“อะแฮ่ม!”หวังหยวนตัวแข็งทื่อ “เจ้ามีเรื่องดี ๆ อะไรจะบอกหรือเปล่า?”ใบหน้าสวยของหูเมิ่งอิ๋งเปลี่ยนเป็นสีแดง “คุณชาย ตั้งแต่กลับมาจากหมู่บ้านต้าหวัง ก็ไม่ได้เจอท่านทุกวัน ยามค่ำคืนข้าพลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ”นางไม่รู้ว่าชายคนนี้เติมเต็มทั้งร่างกายและจิตใจของนางตั้งแต่เมื่อใด!กินไม่ได้นอนไม่หลับทุกวัน หากไม่ได้เจอเขาก่อนทำศึกกับชาวหวง นางได้รวบรวมความกล้าที่จะสารภาพรัก แต่ในขณะนั้นนางยังขาดความกล้าหาญตอนนี้นางไม่อยากทนทุกข์อีกต่อไปแล้ว นางต้องการคำตอบที่ชัดเจนแม้ว่าคุณชายจะไม่ชอบนาง แต่นางก็จะแค่ทำงานให้หนัก และจะไม่คิดไร้สาระอีกต่อไปแล้วหวังหยวนตกใจ “เจ้า เจ้าแน่ใจหรือว่าไม่ได้คิดมาก หรือเครียดจนนอนไม่หลับ?”ผู้หญิงยุคนี้ทุกคนขี้อายมาก มักจะละอายใจแสดงความรู้สึกออกมาคำสารภาพนี้ช่างยากลำบากนัก!“คุณชาย ข้าชอบท่าน!”หูเมิ่งอิ๋งซบหน้าลงบนไหล่กว้าง น้ำตาไหลอาบแก้ม “ข้ารู้ว่าข้าไร้ยางอายมาก! ข้ารู้ว่าท่านกำลังจะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ผู้หญิงที่เสื่อมเสียชื่อเสียงเช่นข้า ไม่คู่ควรที่จะอยู่เคียงข้างท่าน ไม่ต้องพูดถึงการได้รับความโปรดปรานจากท่าน แต่ข้าแค่ควบคุมหัวใจตัวเองไม่ได้
หลังจากกระซิบเสียงแผ่วเบา หูเมิ่งอิ๋งก็ยืนเขย่งเท้า แล้วริมฝีปากสีแดงของนางก็ประทับลงไป!ดวงตาของหวังหยวนเบิกกว้าง เขาถูกจุมพิตอย่างแรง ยังคงรู้สึกได้ถึงความชุ่มชื้น!หลังจากจุมพิต หูเมิ่งอิ๋งก็หน้าแดงก่ำ แล้วหันหลังเตรียมวิ่งหนีไป!ก้าวไปยังไม่ทันถึงสองก้าว นางก็ถูกคว้าตัวดึงกลับไป!“ยังไม่ทันได้พูดพร่ำทำเพลงก็ถูกจูบแล้ว ข้าไม่อยากเสียหน้า!”หวังหยวนเรียกร้องความยุติธรรมอย่าง “ร้ายกาจ!”“อืม!”“อื้ม!”ทั้งสองไม่อาจผละจากกันได้ชั่วขณะหนึ่ง ร่างกายแนบชิดดั่งติดกาว สิ้นเสียงอสุนีบาตร ไฟอันเร่าร้อนบนโลกถูกปลุกขึ้น!ทันใดนั้นก็มีเสียงเด็กน้อยดังขึ้น “พี่หยวน พี่สาว พวกท่านกำลังทำอะไรอยู่”ทั้งสองรีบแยกออกจากกันราวกับถูกไฟฟ้าช็อต!ใบหน้าของหูเมิ่งอิ๋งเปลี่ยนเป็นแดงก่ำจนถึงใบหู นางเขินอายมากจนอยากจะซ่อนตัว “อาเป่า พี่สาวอยู่กำลัง กำลัง ... “หวังหยวนยิ้มอ่อน แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “อาเป่า พี่สาวของเจ้าฟันผุเพราะกินขนมหวานมากเกินไป พี่หยวนกำลังจะช่วยกัดแมงกินฟันให้นาง จำไว้ว่าต่อไปเจ้าไม่ควรกินขนมหวานมากเกินไป ไม่เช่นนั้นฟันจะผุหมด!”“...พี่หยวน เช่นนั้นท่านก็ช่วยกัดแมงกินฟันให
ผิงเจี้ยนถอนหายใจ “พวกเขาคิดว่าเราเป็นโจรที่เข้ามารุกราน!”เขามาจากภูเขา จึงรู้ว่าชาวบ้านคิดอย่างไรกับคนนอกหงเยี่ยเม้มปาก นางเองก็เป็นโจร ย่อมรู้ว่าชาวบ้านกลัวโจรเพียงใดทั้งสองลงจากหลังม้า แล้วเดินไปยังบ้านหลังหนึ่ง“เพื่อนเอ๋ย พวกเราเป็นพ่อค้าที่มาสำรวจเหมือง ตอนนี้ก็มืดแล้ว”ผิงเจี้ยนยืนอยู่นอกกำแพง แล้วตะโกนว่า “ข้าขอพักที่บ้านเจ้าหนึ่งคืนได้หรือไม่ เจ้าไม่ต้องดูแลเรื่องอาหาร ข้าแค่ต้องการน้ำร้อน ข้าจะจ่ายให้ครึ่งเหรียญ!”ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ จากในบ้าน ผิงเจี้ยนตะโกนอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหว!ทั้งสองจึงย้ายไปบ้านอื่น แต่บ้านหลายหลังที่อยู่ติดกัน ก็ไม่มีใครออกมาเลย!เมื่อมาถึงบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน ผิงเจี้ยนก็ตะโกนอีกครั้ง“หัวหน้าบ้าน เจ้ากำลังทำอะไรอยู่? ไม่กลัวว่าพวกเขาจะเป็นโจรชุดเขียวหรือ?”“โจรชุดเขียวจะพาผู้หญิงออกมาลาดตระเวนด้วยได้อย่างไร! ให้พวกเขาพักค้างคืนเถอะ ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะหนาวตายในตอนกลางคืน!”ชายหญิงเริ่มโต้เถียงกัน ในไม่ช้าประตูบ้านก็เปิดออก!ชายวัยกลางคนร่างเตี้ยคนหนึ่งออกมาพูดว่า “สหายทั้งสอง ข้าชื่อซานฮั่วฉิน หากพวกเจ้าไม่รังเกียจ ก็ม
การต่อสู้แย่งชิงเสบียงบนภูเขาตลอดทั้งวัน ทำให้ชาวบ้านตื่นตระหนก!หงเยี่ยขมวดคิ้ว พี่ใหญ่เหลิ่งอวิ๋นคนนั้นไม่รู้จักควบคุมพี่น้องของตัวเอง ปล่อยให้พวกเขาปล้นคนจนเช่นนี้ จะถือเป็นวีรบุรุษได้อย่างไร! พวกเขาเก็บเงินค่าผ่านทางทุกวัน โดยเก็บเงินจากพ่อค้าที่ร่ำรวยเท่านั้น แต่จะไม่เก็บค่าผ่านทางคนจนเลย!“เฮ้อ!”ผิงเจี้ยนถอนหายใจ “พี่ชายเจ้าไม่เคยคิดจะหาทางอื่นเลยหรือ!”ซานฮั่วฉินยิ้มฝืดเฝื่อน แล้วพูดว่า “เรามีที่ดินเพียงเล็กน้อยสำหรับเพาะปลูก ไม่มีแร่เหล็กหรือเหมืองอัญมณีอันมีค่า มีแต่เหมืองหยกน้ำไร้ค่า! ปกติข้าแค่เก็บของป่าจากภูเขาไปขาย แต่ก็ไม่สามารถทำเงินได้มาก!”ผิงเจี้ยนหรี่ตา “เช่นนั้นเจ้าคิดจะหาเงินเพิ่มหรือไม่?”“คิดสิ แน่นอนว่าคิด แม้แต่ตอนหลับฝัน!”ดวงตาของซานฮั่วฉินเป็นประกาย ขณะพูดว่า “ผู้มาเยือน หากเจ้ามีวิธีนำไปสู่ความร่ำรวยก็โปรดบอกข้าด้วยเถอะ!”ผิงเจี้ยนยิ้ม แล้วพูดว่า “ไม่ต้องพูดถึงความร่ำรวยหรอก ข้าจะทำให้คนทั้งหมู่บ้านของเจ้าได้กินดีอยู่ดี!”ฟึ่บ!ซานฮั่วฉินคุกเข่าลงบนพื้น “ช่วยแนะนำหน่อยได้หรือไม่?”“พี่ชาย ลุกขึ้นเถอะ!”ผิงเจี้ยนช่วยซานฮั่วฉินกล่าวว่า “ข้ามีลูกค
ต้าโก่วและเอ้อร์โก่วตาแดงก่ำ คนหนึ่งถือหอก คนหนึ่งถือคราดหงเยี่ยชักดาบแล้วพุ่งไปข้างหน้า!การเก็บเกี่ยวต้องเสร็จสิ้นในคราวเดียว แต่โจรชุดเขียวกำลังเก็บเกี่ยวสองครั้ง บังคับให้ชาวบ้านอดตาย!ผิงเจี้ยนโบกมือห้ามทั้งสามคน แล้วดึงหงเยี่ยข้ามกำแพง กระโดดไปที่หลังบ้าน!จากนั้นซานฮั่วฉินก็เปิดประตูด้วยรอยยิ้มฝืดเฝื่อน “สหายผู้กล้าทุกคน ที่บ้านเรามีอาหารไม่มากจริง ๆ หากพวกท่านไม่เชื่อข้าก็ลองดูสิ!”“ออกไป ข้าจะดูเอง!”หัวหน้าโจรสวมชุดเกราะหนัง อีกสองคนถือคบเพลิงเดินขนาบทั้งสองด้าน และคนทั้งแปดในกลุ่มก็ถือดาบ“เฮ้ มีลาหนึ่งตัวและม้าสองตัว ครอบครัวของพวกเจ้ารวยพอแล้ว!”ทันทีที่คบเพลิงสว่างขึ้น หัวหน้ากลุ่มก็มองไปทางคอกม้า แล้วโบกมือ “เอาม้าสองตัวออกไป!”“ไม่ได้นะ!”ซานฮั่วฉินรีบก้าวเข้าไปขวางเขา “ท่าน ม้าตัวนี้ไม่ใช่ของข้า แต่เป็นของพ่อค้าที่ผ่านมา พวกท่านจะเอามันไปไม่ได้!”“พ่อค้าที่ผ่านมาก็เป็นคนรวยเช่นกัน พวกเราอยากเจอ!”คนกลุ่มหนึ่งรีบวิ่งถือคบเพลิงเข้าไปในบ้าน ค้นหาไปรอบ ๆ ก็ไม่พบใคร จึงได้แต่พูดด้วยใบหน้าเรียบเฉยว่า “เจ้าหมาเฒ่า กล้าโกหกพวกข้าได้อย่างไร!”“ข้า ข้า!”ซานฮั่วฉิ
โจรชุดเขียวมาจากทุกทิศทุกทาง!เมื่อผิงเจี้ยนนอนอยู่บนพื้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปมาก เขาอยากหนีออกไปทันที แต่แล้วเขาก็เห็นครอบครัวฉินที่กำลังหวาดกลัว เขาจึงกัดฟันหยิบศพขึ้นมา แล้วโยนออกไปจากลานบ้านทีละคน!หงเยี่ยขมวดคิ้วและพูดว่า “อาเจี้ยน พวกโจรชุดเขียวมาแล้ว ท่านกำลังทำอะไรอยู่!”“มีศพอยู่ในบ้าน โจรชุดเขียวโกรธมากแล้ว พวกเขาจะตายกันทั้งครอบครัว!”ผิงเจี้ยนมีสีหน้าเคร่งขรึม “เจ้ากลับไปบอกนายท่านว่าข้าอยู่ที่ไหน ข้าจะอยู่สู้ต่อเอง!”หงเยี่ยขมวดคิ้ว “อาเจี้ยน พวกเรามาด้วยกัน หากจะไปก็ต้องไปด้วยกัน!”ในฐานะโจร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความภักดี และไม่ทิ้งเพื่อนโจรไว้ข้างหลัง!“เราอาจหนีออกไปได้ แต่ครอบครัวของพวกเขาล่ะ?”ผิงเจี้ยนชี้ไปที่ครอบครัวของซานฮั่วฉินหากพวกเขาไม่มาคืนนี้ แม้ว่าภรรยาของต้าโก่วอาจจะถูกย่ำยี แต่ทั้งครอบครัวก็คงไม่ตาย!การเคลื่อนไหวของพวกเขาทำให้เรื่องยิ่งแย่ลง!หงเยี่ยแทบสำลัก!โจรแปดคนเสียชีวิตที่นี่ เมื่อทั้งสองจากไป ซานฮั่วฉินก็จะต้องตาย“กลับไปบอกนายท่านว่าการได้ติดตามแม่ทัพมู่และเขา เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของข้า!”วางดาบราชวงศ์ถัง และชุดเกราะส
สตรีผู้นี้งดงามเหลือเกิน งามยิ่งกว่าคุณหนูหรืออนุของเหล่าชนชั้นสูงด้วยซ้ำ!“เขาเป็นทหารผ่านศึกเกราะทมิฬ!”หงเยี่ยหยิบชุดเกราะสีดำของเขาออกมา แล้วสวมให้กับผิงเจี้ยน จากนั้นเงยหน้าสวยขึ้นแล้วพูดว่า “เขาเคยต่อสู้กับกองทัพชาวหวงทั้งทางเหนือและใต้ ต่อต้านศัตรูที่เข้ามารุกรานต้าเย่ทุกทิศทุกทาง ไม่นานมานี้ในเมืองจิ่วซาน เขาติดตามจอมพลหนุ่มและเสนาธิการทหาร เพื่อเอาชนะเหล่าชาวหวง หากเขาไม่ยอมเสี่ยงชีวิต ตอนนี้เมืองเฮ่อคงถูกชาวหวงยึดครองแล้ว พวกเจ้าคงไม่มีโอกาสมาปล้นบ้านเรือนที่นี่อีก!”“ทหารผ่านศึกเกราะทมิฬ!”โจรกลุ่มหนึ่งจ้องมองเกราะสีดำ จากนั้นจึงมองผิงเจี้ยนด้วยสายตาตกตะลึงและชื่นชม!ใครก็ตามที่เคยได้ยินชื่อเสียงของกองทัพเกราะทมิฬ ย่อมรู้ว่าพวกเขาแข็งแกร่งเพียงใด!เฮยเมี่ยนจินกังกระโดดลงจากหลังม้า รีบวิ่งไปหาผิงเจี้ยน ยกชุดเกราะสีดำขึ้นมาแล้วขมวดคิ้ว “เจ้าเป็นทหารผ่านศึกเกราะทมิฬ!”ในช่วงเวลาวิกฤติของความเป็นความตาย ผิงเจี้ยนไม่ได้ปิดบังสิ่งใด “ผิงเจี้ยน ผู้พิทักษ์ส่วนตัวคนที่สามสิบแปดของขุนพลมู่!”“เช่นนั้นจงดูเพลงดาบของข้า เจ้าช่วยบอกชื่อกระบวนท่าได้หรือไม่!”เฮยเมี่ยนจินกังชักดาบ
กล้องส่องทางไกลหล่นลงมา หวังหยวนที่เตรียมพร้อมไว้แล้วรับไว้ได้ทัน!ลุงพูดถามด้วยความกังวล “ชิงเหอ เจ้าเห็นอะไร!”“ข้า ข้าเห็นท่านพี่ตาโตเท่าอ่างน้ำ!”จ้าวชิงเหอจับหน้าอกตัวเองด้วยสีหน้าหวาดกลัว นางตกใจแทบตาย!คนรอบข้างนางก็สงสัยเหมือนกัน “ตาโตเท่าอ่างน้ำ เป็นไปได้อย่างไร!”ลุงถามด้วยความประหลาดใจ “หยวนเอ๋อร์ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”“สิ่งนี้เรียกว่ากล้องส่องทางไกล มันสามารถขยายสิ่งที่มองเห็นได้ สามารถใช้มันเพื่อส่องดูสิ่งที่อยู่ไกลมาก และสิ่งที่อยู่ใกล้ก็จะดูใหญ่โต!”หวังหยวนอธิบายด้วยรอยยิ้ม แล้วส่งกล้องส่องทางไกลให้อีก “มองให้ไกลออกไป อย่ามองใกล้!”หลังจากซ่อมแซมอยู่ไม่กี่วัน เขาก็สร้างกล้องส่องทางไกลที่มีกำลังขยายแปดเท่า และมองเห็นได้ไกลถึงแปดลี้ได้แต่กล้องส่องทางไกลแบบใช้มือถือ แม้กระทั่งในสังคมที่มีเทคโนโลยีก็ยังมีกำลังขยายต่ำไม่ว่ากำลังขยายจะสูงเพียงใด ก็จำเป็นต้องมีนั่งร้านเพื่อรองรับไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา เช่นภาพสั่นไหว ขอบเขตการมองเห็นน้อยและความสว่างไม่พอ“โอ้โห!”จ้าวชิงเหอหยิบกล้องส่องทางไกลไปส่องอีกครั้ง คราวนี้ไม่กล้ามองใกล้ ๆ แต่มองไปทางแม่น้ำ แล้
“แต่น่าเสียดายที่วีรบุรุษเช่นเจ้ากลับติดตามเจ้านายที่ไม่คู่ควร จึงต้องมาพบจุดจบเช่นนี้!”“ข้าขอเตือนอีกครั้ง หากเจ้ายินดีมาอยู่กับข้าหรือบอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ ข้าก็จะไม่ทำร้ายเจ้าอีก!”หลิ่วหรูเยียนไม่เอ่ยคำใดแค่นี้ก็สาสมแล้วลั่วเฉินน่าสงสารยิ่งกว่าโอวหยางอวี่ อย่างน้อยโอวหยางอวี่ยังได้ตายอย่างรวดเร็ว!แต่ลั่วเฉินเล่า?ตอนนี้ทั่วร่างเต็มไปด้วยเลือด สภาพของเขาย่ำแย่มาก มีลมหายใจอยู่ก็เหมือนรอวันตายการมีชีวิตอยู่ยังทรมานยิ่งกว่าการตาย!“เลิกคิดเถิด!”“ข้าจะไม่ยอมแพ้!”ลั่วเฉินใช้แรงเฮือกสุดท้ายตะโกนด้วยความโกรธ“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ตามใจเจ้า”“ข้าอยากรู้ว่ากระดูกเจ้าจะแข็งได้สักกี่น้ำ”พูดจบหวังหยวนก็ไม่เสียเวลากับลั่วเฉิน พาหลิ่วหรูเยียนเดินออกจากคุกระหว่างทาง ทั้งสองไม่ได้หันไปมองตานสยงเฟยต่อไปแค่เค้นถามลั่วเฉินก็พอแล้ว หากไม่ได้ผลค่อยไปหาตานสยงเฟย!เพราะตานสยงเฟยจัดการยากกว่าลั่วเฉินมาก!ตานสยงเฟยรู้ดีว่าที่ซ่อนทรัพย์สมบัติคือเครื่องช่วยชีวิตของเขา ตราบใดที่เขายังปากแข็ง หวังหยวนก็ไม่อาจทำอะไรเขาได้!นี่คือประโยชน์อย่างเดียวของเขา!เขาต้องเก็บไพ่ตายใบนี้ไว้ ไม
“อะแฮ่ม”หวังหยวนกระแอม แล้วรีบแต่งตัว ไม่ได้ตอบคำถามของหลิ่วหรูเยียนจะให้เขาตอบเช่นไร?หรือว่าเขาเป็นคนไร้หัวใจ?แต่เมื่อนึกถึงภรรยาหลายคนที่บ้านก็รู้สึกหนักใจ เพิ่งจะแต่งงานกับเสวี่ยเชียนหลงยังไม่ถึงปี ก็มีหญิงงามมาเพิ่มอีกคน แล้วจะอธิบายกับภรรยาอย่างไร!แต่จะเดินจากไปง่าย ๆ เลยก็คงไม่ดีหรือไม่?หวังหยวนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก คงต้องตัดสินใจในภายหลัง“จริงสิ”“ข้าต้องไปที่คุก เจ้าจะไปด้วยกันหรือไม่?”หวังหยวนมองหลิ่วหรูเยียน แล้วเอ่ยถาม“แน่นอน!”หลิ่วหรูเยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ข้าอยากเห็นลั่วเฉินถูกทรมานเพื่อระบายความแค้น!”ไม่นานทั้งสองก็มาถึงคุกต่งอวี่รีบเข้ามาต้อนรับ เมื่อเห็นหวังหยวนก็โค้งคำนับ แล้วกล่าวว่า“ท่านผู้นำ!”“เมื่อคืนข้าอยู่ที่นี่ตลอด ใช้บทลงโทษต่าง ๆ นานากับลั่วเฉินจนเขาบาดเจ็บสาหัส แต่เขากลับปากแข็งไม่ยอมปริปากเลยขอรับ!”“หากไม่ใช่เพราะเขาใกล้จะตายเต็มทน เราคงไม่ปล่อยให้เขาพักหรอกขอรับ”ต่งอวี่กล่าวด้วยความโกรธช่างน่าโมโหนัก!เขาใช้ความอำมหิตไปเกือบหมดแล้ว แต่ลั่วเฉินก็ยังปากแข็ง!ปากอย่างกับแม่กุญแจ!ยากที่จะแงะออกจริงๆ!เขารู้สึกหนัก
ต่งอวี่รับคำแล้วพาลั่วเฉินไปที่คุกก็แค่พวกกระดูกแข็งเท่านั้น!หากใช้การทรมานเข้าช่วยก็ไม่เชื่อหรอกว่าจะมีใครทนได้ กระดูกจะแข็งเพียงใดกัน?หากทนได้ แสดงว่าแค่ทรมานไม่มากพอ!“ข้าคิดว่าเขาคงไม่ยอมเปิดปาก”“แม้ว่าท่านจะฆ่าเขา เขาก็คงไม่บอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ”หลิ่วหรูเยียนเดินไปข้างหวังหยวน มองคนพาตัวลั่วเฉินออกไป แล้วกล่าวต่อว่า “เขาไม่ใช่คนอย่างโอวหยางอวี่ นับว่าเป็นขุนพลที่กล้าหาญและซื่อสัตย์“หวังหยวนพยักหน้า เขาจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?แต่จำต้องลองดูสักครั้ง“เจ้าจัดการโอวหยางอวี่ไปแล้วหรือ?”หวังหยวนเปลี่ยนเรื่องด้วยการถามด้วยรอยยิ้ม“ใช่แล้ว”“เขายังหวังจะให้นึกถึงความสัมพันธ์ในอดีต ใช้คำพูดโน้มน้าวข้า แต่น่าเสียดายตอนนี้ใจข้าแข็งดั่งหิน ต้องการแค่ล้างแค้นให้บิดามารดา ทวงความยุติธรรมให้พวกท่านเท่านั้น!”“ในสายตาข้า ชีวิตคนของพรรคทมิฬไร้ค่า!”“ไม่ต้องพูดถึงโอวหยางอวี่ แม้แต่ตานสยงเฟย ข้าก็จะฆ่าเขา!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวอย่างหนักแน่นความแค้นในการฆ่าบิดาไม่อาจลืมเลือน จะปล่อยไปง่าย ๆ ได้อย่างไร?หวังหยวนยกยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้ากล่าวว่า “เช่นนั้นก็ดี”“แต่หล
“เพียะ เพียะ เพียะ!”หลิ่วหรูเยียนไม่พูด เพียงแค่ยกมือขึ้นตบหน้าโอวหยางอวี่หลายครั้งจนหน้าบวมปูด!ทหารหลายคนที่อยู่ข้าง ๆ ต่างมองโอวหยางอวี่ด้วยสายตาเย็นชาทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะตัวเขาเอง!แต่ต้องยอมรับว่าหลิ่วหรูเยียนเป็นสตรีที่แข็งแกร่ง ไม่ควรไปยั่วยุนาง!“เพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต ข้าจึงจะให้เจ้าตายอย่างสงบ!”“ไม่เช่นนั้นข้าจะทรมานเจ้าให้การมีชีวิตยังดีกว่าตาย!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวด้วยความโกรธแค้นคนของพรรคทมิฬล้วนไม่ใช่คนดีสักคน ฆ่าทิ้งก็สิ้นเรื่อง!ตอนนี้นางแค่อยากฆ่าคนระดับสูงของพรรคทมิฬให้หมด!“น้องหรูเยียน...”โอวหยางอวี่ตะโกนอีกครั้ง แต่หลิ่วหรูเยียนลงดาบตัดหัวเขาขาดในดาบเดียว!คนชั่วช้าคนหนึ่งจบชีวิตลง!“หัวหน้าองครักษ์คนหนึ่งจากในสี่คน! ก็แค่นี้!”หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจ ไม่เอ่ยคำใด นางโยนดาบทิ้ง แล้วเดินไปหาหวังหยวนตอนนี้หวังหยวนกำลังเผชิญหน้ากับลั่วเฉิน“หรูเยียนกลับมาแล้ว โอวหยางอวี่คงตายแล้ว”“คนเช่นนั้น ตายไปก็ไม่น่าเสียดาย”หวังหยวนส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มลั่วเฉินหัวเราะลั่น แล้วกล่าวว่า “ใช่แล้ว! คนทรยศ ขี้ขลาดเช่นนั้น ไม่ฆ่าเขา แล้วจะฆ่าใคร?”“เ
“เท่าที่ข้ารู้ พรรคทมิฬมีทรัพย์สมบัติมากมาย!”“วันนี้ข้าเรียกพวกเจ้ามาก็เพื่อถามว่าทรัพย์สมบัติเหล่านั้นอยู่ที่ใด?”“ก่อนที่ข้าจะบุกหน้าผา ได้ยินว่าของพวกนั้นถูกขนย้ายไปแล้วจริงหรือไม่?”หวังหยวนมองไปที่โอวหยางอวี่ แล้วถามตรงประเด็นโอวหยางอวี่พูดไม่ออก ได้แต่อ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่เอ่ยคำใด“ฮ่าฮ่าฮ่า!”ลั่วเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะลั่น“โอวหยางอวี่!”“เจ้าคิดว่าท่านประมุขไม่รู้ความทะเยอทะยานของเจ้าหรือ?”“เรื่องสำคัญเช่นนี้ จะบอกคนชั่วเช่นเจ้าได้อย่างไร?”“ตอนนี้แม้ว่าเจ้าจะประจบสอพลอก็คงไม่มีโอกาสแล้วกระมัง?”นี่...โอวหยางอวี่รู้สึกจนใจ หน้าแดงก่ำ เขาไม่รู้ที่ซ่อนทรัพย์สมบัติจริง ๆ!ไม่เช่นนั้นเขาคงบอกหวังหยวนไปแล้วเพื่อเอาชีวิตรอด!หวังหยวนจะมองความคิดของโอวหยางอวี่ไม่ออกได้อย่างไร?เขาหรี่ตาลง ก่อนจะเตะโอวหยางอวี่ แล้วหันไปพยักหน้าให้หลิ่วหรูเยียน เขาชี้ไปที่โอวหยางอวี่ แล้วกล่าวว่า “คนผู้นี้ไร้ประโยชน์ เจ้าจัดการเขาเถิด!”“จะปล่อยเขาไปหรือจะฆ่าเขาก็สุดแล้วแต่เจ้า ไม่ต้องถามข้า!”หลิ่วหรูเยียนดีใจ รู้สึกซาบซึ้งใจมากส่วนโอวหยางอวี่กลับมีสีหน้าหวาดกลัว รีบ
“ได้เลย!”หวังหยวนยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นจึงพาหลิ่วหรูเยียนไปยังสวนหลังบ้านเนื่องจากงานเลี้ยงยังไม่เลิก ทุกคนยังคงดื่มกินอย่างสนุกสนาน หวังหยวนจึงใช้สวนหลังบ้านเป็นสถานที่สอบสวนไม่นานต่งอวี่ก็พาโอวหยางอวี่และลั่วเฉินมา ข้างหลังพวกเขามีทหารหลายคน“ท่านหวัง!”“ท่านโปรดอย่าทำร้ายข้าเลย!”“ก่อนหน้านี้ข้าตาบอด จึงได้ไปอยู่กับตานสยงเฟย แต่ตอนนี้ข้าสำนึกผิดแล้ว หากท่านให้โอกาสข้า ต่อไปข้ายินดีรับใช้ท่านให้ดีที่สุดขอรับ!”“หากท่านไม่ต้องการใช้ข้าก็ปล่อยข้าไปเถิด ข้าจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าท่าน และจะไม่สร้างความเดือดร้อนใด ๆ ให้ท่านแน่นอนขอรับ!”โอวหยางอวี่รีบคุกเข่าลงอ้อนวอนขอความเมตตา!ครั้งก่อน แม้แต่ตอนอยู่บนหน้าผา เขาก็หมดอำนาจแล้ว ได้แต่ถูกขังอยู่ในห้องทุกวันแม้ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นเพราะหวังหยวน แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้เขาเป็นนักโทษ หากไม่สามารถพูดโน้มน้าวหวังหยวนได้ ต่อไปเขาก็คงมีแต่ต้องตายเท่านั้น!วันชื่นคืนสุขผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว!หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา แล้วเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจ ช่างเป็นคนขี้ขลาดนัก!เพิ่งจะพบหน้ากันก็คุกเข่าขอความเมตตาแล้วหรือ?ครั้งก
หวังหยวนเดินไปหาหลิ่วหรูเยียน แล้วถามด้วยรอยยิ้ม“ข้าจำได้”“เพียงแต่...”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีลังเล ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “เพียงแต่สถานการณ์ตอนนี้ต่างจากตอนนั้น ข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผลและรู้จักกาลเทศะ!”“ในเมื่อตานสยงเฟยมีประโยชน์ต่อท่าน ข้าจะฆ่าเขาเพื่อความสาแก่ใจเพียงครู่เดียวได้อย่างไร?”สุดท้ายหลิ่วหรูเยียนก็รีบวิ่งออกไป ไม่อยากเห็นหน้าตานสยงเฟยอีก!ไม่เช่นนั้นนางเกรงว่าตนเองจะอดใจไม่ไหว ลงมือฆ่าเขาจนทำลายแผนการของหวังหยวน!“เจ้าช่างโชคดี”“ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังรักษาหัวไว้บนบ่าได้”หวังหยวนมองตานสยงเฟยด้วยสายตาเย็นชา ไม่ได้เอ่ยคำใด แล้วเดินออกไปข้างหลังมีเพียงเสียงหัวเราะอันน่ารังเกียจของตานสยงเฟยในเมื่อเขามีไพ่ตายอยู่ในมือก็ไม่ต้องกลัวตาย!สักวันหนึ่ง เขาจะต้องเป็นอิสระ!...“ช้าก่อน!”หลังจากออกจากคุกแล้ว หวังหยวนก็รีบวิ่งตามหลิ่วหรูเยียนไปหลิ่วหรูเยียนหันกลับมามองหวังหยวน แล้วถามด้วยความสงสัยว่า “มีเรื่องอะไรอีกหรือ?”“ข้าแค่อยากถามเจ้าว่า ในบรรดาคนของพรรคทมิฬที่พวกเราจับมาได้มีคนระดับสูงคนอื่น ๆ อีกหรือไม่?”พรรคทมิฬมีรากฐานที่แข็งแกร่ง มีสาวกมากมาย แสดงว่าคงคนม
ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็หัวเราะลั่น ปรากฏว่าเป็นเช่นนี้เอง!“ดูเหมือนว่าข้ายังมีประโยชน์อยู่บ้าง สิ่งที่เจ้าต้องการคือทรัพย์สมบัติของข้างั้นหรือ?”“แต่ก็ดี พวกเรามาทำข้อตกลงกัน!”“หากเจ้าปล่อยข้าไป ทรัพย์สมบัติและทรัพยากรทั้งหมดของข้าจะเป็นของเจ้า แต่หากเจ้าไม่ยอมรับข้อเสนอ เจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้สิ่งเหล่านั้น!”ตานสยงเฟยกล่าว พร้อมกับจ้องหน้าหวังหยวน“จริงสิ”“หลิ่วหรูเยียนกลายเป็นคนของเจ้าแล้ว หากเจ้าไม่เชื่อคำพูดข้าก็ลองถามนางดู ว่าทรัพย์สมบัติของข้ามากมายมหาศาลจริงหรือไม่!”“ถามดูก็รู้ผล!”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างมั่นใจเหตุผลที่เขาสามารถสร้างพรรคทมิฬและรวบรวมสาวกมากมายจนมีอิทธิพลในดินแดนทั้งเก้าได้ ก็เพราะเขามีทรัพย์สมบัติมหาศาล!แม้ว่าจะเทียบกับหวังหยวนไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ใช่ธรรมดาอย่างแน่นอน!อย่างน้อยในดินแดนทั้งเก้าก็ยังมีที่ให้เขายืนหยัดในฐานะผู้นำ!หลิ่วหรูเยียนที่ยืนอยู่ข้างหลังหวังหยวนกำหมัดแน่น ไม่เอ่ยคำใด แต่ทุกคนต่างก็สัมผัสได้ถึงความโกรธของนาง!ความแค้นเพราะบิดาถูกสังหารนั้นไม่อาจลืมเลือน!ศัตรูอยู่ตรงหน้า แต่นางกลับทำอะไรไม่ได้ ช่างไร้ความสามารถ!“เขาพูดจริงหรือ?”
หลายปีมานี้นางเชื่อคำพูดของตานสยงเฟยมาโดยตลอด คิดว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า แม้กระทั่งเกลียดชังบิดามารดาของตนเองด้วยซ้ำ!เหตุใดพวกเขาจึงทอดทิ้งนาง?ทำให้นางต้องระหกระเหินมานานหลายปี!แต่ทั้งหมดนี้กลับเป็นคำโกหกของตานสยงเฟย บิดามารดาของนางไม่ได้ทอดทิ้งนาง แต่ถูกตานสยงเฟยฆ่าตายต่างหาก!บัดนี้เมื่อความจริงปรากฏ นางจึงอยากไปเคารพหลุมศพของพวกเขา!เป็นการแสดงความกตัญญูและทำให้หมดห่วง“เป็นเช่นนี้เอง”หวังหยวนพยักหน้า“ได้!”“ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าจะพาเจ้าไปที่คุกเอง”“เพื่อป้องกันไม่ให้ตานสยงเฟยใช้อุบายอันใด”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีแปลกไป อาจจะถูกตานสยงเฟยชักจูงได้หลิ่วหรูเยียนไม่ได้ปฏิเสธ นางพยักหน้า หวังหยวนจึงพานางไปที่คุกที่จวน ทุกคนยังคงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน!ภายในคุกเนื่องจากตานสยงเฟยและพรรคพวกล้วนเป็นคนชั่ว หวังหยวนจึงสั่งให้ขังพวกเขาไว้ที่ชั้นใต้ดินของคุกที่นี่มักจะใช้ขังนักโทษอุกฉกรรจ์ยิ่งไปกว่านั้น การจะหนีออกไปจากที่นี่ก็ช่างยากเย็นพอ ๆ กับการปีนสู่สวรรค์!“หวังหยวน!”“ข้าสำนึกผิดแล้ว ขอท่านปล่อยข้าไปเถิด!”“ต่อไปนี้ข้ายินดีอยู่เคียงข้างรับใช้ท่าน!”“