กว่าจะพูดจบได้ประโยคหนึ่งไม่ง่ายนัก กู้ฉางชิงจับหน้าอกของตนไว้ เพื่อระงับอาการไอ“เจ้าได้พบกับข้าแสดงว่าชะตาของเจ้ายังไม่ถึงฆาต เจ้าควรจะขอบคุณน้องชายเจ้านะ!”กู้ฉางชิงรีบปฏิเสธ “ข้าไม่มีสิ่งของมีค่าใดๆ แถมยังป่วยหนัก คุณหนูกลับไปเถิด!”เจียงหวานหว่านหัวเราะหึๆ “คนรุ่นหลังของสกุลกู้มีชีวิตตกอับถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่ากู้เลี่ยงตายตาหลับหรือไม่”กู้ฉางชิงกอดกู้ฉางเกอไว้ให้ออกห่างจากเจียงหวานหว่าน แล้วถามอย่างป้องกันตัวว่า “เจ้าคือใคร”เจียงหวานหว่านหยิบขลุ่ยหยกของท่านอาจารย์ออกมา “สกุลกู้มีชีวิตตกอับถึงเพียงนี้ ไม่ทราบว่ายังสามารถรักษาสัญญาได้หรือไม่”“ปรมาจารย์หมอเซียนเป็นอะไร…กับเจ้า” กู้ฉางชิงเอ่ยถามเจียงหวานหว่านยิ้มเบาๆ “เป็นอาจารย์”“แม่นางตามหาที่นี่เจอได้อย่างไร”เจียงหวานหว่านหัวเราะแห้ง “หลายคนในเมืองหลวงจำสกุลกู้ได้ หากอยากรู้ว่าคนรุ่นหลังของสกุลกู้อยู่ที่ไหน เพียงแค่สืบดูก็รู้!”เมื่อชาติที่แล้วที่กู้ฉางชิงมุ่งมั่นช่วยหรงมู่หานทำงานหาเงินสุดชีวิต ก็เพราะนางท่านอาจารย์มีบุญคุณต่อสกุลกู้ ส่วนนางก็รักษาอาการป่วยของกู้ฉางเกอกู้ฉางชิงรู้สึกขอบคุณ จึงได้ช่วยหรงมู่หานทำเ
กู้ฉางเกอเดินไปหาเจียงหวานอย่างขี้อายเจียงหวานหว่านหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาชุบให้เปียกแล้วเช็ดหน้า ล้างมือให้กับกู้ฉางเกอ“ไม่ว่าชีวิตจะลำบากแค่ไหน ก็ต้องสะอาดอยู่เสมอนะ!”กู้ฉางเกอจ้องไปที่เจียงหวานหว่านนิ่งๆ ดวงตาของเขาเป็นประกายเจียงหวานหว่านและกู้ฉางเกอเป็นเหมือนพี่น้องร่วมสายเลือด บรรยากาศทั้งกลมกลืนและอบอุ่นเมื่อสือหลิ่วกลับมา ก็พบว่าคุณหนูกำลังขีดเขียนพื้นด้วยกิ่งไม้พร่ำสอนกู้ฉางเกอให้รู้สึกตัวอักษรอยู่หลังจากหาฟืนและหม้อดินเก่าๆ ได้แล้ว สือหลิ่วก็เริ่มต้มยากู้ฉางชิงดื่มยาแล้วรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย“คุณชายกู้ สองสามวันนี้ ข้าจะสั่งให้คนส่งอาหารและยามาให้เจ้า ถ้าเจ้าหายเมื่อไหร่ให้มาหาข้าที่จวนเจียง”กู้ฉางชิงกล่าวอย่างสุดซึ้ง "นังตั้งแต่สกุลกู้ประสบปัญหา แม่นางเจียงเป็นคนเดียวที่ยื่นมือมาช่วยเหลือฉางชิง ฉางชิงจะจำเอาไว้ในใจ"เจียงหวานหว่านหยิบพู่กัน หมึก กระดาษ และหินฝนหมึกที่สือหลิ่วซื้อมา แล้วร่างสัญญาให้เรียบร้อย“นี่คือสัญญาของเรา ข้าให้เพิ่มเป็นสามเท่า คุณชายกู้ เชิญ!”กู้ฉางชิงไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย เขาเขียนชื่อและประทับลายนิ้วมือของตนทันทีกู้ฉางชิงกำปั้น "อย่า
ท่านย่าเรียกพบตน เปลือกตาของเจียงหวานหว่านกระตุกเล็กน้อย รู้สึกว่าไม่น่าจะมีเรื่องดีเกิดขึ้นแน่นอนเป็นไปตามคาด สิ่งแรกที่ฮูหยินใหญ่เจียงทำเมื่อเห็นหน้าเจียงหวานหว่านคือการตั้งคำถาม“หวานเจี่ยเออร์ พ่อเจ้ากำลังลำบากอยู่ในคุก แต่เจ้ากลับยังมีใจออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกเพิ่งจะกลับมากลางค่ำกลางคืนเช่นนี้อีกหรือ”เจียงหวานหว่านอธิบาย “ท่านย่าเข้าใจผิดแล้ว หวานหว่านเป็นห่วงท่านพ่อมาก จึงออกไปหาท่านอ๋องให้พระองค์ช่วยคิดหาวิธีดูถึงได้กลับมาช้าเจ้าค่ะ”ฮูหยินใหญ่เจียงตาเป็นประกาย “แล้วท่านอ๋องว่าอย่างไรบ้าง”เจียงหวานหว่านส่ายศีรษะเศร้าใจ “วันนี้หวานหว่านรออยู่ที่จวนอ๋องทั้งวัน แต่ไม่เห็นท่านอ๋องเลยเจ้าค่ะ ดูเหมือนท่านอ๋องจะไม่อยู่ในจวน”แสงสว่างในตาฮูหยินใหญ่เจียงหายไปในพริบตา“ท่านย่าอย่าได้กังวลไปเลยเจ้าค่ะ หวานหว่านจะไปหาท่านอ๋องอีกจนกว่าจะช่วยท่านพ่อออกมาได้”คำพูดหอมหวานใครจะพูดไม่ได้ เพราะอย่างไร เจียงป๋อเหนียนก็ไม่ถูกขังตัวไว้นานหรอกเมื่อรู้ว่าเจียงหวานหว่านออกไปหาทางช่วยเหลือเจียงป๋อเหนียน ฮูหยินใหญ่เจียงก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก“พรุ่งนี้ค่อยไปขอร้องท่านอ๋อง ตราบใดที่ช่วยพ่อเจ้าอ
“หาในวังหรือยัง”เซี่ยงหรงอ้ำอึ้ง “บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้”เขาไม่พูดพล่ำทำเพลง หมุนตัวเดินไปหาสมุนไพรยาที่ราชวังทันทีเจียงหวานหว่านมองดูหรงซีที่นอนไม่ได้สติพลันนึกถึงความลำบากที่เขาต้องเผชิญเมื่อชาติที่แล้ว ชาตินี้นางจะไม่มีทางปล่อยให้เกิดเรื่องกับหรงซีแน่นอนหรงซีต้องมีอายุยืนยาวร้อยๆ ปีครึ่งชั่วยามผ่านไป เซี่ยงหรงยังคงกลับมามือเปล่า“คุณหนูเจียง ในห้องยาหลวงก็ไม่มีขอรับ”เซี่ยงหรงเอ่ยอย่างรีบร้อนเจียงหวานหว่านนึกสงสัย เหตุใดถึงบังเอิญเพียงนี้“บ่าวถามเถ้าแก่ร้านยาในเมืองหลวงแล้ว บอกว่ามีคนใหญ่โตซื้อยาพวกนี้ไปจำนวนมากในราคาสูงขอรับ”คำพูดของเซี่ยงหรง ทำให้เจียงหวานหว่านยืนยันในสิ่งที่ตนคาดเดาเจียงหวานหว่านเอ่ยเสียงขรึม “รอข้าประเดี๋ยว ข้าจะรีบกลับ”“คุณหนู บ่าวไปด้วย”เจียงหวานหว่านส่ายศีรษะ “เจ้าอยู่เฝ้าท่านอ๋อง ข้าจะไปดูที่อำเภอใกล้ๆ เมืองหลวง น่าจะซื้อมาได้”คนที่กล้าทำร้ายหรงซี นางไม่ปล่อยไว้แน่“ขอรับ”ยังมีอีกที่หนึ่งที่น่าจะมียาสมุนไพรที่ต้องการเจียงหวานหว่านแค่นเสียงเย็นชา ตอนนี้นางถอนพิษให้กับหรงซีก่อนล่วงหน้า ทำให้คนที่วางยาหรงซีอยู่เบื้องหลังนั่งไม่นิ่งอีกต
เซี่ยงหรงต้มยาเสร็จพลันยื่นให้กับเจียงหวานหว่าน ส่วนตนยืนเฝ้าอยู่นอกประตูห้องข้างในห้องมีเพียงเจียงหวานหว่านกับหรงซีสองคนเท่านั้นนางตักยาสมุนไพรมาช้อนหนึ่งแล้วป้อนเข้าปากหรงซี ทว่าน้ำต้มยาสมุนไพรไหลออกตามมุมปากนางลองอยู่หลายหนแต่ไม่เป็นผล เจียงหวานหว่านจึงอมยาสมุนไพรไว้ในปากจากนั้นใช้ลิ้นคลี่ฟันของหรงออก แล้วปล่อยยาสมุนไพรออกไปไหลสู่ลำคอของหรงซีเจียงหวานหว่านขวยเขิน หัวใจเต้นรัว สัมผัสอันนุ่มนิ่ม ทำให้นางสติหลุดนิ้วหัวแม่มืออันนุ่มนิ่มปาดผ่านริมฝีปากของหรงซี นางเช็ดคราบยาสมุนไพรบนริมฝีปากออก“หรงซี ใครหน้าไหนก็ไม่มีมีทางทำร้ายท่านได้ ชาตินี้ ข้าจะปกป้องท่านเอง”เจียงหวานหว่านเดินไปพูดคุยกับเซี่ยงหรงเสียงเบาตกดึก องครักษ์ในจวนอ๋องมาเดินสำรวจมีเงาร่างหนึ่งแอบเข้าไปในห้องหนังสือของหรงซี เริ่มค้นไปทั่วห้องเซี่ยงหรงซ่อนตัวอยู่ในที่ลับจึงเห็นบุคคลที่เข้ามาในห้องหนังสือของหรงซีเต็มตาสีหน้าของเขานิ่งขรึม คาดไม่ถึงว่าแม่นางเจียงจะพูดถูก มีคนทรยศอยู่ในหมู่คนสนิทของท่านอ๋องไม่คิดว่าคนที่ทรยศนั่นจะเป็นซุนอู่ พี่น้องร่วมทุกข์ร่วมสุขของตนเพื่อต้องการให้ได้แผนที่การจัดกำลังท
ยืมมือเขาจัดการองค์รัชทายาท อยากเป็นดั่งชาวประมงได้ประโยชน์[footnoteRef:1] ไร้สาระเหมือนความเพ้อฝันของคนปัญญาอ่อนอย่างเซี่ยงหรง [1: ชาวประมงได้ประโยชน์ มาจากสำนวนนกกระยางสู้กับหอยกาบ ชาวประมงได้ประโยชน์ ความหมายว่า สองฝ่ายที่ต่อสู้กันต่างไม่ได้รับผลประโยชน์ แต่กลับให้ฝ่ายที่สามกอบโกยผลประโยชน์ไป] “เซี่ยงหรง นำเงินภัยพิบัติที่หรงมู่หานยักยอกออกมาซิ”“ขอรับ”หรงซีกุมหลักฐานในการทุจริตของหรงมู่หานไว้ ไม่ได้ใช้ทำอะไร เพราะว่าไม่ได้ให้ค่าหรงมู่หานในเมื่อหรงมู่หานว่างเกินไปแล้ว เช่นนั้นก็หาเรื่องให้เขาทำหน่อยแล้วกันซ่างกวนอวิ๋นเฟยเก็บรอยยิ้มบนใบหน้า“ท่านพ่อส่งจดหมายมา ถามว่าท่านป้าเป็นอย่างไรบ้าง”หรงซีกำกำปั้นแน่น สิบสองปีแล้ว เรื่องของเสด็จแม่ไม่คืบหน้าเลยสักนิดเขาเชื่อว่าเสด็จแม่ยังมีชีวิตอยู่แน่ๆ นางรอเขาอยู่หรงซีไม่ได้พูดอะไร ซ่างกวนอวิ๋นเฟยถอนหายใจคราหนึ่ง“อีกไม่กี่วันท่านพ่อก็จะกลับเมืองหลวง”หรงซีตอบกลับอืม ที่ท่านลุงกลับเมืองหลวง ต้องเป็นเพราะเรื่องท่านแม่“อืม”ซ่างกวนอวิ๋นเฟยพูดขึ้นช้าๆ “เด็กเยียนหรานนั่นก็กลับมาแล้ว”สีหน้าของหรงซีไม่เปลี่ยนแปลงสักนิดซ่าง
ตอนที่เจียงหวานหว่านตื่นขึ้นมาก็พบว่ามือของนางถูกมัดด้วยเชือกป่านไว้ด้านหลังดวงตาทั้งคู่ถูกปิดด้วยผ้า ภายในห้องมีกลิ่นอับชื้นและเน่าเปื่อยในปากถูกยัดด้วยผ้าขี้ริ้วที่ส่งกลิ่นเหม็นเน่าผืนหนึ่ง รสชาติก็น่าขยะแขยงอย่างอธิบายไม่ได้นางไม่คาดคิดว่าจะมีใครมาป้นรถม้าของพระราชวัง นางต้องหาทางเอาชีวิตรอดด้วยตัวเองเจียงหวานหว่านใช้มือแตะพื้นซึ่งมีหลุม มีดินเหนียวอยู่มากนางต้องการหาของที่มีคมมาตัดเชือกที่ผูกมือไว้ออกหลังจากคลำอยู่ครึ่งค่อนวันนางก็พบหินที่มีหัวแหลมนูนบนพื้นตรงหัวมุมเจียงหวานหว่านค่อยๆ ขยับตัวไปข้อมือที่ถูกผูกไว้ถูกับหินที่มีหัวแหลมนูนอย่างต่อเนื่องผ่านไปครึ่งชั่วยาม เจียงหวานหว่านก็ใช้เรี่ยวแรงจนหมดอากาศหนาวเย็น แต่นางกลับเหงื่อออกไปท่วมตัวแต่นางไม่อยากตาย นางต้องการปกป้องท่านแม่ และหรงซี นางต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปข้อมือของนางมีเลือดหยด แต่นางก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยในเวลานี้ มีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกประตูเจียงหวานหว่านชะงักการถูเชือกป่าน นางนั่งกับพื้นโดยไม่เคลื่อนไหว แสร้งทำเป็นหมดสติไม่ฟื้น“เอี๊ยด” ประตูส่งเสียงเสียดหู และฝีเท้าของผู้ที่มาก็เบามาก“แม่น
เจียงหวานหว่านหันกายมอง แสงคบเพลิงเข้าใกล้ตัวเองขึ้นเรื่อยๆ นางใช้ไหวพริบนางถอดรองเท้าปักข้างหนึ่ง ทิ้งอยู่ตรงขอบหน้าผาแล้วปีนขึ้นบนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ซ่อนกายอยู่บนปลายต้นไม้ นั่งนิ่งไม่กล้าขยับโจรที่ไล่ตามมาด้านหลัง พบว่าตนไล่ตามเจียงหวานหว่านไม่ทันแล้ว ตรวจหารอบสี่ทิศ“ใต้เท้า เกรงว่าแม่นางผู้นั้นจะรีบวิ่งหนีจนตกหน้าผาไปแล้ว”หนึ่งในโจรถือรองเท้าปักของเจียงหวานหว่านไว้แล้วคาดเดา“ใต้เท้า จะตายร้ายตายดียังไงก็ตายอยู่ดี คิดว่าเจ้านายคงไม่คาดโทษ”โจรอ้วนอีกคนพูดต่อว่า“จะตายช้าตายเร็วก็ต้องตายอยู่ดี”หัวหน้าโจรพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า“พี่ใหญ่พูดถูก เทพสงครามหรงซีแห่งแคว้นตงหลิงถูกพิษ ขอเพียงเทพสงครามตายไป กองทัพเกรียงไกรของแคว้นซีหลิงเราจะเหยียบแคว้นตงหลิงให้ราบเป็นหน้ากลอง”โจรอ้วนพูดขึ้นอย่างได้ใจโจรทั้งหลายหัวเราะฮ่าฮ่าขึ้น ราวกับเห็นภาพที่แคว้นซีหลิงเอาชนะแคว้นตงหลิงได้แล้วอย่างไรอย่างนั้นเจียงหวานหว่านได้ยินพวกเขาสนทนากัน ตกใจจนสั่นไปทั้งตัว ที่แท้เป็นแผนการของแคว้นซีหลิงนี่เองหัวหน้าโจรโบกมือ ให้ลูกน้องทั้งหมดจากไปเจียงหวานหว่านโกรธจนขึ้นหัว ที่แท้คนที่วางยาห