กู้อวิ๋นซีก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมในเวลาคับขับแบบนี้เธอถึงอยากเรียกให้จวินเย่เสวียนมาช่วยน่าจะเป็นเพราะเธอรู้ว่าฉู่หลีไม่ได้อยู่ที่นี่ ที่นี่มีเพียงองค์ชายสี่กระมังหรือไม่ก็อาจเป็นเพราะ เธอเคยเห็นความว่องไวของจวินเย่เสวียน รู้ว่าเขาเคลื่อนไหวตัวได้เร็วมากในระดับเหนือจินตนาการถึงยังไง คนที่เธอขอความช่วยเหลือก็คือเขาเธอรู้สึกเหมือนมีเงาสีดำๆ เคลื่อนผ่านหน้าไปอย่างรวดเร็วกู้อวิ๋นซีรู้สึกได้ว่าตัวเธอลอยๆ ภาพทุกอย่างที่ผ่านตาล้วนรวดเร็วไปหมดมันเร็วจากจนเธอตาลายคล้ายจะเป็นลม จนต้องรีบปิดตาลง"อ๊าย..." ไม่ไกลนักมีเสียงม้าร้องขึ้นพร้อมกับเสียงกรีดร้องของผู้หญิงกู้อวิ๋นซีลืมตาขึ้นโดยสัญชาตญาณ เมื่อมองไปก็เห็นว่าผู้หญิงที่เกือบจะขับม้าชนเธอเมื่อครู่กำลังร้องครวญครางอยู่บนพื้นส่วนม้าตัวนั้น...น่าสงสาร หลังจากที่มันล้มไป ก็ลุกไม่ขึ้นอีกเลยส่วนตัวเธอ...เมื่อเงยหน้าก็เห็นผู้ชายที่อยู่ข้างๆ ใช้ผ่ามือใหญ่ของเขาประคองแขนสองข้างของเธออยู่ ก่อนจะมองจ้องมาในตาของเธอ "บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า"กู้อวิ๋นซีกระพริบตาปริบๆ เหมือนเพิ่งจะรู้สึกตัว ก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆจวินเย่เสวียนแววตาสั่นไหวเล็กๆ จู่ๆ ก็
ที่ในสนามล่าสัตว์ยังมีพวกคุณหญิงคุณชายอีกหลายคนถึงจะไม่ใช่เชื้อสายราชวงศ์ แต่ก็เป็นเหล่าราชนิกูลที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับคนในราชวงศ์ทั้งหลายทุกคนมองไปที่จวินเย่เสวียนในตอนนี้ ไม่มีใครกล้าเงยหน้า ขนาดจะหายใจแรงๆ ยังไม่กล้าเลยหากทำให้เสวียนอ๋องไม่พอใจขึ้นมา คงต้องโทษตายสถานเดียวคนที่ถูกเขาไล่ตะเพิดไปเมื่อกี้ดูเหมือนจะเป็นพระชายาหลีอ๋อง"คงไม่ใช่คิดว่าตัวเองหน้าตาสะสวย ก็เลยคิดจะแอบให้ท่าเสวียนอ๋องหรอกนะ เลยถูกท่านอ๋องลงโทษไปขนาดนั้น"บางกลุ่มแอบซุบซิบนินทากัน แน่นอนว่าสาวสวยหน้าตาดีราวดอกไม้แรกแย้มอย่างกู้อวิ๋นซี พวกเธอต้องอิจฉาริษยาเป็นธรรมดาอยู่แล้ว"ถึงจะหน้าตาดีจริง แต่เสวียนอ๋องเกลียดการใกล้ชิดกับผู้หญิงเป็นที่สุด นางไม่รู้หรือไง""เจ้าไม่เห็นที่ท่านอ๋องซัดม้าของหนานกงหลันเออร์ล้มหรือไง แม่นางหนานกงนั่นล้มจนเหวอะไปหมด""ก็ใช่ไง เสวียนอ๋องขึ้นชื่อเรื่องความเย็นชาไร้ความรู้สึกเป็นที่สุด ถ้าใครกล้าไปให้ท่าเขาไม่เท่ากับรนหาที่ตายเลยหรือ""ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงที่มีสามีแล้วเลย""แถมยังเป็นพระชายาของหลีอ๋องด้วยนี่น่ะสิ! ผู้หญิงใจง่ายแบบนี้สมควรตายแล้ว...""ท่านอ๋อง!"
ท่านอ๋องได้รับบาดเจ็บ!เมื่อได้ยินข่าว เหล่าคุณหญิงคุณชายทั้งหลายต่างก็รีบกรูกันเข้าไปในป่าทันทีโดยเฉพาะพวกผู้หญิง เดิมทีพวกเธอก็อยู่รอให้จวินเย่เสวียนออกมาอยู่แล้วพอได้ยินข่าวนี้ ทุกคนเลยทนไม่ได้ รีบพากันบุกเข้าไปในเขตสัตว์ดุร้ายทันทีเสวียนอ๋องไม่ได้จะบาดเจ็บกันง่ายๆ นี่มันคือโอกาสทองชัดๆถ้าหากสามารถช่วยชีวิตเสวียนอ๋องกลับมาได้...บางทีเขาอาจจะยอมแต่งงานด้วยเลยก็ไม่แน่กู้อวิ๋นซีฟังแล้วถึงกับอึ้งจนพูดอะไรไม่ออกไปเขตสัตว์ดุร้าย ตายได้เลยนะนั่น เพื่อช่วยเสวียนอ๋องพวกนางไม่กลัวตายเลยจริงๆ เหรอ"พระชายา ท่านไม่ต้องร้อนใจไป กระหม่อมจะหาคนไปช่วยท่านอ๋องเดี๋ยวนี้""ข้า..." กู้อวิ๋นซีไม่รู้ว่าเธอควรจะอธิบายดีหรือไม่ ความจริงแล้วเธอ...ไม่ได้ร้อนใจอะไรขนาดนั้นเลยจริงๆองค์ชายสี่เก่งกาจออกปานนั้น กับแค่หมาป่าไม่กี่ตัว คงทำให้เขาบาดเจ็บไม่ได้หรอกอีกอย่าง ถึงจะบอกว่าเป็นเขตสัตว์ดุร้าย แต่ยังไงที่นี่ก็เป็นสนามล่าสัตว์ของราชวงศ์นะต่อให้เป็นเขตสัตว์ดุร้าย ก็คงจะค่อนข้างปลอดภัยประมาณหนึ่งนั่นแหละเยียนเป่ยไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เพียงแค่เขาโบกมือให้สัญญาณ ทหารองค์รักษ์ด้านหลังส
ทั้งๆ ที่พวกเขามาที่นี่ก็เพื่อช่วยเสวียนอ๋องแท้ๆแต่พอตัวเองต้องตกอยู่ในอันตรายจริงๆ สิ่งที่กู้อวิ๋นซีคิด กลับเป็นการให้เสวียนอ๋องมาช่วยเหลือพวกเธอจะเป็นไปได้เหรอกู้อวิ๋นซีทิ้งธนูคันเล็กของเธออย่างไม่ใยดี ก่อนจะเอื้อมไปรับกระบี่เล่มยาวที่เยียนเป่ยส่งมาให้แต่เธอก็ไม่มีโอกาสได้แสดงฝีมือหรอก เพราะเยียนเป่ยคอยปกป้องเธออยู่ข้างหน้าตลอดเวลาแต่ผู้หญิงคนอื่น กลับไม่ได้โชคดีแบบนี้"อ๊าก!""ข้าบาดเจ็บแล้ว ฮือออ..."เหล่าหญิงสาวพากันวิ่งพล่านไปทั่ว พวกทหารก็ไม่อาจจะต้านทานการโจมตีของฝูงหมาป่าได้อีกแล้วไม่นาน พวกผู้หญิงก็เริ่มบาดเจ็บกันมากขึ้นเลือดสดๆ ไหลรินไปทั่วความสิ้นหวังเกาะกินในหัวใจของทุกๆ คน...แล้วจู่ๆ ก็มีการโจมตีอย่างบ้าคลั่งเกิดขึ้น"อะวู๊ววว..." เสียงหอนของหมาป่าดูจะแตกต่างออกไปจากเมื่อกี้และในเวลาไม่นานทุกคนก็พบว่าพวกหมาป่ากำลังเคลื่อนย้ายเป้าหมายถึงกับยอมทิ้งพวกเขา เพื่อมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน"อะวู๊ววว..." ราชาหมาป่าเองก็หอนตอบเช่นกันเสียงของมันคล้ายกับว่ากำลังเจอศัตรูที่แข็งแกร่ง!"สะ...เสวียนอ๋อง เป็นเสวียนอ๋อง!"มีคนตะโกนขึ้นมาอย่างตกใจทุกคนให้ความส
ได้ข่าวว่าพระชายาหลีอ๋องทำให้เสวียนอ๋องโกรธ ตอนนี้เลยถูกลงโทษซะน่าสงสารเลยพวกขันที นางกำนัลทั้งหลายเอาไปคุยกันสนุกปากแล้วทุกคนกำลังดื่มกินอย่างสนุกสนาน มีเพียงพระชายาหลีอ๋องคนเดียวที่นั่งอยู่บนพื้น!ใช่แล้ว นั่งบนพื้นนั่นแหละขนาดร่วมโต๊ะอาหารเธอยังไม่มีสิทธิ์เลย!เฮ้อ...ไม่รู้ว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไรที่กู้อวิ๋นซีได้แต่มองอาหารเลิศรสเบื้องหน้าแล้วได้แต่แอบลอบถอนหายใจเบาๆหิวจัง...ถึงแม้คืนนี้จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นที่สนามล่าสัตว์ มีทหารองค์รักษ์โชคร้ายตายไป แถมผู้หญิงหลายคนยังได้รับบาดเจ็บแต่ ในวังก็เป็นสถานที่โหดร้าย ไร้ความรู้สึกแบบนี้แหละแค่ทหารองค์รักษ์ตายไปไม่กี่คน พวกเขาไม่รู้สึกรู้สาอะไรหรอกหลังจากที่ทุกคนออกจากสนามล่าสัตว์แล้ว ก็มากินเลี้ยงกันต่อที่ตำหนักราชนิเวศน์ในสนามล่าสัตว์ต่อถึงแม้ที่นี่จะไม่หรูหราสะดวกสบายเท่ากับในวัง แต่สิ่งของที่ควรมี ก็มีครบพร้อมทุกอย่างขนาดจำนวนบ่าวรับใช้ ขันทีนางกำนัลก็มีมากมายอาหารก็ยิ่งไม่ด้อยไปกว่าในวังหลวงเลยอีกทั้งวันนี้ทุกคนยังล่าสัตว์กันมาได้จำนวนไม่น้อย ตอนนี้อาหารที่ขึ้นโต๊ะโดยมากจะเป็นพวกเนื้อย่างและสุราโครกกก...
กู้อวิ๋นซียื่นปากเล็กๆ ของเธออย่างผิดหวังสุดขีดเธอทำได้เพียงกลับไปนั่งบนพื้นก่อนจะทุบขาให้เขาต่ออย่างเดิมชีวิตนี้ช่างน่าอดสูนักหนานกงหลันเออร์โมโหมากจนแทบจะระเบิดได้นังผู้หญิงแพศยาหน้าไม่อาย นางจงใจชัดๆ!นางแต่งงานกับหลีอ๋องไปแล้ว ถึงทุกคนจะรู้ดีว่าหลีอ๋องร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็กก็เถอะ แต่ไม่ว่าจะไม่ดียังไงเขาก็เป็นสามีของนางนะ!นี่นางบังอาจให้ท่าเสวียนอ๋องทั้งๆ ที่ตัวเองก็มีสามีอยู่แล้วเนี่ยนะไร้ยางอายจริงๆหนานกงหลันเออร์สูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามปรับสีหน้าของตัวเองอย่างเต็มที่ก่อนจะยื่นเหล้าไปให้จวินเย่เสวียนด้วยสีหน้าสดใสอีกครั้ง "ท่านพี่เย่เสวียน ข้าคารวะท่าน"แต่ไม่ว่ายังไง ผู้หญิงที่มีสามีแล้วอย่างกู้อวิ๋นซีก็ออกหน้าออกตาไม่ได้หรอก ได้แค่นั่งอยู่บนพื้น เป็นเสมือนสาวใช้ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นส่วนตัวเธอนั้นฐานะสูงส่ง มีเกียรติ งามสง่า ทำไมจะต้องลดตัวไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงเช่นนี้ด้วยจวินเย่เสวียนยกจอกเหล้าขึ้นมาเตรียมจะดื่มลงไปจู่ๆ เสียงประหลาดก็ดังขึ้นก่อนที่เข้าจะได้ดื่มเหล้าโครกกก...นัยตาเขามืดครึ้ม วางจอกเหล้าลง ก่อนจะก้มหน้าลงไปถามเด็กสาวที่นั่งอยู่บนพื
กู้อวิ๋นซีถูกจับโยนขึ้นไปบนรถม้าปึก หัวเธอถูกกระแทกไปหนึ่งที เจ็บจนน้ำตาเธอจะไหลออกมาอยู่แล้ว"เจ็บจัง..." เธอเอามือกุมไปยังตำแหน่งที่เจ็บ ก่อนจะหันไปแจกค้อนวงใหญ่ให้กับผู้ชายที่นั่งอยู่ตำแหน่งกลางดวงตาทั้งคู่หวานเยิ้ม แต่พร่ามัวเนื่องจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เธอมองไปที่จวินเย่เสวียนด้วยความรู้สึกที่ทั้งน้อยใจและโมโห "คนเลว...""พึมพัมอะไรของเจ้า" จวินเย่เสวียนค้อมตัวลงไป ก่อนจะคว้าตัวเธอมานั่งใกล้ๆเขาหรี่ตาลง "ด่าข้าเหรอ"ใจกล้าไม่เบานะ ถึงขนาดกล้าด่าเขาว่าคนเลวกู้อวิ๋นซีไม่สนใจเขา ยังคงเอามือกุมไปที่หัว ก่อนจะนวดเบาๆจวินเย่เสวียนจ้องมองไปในดวงตารื้นของเธอ ดูเหมือนจะมีน้ำตาคลอรื้นเตรียมจะหยดลงมาอยู่ด้วยเจ็บขนาดนั้นเชียว?ใจเขาอ่อนยวบลงอย่างประหลาดจวินเย่เสวียนคว้าเธอเข้ามา ก่อนจะเอาฝ่ามือใหญ่ของเขาวางไปบนหน้าผากของเธอทันใดนั้นกู้อวิ๋นซีก็รู้สึกถึงไอพลังอุ่นๆ ผ่านฝ่ามือของเขา เข้าสู่จุดที่หัวของเธอถูกกระแทกที่น่าแปลกก็คือ ดูเหมือนแผลที่หัวของเธอจะรู้สึกเจ็บน้อยลงแล้วฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ถูกความเจ็บปวดกดไว้เมื่อครู่ ค่อยๆ แสดงอาการอีกครั้งหลังจากอาการเจ็บปวดที่หัวของเธอน้อ
เงาร่างในชุดสีขาวนั้น หลังจากที่ออกจากหอชมจันทร์แล้วก็เดินเข้าไปทางเล็กๆ ในสวนดอกไม้แทนกู้อวิ๋นซียังมองหน้าเขาได้ไม่ชัด แต่ชุดสีขาว เป็นชุดที่ฉู่หลีชอบใส่เป็นประจำอีกอย่าง ความสงบนิ่งที่แผ่ออกมาจากตัวเขาทำให้คนที่อยู่รอบข้างรู้สึกสงบเย็นลงได้โดดเด่นขนาดนี้ต้องเป็นฉู่หลีแน่นอน!ฉู่หลีไม่ได้ออกไปนอกจวนอ๋อง แต่ทำไมองค์ชายสี่ถึงบอกว่าเขาออกไปทำธุระข้างนอกล่ะ"ฉู่หลี!" กู้อวิ๋นซีรีบตามไปแต่ระยะห่างต่างกันมากเหลือเกิน หลังจากที่เข้าเลี้ยวผ่านซุ้มประตูโค้งไป ก็หายไปจากสายตาของเธอแล้วกู้อวิ๋นซีรีบไล่ตามไป แต่เพิ่งจะผ่านซุ้มโค้ง ก็เห็นชุดสีขาวเดินเข้าไปในประตูซุ้มโค้งอีกอัน"ฉู่หลี!"แต่เขาไม่ได้ยินเธอเลยกู้อวิ๋นซีรีบตามไปต่อ หลังจากผ่านมาสองซุ้งโค้ง ก็เดินผ่านภูเขาและแม่น้ำจำลองท้ายสุดของสวน เป็นตำหนักหลังหนึ่งที่เธอไม่เคยไปมาก่อนจวินฉู่หลีเดินเข้าไปในนั้น จากนั้นก็หายไปเลยมองจากไกลๆ เธอเห็นป้ายชื่อตำหนักแว๊บๆ หออวิ๋นหลี!ยังไม่ทันที่กู้อวิ๋นซีจะได้เข้าใกล้ ก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่แผ่กระจายออกมาจากตำหนักหลังนั้นตำหนักนี้ ถูกคุ้มกันไว้แน่นหนาถึงเพียงนี้เชียวหรื