ตอนนี้ร่างกายของกู้อวิ๋นซีเองก็อ่อนแอมากเช่นกันในร่างกายของนางก็มีแต่สารพิษเต็มไปหมด!เมื่อถูกจวินเย่เสวียนผลักออกอย่างหยาบคายเช่นนี้ นางก็ไม่อาจฝืนยืนต่อไปได้ ตึง นางล้มลงไปกระแทกเข้ากับเก้าอี้จากนั้นก็กลิ้งลงไปบนพื้นรู้สึกเหมือนเลือดในอกเกิดการสูบฉีดอย่างแรง หน้ามืด ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ชั่วขณะ"ซีเออร์..." จวินฉู่หลีรู้สึกหน่วงๆ ที่เปลือกตาเป็นอย่างมาก หลังจากฉีดซีรั่มเข้าไป เดิมทีก็ควรจะนอนหลับพักผ่อนแต่เขาเห็นอยู่ว่ากู้อวิ๋นซีได้รับบาดเจ็บ จะหลับลงได้อย่างไร?เขาพยายามฝืนตัวที่จะลุกขึ้นมากู้อวิ๋นซีพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า "อย่า...ขยับ อาหลี เชื่อ..ฟัง"แล้วจวินฉู่หลีก็ไม่กล้าขยับแม้แต่น้อยจริงๆกู้อวิ๋นซีเคยบอกแล้ว หลังจากที่ฉีดซีรั่มเข้าไปในร่างกาย จะต้องพักผ่อนมากๆ ซีรั่มถึงจะเกิดประสิทธิภาพได้ดีเขาเชื่อฟังกู้อวิ๋นซีมาโดยตลอดเมื่อเห็นว่าจวินฉู่หลียอมเชื่อฟัง ทำตัวว่าง่ายกับกู้อวิ๋นซีขนาดนี้ก็ยิ่งทำให้จวินเย่เสวียนรู้สึกเดือดดาลในใจเป็นขนาดนี้แล้วแท้ๆ ยังจะไม่คิดเพื่อตัวเองอีกเหรอ?เพื่อกู้อวิ๋นซี น้องชายของเขาคนนี้ ก็ใกล้จะบ้าไปแล้ว!"เจ้าทำอะไรกับเขาลงไป
"แม่นางฉิน ข้าไม่เคยไปหาเรื่องท่านก่อน เหตุใดคืนนี้ท่านต้องจงใจมาหาเรื่องข้าด้วย?"สายตาของกู้อวิ๋นซี มองผ่านไปไปบนเข็มฉีดยาสองเล่มบนพื้นนางค่อยๆ ยืนขึ้นอย่างช้าๆ นั่งลงไปบนพื้นแล้วเก็บเข็มฉีดยาขึ้นมาถอนหายใจเบาๆ "ล้วนเป็นของเล่นที่อาหลีมอบให้ข้า เหตุใดท่านจะต้องทำลายมันทิ้งด้วย?"ฉินโหรวเองก็ไม่รู้ว่าเหตุใดตัวเองจะต้องทำลายมันทิ้ง แต่ตอนนี้นางรู้สึกอารมณ์เสียสุดๆนางคิดว่าหลังจากผ่านเหตุการณ์ที่พระสนมหรงผมขาวชั่วข้ามคืนไปแล้ว ความรู้สึกที่จวินเย่เสวียนมีต่อผู้หญิงคนนี้ก็คงจะน้อยลงไปบ้างแล้วแต่เมื่อกี้ พอเห็นว่าตัวเองเผลอผลักนางจนไปชนเก้าอี้ แววตาของจวินเย่เสวียนกลับยังมีประกายความปวดใจอยู่!ไม่มีใครเห็นเพราะเขาปกปิดมันไว้อย่างดี แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถตบตานางได้!เสวียนอ๋องยังมีความรู้สึกกับกู้อวิ๋นซีอยู่!ฉินโหรวมองไปที่กู้อวิ๋นซี ยิ้มออกมาอย่างไม่จริงใจแล้วพูดว่า "ข้าจะกล้ากลั่นแกล้งพระชายาได้อย่างไร? แต่การที่พระชายาทำกับหลีอ๋องถึงเพียงนี้มันออกจะเกินไปจริงๆ""ร่างกายของหลีอ๋องสูงส่ง ไม่อาจให้ท่านมาล้อเล่นได้ ท่านไม่เห็นหรือไง ว่าท่านเกือบจะทำให้หลีอ๋องตายไป
ความจริงฉินโหรวก็เคยคาดเดาไว้ก่อนแล้ว ว่าจวินเย่เสวียนน่าจะเคยมีอะไรกับกู้อวิ๋นซีแต่นางก็ยังแอบหวังอยู่เล็กๆแต่ตอนนี้ กู้อวิ๋นซียอมรับมันออกมาจากปากตัวเอง อารมณ์ที่นางพยายามควบคุมเอาไว้ กลับพังทลายลงทันที!"ไหนเจ้าบอกว่า ชายหนุ่มในวัยเลือดร้อนจะทำตัวเสเพลไปบ้างก็ไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอ?"กู้อวิ๋นซีมองนางอย่างเย็นชา ยกริมฝีปากบางขึ้นน้อยๆ "แล้วเหตุใดตอนนี้เจ้าถึงดูสิ้นหวังถึงเพียงนี้ล่ะ?"ฉินโหรวจ้องนางอย่างเคียดแค้น "แก...นังแพศยา!""เจ้าอยากตบข้าเหรอ?" กู้อวิ๋นซีมองดูฝ่ามือที่ถูกยกขึ้นมาของนาง แล้วพูดอย่างยิ้มๆ "ตอนนี้ข้าไม่มีแรงจะตอบโต้ แต่ว่า ใบหน้านี้ของข้า องค์ชายสี่หลงไหลมันมากที่สุด เจ้าก็ลองทำร้ายข้าดูสิ?"ฉินโหรวยกมือขึ้นสูง แต่ก็ไม่กล้าจะตบลงไปนังแพศยาคนนี้ อย่างน้อยก็มีเรื่องหนึ่งที่พูดได้ถูกต้อง นางไม่กล้าทำร้ายใบหน้าของกู้อวิ๋นซี!ต่อหน้าจวินเย่เสวียน นางต้องทำตัวเป็นหญิงสาวที่มีสติ ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ มีเหตุผลจะได้คู่ควรกับเขา ไม่ใช่ผู้หญิงทั่วไปคนไหนจะสามารถเทียบได้ผู้ชายอย่างเสวียนอ๋อง ย่อมต้องมีข้อกำหนดสูงเกี่ยวกับเรื่องคู่ครองแน่หากไม่ระวัง ฉินโหรวเกรงว่
กู้อวิ๋นซีถูกจับมัดเอาไว้ครั้งนี้ โทษของนางหนักหนามาก ได้ยินว่าเป็นการวางแผนลอบสังหารหลีอ๋องพระสนมหรงเป็นคนสอบสวนด้วยตัวเอง!"เจ้าทำอะไรกับหลีเออร์ลงไปกันแน่? พูดมาสิ!"หลานโจวเอ่ยปากแล้ว ในร่างกายของหลีอ๋องตอนนี้ มีพิษอยู่หลายชนิดผสมปะปนกันอยู่ชีพจรของเขาอ่อนมาก ร่างกายก็บอบบาง ลมหายใจก็ไม่สม่ำเสมอสัญญาณชีพจรที่บางเบาจนแทบจะจับไม่เจอ ขนาดหลานโจวก็ยังไม่มั่นใจ ราวกับว่ามันสามารถหายไปได้ตลอดเวลาอย่างนั้นเมื่อได้ฟังคำพูดของหลานโจว จวินเย่เสวียนก็รู้สึกหนักอึ้งในใจแล้วพระสนมหรงจะทนได้อย่างไร? ยังไม่ทันจะร้องจบก็ปรี่เข้ามาเอาเรื่องกับกู้อวิ๋นซีทันทีตอนนี้หลานโจวกับจวินเย่เสวียนต่างกำลังคิดหาวิธีช่วยกันอยู่ จวินเย่เสวียนไม่ว่างจะมาสนใจเรื่องตรงนี้ในห้องลับนี้ มีเพียงพระสนมหรงกับฉินโหรว อีกทั้งกู้อวิ๋นซีที่ถูกจับมัดไว้อยู่"เสด็จแม่เพคะ วิธีการรักษาที่ข้าใช้กับอาหลี เหลือเพียงแค่สองขั้นตอนสุดท้ายเท่านั้น ท่านเชื่อข้าเถอะ ข้าสามารถรักษาเขาให้หายได้จริงๆ"ถึงแม้กู้อวิ๋นซีจะรู้ว่า โอกาสที่จะให้พระสนมหรงยอมเชื่อนาง แทบจะเป็นศูนย์ก็ตามทีแต่คนอีกคนหนึ่งที่อยู่ตรงนี้ ฉินโหรว น
พระสนมหรงเป็นคนเสียสติฉินโหรวยังรู้จักยับยั้งชั่งใจ แต่พระสนมหรงไม่ใช่หากว่าจวินฉู่หลีเป็นอะไรไป พระสนมหรงสามารถบ้าได้ขนาดไม่สนแม้แต่ชีวิตของตัวเองฉินโหรวยืนอยู่อย่างเงียบๆ ในห้อง มองดูพระสนมหรงที่พุ่งตัวเข้าใส่กู้อวิ๋นซีตรงหน้า ยกมือขึ้นเตรียมจะตบนางก็เพียงมองดูอย่างเย็นชาเท่านั้นฝ่ามือนั้นตบลงไปบนใบหน้าของกู้อวิ๋นซีหลายทีไม่นาน ก็มีเลือดไหลซึมออกมาจากมุมปากของกู้อวิ๋นซี สายตานางเริ่มพร่ามัวที่น่าเสียดายคือ ในห้องนี้ดันไม่มีมีดสักเล่มพระสนมหรงก็ช่างโง่งมเหลือเกิน แต่ตบหน้านังแพศยานี่จะไปคลายความแค้นได้อย่างไร?ทำไมนางถึงไม่จิกเล็บลงไปบนหน้าของนังแพศยานี้สักสองทีนะ ทำไมไม่ทำลายใบหน้าของนางไปซะล่ะ?ฉินโหรวพูดอย่างเย็นชา "พระสนม หลีอ๋องกับเสวียนอ๋องต่างก็ชื่นชอบใบหน้านี้ พระสนมต้องระวังนะเพคะ อย่าเผลอไปทำลายใบหน้าของนางเข้าล่ะ!"คำพูดของฉินโหรว เตือนสติของพระสนมหรงได้ในที่สุดใบหน้านี้! เป็นเพราะใบหน้านี้ ลูกชายทั้งสองคนของนางถึงได้พากันลุ่มหลงใช่หรือไม่?ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนพวกเขาต่างก็เชื่อฟังนาง กตัญญูต่อนาง เคารพรักต่อนางกันขนาดนั้นแต่เพราะการปรากฎตัวของผู้หญิงคน
พระสนมหรงสงบจิตใจลงสิ่งที่กู้อวิ๋นซีพูด ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลฉินโหรวรู้ว่านางหวั่นไหวแล้ว แต่ตอนนี้ เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่นางจะทำลายกู้อวิ๋นซีได้หากพลาดครั้งนี้ไป ก็ไม่แน่ว่าจะมีโอกาสอีกแล้วฉินโหรวพูดเสียงเบา "เป็นไปได้หรือไม่ที่ในใจเจ้าจะแอบคิดว่า หากไม่มีหลีอ๋อง เย่เสวียนก็จะสามารถเอาเจ้ามาอยู่ข้างกายได้โดยไม่ต้องคิดถึงสิ่งใดอีก?"สายตาของพระสนมหรง เปลี่ยนเป็นเย็นเยียบในทันทีก่อนที่กู้อวิ๋นซีจะได้เอ่ยปากพูด ฉินโหรวก็พูดขัดขึ้นมาก่อน "ถึงข้าจะเพิ่งสนิทสนมกับเย่เสวียนไม่นาน แต่ข้าก็รู้ว่าเขารักหลีอ๋องมาก""และเขาก็ชอบกู้อวิ๋นซีมากเช่นกัน!"ฉินโหรวเดินไปอยู่ตรงหน้าพระสนมหรง "พระสนม ข้าคิดอยากที่จะยืมมือของท่านกำจัดนางจริงๆ เพราะข้ารู้ว่า หากว่าข้าลงมือเอง เย่เสียวนจะต้องสังหารข้าแน่ ก็เหมือนกับที่เขาสังหารแม่เฒ่าชิงไปนั้นแหละ""ดังนั้น ข้าไม่กล้า""แต่ผู้หญิงคนนี้ ไม่สามารถมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ต่อไปได้ ความชอบที่เย่เสวียนมีต่อนาง ข้าล้วนเห็นอยู่ในสายตา หากว่านางยังมีชีวิตอยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างเย่เสวียนกับหลีอ๋องก็ไม่มีทางดีขึ้นมาได้""พระสนม ข้าคิดจะยืมมือท่านจริงๆ แ
ตอนที่กู้อวิ๋นซีฟื้นขึ้นมา พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเคย"อาหลี!"นางรีบลุกขึ้นมานั่งอย่างรวดเร็วหลังจากที่นั่งขึ้นมาแล้วถึงได้พบว่า หัวสมองของตัวเองยังคงมึนๆ งงๆ อยู่เพิ่งจะลุกขึ้นนั่ง ก็รู้สึกหน้ามืดจนเกือบจะเป็นลมไปอีกครั้ง"คุณหนู!" อันเซี่ยกุมมือนางไว้รู้สึกปวดใจ "ในที่สุดท่านก็ฟื้นแล้ว!""ข้าหลับไปนานเท่าไร?" กู้อวิ๋นซีเคาะหัวของตัวเองเบาๆอันเซี่ยรีบตอบว่า "หนึ่งวันหนึ่งคืนเจ้าค่ะ""ไม่ได้การ!" กู้อวิ๋นซีตกใจสะดุ้งโหยง รีบเลิ่กผ้าห่มออกทันที"ไม่ได้การ อาหลีรอไม่ได้แล้ว! ข้าจะต้องไปพบเขาเดี๋ยวนี้!"หนึ่งวันหนึ่งคืน!สวรรค์ นี่นางหลับไปตั้งหนึ่งวันหนึ่งคืนเชียว! ระยะเวลาการฉีดซีรั่มสองครั้งสุดท้าย เหลือเวลาอีกแค่สองวันแล้ว"อันเซี่ย เข็มฉีดยากับเครื่องหมุนเหวี่ยงของข้าล่ะ? รีบไปเอามาให้ข้าเร็ว""ข้าเก็บไว้เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ" หลังจากที่คุณหนูถูกคนของฉินโหรวพาตัวออกไป ถึงแม้อันเซี่ยจะเป็นห่วงมากแค่ไหน แต่ก็รีบเข้าไปเก็บเข็มฉีดยาอันสุดท้ายกับเครื่องหมุนเหวี่ยงไว้ให้ดีก่อนกลัวว่าฉินโหรวจะกลับมาอีกครั้งแล้วทำลายของของคุณหนูสำหรับคุณหนูในตอนนี้ ของพวกนี้สำค
จวินเย่เสวียนโมโหจริงๆไอเย็นที่แผ่ซ่านออกมานั้น ขนาดจวินฉู่หลียังรู้สึกหวาดกลัวคนอื่นๆ ที่อยู่ในห้อง ไม่มีใครไม่รู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกขนชันเยียนเป่ยกับหลานโจวไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง อันเซี่ยก็เกือบจะตกใจจนเป็นลมไปแล้วแต่นางยังต้องช่วยคุณหนูทำงานอีก นางไม่อาจเป็นลมหมดสติได้!ดังนั้นจึงยังพยายามใช้แรงฮึกสุดท้ายยืนยัดให้ตัวเองมีสติอยู่กู้อวิ๋นซีถูกความโกรธของจวินเย่เสวียนบีบจนเกิดอารมณ์พลุ่งพล่านในใจ เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็เห็นสายตาดุดันของเขากำลังจับจ้องอยู่ที่หน้าของนางจวินเย่เสวียนพูดอย่างโมโห "ยังไม่บอกให้เขาวางมีดลงอีกเหรอ! หากว่าเขาเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ ข้าจะจับเจ้าฉีกเป็นชิ้นๆ เอง!"กู้อวิ๋นซีกัดริมฝีปากล่าง นางรู้ว่าอาหลีมีความสำคัญมากที่สุดในใจของเขาในตอนนี้ นางก็ไม่มีจิตใจจะไปคิดเล็กคิดน้อยอะไรกู้อวิ๋นซีมองไปที่จวินฉู่หลีแล้วพูดเสียงอ่อนโยน "ถึงแม้เขาจะโหดร้ายไร้ความรู้สึก อย่างน้อยเขาก็ยังเป็นคนที่รักษาคำพูด แถมยังสาบานแล้ว ไม่มีทางผิดคำพูดหรอก"นางยื่นมือออกไปตรงหน้าจวินฉู่หลี "อาหลี ส่งมีดมาให้ข้า อันตราย"จวินฉู่หลีไม่ยอมฟังคำพูดของใครเลย ขนาดคำพูดของเสวียนอ