ถูกต้อง!พ่ายแพ้!ตอนนี้หวังหยวนได้ลงมือแล้ว เขาจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ แน่นอน!เจ้าต้องการสร้างความขัดแย้ง ข้าก็จะทำให้อ๋องเจิ้นตงเชื่อในตัวข้า!นี่คือแผนของเกาเล่อ!นี่เป็นการตอบโต้ของเขาด้วย!ในขณะนี้ เขามาถึงจวนที่ประทับของอ๋องเจิ้นตงแล้ว และสมุดบัญชีรายชื่อก็วางไว้ตรงหน้าอ๋องเจิ้นตง!อ๋องเจิ้นตงนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง เหลือบมองเกาเล่อด้วยความประหลาดใจ แล้วถามว่า "เกาเล่อ นี่หมายความว่าอย่างไร?"เกาเล่อพูดทันทีว่า "ท่านอ๋อง กระหม่อม เกาเล่อไม่เคยมีความสัมพันธ์ใด ๆ กับไทเฮา เรื่องนี้เป็นแผนของหวังหยวน รายชื่อนี้จึงเป็นรายชื่อทหารทั้งหมดขององครักษ์หลวง และแม้แต่สายลับของกระหม่อม เกาเล่อ ที่ซ่อนตัวอยู่ในจวนอื่น ๆ ด้วย!”สมุดบัญชีรายชื่อนี้ไม่ธรรมดา นี่คือการมอบทุกสิ่งทุกอย่างของเกาเล่ออย่างแท้จริง!ด้วยสมุดบัญชีรายชื่อนี้ มันเหมือนกับการควบคุมทหารหวงไว้ได้ทั้งหมด!ถึงจะเป็นอ๋องเจิ้นตง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้จักเขาทหารหวงทุกคน!แต่เกาเล่อนั้นต่างออกไป เขาเป็นหัวหน้าองค์รักษ์และย่อมต้องรู้จักทุกคน!เป็นการยากที่จะตรวจสอบว่าคนเหล่านี้เป็นสายลับของเขาหรือไม่ แต่สมุดบัญชีรายชื่อนี้แตก
ในขณะนี้ มีเพียงอ๋องหลงซี, หวงเจียวเจียว และหวังหยวนภายในห้องหนังสือ รวมเป็นสามคน!ตอนนี้ข่าวได้แพร่ออกไปทันทีอ๋องเจิ้นตงก็ได้รับข่าวทันทีเช่นกันในห้องหนังสือ อ๋องหลงซี, หวังหยวน และหวงเจียวเจียว พวกเขาทั้งสามคุยกันอย่างลับ ๆ!ส่วนคุยเรื่องอะไรนั้น ไม่มีใครรู้อ๋องเจิ้นตงไม่แปลกใจเลยที่ได้ยินเช่นนี้ เขาแค่ยิ้มและไม่พูดอะไร“มาอย่างเอิกเกริกขนาดนี้ให้ทุกคนเห็น ไม่บุ่มบ่ามไปหน่อยรึ?”ในห้องหนังสือ อ๋องหลงซีมองไปที่หวังหยวนและถามอย่างเรียบเฉย“ไม่เป็นไร ข้าจะมาหรือไม่นั้น คนอื่นก็ไม่คิดอยู่ว่าข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับจวนอ๋องหลงซี ความสัมพันธ์ตอนนี้ได้รับการเปิดเผยแล้ว ก็สู้เปิดเผยอย่างโจ้งแจ้งไปเลยดีกว่า”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มบาง ๆ“แต่ไม่ใช่ทุกคนที่รู้ว่าข้าจงรักภักดีต่อไทเฮา และไม่มีใครรู้ว่าข้าร่วมมือกับเจ้า”อ๋องหลงซีขมวดคิ้วและพูดอีกครั้งเดิมทีมันเป็นความสัมพันธ์อย่างลับ ๆ แต่หลังจากที่หวังหยวนทำเช่นนี้ ทุกคนก็จะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นจะต้องมีการคาดเดาไปต่าง ๆ นานาอย่างแน่นอน!“ท่านบอกว่าพวกเขาจะคาดเดาไปต่าง ๆ นานาสินะ ข้าก็แค่ปล่อยให้พวกเขาคาดเดากันไป!”หวังหยวนหัวเ
อ๋องหลงซีไม่เข้าใจว่าทำไมหวังหยวนถึงพูดแบบนั้น!แต่หวังหยวนหัวเราะและพูดออกมาอย่างช้า ๆ“ในเวลานี้เขาย่อมไม่พูดอะไรอยู่แล้ว แต่... ข้าจะให้เขาพูดความจริงเอง คนผู้นี้ ข้าต้องไปพบอย่างลับ ๆ สักหน่อย!”ทันทีที่พูดออกมา อ๋องหลงซีก็หายใจเข้าลึก แม้เขาจะไม่รู้ว่าหวังหยวนจะทำอะไร แต่เขาก็ตกลงด้วยอยู่ดี“เอาล่ะ ข้าจะไปจัดการเอง!”อ๋องหลงซีพยักหน้าหลังจากนั้นหวังหยวนก็กลับไป หลังจากคืนนี้ไปจะมีเรื่องบางอย่างจะเกิดขึ้นกับเกาเล่อ นี่เป็นแผนการของหวังหยวน!เขาคือคนที่จัดการเรื่องนี้หวงเจียวเจียวพาหวังหยวนออกไปส่งที่ประตูใหญ่“คุณชาย เมื่อไหร่เราจะแต่งงานกันรึ?”ทันใดนั้นหวงเจียวเจียวก็ยิ้มขึ้นมา เมื่อนางพูดแบบนี้ หวังหยวนก็รู้สึกเลิ่กลั่กเล็กน้อย “นั่น...เป็นความคิดของไทเฮา...”แม้ว่าเขาจะพูดเรื่องเหลวไหลออกมาที่พระตำหนัก แต่หากว่ากันตามจริงแล้ว เขาไม่ได้คิดอะไรกับหวงเจียวเจียวตอนที่หวงเจียวเจียวพูดแบบนี้ ก็รู้สึกกังวลทันที“หึ หึ ท่านพูดต่อหน้าพระตำหนักว่าเราเป็นสามีภรรยากันแล้ว คุณชาย ท่านต้องรับผิดชอบนะ”จู่ ๆ หวงเจียวเจียวก็มาแหย่เล่นแบบนี้ พูดมาถึงตรงนี้ หวังหยวนก็กระแอมไอแ
หลิวตงหานรู้สึกกระวนกระวายใจนัก มาที่นี่อย่างเงียบ ๆ แบบนี้ เขาย่อมไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอนหวังหยวนถือปืนไฟไว้ในมือแล้วยิ้ม“อย่าเพิ่งกระวนกระวายไป ใต้เท้าหลิว ข้ามาที่นี่เพื่อช่วยชีวิตเจ้า”หวังหยวนพูดไป ในขณะนั่งอยู่บนที่นั่งของเขา และมองเขาด้วยรอยยิ้ม“ช่วยข้า? ทำไมเจ้าถึงต้องช่วยข้าด้วย? ข้ายังมีชีวิตอยู่ บอกมา! เจ้าเป็นใคร!”หลิวตงหานหรี่ตาลงและพูดอย่างเย็นชา“หวังหยวน เจ้าคงเคยได้ยินชื่อของข้าใช่ไหม?”ทันทีที่พูดออกมา หลิวตงหานก็ตกใจ!“หวังหยวน!!”เขาตกใจ แต่ก็พูดขึ้นทันทีว่า "พอดีเลย อ๋องหลงซีอยากจะกำจัดเจ้า เจ้าบุกเข้าบ้านข้าตอนดึกมาทำร้ายข้า ข้าฆ่าเจ้าก็ถือว่าถูกต้อง!"เขาที่พูดอย่างนั้น และกำลังจะลงมือ!แต่หวังหยวนหยิบปืนไฟออกมาแล้วชี้ไปที่เขา“ถ้าก้าวมาแม้แต่ก้าวเดียว ข้าจะยิงเจ้าให้ตาย!”“แล้วก็นะ ใต้เท้าหลิวที่เจ้าพูดมันช่างสวยงามเสียเหลือเกิน เจ้าคือคนของใคร เจ้าไม่รู้ตัวเหรอ?”หวังหยวนพูดอย่างเฉยชา และทันทีที่เขาพูดคำเหล่านี้ออกมา หัวใจของหลิวตงหานก็เต้นระรัวทันทีแต่เขาจะยอมรับได้อย่างไร!ถ้ายอมรับ ไม่เป็นอันจบเห่หรอกเหรอ?“เจ้าพูดอะไร ข้าไม่เข้าใจ!”
หลิวตงหานไม่ใช่คนโง่!แน่นอนว่าเขาเข้าใจสิ่งที่หวังหยวนพูดหวังหยวนที่อยู่ตรงนั้นก็หัวเราะออกมา จากนั้นมองไปที่โต๊ะแล้วไปเทชามาดื่มสักแก้ว"อืม... ชาของใต้เท้าหลิวไม่เลวเลยจริง ๆ"หลังจากพูดจบ หวังหยวนก็เอนหลังบนเก้าอี้ แล้วมองหลิวตงหานด้วยรอยยิ้ม“ท่านใต้เท้าหลิว ท่านน่าจะเข้าใจสิ่งที่ข้าพูด ตอนนี้ท่านต้องร่วมมือกับข้าเท่านั้น”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ หลิวตงหานก็หายใจเข้าลึก และมองหวังหยวนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“ข้าไม่เชื่อ! ท่านอ๋องเจิ้นตงเชื่อในตัวใต้เท้าเกามาก แล้วใต้เท้าเกาเชื่อในตัวข้า ข้าไม่เชื่อว่าแผนการของเจ้าจะสำเร็จ!”หลิวตงหานกัดฟัน เขารู้ว่าถ้าเขาทรยศ เขาต้องเจอเรื่องลำบากมากแน่!ดังนั้นถ้ามีโอกาส เขาย่อมไม่ทรยศอย่างแน่นอน!“ดูเหมือนเจ้ายังไม่เข้าใจที่ข้าพูด”หวังหยวนยิ้มเมื่อรู้ว่าหลิวตงหานจวนจะแหลกสลายแล้วดังนั้นเขาไม่อยากพูดเรื่องไร้สาระกับเขาอีก“ใต้เท้าหลิว งั้นข้าบอกเจ้าให้นะ หลังจากการลอบสังหารคืนนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เกาเล่อจะถูกสงสัยอยู่ดี ส่วนความสามารถของอ๋องเจิ้นตง ข้าจะไม่พูดให้มากความ”“ถึงตอนนั้น เจ้าคงเป็นได้แค่เหยื่อที่มารับกรรมในเรื่องนี้
แข็งแกร่งได้น่าหวาดหวั่นยิ่งนัก!สีหน้าของอ๋องเจิ้นตงแย่มาก แต่เขาเองก็ถือเป็นผู้ฝึกยุทธ์ และชักดาบออกมาทันที!เขารู้ดีว่าฝีมือเทียบไม่ได้ แต่ถ้าเขายื้อเวลาได้ ก็จะมีคนมาช่วยเขา!เขาต่อสู้ไปและถอยไปด้วย!แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังถูกดาบฟาดที่แขนจนเลือดไหลออกมา!อ๋องเจิ้นตงโกรธมาก แต่คนทั้งเจ็ดนั้นกลับเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง!คำสั่งที่พวกเขาได้รับมาก็คือใช้กำลังทั้งหมดสังหารอ๋องเจิ้นตงให้ได้ หากพวกเขาฆ่าเขาได้จริง ๆ นั่นคงจะดีที่สุด!แม้ว่าจะทำไม่ได้ แต่มันก็ไม่สำคัญสำหรับพวกเขา!แต่เมื่อได้เห็นอย่างนี้ อ๋องเจิ้นตงจะต้องตายด้วยน้ำมือของพวกเขาแน่นอน!ทั้งเจ็ดคนตื่นเต้นมาก แต่ในขณะนั้น มีลูกธนูสองสามดอกยิงเข้ามาจากด้านนอก ฆ่าพวกเขาไปได้สามคนในคราเดียว!อีกสี่คนที่เหลือไม่รีรอ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อสังหารอ๋องเจิ้นตงให้ได้!แต่ในขณะนั้น มีร่าง ๆ หนึ่งพุ่งเข้ามาในห้องด้วยชุดสีขาว ในบรรยากาศที่ไม่ธรรมดาเลย ดาบอยู่ในมือเปล่งประกาบเย็นวาบ ด้วยสีหน้าที่โหดเหี้ยมเปี่ยมไปด้วยจิตสังหารอย่างรุนแรง!หลังจากเห็นคนผู้นี้แล้ว อ๋องเจิ้นตงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก"เหลือไว้เค้นคำสารภาพคนนึง!"หลัง
อาปู้ชาตกใจมาก เมื่อได้ยินเสด็จพ่อตรัสแบบนี้ แต่ละคนต่างตกตะลึงไปทั้งหมด!เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะกล้าทำเช่นนี้!“เรียกเกาเล่อมา!”อ๋องเจิ้นตงโกรธมาก และสั่งการทันทีหลังจากนั้นเขาก็พันผ้าพันแผลและรอคอยอย่างเงียบ ๆ!อาเจี้ยนนักดาบในชุดขาวยืนอยู่ข้างหลัง ถือดาบอย่างเงียบ ๆ และหลับตาพักผ่อนเอาแรงสักครู่!ในขณะนั้น เกาเล่อก็ดูสับสนเช่นกัน เขาไม่รู้ว่าทำไมท่านเจิ้นตงหวงจึงเรียกหาเขาในเวลาดึกดื่นเช่นนี้แต่พอได่ลองสอบามดูแล้วก็ตกใจ!มีคนลอบสังหารอ๋องเจิ้นตง!ช่างบังอาจจริง ๆ!เขารีบพาคนไปที่จวนของอ๋องเจิ้นตง ทันทีที่เขาเข้าไปก็รีบถามด้วยความร้อนใจว่า“ท่านอ๋องไม่เป็นอะไรใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ?”อ๋องเจิ้นตงเหลือบมองเกาเล่อ ยังไม่แสดงอาการโกรธออกทันทีและพูดว่า "ไม่เป็นไร แค่ถาก ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะอาเจี้ยน ข้าคงตายไปแล้ว"อาเจี้ยน องค์รักษ์ส่วนตัวของเขา!ในราชสำนักหวงตอนนี้ เขามีฝีมือมากพอติดหนึ่งในสามอันดับแรก!นี่เป็นหนึ่งในกองหนุนที่ใหญ่ที่สุดสำหรับอ๋องเจิ้นตง!ตอนนั้นเองที่เกาเล่อเห็นนักดาบในชุดขาวยืนอยู่ข้างหลังอ๋องเจิ้นตง เขาก็ตกใจมาก เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าแม้แต่คนคนนี้จะทำให้ตื่นตระ
“เกาเล่อ เจ้ามีอะไรจะพูดไหม”หลังจากที่อ๋องเจิ้นตงพูดจบ อาเจี้ยนก็ลืมตาขึ้นมองเกาเล่อด้วยสายตาเย็นชาเกาเล่อที่เพิ่งได้สติก็อุทานด้วยความตกใจว่า “ท่านอ๋อง ท่าน... ท่านสงสัยในตัวกระหม่อมหรือ?”อ๋องเจิ้นตงจิ้ปากอย่างเย็นชา “แล้วไม่ควรรึไง? เจ้าเป็นหัวหน้าลอบสังหารหวังหยวน เจ้าบอกข้าเกี่ยวกับทั้งเจ็ดคนนั้น และยังบอกข้าว่าล้มเหลวอีกด้วย!”“ตอนนี้ทั้งเจ็ดนี้มาปรากฏตัวในจวนของข้า และจะฆ่าข้า ข้าไม่ควรสงสัยเจ้างั้นหรือ?”อ๋องเจิ้นตงตบโต๊ะอย่างแรงจนเกาเล่อทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้น“ท่านอ๋อง นี่มันไม่ถูกต้อง กระหม่อม...กระหม่อมไม่มีเหตุผลที่จะฆ่าพระองค์! ถ้ากระหม่อมอยากจะฆ่าพระองค์ ทำไมกระหม่อมต้องบอกเรื่องเจ็ดคนนี้พระองค์ฟังกันล่ะพ่ะย่ะค่ะ? ต้องเป็น... ต้องเป็นหลิวตงหานพ่ะย่ะค่ะ!”แม้ว่าเกาเล่อจะไม่เข้าใจว่าทำไมหลิวตงหานถึงทำเช่นนี้ แต่เขาพูดได้แค่นี้เท่านี้!“หลิวตงหาน? ดี! ข้าจะส่งคนไปจับกุมเขาเดี๋ยวนี้เลย พวกเจ้าต้องเจอข้า!”อ๋องเจิ้นตงโบกมือ ผู้คนมากมายออกจากจวนของอ๋องเจิ้นตงทันที และมุ่งหน้าไปยังจวนของหลิวตงหานในขณะนี้ หวังหยวนยิ้มและพูดอย่างเรียบเฉยว่า "ใต้เท้าหลิว ใกล้ได้เวลาแ
สายตาของหวังหยวนจับจ้องไปยังตงฟางฮั่นพลางเอ่ยถามขึ้นแม้เขาจะได้รับฟังเรื่องราวของเมืองอู่เจียงจากเกาเล่อมาบ้าง แต่ก็รู้เพียงผิวเผินเท่านั้นในเมืองอู่เจียงมีสี่ตระกูลใหญ่ ทั้งตระกูลเฉินและตระกูลซูล้วนรวมอยู่ในนั้น!แม้ทั้งสองตระกูลไม่ใช่ตระกูลที่รุ่งเรืองที่สุด แต่ก็มีบทบาทสำคัญในเมืองอู่เจียง!“ท่านหวังทราบหรือไม่ว่าตระกูลซูทำธุรกิจด้านใด?”ตงฟางฮั่นเอ่ยถามอย่างเชื่องช้า“ข้าได้ยินเกาเล่อรายงานว่าตระกูลซูทำธุรกิจขนส่งทางบก”“ว่ากันว่าในอดีต ซูหนานอัน หัวหน้าตระกูลซู เริ่มต้นจากการใช้รถเข็นสามล้อ แล้วค่อย ๆ สร้างฐานะขึ้นมา”“ต่อมาตระกูลซูก็เจริญรุ่งเรืองจนมีอำนาจดังเช่นทุกวันนี้”ทันใดนั้นหวังหยวนก็ตบหน้าผากตนเองอย่างแรง ราวกับนึกอะไรบางอย่างออกธุรกิจขนส่งทางบก!หากมีการสร้างเขื่อนกั้นน้ำ ผลประโยชน์ของตระกูลซูย่อมเสียหาย พวกเขาจึงเป็นผู้ที่ต้องการขัดขวางโครงการนี้มากที่สุด!“ท่านตงฟางช่างเฉียบแหลมนัก!”หวังหยวนเอ่ยชมตงฟางฮั่นส่ายหน้ากล่าวว่า “บัดนี้ยังไม่อาจยืนยันได้ว่าสิ่งที่ข้าคิดนั้นถูกต้องหรือไม่”“แต่ก็ควรไปดูให้เห็นกับตาสักครั้ง”“ยิ่งไปกว่านั้น ท่านเป็นถึงเจ้า
“ข้าคิดว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เราควรพิจารณาว่าการสร้างเขื่อนกั้นน้ำไปขัดผลประโยชน์ของผู้ใด”“หากไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ อีกฝ่ายคงไม่ลงมือเช่นนี้”“เช่นนั้นพวกเราก็จะพบเป้าหมายได้โดยเร็ว”สมแล้วที่ตงฟางฮั่นเป็นบุคลากรที่ใคร ๆ ก็ต้องการ คำพูดของเขาทำให้หวังหยวนรู้สึกกระจ่าง!“เช่นนั้นเอง”“ตอนนี้พวกเราแบ่งเป็นสองกลุ่ม!”“กลุ่มแรกให้ฉุนอวี๋อันไปสืบหาตัวคนที่แอบเข้าใกล้บ่อน้ำเมื่อคืน!”“เพื่อตามหาตัวคนวางยา แล้วเค้นถามข้อมูลจากมันให้ได้!”“อีกกลุ่มหนึ่งต้องไปสืบในเมือง ดูว่าใครได้รับผลกระทบ ก็จะทำให้เรามุ่งเป้าหมายได้ถูกต้อง!”“ตอนนี้สิ่งสำคัญคือต้องปลอบขวัญชาวบ้าน หากไม่สามารถให้คำตอบที่น่าพอใจแก่พวกเขา พวกเขาก็คงจะอ้างเรื่องศาลเจ้ามังกรแล้วหยุดการทำงาน!”“เช่นนั้นจะทำให้การก่อสร้างล่าช้า!”ความคิดของหวังหยวนตรงกับคนอื่น ๆเพราะแท้จริงแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างเส้นทางคมนาคมทางน้ำเพื่อให้เมืองอู่เจียงพัฒนาจากนั้นก็จะสามารถพัฒนาเมืองหลิงได้!“ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากถึงเพียงนั้นหรอก!”“ที่จริงข้าพอจะเดาออกแล้วว่าเป็นใคร”“ไม่ทราบว่าท่านหวังจะไปกับข้าหรือไม่?”ตงฟางฮั่นมองหวั
ช่างเป็นเรื่องเหลวไหล!สิ่งที่เรียกว่าศรัทธาและเทพเจ้าก็เป็นเพียงที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เชื่อก็มี ไม่เชื่อก็ไม่มีสรรพสิ่งล้วนมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ มีที่มาที่ไป หากมีเทพเจ้าและศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นจริง เหตุใดจึงมีผู้คนอดอยากยากไร้อยู่ทั่วทุกหนแห่ง?“ไร้สาระ!”หวังหยวนตำหนิ ฉุนอวี๋อันจึงไม่กล้าพูดต่อ“เรื่องนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังเป็นแน่”“หรือไม่ทุกคนติดโรคระบาดจึงเป็นเช่นนี้!”“รอข้าไปถึงแล้วค่อยว่ากัน!”หวังหยวนหลับตา ไม่พูดกับฉุนอวี๋อันอีกเพื่อไม่ให้ตนเองโมโหฉุนอวี๋อันงุนงง เขาเคยได้ยินชื่อโรคมากมาย แต่ไม่เคยได้ยินเรื่องโรคระบาดมาก่อน!หรือจะเป็นโรคประหลาด?เมื่อเห็นหวังหยวนไม่สนใจ เขาก็เช็ดเหงื่อ ไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่นั่งเงียบไม่นานพวกหวังหยวนก็มาถึงเขตก่อสร้าง ชาวบ้านที่ได้ยินข่าวต่างมามุงดู สถานที่แห่งนี้ช่างคึกคักทางด้านตงฟางฮั่นอยู่ท่ามกลางฝูงชน กำลังตรวจสอบอะไรบางอย่างตงฟางฮั่นเห็นหวังหยวนเดินเข้ามาจึงลุกขึ้นเดินไปหาหวังหยวน“ท่านตงฟาง ข้าได้ยินเรื่องที่นี่แล้วจึงรีบมา”“ท่านมาก่อน พบเบาะแสอะไรหรือไม่?”ตงฟางฮั่นส่ายหน้า พลางขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “ข้าให้
ยามตะวันโด่งฟ้า หวังหยวนกับภรรยายังคงนอนหลับอยู่บนเตียง แต่แล้วก็ได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบ“ท่าน!”“เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ!”“ท่านรีบออกมาเถิดขอรับ!”เสียงของฉุนอวี๋อันเต็มไปด้วยความร้อนใจ เขาเคาะประตูไม่หยุดปกติฉุนอวี๋อันเป็นคนรอบคอบ ไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ต้องชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียก่อนเสมอด้วยเหตุนี้ฉุนอวี๋อันจึงถูกมองว่าอ่อนแอ ไร้ความสามารถ เมืองอู่เจียงไม่เคยได้รับการจัดการอย่างดี และสี่ตระกูลใหญ่ก็มีอำนาจอยู่เหนือเขา!วันนี้เขากลับกล้ามาหาหวังหยวนถึงห้อง ทั้งยังมารบกวนการนอนของพวกเขา แสดงว่าต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นจริง ๆ!หวังหยวนค่อย ๆ ยืดตัวบิดขี้เกียจ จากนั้นสวมเสื้อผ้าแล้วเปิดประตูมองไปที่ฉุนอวี๋อันเมื่อเห็นเขามีสีหน้าร้อนรนก็ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ฟ้าถล่มหรืออย่างไร?”อย่างไรเสียฉุนอวี๋อันก็เคยเป็นผู้ว่าราชการเมือง จึงจำเป็นต้องสงบนิ่ง ไม่หวั่นไหว แม้ภูผาจะถล่มก็ตามไม่เช่นนั้นหากเกิดเรื่องใดขึ้นมา ฉุนอวี๋อันจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้!แต่น่าเสียดายที่ฉุนอวี๋อันไม่ได้รับการฝึกฝน!โชคดีที่เขาเห็นข้อนี้ จึงให้ฉุนอวี๋อันลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไม่ให้เป็นการทำร้า
“ต้องระมัดระวังทุกย่างก้าว”เกาเล่อรีบพยักหน้า“อีกอย่าง”“เจ้าไปเมืองผีครั้งนี้ต้องระวังตัวด้วย”“คำพูดของหลิ่วหรูเยียนเชื่อได้ แต่ก็ไม่ควรเชื่อทั้งหมด”“เมืองผีอาจไม่ใช่สถานที่ที่เราจะอยู่ได้ง่าย ๆ...”“หากพบเจอเรื่องยุ่งยากก็ปรึกษาข้าได้ตลอด อย่าได้ทำอะไรบุ่มบ่าม!”หวังหยวนกำชับอีกสองสามประโยคเกาเล่อเป็นมือขวาของเขา เขาย่อมไม่อยากให้เกาเล่อเป็นอันตราย ไม่เช่นนั้นหวังหยวนจะรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากบ่ายวันนั้น เกาเล่อเดินทางไปเมืองผีด้วยตัวเองส่วนหวังหยวนก็กลับไปที่พักหลี่ซื่อหานรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นหวังหยวนเดินเข้ามา นางก็ยิ้มหวานเดินเข้ามาหา แล้วควงแขนหวังหยวนขณะกล่าวว่า “ข้าได้ยินเรื่องที่ท่านกำลังทำอยู่ในช่วงนี้”“จะรับอนุภรรยาอีกแล้วหรือ?”หวังหยวนถึงกับหน้าเสียใครปากมาก เอาเรื่องนี้ไปบอกหลี่ซื่อหาน?ที่เขาไปหอนางโลมนั้นไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อสถานการณ์บ้านเมืองต่างหาก!“ในสายตาเจ้า ข้าเป็นผู้ชายที่เห็นผู้หญิงแล้วอดใจไม่ได้หรือ?”หวังหยวนจิบชา และกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์หลี่ซื่อหานยิ้มก่อนกล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน แต่คนอื่นไม่รู้จักนิสัยของท่าน อาจทำให้เกิด
“ข้าบอกก็ได้...”“เหตุใดต้องโหดเหี้ยมกับข้าด้วย?”“ข้าเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง เจ้าไม่สงสารข้าบ้างหรือ?”หลิ่วหรูเยียนมองหวังหยวน ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงหวานมีเสน่ห์ “เจ้ารู้จักสถานที่แห่งหนึ่งทางตะวันตกที่ชื่อว่าเมืองผี หรือไม่?”“เมืองผี?”หวังหยวนส่ายหน้า ไม่เคยได้ยินชื่อนี้ แต่สายตาของเขามองไปที่เกาเล่อเกาเล่อเป็นหัวหน้าองค์กรเครือข่ายผีเสื้อ ข้อมูลทั่วหล้าล้วนอยู่ในมือเขา หากแม้แต่เกาเล่อยังไม่รู้จัก แสดงว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ลับจริง ๆ!แต่ก็มีความเป็นไปได้อีกอย่าง คือหลิ่วหรูเยียนกำลังหลอกลวง!ทั้งหมดเป็นเพียงกลลวงของนาง!เกาเล่อเดินไปข้าง ๆ หวังหยวนแล้วกระซิบ “ข้ารู้จักเมืองผี...”“เดิมทีมันไม่ได้ชื่อเมืองผี ปัจจุบันมีชื่ออื่นแล้ว แต่เพราะเมื่อก่อนมีคนอดตายที่นั่นมากมาย มีข่าวลือว่ากลางดึกมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ จึงเรียกที่นั่นว่าเมืองผี”“แต่ที่จริงแล้วก็แค่เรื่องเล่าลือขอรับ”ฟังคำอธิบายของเกาเล่อแล้วหวังหยวนก็พยักหน้าจากนั้น ฃเขาก็มองไปที่หลิ่วหรูเยียนอีกครั้ง ก่อนกล่าวอย่างใจเย็น “เช่นนั้นเจ้าหมายความว่าฐานทัพใหญ่ของพรรคทมิฬอยู่ในเมืองผีหรือ?”หลิ่วหรู
ทันใดนั้นหวังหยวนก็ให้สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อถอยไป ส่วนเขามานั่งยอง ๆ ตรงหน้าหลิ่วหรูเยียนมุมปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้ม ก่อนกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าเจ้ามีสิทธิ์ต่อรองกับข้าหรือ?”“ตอนนี้เจ้าอยู่ในมือข้า ตราบใดที่เจ้าทำตามที่ข้าต้องการ ข้าก็จะไว้ชีวิตเจ้า ไม่ให้ใครมารังแกเจ้าได้”“แต่ถ้าเจ้ายังกล้าต่อรอง เจ้าก็ลองดู ว่าข้าจะทำเรื่องโหดร้ายอะไร”“แต่อย่าหาว่าข้าไม่เตือน หากเจ้าท้าทายข้า ทำให้ข้าหมดความอดทน ผลลัพธ์สุดท้ายคงคาดเดาได้...”“เจ้าจะต้องเสียใจแน่นอน”เมื่อเห็นแววตาจริงจังของหวังหยวน หลิ่วหรูเยียนก็อยากจะฆ่าเขานักเหตุใดนางจึงต้องมาเจอกับปีศาจตนนี้ด้วย?ช่างโชคร้ายเสียจริง!“ตกลง!”“เช่นนั้นเจ้าต้องปล่อยข้าก่อน”“เจ้าจับข้าไว้ด้วยตาข่ายเช่นนี้ ข้าอึดอัดจะตายแล้ว!”หลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้วพูดหวังหยวนรับมีดสั้นจากสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อมาตัดตาข่ายใหญ่ตรงหน้าออก หลิ่วหรูเยียนจึงเป็นอิสระหวังหยวนกล่าวต่อ “ตอนนี้ข้าทำตามที่เจ้าต้องการแล้ว เจ้าควรจะบอกสิ่งที่ข้าอยากรู้ได้แล้วกระมัง?”เขาเองก็ใจกว้างพอหากไม่ใช่เพราะเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนเป็นผู้หญิง คงลงมือกับนางไปแล้
“เจ้าช่างเป็นคนต่ำทรามชั่วช้าเหลือเกิน!” หลิ่วหรูเยียนจะไม่เข้าใจสิ่งที่หวังหยวนจะสื่อได้อย่างไร ใบหน้านางซีดเผือดราวกับกระดาษ นัยน์ตาเบิกโพลงด้วยความตกใจกลัวขณะตวาด!หญิงงามผู้มีชื่อเสียงในสถานเริงรมย์ แม้จะอยู่ในที่เช่นนั้น แต่ก็รักษาความบริสุทธิ์ไว้เสมอ ไม่เคยยอมให้ชายใดแตะต้องเรือนร่างอันงดงามของตน!แต่บัดนี้บุรุษผู้มีนามว่าหวังหยวนกลับใช้เรื่องนี้มาข่มขู่นาง เป็นการกระทำที่ชั่วช้าที่สุดเท่าที่เคยพบเจอมา!เหตุใดไม่รู้มาก่อนเลยว่าหวังหยวนน่ารังเกียจถึงเพียงนี้?“เจ้าไม่สมควรเป็นใหญ่ในแผ่นดิน!” “เจ้าเป็นแค่คนเลวทรามต่ำช้า!”“เช่นนั้นก็สังหารข้าเสีย การที่เจ้ามาล่วงละเมิดสตรีเช่นนี้ เจ้ายังถือว่าตนเป็นบุรุษผู้กล้าหาญได้อยู่หรือ?” “หากเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป ชื่อเสียงของเจ้าจะต้องเสื่อมเสียอย่างแน่นอนใช่หรือไม่?”นางพยายามอย่างตะโกนเพื่อที่จะเปลี่ยนใจหวังหยวนให้ได้ ทว่าใบหน้าของเขาไร้ซึ่งความรู้สึกใด เขายืนกอดอกเอ่ยเสียงเรียบเฉย “เป็นเรื่องปกติที่จะใช้วิธีการที่แตกต่างกันเพื่อปฏิบัติต่อผู้คนที่แตกต่างกัน”“หากเจ้าไม่ดื้อดึง ข้าก็คงไม่ต้องทำรุนแรงเช่นนี้ ข้าจะทำเช่นนี้กับ
“ข้าอยากรู้ว่าปากของนางกับมือของข้า อะไรจะแข็งกว่ากัน!”แม้จะเป็นเด็กกำพร้าก็ต้องหาวิธีง้างปากนางให้ได้!ไม่บรรลุเป้าหมายย่อมไม่หยุดยั้ง!ไม่นานหวังหยวนกับเกาเล่อก็มุ่งหน้าออกนอกเมืองที่หน้าศาลเจ้าเฉิงหวงหลิ่วหรูเยียนนั่งผิงไฟ ครุ่นคิดถึงแผนการต่อไปที่นางมาเมืองอู่เจียงนั้นเป็นเพราะคำสั่งของผู้นำระดับสูงในพรรคทมิฬ!เพื่อแทรกซึมเข้ามาในดินแดนศัตรู แล้วค่อย ๆ แผ่ขยายอำนาจไปยังเมืองหลิง!สาเหตุที่สาวกพรรคทมิฬแทรกซึมเข้ามาในดินแดนของหวังหยวน ไม่ใช่เพียงเพราะดินแดนของหวังหยวนเล็ก แต่เป็นเพราะหวังหยวนผู้นี้เป็นคนชาญฉลาดและรอบคอบ!หากเขาพบเบาะแสใดๆ ก็จะตามสืบจนเจอ และอาจนำพาหายนะมาสู่พวกเขา!แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ!หวังหยวนเพิ่งจะสังเกตเห็นร่องรอยของสาวกพรรคทมิฬ ไม่คิดเลยว่าจะพบตัวหลิ่วหรูเยียน!จากนั้นค่อยสืบหาความลับของพรรคทมิฬ!เรื่องนี้ต้องระวังให้ดี!“เหตุใดนกพิราบสื่อสารยังไม่กลับมาอีกนะ?”“หรือว่าจะเกิดเรื่อง...”หลิ่วหรูเยียนที่นั่งอยู่หน้ากองไฟ สำรวจสถานการณ์นอกประตูด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักแม้สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อจะซ่อนตัวอยู่ แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของนาง!แต