แชร์

บทที่ 512

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“หึ!”

สะใภ้ตระกูลหลี่กล่าวคำเบา “หลังจากนี้ท่านจงไปโน้มน้าวท่านพ่อว่าอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายดูไม่น่าไว้วางใจยิ่งนัก เราอาจจะพึ่งพาเขาไม่ได้ ท่านลองนึกถึงสงครามครั้งใหญ่ในตอนเหนือที่อัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายชี้แนะแม่ทัพหนุ่มจนได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ อัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายจึงควรเป็นผู้นำขุนนางในราชสำนัก และด้วยสถานการณ์ของไอ้คนบ้านนอก ทำให้แม่ทัพหนุ่มถูกตำหนิ รวมไปถึงทำให้อัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายไม่ได้รับความไว้วางใจจากฝ่าบาทอีกต่อไป หากท่านพ่อและพวกท่านต้องการประสบความสำเร็จ จึงต้องเข้าร่วมกับอัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวา และเมื่อถึงตอนนั้น พวกเราก็จะถูกเลื่อนขั้นและร่ำรวยได้อย่างง่าย!”

หลี่อีเหนียนขมวดคิ้ว “ท่านพ่อต้องการทำเพียงสิ่งที่มีประโยชน์ต่อราชสำนักเท่านั้น เขาไม่ต้องการเข้าร่วมกับพรรคพวกที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนหรือแข่งขันแย่งชิงอำนาจ นอกจากนี้ท่านพ่อและอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายยังเป็นพันธมิตรกันมานาน และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับอัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวา ดังนั้นเขาจึงไม่มีวันเข้าร่วมกับอัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวาอย่างแน่นอน!”

สะใภ้ตระกูลหลี่แค่นเสียงเล็กน้อย “ข้าคิดเรื่องนี้แทนท่านแล้ว ผู้ตรวจการมณฑลมิใช่อยู
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 513

    เด็กหนุ่มเสวี่ยเมิ่งหลงเลิกคิ้วกระบี่พร้อมกล่าว “ศิษย์พี่ฝูไห่ ศิษย์พี่จ้าวหลิน พวกเราต้องติดตามท่านอาจารย์ไปอีกนานเท่าไร ข้าทนใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านนอกไม่ไหวแล้ว!”เขาคือบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมายของจวิ้นวั่ง ทั้งยังมีความสัมพันธ์อันดีกับขุนนางในราชสำนัก ดังนั้นเขาจึงได้รับข่าวจากเมืองหลวงกล่าวกันว่าหวังหยวนเป็นหมากของแม่ทัพหนุ่มและอาจารย์ที่ใช้แทรกแซงในราชสำนักเขาเชื่อข่าวนี้ในทันใดเดิมทีในตอนที่ได้ข่าวว่าหวังหยวนคือคนวางแผนยุทธศาสตร์ในการรบกับชาวหวง เขาก็นึกสงสัยอย่างมาก!อย่างไรเสีย เขาก็คืออัจฉริยะที่สอบผ่านการสอบคัดเลือกขุนนางตั้งแต่อายุสิบแปดปีในทางกลับกัน หวังหยวนมีทักษะด้านกลอนและบทกวี การเมือง ยุทธการทหาร เชี่ยวชาญในงานฝีมือ ทั้งยังช่ำชองด้านการบริหาร แม้แต่ปีศาจก็ไม่อาจเก่งรอบด้านเช่นนี้ได้นอกจากนี้เด็กน้อยในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ยังต้องการอาจารย์สอนอ่านเขียนอีกด้วย!สาเหตุที่เขามาที่นี่ก็เพราะต้องการพิสูจน์พรสวรรค์ และความบริสุทธิ์ของอีกฝ่ายทางอ้อมชายหนุ่มหลี่จ้าวหลินส่ายหน้าพลางถอนหายใจ“เมิ่งหลง ท่านอาจารย์กำลังวางแผนสำหรับลูกของเขา”ฉงโหลวเป็นคนใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 514

    ระหว่างเดินทางจากเมืองจิ่วซานไปยังเมืองฝู วังฉงโหลวพบเจอชาวบ้านยากไร้มากมาย และเมื่อเห็นรถม้า พวกเขาก็จะปรี่เข้ามาล้อมรอบเอาไว้ทันทีเคราะห์ดีที่คนขับรถม้าตระกูลวังมีสายตาแหลมคม เขาจึงรีบกล่าวว่า “นายน้อย พวกเขาไม่ใช่ชาวบ้านยากไร้ แต่เป็นเพราะท่านหมิงถันมาต้อนรับพวกเราขอรับ”หวังหยวนมักไปเยี่ยมเยือนตระกูลวังที่เมืองจิ่วซานอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นพวกบ่าวรับใช้จึงจดจำเขาได้“อาหยวนมารับพวกเรางั้นรึ!”วังฉงโหลวขยี้ตาอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเข้าไปใกล้อีกฝ่าย เขาจึงมองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นก่อนตะโกนเสียงดัง “อารอง อาหยวนมารอต้อนรับพวกเรา แล้วเขาก็พาคนมาด้วยเยอะมาก!”วังไห่เทียน เหยาฝูไห่ หลี่จ้าวหลิน และเสวี่ยเมิ่งหลงเลิกม่านขึ้นมองข้างนอกก่อนตกตะลึงหวังหยวนเกณฑ์ชาวบ้านมางั้นรึชาวบ้านที่อยู่ข้างหลังถือกระดาษพร้อมข้อความที่เขียนว่า ‘ยินดีต้อนรับท่านไห่เทียนผู้มีชื่อเสียงก้องโลก พร้อมลูกศิษย์ที่เดินทางมายังหมู่บ้านต้าหวังเพื่อสั่งสอนและให้ความรู้’นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านตีฆ้อง กลอง และบรรเลงสว่อน่าราวกับกำลังเฉลิมฉลองการแต่งงาน!เมื่อทั้งห้าคนก้าวลงจากรถม้า เหล่าชาวบ้านที่ไม่เคยพบเห็นขุนนางประ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 515

    ทว่ากลับดูเป็นกันเองยิ่งนัก!ถึงกระนั้นหลี่จ้าวหลินและเสวี่ยเมิ่งหลงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย ชาวบ้านเหล่านี้ไม่รู้จักมารยาทรึ เหตุใดถึงไม่รู้ว่าคนทั่วไปต้องทำอย่างไรเวลาเจอหน้าพวกเขา!“ข้าได้ตำแหน่งจอหงวนเมื่อสามสิบปีที่แล้ว ข้าจะกล้าเทียบกับเจ้าได้อย่างไร?”วังไห่เทียนรับโทรโข่งจากหวังหยวนมาแล้วยกมันขึ้นจ่อปากก่อนกล่าวว่า “ชาวบ้านทั้งหลาย ข้าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มายังหมู่บ้านของหมิงถัน น้องชายผู้ชาญฉลาดที่เกิดมาเพื่อสอนผู้อื่น! พวกท่านอย่าคิดว่าข้าพูดเกินจริงเลย นับจากนี้สิบหรือยี่สิบปี พวกท่านจะรู้ว่าตนเองโชคดีเพียงใด!”“ท่านจอหงวน ตอนนี้พวกเรารู้แล้วว่าเราโชคดีเพียงใด!”“นายจ้างคนอื่นจ้างพวกเรามาทำงาน และจัดหาอาหารให้เราสองมื้อต่อวัน ซึ่งทั้งสองมื้อล้วนมีแต่โจ๊ก!”“พี่หยวนจ้างพวกเราทำงาน ไม่เพียงแค่ให้พวกเรากินเนื้อทั้งสองมื้อ แต่ยังจ่ายเงินให้หลายตำลึงต่อเดือนอีกด้วย!”"ไม่เพียงเท่านั้น เขายังแจกจ่ายสบู่และผ้าฝ้ายให้พวกเรา และในวันตรุษจีนเขาก็มอบเนื้อสามสิบจิน น้ำตาลสิบจิน และธัญพืชอีกหนึ่งกระสอบ นอกจากนี้เขายังจ่ายค่าพยาบาลให้พวกเราอีกด้วย!”“พี่หยวนสร้างหมู่บ้านให้เราอาศ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 516

    ทันทีที่เข้าไปในหมู่บ้าน เสวี่ยเมิ่งหลงและหลี่จ้าวหลินก็ต้องตกตะลึง ถนนทุกเส้นของหมู่บ้านถูกถมด้วยหินสีน้ำเงิน ราวกับพวกเขาอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ส่วนตัว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เหยียบโคลนเมื่อก้าวเดินขณะที่กำลังรับประทานอาหาร ทั้งสองคนก็หันมองหน้ากันอีกครั้ง!งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นในอาคารสามชั้นขนาดเล็ก ทิวทัศน์ที่นี่ช่างกว้างไกลจนสามารถมองเห็นฟ้าใสและเมฆสีขาวได้!ทว่ากลับไม่มีอาหารจากภัตตาคารหรู มีเพียงหม้อทองแดงขนาดใหญ่ที่มีรูอยู่ตรงกลางและมีน้ำเดือดอยู่รอบ ๆ นอกจากนี้ยังมีจานเนื้อดิบ ผัก กะหล่ำปลีอยู่ข้าง ๆ พร้อมทั้ง... ลูกชิ้นและแป้งหลากหลายชนิดอีกด้วยเสวี่ยเมิ่งหลงและหลี่จ้าวหลินมองหน้ากันอีกครั้ง!ตามที่คาดการณ์ไว้ไม่มีผิด เหล่าชาวบ้านไม่มีทางปรุงอาหารเลิศหรูได้ ดังนั้นอีกฝ่ายจึงปล่อยให้ตนปรุงอาหารตามใจชอบเนื้อดิบและผักเหล่านี้จะมีรสชาติอย่างไรเมื่อปรุงสุก ใครจะกินลงกัน!ในชนบทไม่มีตำราการทำอาหาร!เหยาฝูไห่ดูสนใจเนื้อดิบ ผัก และลูกชิ้นไม่น้อยคนกลุ่มหนึ่งลงที่โต๊ะในฐานะแขกผู้มาเยือน!วังไห่เทียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “น้องชาย เร็ว ๆ นี้เจ้าคิดค้นอาหารแปลกใหม่อะไรบ้างรึ บอกข้ามาเร็ว ๆ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 517

    ดูเหมือนว่าสองคนนี้จะไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไร ทว่าเขาก็ไม่ได้กล่าวออกมาสุดท้ายแล้วพวกเขาก็เป็นจู่เหริน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะไม่พอใจที่ต้องมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ เช่นหมู่บ้านต้าหวังไม่ว่าอีกฝ่ายจะคิดอย่างไร ตราบใดที่ยังรักษามารยาท เขาก็จะทำตัวมีมารยาทกลับเช่นกันกรวบ!วังฉงโหลวคีบลูกชิ้นขั้นมาแล้วกัดไปเต็มคำ ทันใดนั้นน้ำแกงแสนอร่อยจำนวนมากพลันไหลออกมากระตุ้นให้น้ำลายไหลมากกว่าเดิม เขาจึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “อาหยวน ลูกชิ้นอันนี้อร่อยยิ่งนัก ข้างในมีน้ำแกงอยู่ด้วยรึ แล้วมันเรียกว่าอะไรหรือขอรับ!” หวังหยวนพลันนึกสนุก “มันเรียกลูกชิ้นปัสสาวะวัว!”ดวงตาของวังฉงโหลวเป็นประกาย เขารีบเทลูกชิ้นที่เหลือเข้าไปในหม้ออย่างรวดเร็วพร้อมกล่าวอย่างมีความสุข “ข้าชอบกินยิ่งนัก ข้าจะไม่แบ่งให้ใครเด็ดขาด!”ฉึบ!วังไห่เทียนคีบลูกชิ้นปัสสาวะวัวขึ้นมาแล้วนำมันเข้าปาก ภายในช่องปากของเขาจึงเต็มไปด้วยน้ำมันและน้ำแกง จากนั้นเคี้ยวสองสามทีแล้วกลืนก่อนหัวเราะเสียงดัง “น้องชาย เป็นชื่อที่ดียิ่งนัก เพียงเคี้ยวไม่กี่วินาทีก็ให้ความรู้สึกราวกับว่าลูกวัวตัวนี้กำลังปัสสาวะอย่างเพลิดเพลิน!”เหย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 518

    ในแผ่นดินต้าเย่ยังมีอาหารที่มีรสเลิศกว่าหม้อไฟมากมาย ทว่ามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีเงินมากพอที่จะซื้อมันได้!ทว่าหม้อไฟเป็นอาหารที่พวกเขาไม่เคยลิ้มลองมาก่อน รสชาติของมันจึงแปลกใหม่และเร้าใจ ยิ่งทำให้มัวเมามากกว่าเดิมทั้งห้าคนรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย พวกเขากินเนื้อ ลูกชิ้น และผักสดจานแล้วจานเล่าโครก!เมื่อเห็นทั้งห้าคนกินอย่างมีความสุข ท้องของเสวี่ยเมิงหลงก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงประท้วงขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกประหลาด!หากอาหารตรงหน้าไม่อร่อย พวกเขาก็ควรแสร้งทำเพียงชั่วครู่สิ แต่เหตุใดถึงกินไม่หยุดเช่นนี้!ท่านอาจารย์ ศิษย์พี่ และฉงโหลวล้วนสวาปามอาหารตรงหน้าราวกับเป็นวิญญาณหิวโหยกลับชาติมาเกิดบางทีมันอาจจะอร่อยจริง ๆ ก็เป็นได้!วังไห่เทียนที่ใกล้จะอิ่มแล้วมองลูกศิษย์อยู่ครู่หนึ่ง “ข้าเคยคิดว่าเจ้าฉลาดมาตลอด แต่เหตุใดตอนนี้ถึงทำตัวโง่งมนัก รีบกินเข้าสิ!”เพียงมองแวบเดียวเขาก็สามารถบอกได้ว่าลูกศิษย์เหล่านี้ต้องมีแผนการอยู่ในใจแน่นอน ทว่าเขากลับไม่ได้เอ่ยออกมา!วังไห่เทียนเชื่อว่าด้วยพรสวรรค์ของหมิงถัน เขาจะสามารถเอาชนะใจลูกศิษย์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย!

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 519

    “เหตุใดเจ้าถึงไม่พูดว่าท่านจู่เหริน นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านได้ลิ้มลองหม้อไฟ อย่าเพิ่งทะเลาะกันเลย!”“นั่น... นั่นเป็นเพราะพี่หยวนทำหม้อไฟอร่อยมากยังไงล่ะ!”“เอาล่ะ ๆ ท่านจู่เหรินมาที่นี่เพื่อสอนตำราแก่ลูกหลานเรา อย่านินทาลับหลังพวกเขาเลย!”กลุ่มชาวบ้านกระซิบกระซาบ!ชาวบ้านสองสามคนกำลังรับประทานหม้อไฟทองแดงอยู่ที่ชั้นบน ขณะที่บางส่วนเตรียมผักอยู่ที่ชั้นล่าง พวกเขาแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน!ใบหน้าของหลี่จ้าวหลินละเสวี่ยเมิ่งหลงเปลี่ยนเป็นสีแดง พวกเขาถูกเหล่าชาวบ้านหัวเราะเยาะเพียงเพราะเรื่องลูกชิ้นงั้นรึ!หวังหยวนต้องการปรามชาวบ้าน และห้ามหยิบยกเรื่องนี้มาพูดอีกในอนาคต!“น้องชาย อย่าเพิ่งไป!”วังไห่เทียนรั้งหวังหยวนเอาไว้พลางล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีใครบนโลกนี้ไม่ถูกนินทา ๆ อีกอย่างพวกเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายเสียหน่อย”หวังหยวนพยักหน้าพลางยิ้มตอบ พี่ไห่เทียนช่างมีจิตใจกว้างขวางนัก ทั้งยังสามารถมองสถานการณ์ได้อย่างทะลุปรุโปร่งคนกลุ่มหนึ่งเดินไปตามถนนในหมู่บ้านพวกเขาเดินดูการทำงานของชาวบ้าน ดูการทำอาหารในโรงอาหาร ดูเด็ก ๆ เรียนตำรา ดูเหล่าเด็กหนุ่มฝึกศิลปะการต่อสู้ในสนามหญ้า และดูโรงง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 520

    “กล้องจุลทรรศน์!”ทุกคนมองไปยังสิ่งประดิษฐ์หน้าตาแปลกประลาด และไม่รู้ว่ามันใช้งานอย่างไร!หวังหยวนอธิบายและสาธิตการใช้งานอีกครั้ง“ข้าประดิษฐ์มันขึ้นมาโดยใช้หลักการกระจกใส โดยใช้กระจกนูนนูน และกระจกนูนเว้า ซึ่งมันเป็นความรู้ทางฟิสิกส์!”เสวี่ยเมิ่งหลงผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลม เปิดตำราฟิสิกส์ที่เพิ่งอ่านเมื่อครู่ เมื่อเปิดไปถึงบทความที่เกี่ยวกับหลักการการมองเห็น เขาก็เผยท่าทีตื่นเต้นอย่างมากราวกับเจอขุมทรัพย์ล้ำค่า!หลี่จ้าวหลินยกกระจกนูนขึ้นมาดูด้วยความสงสัยและไม่เชื่อ เขาสอดนิ้วเข้าไปข้างใต้กระจก จากนั้นมองเห็นเส้นขนขนาดเล็กจำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อ หลี่จ้าวหลินตกตะลึงจนไม่อาจสงวนท่าทีได้อีกต่อไป เขาวางจานแก้วที่มีน้ำอยู่ข้างในไว้ข้างใต้กระจก ไม่นานก็เห็นซี่จวินตัวเล็ก ๆ อยู่ข้างใน เขาจึงอดอุทานด้วยความตกใจไม่ได้ “ใน... ในน้ำมีซี่จวินจริงด้วย!”“ข้าขอดูหน่อยสิ!”เสวี่ยเมิ่งหลงมองหลี่จ้าวหลินที่กำลังมองเข้าไปในกล้องจุลทรรศน์ และอดไม่ได้ที่จะขอดู หลังจากมองดูครู่ใหญ่ เสวี่ยเมิ่งหลงก็อุทานด้วยความประหลาดใจ “มี... มีซี่จวินอยู่ในน้ำจริง ๆ!”วังฉงโหลวก็ขอดูเช่นกัน ตามมาด้วยเหยาฝูไห่และ

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1866

    นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1865

    หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1864

    “ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1863

    แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

DMCA.com Protection Status