Share

ตอนที่ 22

last update Last Updated: 2024-12-12 04:56:05

เร่เข้ามาขอรับ เร่เข้ามา” เสียงเล็ก ๆ ของเด็กชายตะโกนเรียกเหล่าชาวเมือง  

วันนี้ ข้าจางอี้หมิง กำลังฝึกทำการค้ากับท่านเถ้าแก่หวัง มีสินค้าอยากนำเสนอให้แก่ทุกท่าน สินค้าใหม่ของร้านเถ้าแก่หวังวันนี้ได้แก่น้ำตาลผักขอรับ มันมีรสชาติหวานเช่นน้ำตาล แต่มีระดับความหวานกว่ามาก ที่สำคัญราคาไม่แพงขอรับ”

“เนื่องด้วยเป็นสินค้าใหม่ ทางเถ้าแก่จึงให้ทุกท่านได้ทดลองชิมกันดูก่อนโดยไม่คิดเงินขอรับ หากไม่ซื้อไม่เป็นไร”

จางอี้หมิงแย้มยิ้มน่ารัก เขายืนบนลังไม้เก่าเพื่อให้ส่วนสูงเพิ่มขึ้น

เพียงท่านนำไปปรุงอาหาร วิธีการง่ายมากขอรับ เหยาะลงไปในโจ๊กธัญพืชแบบที่ข้าแจกอยู่ตอนนี้ก็ได้เช่นกัน ท่านลุง ท่านป้า พี่สาว พี่ชาย ชอบหวานเท่าใดก็เลือกใส่ได้ตามสบายเลยขอรับ พี่สาวคนงาม ลองชิมดูไหมขอรับ”

น้องชายท่านนี้ช่างปากหวานเสียจริง ไหนพี่สาวขอลองดูสิว่ามันจะอร่อยเหมือนกับที่เจ้าบอกหรือเปล่า”

หญิงสาวอายุประมาณสิบแปดปีคนหนึ่งถึงกับยิ้มหน้าบานเมื่อได้ยินเด็กน้อยเอ่ยชม นางเดินเข้าไปรับถ้วยโจ๊กมาถือไว้แล้วหลบมายืนอีกข้างหนึ่ง

จางอี้หมิงยืนอยู่หน้าร้านและประกาศเชิญชวนไปด้วย ถึงแม้จะเพิ่งหายป่วย ร่างกายผอมแห้งเกินเด็กรุ่นเดียวกันไปมากโข แต่ด้วยรูปลักษณ์ของเด็กที่หน้าตาน่าเอ็นดูเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รวมทั้งการพูดที่ฉะฉาน ทำให้มีคนสนใจไม่น้อย ประกอบกับการแจกให้ลองชิมโดยไม่คิดเงิน ผู้คนจึงเริ่มเข้ามามุงดูและรับถ้วยโจ๊กใบเล็กไปลองลิ้มชิมรสชาติตามที่ได้ประกาศ

หวาน อร่อย น้องชาย มันอร่อยจริง ๆ” หญิงสาวอุทานออกมาด้วยความสนใจ “นี่แค่โจ๊กใส่น้ำตาลผักของเจ้าแค่นั้นจริงหรือ”

จริงขอรับพี่สาวคนงาม ข้าไม่ได้โกหกแม้แต่น้อย ท่านชอบมันใช่หรือไม่”

ชอบมาก ข้าไม่เคยได้กินแบบนี้มาก่อน แล้วเจ้าขายอย่างไรเล่าเด็กน้อย”

พี่สาวคนงาม สินค้าวันนี้เป็นเพียงตัวอย่างให้ทดลองชิมดูเท่านั้น ในส่วนของการซื้อขาย พี่สาวคงต้องมาวันหลังแล้ว” จางอี้หมิงตอบเสียงสุภาพ เขายิ้มแป้นและหันไปมองเถ้าแก่

“ใช่หรือไม่ขอรับ ท่านเถ้าแก่หวัง”

ใช่ ๆ อาหมิงพูดถูกแล้ว แม่นางไม่ต้องเป็นกังวล เมื่อเรามีสินค้าพร้อมจำหน่ายแล้ว ข้าจะป่าวประกาศออกไปเอง ขอแม่นางอดทนรอสักนิด” เถ้าแก่หวังรีบรับไม้ส่งจากเด็กชายตัวน้อยทันที สมกับเป็นพ่อค้าที่มีความคิดรวดเร็ว ไม่ยอมเสียโอกาส

จางอี้หมิงพอใจไม่น้อย เขาไม่อาจขายน้ำตาลผักเหล่านี้ให้แก่พี่สาวได้โดยตรง เพราะเด็กน้อยอยากจะทำการค้าส่งกับเถ้าแก่หวังมากกว่า อีกอย่าง เขาเองก็มีแผนการค้าในหัวอยู่แล้วด้วย

อร่อย”

นี่คือโจ๊กธัญพืชจริง ๆ หรือ”

เห็นว่าราคาไม่แพงเช่นน้ำตาลนะ”

มันมีน้ำตาลผักจริง ๆ หรือนี่”

ฯลฯ

เพียงแค่หญิงงามคนแรกเอ่ยชมออกมาเท่านั้น จุดแจกโจ๊กก็มีคนไปต่อแถวทดลองยาวไปจนเกือบถึงกลางตรอก แต่เพราะโจ๊กทำมาแค่เพียงหม้อเล็ก ๆ จึงหมดลงไปตั้งแต่คนที่สิบห้า จางอี้หมิงยังถูกเถ้าแก่หวังค่อนแคะเรื่องต้องยืมถ้วยและช้อนเพิ่มอีกห้าชุด  

มีหลายคนบ่นเสียดายที่ไม่ได้ลองชิมเพราะส่วนมากคนละแวกนี้คือชาวบ้านทั้งนั้น พวกเขาไม่มีเงินมากมายเพียงพอจะซื้อน้ำตาล ดังนั้นเมื่อได้ยินว่ามีของที่รสชาติคล้ายกันและราคาถูกกว่าก็เกิดความสนใจ ยิ่งได้เห็นท่าทางของผู้ที่ลองชิมโจ๊กธัญพืชแล้วก็อยากซื้อไปปรุงอาหาร

เมื่อเหตุการณ์กลับเข้ามาสู่สภาวะปกติ จางอี้หมิงจึงเข้าไปนั่งคุยกับเถ้าแก่หวังในห้องบัญชีด้านหลังร้าน ส่วนจางอี้เทาเพียงแค่เดินตามบุตรชายเข้าไปพร้อมกับสะพายตะกร้าที่บรรจุน้ำตาลผักเกือบสามสิบกระบอก

อาหมิง ข้าเชื่อแล้วว่าน้ำตาลผักของเจ้ามันต้องขายได้ พวกเรามาตกลงรายละเอียดกันเถอะ” เถ้าแก่หวังเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เขาเป็นเจ้าแรกที่ได้ขายสินค้าตัวใหม่นี้ มันต้องขายดีแน่นอน

Related chapters

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 23

    “เถ้าแก่หวังขอรับ ตัวข้าอยู่หมู่บ้านหลัวถง ห่างจากในเมืองไปราวหนึ่งชั่วยาม ข้าเสนอให้ท่านเถ้าแก่จัดหาไหดินเผาที่มีฝาปิดแล้วเอาไปส่งให้ข้าที่หมู่บ้าน ข้าจะทำน้ำตาลผักพร้อมบรรจุลงไหไว้ให้ท่าน ท่านเพียงให้คนไปรับมาเท่านั้น ซึ่งในการไปรับสินค้าใหม่ ท่านก็เพียงนำไหเปล่าไปส่งให้ข้าตามจำนวนที่ท่านต้องการสั่งซื้อ” จางอี้หมิงเริ่มเจรจา“ข้าสามารถขายให้ท่านได้ในราคาไหละสิบห้าอีแปะ ส่วนท่านจะขายราคาเท่าใดก็แล้วแต่เถ้าแก่เลยขอรับ ที่ข้าเสนอเช่นนี้เพราะน้ำตาลผักควรเก็บไว้ในที่ที่มีฝาปิดมิดชิดจึงจะเก็บไว้ได้หลายเดือน อีกอย่าง การใส่ไหจะทำให้ดูมีมูลค่ามากกว่ากระบอกไม้ไผ่ขอรับ ท่านเถ้าแก่หวังเห็นเป็นเช่นใดขอรับ”“ข้าต้องเสียเงินจ้างรถม้าไปรับสินค้าถึงบ้านเจ้า น้ำตาลผักถึงแม้ว่าจะถูกกว่าน้ำตาล แต่ถ้าเจ้าขายให้ข้าไหละสิบห้าอีแปะแล้วข้ามาเพิ่มราคาอีก ชาวบ้านซื้อน้ำตาลกินแทนมิดีกว่าหรือ”สมเป็นเถ้าแก่ที่โชกโชนในวงการค้าขาย เขี้ยวลากดินจริง ๆ“เถ้าแก่หวัง เห็นแก่ที่เราจะทำการค้ากันในอนาคต ข้าลดให้ท่านได้จริง ๆ แค่ไหละสิบสองอีแปะขอรับ” เด็กน้อยว่า“เหตุที่ท่านต้องไปรับสินค้าเอาเอง ก็เพราะว่าข้าคิดว่าสินค้า

    Last Updated : 2024-12-12
  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 24

    หลังจากที่ได้สิ่งที่ต้องการแล้วรวมทั้งการค้าก็ประสบความสำเร็จไปอย่างงดงาม จางอี้หมิงจึงเลือกซื้อเกลือ ข้าวสารคุณภาพปานกลาง ธัญพืชหยาบ ถั่วเขียว แป้งต่าง ๆ เครื่องเทศต่าง ๆ รวมถึงหม้อใบใหญ่และไหเปล่ากลับบ้าน “เกลือสองจินหนึ่งร้อยสามสิบอีแปะ ข้าวสารสองกระสอบสามร้อยอีแปะ ธัญพืชหยาบสองกระสอบหนึ่งร้อยอีแปะ ถั่วเขียวหนึ่งจินสิบอีแปะ หม้อสามใบใหญ่หนึ่งร้อยห้าสิบอีแปะ ไหขนาดต่าง ๆ แปดสิบอีแปะ เครื่องเทศต่าง ๆ ห้าสิบอีแปะ แป้งสาลีสี่จินแปดสิบอีแปะ แป้งมันสองจินสี่สิบอีแปะ ซีอิ้วสองไหหนึ่งร้อยยี่สิบอีแปะ รวมทั้งหมดหนึ่งตำลึงหกสิบอีแปะ” เถ้าแก่หวังคิดเลข เขาชี้นิ้วไปที่ของแต่ละอย่าง“หักค่าน้ำตาลผักไปสามร้อยอีแปะ ยอดคงเหลือที่เจ้าต้องจ่ายเพิ่มคือเจ็ดร้อยหกสิบอีแปะ ข้าคิดเพียงเจ็ดร้อยอีแปะเท่านั้น”“นี่ขอรับ” จางอี้เทานำเงินหนึ่งตำลึงจ่ายให้กับเถ้าแก่หวังและรับเงินทอนมาสามร้อยอีแปะ“เถ้าแก่หวัง ข้ากับท่านพ่อยังต้องไปซื้ออย่างอื่นอีก ของพวกนี้รบกวนฝากท่านให้คนขนขึ้นรถม้าด้วยได้หรือไม่ขอรับ” จางอี้หมิงรีบบอก“ได้สิ เดี๋ยวข้าจะบอกคนขับรถม้าให้”“ขอบคุณเถ้าแก่มากขอรับ”จางอี้หมิงสะกิดบอกบิดาให้จ่ายเ

    Last Updated : 2024-12-12
  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 25

    รถม้าจากร้านเถ้าแก่หวังเดินทางมาถึงหมู่บ้านหลัวถงในเวลายามเซิน (15.00 – 16.59) อาชาสีดำตัวใหญ่ส่ายพวงหางไปมาขณะย่างเดินอย่างเชื่องช้า เรียกให้ชาวบ้านพากันออกมายืนมองด้วยความสงสัย บ้านนอกเช่นนี้น้อยครั้งนักจะมีรถม้าผ่านเข้ามา อย่างมากก็มีแค่เกวียนรับจ้างในเมืองที่คอยนำสินค้ามาส่งให้ชาวบ้านหรือแลกเปลี่ยนสมุนไพรกันรถม้าวิ่งไปเรื่อย ๆ และหยุดลงที่บ้านของครอบครัวจาง หูไป๋หงกับหลี่อ้ายที่อาการค่อยยังชั่วบ้างแล้วถึงกับเดินออกมาดูด้วยความสงสัยเหตุใดรถม้าจึงมาจอดที่บ้านของนางกันเล่า...“รถม้าผู้ใดมาจอดที่หน้าบ้านเรา” นางหูหันไปถามลูกสะใภ้“นั่นสิเจ้าคะ ข้าก็อยากรู้เช่นกัน” หลี่อ้ายตอบ นางชะเง้อคอมองข้ามตัวม้าไปด้านหลัง“อ้าว นั่นหมิงเอ๋อร์กับอาเทานี่” นางหูอุทานออกมาเบา ๆ ไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าบุตรและหลานชายจะกลับมาด้วยรถเทียมม้า“ท่านย่าขอรับท่านย่า ข้ากับท่านพ่อกลับมาแล้วขอรับ” จางอี้หมิงร้องเรียกย่าตนเองก่อนที่จะกระโดดลงมาเสียงดังตุ้บแต่เนื่องจากเด็กชายตัวน้อยกระโดดลงมาด้วยความรวดเร็วจึงทำให้ทรงตัวไม่ได้ ร่างกายถึงกับเซไปเซมาเล็กน้อย“หมิงเอ๋อร์ เจ้าระวังด้วย” หลี่อ้ายหัวใจเกือบวายเมื่อเห

    Last Updated : 2024-12-12
  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 26

    “ท่านย่าขอรับ วันนี้พวกเราคงต้องทำงานหนักกันมากหน่อยนะขอรับ เพราะมีมันหมูที่ต้องเจียว ไหนจะพวกเนื้อสด กระดูก ที่ต้องหมักลงไหเพื่อให้เก็บไว้กินอีกหลายวัน โดยเฉพาะไส้พวกนี้ ต้องล้างทำความสะอาดก่อนที่มันจะเหม็น”“ได้สิหมิงเอ๋อร์ งานหนักแค่นี้ไม่มีปัญหา ขอแค่มีอาหารให้เรากินก็ดีมากแล้ว เมื่อก่อนย่าอาจจะอิดออดนะ แต่ตอนนี้ย่าปรับตัวได้แล้ว” “ท่านย่า ข้าสัญญาว่าต่อไปครอบครัวเราจะไม่ต้องอดมื้อกินมื้ออีกแล้ว” จางอี้หมิงพูดอย่างมั่นใจ “ไม่เพียงเท่านั้นนะขอรับ ครอบครัวเราจะมีเงินมากมายให้มีมากกว่าตอนที่เราอยู่เมืองหลวงเสียอีก ที่สำคัญ ข้ายังอยากมีน้องสาวน้องชายมาเป็นเพื่อนเล่นข้าอยู่นะขอรับ ข้าต้องรีบหาเงินมาเยอะ ๆ ข้าจะสร้างจวนให้ใหญ่กว่าบ้านเก่าของเราขอรับ” จางอี้หมิงพูดเสียงดัง ส่งผลให้จางอี้เทากับหลี่อ้ายที่ฟังอยู่ด้วยถึงกับเขินอายเมื่อบุตรชายคนเดียวเอ่ยเย้าหน้าตาย“หมิงเอ๋อร์ จะ...เจ้า พูดอันใดออกมา” หลี่อ้ายเอ่ยเสียงดุไม่ดังมากนัก พวงแก้มของนางขึ้นสีแดงระเรื่อก่อนจะเรียกสติของตัวเองกลับมา ปรับสีหน้าให้เป็นดังเดิม“เรื่องน้องชายน้องสาวเอาไว้ก่อนเถอะหมิงเอ๋อร์” นางบอกเด็กชาย “ไหน วันนี้แม่

    Last Updated : 2024-12-12
  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 27

    หลี่อ้ายแยกตัวจากครอบครัวเพื่อนำผ้าที่สามีซื้อมาไปทำการตัดเย็บต่อไป ส่วนจางอี้เทาหลังจากที่จัดเก็บของเข้าที่แล้ว เขาจึงไปนั่งแทนมารดาเพื่อทำการเจียวน้ำมันหมู“หมิงเอ๋อร์ ย่าพร้อมแล้ว ต้องทำยังไงบ้าง” นางหูเอ่ยถามหลานชาย“ท่านย่าหุงข้าวก่อนขอรับ จากนั้นจึงทำไส้ทอด แล้วค่อยผัดผักบุ้งทีหลัง ท่านย่าพอจะมีน้ำมันหมูเก่าหรือไม่ขอรับ”“หมดไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะหมิงเอ๋อร์”“เช่นนั้นเอาน้ำมันที่เราเจียววันนี้ก็ได้ขอรับ ท่านย่าตั้งหม้อหุงข้าวไว้ เสร็จแล้วเราจะคลุกไส้หมูหมักกับเครื่องเทศรอระหว่างที่กำลังหุงข้าวนะขอรับ”จางอี้หมิงจำได้ว่าเครื่องเทศที่บิดาซื้อมามีฮวาเจียวที่ให้รสเผ็ดชา ถึงแม้ไม่มีพริก แต่ก็สามารถใช้พริกฮวาเจียวแทนได้ อีกอย่างคือมีชวงเจีย (พริกหอม) รวมทั้งเครื่องเทศพื้นฐานอีกหลายชนิด “ท่านย่า คั่วเม็ดฮวาเจียว (พริกไทยหรือพริกหมาล่า) กับชวงเจีย (พริกหอม) ให้หอม แล้วนำมาตำให้ละเอียดนะขอรับ ใส่กระเทียมเล็กน้อย ขิงนิดหน่อย เกลือสักหยิบมือ อย่าลืมใบยี่หร่าด้วย ที่ขาดไม่ได้คือน้ำตาลผักอีกนิด อย่าลืมซีอิ้วนะขอรับ เสร็จแล้วนำไส้ที่ตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ลงไปหมักสักสองเค่อก็ได้แล้วขอรับ” จางอี

    Last Updated : 2024-12-12
  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 28

    เวลาแห่งความสุขในห้วงนิทรามักหมดไปอย่างรวดเร็ว สมาชิกครอบครัวจางตื่นขึ้นมาทำหน้าที่ของตนอย่างขันแข็ง นางหูอุ่นซาลาเปาที่ซื้อมาเมื่อวานนี้ให้ทุกคนได้กินกันเป็นมื้อเช้า เรื่องการกินอาหารวันละสามมื้อเป็นเรื่องที่จางอี้หมิงเสนอขึ้นมา เพราะการกินครบสามมื้อจะถูกหลักโภชนาการมากกว่า ที่สำคัญคือ เขาต้องการขุนร่างนี้ให้อ้วนขึ้นอีกนิด เด็กวัยกำลังโตไม่ควรอดอาหาร ไม่เช่นนั้นเมื่อไหร่จะโตเสียทีเล่าอีกอย่าง เขาเป็นคนไทย คนไทยกินข้าววันละสามมื้อ ของหวานของคาวไม่เคยขาด อยู่ดี ๆ ให้มาอด ๆ อยาก ๆ เขาเองก็ไม่ชินในตอนแรกสมาชิกครอบครัวจางดูตกใจกับการทานอาหารมากมายขนาดนั้น แต่จางอี้หมิงบอกเพียงว่าเมืองสวรรค์ทำกันเช่นนี้ ท่านย่า ท่านพ่อ และท่านแม่จึงจำต้องเห็นด้วยอย่างไม่อิดออด เป็นความโชคดีที่หลี่อ้ายหายเป็นปกติ เหลือเพียงอาการอ่อนเพลียเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นางหูกับหลี่อ้ายจึงช่วยกันเย็บผ้าห่มและชุดใหม่สำหรับทุกคน ส่วนจางอี้เทาและบุตรชายขึ้นภูเขาเพื่อไปตัดหญ้าหวานมาทำน้ำตาลผักตามที่ได้รับใบสั่งซื้อมา“หมิงเอ๋อร์ เมื่อวานเจ้าบอกว่าจะทำพะโล้วันนี้ เมืองสวรรค์ก็มีพะโล้เช่นกันหรือ” จางอี้เทาเอ่ยถามบุตรชายข

    Last Updated : 2024-12-12
  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 29

    “น้ำสอ สอด อันใดนะ หมิงเอ๋อร์” นางหูขมวดคิ้ว พยายามออกเสียงคำว่าซอสให้เหมือนกับที่หลานชายพูด แต่ดูแล้วลิ้นจะพันกันเสียให้ได้"ท่านย่า ไม่ใช่สอดขอรับ ซอสขอรับ น้ำซอสก็คือน้ำที่มันขลุกขลิกเหลือนิดหน่อยในหมูพะโล้เช่นไรเล่าขอรับ ถ้าทำเสร็จแล้ว ข้าจะชี้ให้ท่านย่าดูขอรับ”“เช่นนั้นย่าต้องหมักเนื้อหมูก่อนเป็นอันดับแรกใช่หรือไม่”“ใช่แล้วขอรับ” ตลอดการทำอาหารหลังจากนั้น เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ นางหูและจางอี้เทาตั้งใจฟังพ่อครัวตัวน้อยกำกับการทำอาหารอย่างสนุกสนาน หลี่อ้ายที่นั่งเย็บผ้าอยู่เหลือบตามองเป็นระยะและยิ้มออกมาอย่างมีความสุขที่เห็นครอบครัวกลับมามีความสุขอีกครั้ง“ท่านย่า รีบใส่เครื่องเทศได้แล้วขอรับ ก่อนกระเทียมจะไหม้”“หมิงเอ๋อร์ ต้องใส่อย่างละเท่าไรนะ”“ท่านแม่ โป้ยกั๊กห้าดอก กระวานหกลูก อบเชยสองแท่ง”“อาเทา เจ้าช่างความจำดีเยี่ยม สมแล้วที่เป็นอาจารย์สอนหนังสือ”“ท่านย่า อย่าใส่เกลือเยอะขอรับ พอน้ำแห้งมันจะเค็มกว่านี้”“ท่านย่า คนและกลับเนื้อหมูหน่อยขอรับ หมูจะไหม้แล้ว”“ท่านย่า ใส่น้ำเปล่าได้แล้วขอรับ”พ่อครัวตัวน้อยของบ้านจางกลายเป็นผู้กำกับการทำอาหารให้ท่านย่าของตนเองทำตามได้อย่าง

    Last Updated : 2024-12-12
  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 30

    หลังจากที่บ้านจางกินข้าวกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว สองพ่อลูกจึงพากันออกจากกระท่อมปลายนา พวกเขาถือพะโล้แห้งกับน้ำตาลปั้นสามไม้เดินคุยกันกระหนุงกระหนิงตามประสาอย่างมีความสุข มุ่งไปทางบ้านผู้นำหมู่บ้านจางอี้หมิงถามนู่นถามนี่สารพัด แต่อี้เทาก็ตอบด้วยรอยยิ้ม พวกเขาใช้เวลาไม่นานก็มาถึงจุดหมาย ตอนนี้เวลาน่าจะประมาณยามเซิน (15.00 – 16.59) ถึงแม้ว่าจะยังไม่ถึงเหมันต์ฤดู แต่อากาศช่วงนี้เริ่มเย็นลงบ้างแล้ว ทินกรทอแสงอัสดงเตรียมลับขอบฟ้า แต่ก็ยังมีเวลาเพียงพอให้จางอี้เทาและจางอี้หมิงได้เดินทางกลับบ้านโดยไม่ต้องใช้คบไฟส่องนำทาง ในยุคสมัยนี้ ชาวบ้านธรรมดามักใช้คบไฟในการส่องนำทางตอนกลางคืน พวกเขายังไม่มีตะเกียงใช้ ตอนกลางคืนก็ใช้ใต้ไฟในการจุดให้แสงสว่างภายในบ้าน ซึ่งข้อเสียของมันคือมีควันจำนวนมากดังนั้นชาวบ้านทั่วไปจึงเข้านอนแต่หัวค่ำตามตะวันที่ลับขอบฟ้าไปแล้ว ถ้าไม่จำเป็นจะไม่มีใครจุดใต้ไฟในตอนกลางคืน เทียนไขจะมีใช้แค่ตามบ้านของข้าราชสำนักหรือเศรษฐีมีเงินเพราะราคานั้นแพงมาก ชาวบ้านถือว่าเป็นของสิ้นเปลือง แต่สำหรับผู้มั่งมีแล้วไม่เดือดร้อน“ท่านพี่เย่ ท่านพี่เย่ อยู่บ้านหรือไม่ ข้าจางอี้เทากับหมิงเอ๋อ

    Last Updated : 2024-12-12

Latest chapter

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 63

    “ทางออกอันใดหรือเด็กน้อย” เฉินเจียเอ่ยถามด้วยความสงสัย เขามองดูเด็กน้อยตรงหน้าอย่างพินิจ“ทางออกของเรื่องทั้งหมดนี้เช่นไรเล่าขอรับ ข้าขอเสนอให้พวกท่านทั้งสิบคนแลกเปลี่ยนนิลเง็กเซียนกับสามสหายท่องหล้า แบ่งปันกันชิมคนละคำสองคำ เช่นนี้แล้วพวกท่านทั้งหมดก็จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ชิมอาหารชนิดใหม่ด้วยวิธีการปรุงแบบใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน”“สำหรับค่าอาหารจากที่ท่านเฉินเจียกับท่านฉีหมิงต้องจ่ายคนละห้าสิบตำลึง สองจานรวมเป็นหนึ่งร้อยตำลึง เมื่อแลกเปลี่ยนอาหารกันแล้ว พวกท่านเพียงจ่ายคนละสิบตำลึงเท่านั้น เช่นนี้แล้วพวกท่านทุกคนจึงเท่าเทียมเหมือนกันแล้วขอรับ”“ในอนาคต เหลาอาหารซิ่งฝูจะมีรายการอาหารชนิดใหม่ออกมาทุกเดือน เพื่อเป็นการตอบแทนท่านทั้งสิบคน เหลาอาหารซิ่งฝูยินดีที่จะให้ท่านเป็นลูกค้าพิเศษ เมื่อมีรายการอาหารชนิดใหม่ในแต่ละครั้ง เหลาซิ่งฝูจะทำการเชิญท่านทั้งสิบมาทำการลิ้มลองอาหารก่อนเป็นกลุ่มแรก เช่นนี้แล้ว ท่านลุง ท่านตาทั้งหลายพอใจหรือไม่ขอรับ” จางอี้หมิงอธิบายเสร็จแล้วจึงถอยหลังกลับไปยืนข้างท่านปู่ด้วยความสงบเรียบร้อย“ฮะ ฮะ ฮะ” ฉีหมิงหัวเราะออกมาและกล่าวชมเชยหลินไห่“เถ้าแก่หลิน หลานชายข

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 62

    “ข้าไม่เคยได้ชิมอาหารจานผักเช่นนี้มาก่อนเลย จะว่าเป็นน้ำแกงก็มีน้ำน้อยเกินไป จะว่าเป็นผักต้มแต่กลับมีกลิ่นของกระเทียม รสชาติกลมกล่อมเกินกว่าจะเป็นผักต้มได้ เถ้าแก่หลิน สามสหายท่องหล้าคืออาหารชนิดใดกันแน่ขอรับ” ชายคนแรกที่ตั้งข้อสงสัยถามเถ้าแก่หลินขึ้นมา“เรียนลูกค้า สามสหายท่องหล้าเป็นอาหารจานผัก ส่วนวิธีการปรุงนั้นทำมาจากการผัด” เถ้าแก่หลินไห่เอ่ยตอบด้วยท่าทางสุขุม“การผัดเช่นนั้นหรือ มันคืออันใดกันเล่า ข้าอายุแก่จนปูนนี้แล้ว ยังมิเคยได้ยินว่ามีการปรุงอาหารด้วยการผัดมาก่อน พวกเจ้าเล่า เคยได้ยินมาก่อนหรือไม่” ชายชราที่อายุมากที่สุดในกลุ่มเอ่ยออกมาเสียงไม่เบานัก ก่อนจะหันไปถามผู้ที่ร่วมชิมสามสหายท่องหล้าด้วยกัน“ข้าไม่เคย”“ข้าก็ไม่เคย” ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกัน“ข้าคงมิสามารถตอบได้เนื่องจากว่าเป็นความลับของเหลาซิ่งฝู ขอลูกค้าอย่าได้ถามอีกเลย” หลินไห่ตอบกลับด้วยความสุภาพ“เจ้าว่าอันใดนะ สามสหายท่องหล้าของพวกเจ้า ปรุงขึ้นมาจากวิธีการปรุงอาหารแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นนั้นหรือ” ฉีหมิงเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เขายินดียิ่งนักที่ได้เป็นคนกลุ่มแรกซึ่งได้ชิมรายการอาหารชนิดใหม่ประเภทจ

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 61

    หลินไห่เดินจูงมือจางอี้หมิงนำหน้าอู๋เจ๋อและอู๋หมินออกมา ที่มือของคนครัวทั้งคู่ถือถาดไม้บรรจุนิลเง็กเซียนส่งกลิ่นหอมฉุย พวกเขาเดินนำอาหารไปวางไว้บนโต๊ะของผู้ชนะการประมูลซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามกันเถ้าแก่หลินเป็นผู้อธิบายถึงรายการอาหารรสเลิศตรงหน้า ทั้งกลิ่นหอมกรุ่ม ทั้งควันที่ลอยออกมาบ่งบอกว่าเพิ่งผ่านการปรุงมาใหม่ ๆ รวมถึงการตกแต่งจานอาหารให้มีสีสันน่ากิน ประกอบกับล่วงเลยเวลาอาหารมื้อแรกของวันมานานพอสมควรแล้ว ยิ่งทำให้เมนูใหม่ดูน่าเย้ายวนลูกค้าที่แพ้การประมูลทั้งหลายเกือบจะกระโดดออกไปยึดเอาถาดไม้ใส่อาหารมาเป็นของตนเองอยู่รอมร่อ เพียงแต่พอมองหน้าเถ้าแก่หลินแล้ว พวกเขาได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน รออาหารอีกชนิดหนึ่งแทน ซึ่งพวกตนก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอันใดและจะมีกลิ่นหอมเหมือนกับอาหารของผู้ชนะหรือไม่“ท่านเฉินเจียและท่านฉีหมิง อาหารชนิดใหม่ตรงหน้าท่าน เป็นอาหารจานเนื้อ เรียกว่า นิลเง็กเซียน เนื้อสัมผัสอ่อนนุ่ม หอมกลิ่นเครื่องเทศเข้มข้น ข้าขอแนะนำให้นำเนื้อจิ้มลงไปในน้ำแกงก่อนกิน แล้วตามด้วยข้าวสวยร้อน ๆ ดอกไม้ซีหงซื่อและแตงกวาที่วางอยู่บนจาน พวกท่านสามารถนำมากินแก้อาการเลี่ยนได้ เชิญท่านทั้งสองลิ้มลองอา

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 60

    “พี่ชายหมิน รบกวนหยิบมะเขือเทศกับแตงกวามาให้ข้าที อย่าลืมล้างให้เรียบร้อยด้วยนะขอรับ มาทำตรงโต๊ะเตรียมวัตถุดิบนะขอรับ” จางอี้หมิงบอกแล้วจึงเดินไปรอที่โต๊ะกลางห้องอู๋หมินรีบหยิบผักออกมา เมื่อล้างแตงกวาและมะเขือเทศจนสะอาดแล้วจึงเดินมาสมทบกับอี้หมิงทันที เขาวางวัตถุดิบทั้งสองอย่างไว้บนโต๊ะ แล้วยกตัวของเด็กน้อยขึ้นนั่งบนเก้าอี้ ส่วน อู๋หมินยืนอยู่ข้าง ๆ อีกที“หมิงหมิงน้อยบอกว่าจะทำดอกไม้จากซีหงซื่อเช่นนั้นหรือ”“พี่ชายหมิน ต่อไปต้องเรียกมะเขือเทศนะขอรับ ห้ามเรียกซีหงซื่ออีก”“ดะ ได้ หมิงหมิงน้อยจะทำดอกไม้จากมะเขือเทศเช่นนั้นหรือ” อู๋หมินลนลานถามอีกครั้ง คำพวกนี้ระหว่างที่รอสองพ่อลูกบ้านจางไปขายผ้า พวกเขาก็ถูกเถ้าแก่บังคับให้ฝึกเรียกไว้ก่อนแล้วเช่นกัน ไม่น่าเชื่อว่าเถ้าแก่จะเห่อหลานชายคนใหม่ยิ่งนัก เพียงแต่ช่วงแรก ๆ เขาก็มีหลงลืมเผลอใช้คำที่คุ้นเคยเช่นเดิมไปบ้างเท่านั้น“ขอรับ ดอกไม้จากมะเขือเทศทำง่ายมาก เพียงพี่ชาย หมินเอามีดมาปอกเปลือกมะเขือเทศให้เป็นเส้นจากบนลงล่างโดยที่ไม่ให้เปลือกมะเขือเทศขาดออกจากกัน ความกว้างของเส้นเอาสักสองข้อมือข้านี่แหละขอรับ เสร็จแล้วม้วนเปลือกเข้าหากันมันจะ

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 59

    “เด็กน้อย เหลาเฟิงฟู่ทำอาหารได้เลิศรสจริงอันนี้ข้าไม่มีข้อโต้แย้ง แต่จะให้ข้า เฉินเจียผู้นี้กินอาหารแบบเดิม ๆ ทุกครั้ง เจ้าว่าข้าจะทำได้หรือไม่ นานแค่ไหนแล้วที่เหลาเฟิงฟู่ไม่มีรายการอาหารใหม่ ๆ ให้พวกข้าได้ลองชิมกัน” “วันนี้ในระหว่างที่ข้ากำลังจะมากินอาหารที่เหลาเฟิงฟู่ ระหว่างทางไปข้าเดินผ่านเหลาอาหารซิ่งฝู ข้าได้กลิ่นอาหารที่ หอมมาก หอมจนข้าอดใจไม่ไหวถึงได้เดินเข้ามาที่เหลาซิ่งฝูแห่งนี้ เสี่ยวเอ้อร์บอกเพียงว่าเขาเองก็ไม่รู้ จนเถ้าแก่หลินออกมาอธิบายให้พวกข้าฟังว่าเป็นอาหารชนิดใหม่ และสุดท้ายก็เป็นอย่างที่เจ้ารับรู้ในตอนนี้”“อ๋อ เป็นเช่นนี้นั่นเอง แล้วพวกท่านก็เป็นเช่นท่านเฉินเจียเหมือนกันหรือขอรับ” จางอี้หมิงหันหน้าไปถามบรรดาลูกค้าทั้งหลายที่ยืนออกันอยู่ตรงหน้า แล้วก็เป็นดังที่คาดไว้ในใจ พวกเขาทุกคนต่างพากันพยักหน้าถือเป็นคำตอบได้เป็นอย่างดี“ข้าไม่มีสิ่งใดสงสัยแล้วขอรับ เชิญท่านปู่ทำการประมูลต่อได้เลยขอรับ” อี้หมิงหันหน้ากลับมาบอกหลินไห่“พวกท่านพอใจกับราคาเปิดประมูลหรือไม่ หากคิดว่าราคาแพงไป ดังนั้นขอเชิญสั่งอาหารตามรายการที่ทางเหลาซิ่งฝูมีอยู่แล้วได้เลย” หลินไห่ถามย้ำอีกครั้ง เ

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 58

    ทันทีที่เถ้าแก่หลินเดินออกมาจากห้องครัว เหล่าคหบดีที่นั่งรออยู่ก็พากันลุกขึ้นยืนโดยพร้อมเพรียงกัน พวกเขาต่างตั้งใจรอฟังว่าเจ้าของเหลาอาหารซิ่งฝูจะแก้ปัญหานี้อย่างไร หลินไห่แย้มรอยยิ้มกว้าง เขาใช้เสียงดังป่าวประกาศออกไป“ท่านลูกค้าทั้งหลาย เหลาอาหารซิ่งฝูต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจในรายการอาหารชนิดใหม่มากถึงเพียงนี้ ตามที่ข้าได้แจ้งให้พวกท่านทราบไปก่อนหน้านี้แล้ว อาหารที่เหลาซิ่งฝูทดลองทำมีปริมาณไม่เพียงพอกับทุกคน ในตอนนี้เหลาซิ่งฝูสามารถให้พวกท่านได้ทดลองชิมเพียงสองจานเท่านั้น แต่เท่าที่ข้านับได้ พวกท่านมีประมาณสิบคน ดังนั้นข้าจึงได้มีความคิดหนึ่ง หวังว่าพวกท่านจะเห็นด้วยกับความคิดนี้”คหบดีมากมายยืนนิ่งรอฟัง มีบ้างที่เกือบชักสีหน้าเมื่อรู้ว่าอาหารมีไม่เพียงพอ แต่เถ้าแก่หลินก็รีบกล่าวเสริมต่อ“ข้าจะเปิดประมูลอาหารสองจานนี้ ใครที่ให้ราคามากที่สุดจึงจะได้อาหารทั้งสองจานนี้ไปลิ้มลอง ค่าอาหารทั้งหมดที่ได้รับในวันนี้ ข้าหลินไห่ เจ้าของเหลาอาหารซิ่งฝูจะนำไปบริจาคและช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากจน โดยแจ้งแก่พวกชาวบ้านว่าเป็นสินน้ำใจจากพวกท่านทั้งหลาย ไม่ทราบว่าพวกท่านเห็นเป็นเช่นใดบ้าง”“…”ห

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 57

    “นอกจากจะแก้ปัญหาไม่ให้พวกนั้นตีกันแล้ว ยังได้เงินมาช่วยเหลือคนยากจนอีกด้วย เหล่าคหบดี ข้าราชสำนักพวกนั้นชอบให้คนยกยอตนเองอยู่แล้ว ถ้าพวกเขาอยากชิม ก็จ่ายเงินมา ถ้าไม่จ่าย ก็ไม่ได้ชิม เหลาซิ่งฝูก็ไม่ต้องมากังวลว่าพะโล้จะไม่พอให้ชิม ต้องมาทำอะไรวุ่นวายไปหมด ที่ข้าชอบที่สุดเห็นจะเป็นเหลาอาหารซิ่งฝูยังได้กระจายข่าวรายการอาหารใหม่อีกสอง รายการโดยที่ไม่ต้องทำอันใด ลูกค้าพวกนั้นจะเป็นคนกระจายข่าวให้เหลาอาหารของพวกเราเอง” หลินไห่พึมพำถึงข้อดีของการแก้ปัญหานี้กับตนเอง ก่อนที่จะหันไปถามหัวหน้าพ่อครัวถึงอาหารที่มีตอนนี้“ว่าแต่อู๋เจ๋อ เจ้าลองตักใส่จานดูสิ พะโล้ในหม้อมีจำนวนกี่จาน” “รอสักครู่ขอรับ”อู๋เจ๋อรีบเดินไปตักพะโล้แห้งใส่จาน เขามองดูแล้วว่าได้ทั้งหมดเพียงสองจานเท่านั้น เสร็จแล้วชายวัยกลางคนจึงถือจานมาวางไว้บนโต๊ะที่เถ้าแก่หลินนั่งอยู่“มีเพียงสองจานเท่านี้เองหรือ ไม่เป็นไร ยิ่งมีน้อยความต้องการยิ่งสูงราคายิ่งแพงตามไปด้วย อู๋เจ๋อ เจ้าให้พ่อครัวเตรียมวัตถุดิบทำสามสหายท่องหล้าขึ้นมาสักสิบจาน ข้าจะเอาไว้ปลอบใจให้กับคนที่ประมูลพะโล้แห้งไม่ได้” เถ้าแก่หลินเอ่ยสั่งงานหัวหน้าพ่อครัวด้วยอารมณ์ที

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 56

    หลินไห่ จางอี้เทา จางอี้หมิง รวมทั้งซีฮันเข้ามายังห้องครัว เท้ายังไม่พ้นประตูดี อู๋เจ๋อที่รออยู่ข้างในครัวด้วยความกระวนกระวายถึงกับถลาเดินเข้ามาหาทั้งสองคนด้วยใบหน้าตื่นตูม“หมิงหมิงน้อย เจ้ากลับมาแล้ว เถ้าแก่เป็นเช่นไรบ้างขอรับ”ใครจะคิดว่าอาหารสูตรบ้านจางจะส่งอิทธิพลขนาดนั้น หลินไห่พยักหน้าตอบพ่อครัว เขากับจางอี้เทาเดินเลี่ยงไปนั่งตรงมุมพักผ่อนเช่นเดิม“ท่านลุงอู๋ พะโล้ได้ที่แล้วกระมังขอรับ รบกวนท่านลุงอู๋ชิมดูได้หรือไม่ขอรับ” จางอี้หมิงเอ่ยถามหัวหน้าพ่อครัว “ลุงก็ไม่รู้ว่าพะโล้สุกได้ที่แล้วหรือไม่ เพราะหมิงหมิงน้อยเพียงแต่บอกให้ตุ๋นรอเจ้ากลับมา ลุงจะยกลงก็เกรงว่าจะผิดสูตร จึงได้แต่รอเจ้ากลับมานี่แหละ” อู๋เจ๋อเรียกสติของตนเองและตอบกลับ“ท่านลุงลองชิมพะโล้ดูก่อนขอรับ ถ้าเนื้อหมูนุ่ม ซอส เอ่อ น้ำแกงเหลือขลุกขลิก รสชาติใช้ได้แล้วก็ยกลงได้เลย ลองให้ท่านปู่หลินช่วยชิมดูอีกคนก็ได้ขอรับ” อู๋เจ๋อเดินไปที่เตาหม้อตุ๋นหมูพะโล้ เขาก้มลงดูอาหารด้านใน เมื่อเห็นว่าน้ำแกงแห้งขอด มีเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยตามที่เด็กชายได้เอ่ยบอกไว้ เขาจึงหยิบจานใบเล็กมาตักหมูพะโล้วางลงไป แล้วจึงปิดฝาหม้อไว้เช่นเดิม

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 55

    หน้าเหลาอาหารซิ่งฝูในตอนนี้มีร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งเดินวนเวียนไปมาอย่างร้อนใจ ซีฮันชะเง้อคอมองหาสองพ่อลูกเจ้าของสูตรอาหาร และเมื่อเห็นว่าทั้งคู่เดินกลับมาแล้วจึงรีบปรี่เข้าไปหาโดยไม่รอให้จางอี้เทาและจางอี้หมิงเดินมาถึงหน้าเหลาอาหารเสียด้วยซ้ำ บุรุษบ้านจางต่างวัยขมวดคิ้วพร้อมกันด้วยความสงสัยเกิดเหตุอันใดขึ้นระหว่างที่พวกเขาสองคนพ่อลูกไปขายผ้าปักเช่นนั้นหรือ“พี่อี้เทา หมิงหมิงน้อย พวกเจ้ากลับมาแล้ว รีบขึ้นไปหาเถ้าแก่และท่านลุงอู๋โดยเร็วเถอะ” ซีฮันไม่ปล่อยให้สองพ่อลูกเอ่ยถามอันใด เขารีบบอกออกไปทันที“อาฮัน เกิดอันใดขึ้นเช่นนั้นหรือ” อี้เทาถามออกไปด้วยความข้องใจ“เถ้าแก่น่ะสิ ร้อนใจอยากให้พวกเจ้ารีบกลับมาตั้งนานแล้ว เจ้าไม่รู้อันใดเสียแล้วว่าพะโล้มันส่งกลิ่นรบกวนทุกคน ลูกค้าที่มากินอาหารที่เหลาโวยวายเสียงดังยกใหญ่” ซีฮันบอกด้วยเสียงเครียดขรึม“พะโล้ส่งกลิ่นรบกวนลูกค้าเช่นนั้นหรือ จะเป็นไปได้อย่างไรกัน” อี้หมิงพึมพำกับตนเองเบา ๆหรือว่ามีปัญหาในขั้นตอนการปรุง แต่เขาจำได้ว่าในการปรุงพะโล้ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการหมักไปจนถึงการตุ๋น ก่อนที่เขาจะออกจากร้านไป มันไม่มีขั้นตอนไหนผิดพลาดนี่นา“พวก

DMCA.com Protection Status