แชร์

บทที่ 513

ผู้เขียน: ชวินเป่ยอี๋
เด็กหนุ่มเสวี่ยเมิ่งหลงเลิกคิ้วกระบี่พร้อมกล่าว “ศิษย์พี่ฝูไห่ ศิษย์พี่จ้าวหลิน พวกเราต้องติดตามท่านอาจารย์ไปอีกนานเท่าไร ข้าทนใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านนอกไม่ไหวแล้ว!”

เขาคือบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมายของจวิ้นวั่ง ทั้งยังมีความสัมพันธ์อันดีกับขุนนางในราชสำนัก ดังนั้นเขาจึงได้รับข่าวจากเมืองหลวง

กล่าวกันว่าหวังหยวนเป็นหมากของแม่ทัพหนุ่มและอาจารย์ที่ใช้แทรกแซงในราชสำนัก

เขาเชื่อข่าวนี้ในทันใด

เดิมทีในตอนที่ได้ข่าวว่าหวังหยวนคือคนวางแผนยุทธศาสตร์ในการรบกับชาวหวง เขาก็นึกสงสัยอย่างมาก!

อย่างไรเสีย เขาก็คืออัจฉริยะที่สอบผ่านการสอบคัดเลือกขุนนางตั้งแต่อายุสิบแปดปี

ในทางกลับกัน หวังหยวนมีทักษะด้านกลอนและบทกวี การเมือง ยุทธการทหาร เชี่ยวชาญในงานฝีมือ ทั้งยังช่ำชองด้านการบริหาร แม้แต่ปีศาจก็ไม่อาจเก่งรอบด้านเช่นนี้ได้

นอกจากนี้เด็กน้อยในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ยังต้องการอาจารย์สอนอ่านเขียนอีกด้วย!

สาเหตุที่เขามาที่นี่ก็เพราะต้องการพิสูจน์พรสวรรค์ และความบริสุทธิ์ของอีกฝ่ายทางอ้อม

ชายหนุ่มหลี่จ้าวหลินส่ายหน้าพลางถอนหายใจ“เมิ่งหลง ท่านอาจารย์กำลังวางแผนสำหรับลูกของเขา”

ฉงโหลวเป็นคนใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 514

    ระหว่างเดินทางจากเมืองจิ่วซานไปยังเมืองฝู วังฉงโหลวพบเจอชาวบ้านยากไร้มากมาย และเมื่อเห็นรถม้า พวกเขาก็จะปรี่เข้ามาล้อมรอบเอาไว้ทันทีเคราะห์ดีที่คนขับรถม้าตระกูลวังมีสายตาแหลมคม เขาจึงรีบกล่าวว่า “นายน้อย พวกเขาไม่ใช่ชาวบ้านยากไร้ แต่เป็นเพราะท่านหมิงถันมาต้อนรับพวกเราขอรับ”หวังหยวนมักไปเยี่ยมเยือนตระกูลวังที่เมืองจิ่วซานอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นพวกบ่าวรับใช้จึงจดจำเขาได้“อาหยวนมารับพวกเรางั้นรึ!”วังฉงโหลวขยี้ตาอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเข้าไปใกล้อีกฝ่าย เขาจึงมองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นก่อนตะโกนเสียงดัง “อารอง อาหยวนมารอต้อนรับพวกเรา แล้วเขาก็พาคนมาด้วยเยอะมาก!”วังไห่เทียน เหยาฝูไห่ หลี่จ้าวหลิน และเสวี่ยเมิ่งหลงเลิกม่านขึ้นมองข้างนอกก่อนตกตะลึงหวังหยวนเกณฑ์ชาวบ้านมางั้นรึชาวบ้านที่อยู่ข้างหลังถือกระดาษพร้อมข้อความที่เขียนว่า ‘ยินดีต้อนรับท่านไห่เทียนผู้มีชื่อเสียงก้องโลก พร้อมลูกศิษย์ที่เดินทางมายังหมู่บ้านต้าหวังเพื่อสั่งสอนและให้ความรู้’นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านตีฆ้อง กลอง และบรรเลงสว่อน่าราวกับกำลังเฉลิมฉลองการแต่งงาน!เมื่อทั้งห้าคนก้าวลงจากรถม้า เหล่าชาวบ้านที่ไม่เคยพบเห็นขุนนางประ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 515

    ทว่ากลับดูเป็นกันเองยิ่งนัก!ถึงกระนั้นหลี่จ้าวหลินและเสวี่ยเมิ่งหลงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย ชาวบ้านเหล่านี้ไม่รู้จักมารยาทรึ เหตุใดถึงไม่รู้ว่าคนทั่วไปต้องทำอย่างไรเวลาเจอหน้าพวกเขา!“ข้าได้ตำแหน่งจอหงวนเมื่อสามสิบปีที่แล้ว ข้าจะกล้าเทียบกับเจ้าได้อย่างไร?”วังไห่เทียนรับโทรโข่งจากหวังหยวนมาแล้วยกมันขึ้นจ่อปากก่อนกล่าวว่า “ชาวบ้านทั้งหลาย ข้าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มายังหมู่บ้านของหมิงถัน น้องชายผู้ชาญฉลาดที่เกิดมาเพื่อสอนผู้อื่น! พวกท่านอย่าคิดว่าข้าพูดเกินจริงเลย นับจากนี้สิบหรือยี่สิบปี พวกท่านจะรู้ว่าตนเองโชคดีเพียงใด!”“ท่านจอหงวน ตอนนี้พวกเรารู้แล้วว่าเราโชคดีเพียงใด!”“นายจ้างคนอื่นจ้างพวกเรามาทำงาน และจัดหาอาหารให้เราสองมื้อต่อวัน ซึ่งทั้งสองมื้อล้วนมีแต่โจ๊ก!”“พี่หยวนจ้างพวกเราทำงาน ไม่เพียงแค่ให้พวกเรากินเนื้อทั้งสองมื้อ แต่ยังจ่ายเงินให้หลายตำลึงต่อเดือนอีกด้วย!”"ไม่เพียงเท่านั้น เขายังแจกจ่ายสบู่และผ้าฝ้ายให้พวกเรา และในวันตรุษจีนเขาก็มอบเนื้อสามสิบจิน น้ำตาลสิบจิน และธัญพืชอีกหนึ่งกระสอบ นอกจากนี้เขายังจ่ายค่าพยาบาลให้พวกเราอีกด้วย!”“พี่หยวนสร้างหมู่บ้านให้เราอาศ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 516

    ทันทีที่เข้าไปในหมู่บ้าน เสวี่ยเมิ่งหลงและหลี่จ้าวหลินก็ต้องตกตะลึง ถนนทุกเส้นของหมู่บ้านถูกถมด้วยหินสีน้ำเงิน ราวกับพวกเขาอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ส่วนตัว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เหยียบโคลนเมื่อก้าวเดินขณะที่กำลังรับประทานอาหาร ทั้งสองคนก็หันมองหน้ากันอีกครั้ง!งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นในอาคารสามชั้นขนาดเล็ก ทิวทัศน์ที่นี่ช่างกว้างไกลจนสามารถมองเห็นฟ้าใสและเมฆสีขาวได้!ทว่ากลับไม่มีอาหารจากภัตตาคารหรู มีเพียงหม้อทองแดงขนาดใหญ่ที่มีรูอยู่ตรงกลางและมีน้ำเดือดอยู่รอบ ๆ นอกจากนี้ยังมีจานเนื้อดิบ ผัก กะหล่ำปลีอยู่ข้าง ๆ พร้อมทั้ง... ลูกชิ้นและแป้งหลากหลายชนิดอีกด้วยเสวี่ยเมิ่งหลงและหลี่จ้าวหลินมองหน้ากันอีกครั้ง!ตามที่คาดการณ์ไว้ไม่มีผิด เหล่าชาวบ้านไม่มีทางปรุงอาหารเลิศหรูได้ ดังนั้นอีกฝ่ายจึงปล่อยให้ตนปรุงอาหารตามใจชอบเนื้อดิบและผักเหล่านี้จะมีรสชาติอย่างไรเมื่อปรุงสุก ใครจะกินลงกัน!ในชนบทไม่มีตำราการทำอาหาร!เหยาฝูไห่ดูสนใจเนื้อดิบ ผัก และลูกชิ้นไม่น้อยคนกลุ่มหนึ่งลงที่โต๊ะในฐานะแขกผู้มาเยือน!วังไห่เทียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “น้องชาย เร็ว ๆ นี้เจ้าคิดค้นอาหารแปลกใหม่อะไรบ้างรึ บอกข้ามาเร็ว ๆ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 517

    ดูเหมือนว่าสองคนนี้จะไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไร ทว่าเขาก็ไม่ได้กล่าวออกมาสุดท้ายแล้วพวกเขาก็เป็นจู่เหริน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะไม่พอใจที่ต้องมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ เช่นหมู่บ้านต้าหวังไม่ว่าอีกฝ่ายจะคิดอย่างไร ตราบใดที่ยังรักษามารยาท เขาก็จะทำตัวมีมารยาทกลับเช่นกันกรวบ!วังฉงโหลวคีบลูกชิ้นขั้นมาแล้วกัดไปเต็มคำ ทันใดนั้นน้ำแกงแสนอร่อยจำนวนมากพลันไหลออกมากระตุ้นให้น้ำลายไหลมากกว่าเดิม เขาจึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “อาหยวน ลูกชิ้นอันนี้อร่อยยิ่งนัก ข้างในมีน้ำแกงอยู่ด้วยรึ แล้วมันเรียกว่าอะไรหรือขอรับ!” หวังหยวนพลันนึกสนุก “มันเรียกลูกชิ้นปัสสาวะวัว!”ดวงตาของวังฉงโหลวเป็นประกาย เขารีบเทลูกชิ้นที่เหลือเข้าไปในหม้ออย่างรวดเร็วพร้อมกล่าวอย่างมีความสุข “ข้าชอบกินยิ่งนัก ข้าจะไม่แบ่งให้ใครเด็ดขาด!”ฉึบ!วังไห่เทียนคีบลูกชิ้นปัสสาวะวัวขึ้นมาแล้วนำมันเข้าปาก ภายในช่องปากของเขาจึงเต็มไปด้วยน้ำมันและน้ำแกง จากนั้นเคี้ยวสองสามทีแล้วกลืนก่อนหัวเราะเสียงดัง “น้องชาย เป็นชื่อที่ดียิ่งนัก เพียงเคี้ยวไม่กี่วินาทีก็ให้ความรู้สึกราวกับว่าลูกวัวตัวนี้กำลังปัสสาวะอย่างเพลิดเพลิน!”เหย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 518

    ในแผ่นดินต้าเย่ยังมีอาหารที่มีรสเลิศกว่าหม้อไฟมากมาย ทว่ามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีเงินมากพอที่จะซื้อมันได้!ทว่าหม้อไฟเป็นอาหารที่พวกเขาไม่เคยลิ้มลองมาก่อน รสชาติของมันจึงแปลกใหม่และเร้าใจ ยิ่งทำให้มัวเมามากกว่าเดิมทั้งห้าคนรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย พวกเขากินเนื้อ ลูกชิ้น และผักสดจานแล้วจานเล่าโครก!เมื่อเห็นทั้งห้าคนกินอย่างมีความสุข ท้องของเสวี่ยเมิงหลงก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงประท้วงขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกประหลาด!หากอาหารตรงหน้าไม่อร่อย พวกเขาก็ควรแสร้งทำเพียงชั่วครู่สิ แต่เหตุใดถึงกินไม่หยุดเช่นนี้!ท่านอาจารย์ ศิษย์พี่ และฉงโหลวล้วนสวาปามอาหารตรงหน้าราวกับเป็นวิญญาณหิวโหยกลับชาติมาเกิดบางทีมันอาจจะอร่อยจริง ๆ ก็เป็นได้!วังไห่เทียนที่ใกล้จะอิ่มแล้วมองลูกศิษย์อยู่ครู่หนึ่ง “ข้าเคยคิดว่าเจ้าฉลาดมาตลอด แต่เหตุใดตอนนี้ถึงทำตัวโง่งมนัก รีบกินเข้าสิ!”เพียงมองแวบเดียวเขาก็สามารถบอกได้ว่าลูกศิษย์เหล่านี้ต้องมีแผนการอยู่ในใจแน่นอน ทว่าเขากลับไม่ได้เอ่ยออกมา!วังไห่เทียนเชื่อว่าด้วยพรสวรรค์ของหมิงถัน เขาจะสามารถเอาชนะใจลูกศิษย์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย!

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 519

    “เหตุใดเจ้าถึงไม่พูดว่าท่านจู่เหริน นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านได้ลิ้มลองหม้อไฟ อย่าเพิ่งทะเลาะกันเลย!”“นั่น... นั่นเป็นเพราะพี่หยวนทำหม้อไฟอร่อยมากยังไงล่ะ!”“เอาล่ะ ๆ ท่านจู่เหรินมาที่นี่เพื่อสอนตำราแก่ลูกหลานเรา อย่านินทาลับหลังพวกเขาเลย!”กลุ่มชาวบ้านกระซิบกระซาบ!ชาวบ้านสองสามคนกำลังรับประทานหม้อไฟทองแดงอยู่ที่ชั้นบน ขณะที่บางส่วนเตรียมผักอยู่ที่ชั้นล่าง พวกเขาแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน!ใบหน้าของหลี่จ้าวหลินละเสวี่ยเมิ่งหลงเปลี่ยนเป็นสีแดง พวกเขาถูกเหล่าชาวบ้านหัวเราะเยาะเพียงเพราะเรื่องลูกชิ้นงั้นรึ!หวังหยวนต้องการปรามชาวบ้าน และห้ามหยิบยกเรื่องนี้มาพูดอีกในอนาคต!“น้องชาย อย่าเพิ่งไป!”วังไห่เทียนรั้งหวังหยวนเอาไว้พลางล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีใครบนโลกนี้ไม่ถูกนินทา ๆ อีกอย่างพวกเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายเสียหน่อย”หวังหยวนพยักหน้าพลางยิ้มตอบ พี่ไห่เทียนช่างมีจิตใจกว้างขวางนัก ทั้งยังสามารถมองสถานการณ์ได้อย่างทะลุปรุโปร่งคนกลุ่มหนึ่งเดินไปตามถนนในหมู่บ้านพวกเขาเดินดูการทำงานของชาวบ้าน ดูการทำอาหารในโรงอาหาร ดูเด็ก ๆ เรียนตำรา ดูเหล่าเด็กหนุ่มฝึกศิลปะการต่อสู้ในสนามหญ้า และดูโรงง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 520

    “กล้องจุลทรรศน์!”ทุกคนมองไปยังสิ่งประดิษฐ์หน้าตาแปลกประลาด และไม่รู้ว่ามันใช้งานอย่างไร!หวังหยวนอธิบายและสาธิตการใช้งานอีกครั้ง“ข้าประดิษฐ์มันขึ้นมาโดยใช้หลักการกระจกใส โดยใช้กระจกนูนนูน และกระจกนูนเว้า ซึ่งมันเป็นความรู้ทางฟิสิกส์!”เสวี่ยเมิ่งหลงผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลม เปิดตำราฟิสิกส์ที่เพิ่งอ่านเมื่อครู่ เมื่อเปิดไปถึงบทความที่เกี่ยวกับหลักการการมองเห็น เขาก็เผยท่าทีตื่นเต้นอย่างมากราวกับเจอขุมทรัพย์ล้ำค่า!หลี่จ้าวหลินยกกระจกนูนขึ้นมาดูด้วยความสงสัยและไม่เชื่อ เขาสอดนิ้วเข้าไปข้างใต้กระจก จากนั้นมองเห็นเส้นขนขนาดเล็กจำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อ หลี่จ้าวหลินตกตะลึงจนไม่อาจสงวนท่าทีได้อีกต่อไป เขาวางจานแก้วที่มีน้ำอยู่ข้างในไว้ข้างใต้กระจก ไม่นานก็เห็นซี่จวินตัวเล็ก ๆ อยู่ข้างใน เขาจึงอดอุทานด้วยความตกใจไม่ได้ “ใน... ในน้ำมีซี่จวินจริงด้วย!”“ข้าขอดูหน่อยสิ!”เสวี่ยเมิ่งหลงมองหลี่จ้าวหลินที่กำลังมองเข้าไปในกล้องจุลทรรศน์ และอดไม่ได้ที่จะขอดู หลังจากมองดูครู่ใหญ่ เสวี่ยเมิ่งหลงก็อุทานด้วยความประหลาดใจ “มี... มีซี่จวินอยู่ในน้ำจริง ๆ!”วังฉงโหลวก็ขอดูเช่นกัน ตามมาด้วยเหยาฝูไห่และ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 521

    อาจารย์และลูกศิษย์มองดูแบบจำลองการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ โลก ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์อีกเก้าดวงด้วยสีหน้าแตกต่างกัน!ไม่นานวังไห่เทียนและเหยาฝูไห่ก็ตระหนักได้ ส่วนวังฉงโหลวมีท่าทีสับสน ขณะที่หลี่จ้าวหลินและเสวี่ยเมิ่งหลงรู้สึกเหลือเชื่อ“นี่คือแบบจำลองระบบสุริยะที่ประกอบด้วยโลก ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ทั้งห้าดวงที่มีส่วนผสมของทอง ไม้ น้ำ ไฟ และดิน ซึ่งแบบจำลองนี้ยังมีดาวเหนือรวมอยู่ด้วย และนี่คือวิธีที่พวกมันเคลื่อนที่!”หวังหยวนสาธิตแบบจำลอง และอธิบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลที่เกิดจากระยะห่างระหว่างฟ้าดินหวังไห่เทียนและเหยาฝูไห่พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า!วังฉงโหลว ต้าหู่ จ้าวชิงเหอ และหูเมิ่งอิ๋งยังคงเผยสีหน้าสับสนขณะที่หลี่จ้าวหลินและเสวี่ยเมิ่งหลงมุ่นคิ้วพร้อมส่ายหน้า!“เป็นไปไม่ได้!”เสวี่ยเมิ่งหลงที่อายุน้อยที่สุดตอบกลับอย่างกระตือรือร้น “หากโลกมีทรงกลมและลอยอยู่ในความว่างเปล่า เช่นเดียวกับกลุ่มดาวซานหยวนทั้งยี่สิบแปดดวง เช่นนั้นพวกเรายืนอยู่บนลูกกลม ๆ ได้อย่างไร แล้วเหตุใดดาวทรงกลมถึงไม่ตกลงไปในความว่างเปล่าเล่าขอรับ!” หวังหยวนคลี่ยิ้มเล็กน้อย จากนั้นเป

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2251

    “ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2250

    แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2249

    เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status