หลังจากกระซิบเสียงแผ่วเบา หูเมิ่งอิ๋งก็ยืนเขย่งเท้า แล้วริมฝีปากสีแดงของนางก็ประทับลงไป!ดวงตาของหวังหยวนเบิกกว้าง เขาถูกจุมพิตอย่างแรง ยังคงรู้สึกได้ถึงความชุ่มชื้น!หลังจากจุมพิต หูเมิ่งอิ๋งก็หน้าแดงก่ำ แล้วหันหลังเตรียมวิ่งหนีไป!ก้าวไปยังไม่ทันถึงสองก้าว นางก็ถูกคว้าตัวดึงกลับไป!“ยังไม่ทันได้พูดพร่ำทำเพลงก็ถูกจูบแล้ว ข้าไม่อยากเสียหน้า!”หวังหยวนเรียกร้องความยุติธรรมอย่าง “ร้ายกาจ!”“อืม!”“อื้ม!”ทั้งสองไม่อาจผละจากกันได้ชั่วขณะหนึ่ง ร่างกายแนบชิดดั่งติดกาว สิ้นเสียงอสุนีบาตร ไฟอันเร่าร้อนบนโลกถูกปลุกขึ้น!ทันใดนั้นก็มีเสียงเด็กน้อยดังขึ้น “พี่หยวน พี่สาว พวกท่านกำลังทำอะไรอยู่”ทั้งสองรีบแยกออกจากกันราวกับถูกไฟฟ้าช็อต!ใบหน้าของหูเมิ่งอิ๋งเปลี่ยนเป็นแดงก่ำจนถึงใบหู นางเขินอายมากจนอยากจะซ่อนตัว “อาเป่า พี่สาวอยู่กำลัง กำลัง ... “หวังหยวนยิ้มอ่อน แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “อาเป่า พี่สาวของเจ้าฟันผุเพราะกินขนมหวานมากเกินไป พี่หยวนกำลังจะช่วยกัดแมงกินฟันให้นาง จำไว้ว่าต่อไปเจ้าไม่ควรกินขนมหวานมากเกินไป ไม่เช่นนั้นฟันจะผุหมด!”“...พี่หยวน เช่นนั้นท่านก็ช่วยกัดแมงกินฟันให
ผิงเจี้ยนถอนหายใจ “พวกเขาคิดว่าเราเป็นโจรที่เข้ามารุกราน!”เขามาจากภูเขา จึงรู้ว่าชาวบ้านคิดอย่างไรกับคนนอกหงเยี่ยเม้มปาก นางเองก็เป็นโจร ย่อมรู้ว่าชาวบ้านกลัวโจรเพียงใดทั้งสองลงจากหลังม้า แล้วเดินไปยังบ้านหลังหนึ่ง“เพื่อนเอ๋ย พวกเราเป็นพ่อค้าที่มาสำรวจเหมือง ตอนนี้ก็มืดแล้ว”ผิงเจี้ยนยืนอยู่นอกกำแพง แล้วตะโกนว่า “ข้าขอพักที่บ้านเจ้าหนึ่งคืนได้หรือไม่ เจ้าไม่ต้องดูแลเรื่องอาหาร ข้าแค่ต้องการน้ำร้อน ข้าจะจ่ายให้ครึ่งเหรียญ!”ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ จากในบ้าน ผิงเจี้ยนตะโกนอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหว!ทั้งสองจึงย้ายไปบ้านอื่น แต่บ้านหลายหลังที่อยู่ติดกัน ก็ไม่มีใครออกมาเลย!เมื่อมาถึงบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน ผิงเจี้ยนก็ตะโกนอีกครั้ง“หัวหน้าบ้าน เจ้ากำลังทำอะไรอยู่? ไม่กลัวว่าพวกเขาจะเป็นโจรชุดเขียวหรือ?”“โจรชุดเขียวจะพาผู้หญิงออกมาลาดตระเวนด้วยได้อย่างไร! ให้พวกเขาพักค้างคืนเถอะ ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะหนาวตายในตอนกลางคืน!”ชายหญิงเริ่มโต้เถียงกัน ในไม่ช้าประตูบ้านก็เปิดออก!ชายวัยกลางคนร่างเตี้ยคนหนึ่งออกมาพูดว่า “สหายทั้งสอง ข้าชื่อซานฮั่วฉิน หากพวกเจ้าไม่รังเกียจ ก็ม
การต่อสู้แย่งชิงเสบียงบนภูเขาตลอดทั้งวัน ทำให้ชาวบ้านตื่นตระหนก!หงเยี่ยขมวดคิ้ว พี่ใหญ่เหลิ่งอวิ๋นคนนั้นไม่รู้จักควบคุมพี่น้องของตัวเอง ปล่อยให้พวกเขาปล้นคนจนเช่นนี้ จะถือเป็นวีรบุรุษได้อย่างไร! พวกเขาเก็บเงินค่าผ่านทางทุกวัน โดยเก็บเงินจากพ่อค้าที่ร่ำรวยเท่านั้น แต่จะไม่เก็บค่าผ่านทางคนจนเลย!“เฮ้อ!”ผิงเจี้ยนถอนหายใจ “พี่ชายเจ้าไม่เคยคิดจะหาทางอื่นเลยหรือ!”ซานฮั่วฉินยิ้มฝืดเฝื่อน แล้วพูดว่า “เรามีที่ดินเพียงเล็กน้อยสำหรับเพาะปลูก ไม่มีแร่เหล็กหรือเหมืองอัญมณีอันมีค่า มีแต่เหมืองหยกน้ำไร้ค่า! ปกติข้าแค่เก็บของป่าจากภูเขาไปขาย แต่ก็ไม่สามารถทำเงินได้มาก!”ผิงเจี้ยนหรี่ตา “เช่นนั้นเจ้าคิดจะหาเงินเพิ่มหรือไม่?”“คิดสิ แน่นอนว่าคิด แม้แต่ตอนหลับฝัน!”ดวงตาของซานฮั่วฉินเป็นประกาย ขณะพูดว่า “ผู้มาเยือน หากเจ้ามีวิธีนำไปสู่ความร่ำรวยก็โปรดบอกข้าด้วยเถอะ!”ผิงเจี้ยนยิ้ม แล้วพูดว่า “ไม่ต้องพูดถึงความร่ำรวยหรอก ข้าจะทำให้คนทั้งหมู่บ้านของเจ้าได้กินดีอยู่ดี!”ฟึ่บ!ซานฮั่วฉินคุกเข่าลงบนพื้น “ช่วยแนะนำหน่อยได้หรือไม่?”“พี่ชาย ลุกขึ้นเถอะ!”ผิงเจี้ยนช่วยซานฮั่วฉินกล่าวว่า “ข้ามีลูกค
ต้าโก่วและเอ้อร์โก่วตาแดงก่ำ คนหนึ่งถือหอก คนหนึ่งถือคราดหงเยี่ยชักดาบแล้วพุ่งไปข้างหน้า!การเก็บเกี่ยวต้องเสร็จสิ้นในคราวเดียว แต่โจรชุดเขียวกำลังเก็บเกี่ยวสองครั้ง บังคับให้ชาวบ้านอดตาย!ผิงเจี้ยนโบกมือห้ามทั้งสามคน แล้วดึงหงเยี่ยข้ามกำแพง กระโดดไปที่หลังบ้าน!จากนั้นซานฮั่วฉินก็เปิดประตูด้วยรอยยิ้มฝืดเฝื่อน “สหายผู้กล้าทุกคน ที่บ้านเรามีอาหารไม่มากจริง ๆ หากพวกท่านไม่เชื่อข้าก็ลองดูสิ!”“ออกไป ข้าจะดูเอง!”หัวหน้าโจรสวมชุดเกราะหนัง อีกสองคนถือคบเพลิงเดินขนาบทั้งสองด้าน และคนทั้งแปดในกลุ่มก็ถือดาบ“เฮ้ มีลาหนึ่งตัวและม้าสองตัว ครอบครัวของพวกเจ้ารวยพอแล้ว!”ทันทีที่คบเพลิงสว่างขึ้น หัวหน้ากลุ่มก็มองไปทางคอกม้า แล้วโบกมือ “เอาม้าสองตัวออกไป!”“ไม่ได้นะ!”ซานฮั่วฉินรีบก้าวเข้าไปขวางเขา “ท่าน ม้าตัวนี้ไม่ใช่ของข้า แต่เป็นของพ่อค้าที่ผ่านมา พวกท่านจะเอามันไปไม่ได้!”“พ่อค้าที่ผ่านมาก็เป็นคนรวยเช่นกัน พวกเราอยากเจอ!”คนกลุ่มหนึ่งรีบวิ่งถือคบเพลิงเข้าไปในบ้าน ค้นหาไปรอบ ๆ ก็ไม่พบใคร จึงได้แต่พูดด้วยใบหน้าเรียบเฉยว่า “เจ้าหมาเฒ่า กล้าโกหกพวกข้าได้อย่างไร!”“ข้า ข้า!”ซานฮั่วฉิ
โจรชุดเขียวมาจากทุกทิศทุกทาง!เมื่อผิงเจี้ยนนอนอยู่บนพื้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปมาก เขาอยากหนีออกไปทันที แต่แล้วเขาก็เห็นครอบครัวฉินที่กำลังหวาดกลัว เขาจึงกัดฟันหยิบศพขึ้นมา แล้วโยนออกไปจากลานบ้านทีละคน!หงเยี่ยขมวดคิ้วและพูดว่า “อาเจี้ยน พวกโจรชุดเขียวมาแล้ว ท่านกำลังทำอะไรอยู่!”“มีศพอยู่ในบ้าน โจรชุดเขียวโกรธมากแล้ว พวกเขาจะตายกันทั้งครอบครัว!”ผิงเจี้ยนมีสีหน้าเคร่งขรึม “เจ้ากลับไปบอกนายท่านว่าข้าอยู่ที่ไหน ข้าจะอยู่สู้ต่อเอง!”หงเยี่ยขมวดคิ้ว “อาเจี้ยน พวกเรามาด้วยกัน หากจะไปก็ต้องไปด้วยกัน!”ในฐานะโจร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความภักดี และไม่ทิ้งเพื่อนโจรไว้ข้างหลัง!“เราอาจหนีออกไปได้ แต่ครอบครัวของพวกเขาล่ะ?”ผิงเจี้ยนชี้ไปที่ครอบครัวของซานฮั่วฉินหากพวกเขาไม่มาคืนนี้ แม้ว่าภรรยาของต้าโก่วอาจจะถูกย่ำยี แต่ทั้งครอบครัวก็คงไม่ตาย!การเคลื่อนไหวของพวกเขาทำให้เรื่องยิ่งแย่ลง!หงเยี่ยแทบสำลัก!โจรแปดคนเสียชีวิตที่นี่ เมื่อทั้งสองจากไป ซานฮั่วฉินก็จะต้องตาย“กลับไปบอกนายท่านว่าการได้ติดตามแม่ทัพมู่และเขา เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของข้า!”วางดาบราชวงศ์ถัง และชุดเกราะส
สตรีผู้นี้งดงามเหลือเกิน งามยิ่งกว่าคุณหนูหรืออนุของเหล่าชนชั้นสูงด้วยซ้ำ!“เขาเป็นทหารผ่านศึกเกราะทมิฬ!”หงเยี่ยหยิบชุดเกราะสีดำของเขาออกมา แล้วสวมให้กับผิงเจี้ยน จากนั้นเงยหน้าสวยขึ้นแล้วพูดว่า “เขาเคยต่อสู้กับกองทัพชาวหวงทั้งทางเหนือและใต้ ต่อต้านศัตรูที่เข้ามารุกรานต้าเย่ทุกทิศทุกทาง ไม่นานมานี้ในเมืองจิ่วซาน เขาติดตามจอมพลหนุ่มและเสนาธิการทหาร เพื่อเอาชนะเหล่าชาวหวง หากเขาไม่ยอมเสี่ยงชีวิต ตอนนี้เมืองเฮ่อคงถูกชาวหวงยึดครองแล้ว พวกเจ้าคงไม่มีโอกาสมาปล้นบ้านเรือนที่นี่อีก!”“ทหารผ่านศึกเกราะทมิฬ!”โจรกลุ่มหนึ่งจ้องมองเกราะสีดำ จากนั้นจึงมองผิงเจี้ยนด้วยสายตาตกตะลึงและชื่นชม!ใครก็ตามที่เคยได้ยินชื่อเสียงของกองทัพเกราะทมิฬ ย่อมรู้ว่าพวกเขาแข็งแกร่งเพียงใด!เฮยเมี่ยนจินกังกระโดดลงจากหลังม้า รีบวิ่งไปหาผิงเจี้ยน ยกชุดเกราะสีดำขึ้นมาแล้วขมวดคิ้ว “เจ้าเป็นทหารผ่านศึกเกราะทมิฬ!”ในช่วงเวลาวิกฤติของความเป็นความตาย ผิงเจี้ยนไม่ได้ปิดบังสิ่งใด “ผิงเจี้ยน ผู้พิทักษ์ส่วนตัวคนที่สามสิบแปดของขุนพลมู่!”“เช่นนั้นจงดูเพลงดาบของข้า เจ้าช่วยบอกชื่อกระบวนท่าได้หรือไม่!”เฮยเมี่ยนจินกังชักดาบ
กล้องส่องทางไกลหล่นลงมา หวังหยวนที่เตรียมพร้อมไว้แล้วรับไว้ได้ทัน!ลุงพูดถามด้วยความกังวล “ชิงเหอ เจ้าเห็นอะไร!”“ข้า ข้าเห็นท่านพี่ตาโตเท่าอ่างน้ำ!”จ้าวชิงเหอจับหน้าอกตัวเองด้วยสีหน้าหวาดกลัว นางตกใจแทบตาย!คนรอบข้างนางก็สงสัยเหมือนกัน “ตาโตเท่าอ่างน้ำ เป็นไปได้อย่างไร!”ลุงถามด้วยความประหลาดใจ “หยวนเอ๋อร์ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”“สิ่งนี้เรียกว่ากล้องส่องทางไกล มันสามารถขยายสิ่งที่มองเห็นได้ สามารถใช้มันเพื่อส่องดูสิ่งที่อยู่ไกลมาก และสิ่งที่อยู่ใกล้ก็จะดูใหญ่โต!”หวังหยวนอธิบายด้วยรอยยิ้ม แล้วส่งกล้องส่องทางไกลให้อีก “มองให้ไกลออกไป อย่ามองใกล้!”หลังจากซ่อมแซมอยู่ไม่กี่วัน เขาก็สร้างกล้องส่องทางไกลที่มีกำลังขยายแปดเท่า และมองเห็นได้ไกลถึงแปดลี้ได้แต่กล้องส่องทางไกลแบบใช้มือถือ แม้กระทั่งในสังคมที่มีเทคโนโลยีก็ยังมีกำลังขยายต่ำไม่ว่ากำลังขยายจะสูงเพียงใด ก็จำเป็นต้องมีนั่งร้านเพื่อรองรับไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา เช่นภาพสั่นไหว ขอบเขตการมองเห็นน้อยและความสว่างไม่พอ“โอ้โห!”จ้าวชิงเหอหยิบกล้องส่องทางไกลไปส่องอีกครั้ง คราวนี้ไม่กล้ามองใกล้ ๆ แต่มองไปทางแม่น้ำ แล้
“ไว้ข้าจะอธิบายให้ฟัง แต่ตอนนี้เจ้าคงไม่เข้าใจ!”หวังหยวนพูดอย่างจริงจัง “แต่จำไว้ว่าไม่สามารถใช้กล้องส่องทางไกลส่องดวงอาทิตย์ได้ ไม่เช่นนั้นดวงตาของเจ้าจะมอดไหม้จนบอดสนิท ต้องจำไว้ให้ดี! หากเด็กเอาไปเล่น ผู้ใหญ่ต้องคอยดูให้ดี!”“อืม อืม อืม!”เมื่อได้ยินว่าการมองดวงอาทิตย์จะทำให้ตาบอด ทุกคนก็รีบพยักหน้าเหมือนไก่จิกข้าว“เอาล่ะ!”หวังหยวนเอามือออก “ส่องต่อไป!”เอ้อหู่ไม่กล้ามองดวงอาทิตย์อีกต่อไป แต่มองไปที่อื่นอย่างตื่นเต้น!สมาชิกหลักมีสีหน้าแจ่มใส สนุกเหมือนเด็ก ๆ!เมื่อส่งกล้องส่องทางไกลไปให้ฉางเซิ่ง เขาส่องไปรอบ ๆ แล้วใบหน้าของเขาก็เคร่งขรึม!หลังจากนั้นไม่นาน ฉางเซิ่งก็กระซิบ “ท่านเสนาธิการทหาร สิ่งนี้เป็นสมบัติล้ำค่า ไม่สามารถแสดงให้ผู้อื่นเห็นได้โดนง่าย หากส่งมอบให้กับหน่วยสอดแนมในสนามรบ ก็จะสามารถค้นหาแนวหลังของศัตรูได้ หากให้ผู้บังคับบัญชาถือ ก็จะสามารถสังเกตทุกสถานการณ์ในสนามรบได้ ทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นขอรับ!”ทหารผ่านศึกเกราะทมิฬที่อยู่ด้านข้างต่างก็พยักหน้าคนอื่นต่างประหลาดใจ เมื่อพวกเขาได้ยินว่าสามารถมองเห็นได้ไกลถึงเพียงนี้ ทุกคนก็นึกถึงสน