทอดถอนใจที่ลูกพี่ช่างมีวาสนาแม่นางที่งดงามเช่นนี้ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นผู้หญิงของลูกพี่ เจี๋ยหู่อิจฉาจางวั่งไฉมาก“ที่แท้ก็พี่สะใภ้นี่เอง ลูกพี่อยู่ด้านใน เชิญด้านในขอรับ”เจี๋ยหู่เชิญเจียงหวานหว่านเข้าไปข้างในกู้ฉางชิงกำลังจะตามเจียงหวานหว่านเข้าไปข้างในด้วย แต่ถูกเจี๋ยหู่ขวางไว้“เจ้ามาทำไม ยังถูกตีไม่สาแก่ใจหรือ”เจียงหวานหว่านกล่าวอย่างเย็นชา “ให้จางวั่งไฉออกมา”“เอ่อ ได้ๆ ข้าจะไปเชิญลูกพี่ออกมา”เจี๋ยหู่ชำเลืองมองเจียงหวานหว่าน หน้าตาสะสวย แต่นิสัยฉุนเชียวเช่นกันจางวั่งไฉได้ยินเจี๋ยหู่บอกว่าพี่สะใภ้มาหาเขา เขารู้สึกประหลาดใจมากเมื่อเขาได้เห็นเจียงหวานหว่าน ก็พบว่าตัวเขาไม่รู้จักนางเป็นจางวั่งไฉจริงด้วย!ชาติก่อนจางวั่งไฉเฆี่ยนตีนางไม่หยุดในห้องลับ บนแส้ยังอาบไปด้วยน้ำเกลือและพริกทุกครั้งที่เฆี่ยนลงมาล้วนเจ็บไปถึงกระดูก ใบหน้านี้ของจางวั่งไฉสลักลึกอยู่ในจิตใจของนางไม่เพียงเฆี่ยนตีอย่างโหดร้ายทาร
ตรงมุมถนน หรงซียืนไม่พูดไม่จามองเจียงหวานหว่านที่กำลังทะเลาะกับกลุ่มผู้ชาย“เจ้านาย ข้าน้อยควรเข้าไปช่วยหรือไม่” เซี่ยงหรงลองถามหยั่งเชิงหรงซีแค่นเสียงเย็น ไม่สนใจคำพูดของเซี่ยงหรงเซี่ยงหรงลูบจมูก ดูเหมือนเจ้านายจะไม่ค่อยพอใจนักเจียงหวานหว่านไม่รับรู้ว่าหรงซียืนอยู่ตรงมุมถนนด้านนอกบ้าน ความสนใจนางอยู่ที่จางวั่งไฉแม้จางวั่งไฉจะคลุกคลีกับตลาดพ่อค้าไร้การศึกษามาตลอด แต่การต่อกรกับกังฟูหมัดมวยของเจียงหวานหว่านนั้นเกินกำลังเขาเจียงหวานหว่านทุบท่อนไม้สุมไฟทีเดียวทำเอาจางวั่งไฉคว่ำลงไปกับพื้นเจียงหวานหว่านเยียบแผ่นหลังของจางวั่งไฉ ท่อนไม้สุมไฟกดอยู่ตรงบริเวณท้ายทอยของจางวั่งไฉ“หยุดให้หมด มิเช่นนั้นวันนี้ข้าจะตีเขาให้ตาย”ลูกน้องจางวั่งไฉทุกคนหยุดลง ไม่กล้าหุนหันพลันแล่นกู้ฉางชิงฉวยโอกาสวิ่งมาข้างกายเจียงหวานหว่าน จับเขม็งเตรียมป้องกันเหล่าคนชั่วร้ายที่อยู่ตรงหน้า“แม่นาง อย่าลงมือ มีสิ่งใดพูดคุยกันได้”เจี๋ยหู่ใบหน้ายิ้มแย้มบอกให้เจียงหวานหว่านอย่าวู่วาม“ถ้าไม่อยากให้หัวแบะก็ส่งคนออกมา”เจียงหวานหว่านบังคับให้จางวั่งไฉส่งตัวกู้ฉางเกอออกมาใบหน้าจางวั่งไฉแนบอยู่กับพื้น