Share

ตอนที่ 24

last update Last Updated: 2024-12-12 04:57:04

หลังจากที่ได้สิ่งที่ต้องการแล้วรวมทั้งการค้าก็ประสบความสำเร็จไปอย่างงดงาม จางอี้หมิงจึงเลือกซื้อเกลือ ข้าวสารคุณภาพปานกลาง ธัญพืชหยาบ ถั่วเขียว แป้งต่าง ๆ เครื่องเทศต่าง ๆ รวมถึงหม้อใบใหญ่และไหเปล่ากลับบ้าน

เกลือสองจินหนึ่งร้อยสามสิบอีแปะ ข้าวสารสองกระสอบสามร้อยอีแปะ ธัญพืชหยาบสองกระสอบหนึ่งร้อยอีแปะ ถั่วเขียวหนึ่งจินสิบอีแปะ หม้อสามใบใหญ่หนึ่งร้อยห้าสิบอีแปะ ไหขนาดต่าง ๆ แปดสิบอีแปะ เครื่องเทศต่าง ๆ ห้าสิบอีแปะ แป้งสาลีสี่จินแปดสิบอีแปะ แป้งมันสองจินสี่สิบอีแปะ ซีอิ้วสองไหหนึ่งร้อยยี่สิบอีแปะ รวมทั้งหมดหนึ่งตำลึงหกสิบอีแปะ” เถ้าแก่หวังคิดเลข เขาชี้นิ้วไปที่ของแต่ละอย่าง

หักค่าน้ำตาลผักไปสามร้อยอีแปะ ยอดคงเหลือที่เจ้าต้องจ่ายเพิ่มคือเจ็ดร้อยหกสิบอีแปะ ข้าคิดเพียงเจ็ดร้อยอีแปะเท่านั้น”

นี่ขอรับ” จางอี้เทานำเงินหนึ่งตำลึงจ่ายให้กับเถ้าแก่หวังและรับเงินทอนมาสามร้อยอีแปะ

เถ้าแก่หวัง ข้ากับท่านพ่อยังต้องไปซื้ออย่างอื่นอีก ของพวกนี้รบกวนฝากท่านให้คนขนขึ้นรถม้าด้วยได้หรือไม่ขอรับ” จางอี้หมิงรีบบอก

ได้สิ เดี๋ยวข้าจะบอกคนขับรถม้าให้”

ขอบคุณเถ้าแก่มากขอรับ”

จางอี้หมิงสะกิดบอกบิดาให้จ่ายเงินให้กับอาคุน เด็กขายของ เพื่อให้ช่วยล้างถ้วยกับช้อนที่เขาหยิบยืมมาใช้เป็นจำนวนสิบอีแปะ อาคุนยิ้มรับ ทำงานให้ด้วยความเต็มใจ

หลังจากออกจากร้านขายของชำแล้ว สองพ่อลูกบ้านจางจึงเดินไปที่ร้านผ้าแห่งหนึ่ง จางอี้เทาเป็นฝ่ายสอบถาม เนื่องจากเขาเติบโตมากับกิจการค้าผ้า จึงมีความรู้ในเรื่องนี้ไม่น้อย แม้ว่าตัวเขาเองจะเป็นอาจารย์ก็ตามที

ผ้าฝ้ายที่นี่ขายอย่างไร”

ตรงนี้คือฝ้าฝ้ายเนื้อหยาบ ขายพับละสี่สิบอีแปะ ส่วนที่เจ้าสัมผัสอยู่คือผ้าฝ้ายเนื้อละเอียด ขายพับละเจ็ดสิบอีแปะ และตรงนี้คือผ้าลายดอก ขายพับละแปดสิบอีแปะ” พนักงานขายร้านผ้าเอ่ยตอบด้วยความคล่องแคล่ว ไม่มีการดูถูกสองพ่อลูกแต่อย่างใด แม้จะแต่งกายด้วยชุดที่เก่าโทรมก็ตามที

ข้าต้องการผ้าฝ้ายเนื้อหยาบสองพับ ผ้าฝ้ายเนื้อละเอียดสองพับ ผ้าลายดอกหนึ่งพับ รบกวนห่อให้ด้วย”

จางอี้เทาคำนวณผ้าที่ต้องใช้อย่างรวดเร็ว เขาต้องการผ้าห่มสี่ผืน ซึ่งทำจากผ้าฝ้ายเนื้อหยาบสองพับ ส่วนชุดของทุกคนก็เอาผ้าฝ้ายเนื้อละเอียดสองพับกับผ้าลายดอกหนึ่งพับสำหรับมารดาและภรรยา ผ้าที่เหลือยังเอาไปทำรองเท้า ถุงเท้าได้อีกด้วย

เขาไม่อยากซื้อชุดสำเร็จเนื่องจากมันมีราคาแพง อีกอย่างหลี่อ้าย ภรรยาของเขาก็ตัดชุดได้สวยงามมากอยู่แล้ว สำหรับฟูกนอนนั้นมีขนาดที่ใหญ่ พวกเขาคงขนกลับไปเองไม่ไหว ต้องเป็นคราวหน้า

ทั้งหมดเป็นเงินสามร้อยอีแปะขอรับ”

พนักงานขายผ้าจัดการห่อผ้าให้เรียบร้อย จางอี้เทาขอฝากไว้ที่ร้านก่อนเพราะพวกเขายังต้องไปที่ร้านขายเนื้อในตลาดสดเป็นที่สุดท้ายสำหรับวันนี้

เมื่อมองดวงอาทิตย์ก็เห็นว่าเป็นเวลาสายมากแล้ว แต่ยังพอมีเวลาเหลืออยู่ จางอี้เทาจึงพาเด็กน้อยไปกินบะหมี่น้ำที่ร้านริมทาง เขาสั่งบะหมี่น้ำสองชามให้ตนเองและบุตรชาย ราคาชามละห้าอีแปะ รวมสองชามเป็นสิบอีแปะ

จางอี้หมิงถึงกับน้ำตาไหลพราก เพราะเขาเบื่อที่ต้องกินโจ๊กธัญพืชเต็มที

ช่วงเวลาที่เข้ามาในโลกแห่งนี้ เพิ่งจะเคยได้กินอาหารดีๆ ครั้งแรก...

หลังจากท้องอิ่ม เรี่ยวแรงก็กลับมา สองพ่อลูกจึงเดินไปที่ตลาดขายเนื้อ ตอนแรกจางอี้เทาจะไม่ซื้อเนื้อ แต่ก็ขัดลูกอ้อนของบุตรชายไม่ได้

คนขายเนื้อเป็นชายวัยกลางคน เอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเอง

พวกเจ้าจะซื้อเนื้อหรือ ต้องการเท่าไรล่ะ”

เนื้อพวกนี้ขายยังไง” จางอี้เทาชี้นิ้วไปยังเนื้อที่วางอยู่บนถาดไม้

เนื้อแดง จินละสี่สิบห้าอีแปะ เนื้อสามชั้นจินละยี่สิบห้า อีแปะ ส่วนไส้ มันหมูกับกระดูกข้าไม่ได้ขาย เพราะข้าจะเอาไปทิ้ง” คนขายเนื้อใช้มีดชี้ไปยังส่วนต่าง ๆ ตามที่เขาบอกไป

ข้าเอาเนื้อแดงสองจิน เนื้อสามชั้นห้าจิน และหากท่านจะเอาพวกกระดูก ไส้และมันหมูไปทิ้ง ข้าขอทั้งหมดเลยขอรับ” จางอี้หมิงเอ่ย

พวกเจ้าจะเอาไปทำไม มันกินไม่ได้ พวกเจ้าหิ้วกลับไปก็หนักเสียเปล่า” คนขายเนื้อเอ่ยถามด้วยความสงสัย

ข้าช่วยท่านเอาขยะไปทิ้งไม่ดีหรือขอรับ ข้าจ่ายให้ท่าน ห้าอีแปะสำหรับของพวกนี้ ครั้งต่อไปให้ท่านเก็บของพวกนี้ไว้ให้ข้าอีกได้หรือไม่” จางอี้หมิงเสนอ

ได้ ๆ ดียิ่ง”

คนขายเนื้อกุลีกุจอจัดการตัดเนื้อให้กับสองพ่อลูก มากไปกว่านั้น เขาไม่ต้องเอาของพวกนี้ไปทิ้งให้เสียเวลา แถมยังได้เงินเพิ่มมาอีกห้าอีแปะ ถือว่าโชคสองชั้น

ทั้งหมดสองร้อยยี่สิบห้าอีแปะ” คนขายห่อเนื้อพร้อมกับไส้ กระดูกและมันหมูยื่นให้จางอี้เทา เขาใส่ลงไปในตะกร้าสะพายหลังและยื่นเงินส่งให้กับคนขายเนื้อ

พ่อหนุ่ม คราวหลังมาซื้อเนื้อที่ร้านข้าอีกนะ ข้าจะเก็บของพวกนี้ไว้ให้เจ้า” พ่อค้าเนื้อเอ่ยขอบใจพร้อมกับยิ้มให้ด้วยความเป็นกันเอง

ขอเพียงเนื้อของร้านท่านสดใหม่ ข้ากับบุตรชายต้องมาอุดหนุนร้านท่านอีกบ่อย ๆ แน่ เพราะลูกชายชอบอาหารจานเนื้อยิ่งนัก อีกอย่างเขาตัวเล็กเกินไป ข้าอยากจะขุนให้เขาอ้วนท้วนขึ้นอีกหน่อย”

หมูร้านข้ารับรองความสดใหม่แน่นอน” พ่อค้าตะโกนบอกเมื่อพวกเขาเริ่มเดินออกมาไกล

ระหว่างทางเดินกลับไปที่ร้านเถ้าแก่หวัง จางอี้เทาพาบุตรชายไปซื้อซาลาเปามาสิบลูก เขาซื้อไปฝากมารดากับภรรยาด้วย สำหรับจางอี้หมิง เด็กน้อยลงทุนซื้อขนมน้ำตาลปั้น จำนวนสามไม้ ไม้ละหกอีแปะ

เขาอยากเอาไปฝากซุนซูลี่กับซุนหมิงเย่

ไม้นิดเดียวราคาตั้งหกอีแปะ น้ำตาลคงเป็นของแพงจริงๆ ขนมพวกนี้ชาวบ้านทั่วไปคงยากที่จะได้กินบ่อย ๆ แน่

วันนี้บ้านจางขายน้ำตาลผักได้สามร้อยอีแปะ และเงินมัดจำค่าน้ำตาลผักอีกสามตำลึง สองพ่อลูกซื้อของไปทั้งหมดจากร้านเถ้าแก่หวังหนึ่งตำลึง ร้านผ้าอีกสามร้อยอีแปะ ร้านเนื้อสองร้อยยี่สิบห้าอีแปะ น้ำตาลปั้นของอี้หมิงสิบแปดอีแปะ บะหมี่น้ำ สิบอีแปะ ซาลาเปายี่สิบอีแปะ รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดหนึ่งตำลึงกับอีกห้าร้อยเจ็ดสิบสามอีแปะ ยังเหลือเงินกลับบ้านอีกหนึ่งตำลึงเจ็ดร้อยยี่สิบเจ็ดอีแปะ

จางอี้เทาไม่คิดเลยว่าบ้านเขาจะมีเงินตำลึงอีกครั้งหลังจากที่โดนโจรปล้นในครั้งนั้น ต้องยกความดีความชอบให้กับบุตรชายตัวเล็ก ตั้งแต่ฟื้นมาจากความเจ็บป่วย จางอี้หมิงก็ทำให้เขาประหลาดใจไม่เว้นวัน อย่างเช่นวันนี้ บุตรชายของเขาสามารถค้าขายได้อย่างคล่องแคล่ว

เมื่อได้ทุกอย่างตามที่ต้องการ สองพ่อลูกบ้านจางจูงมือกันเดินกลับมาที่ร้านเถ้าแก่หวัง พอดีกับคนขับรถม้าขนไหเปล่ารวมทั้งของที่จางอี้หมิงซื้อไว้ขึ้นรถม้าเสร็จเรียบร้อย เมื่อทุกคนขึ้นรถม้าแล้ว จางอี้เทาจึงบอกให้คนขับรถม้าไปรับผ้าที่ฝากไว้ แล้วออกเดินทางกลับบ้าน ส่วนจางอี้หมิงได้แต่ยิ้มกับตนเองในใจไปตลอดทาง

วันนี้เขาจะได้กินข้าวกับอาหารจานเนื้อแล้ว

สวรรค์ น้ำตาจะไหล

Related chapters

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 25

    รถม้าจากร้านเถ้าแก่หวังเดินทางมาถึงหมู่บ้านหลัวถงในเวลายามเซิน (15.00 – 16.59) อาชาสีดำตัวใหญ่ส่ายพวงหางไปมาขณะย่างเดินอย่างเชื่องช้า เรียกให้ชาวบ้านพากันออกมายืนมองด้วยความสงสัย บ้านนอกเช่นนี้น้อยครั้งนักจะมีรถม้าผ่านเข้ามา อย่างมากก็มีแค่เกวียนรับจ้างในเมืองที่คอยนำสินค้ามาส่งให้ชาวบ้านหรือแลกเปลี่ยนสมุนไพรกันรถม้าวิ่งไปเรื่อย ๆ และหยุดลงที่บ้านของครอบครัวจาง หูไป๋หงกับหลี่อ้ายที่อาการค่อยยังชั่วบ้างแล้วถึงกับเดินออกมาดูด้วยความสงสัยเหตุใดรถม้าจึงมาจอดที่บ้านของนางกันเล่า...“รถม้าผู้ใดมาจอดที่หน้าบ้านเรา” นางหูหันไปถามลูกสะใภ้“นั่นสิเจ้าคะ ข้าก็อยากรู้เช่นกัน” หลี่อ้ายตอบ นางชะเง้อคอมองข้ามตัวม้าไปด้านหลัง“อ้าว นั่นหมิงเอ๋อร์กับอาเทานี่” นางหูอุทานออกมาเบา ๆ ไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าบุตรและหลานชายจะกลับมาด้วยรถเทียมม้า“ท่านย่าขอรับท่านย่า ข้ากับท่านพ่อกลับมาแล้วขอรับ” จางอี้หมิงร้องเรียกย่าตนเองก่อนที่จะกระโดดลงมาเสียงดังตุ้บแต่เนื่องจากเด็กชายตัวน้อยกระโดดลงมาด้วยความรวดเร็วจึงทำให้ทรงตัวไม่ได้ ร่างกายถึงกับเซไปเซมาเล็กน้อย“หมิงเอ๋อร์ เจ้าระวังด้วย” หลี่อ้ายหัวใจเกือบวายเมื่อเห

    Last Updated : 2024-12-12
  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 26

    “ท่านย่าขอรับ วันนี้พวกเราคงต้องทำงานหนักกันมากหน่อยนะขอรับ เพราะมีมันหมูที่ต้องเจียว ไหนจะพวกเนื้อสด กระดูก ที่ต้องหมักลงไหเพื่อให้เก็บไว้กินอีกหลายวัน โดยเฉพาะไส้พวกนี้ ต้องล้างทำความสะอาดก่อนที่มันจะเหม็น”“ได้สิหมิงเอ๋อร์ งานหนักแค่นี้ไม่มีปัญหา ขอแค่มีอาหารให้เรากินก็ดีมากแล้ว เมื่อก่อนย่าอาจจะอิดออดนะ แต่ตอนนี้ย่าปรับตัวได้แล้ว” “ท่านย่า ข้าสัญญาว่าต่อไปครอบครัวเราจะไม่ต้องอดมื้อกินมื้ออีกแล้ว” จางอี้หมิงพูดอย่างมั่นใจ “ไม่เพียงเท่านั้นนะขอรับ ครอบครัวเราจะมีเงินมากมายให้มีมากกว่าตอนที่เราอยู่เมืองหลวงเสียอีก ที่สำคัญ ข้ายังอยากมีน้องสาวน้องชายมาเป็นเพื่อนเล่นข้าอยู่นะขอรับ ข้าต้องรีบหาเงินมาเยอะ ๆ ข้าจะสร้างจวนให้ใหญ่กว่าบ้านเก่าของเราขอรับ” จางอี้หมิงพูดเสียงดัง ส่งผลให้จางอี้เทากับหลี่อ้ายที่ฟังอยู่ด้วยถึงกับเขินอายเมื่อบุตรชายคนเดียวเอ่ยเย้าหน้าตาย“หมิงเอ๋อร์ จะ...เจ้า พูดอันใดออกมา” หลี่อ้ายเอ่ยเสียงดุไม่ดังมากนัก พวงแก้มของนางขึ้นสีแดงระเรื่อก่อนจะเรียกสติของตัวเองกลับมา ปรับสีหน้าให้เป็นดังเดิม“เรื่องน้องชายน้องสาวเอาไว้ก่อนเถอะหมิงเอ๋อร์” นางบอกเด็กชาย “ไหน วันนี้แม่

    Last Updated : 2024-12-12
  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 27

    หลี่อ้ายแยกตัวจากครอบครัวเพื่อนำผ้าที่สามีซื้อมาไปทำการตัดเย็บต่อไป ส่วนจางอี้เทาหลังจากที่จัดเก็บของเข้าที่แล้ว เขาจึงไปนั่งแทนมารดาเพื่อทำการเจียวน้ำมันหมู“หมิงเอ๋อร์ ย่าพร้อมแล้ว ต้องทำยังไงบ้าง” นางหูเอ่ยถามหลานชาย“ท่านย่าหุงข้าวก่อนขอรับ จากนั้นจึงทำไส้ทอด แล้วค่อยผัดผักบุ้งทีหลัง ท่านย่าพอจะมีน้ำมันหมูเก่าหรือไม่ขอรับ”“หมดไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะหมิงเอ๋อร์”“เช่นนั้นเอาน้ำมันที่เราเจียววันนี้ก็ได้ขอรับ ท่านย่าตั้งหม้อหุงข้าวไว้ เสร็จแล้วเราจะคลุกไส้หมูหมักกับเครื่องเทศรอระหว่างที่กำลังหุงข้าวนะขอรับ”จางอี้หมิงจำได้ว่าเครื่องเทศที่บิดาซื้อมามีฮวาเจียวที่ให้รสเผ็ดชา ถึงแม้ไม่มีพริก แต่ก็สามารถใช้พริกฮวาเจียวแทนได้ อีกอย่างคือมีชวงเจีย (พริกหอม) รวมทั้งเครื่องเทศพื้นฐานอีกหลายชนิด “ท่านย่า คั่วเม็ดฮวาเจียว (พริกไทยหรือพริกหมาล่า) กับชวงเจีย (พริกหอม) ให้หอม แล้วนำมาตำให้ละเอียดนะขอรับ ใส่กระเทียมเล็กน้อย ขิงนิดหน่อย เกลือสักหยิบมือ อย่าลืมใบยี่หร่าด้วย ที่ขาดไม่ได้คือน้ำตาลผักอีกนิด อย่าลืมซีอิ้วนะขอรับ เสร็จแล้วนำไส้ที่ตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ลงไปหมักสักสองเค่อก็ได้แล้วขอรับ” จางอี

    Last Updated : 2024-12-12
  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 28

    เวลาแห่งความสุขในห้วงนิทรามักหมดไปอย่างรวดเร็ว สมาชิกครอบครัวจางตื่นขึ้นมาทำหน้าที่ของตนอย่างขันแข็ง นางหูอุ่นซาลาเปาที่ซื้อมาเมื่อวานนี้ให้ทุกคนได้กินกันเป็นมื้อเช้า เรื่องการกินอาหารวันละสามมื้อเป็นเรื่องที่จางอี้หมิงเสนอขึ้นมา เพราะการกินครบสามมื้อจะถูกหลักโภชนาการมากกว่า ที่สำคัญคือ เขาต้องการขุนร่างนี้ให้อ้วนขึ้นอีกนิด เด็กวัยกำลังโตไม่ควรอดอาหาร ไม่เช่นนั้นเมื่อไหร่จะโตเสียทีเล่าอีกอย่าง เขาเป็นคนไทย คนไทยกินข้าววันละสามมื้อ ของหวานของคาวไม่เคยขาด อยู่ดี ๆ ให้มาอด ๆ อยาก ๆ เขาเองก็ไม่ชินในตอนแรกสมาชิกครอบครัวจางดูตกใจกับการทานอาหารมากมายขนาดนั้น แต่จางอี้หมิงบอกเพียงว่าเมืองสวรรค์ทำกันเช่นนี้ ท่านย่า ท่านพ่อ และท่านแม่จึงจำต้องเห็นด้วยอย่างไม่อิดออด เป็นความโชคดีที่หลี่อ้ายหายเป็นปกติ เหลือเพียงอาการอ่อนเพลียเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นางหูกับหลี่อ้ายจึงช่วยกันเย็บผ้าห่มและชุดใหม่สำหรับทุกคน ส่วนจางอี้เทาและบุตรชายขึ้นภูเขาเพื่อไปตัดหญ้าหวานมาทำน้ำตาลผักตามที่ได้รับใบสั่งซื้อมา“หมิงเอ๋อร์ เมื่อวานเจ้าบอกว่าจะทำพะโล้วันนี้ เมืองสวรรค์ก็มีพะโล้เช่นกันหรือ” จางอี้เทาเอ่ยถามบุตรชายข

    Last Updated : 2024-12-12
  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 29

    “น้ำสอ สอด อันใดนะ หมิงเอ๋อร์” นางหูขมวดคิ้ว พยายามออกเสียงคำว่าซอสให้เหมือนกับที่หลานชายพูด แต่ดูแล้วลิ้นจะพันกันเสียให้ได้"ท่านย่า ไม่ใช่สอดขอรับ ซอสขอรับ น้ำซอสก็คือน้ำที่มันขลุกขลิกเหลือนิดหน่อยในหมูพะโล้เช่นไรเล่าขอรับ ถ้าทำเสร็จแล้ว ข้าจะชี้ให้ท่านย่าดูขอรับ”“เช่นนั้นย่าต้องหมักเนื้อหมูก่อนเป็นอันดับแรกใช่หรือไม่”“ใช่แล้วขอรับ” ตลอดการทำอาหารหลังจากนั้น เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ นางหูและจางอี้เทาตั้งใจฟังพ่อครัวตัวน้อยกำกับการทำอาหารอย่างสนุกสนาน หลี่อ้ายที่นั่งเย็บผ้าอยู่เหลือบตามองเป็นระยะและยิ้มออกมาอย่างมีความสุขที่เห็นครอบครัวกลับมามีความสุขอีกครั้ง“ท่านย่า รีบใส่เครื่องเทศได้แล้วขอรับ ก่อนกระเทียมจะไหม้”“หมิงเอ๋อร์ ต้องใส่อย่างละเท่าไรนะ”“ท่านแม่ โป้ยกั๊กห้าดอก กระวานหกลูก อบเชยสองแท่ง”“อาเทา เจ้าช่างความจำดีเยี่ยม สมแล้วที่เป็นอาจารย์สอนหนังสือ”“ท่านย่า อย่าใส่เกลือเยอะขอรับ พอน้ำแห้งมันจะเค็มกว่านี้”“ท่านย่า คนและกลับเนื้อหมูหน่อยขอรับ หมูจะไหม้แล้ว”“ท่านย่า ใส่น้ำเปล่าได้แล้วขอรับ”พ่อครัวตัวน้อยของบ้านจางกลายเป็นผู้กำกับการทำอาหารให้ท่านย่าของตนเองทำตามได้อย่าง

    Last Updated : 2024-12-12
  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 30

    หลังจากที่บ้านจางกินข้าวกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว สองพ่อลูกจึงพากันออกจากกระท่อมปลายนา พวกเขาถือพะโล้แห้งกับน้ำตาลปั้นสามไม้เดินคุยกันกระหนุงกระหนิงตามประสาอย่างมีความสุข มุ่งไปทางบ้านผู้นำหมู่บ้านจางอี้หมิงถามนู่นถามนี่สารพัด แต่อี้เทาก็ตอบด้วยรอยยิ้ม พวกเขาใช้เวลาไม่นานก็มาถึงจุดหมาย ตอนนี้เวลาน่าจะประมาณยามเซิน (15.00 – 16.59) ถึงแม้ว่าจะยังไม่ถึงเหมันต์ฤดู แต่อากาศช่วงนี้เริ่มเย็นลงบ้างแล้ว ทินกรทอแสงอัสดงเตรียมลับขอบฟ้า แต่ก็ยังมีเวลาเพียงพอให้จางอี้เทาและจางอี้หมิงได้เดินทางกลับบ้านโดยไม่ต้องใช้คบไฟส่องนำทาง ในยุคสมัยนี้ ชาวบ้านธรรมดามักใช้คบไฟในการส่องนำทางตอนกลางคืน พวกเขายังไม่มีตะเกียงใช้ ตอนกลางคืนก็ใช้ใต้ไฟในการจุดให้แสงสว่างภายในบ้าน ซึ่งข้อเสียของมันคือมีควันจำนวนมากดังนั้นชาวบ้านทั่วไปจึงเข้านอนแต่หัวค่ำตามตะวันที่ลับขอบฟ้าไปแล้ว ถ้าไม่จำเป็นจะไม่มีใครจุดใต้ไฟในตอนกลางคืน เทียนไขจะมีใช้แค่ตามบ้านของข้าราชสำนักหรือเศรษฐีมีเงินเพราะราคานั้นแพงมาก ชาวบ้านถือว่าเป็นของสิ้นเปลือง แต่สำหรับผู้มั่งมีแล้วไม่เดือดร้อน“ท่านพี่เย่ ท่านพี่เย่ อยู่บ้านหรือไม่ ข้าจางอี้เทากับหมิงเอ๋อ

    Last Updated : 2024-12-12
  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 31

    “มะ ไม่ใช่เช่นนั้นหมิงหมิงน้อย ข้าไม่ได้รังเกียจเจ้า แต่ว่า......” ซุนซูลี่ทำตัวไม่ถูก นางไม่ได้ต้องการให้หมิงหมิงน้อยคิดเช่นนั้น เรียวปากสวยยังพูดไม่จบ จางอี้เทาจึงพูดขึ้นก่อน“ลี่เอ๋อร์ น้องอี้หมิงตั้งใจนำขนมมาฝากพวกเจ้าสองคนพี่น้องจริง ๆ ดูสิ” อี้เทาพยักหน้าไปทางขนมน้ำตาลปั้นในมือบุตรชาย “หมิงเอ๋อร์น่ะ เพื่อจะได้กินพร้อมกันกับพี่ ๆ เขาไม่ยอมกินในส่วนของตนเอง ทั้งที่อาซื้อมาตั้งแต่เมื่อวาน เช่นนั้นแล้ว ลี่เอ๋อร์กับเย่เอ๋อร์อย่าได้ปฏิเสธหมิงเอ๋อร์เลยนะ” ซุนซูลี่ได้ยินจางอี้เทากล่าวเช่นนั้นจึงได้หันไปขอความเห็นจากบิดา เมื่อเห็นซุนซูเย่พยักหน้า เด็กน้อยจึงยิ้มกว้างออกมา หันไปพูดกับจางอี้หมิงด้วยเสียงสดใส“หมิงหมิงน้อย ข้าขอบใจเจ้ามากนะ และข้าไม่ได้รังเกียจเจ้า ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้ารู้สึกไม่ดี ไหนล่ะน้ำตาลปั้นของข้า” “พี่ซูลี่ไม่รังเกียจข้าจริง ๆ ใช่ไหม ขอบคุณมากขอรับ นี่น้ำตาลปั้นของพี่ซูลี่ ส่วนอันนี้ของพี่หมิงเย่ขอรับ”จางอี้หมิงสดใสขึ้นมาทันที ถ้าในสมัยก่อนคงถูกหาว่าเป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสีได้ไวมาก แต่ใครสนกันเล่า ตอนนี้เขาคือจางอี้หมิง เด็กน้อยอายุห้าขวบ ช่วงเป็นเด็กเขาจะทำอะไรก็ได้ ย

    Last Updated : 2024-12-12
  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 32

    ในที่สุด วันที่สำคัญก็มาถึง ยามเฉิน (07.00 – 08.59) ของวันนี้ บ้านจางมีนัดส่งน้ำตาลผักให้กับเถ้าแก่หวังและต้องไปพบชาวบ้านเพื่อฟังผลการแลกเปลี่ยนแรงงานในยามซื่อ (09.00 – 10.59) อีกทั้งหากได้รับคำตอบจากบ้านซุนว่าชื่นชอบพะโล้ที่ลองเอาไปให้ชิมแล้ว จางอี้เทากับจางอี้หมิงจะเข้าเมืองไปเสนอการทำอาหารให้กับเหลาทั้งหลายในวันพรุ่งนี้น้ำตาลผักทั้งหมดสำหรับวันนี้ได้จัดเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วโดยฝีมือของหูไป๋หง จางอี้เทาและหลี่อ้าย ส่วนจางอี้หมิงไม่ได้ช่วยอันใด จางอี้เทาปล่อยให้บุตรชายได้พักผ่อนในการทำน้ำตาลผักนั้นไม่ใช่เรื่องยากอันใด นางหูสอนให้บุตรชายและสะใภ้ไม่กี่ครั้ง ทั้งสองคนก็เข้าใจและทำเองได้ ทั้งสามตื่นมาตั้งแต่ยามเหม่า (05.00 – 06.59) แล้ว หูไป๋หงรับหน้าที่ทำข้าวต้มหมู หลี่อ้ายเย็บเสื้อผ้าและผ้าห่มที่ยังทำค้างไว้ ส่วนจางอี้เทาตรวจสอบความเรียบร้อยของน้ำตาลผักเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อถึงยามเฉิน (07.00 – 08.59) ไม่ขาดไม่เกิน รถม้าของเถ้าแก่หวังก็เดินทางมาถึงบ้านจาง“อรุณสวัสดิ์ขอรับ ข้ามารับน้ำตาลผักตามที่นัดไว้ ไม่ทราบว่าพี่ชายท่านนี้เตรียมสินค้าพร้อมแล้วหรือไม่” อาคุน คนขับรถม้าของเถ้าแ

    Last Updated : 2024-12-12

Latest chapter

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 63

    “ทางออกอันใดหรือเด็กน้อย” เฉินเจียเอ่ยถามด้วยความสงสัย เขามองดูเด็กน้อยตรงหน้าอย่างพินิจ“ทางออกของเรื่องทั้งหมดนี้เช่นไรเล่าขอรับ ข้าขอเสนอให้พวกท่านทั้งสิบคนแลกเปลี่ยนนิลเง็กเซียนกับสามสหายท่องหล้า แบ่งปันกันชิมคนละคำสองคำ เช่นนี้แล้วพวกท่านทั้งหมดก็จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ชิมอาหารชนิดใหม่ด้วยวิธีการปรุงแบบใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน”“สำหรับค่าอาหารจากที่ท่านเฉินเจียกับท่านฉีหมิงต้องจ่ายคนละห้าสิบตำลึง สองจานรวมเป็นหนึ่งร้อยตำลึง เมื่อแลกเปลี่ยนอาหารกันแล้ว พวกท่านเพียงจ่ายคนละสิบตำลึงเท่านั้น เช่นนี้แล้วพวกท่านทุกคนจึงเท่าเทียมเหมือนกันแล้วขอรับ”“ในอนาคต เหลาอาหารซิ่งฝูจะมีรายการอาหารชนิดใหม่ออกมาทุกเดือน เพื่อเป็นการตอบแทนท่านทั้งสิบคน เหลาอาหารซิ่งฝูยินดีที่จะให้ท่านเป็นลูกค้าพิเศษ เมื่อมีรายการอาหารชนิดใหม่ในแต่ละครั้ง เหลาซิ่งฝูจะทำการเชิญท่านทั้งสิบมาทำการลิ้มลองอาหารก่อนเป็นกลุ่มแรก เช่นนี้แล้ว ท่านลุง ท่านตาทั้งหลายพอใจหรือไม่ขอรับ” จางอี้หมิงอธิบายเสร็จแล้วจึงถอยหลังกลับไปยืนข้างท่านปู่ด้วยความสงบเรียบร้อย“ฮะ ฮะ ฮะ” ฉีหมิงหัวเราะออกมาและกล่าวชมเชยหลินไห่“เถ้าแก่หลิน หลานชายข

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 62

    “ข้าไม่เคยได้ชิมอาหารจานผักเช่นนี้มาก่อนเลย จะว่าเป็นน้ำแกงก็มีน้ำน้อยเกินไป จะว่าเป็นผักต้มแต่กลับมีกลิ่นของกระเทียม รสชาติกลมกล่อมเกินกว่าจะเป็นผักต้มได้ เถ้าแก่หลิน สามสหายท่องหล้าคืออาหารชนิดใดกันแน่ขอรับ” ชายคนแรกที่ตั้งข้อสงสัยถามเถ้าแก่หลินขึ้นมา“เรียนลูกค้า สามสหายท่องหล้าเป็นอาหารจานผัก ส่วนวิธีการปรุงนั้นทำมาจากการผัด” เถ้าแก่หลินไห่เอ่ยตอบด้วยท่าทางสุขุม“การผัดเช่นนั้นหรือ มันคืออันใดกันเล่า ข้าอายุแก่จนปูนนี้แล้ว ยังมิเคยได้ยินว่ามีการปรุงอาหารด้วยการผัดมาก่อน พวกเจ้าเล่า เคยได้ยินมาก่อนหรือไม่” ชายชราที่อายุมากที่สุดในกลุ่มเอ่ยออกมาเสียงไม่เบานัก ก่อนจะหันไปถามผู้ที่ร่วมชิมสามสหายท่องหล้าด้วยกัน“ข้าไม่เคย”“ข้าก็ไม่เคย” ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกัน“ข้าคงมิสามารถตอบได้เนื่องจากว่าเป็นความลับของเหลาซิ่งฝู ขอลูกค้าอย่าได้ถามอีกเลย” หลินไห่ตอบกลับด้วยความสุภาพ“เจ้าว่าอันใดนะ สามสหายท่องหล้าของพวกเจ้า ปรุงขึ้นมาจากวิธีการปรุงอาหารแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นนั้นหรือ” ฉีหมิงเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เขายินดียิ่งนักที่ได้เป็นคนกลุ่มแรกซึ่งได้ชิมรายการอาหารชนิดใหม่ประเภทจ

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 61

    หลินไห่เดินจูงมือจางอี้หมิงนำหน้าอู๋เจ๋อและอู๋หมินออกมา ที่มือของคนครัวทั้งคู่ถือถาดไม้บรรจุนิลเง็กเซียนส่งกลิ่นหอมฉุย พวกเขาเดินนำอาหารไปวางไว้บนโต๊ะของผู้ชนะการประมูลซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามกันเถ้าแก่หลินเป็นผู้อธิบายถึงรายการอาหารรสเลิศตรงหน้า ทั้งกลิ่นหอมกรุ่ม ทั้งควันที่ลอยออกมาบ่งบอกว่าเพิ่งผ่านการปรุงมาใหม่ ๆ รวมถึงการตกแต่งจานอาหารให้มีสีสันน่ากิน ประกอบกับล่วงเลยเวลาอาหารมื้อแรกของวันมานานพอสมควรแล้ว ยิ่งทำให้เมนูใหม่ดูน่าเย้ายวนลูกค้าที่แพ้การประมูลทั้งหลายเกือบจะกระโดดออกไปยึดเอาถาดไม้ใส่อาหารมาเป็นของตนเองอยู่รอมร่อ เพียงแต่พอมองหน้าเถ้าแก่หลินแล้ว พวกเขาได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน รออาหารอีกชนิดหนึ่งแทน ซึ่งพวกตนก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอันใดและจะมีกลิ่นหอมเหมือนกับอาหารของผู้ชนะหรือไม่“ท่านเฉินเจียและท่านฉีหมิง อาหารชนิดใหม่ตรงหน้าท่าน เป็นอาหารจานเนื้อ เรียกว่า นิลเง็กเซียน เนื้อสัมผัสอ่อนนุ่ม หอมกลิ่นเครื่องเทศเข้มข้น ข้าขอแนะนำให้นำเนื้อจิ้มลงไปในน้ำแกงก่อนกิน แล้วตามด้วยข้าวสวยร้อน ๆ ดอกไม้ซีหงซื่อและแตงกวาที่วางอยู่บนจาน พวกท่านสามารถนำมากินแก้อาการเลี่ยนได้ เชิญท่านทั้งสองลิ้มลองอา

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 60

    “พี่ชายหมิน รบกวนหยิบมะเขือเทศกับแตงกวามาให้ข้าที อย่าลืมล้างให้เรียบร้อยด้วยนะขอรับ มาทำตรงโต๊ะเตรียมวัตถุดิบนะขอรับ” จางอี้หมิงบอกแล้วจึงเดินไปรอที่โต๊ะกลางห้องอู๋หมินรีบหยิบผักออกมา เมื่อล้างแตงกวาและมะเขือเทศจนสะอาดแล้วจึงเดินมาสมทบกับอี้หมิงทันที เขาวางวัตถุดิบทั้งสองอย่างไว้บนโต๊ะ แล้วยกตัวของเด็กน้อยขึ้นนั่งบนเก้าอี้ ส่วน อู๋หมินยืนอยู่ข้าง ๆ อีกที“หมิงหมิงน้อยบอกว่าจะทำดอกไม้จากซีหงซื่อเช่นนั้นหรือ”“พี่ชายหมิน ต่อไปต้องเรียกมะเขือเทศนะขอรับ ห้ามเรียกซีหงซื่ออีก”“ดะ ได้ หมิงหมิงน้อยจะทำดอกไม้จากมะเขือเทศเช่นนั้นหรือ” อู๋หมินลนลานถามอีกครั้ง คำพวกนี้ระหว่างที่รอสองพ่อลูกบ้านจางไปขายผ้า พวกเขาก็ถูกเถ้าแก่บังคับให้ฝึกเรียกไว้ก่อนแล้วเช่นกัน ไม่น่าเชื่อว่าเถ้าแก่จะเห่อหลานชายคนใหม่ยิ่งนัก เพียงแต่ช่วงแรก ๆ เขาก็มีหลงลืมเผลอใช้คำที่คุ้นเคยเช่นเดิมไปบ้างเท่านั้น“ขอรับ ดอกไม้จากมะเขือเทศทำง่ายมาก เพียงพี่ชาย หมินเอามีดมาปอกเปลือกมะเขือเทศให้เป็นเส้นจากบนลงล่างโดยที่ไม่ให้เปลือกมะเขือเทศขาดออกจากกัน ความกว้างของเส้นเอาสักสองข้อมือข้านี่แหละขอรับ เสร็จแล้วม้วนเปลือกเข้าหากันมันจะ

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 59

    “เด็กน้อย เหลาเฟิงฟู่ทำอาหารได้เลิศรสจริงอันนี้ข้าไม่มีข้อโต้แย้ง แต่จะให้ข้า เฉินเจียผู้นี้กินอาหารแบบเดิม ๆ ทุกครั้ง เจ้าว่าข้าจะทำได้หรือไม่ นานแค่ไหนแล้วที่เหลาเฟิงฟู่ไม่มีรายการอาหารใหม่ ๆ ให้พวกข้าได้ลองชิมกัน” “วันนี้ในระหว่างที่ข้ากำลังจะมากินอาหารที่เหลาเฟิงฟู่ ระหว่างทางไปข้าเดินผ่านเหลาอาหารซิ่งฝู ข้าได้กลิ่นอาหารที่ หอมมาก หอมจนข้าอดใจไม่ไหวถึงได้เดินเข้ามาที่เหลาซิ่งฝูแห่งนี้ เสี่ยวเอ้อร์บอกเพียงว่าเขาเองก็ไม่รู้ จนเถ้าแก่หลินออกมาอธิบายให้พวกข้าฟังว่าเป็นอาหารชนิดใหม่ และสุดท้ายก็เป็นอย่างที่เจ้ารับรู้ในตอนนี้”“อ๋อ เป็นเช่นนี้นั่นเอง แล้วพวกท่านก็เป็นเช่นท่านเฉินเจียเหมือนกันหรือขอรับ” จางอี้หมิงหันหน้าไปถามบรรดาลูกค้าทั้งหลายที่ยืนออกันอยู่ตรงหน้า แล้วก็เป็นดังที่คาดไว้ในใจ พวกเขาทุกคนต่างพากันพยักหน้าถือเป็นคำตอบได้เป็นอย่างดี“ข้าไม่มีสิ่งใดสงสัยแล้วขอรับ เชิญท่านปู่ทำการประมูลต่อได้เลยขอรับ” อี้หมิงหันหน้ากลับมาบอกหลินไห่“พวกท่านพอใจกับราคาเปิดประมูลหรือไม่ หากคิดว่าราคาแพงไป ดังนั้นขอเชิญสั่งอาหารตามรายการที่ทางเหลาซิ่งฝูมีอยู่แล้วได้เลย” หลินไห่ถามย้ำอีกครั้ง เ

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 58

    ทันทีที่เถ้าแก่หลินเดินออกมาจากห้องครัว เหล่าคหบดีที่นั่งรออยู่ก็พากันลุกขึ้นยืนโดยพร้อมเพรียงกัน พวกเขาต่างตั้งใจรอฟังว่าเจ้าของเหลาอาหารซิ่งฝูจะแก้ปัญหานี้อย่างไร หลินไห่แย้มรอยยิ้มกว้าง เขาใช้เสียงดังป่าวประกาศออกไป“ท่านลูกค้าทั้งหลาย เหลาอาหารซิ่งฝูต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจในรายการอาหารชนิดใหม่มากถึงเพียงนี้ ตามที่ข้าได้แจ้งให้พวกท่านทราบไปก่อนหน้านี้แล้ว อาหารที่เหลาซิ่งฝูทดลองทำมีปริมาณไม่เพียงพอกับทุกคน ในตอนนี้เหลาซิ่งฝูสามารถให้พวกท่านได้ทดลองชิมเพียงสองจานเท่านั้น แต่เท่าที่ข้านับได้ พวกท่านมีประมาณสิบคน ดังนั้นข้าจึงได้มีความคิดหนึ่ง หวังว่าพวกท่านจะเห็นด้วยกับความคิดนี้”คหบดีมากมายยืนนิ่งรอฟัง มีบ้างที่เกือบชักสีหน้าเมื่อรู้ว่าอาหารมีไม่เพียงพอ แต่เถ้าแก่หลินก็รีบกล่าวเสริมต่อ“ข้าจะเปิดประมูลอาหารสองจานนี้ ใครที่ให้ราคามากที่สุดจึงจะได้อาหารทั้งสองจานนี้ไปลิ้มลอง ค่าอาหารทั้งหมดที่ได้รับในวันนี้ ข้าหลินไห่ เจ้าของเหลาอาหารซิ่งฝูจะนำไปบริจาคและช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากจน โดยแจ้งแก่พวกชาวบ้านว่าเป็นสินน้ำใจจากพวกท่านทั้งหลาย ไม่ทราบว่าพวกท่านเห็นเป็นเช่นใดบ้าง”“…”ห

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 57

    “นอกจากจะแก้ปัญหาไม่ให้พวกนั้นตีกันแล้ว ยังได้เงินมาช่วยเหลือคนยากจนอีกด้วย เหล่าคหบดี ข้าราชสำนักพวกนั้นชอบให้คนยกยอตนเองอยู่แล้ว ถ้าพวกเขาอยากชิม ก็จ่ายเงินมา ถ้าไม่จ่าย ก็ไม่ได้ชิม เหลาซิ่งฝูก็ไม่ต้องมากังวลว่าพะโล้จะไม่พอให้ชิม ต้องมาทำอะไรวุ่นวายไปหมด ที่ข้าชอบที่สุดเห็นจะเป็นเหลาอาหารซิ่งฝูยังได้กระจายข่าวรายการอาหารใหม่อีกสอง รายการโดยที่ไม่ต้องทำอันใด ลูกค้าพวกนั้นจะเป็นคนกระจายข่าวให้เหลาอาหารของพวกเราเอง” หลินไห่พึมพำถึงข้อดีของการแก้ปัญหานี้กับตนเอง ก่อนที่จะหันไปถามหัวหน้าพ่อครัวถึงอาหารที่มีตอนนี้“ว่าแต่อู๋เจ๋อ เจ้าลองตักใส่จานดูสิ พะโล้ในหม้อมีจำนวนกี่จาน” “รอสักครู่ขอรับ”อู๋เจ๋อรีบเดินไปตักพะโล้แห้งใส่จาน เขามองดูแล้วว่าได้ทั้งหมดเพียงสองจานเท่านั้น เสร็จแล้วชายวัยกลางคนจึงถือจานมาวางไว้บนโต๊ะที่เถ้าแก่หลินนั่งอยู่“มีเพียงสองจานเท่านี้เองหรือ ไม่เป็นไร ยิ่งมีน้อยความต้องการยิ่งสูงราคายิ่งแพงตามไปด้วย อู๋เจ๋อ เจ้าให้พ่อครัวเตรียมวัตถุดิบทำสามสหายท่องหล้าขึ้นมาสักสิบจาน ข้าจะเอาไว้ปลอบใจให้กับคนที่ประมูลพะโล้แห้งไม่ได้” เถ้าแก่หลินเอ่ยสั่งงานหัวหน้าพ่อครัวด้วยอารมณ์ที

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 56

    หลินไห่ จางอี้เทา จางอี้หมิง รวมทั้งซีฮันเข้ามายังห้องครัว เท้ายังไม่พ้นประตูดี อู๋เจ๋อที่รออยู่ข้างในครัวด้วยความกระวนกระวายถึงกับถลาเดินเข้ามาหาทั้งสองคนด้วยใบหน้าตื่นตูม“หมิงหมิงน้อย เจ้ากลับมาแล้ว เถ้าแก่เป็นเช่นไรบ้างขอรับ”ใครจะคิดว่าอาหารสูตรบ้านจางจะส่งอิทธิพลขนาดนั้น หลินไห่พยักหน้าตอบพ่อครัว เขากับจางอี้เทาเดินเลี่ยงไปนั่งตรงมุมพักผ่อนเช่นเดิม“ท่านลุงอู๋ พะโล้ได้ที่แล้วกระมังขอรับ รบกวนท่านลุงอู๋ชิมดูได้หรือไม่ขอรับ” จางอี้หมิงเอ่ยถามหัวหน้าพ่อครัว “ลุงก็ไม่รู้ว่าพะโล้สุกได้ที่แล้วหรือไม่ เพราะหมิงหมิงน้อยเพียงแต่บอกให้ตุ๋นรอเจ้ากลับมา ลุงจะยกลงก็เกรงว่าจะผิดสูตร จึงได้แต่รอเจ้ากลับมานี่แหละ” อู๋เจ๋อเรียกสติของตนเองและตอบกลับ“ท่านลุงลองชิมพะโล้ดูก่อนขอรับ ถ้าเนื้อหมูนุ่ม ซอส เอ่อ น้ำแกงเหลือขลุกขลิก รสชาติใช้ได้แล้วก็ยกลงได้เลย ลองให้ท่านปู่หลินช่วยชิมดูอีกคนก็ได้ขอรับ” อู๋เจ๋อเดินไปที่เตาหม้อตุ๋นหมูพะโล้ เขาก้มลงดูอาหารด้านใน เมื่อเห็นว่าน้ำแกงแห้งขอด มีเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยตามที่เด็กชายได้เอ่ยบอกไว้ เขาจึงหยิบจานใบเล็กมาตักหมูพะโล้วางลงไป แล้วจึงปิดฝาหม้อไว้เช่นเดิม

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 55

    หน้าเหลาอาหารซิ่งฝูในตอนนี้มีร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งเดินวนเวียนไปมาอย่างร้อนใจ ซีฮันชะเง้อคอมองหาสองพ่อลูกเจ้าของสูตรอาหาร และเมื่อเห็นว่าทั้งคู่เดินกลับมาแล้วจึงรีบปรี่เข้าไปหาโดยไม่รอให้จางอี้เทาและจางอี้หมิงเดินมาถึงหน้าเหลาอาหารเสียด้วยซ้ำ บุรุษบ้านจางต่างวัยขมวดคิ้วพร้อมกันด้วยความสงสัยเกิดเหตุอันใดขึ้นระหว่างที่พวกเขาสองคนพ่อลูกไปขายผ้าปักเช่นนั้นหรือ“พี่อี้เทา หมิงหมิงน้อย พวกเจ้ากลับมาแล้ว รีบขึ้นไปหาเถ้าแก่และท่านลุงอู๋โดยเร็วเถอะ” ซีฮันไม่ปล่อยให้สองพ่อลูกเอ่ยถามอันใด เขารีบบอกออกไปทันที“อาฮัน เกิดอันใดขึ้นเช่นนั้นหรือ” อี้เทาถามออกไปด้วยความข้องใจ“เถ้าแก่น่ะสิ ร้อนใจอยากให้พวกเจ้ารีบกลับมาตั้งนานแล้ว เจ้าไม่รู้อันใดเสียแล้วว่าพะโล้มันส่งกลิ่นรบกวนทุกคน ลูกค้าที่มากินอาหารที่เหลาโวยวายเสียงดังยกใหญ่” ซีฮันบอกด้วยเสียงเครียดขรึม“พะโล้ส่งกลิ่นรบกวนลูกค้าเช่นนั้นหรือ จะเป็นไปได้อย่างไรกัน” อี้หมิงพึมพำกับตนเองเบา ๆหรือว่ามีปัญหาในขั้นตอนการปรุง แต่เขาจำได้ว่าในการปรุงพะโล้ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการหมักไปจนถึงการตุ๋น ก่อนที่เขาจะออกจากร้านไป มันไม่มีขั้นตอนไหนผิดพลาดนี่นา“พวก

DMCA.com Protection Status