"เหตุใดนางถึงมาอยู่ที่นี่ได้?" ประโยคนี้กู้อวิ๋นซีหันไปพูดกับเยี่ยนอีเยี่ยนอีตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย "นางบอกว่านางมีวิธีรักษาท่านอ๋องให้หายดีได้""วิธีการอะไร?" กู้อวิ๋นซีมองไปที่ผู้หญิงชุดขาวที่นั่งอยู่ข้างเตียง มู่อันหนิง"เจ้ามาถามคำถามนี้กับข้าด้วยฐานะอะไร?" มู่อันหนิงมองกลับไปด้วยสายตาเย็นชาจากนั้น นางก็มองไปที่เยี่ยนอี "ในเมื่อขนาดนางก็ยังไม่มีวิธี เช่นนั้นไม่สู้ลองใช้วิธีของข้าดู แต่ว่า ตอนที่ข้ารักษาให้เย่เสวียน ข้าไม่อยากเห็นหน้าของผู้หญิงคนนี้"เยี่ยนอีลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็เดินมาหยุดตรงหน้าของกู้อวิ๋นซี "พระชายาหลีอ๋อง เชิญ...""นางบอกว่า คืนนี้ก็สามารถทำให้องค์ชายสี่ฟื้นขึ้นมาได้อย่างนั้นเหรอ?" กู้อวิ๋นซีถามอีกครั้งถึงแม้เยี่ยนอีจะไม่ได้อยากสนใจนางมาก แต่สุดท้ายก็พยักหน้าออกไป "ใช่แล้ว"ดังนั้น ตอนนี้พวกเขาไม่ต้องการกู้อวิ๋นซีแล้วเป็นเพราะว่าเมื่อคืนที่นางจับชีพจรให้ท่านอ๋อง แต่กลับไม่มีอะไรดีขึ้น อีกอย่างนางก็พูดเองว่าตอนนี้ยังหาทางรักษาไม่ได้"เยี่ยนอี เจ้ารู้ทั้งรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จิตใจโหดเหี้ยมแค่ไหน...""ไม่ว่าใคร ขอเพียงช่วยให้ท่านอ่องฟื้นขึ้นมาได้ นาง
ถึงแม้เยียนเป่ยจะไม่ได้พูดอะไร แต่เขาก็ก้าวเข้าไปหากู้อวิ๋นซีอย่างรุกราน!ท่าทางที่น่ากลัว กดดันจนกู้อวิ๋นซีไม่อาจไม่ถอยหลังไปสองก้าวได้วันนี้หากไม่ได้คุณชายมู่ช่วยรักษาให้นางก่อน ด้วยร่างกายที่เดิมทีก็อ่อนแอเป็นทุนเดิมของนาง ตอนนี้คงจะถูกพลังปราณของเยียนเป่ยกดดันจนเป็นลมหมดสติไปแล้ว"สามวัน!"ก่อนที่จะถูกโยนออกไปนอกประตู กู้อวิ๋นซีมองไปที่เยี่ยนอี แล้วพูดขอร้องออกมาอย่างจริงใจ "สามวัน ข้าจะต้องทำให้เขาฟื้นขึ้นมาได้แน่ หากว่าหลังจากสามวันผ่านไปองค์ชายสี่ไม่ฟื้นขึ้นมา จะจัดการข้าอย่างไรก็แล้วแต่พวกเจ้าเลย""เจ้ารู้อยู่แก่ใจว่าพวกเขาไม่มีทางจัดการเจ้าหรอก!" มู่อันหนิงพูดเหน็บแนม ดูแคลนทุกคำพูดของนาง"เช่นนั้นข้าก็จะปลิดชีพตัวเองซะ ไถ่โทษด้วยการตาย พอใจหรือยัง?"กู้อวิ๋นซีไม่มองนาง มองเพียงเยี่ยนอี "ข้าจะใช้วิธีของข้า หากสามารถทำให้องค์ชายสี่ฟื้นขึ้นมาได้ หรือว่ามันไม่เป็นการดีกว่าการเลี้ยงหนอนกู่ในร่างกายเขาอย่างนั้นเหรอ?""เจ้ากล้าเสี่ยงตัดสินใจแทนเขา ปล่อยให้เขามีหนอนกู่อยู่ในร่างกาย สามารถถูกมู่อันหนิงควบคุมได้ตลอดเวลาอย่างนั้นเหรอ?"นางเดินขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว จ้องไปที่เ
กู้อวิ๋นซีรู้ว่าคุณชายมู่ก็คือกบฎคนนั้นที่จวินเย่เสวียนพูดถึง แต่นางไม่คิดเลยว่าเป้าหมายของคุณชายมู่จะเป็นจวินเย่เสวียน"เขาแซ่มู่? เขาบอกท่านอย่างนั้นเหรอ?" เยี่ยนอีหรี่ตาลงมองกู้อวิ๋นซีด้วยสายตาที่ทั้งหวาดระแวงและเกลียดชัง"ดังนั้น ท่านมีความสัมพันธ์กับเขายังไงกันแน่?""ข้าไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร รู้เพียงแค่เขาแซ่มู่ ข้าก็เรียกเขาว่าคุณชายมู่มาตลอด""รวมครั้งก่อนที่ไหว้วานให้เขาช่วยผลิตอุปกรณ์เครื่องมือให้ จนถึงตอนนี้ ข้าก็เคยเจอกับเขาเพียงแค่สองครั้งเท่านั้น""คนของเจิ้งอ๋องตามหาเขาไปทั่ว แต่ก้ไม่ได้เบาะแสอะไรของเขาเลย ก่อนหน้านี้ข้าก็เคยส่งคนไปตามหา แต่ก็หาไม่เจอ แต่ท่านกลับสามารถพบเจอกับเขาได้อย่างง่ายดาย?"ถ้าบอกว่าไม่มีความสัมพันธ์พิเศษต่อกันใครจะเชื่อ?"ตอนที่ข้าไป เรือนหลังนั้นก็ถูกทิ้งร้างไปแล้ว แต่พอดีว่าเจอกับเขาตอนแวะมาเอาของพอดี ก็เลยได้เจอ""พระชายาหลีอ๋องเป็นคนฉลาด รู้ว่าก่อนหน้านี้ท่านอ๋องกำลังยุ่งอยู่กับเรื่องอะไร และก็เห็นสภาพเรือนหลังนั้นในตอนนี้ ท่านคิดไม่ได้เลยหรือว่าเขาเป็นหนึ่งในกบฎ?"คำพูดนี้ กู้อวิ๋นซีไม่ได้ตอบอะไรนางเดาออกแล้วจริงๆ"ดังนั้น ท่านก็รู้อ
"ท่านคิดว่าข้าไม่กล้าหรือ?" เยี่ยนอีพูดอย่างโมโหคิดไม่ถึงว่าครั้งนี้ กู้อวิ๋นซีจะไม่กลัวพลังไอเย็นกดดันจากเขา นางถึงขึ้นเดินขึ้นไปข้างหน้า ใช้ร่างกายที่อ่อนแอจากอาการป่วยไปเผชิญหน้ากับพลังปราณของเขาโดยตรง"ถ้าเจ้ากล้าก็ลองลงมือดูเลยสิ!""ท่าน!" เยี่ยนอีจะกล้าลงมือจริงได้อย่างไร? นางเป็นพระชายาหลีอ๋อง! เป็นเจ้านาย!ต่อให้เขาจะแค้นนางมากแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจลงมือทำร้ายนางได้จริงๆ หรอก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องฆ่านางเลย!หลานโจวพูดออกมาเบาๆ ว่า "ไม่ว่าคุณชายมู่คนนั้นมีจุดประสงค์อะไร แต่เครื่องมือที่เขาผลิตข้าเองก็เคยใช้มาก่อน จัดว่าเป็นของที่ดีที่สุดจริงๆ"เมื่อเยียนเป่ยได้ยินดังนั้น ก็รีบเข้ามาดึงตัวเยี่ยนอีทันที"ในเมื่อขนาดหลานโจวยังพูดแล้วว่าเป็นของดี เช่นนั้นไม่ว่าเขาจะมีจุดประสงค์อะไร พวกเราก็แค่ตรวจสอบว่าเครื่องมือมีพิษหรือไม่ก็พอแล้วนะ"เครื่องมือไม่มีชีวิต คนต่างหากที่สำคัญนับว่าตอนนี้เยียนเป่ยยังเชื่อในตัวของกู้อวิ๋นซีอยู่ อย่างน้อย นางก็คงไม่ถึงขั้นอยากทำร้ายท่านอ๋องหรอกอีกอย่าง สิ่งที่นางพูดเมื่อครู่ ความจริงก็ทำให้เยียนเป่ยสะอึกไปเหมือนกันอย่างน้อย ตอนที่พระชายาหลีอ
เข็มฉีดยาของกู้อวิ๋นซี ฉีดเข้าไปโดนจุดตายของจวินเย่เสวียนตั้งแต่แรกจากนั้น ก็ฉีดยาที่นางเป็นคนปรุงขึ้นมาเองเข้าไปสู่ในร่างกายของเขาคืนนั้น ในครึ่งคืนแรกสีหน้าของจวินเย่เสวียนยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก แต่ในครึ่งคืนหลัง สีหน้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงจนกระทั่งอมม่วง!ดูแล้วราวกับคนถูกวางยาต่อจากนั้น หนังตาของเขาก็กระตุกอย่างแรง ดูแล้วเหมือนมีแววว่ามีปาฏิหาริย์ที่จะฟื้นขึ้นมาเลยหลานโจวตื่นเต้นสุดๆ รีบเข้าไปจับชีพจรให้กับจวินเย่เสวียนทันที"เหตุใด...ชีพจรถึงได้สับสนเช่นนี้?" เขามองไปที่กู้อวิ๋นซีแต่กู้อวิ๋นซีกลับพูดว่า "หลานโจว ข้ามีเรื่องที่จะต้องพูดกับเขา เจ้าจะออกไปก่อนได้ไหม?"หลานโจวไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่มองไปที่จวินเย่เสวียนแล้วก็ได้แต่ทำท่าลังเล"หรือว่า เจ้าคิดว่าข้าจะทำร้ายเขา?" กู้อวิ๋นซียิ้มเย็น "คนที่ทำร้ายเขาจริงๆ แล้วเป็นใคร เจ้ารู้ดีอยู่แก่ใจ"หลานโจวยังคงไม่พูดอะไรตามเดิม เพียงแค่ครั้งนี้ เขายอมที่จะหมุนตัวเดินออกไปด้านนอกเยียนเป่ยกับเยี่ยนอีจ้องหน้าเขา สีหน้าประหลาดน้อยๆหลานโจวก็ยังคงไม่พูดอะไร เพียงแค่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูไม่ยอมจากไปไหนเช่นเดีย
หากว่าความอบอุ่นไม่สามารถเรียกเขาให้ฟื้นได้ เช่นนั้นก็ลองใช้ความแค้นดูแล้วกัน!กู้อวิ๋นซีเพียงแค่คิดไม่ถึงว่า ตัวเองเพิ่งจะพูดจบ ชั่วพริบตานั้น อุณหภูมิในห้องจะลดลงหลายองศาในทันทีนิ้วมือของเขากำลังค่อยๆ กำแน่นกู้อวิ๋นซีรู้สึกกังวลในใจ กำลังจะเอื้อมไปกุมมือเขาไว้ "เย่เสวียน..."แต่นางคิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันที่มือของนางจะได้โดนมือของเขา จู่ๆ มือของจวินเย่เสวียนก็ยกขึ้นมาฉับพลันวินาทีต่อมา กู้อวิ๋นซีก็รู้สึกเจ็บปวดบริเวณลำคอ!นางถูกบีบคอ ภาพทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าเปลี่ยนไปทันที!นางถูกกดไว้บนเตียงเมื่อเงยหน้าขึ้นมา ก็สบตาเข้ากับดวงตาเย็นเยียบอย่างจังเขาจ้องหน้านาง ในแววตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร"กู้อวิ๋นซี...เจ้ากล้า!""เย่...อื้ออ"จู่ๆ ชายหนุ่มก็บีบนิ้วมือแน่น กู้อวิ๋นซีรู้สึกหายใจลำบาก กำลังจะขาดอากาศหายใจหายใจไม่ออกแล้ว"ในที่สุดเจ้าก็ยอมรับแล้วว่าเจ้าลงมือฆ่าลูกของข้าด้วยตัวเอง!"เขาบีบนิ้วมือแน่นขึ้นเรื่อยๆกู้อวิ๋นซีกำลังดีใจที่เขาตื่นขึ้นมาได้ แต่ไม่นานก็พบว่า ตัวเองไม่มีทางรอดแล้วที่แท้ มู่อันหนิงมีประโยคหนึ่งที่พูดได้ไม่ผิด ถ้าเขาตื่นขึ้นมาจะต้องฆ่านางด้วยมือ
คนเราจะเข้าสู่สภาวะสิ้นหวังเมื่อไรเหรอ?เมื่อก่อนกู้อวิ๋นซีไม่รู้ แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่านาง จะรับรู้ถึงรสชาติของความสิ้นหวังแล้วผู้ชายคนนั้น ไม่เชื่อนางอีกแล้วคืนนั้น หลังจากพ้นเที่ยงคืนไป กู้อวิ๋นซีกับอันเซี่ยก็ออกไปทางประตูหลังไม่ได้เอาของอะไรไปมาก เอาไปเพียงเงินนิดหน่อย แล้วก็ป้ายคำสั่งที่เมื่อก่อนจวินฉู่หลีเคยให้นางเอาไว้ถ้ามีป้ายคำสั่งนี้ ไม่ว่าเมื่อไร ทหารคุ้มกันเมืองก็จะเปิดประตูให้นางเสมอ"คุณหนู เหตุใดพวกเราจึงไม่กลับจวนแม่ทัพล่ะเจ้าคะ?" อันเซี่ยไม่เข้าใจไม่กลับจวนแม่ทัพ ข้างนอกกว้างใหญ่ปานนี้ อันเซี่ยไม่รู้จริงๆ ว่าที่ไหนจะเป็นที่พักพิงให้กับพวกนางได้"ก่อนหน้านี้เสวียนอ๋องก็มีอคติกับจวนแม่ทัพอยู่แล้ว หากว่าตอนนี้ข้ากลับไปที่จวนแม่ทัพ เกรงว่าจะทำให้พวกเขาต้องเดือดร้อนไปด้วย"เรื่องคนร้ายในคืนนั้น ต่อให้ตอนหลังจะไม่มีการพูดถึง แต่ในใจของกู้อวิ๋นซีรู้ดีว่าจวินเย่เสวียนสงสัยในตัวกู้หนานฟงเรื่องนี้ ยังเป็นปัญหาที่คาใจอยู่ตอนนั้นยังพอเห็นแก่นางบ้าง ไม่ลงมือกับคนในจวนแม่ทัพชั่วคราวแต่ตอนนี้ จวินเย่เสวียนเกลียดนางเข้ากระดูก หากว่านางกลับไปที่จวนแม่ทัพ พี่ใหญ่ก็จะต
กู้อวิ๋นซียังไม่ทันวิ่งไปได้ไกลเท่าไร จู่ๆ ม้าก็ร้องออกมาแล้วก็หยุดวิ่งเองดื้อๆมันรับรู้ได้ถึงอันตราย!กู้อวิ๋นซีรีบดึงเชือกม้าไปอีกด้านหนึ่งทันทีโดยไม่คิด อยากจะรีบออกไปให้เร็วที่สุดคิดไม่ถึงว่า เพิ่งจะกลับตัวก็มองเห็นว่าไม่ไกลมีทหารสิบกว่านายกำลังขี่ม้าพุ่งเข้ามาอย่างเร็วเมื่อหันหน้ากลับไปมองอีกครั้ง ยังทิศทางเมื่อครู่ ก็มีอีกสิบกว่าคน กำลังขวางทางเอาไว้อยู่หนีไม่รอดแล้วกู้อวิ๋นซีมองแผ่นหลังของทั้งสิบกว่าคนนั้นอย่างที่คิด ทหารสิบกว่านายค่อยๆ ขี่ม้าแหวกทางออก ด้านหลังมีคนผู้หนึ่งกำลังขี่ม้าเดินเข้ามาช้าๆเจิ้งอ๋อง!คนที่เดินตามข้างหลังเจิ้งอ๋องมา เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่กู้อวิ๋นซีเคยได้พบแล้ว เป็นผู้หญิงข้างกายของเจิ้งอ๋อง จูจี้เรื่องนี้ช่างเกินคาดของกู้อวิ๋นซีเหลือเกิน"พระชายาหลีอ๋อง ไม่เจอกันนาน ยังจำข้าได้หรือไม่?" เจิ้งอ๋องหยุดท้าตรงหน้าที่ห่างจากกู้อวิ๋นซีไม่ไกลกู้อวิ๋นซีพยายามเก็บอารมณ์ ทำใจตัวเองให้สงบขึ้นนางกระโดดลงจากหลังม้า เดินขึ้นหน้าไปสองก้าว ค้อมตัวทำความเคารพไปทางจวินฉีเจิ้ง "ยินดีที่ได้พบองค์ชายใหญ่""ดึกดื่นป่านนี้ เหตุใดพระชายาหลีอ๋องถึงจะออกไปนอ