แชร์

บทที่ 457

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ต้าหู่เดินเข้าไปฟังสิ่งที่หวังหยวนมอบหมายอยู่พักหนึ่ง จากนั้นดวงตาทั้งคู่ของเขาก็สว่างขึ้น

พวกเขาจองโรงเตี๊ยมทั้งหมดแล้ว คนทั้งกลุ่มก็เข้าไปพักผ่อนและรอข่าวสารเพิ่มเติม

...

อู่จั้งโหวและเซี่ยซานหู่มาถึงสันเขาไป๋หู หงเยี่ยและเสี่ยวไท่ซุ่ยพาคนออกมาทักทายพวกเขา ทั้งสองฝ่ายต่างทักทายกัน

อู่จั้งโหวกำหมัดของเขาแล้วพูดว่า “น้องซั่นอู่ ขอบคุณเจ้าที่ดูแลน้องสาวของข้า งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราในใต้หล้า พวกเราพี่น้องขอลาแล้ว!”

หงเยี่ยรู้สึกสับสน

พี่ใหญ่มาเข้าพบหัวหน้าและเตรียมจะจากไป ก่อนที่จะได้พูดคุยกันสักสองสามประโยค

ใบหน้าผิวขาวซีดของเสี่ยวไท่ซุ่ยสวีซั่นอู่ดูน่าเกลียดเล็กน้อย “พี่อู่จั้งโหว ข้าทำอะไรให้ท่านขุ่นเคืองหรือไม่ หรือว่าท่านรังเกียจใบหน้าของข้าทร่ไม่น่าดู ยังไม่ทันดื่มสุราหรือน้ำสักคำก็จะจากไปแล้ว!”

อู่จั้งโหวโบกมือ “น้องชาย โปรดอย่าเข้าใจผิด เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า!”

หงเยี่ยอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พี่ใหญ่ แล้วเหตุผลของท่านคืออะไรกันแน่!”

“เฮ้อ!”

อู่จั้งโหวถอนหายใจ “มันยากที่จะอธิบายสั้น ๆ!”

เซี่ยซานหู่ลุกขึ้นยืนทันที และอธิบายสิ่งที่พูดในหุบเขาชิงหลงอีกรอบ

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 458

    “ขอบคุณพี่ชายยิ่งนัก!” เสี่ยวไท่ซุ่ยสวีซั่นอู่หายใจลำบาก! อู่จั้งโหวโบกมือ “แต่ตอนนี้ชิงเมี่ยนโช่วได้ก่อเหตุนี้แล้ว ไม่รู้ว่าแม่ทัพหนุ่มจะบุกโจมตีเมื่อไร ข้าไม่วางใจให้น้องสาวของข้าอยู่ที่นี่ต่อ” ปัง! ทันทีที่ตบโต๊ะ เสี่ยวไท่ซุ่ยก็ลุกขึ้นยืน “ข้าจะไปหาชิงเมี่ยนโช่ว แล้วขอให้เขาปล่อยตัวผิงเจี้ยน อย่าสร้างหายนะให้กับสันเขาเชียนเฮ่อ!” อู่จั้งโหวคว้าเขาไว้แล้วพูดว่า “เรื่องนี้เจ้าทำคนเดียวไม่ได้ ทางที่ดีที่สุดคือรวบรวมผู้ที่มีความคิดเห็นเหมือนกัน และสามารถทำงานร่วมกันได้ เมื่อมีผู้คนมากขึ้น ก็จะมีอำนาจกดดันเขาได้มากขึ้น!” เสี่ยวไท่ซุ่ยก็คิดเช่นเดียวกัน จากนั้นจึงรีบจัดกำลังคนเพื่อแจ้งให้โจรภูเขาที่อยู่ใกล้ ๆ รวมตัวกันทันที! หงเยี่ย อู่จั้งโหว และเซี่ยซานหู่ก็ลงจากภูเขาเช่นกัน! หงเยี่ยพูดตรงประเด็นทันที “พี่ใหญ่ ลุงเจี้ยนเป็นวีรบุรุษที่ยิงสังหารอ๋องถูหนานจริง ๆ เหรอ!” “พี่ใหญ่ไม่ได้โกหกเจ้า!” อู่จั้งโหวเอ่ยถามว่า “เจ้าอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวังหลายวันมานี้ เคยทำให้คุณชายโกรธหรือไม่?” หงเยี่ยเม้มริมฝีปากของนาง “พี่ชาย ข้าทำให้เขาโกรธแล้วอย่างไรเล่า ชายคนนั้นน่ารังเกียจยิ่งก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 459

    พี่ชายและน้องสาวทั้งสองคนขี่ม้าไปที่ขุนเขาเฮยสรง และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเฮยเมี่ยนจินกัง! อู่จั้งโหวทวนคำพูดเหล่านั้นอีกครั้ง! “ให้ตายเถอะ ชิงเมี่ยนโช่วเจ้าคนน่ารังเกียจนั่น ถึงกับกล้าจับตัวลุงเจี้ยน!” เฮยเมี่ยนจินกังสาปแช่งเสียงดังแล้วอุทานว่า “กล้ามากที่จับตัวลุงเจี้ยน เขายิงสังหารอ๋องถูหนาน ไม่น่าแปลกใจเลยที่ข้ารู้สึกพิเศษเมื่อเห็นเขาในวันนั้น” หงเยี่ยเม้มริมฝีปากของนางแล้วพูดว่า “แล้วท่านวางแผนจะทำอย่างไรเล่า?” “แน่นอนว่าข้าจะพาคนไปช่วยพาตัวลุงเจี้ยนออกมา!” เฮยเมี่ยนจินกังตบหน้าอกของเขา ยิ้มอีกครั้งแล้วพูดว่า “แต่ตอนนี้มันดึกแล้ว วันนี้คงไม่สามารถไปถึงที่นั่นได้ เราค่อยออกเดินทางกันพรุ่งนี้ดีไหม!” พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า หงเยี่ยและอู่จั้งโหวก็ไม่ปฏิเสธ ดังนั้นพวกเขาจึงพักค้างคืนที่ขุนเขาเฮยสรง บนภูเขาเตรียมสุราและอาหารไว้แล้ว หลังจากนั้นไม่นานก็แลกเปลี่ยนถ้วยสุรากัน ส่วนหงเยี่ยขอตัวไปพักผ่อนก่อน ในขณะที่อู่จั้งโหวและเฮยเมี่ยนจินกังยังคงดื่มต่อไป พวกเขาทั้งสองโอบไหล่ของกันและกัน เฮยเมี่ยนจินกังตัวสูง ในขณะที่อู่จั้งโหวตัวเตี้ย เฮยเมี่ยนจินกังโค้งงอและเบ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 460

    “เรื่องอะไร?” หลังจากได้ยินรายงานจากลูกน้องเหลิ่งอวิ๋นก็พาผู้คนไปที่ประตูภูเขา เขาขมวดคิ้วและพูดว่า “เสี่ยวไท่ซุ่ย เจ้าคิดจะทำอะไร?” “ข้ายังอยากถามเจ้าอีกที เจ้าคิดจะทำบ้าอะไรกันแน่?” เสี่ยวไท่ซุ่ยสวีซั่นอู่นำกลุ่มโจรภูเขาติดอาวุธจำนวนร้อยคนด้วยท่าทีคุกคาม ทั้งสามตระกูลร่วมมือกันโจมตีเทศบาลและยึดชุดเกราะของเทศบาล ซึ่งแต่ละตระกูลได้รับการแจกจ่ายเกือบร้อยชุด เนื่องจากขาดอาหาร โจรภูเขาส่วนใหญ่ในสันเขาไป๋หูและขุนเขาเฮยสรงจึงขึ้นมาที่หุบเขาชิงหลง ทว่าคนสนิทและชุดเกราะของพวกเขายังคงอยู่ในถ้ำเก่าของพวกเขา “กล้ามากนัก เราตั้งกองทัพด้วยกัน ข้าจะเป็นแม่ทัพ ส่วนเจ้าเป็นขุนพลระดับต่ำสุด หากเจ้ากล้าที่จะลงมือ เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าแม่ทัพอย่างข้าจะประหารชีวิตเจ้าทันที!” ดวงตาของเหลิ่งอวิ๋นมืดลง พร้อมดึงดาบถังออกมาจากฝัก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า “ให้ตายเถอะ เจ้าช่างจองหองยิ่งนัก ประกาศตัวเองว่าเป็นแม่ทัพ คิดว่าตัวเองเป็นต้นกระเทียมจริง ๆ!” เสี่ยวไท่ซุ่ยสวีซั่นอู่หัวเราะเยาะ “ข้าขอถามเจ้าหน่อยว่าเหตุใดเจ้าถึงอยากจับตัวผิงเจี้ยน? หลังจากรู้แล้วว่าเขาเป็นองครักษ์ชุดเกราะทมิฬ คนของแม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 461

    ท่านแม่ทัพหนุ่มเป็นผู้นำกองทัพชายแดน และสามารถกวาดล้างทหารม้าของชาวหวงได้ ซึ่งน่ากลัวยิ่งกว่ากองทหารรักษาพระองค์ของเมืองหลวงเสียอีก เมื่อกลุ่มโจรภูเขาต้องเผชิญหน้ากับพวกเขา นั่นเท่ากับว่ากำลังรนหาที่ตายไม่ใช่หรืออย่างไร! “พี่เหลิ่งอวิ๋น!” หงเยี่ยยังกล่าวอีกว่า “ท่านปล่อยตัวลุงเจี้ยนไปเถอะ เขาไม่ได้ทำให้ท่านขุ่นเคืองเสียหน่อย เหตุใดท่านถึงจับเขาล่ะ! เขายิงสังหารอ๋องถูหนาน และเป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่เชียวนะ!” หลังจากที่อดหลับอดนอนเมื่อคืนนี้ เซี่ยซานหู่ที่สดใสมีชีวิตชีวาก็พูดขึ้นว่า “ถ้าไม่มีลุงเจี้ยน ยามที่อ๋องถูหนานมาโจมตี เราก็คงเดือดร้อนกันหมดแล้ว เมื่อว่ากันตามนี้ ลุงเจี้ยนก็เป็นผู้มีพระคุณของพวกเราโจรภูเขาเช่นกัน ท่านแม่ทัพชิงเมี่ยน เหตุใดท่านถึงตอบแทนบุญคุณด้วยความเคียดแค้น ซ้ำยังจับตัวลุงเจี้ยนที่ช่วยพวกเราไว้” เมื่อมองดูทุกคนที่ต้อนถามเขา เหลิ่งอวิ๋นก็รู้สึกหายใจติดขัด แต่เขาก็ไม่สามารถบอกความจริงได้! หากพูดออกไปว่าเขาทำให้หุบเขาชิงหลงตกอยู่ในอันตรายเพราะผู้หญิงจริง ๆ ล่ะก็ สหายเหล่านี้ก็จะไม่สนับสนุนเขา “ใช่ ผิงเจี้ยนเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่สังหารอ๋องถูหนานได้ เห

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 462

    “ขอรับ!” ทหารผ่านศึกชุดเกราะทมิฬ และทหารผ่านศึกต่างพยักหน้าพร้อมกัน แต่ก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย เมื่อคืนพวกเขาพักผ่อนในเมืองถงมู่ทั้งคืน แล้วถูกดึงขึ้นมาสวมชุดเกราะแต่เช้าตรู่! ในตอนแรกคิดว่าจะโจมตีหุบเขาชิงหลง ทว่าท่านเสนาธิการทหารกลับขอให้พวกเขาแสดงละคร ซ้ำยังกลัวว่าพวกเขาแสดงได้ไม่นัก จึงออกแบบท่าทางเดียวกันให้พวกเขาด้วย เขาบอกว่าทำเช่นนี้แล้วอาจจะช่วยตัวผิงเจี้ยนออกได้ ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกสงสัยเล็กน้อย! โจรภูเขาพวกนี้ต่างก่อกบฏ พวกเขาจะยินดีมอบตัวผิงเจี้ยนออกมาเร็วขนาดนั้นเชียวเหรอ หลังจากนั้นไม่นาน เหลิ่งอวิ๋นก็มาถึงพร้อมกับคนของเขา และทุกสายตาก็จับจ้องไปที่หวังหยวน! เหลิ่งอวิ๋นขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่าผู้นำแม่ทัพผู้นี้ไม่เหมือนคนที่ลงมาจากสนามรบ เขาไม่มีลักษณะท่าทางสังหารแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หลังจากมองดูทหารชุดเกราะทมิฬและทหารผ่านศึก เขาก็มั่นใจในทันทีว่าทหารผ่านศึกเหล่านี้เต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาท ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีเพียงห้าสิบคน แต่พวกเขาก็ดูทรงพลังมากกว่าทหารห้าร้อยนายในชายแดนเมืองจวิ้นเสียอีก ดวงตาที่สวยงามของหงเยี่ยเบิกกว้าง และมองตรงไปที่หวังหยวนด้วยสีหน้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 463

    หวังหยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งด้วยสีหน้านิ่ง “มอบตัวคนออกมาพร้อมเงินอีกหมื่นตำลึง ให้ชิงเมี่ยนโช่วคำนับขอโทษ จากนั้นพวกเจ้าก็ไสหัวไปได้!” เมื่อได้ยินว่าต้องโค้งคำนับขอโทษ เหลิ่งอวิ๋นก็จ้องไปที่หวังหยวนด้วยสายตาเดือดดาล! ทหารในชุดเกราะทมิฬและทหารผ่านศึกกลุ่มหนึ่งจับด้ามมีดไว้แน่น ราวกับพร้อมที่จะลงมือได้ทุกเมื่อ หงเยี่ยจ้องมองและกัดฟัน เจ้าโจรตัวน้อยไร้ยางอายนี้ คำขอของเขาดูมากเกินไปหน่อยไหม! อู่จั้งโหวและเซี่ยซานหู่ถึงกับจุกคอ เกรงว่าท่านเสนาธิการทหารจะเล่นมากเกินไปแล้ว! เสี่ยวไท่ซุ่ย เฮยเมี่ยนชิงกัง และพวกโจรภูเขาที่อยู่ตรงนั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ ตราบใดที่เรื่องนี้ยุติได้ พวกเขาก็เต็มใจที่จะคุกเข่าลง ไม่ใช่เรื่องน่าละอายที่จะคำนับคนของท่านแม่ทัพหนุ่ม ท้ายที่สุดแล้ว เขาคือเทพเจ้าแห่งสงครามเชียวนะ! “อา!” ท่านอาจารย์จ้าวป๋อเซี่ยวหลังค่อมยิ้มอย่างขมขื่น “ท่านขุนพล มอบตัวคนหรือจ่ายค่าชดเชยล้วนให้ได้ แต่หากเจ้าขอให้ผู้นำของเราคำนับในที่สาธารณะ แม้ว่าจะตีเขาตาย เขาก็ไม่มีวันยอมทำตามแน่นอน เมื่อเขาโกรธ เขาจะต่อสู้กันจนตายตกไปตามกันทั้งสองฝ่าย และต่างฝ่ายก็ไม่มีจุดจบที

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 464

    ในฐานะคนเชี่ยวชาญในการยิงธนูอย่างผิงเจี้ยน เดิมทีเขามีดวงตาที่สดใสทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม หลังจากการทารุณเพียงไม่กี่วัน ไม่เพียงแต่แก้มของเขาตอบลงเท่านั้น แม้แต่ร่างกายของเขาก็ไม่สามารถขยับได้ ยิ่งกว่านั้นดวงตาทั้งคู่ก็มืดสลัวมากเช่นกัน หลังจากปล่อยตัวผิงเจี้ยนแล้ว โจรภูเขาทั้งสี่ก็วิ่งหนีกลับไป เพราะกลัวว่าจะถูกฆ่าหากช้าเกินไป หวังหยวนกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ชิงเมี่ยนโช่วล่ะ บอกให้เขาออกมาโค้งคำนับเพื่อขอขมาซะ” “ท่านขุนพล นายท่านใหญ่ของเราไม่สบายเล็กหน่อย พวกเราขอขมาแทนนายท่านด้วยขอรับ!” อาจารย์จ้าวป๋อเซี่ยวคุกเข่าลง พร้อมมองดูผู้คนรอบตัวเขาแล้วขยิบตา เถียนชี ฉางเฟิง และพวกโจรภูเขาก็คุกเข่าลงทีละคน แม้แต่เสี่ยวไท่ซุ่ยและเฮยเมี่ยนจิงกังก็คุกเข่าลงหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อถึงคราวของอู่จั้งโหวและเซี่ยซานหู่ จากนั้นจ้าวป๋อเซี่ยวก็กำหมัดและโค้งคำนับ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความภาวนาขอ! พรวด พรวด! ใบหน้าของอู่จั้งโหวและเซี่ยซานหู่ดูบูดบึ้ง และคุกเข่าลงอย่างไม่เต็มใจ ท่านอาจารย์จ้าวหลังค่อมกำหมัด แล้วหันไปทางหงเยี่ยอีกครั้ง หงเยี่ยกัดฟันสีเงินของนาง และจ้องมองไปที่หวังหยวนโ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 465

    “โอ้!” เหลิ่งอวิ๋นตอบอย่างไม่ใส่ใจ และกำลังคิดว่าจะทวนคืนศักดิ์ศรีของเขาขึ้นมาใหม่โดยเร็วที่สุด! การสร้างอำนาจนั้นง่ายมาก ไม่ว่าจะฆ่าผู้คนและทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาหวาดกลัว หรือจะเป็นการชนะการต่อสู้และทำให้ผู้คนชื่นชม การฆ่ามีเป้าหมาย การกำจัดเสี่ยวไท่ซุ่ยและเฮยเมี่ยนชิงกังสามารถยึดความแข็งแกร่งของพวกเขาทั้งหมดได้ สำหรับการชนะการต่อสู้ เขาไม่กล้าคิดถึงสิ่งนี้ ในเมื่อพวกโจรภูเขาก็ยังไม่ได้รับการฝึกฝน “อันที่จริงแล้ว ข้าเป็นตัวประกันของเจ้าโจรตัวน้อยนั่น...” หงเยี่ยพรั่งพรูออกมาทันที โดยอธิบายคร่าว ๆ ว่านางถูกหวังหยวนจับตัวไปสองครั้งได้อย่างไร เสี่ยวไท่ซุ่ยและเฮยเมี่ยนชิงกังรู้สึกใจสั่นเมื่อได้ยินสิ่งนี้: บัณฑิตที่ชื่อหวังหยวนนั้นเป็นมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ เขาถึงกับหลอกน้องหงเยี่ย สองครั้งที่อีเซี่ยนเทียน เหลิ่งอวิ๋นที่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติก็ขมวดคิ้ว “ขุนพลหงเยี่ย เหตุใดเจ้าถึงบอกเรื่องนี้กับข้าตอนนี้?” ตอนนี้เขามุ่งความสนใจไปที่การรวบรวมพลังของเขาอย่างเต็มที่ โดยพักเรื่องหวังหยวนไว้ชั่วคราวหงเยี่ยพูดด้วยความรู้สึกผิด “ขุนพลคนเมื่อกี้นี้เป็นตัวปลอม เขาเป็นเจ

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1866

    นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1865

    หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1864

    “ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1863

    แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

DMCA.com Protection Status