สุดท้าย จวินเย่เสวียนก็ยอมหันไป ถึงแม้จะยังมีอาการไม่พอใจอยู่บ้างก็ตามแต่เหมือนกู้อวิ๋นซีจะได้พบกับความจริงข้อหนึ่ง นั่นก็คือ องค์ชายสี่ผู้นี้แท้จริงแล้วก็ไม่ได้เย็นชาไร้เมตตาขนาดนั้น เขาไม่ใช่คนเอาแต่ใจไม่คิดถึงคนอื่นขนาดนั้นเขาถึงขั้นช่วยเธอหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาส่งให้เธอที่เตียงด้วยจากนั้นเขาก็เดินไปนั่งพักที่ด้านข้าง มองดูบาดแผลที่ขาของตัวเอง แล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจเยียนเป่ยถูกแยกตัวออกไปแล้ว ส่วนจะให้ไปตามหมอหลวงมาทำแผลให้ตอนนี้ก็ไม่ได้อีกก็เลยได้แต่นั่งมองเลือดที่ไหลออกจากปากแผลตัวเองอยู่อย่างนั้นในที่สุดกู้อวิ๋นซีก็สวมเสื้อผ้าเรียบร้อย เมื่อเธอหันไปมองก็เห็นจวินเย่เสวียนกำลังฉีกผ้าผืนยาว คิดจะทำแผลให้ตัวเองอย่างลวกๆเธอรีบห้ามเขาอย่างรีบร้อน "องค์ชายสี่ มีเศษกระเบื้องฝังอยู่ที่แผลด้วยนะเพคะ ต้องทำความสะอาดแผลก่อน!"เธอพยายามคลำทางลงมาจากเตียง เพื่อจะเดินไปหยิบกล่องๆ หนึ่งที่ตั้งอยู่ไม่ไกล ทั้งๆ ที่ตอนนี้ขาของเธอก็ยังคงรู้สึกอ่อนแรงอยู่กล่องๆ นั้นบ่าวรับใช้เป็นคนเตรียมไว้ให้เธอ ข้างในมีห่อเก็บเข็มของเธออยู่ด้วยเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับห่อเข็ม
กู้อวิ๋นซีคิดไปถึงคืนวันเข้าหอที่บ้าระห่ำราวกับพายุคลั่งคืนนั้นทันทีผู้ชายที่อยู่ด้านหลังเธอ จับใบหน้าของเธอให้หันไปรับจูบที่ดูดดื่มของเขาจูบนั้นทั้งลึกซึ้งและทรงพลังเธออยากจะมองหน้าเขา แต่เขาก็ไม่เคยเปิดโอกาสทุกครั้งที่เธอจะหันหลังกลับไปมองเขา ก็จะถูกเขากระทำรุนแรงด้วยพละกำลังมหาศาลจนเธอต้องกรีดร้องออกมาอย่างไม่เป็นภาษาตั้งแต่ต้นจนจบเธอจึงไม่มีโอกาสได้มองใบหน้าเขาชัดๆ เลย เธอเลยมองไม่ชัดว่าในดวงตาของเขาคู่นั้นมีอะไรแอบแฝงอยู่กันแน่...ในเวลานี้กู้อวิ๋นซีมองไปที่จวินเย่เสวียน ร่างกายที่บอบบางของเธอเริ่มสั่นน้อยๆทันใดนั้น เขาก็ซ้อนมืออุ้มเธอขึ้นมากู้อวิ๋นซีตกใจจนใช้ฝ่ามือผลักเขาออกอย่างแรง "อย่ามาแตะต้องตัวข้า!"จวินเย่เสวียนใช้หน้าอกของเขารับแรงกระแทกจากฝ่ามือของเธอไปเต็มๆ โดยไม่ทันได้เตรียมตัวป้องกันใดๆเลือดสดๆ ค่อยๆ ไหลออกจากบริเวณมุมปากของเขาทันทีกู้อวิ๋นซีได้สติในทันใด เธอเพิ่งตระหนักได้ว่าคืนนี้ตอนที่เขาใช้กำลังภายในควบคุมฤทธิ์ยา ก็ได้รับบาดเจ็บภายในมาประมาณหนึ่งแล้วเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้มีเรี่ยวแรงใดๆ แต่กลับสามารถรวบรวมพลังปราณม
เมื่อกู้อวิ๋นซีทำความเคารพไทเฮาเรียบร้อย ก็หันไปมองทางชายหนุ่มทันที "ฉู่หลี!"แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อเขาหันกลับมา ทำให้กู้อวิ๋นซีเห็นใบหน้าของเขาชัดๆเขาใส่ชุดเสื้อคลุมสีขาวทั้งตัว ซึ่งเป็นสีที่จวินฉู่หลีชอบใส่แต่ที่หางตาของเขา มันกลับไม่มีไฝเสน่ห์เม็ดนั้น!เขาคือองค์ชายสี่ จวินเย่เสวียน!ฉับพลับ ร่างกายของกู้อวิ๋นซีก็แน่นิ่งไปอย่างกับโดนสาป"ดูท่า กระทั่งภรรยาของน้องห้าคนนี้ ก็ยังจำสับสนระหว่างข้ากับน้องห้าได้โดยง่ายเช่นกัน"Comment by mzmmmwl9477@163.com: 建议改为ข้าจวินเย่เสวียนใช้สายตาเรียบสงบจับจ้องไปที่เธอไทเฮารู้จักนิสัยของหลานชายคนนี้ของเธอดี กลัวว่ากู้อวิ๋นซีจะไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจจึงพยายามพูดเชิงหยอกล้อว่า "ที่ผ่านมาเสวียนเออร์ไม่ใส่ชุดคลุมสีขาว อย่าว่าแต่ซีเออร์จะมองไม่ออกเลย ขนาดข้าเองเห็นครั้งแรกยังจำผิดเลย!"Comment by mzmmmwl9477@163.com: ข้า"มาๆๆ ซีเออร์รีบเข้ามา มานั่งตรงข้างๆ ข้านี่"Comment by mzmmmwl9477@163.com: 同上ไทเฮาดึงมือของกู้อวิ๋นซี ก่อนจะขมวดคิ้วถาม "เหตุใดมือจึงเย็นจัดเช่นนี้ หรือว่าที่ริมสระนี้ลมจะพัดแรงเกินไป เจ้าเลยหนาว""หลานไม่เป็นไรเพคะ
กู้อวิ๋นซีรีบชักมือกลับอย่างรวดเร็วเธอไม่กล้าแตะต้องม่านกั้นประตูนั่นอีกเลยเธอมองค้อนจวินเย่เสวียน ถึงจะโมโหแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรรู้อย่างนี้เมื่อคืนไม่ช่วยเขาทำแผลก็คงดี ให้เขาเลือดไหลหมดตัวตายไปเลย!ดีแต่เที่ยวรังแกคนอื่นได้ทุกวี่ทุกวัน คนเลว!ฉู่หลีออกจะเป็นคนดีอบอุ่น ทำไมถึงมีพี่ชายที่นิสัยเสียแบบนี้ได้เนี่ย"อะไรของเจ้า" จวินเย่เสวียนจ้องหน้าเธอหน้าเธอเล็กแค่ฝ่ามือของเขาได้ ตัวก็เล็ก อ่อนแอขนาดนี้ทำไมถึงกล้าแสดงสีหน้าไม่พอใจต่อหน้าเขาช่างกล้าไม่เบานะ!"องค์ชายสี่ เหตุใดถึงแสดงตัวด้วยสถานะนี้ล่ะเพคะ"ถ้าเสวียนอ๋องปรากฎตัว แล้ว "ฉู่หลี" ล่ะ คนทั้งคน ทำไมจู่ๆ ถึงหายไปได้"ข้าไม่อยากแสร้งเป็นสามีเจ้าอีก! เบื่อ!" จวินเย่เสวียนพูดอย่างไม่พอใจกู้อวิ๋นซีได้แต่เก็บความไม่พอใจไว้ในใจพูดอย่างกับว่าตัวเธอไม่เบื่ออย่างนั้นแหละ!ทำตัวเป็นปีศาจน่ากลัวอยู่ได้ทั้งวัน ใครจะอยากแกล้งเป็นสามีภรรยากับเขากันเหนื่อยจะตายแต่ว่า เสวียนอ๋องไม่ใช่คนโง่ ในเมื่อเขากล้าแสดงตัวในฐานะของตัวเอง ก็จะต้องมีข้ออ้างดีๆ แน่เมื่อครู่ตอนไทเฮาเจอเขาก็ไม่เห็นถามว่าฉู่หลีไปไหนเลยหนิไม่ใช่เหรอนั่นต
กู้อวิ๋นซีก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมในเวลาคับขับแบบนี้เธอถึงอยากเรียกให้จวินเย่เสวียนมาช่วยน่าจะเป็นเพราะเธอรู้ว่าฉู่หลีไม่ได้อยู่ที่นี่ ที่นี่มีเพียงองค์ชายสี่กระมังหรือไม่ก็อาจเป็นเพราะ เธอเคยเห็นความว่องไวของจวินเย่เสวียน รู้ว่าเขาเคลื่อนไหวตัวได้เร็วมากในระดับเหนือจินตนาการถึงยังไง คนที่เธอขอความช่วยเหลือก็คือเขาเธอรู้สึกเหมือนมีเงาสีดำๆ เคลื่อนผ่านหน้าไปอย่างรวดเร็วกู้อวิ๋นซีรู้สึกได้ว่าตัวเธอลอยๆ ภาพทุกอย่างที่ผ่านตาล้วนรวดเร็วไปหมดมันเร็วจากจนเธอตาลายคล้ายจะเป็นลม จนต้องรีบปิดตาลง"อ๊าย..." ไม่ไกลนักมีเสียงม้าร้องขึ้นพร้อมกับเสียงกรีดร้องของผู้หญิงกู้อวิ๋นซีลืมตาขึ้นโดยสัญชาตญาณ เมื่อมองไปก็เห็นว่าผู้หญิงที่เกือบจะขับม้าชนเธอเมื่อครู่กำลังร้องครวญครางอยู่บนพื้นส่วนม้าตัวนั้น...น่าสงสาร หลังจากที่มันล้มไป ก็ลุกไม่ขึ้นอีกเลยส่วนตัวเธอ...เมื่อเงยหน้าก็เห็นผู้ชายที่อยู่ข้างๆ ใช้ผ่ามือใหญ่ของเขาประคองแขนสองข้างของเธออยู่ ก่อนจะมองจ้องมาในตาของเธอ "บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า"กู้อวิ๋นซีกระพริบตาปริบๆ เหมือนเพิ่งจะรู้สึกตัว ก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆจวินเย่เสวียนแววตาสั่นไหวเล็กๆ จู่ๆ ก็
ที่ในสนามล่าสัตว์ยังมีพวกคุณหญิงคุณชายอีกหลายคนถึงจะไม่ใช่เชื้อสายราชวงศ์ แต่ก็เป็นเหล่าราชนิกูลที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับคนในราชวงศ์ทั้งหลายทุกคนมองไปที่จวินเย่เสวียนในตอนนี้ ไม่มีใครกล้าเงยหน้า ขนาดจะหายใจแรงๆ ยังไม่กล้าเลยหากทำให้เสวียนอ๋องไม่พอใจขึ้นมา คงต้องโทษตายสถานเดียวคนที่ถูกเขาไล่ตะเพิดไปเมื่อกี้ดูเหมือนจะเป็นพระชายาหลีอ๋อง"คงไม่ใช่คิดว่าตัวเองหน้าตาสะสวย ก็เลยคิดจะแอบให้ท่าเสวียนอ๋องหรอกนะ เลยถูกท่านอ๋องลงโทษไปขนาดนั้น"บางกลุ่มแอบซุบซิบนินทากัน แน่นอนว่าสาวสวยหน้าตาดีราวดอกไม้แรกแย้มอย่างกู้อวิ๋นซี พวกเธอต้องอิจฉาริษยาเป็นธรรมดาอยู่แล้ว"ถึงจะหน้าตาดีจริง แต่เสวียนอ๋องเกลียดการใกล้ชิดกับผู้หญิงเป็นที่สุด นางไม่รู้หรือไง""เจ้าไม่เห็นที่ท่านอ๋องซัดม้าของหนานกงหลันเออร์ล้มหรือไง แม่นางหนานกงนั่นล้มจนเหวอะไปหมด""ก็ใช่ไง เสวียนอ๋องขึ้นชื่อเรื่องความเย็นชาไร้ความรู้สึกเป็นที่สุด ถ้าใครกล้าไปให้ท่าเขาไม่เท่ากับรนหาที่ตายเลยหรือ""ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงที่มีสามีแล้วเลย""แถมยังเป็นพระชายาของหลีอ๋องด้วยนี่น่ะสิ! ผู้หญิงใจง่ายแบบนี้สมควรตายแล้ว...""ท่านอ๋อง!"
ท่านอ๋องได้รับบาดเจ็บ!เมื่อได้ยินข่าว เหล่าคุณหญิงคุณชายทั้งหลายต่างก็รีบกรูกันเข้าไปในป่าทันทีโดยเฉพาะพวกผู้หญิง เดิมทีพวกเธอก็อยู่รอให้จวินเย่เสวียนออกมาอยู่แล้วพอได้ยินข่าวนี้ ทุกคนเลยทนไม่ได้ รีบพากันบุกเข้าไปในเขตสัตว์ดุร้ายทันทีเสวียนอ๋องไม่ได้จะบาดเจ็บกันง่ายๆ นี่มันคือโอกาสทองชัดๆถ้าหากสามารถช่วยชีวิตเสวียนอ๋องกลับมาได้...บางทีเขาอาจจะยอมแต่งงานด้วยเลยก็ไม่แน่กู้อวิ๋นซีฟังแล้วถึงกับอึ้งจนพูดอะไรไม่ออกไปเขตสัตว์ดุร้าย ตายได้เลยนะนั่น เพื่อช่วยเสวียนอ๋องพวกนางไม่กลัวตายเลยจริงๆ เหรอ"พระชายา ท่านไม่ต้องร้อนใจไป กระหม่อมจะหาคนไปช่วยท่านอ๋องเดี๋ยวนี้""ข้า..." กู้อวิ๋นซีไม่รู้ว่าเธอควรจะอธิบายดีหรือไม่ ความจริงแล้วเธอ...ไม่ได้ร้อนใจอะไรขนาดนั้นเลยจริงๆองค์ชายสี่เก่งกาจออกปานนั้น กับแค่หมาป่าไม่กี่ตัว คงทำให้เขาบาดเจ็บไม่ได้หรอกอีกอย่าง ถึงจะบอกว่าเป็นเขตสัตว์ดุร้าย แต่ยังไงที่นี่ก็เป็นสนามล่าสัตว์ของราชวงศ์นะต่อให้เป็นเขตสัตว์ดุร้าย ก็คงจะค่อนข้างปลอดภัยประมาณหนึ่งนั่นแหละเยียนเป่ยไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เพียงแค่เขาโบกมือให้สัญญาณ ทหารองค์รักษ์ด้านหลังส
ทั้งๆ ที่พวกเขามาที่นี่ก็เพื่อช่วยเสวียนอ๋องแท้ๆแต่พอตัวเองต้องตกอยู่ในอันตรายจริงๆ สิ่งที่กู้อวิ๋นซีคิด กลับเป็นการให้เสวียนอ๋องมาช่วยเหลือพวกเธอจะเป็นไปได้เหรอกู้อวิ๋นซีทิ้งธนูคันเล็กของเธออย่างไม่ใยดี ก่อนจะเอื้อมไปรับกระบี่เล่มยาวที่เยียนเป่ยส่งมาให้แต่เธอก็ไม่มีโอกาสได้แสดงฝีมือหรอก เพราะเยียนเป่ยคอยปกป้องเธออยู่ข้างหน้าตลอดเวลาแต่ผู้หญิงคนอื่น กลับไม่ได้โชคดีแบบนี้"อ๊าก!""ข้าบาดเจ็บแล้ว ฮือออ..."เหล่าหญิงสาวพากันวิ่งพล่านไปทั่ว พวกทหารก็ไม่อาจจะต้านทานการโจมตีของฝูงหมาป่าได้อีกแล้วไม่นาน พวกผู้หญิงก็เริ่มบาดเจ็บกันมากขึ้นเลือดสดๆ ไหลรินไปทั่วความสิ้นหวังเกาะกินในหัวใจของทุกๆ คน...แล้วจู่ๆ ก็มีการโจมตีอย่างบ้าคลั่งเกิดขึ้น"อะวู๊ววว..." เสียงหอนของหมาป่าดูจะแตกต่างออกไปจากเมื่อกี้และในเวลาไม่นานทุกคนก็พบว่าพวกหมาป่ากำลังเคลื่อนย้ายเป้าหมายถึงกับยอมทิ้งพวกเขา เพื่อมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน"อะวู๊ววว..." ราชาหมาป่าเองก็หอนตอบเช่นกันเสียงของมันคล้ายกับว่ากำลังเจอศัตรูที่แข็งแกร่ง!"สะ...เสวียนอ๋อง เป็นเสวียนอ๋อง!"มีคนตะโกนขึ้นมาอย่างตกใจทุกคนให้ความส