กู้อวิ๋นซียื่นปากเล็กๆ ของเธออย่างผิดหวังสุดขีดเธอทำได้เพียงกลับไปนั่งบนพื้นก่อนจะทุบขาให้เขาต่ออย่างเดิมชีวิตนี้ช่างน่าอดสูนักหนานกงหลันเออร์โมโหมากจนแทบจะระเบิดได้นังผู้หญิงแพศยาหน้าไม่อาย นางจงใจชัดๆ!นางแต่งงานกับหลีอ๋องไปแล้ว ถึงทุกคนจะรู้ดีว่าหลีอ๋องร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็กก็เถอะ แต่ไม่ว่าจะไม่ดียังไงเขาก็เป็นสามีของนางนะ!นี่นางบังอาจให้ท่าเสวียนอ๋องทั้งๆ ที่ตัวเองก็มีสามีอยู่แล้วเนี่ยนะไร้ยางอายจริงๆหนานกงหลันเออร์สูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามปรับสีหน้าของตัวเองอย่างเต็มที่ก่อนจะยื่นเหล้าไปให้จวินเย่เสวียนด้วยสีหน้าสดใสอีกครั้ง "ท่านพี่เย่เสวียน ข้าคารวะท่าน"แต่ไม่ว่ายังไง ผู้หญิงที่มีสามีแล้วอย่างกู้อวิ๋นซีก็ออกหน้าออกตาไม่ได้หรอก ได้แค่นั่งอยู่บนพื้น เป็นเสมือนสาวใช้ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นส่วนตัวเธอนั้นฐานะสูงส่ง มีเกียรติ งามสง่า ทำไมจะต้องลดตัวไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงเช่นนี้ด้วยจวินเย่เสวียนยกจอกเหล้าขึ้นมาเตรียมจะดื่มลงไปจู่ๆ เสียงประหลาดก็ดังขึ้นก่อนที่เข้าจะได้ดื่มเหล้าโครกกก...นัยตาเขามืดครึ้ม วางจอกเหล้าลง ก่อนจะก้มหน้าลงไปถามเด็กสาวที่นั่งอยู่บนพื
กู้อวิ๋นซีถูกจับโยนขึ้นไปบนรถม้าปึก หัวเธอถูกกระแทกไปหนึ่งที เจ็บจนน้ำตาเธอจะไหลออกมาอยู่แล้ว"เจ็บจัง..." เธอเอามือกุมไปยังตำแหน่งที่เจ็บ ก่อนจะหันไปแจกค้อนวงใหญ่ให้กับผู้ชายที่นั่งอยู่ตำแหน่งกลางดวงตาทั้งคู่หวานเยิ้ม แต่พร่ามัวเนื่องจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เธอมองไปที่จวินเย่เสวียนด้วยความรู้สึกที่ทั้งน้อยใจและโมโห "คนเลว...""พึมพัมอะไรของเจ้า" จวินเย่เสวียนค้อมตัวลงไป ก่อนจะคว้าตัวเธอมานั่งใกล้ๆเขาหรี่ตาลง "ด่าข้าเหรอ"ใจกล้าไม่เบานะ ถึงขนาดกล้าด่าเขาว่าคนเลวกู้อวิ๋นซีไม่สนใจเขา ยังคงเอามือกุมไปที่หัว ก่อนจะนวดเบาๆจวินเย่เสวียนจ้องมองไปในดวงตารื้นของเธอ ดูเหมือนจะมีน้ำตาคลอรื้นเตรียมจะหยดลงมาอยู่ด้วยเจ็บขนาดนั้นเชียว?ใจเขาอ่อนยวบลงอย่างประหลาดจวินเย่เสวียนคว้าเธอเข้ามา ก่อนจะเอาฝ่ามือใหญ่ของเขาวางไปบนหน้าผากของเธอทันใดนั้นกู้อวิ๋นซีก็รู้สึกถึงไอพลังอุ่นๆ ผ่านฝ่ามือของเขา เข้าสู่จุดที่หัวของเธอถูกกระแทกที่น่าแปลกก็คือ ดูเหมือนแผลที่หัวของเธอจะรู้สึกเจ็บน้อยลงแล้วฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ถูกความเจ็บปวดกดไว้เมื่อครู่ ค่อยๆ แสดงอาการอีกครั้งหลังจากอาการเจ็บปวดที่หัวของเธอน้อ
เงาร่างในชุดสีขาวนั้น หลังจากที่ออกจากหอชมจันทร์แล้วก็เดินเข้าไปทางเล็กๆ ในสวนดอกไม้แทนกู้อวิ๋นซียังมองหน้าเขาได้ไม่ชัด แต่ชุดสีขาว เป็นชุดที่ฉู่หลีชอบใส่เป็นประจำอีกอย่าง ความสงบนิ่งที่แผ่ออกมาจากตัวเขาทำให้คนที่อยู่รอบข้างรู้สึกสงบเย็นลงได้โดดเด่นขนาดนี้ต้องเป็นฉู่หลีแน่นอน!ฉู่หลีไม่ได้ออกไปนอกจวนอ๋อง แต่ทำไมองค์ชายสี่ถึงบอกว่าเขาออกไปทำธุระข้างนอกล่ะ"ฉู่หลี!" กู้อวิ๋นซีรีบตามไปแต่ระยะห่างต่างกันมากเหลือเกิน หลังจากที่เข้าเลี้ยวผ่านซุ้มประตูโค้งไป ก็หายไปจากสายตาของเธอแล้วกู้อวิ๋นซีรีบไล่ตามไป แต่เพิ่งจะผ่านซุ้มโค้ง ก็เห็นชุดสีขาวเดินเข้าไปในประตูซุ้มโค้งอีกอัน"ฉู่หลี!"แต่เขาไม่ได้ยินเธอเลยกู้อวิ๋นซีรีบตามไปต่อ หลังจากผ่านมาสองซุ้งโค้ง ก็เดินผ่านภูเขาและแม่น้ำจำลองท้ายสุดของสวน เป็นตำหนักหลังหนึ่งที่เธอไม่เคยไปมาก่อนจวินฉู่หลีเดินเข้าไปในนั้น จากนั้นก็หายไปเลยมองจากไกลๆ เธอเห็นป้ายชื่อตำหนักแว๊บๆ หออวิ๋นหลี!ยังไม่ทันที่กู้อวิ๋นซีจะได้เข้าใกล้ ก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่แผ่กระจายออกมาจากตำหนักหลังนั้นตำหนักนี้ ถูกคุ้มกันไว้แน่นหนาถึงเพียงนี้เชียวหรื
กู้อวิ๋นซีคาดไม่ถึงเลยเธอคิดว่าระบบรักษาความปลอดภัยของจวนเสวียนอ๋องแน่นหนาแล้วระบบรักษาความปลอดภัยของหออวิ๋นหลีแห่งนี้ยังแน่นหนากว่าจวนอ๋องอีกหลายเท่าตัว!ไม่เพียงมีทหารเดินลาดตระเวนทั้งในและนอกตำหนัก รอบๆ ยังมียอดฝีมือหลายคนซ่อนตัวอยู่อีกวิชาตัวเบาของกู้อวิ๋นซีจวินฉู่หลีเป็นคนสอน ก็ถือว่าเก่งกาจพอตัวแต่พอต้องมาเดินบนหออวิ๋นหลี เธอก็ยังต้องระมัดระวังมากๆ อยู่ดีในที่สุดเธอก็เจอห้องที่มีแสงสว่างเปิดอยู่และดูเหมือนว่าข้างในจะมีคนกำลังพูดคุยกันอยู่ด้วย"เจ้าก็รู้อยู่แล้วว่ามันเสี่ยง ทำไมยังจะแต่งนางเข้ามาอีก ถ้าเกิดนางรู้ความลับของที่นี่ขึ้นมา พวกเรา..."จู่ๆ เสียงพูดคุยก็หยุดไปดื้อๆ!กู้อวิ๋นซีรู้สึกถึงกลิ่นอายของความอันตรายที่คละคลุ้งอยู่ในบรรยากาศรอบๆ ทันทีเธอถูกพบแล้ว!กู้อวิ๋นซีรีบม้วนตัวลงจากหลังคาอย่างรวดเร็วเธอได้ยินเสียงดัง ปุกๆๆ สามที ในตำแหน่งที่เธออยู่เมื่อกี้ถูกตะปูตอกกระดูกสามเล่มปักเข้าอย่างจัง!ทั้งความเร็วและความแรงนี้!หากว่าเมื่อครู่เธอถอนตัวออกมาไม่ทัน ป่านนี้ ถ้าไม่ตายก็คงเลี้ยงไม่โตแล้วกู้อวิ๋นซีกระโดดกลับขึ้นไปบนกำแพงอีกครั้งแต่คิดไม่ถึงว่า
"จวินเย่เสวียน ปล่อยข้านะ!" เสียงแหบพร่าของกู้อวิ๋นซีเอ่ยขึ้นเธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะถูกทำให้อับอายได้ถึงเพียงนี้ส่วนล่างของเธอไม่เหลืออะไรเลยแถมตอนนี้ยังอยู่ในท่าที่น่าอายเป็นที่สุด!เธอพยายามที่จะลุกขึ้นอย่างเต็มที่ แต่ฝ่ามือของจวินเย่เสวียนกดอยู่ที่เอวด้านหลังของเธอ ทำให้ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้"ออกไป! ออกไปซะ! เธอกัดริมฝีปาก พยายามจะหลบซ่อนตัวเองจากสายตาของเขา"แต่ว่าก็ไม่สามารถหลบได้!ร่างกายนุ่มนิ่ม ปรากฏสู่สายตาของเขาอย่างเปิดเผยด้วยท่าทางที่น่าอับอายเป็นที่สุด!เธอรู้สึกเจ็บปวดในใจ จนน้ำตาเกือบจะไหลออกมาจวินเย่เสวียนเองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน ว่าการที่เขาดึงทีเดียวจะทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้ยังคิดว่า อย่างน้อยก็ยังเหลือผ้าปกปิดอยู่อีกชิ้น...เขาคิดไม่ถึงว่า ข้างในมีอีกชิ้นก็จริง แต่ทั้งสองชิ้นก็ถูกเขาดึงขาดหมดเลยตอนนี้ ภาพร่างกายนุ่มนิ่มสีชมพูระเรื่อของหญิงสาว ปรากฏสู่สายตาของเขาอย่างโจ่งแจ้งลมหายใจของเขาติดขัด เมื่อเห็นสภาพเธอ ร่างกายเขาก็เกร็งเครียดขึ้นในทันทีสายตาอย่างกับถูกเวทมนต์สะกด มันคอยเอาแต่จับจ้องอยู่ที่จุดซ่อนเร้นของหญิงสาวไม่ไปไหนเขาเหมือนคน
กู้อวิ๋นซีที่อยู่ใต้ผ้าห่ม สวมใส่เสื้อผ้าค่อนข้างบางเบาแต่ว่ามันก็เป็นเพียงชุดนอนธรรมดา ไม่ได้มีอะไรผิดปกติองค์รักษ์ทั้งหลายรีบเบือนหน้าหนีอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครกล้ามองพวกเขามานี่ก็เพื่อจะตามจับคนร้าย ไม่ได้มาเพื่อทำให้ใครต้องลำบากใจแม่เฒ่าชิงวางผ้าห่มลง แต่เมื่อคิดดูอีกที ใบหน้าก็เคร่งเครียดอีกครั้ง ก่อนจะพูดว่า "ค้นให้ทั่ว!"พวกทหารองค์รักษ์รีบทำการค้นหาในทันทีทุกมุมห้อง ทุกกล่อง ทุกตู้ ถูกค้นหาอย่างละเอียด ไม่เว้นแม้แต่แมลงวันสักตัวเดียวอันเซี่ยตกใจจนได้แต่ยืนแอบอยู่ข้างๆ เตียง เพื่อที่จะคอยปกป้องคุณหนูของเธอของอย่างอื่น...ช่างเถอะ จะแตกก็แตกไปเธอมองออกว่า สถานการณ์มันเลวร้ายเพียงไร ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ตามแม่เฒ่าชิงเองก็ค้นหาตามเตียงนอนของกู้อวิ๋นซีเช่นกันกู้อวิ๋นซีจึงต้องจำใจลงจากเตียงก่อนจะรับเสื้อคลุมจากอันเซี่ยมาคลุมแล้วยืนอยู่นิ่งๆ ไม่ได้พูดอะไรไม่มีอะไรเลยสุดท้าย สายตาของแม่เฒ่าชิงก็มองมายังกู้อวิ๋นซี"พระชายา บ่าวขออนุญาตค้นเสื้อผ้าของพระองค์ได้หรือไม่""เพราะอะไร" กู้อวิ๋นซีไม่พอใจแม่เฒ่าชิงสีหน้าเคร่งขรึม "บ่าวเพียงทำตามคำสั่งเท่
จวินเย่เสวียนไม่ได้อยู่ในห้อง"พระชายา นี่ก็ดึกมากแล้ว ท่านมาหาท่านอ๋องในเวลาแบบนี้ไม่เหมาะเลยนะพ่ะย่ะค่ะ" เยียนเป่ยเตือนขึ้นด้วยเสียงเบาแต่กู้อวิ๋นซีไม่สนใจ เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยใบหน้าเรียบเฉย "ข้ามีเรื่องที่จะต้องคุยกับองค์ชายสี่""แต่ว่าตอนนี้ท่านอ๋องไม่อยู่...""เช่นนั้นข้าก็จะรอเขาอยู่ที่นี่ รอจนกว่าเขาจะกลับมา"เมื่อเยียนเป่ยเห็นว่านางดื้อรั้นเช่นนี้ ก็ได้แต่ทำใจ แล้วก็ปล่อยนางไปการรอของกู้อวิ๋นซีในครั้งนี้ ยาวนานเป็นครึ่งค่อนคืนเมื่อถึงเวลาประมาณตีหนึ่ง จวินเย่เสวียนก็กลับมาท่ามกลางค่ำคืนที่มืดมิดเมื่อได้ยินว่ากู้อวิ๋นซีรอเขาอยู่ที่ห้องรับแขก เขาก็ชะงักฝีเท้าเพียงชั่วครู่ ก่อนจะเดินกลับเข้าหอนอนของตัวเองไปไม่ได้สนใจนางแต่ไม่รู้ทำไมกู้อวิ๋นซีเหมือนจะรู้สึกได้ว่าเขากลับมาแล้ว จึงได้บุกเข้าไปหาเขาเองถึงหอนอน"พระชายา ตอนนี้ท่านอ๋องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ยังไง..."เยียนเป่ยไม่สามารถขวางนางเอาไว้ได้ นางยังคงเดินดุ่มๆ เข้าไปข้างใน เยียนเป่ยไม่กล้าแตะต้องตัวของนางด้วยประตูห้องถูกกู้อวิ๋นซีผลักให้เปิดออก จวินเย่เสวียนอาบน้ำเสร็จแล้ว กำลังจะสวมเสื้อผ้าเขาที่ตอนนี้แต
"ข้าบอกแล้วไงว่าไม่ต้อง!" จวินเย่เสวียนแสดงสีหน้าเย็นชากู้อวิ๋นซีมองไปที่เขา ก่อนจะเบ้ปากเล็กๆ ของนางออกหน่อยๆ ขอบตาร้อนผ่าว รู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ "องค์ชายสี่ ขอร้องล่ะ""ห้ามมาขอร้องข้า!" ยัยผู้หญิงน่าโมโห!เหมือนว่านาง จะค้นพบความลับอะไรบางอย่างแล้ว!แค่เพียงนางตาแดงๆ เบ้ปากหน่อยๆ และแสร้งทำสีหน้าน่าสงสารอีกนิด จวินเย่เสวียนก็จะใจอ่อนยวบลงได้อย่างง่ายดายราวกับต้องมนต์!เขาตีหน้าบึ้งตึง "ถ้ายังไม่รีบไสหัวออกไปอีก ข้าจะไม่เกรงใจเจ้าแล้วนะ""ข้าคือภรรยาของฉู่หลี องค์ชายสี่คงไม่เกรงใจข้าไม่ได้หรอก" กู้อวิ๋นซีพึมพำเสียงเบาจวินเย่เสวียนสะบัดเสียงใส่อย่างเย็นชา "เจ้ายังจำได้อีกหรือว่าสามีของตัวเองชื่อว่าอะไร""องค์ชายสี่..." นางเงยหน้าขึ้นมามองเขา กระพริบตาปริบๆดวงตากลมโตคู่นั้น ถูกปกคลุมด้วยหยาดน้ำตาอย่างรวดเร็ว ดูแล้วช่างน่าสงสารเหลือเกินจวินเย่เสวียนอยากจะด่าออกไปจริงๆ!แต่นิ้วมือทั้งห้าของเขาที่จับข้อมือของนางเอาไว้กลับค่อยๆ คลายออก"อย่ามาทำแบบนี้ต่อหน้าข้า...""องค์ชายสี่ ข้าก็แค่อยากดูนิดเดียวเท่านั้น" กู้อวิ๋นซีเปิดเสื้อของเขาออกทันทีแน่นอนว่าไม่กล้ามองหน้าอกข
"ท่านอ๋อง ข้าต้องการยาเล็กน้อย อีกทั้งเหล้ากาหนึ่ง" กู้หรูชิวกล่าวจวินเย่เสวียนโบกมือหนึ่งที ความจริงเยียนเป่ยไม่ยินยอม แต่สุดท้ายเขาก็ไปเตรียมของมาให้กู้หรูชิวอย่างรวดเร็วกู้หรูชิวเดินไปอยู่ตรงหน้าของหลานโจว พูดอย่างอ่อนโยนว่า "คุณชายท่านนี้ ขออภัยด้วย"ที่ขมับของหลานโจวมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมาเยี่ยนอีกำมือแน่น แต่ก็ได้แต่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่ได้พูดอะไรเยียนเป่ยร้อนใจ "ท่านอ๋อง หลานโจวติดตามข้างกายท่านมาสิบกว่า สิบกว่าปี เขา..."จวินเย่เสวียนไม่ได้พูดอะไร ได้แต่มองด้วยสายตาเย็นชากู้หรูชิวบดยาหลายชนิดให้กลายเป็นผงแล้วใส่ลงไปในเหล้าหลานโจวรู้ว่านั่นเป็นยาที่ทำให้เขาขาดสติ โดยส่วนมากไว้ใช้สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อลดความเจ็บปวดของร่างกายเขาไม่รู้เลยว่ายาพวกนี้เมื่อเอามาผสมกับเหล้าแรงจะสามารถดึงวิญญาณของคนๆ หนึ่งได้แต่เมื่อทั้งสองชนิดผสมเข้าด้วยกัน ก็สามารถทำให้คนๆ หนึ่งมีสติเลือนลาน ช้าเชือนได้จริงๆ!เมื่อเห็นว่ากู้หรูชิวผสมยากับเหล้าเข้ากันดีแล้ว เดินถือมาอยู่ตรงหน้าของตัวเอง หลานโจวก็ได้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดอย่างสงบว่า "ท่านอ๋อง เป็นกระหม่อมที่เอายาพิษรุนแรง
ไม่รอให้หลานโจวได้เอ่ยปาก หมอคนนั้นก็พูดขึ้นว่า "จะไม่มีปัญหาได้อย่างไร? ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นดื่มยาพิษอะไรเข้าไป ซึ่งเป็นการทำร้ายเด็กในท้องตั้งนานแล้ว"เมื่อหมอคิดไปถึงสีหน้าของผู้หญิงคนนั้นในตอนนั้น ก็อดที่จะสงสารไม่ได้"ผู้หญิงคนนั้นจะต้องรักลูกในท้องของนางมากแน่ ข้าน้อยแนะนำให้นางรีบตัดสินใจ อะ เอาเด็กออก..."เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาของเสวียนอ๋อง ที่จู่ๆ ก็เย็นเยียบขึ้นมา หมอคนนั้นก็หวาดกลัวจนตัวสั่น ฉับพลันไม่รู้ว่าควรจะพูดต่อไปหรือไม่แต่ก็เป็นจวินเย่เสวียนที่พูดออกมาประโยคหนึ่งอย่างเย็นชา "พูดต่อ!"หมอคนนั้นถึงได้พูดต่อไปอย่างกลัวๆ กล้าๆ "ข้าน้อยคิดเพื่อร่างกายของผู้หญิงคนนั้นเองถึงได้แนะนำให้ดื่มยาขับเลือด แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ยินยอม ข้าน้อยรู้ว่านางยังแอบมีความหวังอยู่"สายตาของจวินเย่เสวียนมองไปยังร่างของหลานโจวหลานโจวรู้สึกสิ้นหวังมากเขารู้อยู่แล้วว่าสักวัน วันนี้ก็จะต้องมาถึงแต่แค่คิดไม่ถึงว่ามันจะมาเร็วขนาดนี้"มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?" ในที่สุดเยียนเป่ยก็ทนไม่ไหวเขาเชื่อใจหลานโจวขนาดนั้น แต่ทำไมตอนนี้ หลานโจว...ดูเหมือนว่าหลานโจวกำลังปกปิดอะไรไว้อยู่จริงๆ
"เสวียนเออร์ เจ้า...เจ้าพูดเรื่องเหลวไหลอะไร? ข้าจะไปทำอะไรนางได้? นางอยู่ในการคุ้มครองของเจ้าตลอดเวลานะ!"พระสนมหรงรู้สึกละอายใจ แต่ก็พยายามรักษาจิตใจให้สงบนิ่งนางปล่อยมือที่จับชายเสื้อของจวินเย่เสวียนเอาไว้ แล้วก้าวถอยหลังไปสองก้าวเริ่มรู้สึกหวาดกลัวลูกชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ขึ้นมาอย่างประหลาด"เสวียนเออร์ เจ้าลืมความเจ็บปวดของเจ้าได้เร็วขนาดนี้เชียวเหรอ? นางเป็นคนฆ่า...ของเจ้าเองกับมือเพื่อช่วยหลีเออร์นะ...""ลูก" คำนี้พระสนมหรงไม่กล้าที่จะพูดมันออกไปรอบข้างมีทั้งขันทีและนางกำนัลมากมายแต่นางรู้ดีว่าลูกชายของนางเข้าใจจริงดังนั้น ประโยคนี้ทำให้จวินเย่เสวียนกำหมัดแน่นทีเดียวเขาไม่อาจทำใจยอมรับเรื่องนี้ได้!โชคดีที่หลังจากกลับมา นางได้พบกับมู่อันหนิงแล้ว และได้คุยกับเรื่องคำที่จะพูดแล้วมู่อันหนิงช่างรู้งานจริงๆ!หากว่าไม่มีมู่อันหนิง พระสนมหรงเองคนเดียวคงไม่อาจจัดการเรื่องให้ดีได้เช่นนี้"เสวียนเออร์ แม่ก็แค่สงสารเจ้า หรือว่าเจ้าไม่คิดแค้นนาง...""นางช่วยลูกชายสุดที่รักของท่านไว้ แต่ท่านกลับ แค้นนาง?"จวินเย่เสวียนหรี่ตาลง ฉับพลันก็เดินขึ้นไปข้างหน้าพระสนมหรงตกใจจ
"เจ้า..."พระสนมหรงคิดไม่ถึงเลยว่ากู้อวิ๋นซีจะกล้ายอมรับออกมาจริงๆ!นางทำไปเพื่อแก้แค้นนางจริงๆ!แถมนางยังคิดจะให้ลูกชายทั้งสองคนของนางกลายเป็นศัตรู ฆ่ากันเอง!พระสนมหรงโมโหจนตัวสั่น แต่กู้อวิ๋นซีกลับใช้ดวงตาคู่โตชุ่มชื้นนั้นมองมาที่นางด้วยสายตาที่ไร้เดียงสาอย่างเดิมรอยยิ้มที่มุมปากเหมือนจะอ่อนโยน แต่คำพูดที่ออกมากลับเย็นชาสุดขีด"เสด็จแม่ ข้าเกือบจะถูกท่านฆ่าตายแล้ว หากว่าข้าไม่ทำให้ลูกชายทั้งสองของท่านตายไปบ้าง ข้าจะทำใจเรื่องความแค้นนี้ได้อย่างไร?""นังแพศยา เจ้ากล้า!"พระสนมหรงโมโหจนเสียสติ ยกมือขึ้นมาอย่างเร็ว และกำลังจะตบลงไปบนหน้าของกู้อวิ๋นซีอย่างแรงที่น่าแปลกก็คือ การต้องเผชิญกับฝ่ามือของตัวเอง กู้อวิ๋นซีไม่เพียงไม่คิดหลบ แต่ยังกลับยิ้มออกมาอย่างสะใจพระสนมหรงตกใจ จู่ๆ ก็เข้าใจได้ทันทีว่าตัวเองโดนหลอกแล้ว!แต่แรงตบที่นางอ้างออกไปมันไม่สามารถเก็บกลับได้ทันแล้ว ฝ่ามือนี้ในที่สุดก็จบลงไปบนหน้าของกู้อวิ๋นซีอย่างแรงเพราะว่าแรงมาก กู้อวิ๋นซีถึงได้ล้มลงไปนั่งกองอยู่บนพื้นทันทีตาลายไปหมด ลุกขึ้นมาไม่ได้เลย"ซีเออร์!" เงาของสองร่างปรากฎออกมาในทันทีตอนที่จวินฉู่หลีช่
ความจริงแล้วพระสนมหรงไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากที่กลับมาจะยังเจอหน้าผู้หญิงคนนี้อีกตอนนั้นที่นางจากมา กู้อวิ๋นซีนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างเตียง ปากก็กระอักเลือดสีดำ ลมหายใจรวยรินถึงแม้นางจะมีความสงสารอยู่บ้าง แต่เมื่อคิดถึงว่าลูกชายของตัวเองทังสองคนจะต้องผิดใจกันเพราะผู้หญิงคนนี้ นางก็ใจแข็งได้อีกครั้งวันนั้นที่ออกคำสั่งไม่ให้มีใครมา จริงๆ แล้วไม่ใช่ความปรารถนาของมู่อันหนิงแค่คนเดียวแต่เป็นความอนุญาตกลายๆ ของพระสนมหรงอีกด้วยเพียงแค่มู่อันหนิงนับว่ายังดีอยู่บ้างที่รับจบเรื่องนี้เอาไว้เอง ไม่ได้ทำให้ลูกชายทั้งสองของนางเกลียดนางด้วยเรื่องนี้ ทำให้ท่าทีที่พระสนมหรงมีต่อมู่อันหนิงก็ยิ่งดีขึ้นอีกเดิมคิดว่าหลังจากสามเดือนผ่านไป ตอนที่กลับมากู้อวิ๋นซีก็คงจะตายไปนานแล้ว และด้วยระยะเวลาที่ยาวนานนี้ ลูกชายทั้งสองของนางก็คงทำใจเรื่องผู้หญิงคนนี้ไปได้แล้วถึงตอนนั้น หลีเออร์ก็จะมีชีวิตใหม่ ส่วนเสวียนเออร์ นางเองก็ชอบมู่อันหนิงถ้าจะให้มู่อันหนิงมาเป็นพระชายาของเสวียนอ๋อง นางก็พอใจอย่างมากสรุปก็คือมันจะต้องเป็นการจบเรื่องที่สมบูรณ์แบบแต่นางคิดไม่ถึงเลยว่ากู้อวิ๋นซีไม่เพียงไม่ตาย แต่ยังกล้าท
สองวันต่อจากนั้น กู้อวิ๋นซีก็พักอยู่ที่ตำหนักของไทเฮาตลอดสองวันนี้จวินฉู่หลียุ่งมากด้านหนึ่งก็ยุ่งเรื่องการก่อสร้างจวนหลีอ๋อง อีกด้านหนึ่งก็ยุ่งเรื่องการย้ายไปประจำการที่เมืองฝานกู้อวิ๋นซีได้พักผ่อนอยู่สองวัน พอถึงเช้าตรู่วันที่สาม ในที่สุดก็ได้รับข่าวดี"คนในจวนแม่ทัพออกนอกเมืองไปแล้วเหรอ?"ข่าวนี้ทำให้นางอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูกไปทั้งวัน"เจ้ากังวลว่าเสวียนอ๋องจะมาขัดขวางเหรอ?" ขนาดมู่เฟยหย่ายังดูออกเลยว่านางเบาใจไปมากกู้อวิ๋นซีไม่ได้ตอบคำถามนี้ความคิดของจวินเย่เสวียน ใครจะเดาออกกัน?สามวันก่อนหน้านี้เขาถูกนางทำให้โกรธจนกลับออกไป เสวียนอ๋องเป็นคนอารมณ์แปรปรวณ อีกทั้งยังรู้ว่านางตั้งใจจะให้คนในจวนแม่ทัพออกห่างจากความวุ่นวายนี้ดังนั้นการที่เขาจะขวางก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร"เรื่องนี้ข้าได้ปรึกษากับอาหลีแล้ว อาหลีเองก็เคยคิดวิธีรับมือ หากว่าเสวียนอ๋องตั้งใจจะขวาง อาหลีก็จะทำตามที่ข้าบอก"การที่จวินเย่เสวียนเก็บตัวเงียบแบบนี้ เป็นเรื่องที่เหนือการคาดหมายไปเหมือนกัน"วันนี้เจ้าช่วยข้าออกไปตามหาคุณชายมู่อีกครั้งเถอะ" จู่ๆ กู้อวิ๋นซีก็พูดขึ้นมา"หามาตั้งหลายวันแล้วยังไม่ได้ข
"อื้อ!"หมอนใบหนึ่งกระเด็นมาโดนที่หัวของมู่เฟยหย่าพอดิบพอดีมู่เฟยหย่าจึงทำได้เพียงแค่ต้องเงียบปากไปเท่านั้นแต่ในหัวสมองของนางยังคงมีภาพแผ่นหลังที่โดดเดี่ยวอ้างว้าง ราวกับถูกคนทั้งโลกละทิ้งของจวินเย่เสวียนตอนเดินจากไปวนเวียนอยู่ไม่หายนางรู้สึกปวดใจจริงๆ นะ!ก็ไม่รู้ว่าทำไมกู้อวิ๋นซีถึงใจร้ายได้แบบนี้กู้อวิ๋นซีในตอนนี้ นิ่งสงบราวกับผิวน้ำที่ไร้คลื่นความเจ็บปวดของเขา มันเทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดของนางแม้เพียงสักหนึ่งส่วน มีอะไรให้น่าสงสารกัน?อีกอย่าง ต่อไปเสวียนอ๋องก็มีโอกาสอีกกว้างไกลในอนาคตแต่ตัวนางกับคนในจวนแม่ทัพกลับต้องตกอยู่ในสภาพที่ลำบากแค่สถานการณ์ของตัวนางเองในตอนนี้ก็ไม่มีสิทธิที่จะไปสงสารคนอื่นแล้ว"เอาล่ะ ข้าไม่พูดแล้ว แต่ว่า เจ้าไม่ใช่ต้องการจะแก้แค้นเหรอ? เหตุใดเจ้าถึงไม่ใช้เสวียนอ๋องกับหลีอ๋องมาต่อกรกับพระสนมหรงโดยตรงล่ะ?"ตอนนี้เป็นไง ทำให้เสวียนอ๋องโกรธจนจากไปแล้ว ต่อไปไม่ใช่ว่าจะมีศัตรูที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกคนอย่างนั้นเหรอ?กู้อวิ๋นซีได้แต่มองนางอย่างนิ่งสงบ "แล้วถ้าหากว่าเป็นเจ้า เจ้าจะทำอย่างไร?"มู่เฟยหย่าคิดสักพัก ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้นางแล้วพู
"ข้าชอบอาหลีหรือไม่ ข้าไม่รู้ แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้ารู้ได้ชัดเจน"กู้อวิ๋นซีเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา อย่างน้อย ครั้งนี้ก็เต็มไปด้วยความจริงใจ"จวินเย่เสวียน ข้าไม่รักท่านแล้ว""เจ้าคิดว่าข้าจะสนหรือยังไง?" น้ำเสียงของจวินเย่เสวียนที่พูดออกมาแทบจะแค้นมันออกมาจากซอกฟันอยู่แล้วถ้าเป็นในเวลาปกติ กู้อวิ๋นซีจะต้องกลัวแน่แต่ตอนนี้ ไม่รู้ทำไม จู่ๆ นางก็รู้สึกไม่กลัวแล้วจริงๆ"ทางที่ดีท่านอ๋องพูดแล้วก็ทำให้ได้ด้วย ไม่สน ต่อไปก็อย่ามารบกวนชีวิตของพวกเราสองสามีภรรยา"ใบหน้าเขาเรียบเฉย ดูแล้วจิตใจสงบนิ่งราวผิวน้ำแต่มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าคำพูดของกู้อวิ๋นซี เป็นเหมือนมีดเล่มหนึ่งที่ปักเข้าไปในหัวใจเขาอย่างจังลึกและแรงมาก!ประกายแสงเพียงน้อยนิดในดวงตาของเขา หายไปหมดแล้ว"กู้อวิ๋นซี เจ้าอย่าเสียใจทีหลังล่ะ!"...ในที่สุดเขาก็ไปแล้วกู้อวิ๋นซีนั่งลงไปบนพื้นอย่างอ่อนแรง หมดอาลัยตายอยากด้านนอกมีคนวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อนนางจับขอบเตียงเอาไว้เพื่อพยุงตัวเองขึ้นมาอย่างช้าๆเพิ่งจะลุกขึ้นมาได้ ก็เห็นจวินฉู่หลีที่วิ่งเข้ามาในห้องโถงด้วยสีหน้าที่ร้อนรน"ท่านพี่สี่เขา...""ไปแล้ว" กู้
การปรากฎตัวขึ้นของจวินเย่เสวียนเป็นอะไรที่กู้อวิ๋นซีคิดไม่ถึงมาก่อนตอนที่เห็นเงาร่างของเขาเดินเข้ามา นางก็รีบลุกขึ้นยืนอย่างตกใจ ก่อนจะถอยหลังไปหลายก้าวโดยสัญชาตญาณ"เจ้าคิดเหรอว่ามาหลบอยู่ที่ตำหนักของเสด็จย่าแล้วจะสามารถหลบข้าพ้น?"สายตาเย็นเยียบของจวินเย่เสวียนจับจ้องไปที่ร่างกายของนางตรงๆ"ให้คนของจวนแม่ทัพย้ายไปที่เมืองฝาน เพื่อจะได้รอดพ้นจากขอบเขตอำนาจของข้าก็คิดว่าจะสามารถไปไหนก็ได้แล้วอย่างนั้นเหรอ?""ก็แค่พวกมดแมลงตัวเล็กๆ ที่ต้องการรักษาชีวิตเท่านั้น ท่านอ๋อง ท่านต้องการปกป้องครอบครัวของท่าน ข้าก็ต้องการให้ครอบครัวของข้าได้มีชีวิตต่อไป เหตุใดท่านอ๋องถึงไม่ยอมปล่อยพวกเขาไปล่ะ?"กู้อวิ๋นซียังคงเดินถอยหลังอยู่ ไม่ทันระวังก็เลยเดินถอยไปจนถึงเตียงนอน จนไม่อาจถอยหลังได้อีก"ท่านอ๋อง คนที่ท่านแค้นคือข้า ไม่เกี่ยวกับพวกเขา ท่านอ๋องจะสามารถปล่อยให้พวกเขาได้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้หรือไม่?"ถึงแม้ฝีเท้าของจวินเย่เสวียนจะดูเอื่อยเฉื่อย แต่เพียงไม่นานเขาก็เดินมาอยู่ตรงหน้าของนางแล้ว"ดังนั้น ทั้งๆ ที่เมื่อคืนเจ้ายังพูดว่าต้องการผู้ชายที่แข็งแกร่งยิ่งใหญ่แบบข้าในอ้อมแขนของข้า แต่คืนนี