อันเซี่ยไม่รู้ นางจะรู้ได้ยังไง?เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ตัวนางถูกโบยจนสลบไปตั้งหลายครั้งก็ถูกราดด้วยร้ำเย็นให้ตื่นขึ้นมาถูกโบยไปตั้งยี่สิบไม้ ตอนนี้นางยังงงๆ อยู่เลยตอนสุดท้ายที่นางถูกส่งตัวกลับไปในห้อง ถูกโยนลงไปบนเตียง ไม่นานก็สลบไปเลยพอตื่นมาอีกที ก็เห็นคุณหนูเข้ามาและกำลังใส่ยาให้นางแล้วเมื่อวานเกิดเรื่องอะไรขึ้น ตั้งแต่ต้นจนจบ นางไม่รู้ชัดเจนเลย"หรือว่า คุณหนูเองก็ถูกโบยด้วย?" แต่ ไม่สิ วันต่อมาถึงคุณหนูจะดูเพลียๆ แต่อย่างน้อยก็ไม่มีแผลจากการถูกโบยนะ"มู่อันหนิง มีอะไรก็รีบพูดมา! มาหาข้าถึงนี่ ไม่ใช่เพื่อจะมาพูดจาบั่นทอนจิตใจข้าหรือไง?"อันเซี่ยเองก็ไม่ได้โง่ มู่อันหนิงเห็นคุณหนูของนางเป็นศัตรูมาตลอดที่นางมา ย่อมไม่ได้มาดีแน่นอน!แต่ตอนนี้อันเซี่ยร้อนใจจริงๆ ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคุณหนูบ้างคุณหนูไม่ใช่คนที่ชอบเปิดเผยความรู้สึกให้คนอื่นรู้ เรื่องที่นางไม่อยากพูด อันเซี่ยเองก็บอกให้นางพูดไม่ได้นางรู้สึกร้อนใจจริงๆ!มู่อันหนิงเองก็ไม่ได้ใจเย็นแบบที่อันเซี่ยคิดไม่นานนางก็พูดเข้าประเด็น "เจ้าถูกโบย เพราว่าคุณหนูของเจ้าไม่ยอมปรนนิบัติเสวียนอ๋อง เจ้าคงรู
มู่อันหนิงจ้องอันเซี่ยอันเซี่ยเขม็ง นางยืนขึ้นแล้วเดินไปหยุดตรงหน้าของอันเซี่ยหลุบตาลง จ้องไปยังกระโปรงตัวนั้นที่คลุมตัวของนางเอาไว้อยู่"เจ้าก็ไม่ดูสภาพของตัวเองเลยว่าสภาพของเจ้าเช่นนี้มีแต่เป็นภาระให้กับกู้อวิ๋นซี""มู่อันหนิง ยัยผู้หญิงชั่วร้าย เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว ข้าไม่หลงกลเจ้าหรอก!"ตอนนี้คุณหนูอยู่ในจวนหลีอ๋องคนเดียว โดดเดี่ยว ไม่มีคนคอยช่วยเหลืออย่างน้อยถ้านางยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังอยู่เป็นเพื่อนคุณหนูได้แต่ถ้าหากแม้แต่นางก็ตายไปด้วย คุณหนูคนเดียวคงจะโดดเดี่ยวไร้ทางสู้ คุณหนูจะเสียใจมากจนไม่อยากจะมีชีวิคอยู่ต่อไปเลยหรือเปล่า?มู่อันหนิงไม่โกรธแต่กลับหัวเราะออกมาแทน "ยังคิดว่าเจ้าจะภักดีกับคุณหนูของเจ้าสักแค่ไหนกันเชียว คิดไม่ถึงเลยว่าเป็นเพียงความภักดีแค่เปลือกนอกเท่านั้น!""เจ้าก็เป็นเพียงแค่คนที่รักตัวกลัวตาย กับกู้อวิ๋นซีก็แค่แสร้งทำเป็นภักดีไปอย่างนั้น!"อันเซี่ยจ้องนาง แต่ก็ไม่ได้โกรธ เพียงแค่สะบัดเสียงออกไปอย่างเย็นชา"ไม่ต้องใช้วิธีพูดกระตุ้นเพื่อหลอกให้ข้าไปตายหรอก ข้าไม่ยอมตายแน่!" นางจะอยู่เป็นเพื่อนคุณหนู อยู่กับคุณหนูตลอดไป!"เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า เจ้าก็ใช้ร
เยี่ยนอีแววตาหม่นแสงไม่ไม่นานเขาก็ปรับอารมณ์ให้กลับมาสงบได้ดังเดิม สีหน้าเรียบเฉย "ข้าซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อท่านอ๋อง ไม่กลัวว่าเจ้าจะใส่ความยังไง"มู่อันหนิงยังคงยิ้มเยอะอย่างนั้น "เช่นนั้น จะไปหาเย่เสวียนพร้อมกันเลยไหม พูดกันต่อหน้าให้รู้เรื่องไปเลย?"เยี่ยนอีไม่เกรงกลัวการข่มขู่เลยสักนิด "ใจข้าบริสุทธิ์ ไม่ว่าจะพูดที่ไหนก็เหมือนกัน!"คิดไม่ถึงว่ามู่อันหนิงยังไม่ทันจะคิดคำพูดต่อไปออก เยียนเป่ยก็เข้ามาซะแล้วเขามองมาที่มู่อันหนิง สีหน้าเคร่งขรึม "ท่านอ๋องมีรับสั่งเรียกให้เจ้าไปหา"มู่อันหนิงถลึงตาใส่เขา ในจวนอ๋องแห่งนี้ นางเกลียดขี้หน้าเยียนเป่ยเป็นที่สุดเพราะว่าเยียนเป่ยคนนี้ ไม่เคยพูดดีๆ กับนางเลย แถมท่าทางที่ปฏิบัติต่อนางก็แย่มาก!ไม่ใช่ว่านางไม่รู้ ถึงแม้เยียนเป่ยจะแค้นกู้อวิ๋นซี แต่เขาก็ปฏิบัติกับกู้อวิ๋นซีสองนายบ่าวอย่างดีมากมาโดยตลอด!มู่อันหนิงทำหน้าเคร่งขรึม ก่อนพูดอย่างเย็นชาว่า "ได้ พอดีเลยข้าก็มีบางเรื่อง ที่อยากจะบอกเย่เสวียนอยู่เหมือนกัน"นางหันหน้าไปมองเยี่ยนอีอีกครั้ง แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า "รบกวนใต้เท้าเยี่ยนอีไปกับข้าหน่อยเถอะ แน่นอนว่าท่านจะไม่ไปก็ได้ ข
เยี่ยนอียังคงมีสีหน้าเรียบเฉย และก็ไม่เห็นจะมีสีหน้าที่ละอายใจแต่อย่างใดแต่มู่อันหนิงจะยอมความง่ายๆ ได้อย่างไรรอให้เอาเรื่องจริงมาพูดตรงหน้าก่อนเถอะ ดูสิว่าเขาจะแก้ตัวยังไง!ไม่มีใครพูดอะไร ขนาดจวินเย่เสวียนก็ยังคงนั่งอ่านหนังสืออย่างสงบราวกับว่าทุกคนไม่สนใจในสิ่งที่นางพูดเลยมู่อันหนิงเองก็เป็นคนที่มีหน้ามีตาคนหนึ่ง ถูกเมินแบบนี้ ย่อมต้องรู้สึกน้อยใจเป็นธรรมดานางมองไปที่จวินเย่เสวียน พูดว่า "คืนนั้นข้าเห็นกับตาว่าเยี่ยนอีอุ้มกู้อวิ๋นซีเข้าห้องไป"เยี่ยนอีไม่ได้พูดอะไร จวินเย่เสวียนเองก็แค่มองนางทีหนึ่งอย่างเฉยชา จากนั้นก็ก้มหน้าอ่านจดหมายต่อมีเพียงเยียนเป่ยที่สีหน้าเคร่งขรึมแล้วพูดออกมาอย่างไม่พอใจ "เยี่ยนอีจงรักภักดีกับท่านอ๋องเป็นที่สุด กับพระชายา...กับแม่นางซีก็ให้ความเคารพ เจ้าอย่ามาพูดใส่ร้ายหน่อยเลย""ข้าไม่ได้โกหกนะ ข้าเห็นเองกับตาจริงๆ กู้อวิ๋นซีในสภาพเสื้อผ้าไม่เรียบร้อย ถูกเยี่ยนอีอุ้มกลับมา"มู่อันหนิงหันหน้ากลับไปมองเยี่ยนอี สะบัดเสียงไม่พอใจว่า "เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าไม่เคยทำเรื่องนั้น? คืนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับเสื้อผ้าบนร่างกายของกู้อวิ๋นซี? ด้านในเสื้อคลุมไม่
"เย่เสวียน..." จวินเย่เสวียนไม่พูดอะไรเลย จนมู่อันหนิงอดพูดขึ้นไม่ได้ "เขากับกู้อวิ๋นซีมีอะไรเกินเลยกันแล้ว ท่านจะไม่...""กระหม่อมกับแม่นางซีบริสุทธิ์ ไม่เคยกระทำการใดที่ไม่เหมาะสม แม่นางมู่สามารถดูถูกกระหม่อมได้ แต่อย่าได้ใส่ร้ายทำให้แม่นางซีต้องเสื่อมเสีย!" เยี่ยนอีพูดอย่างเย็นชามู่อันหนิงเห็นว่าเขายอมรับผิดง่ายขนาดนั้น คิดว่าเขาคงจะไม่พูดโต้แย้งใดๆ ซะอีก!อีกอย่าง กู้อวิ๋นซีคนนั้น นอนกับใครมาตั้งไม่รู้กี่คนแล้ว ยังจะมีอะไรที่ให้เสื่อมเสียอีกกัน?ก็มีแต่ผู้ชายพวกนี้ที่ยังเห็นนางเป็นสมบัติล้ำค่าอยู่!"เย่เสวียน...""เจ้ามาพูดเรื่องพวกนี้กับข้า คิดจะทำอะไรกันแน่? หรือเจ้าไม่พอใจเยี่ยนอี เลยคิดอยากจะยืมมือข้ากำจัดเขาทิ้ง?"จวินเย่เสวียนสะบัดเสียงอย่างเย็นชา สีหน้าเย็นเยียบ ทำให้คนมองไม่ออกว่าเขากำลังอยู่ในอารมณ์ไหน"หรือว่า เจ้าไม่พอใจทั้งเยี่ยนอีและกู้อวิ๋นซี คิดอยากจะยิงปีนนัดเดียวได้นกสองตัว ให้ข้าช่วยเจ้ากำจัดพวกเขาไปทั้งคู่?"คำพูดของจวินเย่เสวียน ทำให้มู่อันหนิงตกใจจนหน้าเผือดสีนางรีบพูดอย่างร้อนใจ "เย่เสวียน ท่านพูดอะไรของท่าน? ข้าจำทำอย่างนั้นได้ยังไง...""เจ้าคิดจ
เยี่ยนอีก็แค่คิดอยากจะปกป้องดูแลกู้อวิ๋นซีด้วยความจริงใจความคิดนี้ ไม่ได้เคลือบแฝงความรู้สึกอื่นใด เขาก็แค่อยากปกป้องนางเยียนเป่ยทำงานร่วมกับเขามาสิบกว่าปี ความคิดของเยี่ยนอี เขามองออกเยียนเป่ยอดที่จะพูดอย่างโมโหไม่ได้ "เจ้าคิดอะไรอยู่กันแน่? เจ้าไม่รู้หรือไงว่านางทำร้ายท่านอ๋องไว้หนักหนาขนาดไหน? แต่เจ้ากลับไปสงสารผู้หญิงคนนั้น! ในใจของเจ้ามีท่านอ๋องอยู่ไหมเนี่ย?"ในใจของเยี่ยนอีเองก็รู้สึกเครียดมากเขาควรที่จะเกลียดกู้อวิ๋นซี แต่ทุกครั้งที่ได้เห็นท่าทางอ่อนแอของนาง เขาก็ทำใจเกลียดไม่ลงจริงๆ!เขาทำอย่างอื่นไม่ได้!เขาทำได้แค่เกลียดตัวเองเท่านั้น!เยี่ยนอีหมุนตัวไป หันหลังให้กับเยียนเป่ย สายตายังคงมองไปที่มุมๆ หนึ่ง "เจ้าเคยเห็นสภาพตอนนางร้องไห้หรือเปล่า?"เยียนเป่ยไม่อยากจะตอบคำถามนี้ ก็แค่ร้องไห้เอง ผู้หญิงคนไหนบ้างที่ไม่ร้องไห้?มีอะไรน่าแปลกกัน?"นางนั่งอยู่ในมุมเล็กๆ มุมหนึ่งคนเดียว บนถนนที่ว่างเปล่าไร้ผู้คน เพราะว่าไม่มีคน นางถึงกล้าที่จะกอดตัวเองแล้วร้องไห้ออกมาเบาๆ"ผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว ภาพนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขา สลัดยังไงก็ไม่ออกเขาหลงรักผู้หญิงอ่อนแอ
มู่อันหนิงยังอยากจะพูดอะไร แต่จวินเย่เสวียนก็ไม่ตอบสนองใดๆ สุดท้ายเขาก็พูดออกมาอย่างเย็นชาว่า "ไสหัวไป"มู่อันหนิงรีบออกไปอย่างเร็วถึงแม้จะถูกไล่ออกไป แต่จิตใจของมู่อันหนิงกลับรู้สึกอารมณ์ดีมากนางได้จัดการกู้อวิ๋นซีไปอย่างหนักหนา จนเกือบทำให้กู้อวิ๋นซีตายไปแล้ว แต่จวินเย่เสวียนก็ไม่ได้ลงโทษนางนี่เป็นสัญญาณที่ดีมากๆในใจของเขาตอนนี้ กู้อวิ๋นซีได้กลายเป็นผู้หญิงชั่วร้ายไปแล้วต่อไปจวินเย่เสวียนก็จะมีแค่ความเกลียดให้กลับกู้อวิ๋นซีเท่านั้น จะไม่มีความรักและทะนุถนอมนางอีก…คืนนั้น กู้อวิ๋นซีเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ ยังไม่ทันจะได้ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย ประตูห้องก็ถูกคนๆ หนึ่งเตะให้เปิดออกจากนั้น นางก็ถูกคนอุ้มขึ้นมาจากอ่างน้ำแล้วโยนลงไปบนเตียงจากนั้นก็ถูกทรมานอย่างหนักหน่วงนางเจ็บปวดจนอดที่จะน้ำตาไหลออกมาไม่ได้แต่ดูเหมือนผู้ชายที่อยู่ด้านหลังจะยังไม่คลายความโมโห!"เจ้าใช้วิชามารอะไร กล้าหว่านเสน่ห์ใส่แม้แต่คนของข้า? พูดมาสิ! เจ้าไปหว่านเสน่ห์ใส่พวกเขายังไง?""ข้าไม่รู้...ท่านอ๋องกำลัง...อ๊า! พูดอะไร"นางกัดริมฝีปากไว้ เกือบจะพูดอะไรไม่ออกแล้วเพราะว่าแค่อ้าปาก ตัวเองก็จะได้ยิ
กู้อวิ๋นซีหยุดร้องแล้วที่หางตายังมีหยดน้ำตาคลออยู่ ยังไม่ทันจะหยดลงมาร่างกายที่อ่อนแอของนาง ถูกเขาดึงขึ้นมาด้วยมือข้างเดียวราวกับเป็นตุ๊กตาตัวหนึ่งด้วยท่าทางที่ไร้เกียรติ ไร้ความเป็นมนุษย์ที่สุด ลอยอยู่ระหว่างแขนของเขากับเตียงนอนนางร่างกายไร้เรี่ยวแรง มีเพียงแขนที่เกี่ยวกับฝ่ามือใหญ่ของจวินเย่เสวียนเอาไว้ ร่างกายอ่อนปวกเปียก ลอยเขว้งอยู่กลางอากาศดูแบบนี้แล้ว ราวกับ...คนตายไปแล้วอย่างนั้นจวินเย่เสวียนรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก นี่มันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดยิ่งกว่าตอนที่นางร้องไห้ซะอีกในที่สุดเขาก็คลายมือ ปล่อยนางกู้อวิ๋นซีก็ราวกับใบไม้ที่ร่วงหล่นตามสายลม ร่วงลงบนผ้าปูเตียงล้มลงอย่างแรง จนกระแทกโดนหัวนี่เป็นสิ่งที่จวินเย่เสวียนไม่คาดคิดมาก่อนเมื่อได้ยินเสียง ตึง ในใจเขาก็รู้สึกกังวล อยากจะเข้าไปดูว่านางเป็นอะไรมากหรือเปล่าโดยสัญชาตญาณแต่ในตอนที่กำลังจะยื่นมือออกไป ความแค้นในใจก็ทำให้เขาต้องชักมือกลับมา!เขาบอกแล้วว่านางก็เป็นเพียงของเล่น!นางจะเป็นหรือตายมันเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย?ความสงสารในแววตา หายวับไปอย่างรวดเร็ว เหลืออยู่เพียงแค่ความเกลียดชัง"คำถามที่ข