แชร์

บทที่ 507

ผู้เขียน: ชวินเป่ยอี๋
ที่ทำการปกครองอำเภอ ณ เมืองฝู!

“นี่... นี่?”

นายอำเภอคนใหม่ซุนไป๋ชวนถือเอกสารจากราชสำนักไว้ในมือก่อนหรี่ตามอง!

อาจารย์หมิงถันละโมบต้องการทวงความดีความชอบในการปราบปรามชาวหวง ซึ่งทำให้ฮ่องเต้ทรงกริ้วอย่างมาก เขาจึงถูกสั่งห้ามไม่ให้มีสิทธิสอบคัดเลือก และจะไม่มีวันได้รับราชการ!

ทว่าสุดท้ายแล้วแม่ทัพหนุ่มก็พูดโน้มน้าวให้อีกฝ่ายรู้ว่าในสายตาของเขา อาจารย์หมิงถันเคารพฮ่องเต้มากเพียงใด!

ไม่ต้องพูดถึงข่าวโคมลอยที่ได้ยินจากคนอื่น ๆ!

แต่ในความคิดของแม่ทัพหนุ่ม ผู้ที่สมควรได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดหลังจากที่กองทัพสามารถเอาชนะชาวหวงได้ก็คือ อาจารย์หมิงถัน!

ตอนนี้ราชสำนักกลับ ‘ตอบแทนความดีงาม’ ของเขาด้วยการทำเช่นนี้!

คุณความดีของเขาเป็นเรื่องจริงหรือเท็จไม่อาจกล่าวได้ แต่เมื่อพิจารณาจากท่าทีของฝ่าบาทแล้ว พระองค์เกลียดชังอาจารย์หมิงถันไม่น้อย

เนื่องด้วยฮ่องเต้มีทัศนคติเช่นนี้ ดังนั้นมุมมองความคิดของเหล่าขุนนางที่มีต่ออาจารย์หมิงถันจึงเปลี่ยนเช่นกัน

ซุนไป๋ชวนตบโต๊ะแล้วตะโกน “ใครก็ได้ อย่าให้ใครเข้ามารบกวนนายท่านสามล่ะ!”

ไม่นาน ผู้ตรวจการสวี่ที่ตอนนี้ได้เลื่อนขั้นเป็นนายอำเภอสวี่ก็ประสานหมัด
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 508

    “องค์ฮ่องเต้ทรงเลอะเลือนไปแล้วเป็นแน่ พี่หยวนมีความดีความชอบมากมายเพียงนี้ แต่เหตุใดต้องสั่งลงโทษด้วย”“ห้ามไม่ให้สอบคัดเลือกขุนนาง ไม่ให้รับราชการ มันคือการตัดอนาคตพี่หยวนชัด ๆ!”“ฮ่องเต้เบาปัญญา แม่ทัพมู่ถูกฆ่าตายเพราะความสำเร็จของเขา ตอนนี้ท่านเสนาธิการทหารก็ถูกลงโทษเพราะความสำเร็จอันยิ่งใหญ่อีก”“ฮ่องเต้และพวกขุนนางชั้นผู้ใหญ่ล้วนโง่เขลา มิเช่นนั้นต้าเย่คงไม่ถูกพวกชาวหวงรุกรานเช่นนี้!”คนกลุ่มหนึ่งรู้สึกขุ่นเคืองอย่างมาก“เอาล่ะ!”หวังหยวนกล่าวต่อ “พวกเจ้าอย่าพูดเช่นนี้ข้างนอกล่ะ มิเช่นนั้นจะกลายเป็นอาชญากรและถูกประหารได้!”ทุกคนในห้องก้มหน้าลง พวกเขารู้ดีว่าหากพูดคำเหล่านี้ ผลที่ตามมาจะเป็นเช่นไร!ก่อนหน้านี้อย่าว่าแต่วิจารณ์องค์ฮ่องเต้เลย แม้แต่นายอำเภอ พวกเขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะพูดถึงด้วยซ้ำ!อย่างไรก็ตาม หลังจากฝ่าฟันเหตุการณ์มากมายพร้อมกับหวังหยวน พวกเขาหลายคนก็มีความกล้ามากขึ้น!“พี่หยวน พวกเราเสียใจที่ท่านไม่ได้รับความยุติธรรม ราชสำนักจะต้องเสียใจที่ทำกับท่านเช่นนี้!”แม้ว่าเขาจะนิ่งเฉยมาตลอด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะตัดพ้อและเผยสายตาไม่พอใจ“ถูกต้อง หากไม่ใช่เพราะลูกพี่ลู

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 509

    หวังหยวนพยักหน้าพลางกล่าว “เจ้าจงไปคัดเลือกกลุ่มคนที่สามารถไว้ใจได้และมีไหวพริบมาให้ข้า จากนั้นส่งไปยังค่ายซานหู่ ข้าจะส่งคนไปฝึกฝนพวกเขาและจะต้องไม่มีบุคคลที่สามรู้เรื่องนี้”“เข้าใจแล้ว!”กัวเฉิงประสานมือทำความเคารพ พลางพยักหน้าก่อนเดินออกไป!หวังหยวนเดินออกไปจากห้องเข่นกัน!เมื่อกัวฉางเดินจากไป คิ้วกระบี่ของหวังหยวนก็ขมวดเข้าหากัน ขณะที่ดวงตามืดมนลงทันใดข้อกล่าวหาที่ว่าเขาไม่พอใจในรางวัลตอบแทนที่ราชสำนักมอบให้ หลังจากที่สามารถปราบปรามชาวหวงเป็นเรื่องเท็จ การที่ฮ่องเต้ซิงหลงเขียนกฤษฎีกาฉบับนี้ขึ้นมา แสดงให้เห็นว่าราชสำนักมีความคิดต่อเขาอย่างไร ซึ่งมันอาจทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับอันตรายนับไม่ถ้วนเพื่อรักษาชีวิตตนเอง เขาจึงต้องคิดทบทวนในการถือไพ่ลับเพิ่มอีกสองสามใบ!หวังหยวนสูดหายใจเข้าลึก จากนั้นเดินออกจากห้องไปพร้อมกับรอยยิ้ม!ทั่วทั้งหมู่บ้านอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งความสุข ชาวบ้านทุกคนต่างได้รับของกำนัลอย่างถ้วนหน้าทุกครอบครัวต่างได้รับเนื้อปลาและเนื้อวัว ขณะที่เด็กและผู้เฒ่าต่างหัวเราะอย่างไม่รู้ตัว!ก่อนหน้านี้ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ชาวบ้านมักจะมีอาหารไม่พอเพียง แต่ในปีน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 510

    ประทัดที่ถูกจำหน่ายในเมืองฝูมีส่วนผสมเป็นดินประสิว กำมะถัน และถ่าน เมื่อประทัดระเบิดออกจะเกิดเสียงดังและมีควันโขมงบางคนซื้อประทัดเหล่านั้นมาใช้และพบว่ามันทั้งเสียงดัง มีควันเยอะ ซึ่งไม่น่าพึงพอใจอย่างยิ่งหวังหยวนจึงผสมดินปืนลงไป จากนั้นใช้กระดาษฟั่นเป็นเกลียวเพื่อทำประทัดเสียงประทัดทำให้เหล่าชาวบ้านตกใจ“ตกลง!”เมื่อได้รับอนุญาต ต้าหู่ก็หยิบประทัดขึ้นมาแล้วจุดไฟก่อนโยนทิ้ง!ชาวบ้านที่เห็นเช่นนั้นต่างปิดหูอย่างรวดเร็ว!ปัง ปัง!เสียงระเบิดดังขึ้น เปลวไฟสว่างวาบ ตามมาด้วยควันหนาทึบ!“ข้าขอหนึ่งอันสิ!”“พี่หู่ ข้าขอด้วย!”“ข้าก็อยากเล่นเช่นกัน!”หวังซื่อไห่ หวังเอ้อโกว หวังเถียนอัน และชาวบ้านหลายคนไม่ได้ที่จะเขยิบไปข้างหน้า!ต้าหู่จุดประทัดอันต่อไปด้วยความปวดใจ ขณะที่เหล่าชาวบ้านต่างระมัดระวังมากขึ้น!ปัง... ปัง!เสียงประทัดดังกระหึ่มไปทั่วหมู่บ้าน!เหล่าผู้เฒ่านั่งมองอยู่ในที่ไกล ๆ ด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มขณะที่น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัวในอดีตเมื่อถึงเทศกาลตรุษจีน พวกชาวบ้านไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อประทัด ดังนั้นพวกเขาจึงโยนไม้ไผ่ลงในกองไฟแทนแต่ในที่สุดปีนี้ก็เป็นปีที่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 511

    จดหมายฉบับนี้เป็นลายมือของหวังหยวนอย่างไม่ต้องสงสัย เนื้อหาช่างเย่อหยิ่งและไร้หัวใจยิ่งนัก!“ซื่อหาน ตอนนี้ข้าอยู่ที่เมืองจวิ้น กิจการของข้าทำรายได้กว่าหนึ่งล้านแล้ว ดังนั้นตระกูลหวังจึงมีอิทธิพลเหนือผู้มีอำนาจ จนกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองในฐานะลูกสะใภ้ของตระกูลหวัง เจ้าต้องแผ่กิ่งก้านสาขาตระกูลหวังออกไปแต่เราแต่งงานกันมาสามปีแล้ว เจ้ากลับไม่ตั้งท้องเลย มันจึงทำให้ข้าละอายใจต่อบรรพบุรุษตระกูลหวังยิ่งนักการไม่มีลูกชายสืบสกุลคือความผิดบาปที่ร้ายแรงที่สุดในความอกตัญญูสามประการ หากข้าไม่มีลูกชายและลูกสาว ใครจะสืบทอดมรดกอันยิ่งใหญ่เล่า แล้วใครจะเป็นผู้กราบไหว้บรรพบุรุษของเรา?ดังนั้นในฐานะสามี ข้าจึงตั้งใจจะมีภรรยาอีกหนึ่งคนเพื่อสืบทอดตระกูลหวัง และกราบไหว้บรรพบุรุษตระกูลหวังของเราไม่อาจเลี้ยงแม่ไก่ที่ไม่สามารถวางไข่ได้ ดังนั้นสถานะสามีภรรยาของเราได้สิ้นสุดลงแล้ว ข้าจะไม่รับตัวเจ้ากลับอีกต่อไปตอนนี้ข้าแต่งงานใหม่แล้ว หญิงผู้นั้นคือหูเมิ่งอิ๋งแห่งตระกูลหู นางงดงามและมีคุณธรรมมากกว่าเจ้า ทั้งยังสามารถช่วยข้าบริหารธุรกิจได้อย่างชำนาญ ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกับข้าเหลือเกิน!ตอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 512

    “หึ!”สะใภ้ตระกูลหลี่กล่าวคำเบา “หลังจากนี้ท่านจงไปโน้มน้าวท่านพ่อว่าอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายดูไม่น่าไว้วางใจยิ่งนัก เราอาจจะพึ่งพาเขาไม่ได้ ท่านลองนึกถึงสงครามครั้งใหญ่ในตอนเหนือที่อัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายชี้แนะแม่ทัพหนุ่มจนได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ อัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายจึงควรเป็นผู้นำขุนนางในราชสำนัก และด้วยสถานการณ์ของไอ้คนบ้านนอก ทำให้แม่ทัพหนุ่มถูกตำหนิ รวมไปถึงทำให้อัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายไม่ได้รับความไว้วางใจจากฝ่าบาทอีกต่อไป หากท่านพ่อและพวกท่านต้องการประสบความสำเร็จ จึงต้องเข้าร่วมกับอัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวา และเมื่อถึงตอนนั้น พวกเราก็จะถูกเลื่อนขั้นและร่ำรวยได้อย่างง่าย!”หลี่อีเหนียนขมวดคิ้ว “ท่านพ่อต้องการทำเพียงสิ่งที่มีประโยชน์ต่อราชสำนักเท่านั้น เขาไม่ต้องการเข้าร่วมกับพรรคพวกที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนหรือแข่งขันแย่งชิงอำนาจ นอกจากนี้ท่านพ่อและอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายยังเป็นพันธมิตรกันมานาน และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับอัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวา ดังนั้นเขาจึงไม่มีวันเข้าร่วมกับอัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวาอย่างแน่นอน!”สะใภ้ตระกูลหลี่แค่นเสียงเล็กน้อย “ข้าคิดเรื่องนี้แทนท่านแล้ว ผู้ตรวจการมณฑลมิใช่อยู

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 513

    เด็กหนุ่มเสวี่ยเมิ่งหลงเลิกคิ้วกระบี่พร้อมกล่าว “ศิษย์พี่ฝูไห่ ศิษย์พี่จ้าวหลิน พวกเราต้องติดตามท่านอาจารย์ไปอีกนานเท่าไร ข้าทนใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านนอกไม่ไหวแล้ว!”เขาคือบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมายของจวิ้นวั่ง ทั้งยังมีความสัมพันธ์อันดีกับขุนนางในราชสำนัก ดังนั้นเขาจึงได้รับข่าวจากเมืองหลวงกล่าวกันว่าหวังหยวนเป็นหมากของแม่ทัพหนุ่มและอาจารย์ที่ใช้แทรกแซงในราชสำนักเขาเชื่อข่าวนี้ในทันใดเดิมทีในตอนที่ได้ข่าวว่าหวังหยวนคือคนวางแผนยุทธศาสตร์ในการรบกับชาวหวง เขาก็นึกสงสัยอย่างมาก!อย่างไรเสีย เขาก็คืออัจฉริยะที่สอบผ่านการสอบคัดเลือกขุนนางตั้งแต่อายุสิบแปดปีในทางกลับกัน หวังหยวนมีทักษะด้านกลอนและบทกวี การเมือง ยุทธการทหาร เชี่ยวชาญในงานฝีมือ ทั้งยังช่ำชองด้านการบริหาร แม้แต่ปีศาจก็ไม่อาจเก่งรอบด้านเช่นนี้ได้นอกจากนี้เด็กน้อยในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ยังต้องการอาจารย์สอนอ่านเขียนอีกด้วย!สาเหตุที่เขามาที่นี่ก็เพราะต้องการพิสูจน์พรสวรรค์ และความบริสุทธิ์ของอีกฝ่ายทางอ้อมชายหนุ่มหลี่จ้าวหลินส่ายหน้าพลางถอนหายใจ“เมิ่งหลง ท่านอาจารย์กำลังวางแผนสำหรับลูกของเขา”ฉงโหลวเป็นคนใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 514

    ระหว่างเดินทางจากเมืองจิ่วซานไปยังเมืองฝู วังฉงโหลวพบเจอชาวบ้านยากไร้มากมาย และเมื่อเห็นรถม้า พวกเขาก็จะปรี่เข้ามาล้อมรอบเอาไว้ทันทีเคราะห์ดีที่คนขับรถม้าตระกูลวังมีสายตาแหลมคม เขาจึงรีบกล่าวว่า “นายน้อย พวกเขาไม่ใช่ชาวบ้านยากไร้ แต่เป็นเพราะท่านหมิงถันมาต้อนรับพวกเราขอรับ”หวังหยวนมักไปเยี่ยมเยือนตระกูลวังที่เมืองจิ่วซานอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นพวกบ่าวรับใช้จึงจดจำเขาได้“อาหยวนมารับพวกเรางั้นรึ!”วังฉงโหลวขยี้ตาอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเข้าไปใกล้อีกฝ่าย เขาจึงมองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นก่อนตะโกนเสียงดัง “อารอง อาหยวนมารอต้อนรับพวกเรา แล้วเขาก็พาคนมาด้วยเยอะมาก!”วังไห่เทียน เหยาฝูไห่ หลี่จ้าวหลิน และเสวี่ยเมิ่งหลงเลิกม่านขึ้นมองข้างนอกก่อนตกตะลึงหวังหยวนเกณฑ์ชาวบ้านมางั้นรึชาวบ้านที่อยู่ข้างหลังถือกระดาษพร้อมข้อความที่เขียนว่า ‘ยินดีต้อนรับท่านไห่เทียนผู้มีชื่อเสียงก้องโลก พร้อมลูกศิษย์ที่เดินทางมายังหมู่บ้านต้าหวังเพื่อสั่งสอนและให้ความรู้’นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านตีฆ้อง กลอง และบรรเลงสว่อน่าราวกับกำลังเฉลิมฉลองการแต่งงาน!เมื่อทั้งห้าคนก้าวลงจากรถม้า เหล่าชาวบ้านที่ไม่เคยพบเห็นขุนนางประ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 515

    ทว่ากลับดูเป็นกันเองยิ่งนัก!ถึงกระนั้นหลี่จ้าวหลินและเสวี่ยเมิ่งหลงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย ชาวบ้านเหล่านี้ไม่รู้จักมารยาทรึ เหตุใดถึงไม่รู้ว่าคนทั่วไปต้องทำอย่างไรเวลาเจอหน้าพวกเขา!“ข้าได้ตำแหน่งจอหงวนเมื่อสามสิบปีที่แล้ว ข้าจะกล้าเทียบกับเจ้าได้อย่างไร?”วังไห่เทียนรับโทรโข่งจากหวังหยวนมาแล้วยกมันขึ้นจ่อปากก่อนกล่าวว่า “ชาวบ้านทั้งหลาย ข้าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มายังหมู่บ้านของหมิงถัน น้องชายผู้ชาญฉลาดที่เกิดมาเพื่อสอนผู้อื่น! พวกท่านอย่าคิดว่าข้าพูดเกินจริงเลย นับจากนี้สิบหรือยี่สิบปี พวกท่านจะรู้ว่าตนเองโชคดีเพียงใด!”“ท่านจอหงวน ตอนนี้พวกเรารู้แล้วว่าเราโชคดีเพียงใด!”“นายจ้างคนอื่นจ้างพวกเรามาทำงาน และจัดหาอาหารให้เราสองมื้อต่อวัน ซึ่งทั้งสองมื้อล้วนมีแต่โจ๊ก!”“พี่หยวนจ้างพวกเราทำงาน ไม่เพียงแค่ให้พวกเรากินเนื้อทั้งสองมื้อ แต่ยังจ่ายเงินให้หลายตำลึงต่อเดือนอีกด้วย!”"ไม่เพียงเท่านั้น เขายังแจกจ่ายสบู่และผ้าฝ้ายให้พวกเรา และในวันตรุษจีนเขาก็มอบเนื้อสามสิบจิน น้ำตาลสิบจิน และธัญพืชอีกหนึ่งกระสอบ นอกจากนี้เขายังจ่ายค่าพยาบาลให้พวกเราอีกด้วย!”“พี่หยวนสร้างหมู่บ้านให้เราอาศ

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2251

    “ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2250

    แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2249

    เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status