Share

บทที่ 515

Author: ชวินเป่ยอี๋
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ทว่ากลับดูเป็นกันเองยิ่งนัก!

ถึงกระนั้นหลี่จ้าวหลินและเสวี่ยเมิ่งหลงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย ชาวบ้านเหล่านี้ไม่รู้จักมารยาทรึ เหตุใดถึงไม่รู้ว่าคนทั่วไปต้องทำอย่างไรเวลาเจอหน้าพวกเขา!

“ข้าได้ตำแหน่งจอหงวนเมื่อสามสิบปีที่แล้ว ข้าจะกล้าเทียบกับเจ้าได้อย่างไร?”

วังไห่เทียนรับโทรโข่งจากหวังหยวนมาแล้วยกมันขึ้นจ่อปากก่อนกล่าวว่า “ชาวบ้านทั้งหลาย ข้าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มายังหมู่บ้านของหมิงถัน น้องชายผู้ชาญฉลาดที่เกิดมาเพื่อสอนผู้อื่น! พวกท่านอย่าคิดว่าข้าพูดเกินจริงเลย นับจากนี้สิบหรือยี่สิบปี พวกท่านจะรู้ว่าตนเองโชคดีเพียงใด!”

“ท่านจอหงวน ตอนนี้พวกเรารู้แล้วว่าเราโชคดีเพียงใด!”

“นายจ้างคนอื่นจ้างพวกเรามาทำงาน และจัดหาอาหารให้เราสองมื้อต่อวัน ซึ่งทั้งสองมื้อล้วนมีแต่โจ๊ก!”

“พี่หยวนจ้างพวกเราทำงาน ไม่เพียงแค่ให้พวกเรากินเนื้อทั้งสองมื้อ แต่ยังจ่ายเงินให้หลายตำลึงต่อเดือนอีกด้วย!”

"ไม่เพียงเท่านั้น เขายังแจกจ่ายสบู่และผ้าฝ้ายให้พวกเรา และในวันตรุษจีนเขาก็มอบเนื้อสามสิบจิน น้ำตาลสิบจิน และธัญพืชอีกหนึ่งกระสอบ นอกจากนี้เขายังจ่ายค่าพยาบาลให้พวกเราอีกด้วย!”

“พี่หยวนสร้างหมู่บ้านให้เราอาศ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 516

    ทันทีที่เข้าไปในหมู่บ้าน เสวี่ยเมิ่งหลงและหลี่จ้าวหลินก็ต้องตกตะลึง ถนนทุกเส้นของหมู่บ้านถูกถมด้วยหินสีน้ำเงิน ราวกับพวกเขาอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ส่วนตัว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เหยียบโคลนเมื่อก้าวเดินขณะที่กำลังรับประทานอาหาร ทั้งสองคนก็หันมองหน้ากันอีกครั้ง!งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นในอาคารสามชั้นขนาดเล็ก ทิวทัศน์ที่นี่ช่างกว้างไกลจนสามารถมองเห็นฟ้าใสและเมฆสีขาวได้!ทว่ากลับไม่มีอาหารจากภัตตาคารหรู มีเพียงหม้อทองแดงขนาดใหญ่ที่มีรูอยู่ตรงกลางและมีน้ำเดือดอยู่รอบ ๆ นอกจากนี้ยังมีจานเนื้อดิบ ผัก กะหล่ำปลีอยู่ข้าง ๆ พร้อมทั้ง... ลูกชิ้นและแป้งหลากหลายชนิดอีกด้วยเสวี่ยเมิ่งหลงและหลี่จ้าวหลินมองหน้ากันอีกครั้ง!ตามที่คาดการณ์ไว้ไม่มีผิด เหล่าชาวบ้านไม่มีทางปรุงอาหารเลิศหรูได้ ดังนั้นอีกฝ่ายจึงปล่อยให้ตนปรุงอาหารตามใจชอบเนื้อดิบและผักเหล่านี้จะมีรสชาติอย่างไรเมื่อปรุงสุก ใครจะกินลงกัน!ในชนบทไม่มีตำราการทำอาหาร!เหยาฝูไห่ดูสนใจเนื้อดิบ ผัก และลูกชิ้นไม่น้อยคนกลุ่มหนึ่งลงที่โต๊ะในฐานะแขกผู้มาเยือน!วังไห่เทียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “น้องชาย เร็ว ๆ นี้เจ้าคิดค้นอาหารแปลกใหม่อะไรบ้างรึ บอกข้ามาเร็ว ๆ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 517

    ดูเหมือนว่าสองคนนี้จะไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไร ทว่าเขาก็ไม่ได้กล่าวออกมาสุดท้ายแล้วพวกเขาก็เป็นจู่เหริน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะไม่พอใจที่ต้องมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ เช่นหมู่บ้านต้าหวังไม่ว่าอีกฝ่ายจะคิดอย่างไร ตราบใดที่ยังรักษามารยาท เขาก็จะทำตัวมีมารยาทกลับเช่นกันกรวบ!วังฉงโหลวคีบลูกชิ้นขั้นมาแล้วกัดไปเต็มคำ ทันใดนั้นน้ำแกงแสนอร่อยจำนวนมากพลันไหลออกมากระตุ้นให้น้ำลายไหลมากกว่าเดิม เขาจึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “อาหยวน ลูกชิ้นอันนี้อร่อยยิ่งนัก ข้างในมีน้ำแกงอยู่ด้วยรึ แล้วมันเรียกว่าอะไรหรือขอรับ!” หวังหยวนพลันนึกสนุก “มันเรียกลูกชิ้นปัสสาวะวัว!”ดวงตาของวังฉงโหลวเป็นประกาย เขารีบเทลูกชิ้นที่เหลือเข้าไปในหม้ออย่างรวดเร็วพร้อมกล่าวอย่างมีความสุข “ข้าชอบกินยิ่งนัก ข้าจะไม่แบ่งให้ใครเด็ดขาด!”ฉึบ!วังไห่เทียนคีบลูกชิ้นปัสสาวะวัวขึ้นมาแล้วนำมันเข้าปาก ภายในช่องปากของเขาจึงเต็มไปด้วยน้ำมันและน้ำแกง จากนั้นเคี้ยวสองสามทีแล้วกลืนก่อนหัวเราะเสียงดัง “น้องชาย เป็นชื่อที่ดียิ่งนัก เพียงเคี้ยวไม่กี่วินาทีก็ให้ความรู้สึกราวกับว่าลูกวัวตัวนี้กำลังปัสสาวะอย่างเพลิดเพลิน!”เหย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 518

    ในแผ่นดินต้าเย่ยังมีอาหารที่มีรสเลิศกว่าหม้อไฟมากมาย ทว่ามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีเงินมากพอที่จะซื้อมันได้!ทว่าหม้อไฟเป็นอาหารที่พวกเขาไม่เคยลิ้มลองมาก่อน รสชาติของมันจึงแปลกใหม่และเร้าใจ ยิ่งทำให้มัวเมามากกว่าเดิมทั้งห้าคนรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย พวกเขากินเนื้อ ลูกชิ้น และผักสดจานแล้วจานเล่าโครก!เมื่อเห็นทั้งห้าคนกินอย่างมีความสุข ท้องของเสวี่ยเมิงหลงก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงประท้วงขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกประหลาด!หากอาหารตรงหน้าไม่อร่อย พวกเขาก็ควรแสร้งทำเพียงชั่วครู่สิ แต่เหตุใดถึงกินไม่หยุดเช่นนี้!ท่านอาจารย์ ศิษย์พี่ และฉงโหลวล้วนสวาปามอาหารตรงหน้าราวกับเป็นวิญญาณหิวโหยกลับชาติมาเกิดบางทีมันอาจจะอร่อยจริง ๆ ก็เป็นได้!วังไห่เทียนที่ใกล้จะอิ่มแล้วมองลูกศิษย์อยู่ครู่หนึ่ง “ข้าเคยคิดว่าเจ้าฉลาดมาตลอด แต่เหตุใดตอนนี้ถึงทำตัวโง่งมนัก รีบกินเข้าสิ!”เพียงมองแวบเดียวเขาก็สามารถบอกได้ว่าลูกศิษย์เหล่านี้ต้องมีแผนการอยู่ในใจแน่นอน ทว่าเขากลับไม่ได้เอ่ยออกมา!วังไห่เทียนเชื่อว่าด้วยพรสวรรค์ของหมิงถัน เขาจะสามารถเอาชนะใจลูกศิษย์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย!

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 519

    “เหตุใดเจ้าถึงไม่พูดว่าท่านจู่เหริน นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านได้ลิ้มลองหม้อไฟ อย่าเพิ่งทะเลาะกันเลย!”“นั่น... นั่นเป็นเพราะพี่หยวนทำหม้อไฟอร่อยมากยังไงล่ะ!”“เอาล่ะ ๆ ท่านจู่เหรินมาที่นี่เพื่อสอนตำราแก่ลูกหลานเรา อย่านินทาลับหลังพวกเขาเลย!”กลุ่มชาวบ้านกระซิบกระซาบ!ชาวบ้านสองสามคนกำลังรับประทานหม้อไฟทองแดงอยู่ที่ชั้นบน ขณะที่บางส่วนเตรียมผักอยู่ที่ชั้นล่าง พวกเขาแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน!ใบหน้าของหลี่จ้าวหลินละเสวี่ยเมิ่งหลงเปลี่ยนเป็นสีแดง พวกเขาถูกเหล่าชาวบ้านหัวเราะเยาะเพียงเพราะเรื่องลูกชิ้นงั้นรึ!หวังหยวนต้องการปรามชาวบ้าน และห้ามหยิบยกเรื่องนี้มาพูดอีกในอนาคต!“น้องชาย อย่าเพิ่งไป!”วังไห่เทียนรั้งหวังหยวนเอาไว้พลางล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีใครบนโลกนี้ไม่ถูกนินทา ๆ อีกอย่างพวกเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายเสียหน่อย”หวังหยวนพยักหน้าพลางยิ้มตอบ พี่ไห่เทียนช่างมีจิตใจกว้างขวางนัก ทั้งยังสามารถมองสถานการณ์ได้อย่างทะลุปรุโปร่งคนกลุ่มหนึ่งเดินไปตามถนนในหมู่บ้านพวกเขาเดินดูการทำงานของชาวบ้าน ดูการทำอาหารในโรงอาหาร ดูเด็ก ๆ เรียนตำรา ดูเหล่าเด็กหนุ่มฝึกศิลปะการต่อสู้ในสนามหญ้า และดูโรงง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 520

    “กล้องจุลทรรศน์!”ทุกคนมองไปยังสิ่งประดิษฐ์หน้าตาแปลกประลาด และไม่รู้ว่ามันใช้งานอย่างไร!หวังหยวนอธิบายและสาธิตการใช้งานอีกครั้ง“ข้าประดิษฐ์มันขึ้นมาโดยใช้หลักการกระจกใส โดยใช้กระจกนูนนูน และกระจกนูนเว้า ซึ่งมันเป็นความรู้ทางฟิสิกส์!”เสวี่ยเมิ่งหลงผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลม เปิดตำราฟิสิกส์ที่เพิ่งอ่านเมื่อครู่ เมื่อเปิดไปถึงบทความที่เกี่ยวกับหลักการการมองเห็น เขาก็เผยท่าทีตื่นเต้นอย่างมากราวกับเจอขุมทรัพย์ล้ำค่า!หลี่จ้าวหลินยกกระจกนูนขึ้นมาดูด้วยความสงสัยและไม่เชื่อ เขาสอดนิ้วเข้าไปข้างใต้กระจก จากนั้นมองเห็นเส้นขนขนาดเล็กจำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อ หลี่จ้าวหลินตกตะลึงจนไม่อาจสงวนท่าทีได้อีกต่อไป เขาวางจานแก้วที่มีน้ำอยู่ข้างในไว้ข้างใต้กระจก ไม่นานก็เห็นซี่จวินตัวเล็ก ๆ อยู่ข้างใน เขาจึงอดอุทานด้วยความตกใจไม่ได้ “ใน... ในน้ำมีซี่จวินจริงด้วย!”“ข้าขอดูหน่อยสิ!”เสวี่ยเมิ่งหลงมองหลี่จ้าวหลินที่กำลังมองเข้าไปในกล้องจุลทรรศน์ และอดไม่ได้ที่จะขอดู หลังจากมองดูครู่ใหญ่ เสวี่ยเมิ่งหลงก็อุทานด้วยความประหลาดใจ “มี... มีซี่จวินอยู่ในน้ำจริง ๆ!”วังฉงโหลวก็ขอดูเช่นกัน ตามมาด้วยเหยาฝูไห่และ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 521

    อาจารย์และลูกศิษย์มองดูแบบจำลองการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ โลก ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์อีกเก้าดวงด้วยสีหน้าแตกต่างกัน!ไม่นานวังไห่เทียนและเหยาฝูไห่ก็ตระหนักได้ ส่วนวังฉงโหลวมีท่าทีสับสน ขณะที่หลี่จ้าวหลินและเสวี่ยเมิ่งหลงรู้สึกเหลือเชื่อ“นี่คือแบบจำลองระบบสุริยะที่ประกอบด้วยโลก ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ทั้งห้าดวงที่มีส่วนผสมของทอง ไม้ น้ำ ไฟ และดิน ซึ่งแบบจำลองนี้ยังมีดาวเหนือรวมอยู่ด้วย และนี่คือวิธีที่พวกมันเคลื่อนที่!”หวังหยวนสาธิตแบบจำลอง และอธิบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลที่เกิดจากระยะห่างระหว่างฟ้าดินหวังไห่เทียนและเหยาฝูไห่พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า!วังฉงโหลว ต้าหู่ จ้าวชิงเหอ และหูเมิ่งอิ๋งยังคงเผยสีหน้าสับสนขณะที่หลี่จ้าวหลินและเสวี่ยเมิ่งหลงมุ่นคิ้วพร้อมส่ายหน้า!“เป็นไปไม่ได้!”เสวี่ยเมิ่งหลงที่อายุน้อยที่สุดตอบกลับอย่างกระตือรือร้น “หากโลกมีทรงกลมและลอยอยู่ในความว่างเปล่า เช่นเดียวกับกลุ่มดาวซานหยวนทั้งยี่สิบแปดดวง เช่นนั้นพวกเรายืนอยู่บนลูกกลม ๆ ได้อย่างไร แล้วเหตุใดดาวทรงกลมถึงไม่ตกลงไปในความว่างเปล่าเล่าขอรับ!” หวังหยวนคลี่ยิ้มเล็กน้อย จากนั้นเป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 522

    ภายใต้แสงจันทร์ สวนหย่อมภายในเรือนเกิดแสงหลากสีเปล่งออกมาจนสะท้อนทั่วลานเรือน!วังฉงโหลวและเสวี่ยเมิ่งหลงถือโคมไฟนำทาง เมื่อทั้งห้าคนก้าวเท้าเข้ามาในลานเรือน พวกเขาก็ต้องเบิกตากว้างทันที!อัญมณีเม็ดเล็กหลากสีสันแต่ละเม็ดเปล่งแสงเฉพาะตัวของมันออกมาเสวี่ยเมิ่งหลงพูดตะกุกตะกัก “ใช้อัญมณีตกแต่งขอบแปลงปลูกดอกไม้งั้นรึ ท่านหมิงถันโอ้อวดเกินไปแล้ว!”หลี่จ้าวหลินถอนหายใจพลางกล่าว “แม้แต่สวนดอกไม้ในพระราชวังยังไม่หรูหราเท่านี้เลย!”วังฉงโหลวกล่าว “ลุงหยวน นี่ไม่ได้เรียกว่าโอ้อวดหรอก แต่เป็นคนสุรุ่ยสุร่ายมากกว่า ท่านใช้เงินฟุ่มเฟือยมากกว่าข้าเสียอีก!”เหยาฝูไห่ผู้สุขุมรอบคอบและมากประสบการณ์คลี่ยิ้มอย่างขมขื่น!วังไห่เทียนเผยสายตาประหลาดใจเล็กน้อย ทว่าไม่ได้ประหลาดใจมากนัก จากนั้นหันหลังกลับแล้วเดินเข้าไปในอาคารหลังเล็ก!ไม่ว่าจะเป็นกล้องจุลทรรศน์ กล้องโทรทรรศน์ หรือกล้องส่องฟ้าล้วนทำมาจากแก้วผลึกใสแน่นอนว่าหมิงถันซื้อแก้วผลึกมามากมาย นับประสาอะไรกับอัญมณีเม็ดเล็กขณะที่ก้าวเข้าไปในอาคารหลังเล็ก วังไห่เทียนก็ต้องหยุดฝีเท้า!ดวงตาของทั้งสี่คนเบิกโพลง ร่างกายของพวกเขาพลันโยกเยกจนแทบจะล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 523

    ทั้งห้าคนเตรียมตัวเข้านอนเพื่อพักผ่อนเช้าวันรุ่งขึ้น หวังหยวนก็เดินถือถาดอาหารเช้าผ่านประตูเข้ามา จากนั้นวางลงบนโต๊ะชาเมื่อวังฉงโหลวที่กำลังซักเสื้อผ้าอยู่เห็นเช่นนั้น ก็รีบวิ่งเข้าไปยกถาดอาหารเช้าลงวางบนพื้น ก่อนกล่าวเชิงตำหนิ “อาหยวน พวกเราจะทำสมบัติล้ำค่าเช่นนี้เสียหายไม่ได้ มานั่งกินอาหารบนพื้นเถอะ!”แม้เขาจะเป็นลูกผู้ดีมีเงิน ทั้งยังมีนิสัยฟุ่มเฟือยดูหมิ่นเงินจำนวนเล็กน้อย แต่เมื่อพบสมบัติล้ำค่า ก็ระมัดระวังอย่างมาก!“ฉงโหลว มันเป็นแค่แก้วผลึกใสหนึ่งชิ้น หากเสียหายแล้วอย่างไรเล่า?”หวังหยวนยกถาดอาหารมาวางไว้บนโต๊ะดังเดิม จากนั้นถามอย่างมีเหตุผล “มันเทียบกับมิตรภาพระหว่างข้าและอารองของเจ้าได้หรือไม่?”แก้วผลึกใสเหล่านี้ถูกผลิตขึ้นที่โรงงานแห่งที่ห้าของเขา ดังนั้นจึงไม่นับว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่าหากแก้วผลึกใสชิ้นหนึ่งแตก ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะสามารถเปลี่ยนใหม่ได้เสมอ!“ฮ่าฮ่าฮ่า น้องชาย... ข้าชอบความคิดสบาย ๆ ของเจ้า ที่มองสมบัติล้ำค่าไม่ต่างกับสิ่งของธรรมดาชิ้นหนึ่งยิ่งนัก ในเมื่อเจ้าพูดเช่นนั้น ข้าในฐานะพี่ชายก็วางใจแล้ว!”วังไห่เทียนเดินตรงไปที่โต๊ะน้ำชาแล้วนั่งลง

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1866

    นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1865

    หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1864

    “ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1863

    แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

DMCA.com Protection Status