Share

ตอนที่ 3

ในคืนนั้น ชายที่อยู่ในร่างเด็กน้อยนามจางอี้หมิงได้ฟื้นคืนสติขึ้นมาอีกครั้ง ข้างกายมีนางหูไป๋หง ท่านย่าของร่างนี้นอนอยู่ข้าง ๆ เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ เตียงนอนเป็นแคร่ไม้ไผ่ ตัวเขานอนกับนางหู ส่วนบิดามารดานอนถัดไปอีกแคร่ที่อยู่ใกล้ๆ 

เขานอนเรียบเรียงความคิดเงียบ ๆ คนเดียว จนความทรงจำของร่างใหม่และความทรงจำเดิมผสานกันอย่างสมบูรณ์ 

อานนท์ วังศรีซ้าย คือเขาในโลกเดิม ก่อนที่จะมาอาศัยอยู่ในร่างจางอี้หมิง เขาเติบโตมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า   บ้านอุ่นไอรัก เรียนจบแค่ชั้น ปวส. การตลาดภาคค่ำ เขาไม่ใช่คนที่เรียนเก่งหรือหน้าตาโดดเด่นอะไรเลย เป็นมนุษย์ที่พบเห็นได้ทั่วไปอย่างดาษดื่น 

แต่ถึงกระนั้น เขากลับเป็นคนที่มีฝีมือการทำอาหารในระดับที่น่าจับตามอง ไม่ได้อยากจะคุยโว แต่ลูกค้าหลายคนถึงกับออกปากแนะนำว่าเขาควรไปแข่งซูเปอร์เชฟไทยแลนด์เลยทีเดียว เขามีลูกค้าประจำหลายสิบคนแวะเวียนมาอุดหนุน ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่เวียนไปเรื่อย ๆ พอได้มีเงินใช้ ชีวิตราบเรียบ ไม่มีอะไรโลดโผนตื่นเต้นเหมือนในหนัง 

ส่วนอาชีพรองคือนักวิจัยข้อมูล ก็พูดไปซะหรูอย่างงั้นแหละ ความจริงแล้วมันคือการรับจ้างค้นคว้าหาข้อมูลในอากู๋นั่นเอง คนจ้างมีตั้งแต่เด็กมัธยมไปจนถึงพนักงานบริษัท ลูกค้าหลัก ๆ มีสอง ประเภท คือกลุ่มนักเรียนนักศึกษา และอีกกลุ่มคือนักเขียน หากแปลกใจว่าทำไมจึงมีนักเขียนเข้ามาอยู่ในกลุ่มลูกค้าหลัก อานนท์ก็จะขอตอบอย่างง่าย ๆ ว่า มาจ้างหาข้อมูลประกอบการเขียน 

โดยเฉพาะนักเขียนแนวจีนโบราณ คิดดูสิว่าประเทศจีนมีประวัติศาสตร์มายาวนานแค่ไหน ในแต่ละยุค แต่ละสมัยมีวัฒนธรรมที่ต่างกันออกไป เขามีหน้าที่ในการค้นคว้าและสรุปย่อยเรื่องราวออกมาให้ผู้ว่าจ้าง ซึ่งนับว่าเป็นงานที่เขาชอบทีเดียว มันทำให้ได้ความรู้เยอะ เพราะปกติเขาก็เป็นคนชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว พอมาทำงานด้านนี้ มันเลยเข้าทางซะอย่างนั้น 

อาจจะเพราะวัน ๆ เอาแต่ทำงานประจำและงานหาข้อมูล ยี่สิบสี่ชั่วโมงในหนึ่งวันก็หมดไปซะแล้ว อานนท์จึงยังคงสถานะโสด เขาไม่เคยมีแฟน จะว่าไปแล้วการเติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้าก็มีข้อดีอยู่นะ เพราะว่ามันทำให้เขาแข็งแกร่งทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ งานทุกอย่างที่ทำเงินได้ อานนท์รับทำเกือบทั้งหมด

วันพรุ่งนี้เขาจะอายุครบยี่สิบห้าปี อานนท์จึงขอลางานกับเจ้านายไว้เป็นที่เรียบร้อย เขาวางแผนว่าจะกลับไปบ้านอุ่นไอรัก บ้านเด็กกำพร้าที่ทำให้เขาเติบโตขึ้นมา ทุกวันเกิดตั้งแต่ออกมาอยู่ตัวคนเดียว เขาจะกลับไปเยี่ยมน้อง ๆ และแม่ครู พร้อมกับเลี้ยงอาหารทุกปี แม้ว่าทุกเดือน เขาจะนำเงินไปให้แม่ครูส่วนหนึ่งอยู่แล้ว

ในคืนที่อานนท์กำลังนั่งหาข้อมูล ในตอนแรกเขาคิดว่าจะไม่รับ แต่เพราะผู้ว่าจ้างต้องการข้อมูลด่วน ทำให้ค่าจ้างสูงขึ้นมาเป็นเท่าตัว เขาจึงตกลงรับงานอย่างไม่ลังเล หวังว่าจะได้เงินเพิ่มมาอีกหน่อย จะได้เอาเงินให้แม่ครูมากขึ้น 

แต่เพราะตอนกลางวัน อานนท์ต้องไปขายอาหารตามสั่ง และเพราะช่วงนี้เป็นวันหยุดยาวติดกันหลายวัน ทำให้คนไปเดินห้างเยอะขึ้น โอกาสทองแบบนี้ต้องรีบกอบโกย เขาขายอาหารไม่หยุดพัก จนห้างปิดในเวลาเกือบสี่ทุ่ม พอกลับมาห้องแล้วยังต้องมานั่งทำงานหาข้อมูลในเวลาดึกดื่น ดังนั้นร่างกายของอานนท์จึงรับไม่ไหว ทำให้วูบและหมดสติไปในที่สุด 

เพียงแต่ว่าการหมดสติของเขาในวันนี้ไม่ใช่จุดจบของชีวิต หากแต่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งใหม่ อานนท์ไม่รู้ว่ามันคือความฝันหรือความจริงกันแน่ การตื่นขึ้นมาในร่างเด็กชาย แถมยังอยู่ในยุคสมัยจีนสมัยโบราณแบบนี้อีก ทำให้เขายากจะทำใจยอมรับ

ก่อนอื่นเขาต้องรู้ให้ได้ว่ายุคนี้มันมีในประวัติศาสตร์หรือเปล่า หรือมันเป็นแค่โลกคู่ขนานเหมือนในนิยายที่เขาเคยอ่านมา ไม่ว่าจะอย่างไรก็คงต้องรีบหาคำตอบให้เร็วที่สุด

ส่วนท่านเทพหรืออะไรก็ตามที่ทำให้เขาได้มาเกิดใหม่ในร่างนี้ ขอร้องล่ะ อย่าให้เขาได้เกิดใหม่ในยุคที่มีสงครามเลย ถ้าจะแย่ก็ขอเพียงแค่เป็นยุคที่ข้าวยากหมากแพงก็พอ แต่ถึงอย่างไร เขาก็ต้องเดินหน้าต่อไป ไม่แน่ว่าในครั้งนี้ เขาอาจจะได้มีครอบครัวอย่างที่เคยใฝ่ฝันเอาไว้เสียที...หรือเปล่านะ

ตัวเขาเองเป็นนักวิจัยค้นคว้าข้อมูล หาอ่านเรื่องพวกนี้มาก็เยอะ การทำใจยอมรับจึงอาจจะเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าคนอื่น แต่สิ่งหนึ่งที่อานนท์รู้สึกว่ามันขาดไป คือระบบมิติต่าง ๆ หรือสัตว์เทพ พวกมันมีอยู่ในนิยายหลายเรื่อง บางเรื่องที่เคยอ่านก็มีพลังวิเศษติดตัว ทว่าเวลาผ่านมาหนึ่งชั่วโมงแล้ว ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย 

พลังวิเศษ สัตว์เทพ ระบบมิติ หรือเรื่องราวชวนให้อัศจรรย์ใจ...ไม่มีเลย 

ไม่มีสักอย่าง มีแค่ตัวเขาในร่างจิ๋วและครอบครัวธรรมดาๆ ที่ไม่ได้ร่ำรวยเป็นขุนนางในเมือง เฮ้อ! พลังเทพดูท่าจะไม่มีอยู่จริง แล้วเขาที่เป็นแค่คนธรรมดาในโลกที่จากมาจะทำอะไรได้  ความสามารถพิเศษอะไรที่จำเป็น...ไม่มีสักอย่าง

ดูท่าว่าชีวิตจริงมันจะไม่สวยหรูเท่าในนิยายแฮะ...

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้เขาได้มีโอกาสใช้ชีวิตอีกครั้ง

แม้จะกังวลแต่ความโชคดีนี้เขาขอรับเอาไว้เอง

ตอนนี้ เขาคือ จางอี้หมิง อายุห้าขวบ บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง

แต่พระเจ้า การมีครอบครัวที่อบอุ่นมันก็ดีนะ

แต่ไหง..ทำไมถึงยากจนขนาดนี้

เมื่อมีสิ่งที่ดี ๆ เกิดขึ้น ย่อมต้องมีบททดสอบตามมาด้วย ดูท่าจะจริงดั่งเขาว่า

แต่เขาไม่ยอมแพ้หรอก

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status