ไทเฮาเคยบอกแล้วว่าเขาต้องแสร้งทำตัวเป็นศัตรูตัวฉกาจของหวังหยวน ดังนั้นเขาจึงพูดทันที “ทูลไทเฮา ความเกลียดชังที่ฆ่าเสด็จพ่อของข้า ข้าจะยุติความบาดหมางในอดีตได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ!!” “หากเป็นเช่นนี้จริง ข้าจะไม่กลายเป็นคนทรยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหรือพ่ะย่ะค่ะ?” เสียงของอากู่ฉาต่ำลง หลังจากนั้นทุกคนก็ประหลาดใจ! นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่อากู่ฉากล้าหักหน้าไทเฮา! เจ้าผู้น้อยคนนี้... เป็นไปได้ไหมที่เขาจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ? พวกเขาทั้งหมดต่างตกตะลึง อ๋องเจิ้นตงและอ๋องเซ่อเป่ยกลับยิ้ม และแอบมองอากู่ฉาอย่างเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไรสักคำ ไทเฮาเซียวฉู่ฉู่กระแอมเบา ๆ อย่างเย็นชาและหยุดพูด คำพูดของอากู่ฉาไม่มีอะไรผิด มันยากจริง ๆ ที่จะละทิ้งความเกลียดชังที่ฆ่าพ่อของตัวเอง! ดังนั้นนางจึงไม่สามารถเอ่ยพูดได้อีก เพื่อหลีกเลี่ยงคำวิจารณ์จากทุกคน “ไทเฮา ในเมื่ออากู่ฉาไม่เห็นด้วย เช่นนั้น... กระหม่อมทำได้เพียงร้องขออย่างอื่นเท่านั้นแล้วพ่ะย่ะ่ค่ะ!” หวังหยวนรู้ว่าอากู่ฉาไม่มีทางเห็นด้วย และเมื่อครู่นี้ก็เป็นเพียงข้ออ้างที่จะแสดงให้พวกเขาเห็นเท่านั้น ไม่ว่าพวกเขาจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม หวังหยวนก็ไม่สน
เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย หวังหยวนพูดแบบนี้ออกมาได้เท่านั้นแต่เมื่อพูดออกมาแล้วนั้น หวงเจียวเจียวก็ยิ่งรู้สึกหดหู่มากขึ้นกว่าเดิม!แต่...นางไม่เคยเกลียดหวังหยวนเลย ครั้งสุดท้ายที่นางไปเดินเล่นริมทะเลสาบในคืนนั้น ถ้าหวังหยวนต้องการนางจริง ๆ นางไม่ลังเลและจะมอบให้กับเขา!เพราะในตอนนั้น ไทเฮามีรับสั่งใช้ทุกวิถีทางเพื่อเกลี้ยกล่อมหวังหยวนให้ได้!ดังนั้น...ต่อให้เป็นร่างกายของนางเอง นางก็ยินดีที่จะแลก!เมื่อไทเฮาและใต้เท้าทุกคนได้ยินดังนั้น พวกเขาต่างตกใจนิ่งอึ้งกันไปหมด!นี่...อย่างไรก็ตาม หลายคนต่างก้มหน้าเพราะรู้สึกอับอาย และยังนิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกมาท้ายที่สุดแล้วนี่เป็นเรื่องในครอบครัวหลายคนเคยได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่หวงเจียวเจียวทำในต้าเย่!นักร้องจากหอไป่เฟิง นั่นไม่ใช่แค่ชื่อหรอกเหรอ?ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องได้นี่สิแปลก!“เจ้า...เจ้า...ไอ้สารเลว!”ในตอนนั้นอ๋องหลงซีก็โกรธมาก ในเวลานั้นไทเฮาเซียวฉู่ฉู่ก็คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และกล่าวว่า“เอาเถอะ อ๋องหลงซี ข้ารู้ว่าเจ้ารักลูกสาวของเจ้า แต่ข้าคิดว่าคงไม่มีใครในโลกนี้ที่ยินดีที่จะแต่งงานกับเจียวเจียวจริง ๆ!”“ถึงอย่างนั้น ข
ทันทีที่พูดออกมา อ๋องหลงซีก็พยักหน้า“ใช่ มันเป็นความลับสุดยอด บางครั้งข้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นสมาชิกขององค์รักษ์เงา นี่เป็นกฎขององค์รักษ์เงาเช่นกัน จะไม่มีใครรู้รายชื่อองค์รักษ์เงาทุกคนทั้งหมด องค์รักษ์เงาจะได้ปลอดภัยตลอดไป!”“แต่ต้องมีคนทำอะไรบางอย่างอยู่เสมอ!”คำพูดของอ๋องหลงซีทำให้หวังหยวนประหลาดใจ จากนั้นเขาก็หยิบป้ายเจ็ดอันที่เป็นสัญลักษณ์ขององค์รักษ์เงาออกมา“คนเจ็ดคนนี้คือคนที่มาจัดการข้า ข้าอยากถาม...มีใครรู้เกี่ยวกับคนเจ็ดคนนี้ หรือสมาชิกคนอื่น ๆ ในกลุ่มองค์รักษ์เงาพวกเจ้าบ้างไหม?”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ อ๋องหลงซีก็กล่าวอย่างมั่นใจว่า“ไม่! ทั้งเจ็ดคนนี้ ข้าไม่รู้ว่าพวกเขามาจากไหนด้วยซ้ำ”หวังหยวนกระพริบตาปริบ ๆ “ท่านไม่รู้... คงเป็นเรื่องปกติใช่ไหม? ท่านหมายความว่าข้อมูลองค์รักษ์เงารั่วไหลอย่างนั้นเหรอ? อาจมีคนอื่นมาจัดการยุ่มย่ามงั้นรึ?”“เจ้าคิดว่าข้า อ๋องหลงซีเป็นพวกกระจอกจริง ๆ งั้นหรือ? ชิ ข้าจงใจทั้งนั้น ข้ารู้ดีว่าเขาเป็นคนของใคร และทำอะไร!”จู่ ๆ อ๋องหลงซีก็เย้ยหยันออกมา หวังหยวนก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับท่าทางเช่นนั้น“ข้าไม่รู้ว่าคนทั้งเจ็ดนี้ปราก
ในคืนนั้นไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างแต่วันรุ่งขึ้น จดหมายฉบับหนึ่งวางไว้บนโต๊ะของอ๋องเจิ้นตง!อ๋องเจิ้นตงที่เพิ่งกลับถึงห้องหนังสือ ทันทีที่เข้ามาเขาก็เห็นซองจดหมายวางอยู่บนโต๊ะ!สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาเดินออกจากห้อง ถามทหารองค์รักษ์ที่เฝ้ารักษาการณ์อยู่ และถามออกไปว่า "เจ้าเห็นใครเข้ามาในห้องหนังสือข้าบ้างไหม"“ทูลท่านอ๋อง ไม่เห็นเลยพ่ะย่ะค่ะ!”ทหารองค์รักษ์ที่เฝ้ารักษาการณ์พูดออกมา หลังจากที่พูดสีหน้าของอ๋องเจิ้นตงก็เปลี่ยนไป เขารีบเดินเข้าไปในห้องอ่านหนังสือและหยิบซองจดหมายขึ้นมา!เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วเปิดมันออก!เมื่อกวาดตาอ่านดู เขาก็หน้าถอดสีทันที!‘เกาเล่อกำลังวางแผนทรยศอย่างลับ ๆ กับไทเฮา ท่านอ๋องโปรดระวังด้วย!’จดหมายฉบับนี้มีแค่ข้อความนี้ประโยคเดียวเท่านั้น!แต่ประโยคนี้ทำให้อ๋องเจิ้นตงหน้าถอดสีทันที!เขาขมวดคิ้วแล้วหัวเราะเบา ๆ “แผนโง่ ๆ!”หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็เผาจดหมายทิ้งทันที“ทหาร เรียกชาเอ๋อร์มา!”อ๋องเจิ้นตงตะโกนออกไป ทหารองค์รักษ์ก็รับคำสั่งทันที ชายหนุ่มรูปงามเดินเข้ามาและพูดทำความเคารพทันที“ท่านพ่อ เรียกหาลูกหรือพ่ะย่ะค่ะ”คนที
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อาปู้ชาก็พยักหน้า "สิ่งที่เสด็จพ่อกล่าว ถึงแม้เราจะพึ่งพาเกาเล่ออย่างมาก แต่เราต้องระวังจริง ๆ หรือ!"อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้น ทหารรักษาการณ์ที่อยู่นอกประตูมารายงานว่า "ท่านอ๋อง ใต้เท้าเกามาขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ"อ๋องเจิ้นตงและลูกชายมองหน้ากันและพยักหน้า "ให้เขาเข้ามา"เกาเล่อไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเดินเข้าไปในห้องหนังสือ และได้พบอ๋องเจิ้นตงและอาปู้ชา เขาพูดถวายบังคมว่า “ท่านอ๋อง องค์ชาย”อ๋องเจิ้นตงยิ้มแล้วพูดว่า "เกาเล่อ มานี่แต่เช้า มีเรื่องอะไรรึ?"เกาเล่อรีบพูดว่า “ท่านอ๋อง วันนี้ในวังไทเฮามีรับสั่งลงมา ว่าวันไหว้บรรพบุรุษที่ใกล้จะถึงนี้ จะให้ทหารองค์รักษ์หวงจัดการดูแลเรื่องนี้พ่ะย่ะค่ะ”อ๋องเจิ้นตงพยักหน้ารับ “ใช่ เรื่องแบบนี้ ทหารองค์รักษ์หวงเป็นคนจัดการดูแลมาโดยตลอด”เกาเล่อยิ้มแล้วพูดว่า "ถ้าอย่างนั้น กระหม่อมจะกลับรายงานที่วังหลวงก่อน"หลังจากพูดจบ เกาเล่อก็ไม่คิดสนใจอะไร ท้ายที่สุด เรื่องแบบนี้หารองค์รักษ์หวงเป็นผู้จัดการทุกปี และเขาก็เป็นคนที่คอยจับตาดู แต่ในขณะนั้น อาปู้ชาก็พูดขึ้นมาว่า “เสด็จพ่อ เช่นนั้นแล้ว... หากข้าไปกับใต้เท้าเกาด้วยกันเ
อาปู้ชาที่เหลือบตามองและเห็นทั้งหมดนี้ ก็มองกลับไปทางเกาเล่อสายตาจากด้านหลังที่เต็มไปด้วยแรงข่มขู่ พร้อมกับความหวาดระแวงนี้!ทั้งสองรู้ถึงปัญหาทันที!อย่างไรก็ตาม ความโกรธปรากฏขึ้นมาในใจของอาปู้ชาครู่เดียวนั้น ทำให้เกาเล่อกังวลใจ!เหตุผลก็ไม่ใช่เหตุผลใดอื่น นอกจากการกระทำเพียงเล็กน้อยของไทเฮา!การให้ของขวัญนี้!หากว่ากันแล้วมันมีปัญหามากเกินไป!อย่างแรก ง่ายที่สุดคือไทเฮาได้เตรียมของให้กับเกาเล่ออย่างใส่ใจ!แถมยังใส่กล่องของขวัญไว้ล่วงหน้าอีกด้วย!แม้ว่านี่จะไม่ได้อธิบายปัญหาทุกอย่าง แต่ก็มีประเด็นที่สอง!ประเด็นที่สองคือไทเฮาได้เตรียมกล่องของขวัญในฐานะโอรสของอ๋องเจิ้นตง สถานะของอาปู้ชาย่อมสูงกว่าเกาเล่อ!แต่ไทเฮาทรงมอบกล่องของขวัญที่เตรียมไว้ให้เกาเล่อก่อน แล้วค่อยมอบให้กับเขา!นี่ก็อธิบายปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจนแล้ว!สีหน้าเกาเล่อดูแย่มาก ถ้าอาปู้ชาเห็น เขาเองก็เห็น!นี่จะทำอะไรกันแน่?กำลังใช้อุบายแยกตัวออกจากอ๋องเจิ้นตงงั้นหรือ?คงจะดีถ้ามันเป็นการเคลื่อนไหวที่ใหญ่กว่า แต่นี่เป็นการเคลื่อนไหวแบบเล็กน้อย!การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ มักเป็นการกระทำที่เผยให้เห็นใจผู
“เสด็จพ่อข้าให้ตำแหน่งเจ้า เขาไม่ได้บอกหรือว่าเป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ?”หลังจากที่อาปู้ชาพูดเช่นนี้ เขาก็หยุดพูดและมุ่งหน้ากลับไปยังจวนอ๋องเจิ้นตงเมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็ดูย่ำแย่ทันที!เขารู้ว่านี่เป็นอุบายเพื่อฆ่าเขา!เป็นการปลุกเร้าความสงสัยระหว่างเขากับอ๋องเจิ้นตง!หากความสงสัยนี้บาดลึกยิ่งขึ้น เขาต้องตายอย่างแน่นอน!เกาเล่อหายใจเข้าลึก หรี่ตาลง คิดใคร่ครวญสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นทันใดนั้นเขาก็นึกถึงใครบางคน!หวังหยวน!ข้าเกรงว่าคงมีเพียงหวังหยวนเท่านั้นที่สามารถคิดแผนแบบนี้ได้"แม้ว่าวิธีที่ดีที่สุดในจัดการกระหม่อมคือการหว่านความสงสัยให้เกิดความแตกแยก แต่... มันเป็นแค่ความสงสัย อ๋องเจิ้นตงจะไม่ทำอะไรกระหม่อม ท้ายที่สุดกระหม่อมจงภักดีต่อพระองค์มาหลายปีแล้ว ความจงรักภักดีของกระหม่อมก็เป็นที่ชัดเจน!”เกาเล่อหายใจเข้าลึก ๆ คิด ๆ แล้วก็รู้สึกสงบใจลงได้บ้างตอนนี้อาปู้ชาได้กลับมาถึงจวนอ๋องเจิ้นตงแล้ว และไปหาเสด็จพ่อของเขาที่ห้องหนังสือ!และเล่าเรื่องทั้งหมดให้อ๋องเจิ้นตงฟัง!หลังจากที่ได้ฟัง สีหน้าของอ๋องเจิ้นตงก็เคร่งเครียดทันทีเขาไม่พูดแต่เอาพรมนิ้วบนโต๊ะและ
ถูกต้อง!พ่ายแพ้!ตอนนี้หวังหยวนได้ลงมือแล้ว เขาจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ แน่นอน!เจ้าต้องการสร้างความขัดแย้ง ข้าก็จะทำให้อ๋องเจิ้นตงเชื่อในตัวข้า!นี่คือแผนของเกาเล่อ!นี่เป็นการตอบโต้ของเขาด้วย!ในขณะนี้ เขามาถึงจวนที่ประทับของอ๋องเจิ้นตงแล้ว และสมุดบัญชีรายชื่อก็วางไว้ตรงหน้าอ๋องเจิ้นตง!อ๋องเจิ้นตงนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง เหลือบมองเกาเล่อด้วยความประหลาดใจ แล้วถามว่า "เกาเล่อ นี่หมายความว่าอย่างไร?"เกาเล่อพูดทันทีว่า "ท่านอ๋อง กระหม่อม เกาเล่อไม่เคยมีความสัมพันธ์ใด ๆ กับไทเฮา เรื่องนี้เป็นแผนของหวังหยวน รายชื่อนี้จึงเป็นรายชื่อทหารทั้งหมดขององครักษ์หลวง และแม้แต่สายลับของกระหม่อม เกาเล่อ ที่ซ่อนตัวอยู่ในจวนอื่น ๆ ด้วย!”สมุดบัญชีรายชื่อนี้ไม่ธรรมดา นี่คือการมอบทุกสิ่งทุกอย่างของเกาเล่ออย่างแท้จริง!ด้วยสมุดบัญชีรายชื่อนี้ มันเหมือนกับการควบคุมทหารหวงไว้ได้ทั้งหมด!ถึงจะเป็นอ๋องเจิ้นตง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้จักเขาทหารหวงทุกคน!แต่เกาเล่อนั้นต่างออกไป เขาเป็นหัวหน้าองค์รักษ์และย่อมต้องรู้จักทุกคน!เป็นการยากที่จะตรวจสอบว่าคนเหล่านี้เป็นสายลับของเขาหรือไม่ แต่สมุดบัญชีรายชื่อนี้แตก
“พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ
“เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน
หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก
กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้
“เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป
การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”
“ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?
แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็
เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห