“อะแฮ่ม!”หวังหยวนตัวแข็งทื่อ “เจ้ามีเรื่องดี ๆ อะไรจะบอกหรือเปล่า?”ใบหน้าสวยของหูเมิ่งอิ๋งเปลี่ยนเป็นสีแดง “คุณชาย ตั้งแต่กลับมาจากหมู่บ้านต้าหวัง ก็ไม่ได้เจอท่านทุกวัน ยามค่ำคืนข้าพลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ”นางไม่รู้ว่าชายคนนี้เติมเต็มทั้งร่างกายและจิตใจของนางตั้งแต่เมื่อใด!กินไม่ได้นอนไม่หลับทุกวัน หากไม่ได้เจอเขาก่อนทำศึกกับชาวหวง นางได้รวบรวมความกล้าที่จะสารภาพรัก แต่ในขณะนั้นนางยังขาดความกล้าหาญตอนนี้นางไม่อยากทนทุกข์อีกต่อไปแล้ว นางต้องการคำตอบที่ชัดเจนแม้ว่าคุณชายจะไม่ชอบนาง แต่นางก็จะแค่ทำงานให้หนัก และจะไม่คิดไร้สาระอีกต่อไปแล้วหวังหยวนตกใจ “เจ้า เจ้าแน่ใจหรือว่าไม่ได้คิดมาก หรือเครียดจนนอนไม่หลับ?”ผู้หญิงยุคนี้ทุกคนขี้อายมาก มักจะละอายใจแสดงความรู้สึกออกมาคำสารภาพนี้ช่างยากลำบากนัก!“คุณชาย ข้าชอบท่าน!”หูเมิ่งอิ๋งซบหน้าลงบนไหล่กว้าง น้ำตาไหลอาบแก้ม “ข้ารู้ว่าข้าไร้ยางอายมาก! ข้ารู้ว่าท่านกำลังจะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ผู้หญิงที่เสื่อมเสียชื่อเสียงเช่นข้า ไม่คู่ควรที่จะอยู่เคียงข้างท่าน ไม่ต้องพูดถึงการได้รับความโปรดปรานจากท่าน แต่ข้าแค่ควบคุมหัวใจตัวเองไม่ได้
หลังจากกระซิบเสียงแผ่วเบา หูเมิ่งอิ๋งก็ยืนเขย่งเท้า แล้วริมฝีปากสีแดงของนางก็ประทับลงไป!ดวงตาของหวังหยวนเบิกกว้าง เขาถูกจุมพิตอย่างแรง ยังคงรู้สึกได้ถึงความชุ่มชื้น!หลังจากจุมพิต หูเมิ่งอิ๋งก็หน้าแดงก่ำ แล้วหันหลังเตรียมวิ่งหนีไป!ก้าวไปยังไม่ทันถึงสองก้าว นางก็ถูกคว้าตัวดึงกลับไป!“ยังไม่ทันได้พูดพร่ำทำเพลงก็ถูกจูบแล้ว ข้าไม่อยากเสียหน้า!”หวังหยวนเรียกร้องความยุติธรรมอย่าง “ร้ายกาจ!”“อืม!”“อื้ม!”ทั้งสองไม่อาจผละจากกันได้ชั่วขณะหนึ่ง ร่างกายแนบชิดดั่งติดกาว สิ้นเสียงอสุนีบาตร ไฟอันเร่าร้อนบนโลกถูกปลุกขึ้น!ทันใดนั้นก็มีเสียงเด็กน้อยดังขึ้น “พี่หยวน พี่สาว พวกท่านกำลังทำอะไรอยู่”ทั้งสองรีบแยกออกจากกันราวกับถูกไฟฟ้าช็อต!ใบหน้าของหูเมิ่งอิ๋งเปลี่ยนเป็นแดงก่ำจนถึงใบหู นางเขินอายมากจนอยากจะซ่อนตัว “อาเป่า พี่สาวอยู่กำลัง กำลัง ... “หวังหยวนยิ้มอ่อน แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “อาเป่า พี่สาวของเจ้าฟันผุเพราะกินขนมหวานมากเกินไป พี่หยวนกำลังจะช่วยกัดแมงกินฟันให้นาง จำไว้ว่าต่อไปเจ้าไม่ควรกินขนมหวานมากเกินไป ไม่เช่นนั้นฟันจะผุหมด!”“...พี่หยวน เช่นนั้นท่านก็ช่วยกัดแมงกินฟันให
ผิงเจี้ยนถอนหายใจ “พวกเขาคิดว่าเราเป็นโจรที่เข้ามารุกราน!”เขามาจากภูเขา จึงรู้ว่าชาวบ้านคิดอย่างไรกับคนนอกหงเยี่ยเม้มปาก นางเองก็เป็นโจร ย่อมรู้ว่าชาวบ้านกลัวโจรเพียงใดทั้งสองลงจากหลังม้า แล้วเดินไปยังบ้านหลังหนึ่ง“เพื่อนเอ๋ย พวกเราเป็นพ่อค้าที่มาสำรวจเหมือง ตอนนี้ก็มืดแล้ว”ผิงเจี้ยนยืนอยู่นอกกำแพง แล้วตะโกนว่า “ข้าขอพักที่บ้านเจ้าหนึ่งคืนได้หรือไม่ เจ้าไม่ต้องดูแลเรื่องอาหาร ข้าแค่ต้องการน้ำร้อน ข้าจะจ่ายให้ครึ่งเหรียญ!”ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ จากในบ้าน ผิงเจี้ยนตะโกนอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหว!ทั้งสองจึงย้ายไปบ้านอื่น แต่บ้านหลายหลังที่อยู่ติดกัน ก็ไม่มีใครออกมาเลย!เมื่อมาถึงบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน ผิงเจี้ยนก็ตะโกนอีกครั้ง“หัวหน้าบ้าน เจ้ากำลังทำอะไรอยู่? ไม่กลัวว่าพวกเขาจะเป็นโจรชุดเขียวหรือ?”“โจรชุดเขียวจะพาผู้หญิงออกมาลาดตระเวนด้วยได้อย่างไร! ให้พวกเขาพักค้างคืนเถอะ ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะหนาวตายในตอนกลางคืน!”ชายหญิงเริ่มโต้เถียงกัน ในไม่ช้าประตูบ้านก็เปิดออก!ชายวัยกลางคนร่างเตี้ยคนหนึ่งออกมาพูดว่า “สหายทั้งสอง ข้าชื่อซานฮั่วฉิน หากพวกเจ้าไม่รังเกียจ ก็ม
การต่อสู้แย่งชิงเสบียงบนภูเขาตลอดทั้งวัน ทำให้ชาวบ้านตื่นตระหนก!หงเยี่ยขมวดคิ้ว พี่ใหญ่เหลิ่งอวิ๋นคนนั้นไม่รู้จักควบคุมพี่น้องของตัวเอง ปล่อยให้พวกเขาปล้นคนจนเช่นนี้ จะถือเป็นวีรบุรุษได้อย่างไร! พวกเขาเก็บเงินค่าผ่านทางทุกวัน โดยเก็บเงินจากพ่อค้าที่ร่ำรวยเท่านั้น แต่จะไม่เก็บค่าผ่านทางคนจนเลย!“เฮ้อ!”ผิงเจี้ยนถอนหายใจ “พี่ชายเจ้าไม่เคยคิดจะหาทางอื่นเลยหรือ!”ซานฮั่วฉินยิ้มฝืดเฝื่อน แล้วพูดว่า “เรามีที่ดินเพียงเล็กน้อยสำหรับเพาะปลูก ไม่มีแร่เหล็กหรือเหมืองอัญมณีอันมีค่า มีแต่เหมืองหยกน้ำไร้ค่า! ปกติข้าแค่เก็บของป่าจากภูเขาไปขาย แต่ก็ไม่สามารถทำเงินได้มาก!”ผิงเจี้ยนหรี่ตา “เช่นนั้นเจ้าคิดจะหาเงินเพิ่มหรือไม่?”“คิดสิ แน่นอนว่าคิด แม้แต่ตอนหลับฝัน!”ดวงตาของซานฮั่วฉินเป็นประกาย ขณะพูดว่า “ผู้มาเยือน หากเจ้ามีวิธีนำไปสู่ความร่ำรวยก็โปรดบอกข้าด้วยเถอะ!”ผิงเจี้ยนยิ้ม แล้วพูดว่า “ไม่ต้องพูดถึงความร่ำรวยหรอก ข้าจะทำให้คนทั้งหมู่บ้านของเจ้าได้กินดีอยู่ดี!”ฟึ่บ!ซานฮั่วฉินคุกเข่าลงบนพื้น “ช่วยแนะนำหน่อยได้หรือไม่?”“พี่ชาย ลุกขึ้นเถอะ!”ผิงเจี้ยนช่วยซานฮั่วฉินกล่าวว่า “ข้ามีลูกค
ต้าโก่วและเอ้อร์โก่วตาแดงก่ำ คนหนึ่งถือหอก คนหนึ่งถือคราดหงเยี่ยชักดาบแล้วพุ่งไปข้างหน้า!การเก็บเกี่ยวต้องเสร็จสิ้นในคราวเดียว แต่โจรชุดเขียวกำลังเก็บเกี่ยวสองครั้ง บังคับให้ชาวบ้านอดตาย!ผิงเจี้ยนโบกมือห้ามทั้งสามคน แล้วดึงหงเยี่ยข้ามกำแพง กระโดดไปที่หลังบ้าน!จากนั้นซานฮั่วฉินก็เปิดประตูด้วยรอยยิ้มฝืดเฝื่อน “สหายผู้กล้าทุกคน ที่บ้านเรามีอาหารไม่มากจริง ๆ หากพวกท่านไม่เชื่อข้าก็ลองดูสิ!”“ออกไป ข้าจะดูเอง!”หัวหน้าโจรสวมชุดเกราะหนัง อีกสองคนถือคบเพลิงเดินขนาบทั้งสองด้าน และคนทั้งแปดในกลุ่มก็ถือดาบ“เฮ้ มีลาหนึ่งตัวและม้าสองตัว ครอบครัวของพวกเจ้ารวยพอแล้ว!”ทันทีที่คบเพลิงสว่างขึ้น หัวหน้ากลุ่มก็มองไปทางคอกม้า แล้วโบกมือ “เอาม้าสองตัวออกไป!”“ไม่ได้นะ!”ซานฮั่วฉินรีบก้าวเข้าไปขวางเขา “ท่าน ม้าตัวนี้ไม่ใช่ของข้า แต่เป็นของพ่อค้าที่ผ่านมา พวกท่านจะเอามันไปไม่ได้!”“พ่อค้าที่ผ่านมาก็เป็นคนรวยเช่นกัน พวกเราอยากเจอ!”คนกลุ่มหนึ่งรีบวิ่งถือคบเพลิงเข้าไปในบ้าน ค้นหาไปรอบ ๆ ก็ไม่พบใคร จึงได้แต่พูดด้วยใบหน้าเรียบเฉยว่า “เจ้าหมาเฒ่า กล้าโกหกพวกข้าได้อย่างไร!”“ข้า ข้า!”ซานฮั่วฉิ
โจรชุดเขียวมาจากทุกทิศทุกทาง!เมื่อผิงเจี้ยนนอนอยู่บนพื้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปมาก เขาอยากหนีออกไปทันที แต่แล้วเขาก็เห็นครอบครัวฉินที่กำลังหวาดกลัว เขาจึงกัดฟันหยิบศพขึ้นมา แล้วโยนออกไปจากลานบ้านทีละคน!หงเยี่ยขมวดคิ้วและพูดว่า “อาเจี้ยน พวกโจรชุดเขียวมาแล้ว ท่านกำลังทำอะไรอยู่!”“มีศพอยู่ในบ้าน โจรชุดเขียวโกรธมากแล้ว พวกเขาจะตายกันทั้งครอบครัว!”ผิงเจี้ยนมีสีหน้าเคร่งขรึม “เจ้ากลับไปบอกนายท่านว่าข้าอยู่ที่ไหน ข้าจะอยู่สู้ต่อเอง!”หงเยี่ยขมวดคิ้ว “อาเจี้ยน พวกเรามาด้วยกัน หากจะไปก็ต้องไปด้วยกัน!”ในฐานะโจร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความภักดี และไม่ทิ้งเพื่อนโจรไว้ข้างหลัง!“เราอาจหนีออกไปได้ แต่ครอบครัวของพวกเขาล่ะ?”ผิงเจี้ยนชี้ไปที่ครอบครัวของซานฮั่วฉินหากพวกเขาไม่มาคืนนี้ แม้ว่าภรรยาของต้าโก่วอาจจะถูกย่ำยี แต่ทั้งครอบครัวก็คงไม่ตาย!การเคลื่อนไหวของพวกเขาทำให้เรื่องยิ่งแย่ลง!หงเยี่ยแทบสำลัก!โจรแปดคนเสียชีวิตที่นี่ เมื่อทั้งสองจากไป ซานฮั่วฉินก็จะต้องตาย“กลับไปบอกนายท่านว่าการได้ติดตามแม่ทัพมู่และเขา เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของข้า!”วางดาบราชวงศ์ถัง และชุดเกราะส
สตรีผู้นี้งดงามเหลือเกิน งามยิ่งกว่าคุณหนูหรืออนุของเหล่าชนชั้นสูงด้วยซ้ำ!“เขาเป็นทหารผ่านศึกเกราะทมิฬ!”หงเยี่ยหยิบชุดเกราะสีดำของเขาออกมา แล้วสวมให้กับผิงเจี้ยน จากนั้นเงยหน้าสวยขึ้นแล้วพูดว่า “เขาเคยต่อสู้กับกองทัพชาวหวงทั้งทางเหนือและใต้ ต่อต้านศัตรูที่เข้ามารุกรานต้าเย่ทุกทิศทุกทาง ไม่นานมานี้ในเมืองจิ่วซาน เขาติดตามจอมพลหนุ่มและเสนาธิการทหาร เพื่อเอาชนะเหล่าชาวหวง หากเขาไม่ยอมเสี่ยงชีวิต ตอนนี้เมืองเฮ่อคงถูกชาวหวงยึดครองแล้ว พวกเจ้าคงไม่มีโอกาสมาปล้นบ้านเรือนที่นี่อีก!”“ทหารผ่านศึกเกราะทมิฬ!”โจรกลุ่มหนึ่งจ้องมองเกราะสีดำ จากนั้นจึงมองผิงเจี้ยนด้วยสายตาตกตะลึงและชื่นชม!ใครก็ตามที่เคยได้ยินชื่อเสียงของกองทัพเกราะทมิฬ ย่อมรู้ว่าพวกเขาแข็งแกร่งเพียงใด!เฮยเมี่ยนจินกังกระโดดลงจากหลังม้า รีบวิ่งไปหาผิงเจี้ยน ยกชุดเกราะสีดำขึ้นมาแล้วขมวดคิ้ว “เจ้าเป็นทหารผ่านศึกเกราะทมิฬ!”ในช่วงเวลาวิกฤติของความเป็นความตาย ผิงเจี้ยนไม่ได้ปิดบังสิ่งใด “ผิงเจี้ยน ผู้พิทักษ์ส่วนตัวคนที่สามสิบแปดของขุนพลมู่!”“เช่นนั้นจงดูเพลงดาบของข้า เจ้าช่วยบอกชื่อกระบวนท่าได้หรือไม่!”เฮยเมี่ยนจินกังชักดาบ
กล้องส่องทางไกลหล่นลงมา หวังหยวนที่เตรียมพร้อมไว้แล้วรับไว้ได้ทัน!ลุงพูดถามด้วยความกังวล “ชิงเหอ เจ้าเห็นอะไร!”“ข้า ข้าเห็นท่านพี่ตาโตเท่าอ่างน้ำ!”จ้าวชิงเหอจับหน้าอกตัวเองด้วยสีหน้าหวาดกลัว นางตกใจแทบตาย!คนรอบข้างนางก็สงสัยเหมือนกัน “ตาโตเท่าอ่างน้ำ เป็นไปได้อย่างไร!”ลุงถามด้วยความประหลาดใจ “หยวนเอ๋อร์ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”“สิ่งนี้เรียกว่ากล้องส่องทางไกล มันสามารถขยายสิ่งที่มองเห็นได้ สามารถใช้มันเพื่อส่องดูสิ่งที่อยู่ไกลมาก และสิ่งที่อยู่ใกล้ก็จะดูใหญ่โต!”หวังหยวนอธิบายด้วยรอยยิ้ม แล้วส่งกล้องส่องทางไกลให้อีก “มองให้ไกลออกไป อย่ามองใกล้!”หลังจากซ่อมแซมอยู่ไม่กี่วัน เขาก็สร้างกล้องส่องทางไกลที่มีกำลังขยายแปดเท่า และมองเห็นได้ไกลถึงแปดลี้ได้แต่กล้องส่องทางไกลแบบใช้มือถือ แม้กระทั่งในสังคมที่มีเทคโนโลยีก็ยังมีกำลังขยายต่ำไม่ว่ากำลังขยายจะสูงเพียงใด ก็จำเป็นต้องมีนั่งร้านเพื่อรองรับไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา เช่นภาพสั่นไหว ขอบเขตการมองเห็นน้อยและความสว่างไม่พอ“โอ้โห!”จ้าวชิงเหอหยิบกล้องส่องทางไกลไปส่องอีกครั้ง คราวนี้ไม่กล้ามองใกล้ ๆ แต่มองไปทางแม่น้ำ แล้
“พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ
“เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน
หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก
กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้
“เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป
การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”
“ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?
แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็
เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห